ความคิดเห็นที่ 1 กรุงเทพนี่เป้นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเอเชียนะครับ น่าจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ไม่เกิน 1 ใน 5 เรามีเสน่ห์ในแบบของเราครับ ต่างชาติมาเที่ยวเยอะเพราะบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ และเราก็อยู่ได้ด้วยรายได้หลักจากการท่องเที่ยวครับ ไม่ใช่ว่าจะไม่พัฒนา แต่อะไรที่เราไม่เหมือนใคร ก็ให้อนุรักษ์ไว้เถอะครับ ควรจะบอกให้ปรับปรุงเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการเดินทางมากกว่า จากคุณ : Jeremizz เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:29:46

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่า กทม. มีจุดขายมากกว่าเมืองที่ว่ามานะครับ และเท่าที่จำได้ กทม.ติดอันดับสูงมากๆครับ 1 ใน 5 หรือ 1 ใน 10 ของเอเชีย ขนาดมีช่วงวิกฤติหลายๆอย่างเข้ามา กระแสยังแรงกว่าเมืองเหล่านั้นครับ คิดดูนะครับ -บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ -พัฒน์พงค์ & ข้าวสาร -ฯลฯ จากคุณ : keab (keab_h) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:33:58

ความคิดเห็นที่ 3 ที่เรามองว่ากรุงเทพไม่สวย เพราะเราเห็นกรุงเทพอยู่ทุกวัน เราเคยชินกับมัน แต่เมืองอื่น ที่เรามองว่าสวยเพราะเราไม่ได้เห็นมันบ่อยๆ พอได้เห็นก็เลยมองว่าสวย  และอีกอย่าง เวลาเราไปเที่ยวที่ไหน เราก็จะเลือกไปดูแต่ที่ๆสวยๆ เช่นเดียวกัน ที่ฝรั่งโหวตให้กรุงเทพเป็นเมืองสวยงามอันดับต้นๆ ของโลก เพราะเขาไม่ได้เห็นกรุงเทพทุกวัน   เวลาเขามาเที่ยวเขาก็เลือกไปแต่ที่สวยๆ   เอาแค่วัดพระแก้ว วัดโพธิ์  ล่องน้ำเจ้าพระยา แค่นี้ฝรั่งก็ตะลึงในความงามแล้ว จากคุณ : ผีหัวดำ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:37:08

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่ครับอย่างไร กทม. ก็ยังเป็นเมืองน่าเที่ยวครับแต่ส่วนที่เป็นขยะที่อยู่ใต้พรมนำมาทำความสะอาดบ้างก็ดีเหมือนกันครับ จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:42:24 A:59.189.245.178 X:218.186.10.226 TicketID:282558

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเห้นด้วยเป็นอย่างยิ่ง จัด ปรับปรุงให้สวยงาม ไม่ใช่มายืนตั้งเตาผัด  ทอดกันข้างถนน รอบๆบริเวณก็เต็มไปด้วยเศษสิ่งสกปรกโสโครก ไม่เคยอุดหนุนเลย  แม้หิวก็ตาม . จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:45:00

ความคิดเห็นที่ 6 จริงเหรอครับ จขกท เคยไปเมืิองหลวงประเทศอะไรมาบ้างละครับ ถึงบอกว่า กทม. เราสู้เมืองเอกเอเชียอื่นๆ ไม่ได้ สว่นตัวผม กทม. กินขาดนะครับ เรื่องแหล่งท่องเที่ยว ช๊อบปิ้ง อาหารการกิน และที่สำคัญ เมืองที่ จขกท ยกตัวอย่าง ทั้งเมืองมีแต่บุหรี่ เยอะมากๆ พี่ไทยสู้ไม่ได้ อย่างกับอยู่ในผับตลอดมีแต่กลิ่นบุหรี่ ส่วนที่ด้วยกว่า คือ อากาศร้อน เดินถนนไม่ได้ เมืองไทยสกปรกกว่าเมืองที่ จขกท ยกตัวอย่างจริง แต่อย่างอื่นผมว่า กทม. กินขาด ครับ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 11:48:02

ความคิดเห็นที่ 7 ...ผมว่า สวย นะครับ เพียงแต่คุณไม่ออกไปหามันซะมากกกว่า รูปนี้ ผมถ่ายมาล่าสุด ครับ ถนนราชดำเนิน จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 (oillyy27) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:03:21

ความคิดเห็นที่ 8 ...อีกรูป จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 (oillyy27) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:08:00

ความคิดเห็นที่ 9 ...อีกรูปครับ จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 (oillyy27) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:08:43

ความคิดเห็นที่ 10 เพราะคุณไปอยู่เมืองนอกไม่นานพอครับ ถ้าอยู่นานแล้วก็จะรู้ว่า ไอ้ที่มันสวยๆน่ะ เปลือกทั้งนั้นแหละ ปล. ข้างบนครับ ถ่ายแบบนั้นต้องใช้ขาตั้งใช่ไหมครับ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:35:28

ความคิดเห็นที่ 11 ถ่ายเองป่ะครับ รูปสวยดีนะครับ เก่งดีชอบ จากคุณ : Badromance เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:37:10

ความคิดเห็นที่ 12 ก็คุณเอาแต่เพ่งมองแต่จุดเสีย จุดที่ไม่สวยนี่คะ แล้วจะเห็นความสวยงามได้ยังไงกัน... แต่ละที่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองค่ะ จากคุณ : คืนทะเลหนาวและดาวพันดวง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 12:47:38

ความคิดเห็นที่ 13 เดินจากสยามพารากอนไปเซ็นทรัลเวิร์ลสวนทางกับดาราสองคน เจอผู้หญิงอุ้มลูกอ่อนตัวแดงๆ นั่งขอทาน 7 คน กทม นี่เป็นเมืองที่ fantastic แต่ไม่ beautiful สิงคโปร์ beautiful แต่ไม่ fantastic เซี่ยงไฮ้  น่าสนใจ และมีอะไรให้สนใจ โซล  จืดสนิท ไม่มีอะไร แต่อยากให้ กทม ไม่มีอะไรแบบนั้นบ้าง จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:09:11

ความคิดเห็นที่ 14 สวยงามด้านไหนครับ ถ้าด้านวัฒนธรรมเนี่ยผมว่า อันดับ 1 ของโลกเลยนะ ชื่อเสียงด้านเมืองที่น่าท่องเที่ยว ก็อยู่แนวหน้าของโลก อาหารการกินดูจะอุดมสมบูรณ์และหลากหลายมาก ถ้าจะให้มันสะอาดเกลี้ยงเกลาดูเป็นระเบียบจ๋า นั่นมันก็ คงจะเป็นการยาก และดูไร้เสน่ห์ เกินไปนะครับ ค่อยๆ ปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีและจิตวิญญาณของมันไป เริ่มต้นที่นิสัยเราดีกว่า (ความเห็นส่วนตัวครับ) จากคุณ : สู้ๆ (Hallgood) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 13:36:15

ความคิดเห็นที่ 15 ทุกสิ่งทุกอย่างมีให้เลือกสรรค์ที่ มหานครแห่งนี้ครับ จากคุณ : ไข่หมูก (giantmodify) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 14:02:49

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าเรายังพอใจในส่วนที่ประเทศอื่นๆ พยามยามแก้ไขให้เป้นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เราก็ยังคงอยู่อย่างล้าหลัง จมปลักอยู่กับวัฒนธรรมที่สวยงามในอดีต ไม่พัฒนาตนเอง ให้ก้าวกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ขาดการแข่งขัน ขาดการปรับปรุง แล้วเราก็จะเป็นผู้ตาม   อย่าคาดหวังอะไรอีกต่อไป จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 14:57:07

ความคิดเห็นที่ 17 แหม ดิฉันอยู่เมืองซิดนี่ย์มานาน เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพ แม้ใจจะรักเมืองไทยมากกว่า แต่ก็ต้องยอมรับความจริงตามจขกทค่ะ ซิดนี่ย์นั้นสวยแม้รูปถ่ายแบบธรรมดา ในเวลากลางวัน ไม่ต้องแต่งภาพ เล่นสีเล่นแสง แต่กรุงเทพฯ ยิ่งครั้งหลังสุดที่กลับไป ดูเละเทะขาดความสวยงามมากจริงๆ ค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าที่ฝรั่งเค้าโหวตกัน เค้าเอาอะไรมาโหวตกัน และเป็นโหวตของที่ไหนก็ไม่ทราบได้ค่ะ(เพราะไม่ได้ติดตามค่ะ) จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:25:48 A:121.209.240.106 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 18 ความสวยงาม ต้องมองให้เป็นศิลปะ ความสะดวก เมืองไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก หายากครับเมืองหลวงที่มีสถานที่ท่องเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แบบว่า 24 ชั่วโมง เลยทีเดียว ไม่ต้องพกสำภาระให้ยุ่งยาก หิวก็มี 7eleven ของฝากกลับบ้านราคาถูก ของทำมือ ด้วย (ที่ฝรั่งคิดว่าแพงมาก) เรื่องน้ำเสียเขาก็ไม่ได้มาดมทั้งวันเหมือนคนไทยนี่ครับไม่เห็นต้อง สนใจเลย 555+... จากคุณ : แมงกระพรุนไฟ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 18:25:19

ความคิดเห็นที่ 19 กรุงเทพฯ มีเสน่ห์   ดึงดูดนักท่องเที่ยว  ก็ตรงที่ไม่เหมือนเมืองเอกประเทศอื่นๆ เค้านี่ล่ะค่ะ  พวกฝรั่งที่มาเห็นกรุงเทพฯ  ร้องว่าอเมซิ่ง แทบทั้งนั้น  ถ่ายรูปหมดแม้แต่หมาจรจัด สามีดิฉันไปเที่ยวมาแล้วเป็นสิบๆ ประเทศ  บอกว่า กรุงเทพฯ  น่าสนใจที่สุดยังอยากมาเที่ยวทุกปีเฉพาะในกรุงเทพฯ (โครงการมาเมืองไทยหน้านี้ โฟกัสแต่ในกรุงเทพฯ) 4 ปีแล้วยังไม่เบื่อเลย   แต่มาเที่ยวเท่านั้นนะ  ให้มาใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ไม่เอา ถ้าจะปรับปรุงให้สะอาด มีระบบระเบียบ  ก็น่าจะทำเพื่อคุณภาพชีวิตคนในกรุงเทพฯ เองนั่นแหละ  ไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยวอะไรหรอก จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:27:59

ความคิดเห็นที่ 20 ครอบครัวดิฉันอยู่ตปท. เวลามาเมืองไทยเราเลี่ยงกรุงเทพฯค่ะ คิดว่าที่มันไม่สะอาด ไม่มีระเบียบเพราะเรา(คนไทย) ขาดจิตสำนึกในสิ่งสาธารณะค่ะ กรูไม่ยอมเสียผลประโยชน์ กรูสะดวกแบบนี้ จากคุณ : แม่อ๊บ (obst) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:00:42

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าสวยนะครับ.... ผสมผสานทั้งคงวามสวยแบบคลาสสิค และความสวยงามในแบบของโลกาภิวัฒน์ คุณลองไปเดินเล่นที่สวนรถไฟซิ ผมว่าไม่ได้งามน้อยไปกว่าเซ็นทรัลปาร์คหรอก คุณลองไปเดินเล่นที่วัดพระแก้วซิ ผมว่ามีเสน่ห์ไม่ต่างไปจากวาติกันเลย คุณลองไปตะลุยเยาวราชดูซิ ผมว่าคลาสสิคไม่ต่างไปจากย่านจิมซาจุ่ย หรือ หวั่นใจ๋เลย คุณลองไปเดินแถวๆพาหุรัดซิ นี่มันก็ little india ในเมืองไทยชัดๆ คุณลองไปเดินที่ราชดำเนินซิ ผมว่าไม่ได้สวยน้อยไปกว่า ชอง อลิเซ่ เลย เมืองหลวงอื่นๆเขาก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาครับ กัวลาลัมเปอร์ก็มีเสน่ห์ในแบบที่เราอาจไม่รู้ก็ได้ อย่างน้อยเขาก็ผสมผสานระหว่างจีน กับ แขกได้กลมกลืนหรอกน่า เวียงจันทร์ก็ดูเป็นเมืองที่สงบและเวลาเดินช้าๆ ร่างกุ้งก็ดูเป็นเมืองที่ผู้คนมีศีลธรรม และเคร่งศาสนา กรุงพนมเปญก็ดูขลังในแง่ของความเก่าแก่ของตึกรามต่างๆที่ผ่านภาวะสงคราม สิงคโปร์ก็มีเสน่ห์ในแบบของเมืองศูนย์กล่างทางธุรกิจ กรุงโดฮาที่เคยมีแต่ทะเลทรายก็พลิกตัวเองสู่เสน่ห์แห่งทศวรรษที่ 20 ได้สำเร็จ กรุงตูนิสก็มีเสน่ห์ด้วยบ้านเรือนสไตล์ปูนขาวฟ้าแบบโมร็อคกัน ผสมกับเมืองโบราณคาเธจ ผมมั่นใจว่าเมืองหลวงทุกแห่งในโลกนี้ มีเสน่ห์ที่หากเราลองทำใจกว้างๆค้นหามัน...เราจะเจอเสน่ห์นั้นครับ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:27:57

ความคิดเห็นที่ 22 คห 21 เมืองหลวงของแต่ละประเทศ มีเสน่ห์เฉพาะตัวค่ะ กรุงเทพมีความสวยงามจากวัดวาอาคาม แต่ คุณ ไม่เห็นถนนหนทางหรอกหรือคะ  แม้กระทั่งบนสะพานทางเชื่อมระหว่าง สยามกับ มาบุณครอง ก็มีแผงลอยยึดพื้นที่ไปหมด แถว central world ก็ยึดทางเท้า ทำหาบเร่ ขยะเกลื่อนไปหมด ไม่เฉพาะหาบเร่ แต่ทำเป็นร้านอาหาร เทน้ำลง ท่อ ส่งกลิ่นเหม็น สิ่งเหล่านี้ ไม่รู้คุณเห็นหรือเปล่า ดิฉันว่า มันไม่ใช่แสดงถึง เสนห์หรอกค่ะ แต่มันแสดงถึงความไม่มีวินัย ไม่มีจิตสาธารณะ คิดจะทำปู้ยี่ปู้ยำกับประเทศอย่างไรก็ได้ ขอให้ฉันได้ในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจ สักนิด สิ่งเหล่านี้ความไร้วินัย ไม่ยึดกฎระเบียบเหล่านี้ กำลังกัดกร่อนประเทศให้ถอยหลัง ก้าวช้ากว่าประเทศอื่นๆ ใครๆ มาเห็น ก็ดูถูก ว่า นี่เหรอ กรุงเทพ เมืองท่องเที่ยว ที่เราพยายามให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ประเทศจีน ตอนเปิดประเทศใหม่ ๆ ก็มี แต่รัฐบาลกลางจัดระเบียบใหม่หมด ตอนนี้สวยงามเป็นที่ต้องการท่องเทียวมากๆ เพราะมันอลังการ และสะอาดสะอ้าน แสดงถึงความมีวินัยของคนในประเทศได้ดี จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:10:50

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ละที่ก็ดีกันคนละแบบค่ะ จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:13:49

ความคิดเห็นที่ 24 คห.ที่ 22 ที่คุณพูดมาทั้งหมด เมืองหลวงอื่นๆในย่านใกล้เคียงกันแถวนี้ก็มีเหมือนกันทั้งนั้นครับ แม้แต่ประเทศที่ว่ามีความศิวิไลซ์ มีกฏหมายแรงๆอย่างสิงคโปร์ก็เถอะ ก็ไม่ได้ว่าจะไม่มีอย่างที่คุณว่ามาเลย คุณมองเห็นความไร้ระเบียบของกรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอกครับ เพราะมุมมองมันของใครของมัน ส่วนผม...เลือกมองในมุมที่ดีๆของกรุงเทพฯครับ เพราะผมมีความสุขกับการได้มองแบบนั้น....... จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:23:39

ความคิดเห็นที่ 25 ขออนุญาตแปะภาพ 1 ในจำนวน นับสิบๆ ภาพที่เพื่อนฝรั่งของสามีถ่ายเอากลับไปโชว์ให้พรรคพวกดู   สภาพคลองในกรุงเทพฯ  สวยงามอย่างที่เห็น จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:40:37

ความคิดเห็นที่ 26 แถมอีกภาพ(ไม่เกี่ยวกะกรุงเทพฯ)  เพื่อนฝรั่งบอก อเมซิ่ง มากเลย จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:45:18

ความคิดเห็นที่ 27 วันเด็กปีนี้  เห็น ผู้ปกครองพาเด็กๆ ไปดูเครื่ีองบินรบ ส่วนดิฉันอยากให้รัฐบาลทำวิจัยทำอย่างไรให้เด็กไทยในอนาคตมีจิตสาธารณะ รักประเทศชาติ รักส่วนรวม ไม่เอาประโยชน์ส่วนรวมมาเป็นของตน ส่วนคนรุ่นนี้่ ปล่อยไปเถอะ คงแก้อะไรไม่ได้ ให้เด็กรุ่นใหม่มาพัฒนาประเทศให้ไป ข้างหน้า ดิฉันก็ได้แต่หวังค่ะ พอถึงเวลานั้น หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าสารพัดคงไม่ยึดพื้นที่ไปหมด แม้กระทั่งหน้าบ้านคุณหน้าบ้านดิฉันนะ จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:54:06

ความคิดเห็นที่ 28 จริงๆ แล้ว  ดิฉันก็อยากเป็น 1 เสียง ที่เรียกร้องให้มีการจัดระบบ ระเบียบ เพื่อความสะอาดเรียบร้อย  เพื่อกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยงาม(อย่างเดียว)  เหมือนกัน   แต่ก็เห็นๆ   ว่าหากมีคนออกมาพูดทีไร   ก็จะต้องมีคนแบบว่า  แหม... เกลียดจริงๆ พวกเห่อเมืองฝรั่ง  กลับมาเหยียดหยามบ้านเมืองตัวเอง  อะไรที่แย่ๆ เมืองฝรั่งมันก็มีเหมือนกันแหละ   ก็นะ  อะไรที่แย่ๆ มีเหมือนเขาได้  แต่อะไรที่ดีๆ ไม่คิดจะให้เกิดให้มีเหมือนเขามั่งหรือไงก็ไม่รู้ เราชอบอยู่กันแบบนี้ล่ะ จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:14:40

ความคิดเห็นที่ 29 มันแล้วแต่มุมมองคนนะ.. ผมชอบเมืองที่นิ่ง ๆ สงบ ๆ   เจอเมืองอย่างกรุงเทพเข้าไปก็รักไม่ลงครับ.. ไม่ได้ว่ากรุงเทพไม่ดีนะ..แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือเรื่องรถติดนี่แหละครับ..อยุ่แล้ว รมณ์เสียแทบทุกวัน เรียนจบนี่แทบจะอยู่ตจว.ตลอดครับ. จากคุณ : Level II เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:22:31

ความคิดเห็นที่ 30 คุณคห 28 พูดได้ตรงใจมากค่ะ ที่ฝรั่งชอบก็คงชอบเที่ยว ของราคาถูกไม่แพง  แต่ให้่อยู่ก็คงไม่ เพราะไร้ระเบียบ แต่ชอบคงชอบที่ตัวเองจะได้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่สามารถทำที่ประเทศตัวเองได้ แล้วเราจะไม่ทำอะไรให้มั้นดีขึ้นบ้างเลยเหรอ หรือไม่ใช่ธุระ จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:25:19

ความคิดเห็นที่ 31 พูดมากไม่ได้ค่ะ คุณ จขกท.  ดิฉันกลัวโดนข้อหาไม่รักชาติ โดนเสือกไสไล่ให้ไปอยู่ประเทศอื่น โดนสั่งห้ามไม่ให้กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิด  อะไรแบบนี้แหละ  รับไม่ได้ค่ะ  เพราะดิฉันก็ยังรัก ยังอยากลับมาเมืองไทยอยู่เสมอ  ถึงแม้จะไม่ต้องกลับก็ได้  แต่ก็เพราะลืมไม่ลงว่าเกิดเป็นคนไทยในผืนแผ่นดินไทยนี่แหละ ดีใจทุกครั้ง ที่เพื่อนๆ ฝรั่งสนใจอยากมาเที่ยวเมืองไทย  อยากให้พวกเขามาเจอแต่สิ่งดีๆ สวยๆ งามๆ   เขาจะได้อยากมาเที่ยวอีก  ไม่ใช่มาหนเดียวแล้วพอเลย  แต่พอได้ยินคนไทยพูดว่า  ไม่ง้อนักท่องเที่ยว ไม่คิดพัฒนาปรับปรุงอะไร  ฟังแล้วก็อึ้งจริงๆ ค่ะ จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:41:52

ความคิดเห็นที่ 32 กรุงเทพ หาบเร่แผงลอยเยอะเิกินไป  ทำให้มีขยะเยอะตามมาด้วย  ตั้งขายกันแบบไม่มีระเบียบ จุดผ่อผันหรือไม่  พวกขายของแผงลอยไม่สนใจจะตั้งขายพอเทศกิจมากก็ยัดเงินหรือเสียค่าปรับแบบเสียและขายต่อได้  ไม่ต้องไปไกลเอาแค่รอบๆวัดพระแก้ว ตามลานคนเมืองท่าพระจันทร์หน้าประตูธรรมศาสตร์(เขตพระนคร) ช่วงบ่ายๆถึง2ถึง3ทุ่ม เอาเสื้อผ้ามาขายเต็มไปหมดทั้งที่ไม่ใช่จุดผ่อนผัน ยิ่งเสาร์และอาทิตย์ตั้งขายกันตั้งแต่ยังไม่เที่ยง  แต่ละแผงตั้งกันอย่างกับเป็นเจ้าของพื้นที่เยอะมากกกกก แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 00:01:18 จากคุณ : left 4 dead เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 00:00:41

ความคิดเห็นที่ 33 มีเพื่อนฝรั่งคนนึงชอบเที่ยวเมืองไทย แต่เกลียดกรุงเทพฯ มากเลย รักต่างจังหวัดมากกว่า แกยังบอกเลยว่า เมืองไทยที่เที่ยวสวยๆ เยอะ อาหารการกินอร่อยและถูก สำหรับแก ทุกอย่างดีไปหมด ยกเว้นกรุงเทพฯ จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 06:35:35 A:110.32.86.117 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ อย่างนี้ เขาต้องเป็นพวกมาบ่อย หรืออยู่มานานครับ รู้จริง จากคุณ : chanin007 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 09:53:34

ความคิดเห็นที่ 35 ตายแล้ว  สงสัยจะมีอิฉันคนเดียว ที่คิดว่า แผงลอยตามฟุตบาท เป็นเสน่ห์ของกรุงเทพ ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ในโลกนี้ เพื่อนฝรั่งมาบ้าน เห็น wall sticker ในห้องหลานสาว นางบอกนางก็มี ซื้อจาก IKEA แผ่นละ 40 euro อิฉันบอก เมืองไทย ยี่สิบบาท ขาดตัว ซื้อได้ตามฟุตบาททั่วไป (พร้อมทำหน้าเยาะเย้ยเล็กน้อยพองาม) คุณภาพเดียวกันด้วยนะคะ ขอบอก อีกอย่างที่ ชอบมากกกกกก  ปลื้มมากกกกกก คือแผงลอยขายอาหาร อิฉันขอประกาศว่า ไม่มีที่ไหนดีเท่าเมืองไทย ที่หาของกิน ได้ทุกมุมถนน และตลอด 24 ชั่วโมง (และอร่อยด้วย) เคยเดินกับเพื่อนคนไทย ที่เคยเรียนด้วยกันที่เมืองนอก เธอบ่นเรื่องความไม่ศิวิไลซ์ ของแผงลอย อิฉันเลยชวนว่า งั้นอย่าสนับสนุนแผงลอยเลยนะ เข้าไปซื้อในห้างดีกว่า เธอหันมาทำตาโต  ว่าซื้อในห้างทำไมให้โง่ ของข้างนอกถูกกว่าตั้งหลายเท่า เป็นงั้นไป..... จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 13:11:09

ความคิดเห็นที่ 36 ความเละของที่สาธารณะหลายๆจุดของกรุงเทพนี่แหละครับที่ทำให้ฝรั่งทึ่ง เพราะบ้านเขาไม่มีอะไรที่เละแบบนี้ ตรงนี้เป็นเสน่ห์ของกรุงเทพ อย่างปากคลองตลาด ทางเท้าโดนแผงลอยตั้งแน่นไปหมด หาบเร่ลงมาบนถนนรถวิ่ง แถวอุนสาวรีย์ชัย อัดแน่นไปด้วยแผงลอย เป็นภาพที่คนที่มาเมืองที่เรียบร้อยไม่เห็นในบ้านเมืองเขาครับ อย่างไปเที่ยวอินเดีย เขาพาทัวร์สลัม เราก้อตื่นเต้น พาไปดูแม่น้ำคงคา คนลงไปแหวกว่ายอาบดื่ม เหนือน้ำไปหน่อย เผาศพริมน้ำ คนนั่งถ่ายของหนัก ศพลอยอืด เราก้อทึ่งอึ้งเพราะเราไม่เคยเห็นครับ จากคุณ : kinglear เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 13:17:59

ความคิดเห็นที่ 37 ชาวต่างประเทศไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับความเละเทะ เพราะถ้าคนจะด่าความไร้ระเบียบ ก็คงด่าคนไทย ชาวต่างประเทศก็ได้แต่กอบโกยผลประโยชน์ที่ว่า แล้วไปบอก เล่าความไม่ได้เรื่องเหล่านั้น ว่าจะเอาของถูกมากๆ  ละเมิดลิกสิทธิ์ ก็ต้องกรุงเทพหรือ เมืองไทย จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 15:21:35

ความคิดเห็นที่ 38 กรุงเทพ สวยในบางโซนครับ บางโซน ก็สกปรก ไม่ไหวจริงๆ เบื่อพวกขายของตามทางเท้าเหมือนกัน ขายน่ะดี เป็นเสน่ห์ของกรุงเทพ แต่ขายแล้วช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดด้วย นี่คือสิ่งสำคัญ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 16:06:05

ความคิดเห็นที่ 39 เพราะ กรุงเทพ ไม่มีผังเมืองที่ดีพอ จากคุณ : hirohiko เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 17:28:35

ความคิดเห็นที่ 40 หลายคนบอกว่ากรุงเทพฯ เป็นอย่างนี้ดีแล้ว เมืองอื่นๆ ก็เป็น ก็ถูกครับ แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเมืองมันจะดีกว่านี้ สะอาดมากกว่านี้ เป็นระเบียบมากกว่านี้ น้ำในแม่น้ำสะอาดมากกว่านี้ คมนาคมสะดวกสบายมากกว่านี้ ถ้าคิดว่ามันไม่ดี สำหรับผม ผมอยากให้ กรุงเทพฯ คมนาคมสะดวกกว่านี้ รถไฟใต้ดินควรมีจำนวนเส้นทางมากกว่านี้ เอาให้รอบเมือง รถเมล์ผมอยากให้ไปดูระบบที่เมืองจีนจริงๆ ของเค้าทำได้ดีมาก เอาแค่ว่าคุณรู้ชื่อป้ายที่จะลง คุณก็เดินทางเองได้แล้ว ของประเทศเราถ้าพูดภาษาไทยไม่ได้จบเกมเลยครับ กรุงเทพฯ ควรจะดีกว่าที่เป็นอยู่ครับ จากคุณ : toor36 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 17:55:10

ความคิดเห็นที่ 41 กรุงเทพในความคิดเรา ก็เมืองขยะ เมืองสกปรก ผู้คนขาดระเยียบวินัย ไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ถ้าจะมองให้สวยก็ต้องพวกวัด พวกวัง อันนี้เราก็ชอบ แต่ตามถนนธรรมดา เน่ามาก เราไม่คิดจะมาชาตินิยมอะไร เหมือนหลายๆคน เพราะ ที่ชาติมันล้าหลัง มันไม่ก้าวไม่พัฒนาขึ้น ก็เพราะ พวกคนที่เห็นว่า ที่เป็นอยู่นี่มันก็ดีอยู่ดี บางคนก็ควรออกนอกกะลาบ้าง จะได้รู้ว่าบ้านเมืองเราควรปรับปรุงด้านไหน แต่ความสะอาดนี่ เป็นเรื่องหลักๆเลยหล่ะ จากคุณ : nong_ao เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:32:53

ความคิดเห็นที่ 42 ที่บ้านเมืองเราไม่ไปไหน ก็เพราะพวกที่มองเห็นความสกปรกเลอะเทอะไร้วินัย เป็นเสน่ห์ไปได้  ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:57:09

ความคิดเห็นที่ 43 อ้าววว... เขาก็มีสิทธิ์มองเห็นด้านที่ดีๆ พอๆกับที่คุณมีสิทธิ์มองเห็นด้านที่ไม่ดีเช่นกัน ต่างคนต่างก็มีสิทธิ์ที่จะมอง แต่นี่เล่นมา "ตำหนิ" คนที่คิดต่างว่า "ที่บ้านเมืองเราไม่ไปไหน ก็เพราะพวกที่มองเห็นความสกปรกเลอะเทอะไร้วินัย เป็นเสน่ห์ไปได้  ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ" คนที่เขา "เห็นต่าง" เขาก็แสดง คห.ไปตามมุมมองที่เห็นต่าง และก็ไม่ได้ไปตำหนิอะไรกับคนที่ "เห็นด้วย" กับประเด็นของกระทู้เลย คุณอยากจะเห็นแบบไหนก็เห็นไปเลย แต่จะมาตำหนิคนที่เขาเห็นต่างเขาทำไมล่ะ เพราะคน "เห็นต่าง" เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรคนที่ "เห็นด้วย" เลย มาตั้งกระทู้ในบอร์ดสาธารณะ มันก็ต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่พอเจอคนเห็นต่าง..ก็กลับทนไม่ได้ จนต้องออกมาโยนว่าที่บ้านเมืองไม่ไปหนก็เพราะคนพวกนี้ ถ้าแบบนั้นผมก็มองได้เหมือนกันว่า "ที่บ้านเมืองเราไม่ไปไหน ก็เพราะพวกที่มองเห็นแต่ในด้านร้ายๆ....และก็เอาแต่พูด โดยไม่ได้ช่วยคิดเสนอทางแก้ไขอะไรเลย.....ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ " จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 09:28:14

ความคิดเห็นที่ 44 ความเห็นที่ว่า ใครเห็นความเละเทะเป็นเรื่องดี อันนี้ไม่ว่ากัน ตราบใดที่ยังไม่ใช้วาจาไปเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น เรื่องเละเทะกับความเป็นระเบียบ อยู่ที่คนมีอำนาจหน้าที่ กล้าจะลงมือไหม พร้อมจะทำไหม เมืองไทยเรามีปัจจัยพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้มีระเบียบแบบเมืองฝรั่งเขา ง่ายๆครับ แค่จัดระเบียบแผงลอยหน้าโรงหนังสยาม โรงหนังลิโด้ เจ้าหน้าที่คุมได้พักเดียว เรามีฟุตบาทกว้างๆ ไร้แผงลอยไว้เดินได้แป๊บเดียว ตอนนี้ร้านพวกนี้กลับมาขายแน่นฟุตบาทเหมือนเดิม ขนาด ม.จุฬาเป็นเจ้าของที่นะครับ ยังทำอะไรไม่ได้ นักวิชาการของทางมหาลัยก้อไม่ได้มีข้อเสนออะไร คงคิดว่าเรื่องเล็กเกินไปไม่ใช่ปัญหาระดับชาติ เจ้าหน้าที่เทศกิจ นั่งจับกลุมเม้าท์พุงโลไม่มีอะไรทำอยู่ข้างๆตึก เพราะโดนเจ้าของแผงแฉ ออกสื่อว่า จ่ายค่าที่ให้เทศกิจไปล่วงหน้า จะมาไล่ได้ไง ผู้ว่า กทม. ก้อไม่แตะ  ทางส่วนกลางก้อไม่แตะ เพราะอำนาจโอนไปที่ส่วน กทม.แล้ว มันวนๆเหมือนงูกินหางครับ หรืออีกตัวอย่างง่ายๆ บันไดเลื่อน บันไดขึ้นลงชานชลา สถานีรถไฟฟ้า ประเทศอื่นๆ คนจะยืนบนบันไดเลือนไม่เดินจะชิดขวา   ส่วนซีกซ้ายต้องเดินๆๆๆอย่าหยุด ที่เมืองเรา แต่ละคนยืนเปะปะ ไร้ระเบียบ คนจะรีบเดินแซงไม่ได้ เพราะโดนขวาง หลายคนไม่ทราบ อันนี้ว่าไม่ได้จริงๆ ทางองค์กรรถไฟฟ้าเองก้อไม่ให้ความรู้ ไม่รณรงค์ให้คนได้รู้จริงๆจังๆ เปิดมาเป็นสิบปีก้อไม่ใส่ใจ กลายเป็นรถไฟฟ้าทันสมัย แต่ทางขึ้นลงบันไดเลื่อนไม่มีระเบียบไปฉิบ คุณไปประเทศอื่น ยืนขวางทางในเลนที่ต้องเดินนี่ บางเมืองโดนด่า โดนชนเอานะครับ เรามีพร้อมที่จะทำให้มีระเบียบ แต่เราไม่ทำกันครับ จากคุณ : kinglear เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 11:14:15

ความคิดเห็นที่ 45 คห 43 ที่ดิฉันตั้งกระทู้เพื่อต้องการให้เห็นที่ความไม่เอาไหนในการบริหารกรุงเทพ  ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ดิฉันคิดและทำได้ อย่างงี้เรียกว่าเอาแต่พูดตามความคิดของคุณ อย่างงั้นเหรอคะ   ในเมื่อผู้บริหารกรุงเทพในยุคนี้  ปล่อยให้ กทม สกปรก มาก  โดยไม่เหลียวแล ดิฉันก็เข้ามาแสดงความเห็น อยากให้คนกรุงเทพลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ทางเดินเท้าคืน ดิฉันไม่ไม่สิทธิ์พูดเหรอคะ แล้วคนที่มีหน้าที่ในการแก้ปัญหา ตกลงเราเลือกหรือจ้างเค๊าเข้ามาทำอะไรคะ คอยหาเสี่ยง ประคับประคองคะแนนเสียงของตนเองเท่านี้นหรือ จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 12:10:23

ความคิดเห็นที่ 46 รัฐบาลปล่อยให้มีจุดผ่อนผัน การขายของริมทางเท้าเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการเพิ่มคะแนนเสียง โดยไม่คำนึงถึงความเป็นระเบียบของบ้านเมือง อย่างคุณ คห 44 ดิฉันก็มองเห็นเหมือนที่คุณเห็น  สมัย ผู้ว่าคนก่อนๆ จะไม่ยอมให้ ผู้ค้าแผงลอย ขึ้นบริเวณรถไฟฟ้าโดยเด็นขาด แม้กระทั่งสยาม ลิโด้ ก็ไม่เคยมี แต่มาสมัยนี้ ปล่อย ขาย จนเดินแทบไม่ได้ ต้องไปเดินบนถนน   จากที่สมัยก่อนต้องการให้ย่านนี้เป็นแหล่ง shopping แห่งเอเซีย เพื่อเอาชนะฮ่องกง สิงคโปร์ แต่ตอนนี้เท่าที่เห็น จะเหมือนประตูน้ำเข้าทุกที  ก็มีแต่นักท่องเทียวแบบ สะพายเป้ ทีชอบของราคาถูกเท่านั้น จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 12:27:22

ความคิดเห็นที่ 47 อยากจะบอกว่า เมืองหลวงแต่ละประเทศ ก็มีดีมีไม่ดีครับ สิงคโปร์ สะอาด เฉพาะ ที่นักท่องเที่ยวเดินครับ หรือที่ใหม่ๆ ลองขึ้นรถไฟใต้ดิน ไปลงที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสิครับ เดินไปทางลิตเติลอินเดีย เก่าๆ สกปรก โซล์ ผมว่าไม่ค่อยสะอาดนะ โดยเฉพาะ แถวๆ ทงแดมุน แถวที่ชอปปิ้งมีสนามกีฬา ตรงกันข้าม ที่เค้าเรียกว่า มาบุญครอง สกปรก เซียงไฮ้ ลองไปนอกๆเมืองดิ จะรู้ แต่ทำไมเค้าถึงดูดีกว่าเรา เพราะ เวลาเค้าพัฒนาเมือง เค้าไม่ไปติดที่ดิน เจ้านาย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้ดีเก่า เพราะ เค้าสามารถเวณคืนที่ดินโดยไม่ทะเลาะกันในสภา เพราะ เค้าไม่ได้ไปดูงานเมืองนอก แล้วกลับมาได้แต่น้ำหอม กับกระเป๋าแบรนแนม หลายเมือง เช่น มาเก๊า ไม่ต้องติด แผ่นจราจรอัฉริยะ ไฟแดง ไม่ต้องนับเลขถอยหลัง แต่เพียงแค่ใช้ ไฟจราจรที่มีอยู่อย่างฉลาด เช่น เวลาจะเปลี่ยนจากไฟแดงเป็นไฟเขียว เค้าก็ให้สัญญาณโดยการ กระพิบที่ไฟแดง หลายๆครั้งก่อน และจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง เค้าก็กระพิบไฟเขียวหลายๆครั้งก่อน ของบางที ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ จัดการอย่างชาญฉลาดไม่ต้องเปลืองเงินภาษี แต่ของรัฐไทย มีแต่ ทุกปีต้องผลาญงบประมาณ ไม่งั้นปีหน้าไม่ให้ โถ่ ขรก.ไทย ก็ฉลาด คิดโครงการอะไรไม่ได้ ก็ ทำแผ่นพับแจก ทำสมุดแจก ทำปากกาแจก ทำของชำรวยแจก แล้วคุณจะให้กทม. สวยแบบไหนดีละ จากคุณ : มารฟ้า เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 13:09:57 A:58.9.245.11 X: TicketID:288407

ความคิดเห็นที่ 48 คห.45 แล้วมีตรงไหนหรือ ที่ผมบอกว่าคุณไม่มีสิทธิ์พูด หรือแสดง คห. หรือตั้งกระทู้ล่ะ ??? ยกมาให้ดูหน่อยซิ ว่าผมเขียนไว้ตรงไหน ??? มีใครห้ามคุณไม่ให้พูดล่ะ... แต่ที่ผมโต้แย้งที่บอกว่าคุณ "เอาแต่พูด" ก็มาจากสาเหตุที่คุณตำหนิคนอื่นๆที่เขา "เห็นต่าง"  ใน rep 42 ของคุณ เพราะในการแสดง คห.ของคนที่เห็นต่าง เขาก็แสดง คห.ไปว่ากรุงเทพสวยแบบไหนในสายตาของเขา โดยที่ไม่ได้ไปตำหนิอะไรกับคนที่ "เห็นด้วย" กับประเด็นของกระทู้เลย ต่างคนก็ค่างแสดง คห.ไปตามมุมมองของตนเท่านั้น ในขณะที่คุณเองกลับมาแสดง คห.ใน rep 42 ออกมาในเชิงตำหนิคนที่เห็นต่างไปจากคุณว่า "ที่บ้านเมืองเราไม่ไปไหน ก็เพราะพวกที่มองเห็นความสกปรกเลอะเทอะไร้วินัย เป็นเสน่ห์ไปได้  ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ" จู่ๆคุณก็โทษคนที่เห็นต่าง ว่าทำให้ "บ้านเมืองของเราไม่ไปไหน" เพียงเพราะพวกเขามองเห็นเสน่ห์ของ กทม.ในมุมที่ต่างจากคุณ ผมจึงมาตอบโต้คุณใน rep 43 เพราะผมก็คือหนึ่งใน คห.ที่เหนต่าง และผมก็ไม่ได้บอกเลยว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด เหมือนที่คุณมาโพสท์ไว้ใน คห.45 ของคุณ "ดิฉันก็เข้ามาแสดงความเห็น อยากให้คนกรุงเทพลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ทางเดินเท้าคืน ดิฉันไม่ไม่สิทธิ์พูดเหรอคะ" มีตรงไหนเหรอ ที่ผมบอกว่าคุณไม่มีสิทธิ์พูด คุณอยากพูดอะไรก็ตามสบายเลย..สิทธิ์ของคุณ และก็เช่นกัน...คนอื่นเขาอยากจะเห็นว่า กทม.สวย เขาก็สามารถที่จะแสดง คห.ได้...เพราะมันสิทธิ์ของเขา คุณนั่นแหละมีสิทธิ์อะไรที่จู่ๆก็ไปหาว่า "บ้านเมืองของเราไม่ไปไหน" เพราะมีคนเห็นต่างจากคุณ ???? ส่วนที่ว่าคุณจะตั้งกระทู้นี้ -เพื่อให้เห็นที่ความไม่เอาไหนในการบริหารกรุงเทพ   -หรือเพื่ออยากให้คนกรุงเทพลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ทางเดินเท้าคืน -หรือเพื่อตำหนิคนที่คุณเลือกเขามาทำหน้าที่ในการบริหาร นั่นก็สิทธิ์ของคุณครับ...ไม่ได้มีใครห้ามเช่นกัน เพราะผมตอบโต้คุณแค่ประเด็นเรื่อง "การตำหนิคนที่เห็นต่าง" ของคุณ อย่าหลงประเด็นครับ... ผมเถียงกับคุณแค่ "การตำหนิคนที่เห็นต่าง ส่วนเรื่องคุณอยากจะตั้งกระทู้เพื่ออะไรก็ตามสบายเลย...เพราะมันเรื่องของคุณ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 14:06:47

ความคิดเห็นที่ 49 อ้าว  คห 45 คุณตำหนิดิฉันว่า  ดิฉันตำหนิคนที่เห็นต่างกับคุณ แล้วคำที่คุณว่า เอาแต่พูด ไม่ช่วยแก้ปัญหาใครพูดคะ ออกแนวไม่ตำหนิคนอื่นเลยนะ คุณบอกว่าดิฉันเอาแตพูด ไม่ช่วยแก้ปัญหา ดิฉันก็เลยบอกว่าการตั้งประเด็นเรื่องความไม่เป็นระเบียบและความเละเทะของ กทม เป็นการแสดงความเห็นเรืองดังกล่าวให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องให้มาแก้ปัญหา ตรงนี้ ที่ดิฉันคิดว่าแผงลอยมันเป็นการละเมิดสิทธิ์และทำผิดกฏหมาย ซึ่งรัฐพยามทำให้ถูกกฎหมายอยู๋  ส่วนความคิดเห็นต่าง ก็แล้ิวแต่มุมมองของคุณคุณ ดิฉันไม่สนใจหรอก เพราะดิฉันถื่อว่า การทำเรื่องผิดกฎหมายให้ถูก โดยไม่จริงใจ เป็นการทำลายเสน่ห์กทม เป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : ผ้าขาวบาง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 15:10:33

ความคิดเห็นที่ 50 คห.49 "คุณตำหนิดิฉันว่า ดิฉันตำหนิคนที่เห็นต่างกับคุณ แล้วคำที่คุณว่า เอาแต่พูด ไม่ช่วยแก้ปัญหาใครพูดคะ ออกแนวไม่ตำหนิคนอื่นเลยนะ" ผมก็บอกชัดเจนแล้ว ว่าผมตำหนิคุณว่า "เอาแต่พูด" ก็เพราะคุณเที่ยวไปตำหนิคนที่เห็นต่างจากคุณ ในมุททองของความสวยหรือไม่สวยของกรุงเทพฯ ผมถึงได้ตำหนิคุณ "คืน" ไงล่ะครับ... เพราะจู่ๆคุณมาตำหนิผมก่อนว่า คนที่มีมุมมองแบบผมทำให้ "บ้านเมืองของเราไม่ไปไหน" ไม่ใช่ว่าอยู่ดีผมไป "เริ่ม" ในการตำหนิคุณ ข้อความก่อนหน้านี้ผมมีตำหนิอะไรคุณหรือ ??? จวบจนคุณมาโพสท์ใน คห.ที่ 42 ของคุณนั่นแหละ ที่คุณมาเที่ยวตำหนิคนอื่นเขา ที่เขาเห็นต่างไปจากคุณ คุณ "เริ่ม" ขึ้นมาเอง และส่วนผม...ผมก็มา "เอาคืน" จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 15:39:02