ความคิดเห็นที่ 1 พูดยากแฮะ... เมื่อสองปีที่ที่แล้ว ผมซัดท้ายรถบรรทุก..  รถผมยุบไปครึ่งคัน.. ยังจำกลิ่นแก๊สของแอร์แบคได้ดี ตำรวจที่ทำคดีผมบอกว่า ประโยคเดียวที่ผมถามก่อนหมดสติคือ... มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า...... พวกเลยเขียนสำนวนซะอ่ิอนเชียว... แต่ก็ไม่ได้วัดนะครับว่า ผมดีกว่าน้องเค้า..  ก็แค่เรื่องเล่า....โอเคนะ จากคุณ : aftertime เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:10:29

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่า น้องเค้า คงหน้ากระแทก อย่างแรงมั้งค่ะ พอออกจากรถ สิ่งที่ คิดตอนนั้นคือ หน้าที่ฉันไปทำมา เป้นไร ไหมเนี่ย -*- เพราะชั้นรู้สึกเจ็บๆแถว จมูก   เราคิดว่าน่าจะความรู้สึกนั้นอะ แต่เราไม่เคยโดนอะนะ จากคุณ : BackWell เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:25:17

ความคิดเห็นที่ 3 ก็เอาเป็นว่าเด็กคนนี้ถูกปลูกฝังในหัวว่า เวลาเกิดอะไรขึ้นให้นึกถึงตัวเองก่อนถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดความเสียหายก็ตาม ถ้าใครๆ ยังจะคิดแก้ต่างให้แม่หนูนี่ ก็ระลึกไว้ด้วยนะคะว่าสังคมพวกคุณจะมีคนเห็นแก่ตัวเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ค่ะ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:28:12 A:115.128.37.189 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 4 อ้อ ลืมนิดค่ะ ดิฉันอยากเห็นคนในสังคมแสดงจิตสำนึกต่อสังคมเช่นคุณ aftertime มากกว่าค่ะ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:29:06 A:115.128.37.189 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 5 จิตวิทยาไม่รู้ค่ะ เรียนแล้ว คืนอาจารย์ไปเมื่อหลายปีที่แล้วแล้ว แต่เราเคยนั่งรถตู้ที่บ้านไปเที่ยวกันแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประโยคแรกที่เราพูดคือ แม่เป็นอะไรรึเปล่า แล้วประโยคถัดมาคือฝั่งนั้น(คู่กรณี) เป็นไรมั้ย แต่กรณีตอนนั้นเราไม่เจ็บเลย แค่มึนค่ะ อีกครั้งคือตอนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ แล้วเฉี่ยวกับรถยนต์ เรากระเด็นลอยออกจากมอเตอร์ไซค์ตกไปเลนตรงข้าม ส่วนคนขับมอเตอร์ไซค์ทับอยู่กับที่ค่ะ อันนั้นเราเจ็บด้วย มึนด้วย แต่มองไปเห็นคนขับมอเตอร์ไซค์ล้มทับ ประโยคแรกของเราก็ตะโกนถามคนขับเหมือนกันค่ะ พี่เป็นไรมั้ย แล้วถึงห่วงแขนตัวเองค่ะว่าถลอกแบบนี้จะเป็นแผลเป็นมั้ย แต่ทั้งสองกรณีคือเราเจ็บ แต่รู้ตัวว่าไม่สาหัส ถึงตะโกนถามคนอื่นก่อน แต่ถ้าเราเจ็บสาหัส เราคงไม่มีเวลาคิดถึงใคร นอนโอดโอยล่ะค่ะ แต่สิ่งแรกที่รู้สึกเราคงไม่รู้สึกว่า จะเสียโฉมมั้ย น่าจะเป็น สาหัสมั้ย จะตายจะพิการมั้ยกระดูกหักมั้ย เลือดออกเยอะรึเปล่า ต้องนอนร.พ.มั้ย ค่ารักษาจะแพงมั้ย คำถามของจขกท เลวมั้ยไม่รู้ค่ะ แต่สัญชาติญาณมนุษย์น่าจะห่วงชีวิตก่อน และถ้าเรารู้สึกว่าเราโอเค เราจะเริ่มอยากรู้ว่า แล้วคู่กรณีล่ะเป็นยังไงมากกว่า ป.ล. เราเป็นผญที่รักสวยรักงามมาก และแน่ใจว่าตัวเองเป็นผญหน้าตาดีคนนึงแม้จะไม่ได้ขาวหมวย (บอกไว้เผื่อคิดว่าเออ คนสวยๆเค้าก็ต้องห่วงสวยมากกว่า คนหน้าตาธรรมดาที่คงไม่แย่ไปกว่าเดิมเท่าไหร่) จากคุณ : kitten in the kitchen เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:35:05

ความคิดเห็นที่ 6 เคยประสบอุบัติเหตุค่ะ   รถตู้ปิดกระแทกคิ้วแตก แวบแรกคือมึนๆชาๆ จับๆดูมีเลือดไหล  แวบแรกคือสงสัยว่าแค่คิ้วหรือโดนลูกตาเข้าไปด้วย พอไปหาหมอ คำถามแรกที่ถามคือ  เย็บกี่เข็ม  จะเป็นรอยแผลเป็นไหม  หน้าหนูจะเป็นยังไง  จะเสียโฉมไหมห่วงอย่างนี้ก่อนจริงๆค่ะ จากคุณ : ladywitch เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:40:15

ความคิดเห็นที่ 7 คงวัดอะไรไม่ได้หรอกครับ...บางคนบอกว่าให้รักตัวเองก่อนรักคนอื่น ดังนั้นคำถามแรกจึงเป็นคำถามที่เกี่ยวกับตัว... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:42:57 A:59.189.245.34 X:218.186.10.240 TicketID:282558

ความคิดเห็นที่ 8 ก็เค้าถึงออกกฎหมายให้เด็กอยู่ในที่ที่ควรอยู่ไง เพราะเด็กต้องใช้เวลาในการรู้จักสำนึกต่อผู้อื่น จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:48:42

ความคิดเห็นที่ 9 คำแรกเลย....ผมจะพูดว่า " ช้างกูอยู่ไหน..." ปล. มันวัดอะไรไม่ได้เลยครับ คนเราคิดต่างกัน กลัวต่างกัน และ ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากน้อยต่างกัน จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 13:56:02

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเคยประสบมาเหมือนกัน... พร้อมเมีย...ก็บอกตรงๆ...แว๊บแรกนี่...นึกถึงตนเองก่อนเลย... แล้วจึงดูว่าเมียเป็นไง... จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 14:31:13

ความคิดเห็นที่ 11 น้องเขาคงหมายถึง หน้ารถมั่งครับ ยุบซะเสียโฉมซีวิคไปเลย ปล.หน้าน้องเขาไม่เป็นอะไรนิครับ ยังสวยงามเหมือนเดิม  แกร่งดีครับ ชอบ จากคุณ : หนุ่มชาวบ้าน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 15:31:37

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบไม่ถูก และ จับใจความไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับจิตวิทยายังไง ตรงไหน - - โอเคครับ ผมเคยตกรถวีโก้ หน้าไถกับถนน เลือดอาบ ผมเดินกลับมาอย่างงั้น ผมไม่ถามใครเลย แม่เห้นแทบเป้นลม ผมยังมีกะใจเดินไปส่องกระจกว่ามันหนักมากไหม ตัดสินยังไงดีล่ะ ว่าผม ดี หรือ ไม่ดี??? ตัวผมเองถ้าเอาตรงๆ ผมก้รับไม่ได้กับการกระทำของแพรว๊านี่แหละครับ ดูเหมือนเธอไม่หยี่ระอะไรเลย แต่ถ้าการที่เธอพูดว่า หน้าหนูเป้นอะไรไหม แล้วเหมาว่าเธอเลวด้วยสาเหตุนี้ ผมก็รับไม่ได้เหมือนกันครับ ตัดสินกันง่ายไป จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 15:44:47 A:223.207.21.67 X: TicketID:301146

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อนออกป้ายแดงมาได้ 2 วัน เมื่อ6-7 ปีที่แล้ว ชวนกันไปเชียงใหม่ นั่งหน้า 2 คน หลัง 3 คน (เรานั่งหลัง) เพื่อนอยากลองรถ เหยียบเร็วมากน่าจะประมาณ 120-140 (กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ) ตอนนั้นอยู่พิษณุโลก และเค้าขับเลนขวาสุด ปรากฏ มีสองแถวโผล่จากซอยมา และออกมาเลนขวาสุดเลย เพื่อนเราหักหลบซ้าย ไม่รู้เป็นไงมาไง จำได้ว่ารถหมุนคว้างจากเลนซ้ายที่หักหลบไป มาพลิกคว่ำที่กลางถนนได้ไงไม่รู้ (ตอนนั้นกลางถนนจะเป็นเหมือนแอ่งเว้าลงไปมีหญ้าขึ้น) แถมรถคว่ำห่างจากเสาไฟฟ้ากลางถนนไปนิดเดียว วินาทีที่รถเหวี่ยงก่อนจะคว่ำนั้น เราคิดว่าตายแน่ๆแล้ว ภาพในอดีตมันย้อนมาเหมือนหนังเลยล่ะ หน้าพ่อ แม่ คนรู้จัก และคิดว่าแม่จะเสียใจไหม อยู่ได้ไหม ไม่รู้ทำไมถึงคิดอะไรเยอะแยะได้ไวขนาดนั้นในช่วงเวลาไปกี่วินาที ถ้าเป็น computer คงประมวลผลไวมากๆ ตอนรถพลิกคว่ำหัวเราก็ไปกระแทกกับอะไรซักอย่าง (เรานั่งด้านซ้ายหลัง) เจ็บมากๆ จริงๆเจ็บทั้งตัวเลยล่ะ รถไม่ได้คว่ำแบบหงายท้อง เพราะพลิกกลับมาที่เดิม สิ่งแรกที่ทำน่ะหรือ.... เราจับตัวเองก่อน เพราะเข้าใจว่าตัวเองตายแล้ว เพราะมันแรงมากๆๆๆ เจ็บมากๆด้วย เมื่อแน่ใจว่าฉันไม่ใช่ผี หันไปดูเพื่อนทุกคนต่างถามว่าเป็นอะไรไหม เพื่อนเราคนขับรถคำแรกยังถามเลยข้างหลังเป็นไรไหม หลังจากนั้นเรามองเห็นชาวบ้านวิ่งข้ามถนนมา สิ่งที่สองที่ทำ... ควานหาโทรศัพท์ กระเป๋าถือ-->ไมได้คิดว่าจะโทรหาใคร แต่กลัวจะโดนขโมยของ  -__-"  เฮ่อ...คิดในแง่ร้ายขอโทษทีนะคะ ประตูข้างเราทั้งหน้าทั้งหลังเปิดได้ ก็รีบออกมากัน ทั้งชาวบ้าน ทั้งเพื่อนเราต่างสำรวจกันใหญ่ ว่ามีบาดแผลอะไรไหม ปรากฏว่า...ไม่มีค่ะ ไม่มีใครเป็นไรเลย มีแค่ปวดเนื้อปวดตัว เจ็บเป็นที่ๆมากกว่า จนพวกชาวบ้านแถวนั้นถามว่าพวกหนูห้อยพระอะไรกัน....ไม่มีค่ะ ไม่มี๊ ไม่เคยห้อยพระเลยจริงๆ คือสภาพรถตอนนั้น ไม่น่าที่จะรอด...หน้ายุบหลังคาด้านที่เรานั่งก็ยุบ เละค่ะ...ป้ายแดง 2 วันของเพื่อน เรื่องตลกอย่างหนึ่งคือ เครื่องเสียงรถนี้ดีเหลือเกิน เรากำลังฟังเพลงพี่เบิร์ดกันอยู่ใช่ไหมคะ ตอนรถหมุนๆ+คว่ำน่ะ เราไม่รู้หรอก มันเล่นเพลงอยู่ไหม แต่พอรถพลิกคว่ำกลับมาเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่หูได้ยินเพลงจากพี่เบิร์ด เป็นท่อนที่ว่า..."ฝากเอาไว้ในมือเธอ..." อืม...ของเค้าแรงจริงๆ อุ๊ยขอเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ คือสาวๆที่นั่งข้างหลังกัน 3 คนเนี่ย พึ่งได้แอร์ของสายการบินแห่งหนึ่งทั้งหมด แต่ตอนนั้นไม่มีใครห่วงหน้าห่วงตาตัวเองเลยนะเจ้าค๊ะ หรือห่วงและไม่พูดกันไม่รู้ แต่ที่ได้ยินออกมาจากปากของทุกคน ณ เวลานั้นก็คือ ต่างคนต่างเป็นไรกันไหม และจะเรียกรถพยาบาลนั่นนี่ เราก็โทรหาเพื่อนที่เป็นตำรวจก่อนแจ้งเหตุ เพราะคิดไรไม่ออก และเพื่อนช่วยประสานให้อีกที สุดท้ายไม่ได้โทรบอกแม่หรอก กลัวเป็นห่วง หลายเดือนผ่านไปพึ่งบอกแม่เจ้าค่ะ แกจะได้ไม่เครียดไปด้วย แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 16:15:13 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 16:09:10 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 16:06:16 จากคุณ : ท่านหญิงแพรวพรรณราย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 16:04:07

ความคิดเห็นที่ 14 มันคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำคัญที่สุดของเค้ามั้งครับ อย่างอื่นเช่นพวก สมอง อะไรแบบนั้นคงไม่....... จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 16:40:15

ความคิดเห็นที่ 15 วิจารณ์กันอย่างสนุก ฮา ฮา ผมว่าไปดูก่อน ว่าข้อมูล มันจริง หรือ ปลอม ดีกว่าครับ จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 16:49:42

ความคิดเห็นที่ 16 ในส่วนของน้องแพร.. เค้าขับมาคนเดียว ชนขนาดนั้นก็คงจะทั้งเจ็บ เบลอ ตกใจ คิดว่าไม่แปลกที่คำถามแรกจะเป็นแบบนั้น เพราะหน้าเป็นส่วนที่มองไม่เห็นถ้าไม่มมองกระจก   และช่วงนั้น น้องเค้าคงจะยังไม่รู้ว่าในรถตู้ที่เค้าชน มีคนนั่งมาเต็มคัน บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน  พอรู้แล้วอาจจะตกใจหมดเรี่ยวหมดแรง ทำไรไม่ถูกมั้ง จากคุณ : ployphon เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 19:09:20

ความคิดเห็นที่ 17 เคยเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นครับ ตอนที่โดนคู่ต่อสู้ต่อยคิ้วแตก พอถอดเฮดการ์ดออก ผมถามพี่เลี้ยงก่อนเลยว่า "ผมกินไข่ได้มั๊ยครับ" คือ..ผมเป็นคนชอบกินไข่เจียวมาก แล้วได้ยินมาว่าคนเราเวลาเป็นแผลห้ามกินไข่ ส่วนไอ้เรื่องห่วงหล่อน่ะ...คนหน้าโหดอย่างผมไม่ห่วงอยู่แล้ว อีกครั้งหนึ่งขับรถแล้วคว่ำไป 3 ตลบ จบลงด้วยล้อชี้ฟ้าในร่องระบายน้ำของวงแหวนตะวันออก ผมคาดเข็มขัดครับ พอรู้ว่าไม่ตายก็ปลดเข็มขัดออก และคลานออกมาทางกระจกหน้าที่แตกยับ มีคนจอดรถลงมาช่วยผม ที่ได้กลายมาเป็นกัลยาณมิตรกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ และคำแรกที่ผมถามพี่เขาก็คือ "เห็นโทรศัพท์ผมมั๊ยครับ" เพราะผมคิดอย่างแรกเลยว่าจะโทรบอกที่ออฟฟิศว่ารถคว่ำ เรื่องแบบนี้มันอาจตัดสินไม่ได้หรอกครับ ว่า "หน้าหนูเสียโฉมไหม" มันจะเป็นตัววัดความดีหรือเลว เพราะมันอยู่ที่สถานการณ์นั้นๆ, อยู่ที่ช่วงอายุของคนพูด, อยู่ที่จริตเฉพาะตัวของคนๆนั้น...ไปจนถึงอยู่ที่สถานะของผู้พูดครับ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 19:19:14

ความคิดเห็นที่ 18 ของคุณ aftertime ผมก็มองว่ากลางๆ ไม่ได้สื่อว่าเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตนเองหรอก เพราะ "ใคร" ในประโยค มันก็รวมตนเองเข้าไปด้วย ถ้าจะสื่อเช่นนั้น น่าจะ"มีคนอื่นเป็นอะไรหรือเปล่า" ส่วนกรณีที่เป็นข่าว ถ้าเป็นคนหน้าตาดีที่ตั้งใจจะใช้หน้าตาหากินในอนาคต เช่น นักแสดง ถ่ายแบบ ก็ย่อมเป็นห่วงหน้าตาอยู่แล้ว เพราะดาราเสียโฉมมันเปรียบได้กับศัลยแพทย์มือขาด ส่วนเรื่องเห็นแก่ตนเองก่อนคนอื่น ผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นสัจธรรมของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเองก็น่าจะฆ่าตัวตายเสีย เพราะคุณกำลังเห็นว่าชีวิตของตนเองด้อยค่ากว่าคนอื่น ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ให้สิ้นเปลืองทรัพยากรไปเปล่าๆ จากคุณ : Schweissnaht (Schweissnaht) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 19:20:48

ความคิดเห็นที่ 19 เวลามีอุบัติเหตุ คนเจ็บมักจะถามหาคนที่ตัวเองห่วงใยก่อน เพราะว่าตัวของตัวเองก็ย่อมรู้ว่าตัวเองไม่เป็นไรมาก(บางทีก็คิดไปเองว่าไม่เป็นไร) แต่กรณีน้องคนนี้ เค้ามาคนเดียวมั้ง เลยไม่รู้จะถามหาใคร และวินาทีแรกที่ออกจากรถคงไม่สามารถจินตนาการได้ว่ารถคู่กรณีจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายมากขนาดนั้น เคยได้ยินประโยคนี้จากเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 14 คนนึง ยอมรับว่าฟังแล้วตกตะลึงเพราะไม่เคยได้ยินใครพูดแบบนี้มาก่อน เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจริงๆที่ได้ยินคนถาม(แบบคร่ำครวญ)ว่า "หน้าหนูเสียโฉมไหม" ทั้งๆที่คนที่นั่งมาด้วยก็มีคุณยายกับน้องชายตัวเล็กๆ แต่ไม่ยักกะถามหา จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:03:05

ความคิดเห็นที่ 20 เราเคยประสบอุบัติเหตหน้าฟาดแอร์แบคอย่างแรง   ปากชา  จนรู้สึกว่าปากแหว่งหายไปเลย คำถามแรกที่ถามคนที่มาช่วยคือ  "พี่  ปากหนูเป็นไรไหม" ห่วงว่าหน้าจะเสียโฉมมากที่สุดเลยค่ะตอนนั้น แล้วค่อยห่วงขาที่จะหักมิหักแหล่ทีหลัง ถ้าเลือกหน้าเสียโฉมกับขาหัก  เลือกขาหักค่ะ ถึงจะไม่ได้สวยอะไรเลยก็ตาม แต่ตอนนั้นไม่มีคู่กรณี และตอนประสบอุบัติเหตุ  ก็ห่วงตัวเองก่อนแฟนที่นั่งมาด้วยค่ะ นึกห่วงได้ทีหลังตัวเองค่ะ และพอมีคนแงะออกมาจากรถได้  ที่ดีใจมากที่สุดเป็นล้นพ้นคือ  ไม่คนอื่นได้รับอันตรายจากการกระทำของเราค่ะ   เทียบเวลาทั้งหมดที่รู้สึก หลายๆ อย่าง  ใช้เวลาแค่ 2-3 วินาทีเท่านั้น 1. ห่วงตัวเอง  โดยห่วงที่หน้ามากที่สุด  (ชา+ปวดหน้ามาก แต่ปวดขามากที่สุด) 2. ห่วงคนที่มาด้วย 3. ห่วงผู้อื่น  คู่กรณี  ซึ่งไม่มี 4. ห่วงรถ 5. ห่วงคนที่รอเราอยู่  รีบโทรแจ้งข่าว 6. โทรหาคนที่จะช่วยเหลือเราได้  ประกัน  รถพยาบาล 7.  นั่งเซ็ง โกรธตัวเอง รู้สึกผิด ร้องไห้  คิดมาก คิดว่าจะทำไงต่อ  นั่งเฉยๆรอประกัน  30 - 40 นาทีได้  มีคนโทรมาถามไถ่อาการบ้าง  คุยโทรศัพท์เป็นระยะ แล้วแต่ใครจะมาถ่ายรูปได้ตอนไหนแล้วล่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 54 20:10:52 จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:08:46

ความคิดเห็นที่ 21  วัดไม่ได้หรอกว่าจะดีหรือเลว กับคำพูดแค่นี้... จากคุณ : ไรท์โปรเจ็ค เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:09:39

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องจริงของตัวเอง ตอนนั้นอายุ 17 ไปกับน้อง ขับชนกับค้นอื่น ตัวเองสลบ ฟื้นอีกที ที่ รพ. ถามถึงน้องก่อน ปรากฎว่าน้องไม่เป็นอะไรเลย ส่วนคู่กรณี วินาทีนั้นไม่ได้นึกถึงเลยจริงๆ จนออกจาก รพ.แม่เล่าให้ฟังว่าคู่กรณีเป็นหนักกว่าเราเยอะ แต่ไม่ถึงชีวิตนะ ส่วนหน้าตัวเอง ทำใจตั้งนานกว่าจะกล้ามองกระจก เป็นธรรมดานะ คนก็ต้องเห็นกับตัวเองก่อน ไอ้ที่พูดๆ กันว่าห่วงคนอื่นน่ะ เวลาเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ จะทำได้รึเปล่า เหมือนเวลาด่าคนอื่นน่ะ ด่าได้นะ สนุกดี โดยเฉพาะด่าแล้วมีแนวร่วมเยอะๆ เนี่ย สนุกดี อย่างนี้เค้าเรียกอุปทานหมู่รึเปล่า จากคุณ : ท้ายที่สุด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 20:54:26

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเคยจมน้ำตอนเด็ก สิ่งแรกที่ผมถามคือ "หนังจีนมารึยัง" ตอนผมตกน้ำไปกับพ่อ พอจับตลิ่งได้ ที่ผมถามคือ "พ่อเป็นไงมั่ง" ตอนผมนั่งมอเตอร์ไซด์ ล้มไปกับเพื่อน ที่ผมนึกตอนแรก "หัวเข่าผมเป็นไงมั่ง จำได้ว่าตอนล้มมันครูดไปกับพื้น" ผมว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วสิ่งที่คนจะห่วง หรือนึกถึง น่าจะเป็นสิ่งที่เรา มีสติเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะรู้สึกตัวหลังเกิดเหตุ สมมติว่า ใครโดนชกสลบไป ตื่นมาก็ต้องนึกถึงหน้าตัวเองก่อน ใครรถล้มแขนกระแทก ก็ต้องนึกถึงแขนก่อน ความจริงหนักสุดอาจจะขาหักก็ได้ จากคุณ : gagigunggai เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 54 21:16:06

ความคิดเห็นที่ 24 บุญรักษากันทุกคนนะครับ ขำท่านหญิงอะ  ของแรง  ฮ่าๆๆ จากคุณ : HaraTakumi เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 04:08:14

ความคิดเห็นที่ 25 โดยทั่วไปใครๆที่เป็นพ่อแม่ต่างก็รักลูกตนเอง ทั้งน้าน ไม่ต้องมีใครสอน มันเป็นเองโดยธรรมชาติ แม้สัตว์ เดรัจฉานมันก็เป็น แต่คนที่จะมีความรักความเมตตา มีความเห็นอกเห็นใจ เผื่อแผ่ไปถึงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มีน้อยกว่ามาก โลกเราจึงรุ่มร้อนเหมือนอยู่ในกองเพลิงตลอดเวลา ก็ด้วยเหตุนี้ จากคุณ : ธ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 12:26:49 A:125.26.234.179 X: TicketID:259615

ความคิดเห็นที่ 26 ขอยืนยันว่าคำพุดที่หล่อนผู้นั้นพูด  "พี่หน้าหนูเละมั้ยๆ" มันก้แสดงถึงความคิดแวบแรกของหล่อนที่ตกใจ แต่มันก้สะท้อนความเป็นคนของหล่อนออกมาว่าเป้นคนยังไงยังพอแต่ก้พอให้อภัยกันได้เพราะคนมันตกใจ แต่ที่รับไม่ได้จริงๆคือที่หล่อนส่งข้อความ หาเพื่อนหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ว่า "ตอนนี้เราขับรถชน เขาบอกว่ามีคนตายด้วยเเหละ 555" มันรับไม่ได้จริงๆ ขอประนามในพฤติกรรมเยี่ยงนี้ จากคุณ : Mimosa tree เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 12:37:05

ความคิดเห็นที่ 27 คห. 26 ข้อความ BB อันนั้นเป็นของปลอมจ้า จากคุณ : I Get fizzy เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 21:18:58

ความคิดเห็นที่ 28 คนเราคิดอย่างไร ก็มักพูด หรือแสดงออกไปอย่างนั้น จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 22:25:25

ความคิดเห็นที่ 29 "หน้าหนูเสียโฉมไหม" << ยังไม่ค่อยแน่ใจ "หนูชนรถ .. คนตกมาตายเอง" << อ้อ มิน่าถึงได้ดูชิลล์ๆ นัก มิน่าถึงได้ห่วงแต่ตัวเอง ไม่ห่วงคนอื่น ก็เธอไม่ได้ชนคนซักหน่อย จากคุณ : SE7EN เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 54 13:26:38