หลายเดือนมานี้ไม่รู้ขับรถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบแทนบ้างเลย
พ่อหนุ่มไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์เสียเวลาเป็นธุระจัดการเรื่องราวให้สารพัด รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริง ๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง
กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ แต่ลุงไม่รับคืนและยืนยันว่าตั้งใจจะให้เราจริงๆ
อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็กและคนกลางมาเยี่ยมและทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้านหยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง
ลุงปฏิเสธและพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้ แล้วเดินออกมา
ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว
คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือนมาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท เราบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น
อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโต
"เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯ ไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนาหลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก พี่ต้องขอโทษแทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้วแต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆ เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหม เดี๋ยวกลับไปพี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้"
"ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร เราปฏิเสธไป"
วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ
"เจ้าใหญ่มันบอกว่า วางแผนไว้แล้วอีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่"
เราสังเกตเห็นแววตาอันสดใสของคุณลุง บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด
ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปีแล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า และสุดท้าย
ลุงน่าจะอดทนรออีกนิด อีกนิดเดียวเองครับลุง
ในห้องไอซียู เรากับพี่ใหญ่นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้ ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ
คุณลุงจากไปด้วยอาการสงบ
หลังงานศพเสร็จสิ้น ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้บอกว่า
"พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตายว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ"
เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง จ่าหน้าว่า
คืนเงินเดือนที่ 1-2-3... ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ ซองสุดท้าย มีข้อความว่า
ถึง หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญาขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ในทุกๆ เรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด ป้ามารอลุงแล้ว ลุงต้องไปก่อน
อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด เราสังเกตเห็นปฏิทินที่คุณลุงใช้ขีดฆ่าเพื่อนับวันรอลูกๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้
ขายบ้านด่วน !
เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด นึกถึงภาพคนแก่ ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลขบนปฏิทิน ด้วยอาการมือสั่นเทา ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้ มันซ่อนความห่วงหาอาลัยซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ซ่อนความเจ็บปวดร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดียวเพียงลำพังมานานกว่า 10 ปี
เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึกตลอดไป
ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น ชั่วนิจนิรันดร์