PANTIP.COM : U9741162 เกาหลีใต้ออกกม.ห้ามผู้ชายวางเงื่อนไขให้ผู้หญิง"ยอมเสียตัวก่อน"แลกกับ"ได้แต่งงาน" [สังคม]

ความคิดเห็นที่ 10

เอ่อ... ขอมาแจมด้วยคนนะคะ

" จากข่าวข้างต้น น่าชวนให้คิดไปว่า กฏหมายเดิมของพวกเขา ให้สิทธิฝ่ายชายที่จะขอxxxxxฝ่ายหญิงเพื่อเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนว่าจะแต่งงานด้วยหรือไม่ อย่างนั้นเชียวหรือ "

คือ ประเทศเกาหลี วัฒนธรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้นนะคะ
เรื่องที่ คุณอุบลแมน สงสัยนี้ ขอตอบคะว่าเป็นเรื่องจริงคะ
แต่ มันเป็นข้อตกลงที่ ... ยกตัวอย่างนะคะ
คนสองคนเป็นแฟนกันยังไม่ได้แต่งงาน แล้วผู้ชายกับผู้หญิง มีอะไรกันแล้ว
จะมีการทำสัญญาเก็บไว้คะ ว่ามีอะไรกันแล้วแล้วผู้ชายก็จะสัญญาว่า จะแต่งกับผู้หญิงคนนี้ โดยใช้ฝ่ามือทาน้ำหมึก หรือเค้าเรียกอะไรไม่รู้นะคะ ประทับรอยฝ่ามือลงบนสัญญา (ช่วงหลังๆ มานี้ ไม่รู้ใช้สัญญายังไงกันนะคะ หรืออาจไม่ค่อยทำสัญญากันแล้วก็ได้) โดยสัญญานี้ ผู้หญิงจะเป็นคนเก็บไว้คะ หลังจากทำสัญญา ก็อาจจะมีอะไรๆ กันอีก โดยที่ยังไม่ได้แต่งงานนี่แหละคะ แต่สัญญาจะเก็บเป็นเรื่องในครอบครัวหรือไม่ก็ระหว่างคนสองนะคะ

ถ้าผู้ชาย ไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ก็สามารถเอาสัญญามาฟ้องร้อง เปิดโปงได้นะคะ

แต่ ในกรณีนี้ ก็มีปัญหาเหมือนกันคะ เมื่อผู้ชายไม่อยากแต่ง ก็อาจจะไปแอบขโมยสัญญามาทำลายทิ้ง ก็มีคะ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงคะ

บังเอิญว่า เมื่อ หลายอาทิตย์ก่อน แฟวนเอาหนังเกาหลีย้อนรอยเมื่ออดีตเรื่องนึงมาให้ดู นะคะ แล้วเค้าก็เล่าให้ฟังนะคะว่าเมื่อก่อน เป็นอย่างนั้นจริงๆ ส่วนนึง
แล้วผู้หญิงจะ โดนกดขึ่มากคะ บางทีก็ยังมีการกลั่นแกล้ง หลอกหลวงเมื่อผู้ชายเกิดเปลี่ยนใจไม่อยากแต่งขึ้นมาก็มีเยอะคะ

แต่ประเพณีบ้านเค้า การแต่งงานแล้ว มีการหย่าร้างเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าอับอายมากนะคะ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ผู้หญิงเมื่อก่อนจะค่อนข้างลำบากกว่า เพราะการที่จะได้แต่งงานใหม่อีกครั้งเป็นเรื่องยากมากๆนะคะ แต่สำหรับสมัยนี้
มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นเยอะเหมือนกันคะ

ถึงแม้ว่าการหย่าร้าง ก็ยังเป็นเรื่องน่าอาย สำหรับคนเกาหลีลึกๆ อยู่นะคะ

ส่วนเรื่อง กฎหมายห้ามการมีชู้ด้วยบทลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี

ปัจจุบันยังใช้อยู่คะ อยู่ที่คุณจะรู้จักใช้หรือป่าว

ซึ่งจริงๆแล้ว โดยส่วนตัวอยากให้เมืองไทยมีเช่นกันนะคะ
สำหรับเรา การมาใช่ชีวิตอยู่ที่นี่ มันทำให้มองเห็น ความสำคัญทางครอบครัวของคนเกาหลี นะคะ ซี้งถ้าถามว่า ผู้ชายมีชู้ มีกิ๊ก บ้านเล็ก บ้านน้อย นั้นมีไหม ตอบตามตรงมีนะคะ เหมือนเมืองไทย แต่คะแต่ เค้าจะไม่เปิดเผย เอาออกมา เชิกหน้าชูตา เกินหน้าเมียหลวง อะไรแบบนั้น เค้าจะไม่ทำคะ
คือ ถ้ามีคือแอบมี ภรรยาไม่รู้ส่วนมากนะคะ
เพราะถ้ารู้ สามารถฟ้องร้องได้คะ และ ในกรณีที่หลักฐานมัดตัวฝ่ายชาย (หรือในกรณีที่ผู้หญิงไปแอบมีชู้ก็เช่นกันคะ) ทรัพสินทั้งหมดหลังแต่งงานจะตกเป็นของฝ่ายถูกกระทำคะ ไปคะ
และก็ต้องติดคุกด้วยคะ สำหรับผู้ที่มีชู้

ในกรณีนี้ นะคะ มันก็มีมุมที่ดีคะ เพราะดูบ้านเราสิ เมียน้อยเมียหลวง อยู่บ้านเดียวกัน
หาเรื่องตบตีกันไป เอาเมียน้อยออกหน้าออกตา อะไร มากมาย เหตุผลเพราะว่าเมียหลวงที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายนั้นเป็นอีแก่ไปแล้ววว

ที่นี่ ไม่ค่อยมีคะ ถ้ามีละก็ ทนไม่ไหว ฟ้องได้แจ้งตำรวจจับได้

และอีกอย่างนึงที่เราอยากจะบอกคือ

ผู้ชายเมื่อแต่งงานแล้ว ณ ปัจจุปันนะคะ 70% เค้าก็ยังคงให้เกียติ ภรรยานะคะ
ถึงแม้ ว่า ลองมองโดยไม่เอาเรื่องกฏหมายมา ร่วมด้วย

และ ส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบัน คนเกาหลีเค้าแต่งงานกันช้าคะ

และถ้าใครลองมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จะเห็นได้ชัดมากว่า คนเกาหลีชอบทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวมาก กว่าคนไทย

ซึ่งเมืองไทยเราเอง ก็ให้ความสะคัญกับครอบครัวนะ แต่ มันมีหลายมุมที่แตกต่าง
คะ ซึ่งเมืองไทยเราจะมีกิจกรรมกับครอบครัว ตอนที่เป็นงานเทศกาลสำคัญอะไรมากกว่า เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟังถ้ามีคนอยากรู้แล้วกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่อนข้างอธิบายลำบาก

ปัจจุบันมีการหย่าร้างสูงกว่าในอดีต แต่ ฝ่ายหญิงสามารถมีโอกาสแต่งงานใหม่ได้และดูจะมีสิทธิเกือบเท่าเทียมผู้ชายแล้วแต่ยังไม่เท่านะคะ

ย้ำอีกที ว่า การหย่าร้างลึกๆแล้วยังคงเป็นเรื่องน่าอาย อยู่สำหรับคนเกาหลีคะ

" ถ้าเรามีกฏหมายที่กำหนดกรอบความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเพศอย่างเคร่งครัดแบบเขา จะมีผลดีหรือเสียอย่างไรครับ "

โดยส่วนตัวอยากให้มีคะ
เพราะถึงแม้ว่า บ้านเราจะมีกฏหรือขนบธรรมเนียบมากมายที่ปฏิบัติกัน
แต่จริงๆแล้ว ณ ปัจจุบัน บ้านเรานั้น ก็หละหลวมในเรื่อง ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามแต่เดิมมา มากเหลือเกิน คนส่วนใหญ่ยังยึดถือกัน แต่การปฏิบัติ จะเห็นในทางออกนอกลู่นอกทางมากกว่าคะ ยึดถือปฏบัติกันไม่เคร่งเหมือนสมัยก่อนแล้ว

เพราะบ้านเรา เด็กสมัยใหม่ ก็ ยึดหลัก ฟรีดอมไลฟ ชีวิตเป็นอิสระ ซะส่วนใหญ่ไปแล้ว
หรือไม่งั้นนะคะ

บ้านเราก็แค่ กลับมาเคร่งใน ขนบธรรมเนียมประพณีให้ได้อย่างคนสมัยก่อนก็พอ
ถ้าทำได้ เรื่องกฏหมายอย่างของประเทศเกาหลี ก็ไม่มีความจำเป็นหรอกคะ
เพราะ วัฒนธรรมของไทยแต่เดิมมากก็ดีอยู่แล้ววว

ปล.. ไม่รู้ออกนอกเรื่องไปมากหรอกปล่าวแค่อยากมาแชร์ความคิดเห็นนะคะ

จากคุณ : No-Yumii

เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 16:56:23