อยากใช้สามจี อยากขี่รถไฟความเร็วสูง
|
|
รถไฟลาวแซงหน้ารถไฟไทย
Monday, 13 December 2010 08:16 ในที่ประชุม รถไฟความเร็วสูงโลก ครั้งที่ 7 ที่ กรุงปักกิ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รองนายกฯลาว ได้ประกาศในที่ประชุมอย่างภาคภูมิใจว่า รถไฟความเร็วสูงสายแรก เชื่อมระหว่าง นครคุนหมิง เมืองหลวงมณฑลยูนนานของจีนกับ นครเวียงจันทน์เมืองหลวงของลาว จะเริ่มลงมือก่อสร้างในต้นปีหน้า 2011 และจะสร้างเสร็จในปี 2014 โดยใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี รถไฟความเร็วสูงลาว สร้างเสร็จเมื่อไรก็จะเป็น รถไฟความเร็วสูงสายแรกในแหลมทองแห่งนี้ วิ่งด้วยความเร็วกว่า 200 กม.ต่อชั่วโมง ทั้งๆที่ ไทย พี่เบิ้มใหญ่ในแหลมทองพูดถึงรถไฟความเร็วสูงก่อนลาวไม่รู้กี่สิบปี อีก 4 ปีข้างหน้า แป๊บเดียวเท่านั้นเอง คนลาวก็จะมีรถไฟความเร็วสูงใช้ การรถไฟไทย ที่เง่ายิ่งกว่าไดโนเสาร์รุ่นแรกๆก็จะ ล้าหลังรถไฟลาว ที่ยากจนกว่าไทยไม่รู้กี่สิบเท่าไปลิบลับ เพราะเรามีแต่ รัฐบาลที่งี่เง่า มีแต่นักการเมืองที่จ้องงาบผลประโยชน์ชาติ เพื่อพวกพ้อง จนบ้านเมืองพังและล้าหลัง รถไฟไทยล้าหลังรถไฟลาวไม่ใช่เรื่องแปลก โทรศัพท์มือถือไทยก็ล้าหลังลาวอย่างน้อย 3-4 ปี และอาจจะล้าหลังไปอีกหลายปี ถ้ายังทะเลาะแย่งผลประโยชน์กันไม่เลิก จนทำให้ เทคโนโลยี 3 จี 4 จี เกิดไม่ได้ในประเทศไทย รถไฟความเร็วสูงสายคุนหมิง-เวียงจันทน์ จะเป็นรถไฟความเร็วสูงสายอาเซียนด้วย จาก เวียงจันทน์ เข้าไทยที่ หนองคาย มา กรุงเทพฯ จาก กรุงเทพฯ ลงใต้ไป มาเลเซีย สิ้นสุดที่ สิงคโปร์ ระยะทางหลายพันกิโลเมตร ลงทุนร่วมกัน 5 ประเทศ รองนายกฯลาว บอกกับที่ประชุมรถไฟความเร็วสูงโลกอย่างภาคภูมิใจว่า รถไฟความเร็วสูงสายนี้จะปลดปล่อยประเทศลาวพ้นจากประเทศที่ยากจนที่สุด รัฐบาลของเราลงทุนด้านการคมนาคม ก็เพื่อรวมความเป็นหนึ่งในอาเซียนและความเป็นหนึ่งของอาเซียนกับจีน นอกจาก รถไฟความเร็วสูง สาย คุนหมิง-เวียงจันทน์ แล้ว จีนกำลัง จะลงมือก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสาย คุนหมิง-ย่างกุ้ง ของพม่าด้วย และกำลังเจรจากับผู้นำเขมร เพื่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสาย คุนหมิง-พนมเปญ อีกด้วย เผลอๆ รถไฟไทย อาจล้าหลัง รถไฟพม่า รถไฟเขมร ด้วย ทำเป็นเล่นไป รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมประชุม ได้แต่รายงานกระมิดกระเมี้ยนว่า รัฐสภาไทยเพิ่งอนุมัติโครงการรถไฟความเร็วสูงสายจีน-สิงคโปร์ผ่านลาวและไทยแล้ว แต่ไม่มีรายงานความคืบหน้าใดๆ เพราะคุยกันเองภายในกระทรวงคมนาคม จนป่านนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ผมได้ข่าวว่า วันนี้ คณะทำงานย่อย ใน กระทรวงคมนาคม จะประชุมกันเรื่อง เอ็มโอยูไทย-จีน ซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะ จีนเสนอให้สัมปทานรถไฟความเร็วสูง 50 ปี แต่ กฎหมายไทยให้สัมปทานได้แค่ 30 ปี รถไฟความเร็วสูงสายนี้ช่วงที่ผ่านไทยช่วงแรก หนองคาย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 640 กม. เงินลงทุนประมาณ 180,000 ล้านบาท ช่วงที่สอง กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย ระยะทางอีกพันกว่ากิโลเมตร ไม่รู้ต้องลงทุนอีกเท่าไร ผมคิดของผมคร่าวๆว่า ลงทุนสูงขนาดนี้ สัมปทานแค่ 30 ปี ก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊งแน่นอน เก็บค่าโดยสารแพงก็ไม่มีคนขึ้น เก็บถูกก็เจ๊ง ผมเห็นด้วยกับจีนว่า ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี น่าจะเหมาะสมในการลงทุนมากกว่า เก็บค่าโดยสารถูกมีคนใช้บริการ ดีกว่าเก็บแพงไม่มีคนใช้บริการ สิ่งสำคัญที่รัฐบาลไทยต้องคำนึงก็คือ นี่คือระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เป็นระบบการคมนาคมขนส่ง เป็นระบบโลจิสติกส์สำคัญที่รัฐบาลต้องสนับสนุนอยู่แล้ว ไม่ควรจะไปคิดเล็กคิดน้อยแบบหาเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว ประเทศจีน วันนี้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็น มหาอำนาจรถไฟความเร็วสูงโลก แซงหน้า ญี่ปุ่น ต้นกำเนิดรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว จีนมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเปิดให้บริการในวันนี้ 7,531 กม. สิ้นปี 2012 จะเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 13,000 กม. และสิ้นปี 2020 จะเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 16,000 กม. ไม่มีชาติใดในโลกตามทันอีกแล้ว แม้แต่สหรัฐฯ. "ลม เปลี่ยนทิศ"
http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/133593
แต่ก่อนเคยคิดขำๆ ว่า พวกลาว พม่า เขาล้าหลัง ไม่มีวันตามประเทศไทยของเราทัน
ใครจะไปคิดว่า ลาวจะมีพัฒนาการได้ขนาดนี้ มีสามจีใช้และกำลังจะได้ใช้รถไฟความเร็วสูง
ขณะที่ไทย สามจีก็ยังไม่ได้ใช้ รถไฟก็ยังถึงก็ชั่งไม่ถึงก็ชั่ง
จากข่าว...น่าเชื่อว่า ลาวน่าจะได้ใช้รถไฟความเร็วสูงก่อนไทย
รถไฟในระดับสอง-สามร้อย กม/ชม. ถ้ามีที่บ้านเรา เช่น กทม.-อุบล จะเดินทางเพียงไม่เกินสี่ชม.(จากปัจจุบันเก้า ชม.ขึ้นไป)
อิจฉาเพื่อนบ้านเราจริงๆครับ มีความเจริญระดับนั้นเข้าไป การลงทุนต่างๆและโอกาสของประเทศก็ย่อมมากขึ้น
คิดยังไงกันครับ ทำยังไงบ้านเราจึงจะพัฒนาได้เท่าลาวเขาบ้างครับ
ปล. อย่ามาไล่ผมไปอยู่ลาวละครับ ...อิอิ...
จากคุณ |
:
อุบลแมน
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ธ.ค. 53 20:42:04
|
|
|
|