Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผมเป็นเกย์ เรียนจะจบแล้ว ทุกวันนี้พาแฟนเข้าบ้านตลอดคุณว่าพ่อแม่ผมรู้หรือป่าว ??? ติดต่อทีมงาน

ผมเรียนมหาลัยแห่งหนึ่ง อยู่หอ
ขอเล่าถึงสิ่งของและการเรียนนะครับ

เริ่มจากก่อนมีแฟนก่อน
ที่ห้องผมตอนแรกผมอยู่คนเดียว ห้องก็เหมือนห้องเด็กผู้ชายทั่วไป เข้าไปถึงมีเตียงคู่ของหอพัก , โต็ะคอม 1 ตัวพร้อมจอ 17" หนักๆแบบโต็ะแอ่น , ทีวี 21" 1 เครื่อง ,ตู้เย็น , แล้วก็โต็ะญี่ปุ่น , แล้วก็จักรยาน 1 คัน ซึ่งของทุกอย่างเป็นของที่บ้านครับ

การเรียนก็งั้นๆ เรียนแบบขอไปทีเพราะไม่รู้จะเรียนไปทำไม ไม่มีเป้าหมายของชีวิต เบื่อการเรียน

-------------------------------------------------------------------------------
จนผมมาพบกับคนๆหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป
เมื่อยอมรับว่าเป็นแฟนกัน สิ่งแรกที่ทำด้วยกันคือพากันเรียน ตั้งใจว่าอยากจะจบ จะได้มีการมีงาน พ่อแม่จะได้ยอมรับ

ปกติแม่ให้เงินใช้อาทิตย์ละ 1000 - 1500 บาท แล้วแต่กิจการช่วงนั้นส่วนแฟนผมทำงาน 7-11 ซึ่งเงินไม่ค่อยพอใช้ผมจึงเริ่มคิดวิธีหาเงินคือ รับจ็อบซ่อมคอมพิวเตอร์ เริ่มจากเครื่องละ 50 บาท แรกๆก็ทำหาประสบการณ์ไปเรื่อยจนเริ่ม
1.รู้ทางหนีทีไล่
2.รู้จักแหล่งซื้อขายราคาส่ง
3.รู้จักกลยุทธ์ช่างซ่อม (พูดตรงๆก็คือ การซิกแซกเล็กน้อย)

พอเห็นว่าธุรกิจไปได้สวยก็เริ่มอัพราคา เป็น 100 บาท ซึ่งลูกค้าก็ยังติดหนึบเสียกันไม่เว้นแต่ละวันจนเราเริ่มเปิดบัญชีคู่กัน มีชื่อ 2 คนพออยู่มาซักระยะนึงเริ่มรู้สึกว่าการขึ้นรถเมล์ไปซื้ออะไหล่เป็นเรื่องลำบาก (แต่ก็คุ้มเพราะไปแต่ละครั้งได้ไม่ต่ำกว่า 500) และจังหวะนั้นมีรุ่นพี่ของแฟนผมเรียนจบและขี้เกียจขนรถกลับ ซึ่งรถคันนั้นคือ Yamaha MIO สีน้ำเงินจึงขอซื้อต่อมาในราคา 15000 บาท โดยวางเงินดาว์น 7000 เหลือ 8000 ผ่อนอีก 4 งวดซึ่งเค้าก็ตกลงทำสัญญากันเสร็จเรียบร้อย
หลังจากวันนั้ผ่อนไป 1 เดือนและเทหมด 6000 ในเดือนถัดมาเนื่องจากงานทำคอมมีลูกค้ามาให้ประกอบคอมในเวลาใกล้เคียงกันถึง 3 ชุดได้กำไรเน็ตๆชุดละ 1300 ไม่รวมชาร์ตค่าของอีกต่างหาก

ตั้งแต่ได้รถและมีฐานลูกค้าที่มั่นคง ผมเริ่มหยุดขอเงินพ่อแม่เพราะมีกำลังหาเลี้ยงตัวเองได้ พ่อแม่ก็ถามผมก็บอกว่าเพื่อนมาอยู่ด้วยช่วยกันทำงานแล้วแบ่งเงินกัน

วีรกรรมต่อมาคือเกิดอารมณ์เบื่อคอมที่ห้อง ที่ทั้งจอใหญ่ โต็ะแอ่น และเล่นเกมกระตุก เลยจัดไปให้แฟนไปอ้อนพ่อ โดยอาศัยบารมี AEON รูดเงินสดมา 15000 บาท จัดแจงอัพเกรดคอมเครื่องเดิมและซื้อ LCD 22" SAMSUNG ใหม่แกะกล่องมา (สมัยนั้นราคา 8500) ผ่อนเดือนละ 1200 บาท 15 เดือน ดอกเบี้ยโหดมากๆๆๆๆๆ แต่อยากได้ก็เลยจัดไป

และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของราชาเงินผ่อน ......
หลังจากนั้นของในห้องก็ค่อยๆโดนเนรเทศออกไปทีละชิ้น สองชิ้น ทำงานได้เยอะมือเริ่มเติบ ใช้จ่ายแบบมีเท่าไรใช้ให้หมดจนห้องเดิมๆที่เข้ามาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

โปรแกรมต่อไปไม่นาน ซื้อไมรโครเวฟจากร้านอมรมือสองมา ราคา 1000 บาท โดนแม่ด่าไปตามระเบียบ "ซื้อมาทำไม" เพราะที่บ้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ากับติดจานดาวเทียม ไมโครเวฟเหลือเต็มบ้านแต่ก็บอกไปว่าอยากซื้อเองครับ

เดือนถัดไปรู้สึกเงินเริมไม่พอใช้ ต้องรับงานมากขึ้นจนเกินกำลัง ทีนี้รู้รสชาติราชาเงินผ่อนแล้ว จึงแก้ปัญหากันโดยการทำกับข้าวกินเองในห้อง ทำงานมารวบรวมเงินไปซื้อเครื่องครัว ซื้อกระทะไฟฟ้า 500 กว่า หม้อหุงข้าวจีนแดงอีก 199 (ลดราคา) ตะหลิวเครื่องครัว ซื้อมาหมดแล้วก็ทำกับข้าวกินเอาเอง
... ได้ผล .... ตังเหลือเป็นพันเลย แล้วก็ติดใจทำมาถึงทุกวันนี้

แล้วก็เริ่มจับธุรกิจมือสอง โน็ตบุ้ก มือถือ เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นว่าเล่น (จับมาขายระหว่างรอขายก็ใช้ไปด้วย)

จนมาถอยทีวีใหม่ LCD TV 32" PANASONIC ผ่อนเดือนละ 1200 18เดือน ตอนนั้นเหตุผลที่บอกแม่ยังขำอยู่ทุกวันนี้ ไปถอยมา บอกแม่ว่า "จับสลากสอยดาวงานกาชาติได้มา" เหตุผลน่าเชื่อมากๆๆๆๆๆๆ วางแผนเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่บอกแม่ว่าจะไปเที่ยวงานกาชาด (ช่วงนั้นมีพอดี) แล้วก็แกล้งบอกว่าจับสลากได้มาจริงๆ (จริงๆแล้วมาจากท่าน Aeon ต่างหาก)

ต่อมาก็เริ่มซื้อชุด HomeTheater อยากได้มากตอนนั้น แล้วไปเจอที่ LOTUS ลดราคาตัวโชว์แบบบ้าคลั่ง 19990 ลดเหลือ 7000
ถึงกับแหวนกระเด็น 2 วงและเงินหมดแบงค์ (ครึ่งสลึง 2 วง)

ต่อมาก็ไปเอาเครื่องซักผ้ามาอีก แต่อันนี้เงินสดนะครับ 3900
โน็ตบุ้กมีเครื่องนึง บอกแม่แล้วก็ไม่ว่าอะไร ไปหักคอเจ้าของร้อนตังค์ ราคาตลาด 10000 นึงผมให้ 7000 (เพราะมีแค่นี้ จำนำก็ได้ไม่ถึง) มันก็ตกลง

ใช้เวลาประมาณ 2 ปีที่คบกันสร้างมา โดยไม่ได้ขอเงินแม่มาประมาณ 1 ปีขอแต่ค่าหอ และค่าเทอม กับค่าจิปาถะของมหาลัย

ทุกอย่างพ่อแม่รับรู้หมด ยกเว้นเรื่องเดียวคือ เป็นแฟนกัน
บอกด้วยว่าทำงานด้วยกันเงินเหลือแบ่งกัน - ชอปปิ้ง

-----------------------------------------------------------------------------------
ส่วนที่พ่อแม่ไม่รู้มี 2 เรื่อง
เรื่องแรกคือ การเริ่มเปิดร้านซ่อมคอมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ขึ้นราคาเป็น 200 บาท มีลูกค้าใช้บริการมากมาย แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเนื่องจาก ติดเรียนติดงาน ไม่มีคนเฝ้าร้าน เดือนนึงเหลือ 7 - 8 พัน ถ้าจ้างคนมานั่งเฝ้าก็ไม่ปลอดภัยอีก คอมแต่ละเครื่องที่ยกเข้ามาหายไปทีใช้หนี้หัวโต
สุดท้ายจึงเชื่อคำพ่อว่า "เอ็งจะเปิดร้านแน่ใจแล้วหรือว่าทำไหว เหนื่อยนะ"
สุดท้ายจึงปิดตัวลง ทำไปได้ 3 เดือน แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะเซ้งร้านขายให้คนอื่นในเน็ตไป

เซ้งไป 17000 ในนั้นมีค่าประกัน 3000 โต็ะ 1 ตู้โชว์ 1 ชั้นโชว์ 1 กับคอมเน่าๆไว้ออกใบเสร็จพร้อม LCD 18.5" รวมทรัพย์สินแล้วไม่ถึงหมื่น ได้กำไรอีกหน่อย
--------------------------
สิ่งสุดท้ายที่คิดว่าเกินฝันของเด็กมหาลัยจนๆที่จะมีได้ และเพิ่งผ่อนหมดงวดสุดท้ายเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองคือ รถเก๋ง ครับ

Mitsubishi Lancer โฉมกล่องไม้ขีด ราคา 33000
วางดาว์นคนรู้จักไป 10000 บาทโดยเอาโน็ตบุ้กที่ซื้อมาเครื่องละ 7000 ไปขาย 9900 บาท
่ผ่อนเดือนละ 4600 5 เดือนซึ่งถือว่าหนักมากสำหรับเด็กมหาลัย ประกอบกับเพิ่งเปิดร้านและมั่นใจว่าผ่อนไหวจึงเอารถออกมา

อ้วกแตกเลยครับเพิ่งรู้ว่ามีรถมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เสียไม่เว้นแต่ละวัน เนื่องจากสภาพตอนเอาออกมามันจอดยางแบนมา 5 เดือนแล้ว

แต่ก็สู้ครับ ซ่อมแหลก มีเงินลงรถหมด (ท้อมาก) แต่ในที่สุดมันก็กลับมาเป็นรถที่น่ารักเหมือนเดิม ไม่งอแง หลังโดนค่ายารวมๆแล้วประมาณ 15000 (ค่อยๆทำทีละจุดๆ และซ่อมเองบางส่วน)

หลังจากทำร้านได้ 3เดือนปิดกิจการลง และนำเงิน 17000 หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือประมาณ 12000 ก็เอามาเทรถจนหมด แล้วเหลือตังค์ไว้ซ่อมนิดหน่อย

สรุปว่าเหนื่อย 3 เดือนได้รถมาคันนึง สำหรับผมมันก็โอเคนะ


----------------------------------------------------------------------------------
สิ่งที่ทำหลายอย่างมันดูขัดแย้งกัน โกหกไม่ค่อยตรงกัน (ไม่ได้เป็นเด็กขี้โกหกแต่มันจำเป็น)

ทุกวันนี้ขับมาให้แม่ดูหลายรอบแล้วโดยอ้างว่า รถพ่อเพื่อน (แฟนต่างหาก)
แต่เมื่อก่อนบอกพ่อแม่ว่า บ้านเพื่อนลำบาก ขอมาอยู่ด้วย
แถมเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อแฟนทำงานหนัก ขี่มอไซด์เข้ากรุงทุกวัน อาทิตย์นึงใช้รถนับพันโล แถมบอกหมดเลยว่าเป็นรถบริษัทอีกต่างหาก
แต่โกหกว่า เอารถพ่อเพื่อนมาใช้ ^-^

บอกว่าเพื่อนเรียนคณะเดียวกัน ห้องเดียวกัน แต่ในตู้หนังสือมีแต่ ...
หนังสือของอีกคณะนึง

นิสัยผมชอบอยู่เงียบๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนมาเหยียบบ้าน
แต่ตอนนี้ พาแฟนเข้าบ้าน พามาค้างช่วงปีใหม่ พ่อแม่ก็ทำอาหารเลี้ยง คุยเล่นด้วย ขับรถมาส่งตลอด (ก็นั่งรถตู้ก็ 50 แล้วอ่ะ เอารถมาไปกลับค่าแก็ส 70 - 80 เอง)

ของในห้องตอนนี้ทุกอย่างรับรู้หมดแล้ว เรื่องที่ยังไม่เคยบอกก็มี 3 เรื่อง
คือ รถ แฟน แล้วก็เปิดร้าน (กะว่าจะให้ดูรูปทีหลัง)


คุณว่าแม่ผมรู้ไหมอ่าาาาา ????????????
เหลือเวลาอีก 3 เดือนจะต้องบอกทุกอย่างแล้วเหรอเนี่ย T-T

จากคุณ : viewwiwi
เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 54 11:36:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com