 |
การบินไทยก็มีทั้ง พนง.ที่ดีๆและแย่ๆครับ
ด้วยความที่องค์กรมันใหญ่ และเด็กฝากก็เยอะแยะมากมาย เลยทำให้การคัดกรองคนทำได้ไม่ง่ายนัก
การมีคนในองค์กรที่ไร้คุณภาพ ทำให้การบริหารงานมันถึงได้เจ๊งแบบที่เป็นอยู่นี่แหละครับ
แถมเมื่อปีก่อนหน้านี้เอง สหภาพของ บกท.ยังสะเออะมาขอขึ้นค่าตอบแทน
ทำงานกันแบบ ห้าห่วงทนหายห่วง จะมาขอขึ้นเงินเดือนอีกหรือ ???
ทุกวันนี้ก็ไปกราบกรานกระทรวงการคลัง เพื่อให้เขาเอาเงินมาอุ้มกระเตงเช้า-เย็น อย่าลืมว่าเงินของกระทรวงการคลัง คือภาษีที่ชาวบ้านจ่ายเข้าหลวงไปทุกๆเดือนนะครับ
หากรู้จักลดกิเลสลงบ้าง บกท.คงไม่เจ๊งบานทะโร่ขนาดนี้หรอกครับ
ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายภาษีให้พนักงาน การ recruit คนแบบเกินความจำเป็น จนไปกองกันเพราะอยู่ในสภาวะคนมากกว่างาน การรับลูกท่านหลานเธอบางส่วนเข้าไปทำงาน เพียงเพราะทัศนคติว่าเป็นแอร์เป็นสจ๊วตแล้วมันเท่ห์ (ผมย้ำว่า "บางส่วน" นะขอรับ...เพราะคนที่ดีๆเขาก็มีอยู่)
และที่สำคัญ.... ลดการกินหัวคิวต่างๆลง ทั้งการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ค่าคอมมิชชั่นซื้อเครื่องบิน (ใครลองทะลึ่งมาเถียงผมซิว่าไม่มี๊...ไม่มี...)
ค่าเปอร์เซ็นต์ห้องพักลูกเรือต่อห้อง/ต่อคืน
แหมมมม..เล่นรับประทานกันจนไม่ย่อย ชนิดต้องกินยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน แบบนี้มันจะไม่เจ๊งทนไหวหรือ ???????
ไม่นับตั๋วสวัสดิการของบอร์ด และอดีตบอร์ด กับตั๋วสวัสดิการของพนักงานอีกต่างหาก
แต่สองอันนี้พอหลับหูหลับตาได้ครับ..ไม่เป็นไร...
อ้อ...เบี้ยประชุมของบอร์ดทั้งหลาย ลดๆกันลงกันมั่งก็ดีนะครับ...จะเอารวยกันไปถึงไหน
บกท..ขาดทุนจากการดำเนินงาน และขาดทุนจากการทำสัญญาซื้อน้ำมันล่วงหน้า และทำให้ต้องหาทางกู้หนี้ยืมสินเพื่อเอากะตังค์มาจ่ายเจ้าหนี้ เอามาเสริมสภาพคล่อง และใช้ในการลงทุนเพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้
ส่วนหน่วยงานที่ทำรายได้ ก็มีอยู่แค่ ครัวการบินไทย ,คลังสินค้า และ ฝ่ายช่าง
ก่อนหน้านี้ บกท..ก็เคยดิ้นไปแล้วครั้งนึง ด้วยการไปไปอ้อนวอนให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ช่วย โดยผู้บริหาร บกท..โอดครวญว่า เจอพิษราคาน้ำมันแพง และโดนซ้ำด้วยการปิดสนามบิน ทำให้มีปัญหาเรื่องเงิน
แต่ สคร.ก็ใจแข็งปานหินผา.... เพราะพี่แกตอกกลับไปว่า ให้ บกท..ไปหาทางช่วยตัวเองก่อน
เพราะที่ผ่านมาไม่คิดจะทำอะไรเลย.... เอะอะอะไรก็จะให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้ตลอด แต่ตัวเองงอมืองอเท้าไม่ยอมเปลี่ยนโครงสร้างการบริหาร
แถม สคร.เค้ายังแขวะมาด้วยว่า แค่ บกท..เลิกให้เอกชนเข้ามากินหัวคิวจากการขายตั๋ว E-Ticket บกท..ก็น่าจะมีเงินคืนสภาพคล่องกลับเข้ามาซัก 30,000 ล้านบาทในทันที
ไอ้เปอร์เซ็นต์จากการกินหัวคิวขายตั๋ว E-Ticket ที่ว่านี้ แหะ แหะ...ไม่มากไม่มายซักกี่บาทหรอกขอรับ.... ก็แค่ยอดขายรวมต่อปีอยู่ที่ 160,000 ล้านบาท ....เท่านั้นเอง....
เด็กอมมือมันยังคิดได้เลยว่าต้องทำยังไง แต่คน บกท. ทำไมมันกลับคิดไม่ออก.....
Agent เอกชนที่เข้ามากินหัวคิวจากการขายตั๋ว E-Ticket ลองดูให้ดีเถอะขอรับ....รับรองว่า "บางส่วน" มีชื่อของญาติโกโหติกาคน บกท.. และ "บางส่วน" ก็เป็นญาติโยมของคนใหญ่คนโตเต็มไปหมด.....
จะยอมรับความจริงกันรึเปล่าเท่านั้นเอง......
ที่สำคัญ ลด พนง.ไร้ประสิทธิภาพลง คัดกรองเอาคนที่เขาตั้งใจอยากจะทำงานจริงๆไว้ รับรองว่าสายการบินแห่งชาติจะเจริญขึ้นอีกมากมายครับ !!!!
จากคุณ |
:
ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ม.ค. 54 19:35:32
|
|
|
|
 |