ความคิดเห็นที่ 1 ก็คงขึ้นกับครอบครัว ถ้าเกิดแต่งงานแล้วต้องลาออกจากที่ทำงานมาอยู่บ้าน เพื่อคอยปรนนิบัติดูแล หรือ ช่วยทางบ้านฝ่ายชาย เขาก็ควรให้เงินเราตอบแทนบ้างนะ นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในครอบครัว ไม่งั้นเวลาอยากได้ของจิปาถะ เสื้อผ้า ของตกแต่ง จะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะ ในเมื่อฝ่ายหญิงไม่ได้ทำงานน่ะ แต่ถ้าทำงานทั้งสองฝ่าย จะให้เป็นสินน้ำใจก็ดี แต่ที่แน่ๆควรมีกองกลางเอาไว้ด้วยน่ะ บางครอบครัวฝ่ายชายอาจจะมอบเงินทั้งหมดให้กับฝ่ายหญิง โดยถือว่าเป็นหน้าที่ในการจัดสรรแล้วก็ดูแลก็ได้ แต่ถ้าจะให้คิดขนาด นอนด้วยกันกี่ครั้งแล้วจ่ายตามนั้น ทางฝ่ายชายเองเขาก็คงเลือกไปลงอ่างดีกว่ามั้ง ไม่ต้องเป็นภาระผูกพันแถมหาได้สวยตามต้องการอีกด้วย ไม่ก็ประเภทเมียน้อย เมียเช่าดีๆเนี่ยล่ะ คงไม่ได้เป็นเมียตบเมียแต่งที่ออกหน้าออกตาได้มั้ง แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 19:01:23 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 18:58:43

ความคิดเห็นที่ 2 ก็ไม่ต้องเล่าอะไรให้ที่บ้านฟัง ส่วนตัวเรา ก็ต้องทำงานด้วย ถ้าไม่ทำ ไม่ช่วยตัวเอง สามีก็จะกดขี่เรา ถือ ว่าเค้าเลี้ยงเรา เหมือนสมัยก่อน ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เอะอะก็ตบตี  ทำอะไรก็ไม่เคยผิด ความคิดของแม่ จขกท ก็ไม่ผิด แล้วแต่มุมมอง เครียดไปก็เท่านั้น หรือ จขกท ไปเลี้ยงดู ว่าที่สามี เค้าไม่เลี้ยงเราก็ไม่ว่า แต่อย่าไปเลี้ยงเค้าเด็ดขาด มันจะเคยตัว ต่อไปไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย เราทำงานเก็บส่วนของเรา   เช่น ได้ 100 บาท ก็บอกได้ 70-80 ที่เหลือเก็บ แล้วก็ไม่ต้องไปบอกเค้าหมดหรอกนะคะ ว่ามีเงินมีทองเท่าไหร่ รหัสธนาคาร ไม่ต้องบอก  รักน่ะ รักอยู่ แต่ต้องรักตัวเองมากกว่า นอกจากว่า ว่าที่สามี ทำพฤติกรรมให้พ่อแม่จขกทดูไม่ดี คือ ประมาณขี้เกียจ ไม่หยิบ ไม่จับ ขี้เหนียวเกินไป ก็แล้วแต่มุมมอง ของแต่ละคน ไม่เห็นต้องร้องไห้ ผู้ใหญ่บางทีก็คิดอะไรแบบสมัยก่อนเก่ามากเกินไป แต่ก็ไม่ควรมองข้าม ผู้ใหญ่ผ่านอะไรมามากกว่า อาจจะมองอะไรได้เด็ดขาดกว่า ก็อย่าตึงเกินไป  อย่าหย่อนเกินไป  อย่าหูเบาเกินไป หึงหวงได้ แต่พองาม มากไป ผู้ชายเค้าเบื่อ ยิ่งสมัยนี้  รักกัน เลิกกัน เร็วมาก แกะซองเงินช่วยยังไม่หมดเลิกกันก็ถมเถ พ่อแม่เค้ามองอะไรก็เชื่อเค้าบ้าง แต่ไม่ต้องทั้งหมด คิดเอง ตัดสินใจเอง ทำดี อะไรก็ดีนะ ไม่ต้องร้องไห้ จากคุณ : รวมการเฉพาะกิจ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:01:46

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นแก่ตัวชะมัด ขอโทษที่ผมพูดแรงๆ นะครับ แบบนี้เท่ากับว่าไม่ได้ต่างอะไรกับการ " ขายลูกกิน " เลยด้วยซ้ำไป ครอบครัวที่มีคุณภาพ คือครอบครัวที่ค่อยๆ ลำบากสร้างกันมาทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกาะกินอีกฝ่ายหนึ่ง สมัยนี้ชายหญิงทำงานได้แทบจะเท่าเทียมกัน ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณต้องออกมาอยู่บ้านเป็นแม่บ้านแบบสมัยก่อน เว้นซะแต่ว่าทางบ้านฝ่ายชายรวยมากๆ นั่นก็สมเหตุสมผลอยู่ ( แต่แบบนั้นก็ไม่ต่างกับการขายลูกกินอยู่ดี ) เป็นเรื่องที่แย่มาก ที่คิดแบบนี้ครับ ปล.ขออภัยที่ของขึ้น ผมเกลียดคนที่สอนให้เกาะคนอื่นกินจริงๆ จะชายหรือหญิง ถ้าครบ 32 สุขภาพปกติ อยู่ด้วยตัวเองดีกว่าครับ จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:04:33

ความคิดเห็นที่ 4 คุณกับแฟนลองคุยเรื่องนี้กันรึยังคะ มันขึ้นอยู่กับแผนชีวิตหลังแต่งงานด้วย เช่น จขกท ต้องลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านรึเปล่า แต่พ่อแม่ก็คงมีเจตนาดี อยากจะมั่นใจว่าแต่งไปแล้วลูกจะไม่ลำบากหรืออยากให้คุณเป็นฝ่ายเก็บเงิน ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน แต่ท่านอาจจะใช้คำพูดที่ดูแรงไปหน่อย ทั้งหมดก็เกิดจากความหวังดี อย่าคิดมากเลยค่ะ จากคุณ : ร้อยดอกไม้ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:08:49

ความคิดเห็นที่ 5 สิ่งที่แม่บอก คืออุปสรรคสำหรับการแต่งงานรึเปล่าครับ ท่านสามารถห้ามการแต่งงานของคุณได้หรือเปล่า ท่านคิดยังไงก็คงต้องปล่อยไป ไม้แก้ดัดยาก แล้วตั้งแต่คุณจำความได้จนโต คุณพ่อของคุณเป็นคนหาเลี้ยงที่บ้านคนเดียว แล้วแม่ของคุณเป็นแม่บ้านเหรอ ... ถึงจะใช่ ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปแล้ว ฟัง แต่ไม่ต้องปฏิบัติตาม จบรึเปล่าครับ เสียใจก็เก็บไว้ แม่ก็คือแม่ จากคุณ : ทองพญา เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:09:12

ความคิดเห็นที่ 6 การแต่งงานจะเทียบกับคนที่หลับนอนเพื่อหวังเงินได้ยังไงใช่ไหมคะ    การแต่งงานคือการตั้งใจจะใช้ชิวิตด้วยกัน  มีเรื่องตั้งมากมายในชีวิตที่เราจะต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน (พูดเหมือนเคยแต่ง - -")   แต่จะอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจไม่ใช่เรื่องง่าย   เราก็ต้องบอกไปว่า เรายืนยันว่าเราจะทำงานต่อไปเหมือนเดิม  เพราะให้อยู่บ้านเฉยๆแบมือขอตังค์เราเฉาตายแน่เลย  การไปทำงานทำให้เรามีสังคม  มีเรื่องนั้นเรื่องนี้  ทำให้มีชีวิตชีวา จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:09:26

ความคิดเห็นที่ 7 คุณก็บอกที่บ้านไปซิครับว่างั้นแฟนก็บอกว่าไม่แต่งคบกันไปแบบนี้เรื่อย ๆ ก็ได้ แล้วคุณก็รับแฟนคุณมากด้วยคงไม่ยอมเลิกเด็ดขาด ดูซิว่าที่บ้านคุณยังจะเห็นแก่เงินอยู่รึเปล่า อิอิ ขำ ๆ นะครับพูดแบบไม่เอาจริง จากคุณ : เนจิ แห่ง โคโนหะ (เนจิ แห่ง โคโนหะ) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:31:27

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท เองนะคะ จขกท เรียนใกล้จบแล้วค่ะ แต่ก็ทำงานพิเศษไปด้วย แฟน จขกท ก็เช่นกันแต่เพราะเขาเป็นคนขยัน เขาเลยได้งานประจำแล้วทั้งๆที่ยังไม่จบดี เหตุมันมาจาก พ่อกับแม่ จขกท ชอบแฟนเก่าของ จขกท เพราะเขามีฐานะดีกว่า เวลามาที่บ้านมีของมาให้เยอะกว่า แต่ที่ จขกท เลิกกับเขาเพราะเขาค่อนข้างอารมณ์ร้อนชอบตบตีเวลาโมโห จน จขกท ได้มาคบกับคนๆนี้ได้สามปีแล้ว ครอบครัวเขาฐานะปานกลาง อาจจะไม่ร่ำรวยมากเหมือนแฟนเก่า จขกท แต่เขาก็เป็นคนขยันทำมาหากิน หนักเอาเบาสู้ จขกท เคยพามาที่บ้าน พ่อแม่ จขกท ก็ไม่ประทับใจอยู่ดี จขกท เคยรู้สึกแย่ครั้งก่อนหน้านี้ ตอนที่มีลูกค้าคนหนึ่งของที่บ้านเขาเป็นเจ้าของบริษัท แม่ จขกทบอกว่าเหมือนเขามีทีท่าจะชอบ จขกท แต่เขามีแฟนอยู่แล้ว แม่ จขกท ก็บอกไม่เห็นเป็นอะไร ยังไม่ได้แต่งกัน จขกท รู้สึกแย่มากๆ ที่แม่ จขกท พูดแบบนี้ ครอบครัว จขกท เมื่อก่อนแม่เป็นคนหาเลี้ยงค่ะ แต่ตอนนี้พ่อเป็นคนหาเลี้ยงแทน แม่ จขกท บอกว่าเงินส่วนของเรา เราต้องเก็บ แล้วเงินของเขาก็ต้องให้เราทุกเดือนด้วย จขกทกับแฟนวางแผนว่าจะช่วยกันเก็บเงินซื้อบ้านน่ะค่ะ จขกท คิดว่าถึงเขาจะไม่รวยเท่าใคร แต่ถ้าเราค่อยๆช่วยกันสร้างมันขึ้นมามันน่าภูมิใจมากกว่าน่ะค่ะ จากคุณ : อรปรียา(จขกท) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:31:32 A:58.11.11.32 X: TicketID:245516

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของครอบครัวนะคะ บางครอบครัวภรรยาหาเงินได้มากกว่า แต่สิ่งที่สำคัญคือ ช่วยกันออกเงินกองกลางสำหรับค่าสาธารณูปโภคต่างๆ และค่าอาหารค่ะ จากคุณ : ปุยปุย เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:32:56

ความคิดเห็นที่ 10 เราว่าไม่ถึงกับต้องเลี้ยงทุกอย่างแต่ค่าใช้จ่ายกองกลางในบ้านหรือค่าใช้จ่ายลูก ผู้ชายควรรับผิดชอบเป็นส่วนใหญ่นะ ถ้าเราแต่งงานเราก็คงไม่ลาออกจากงานหรอก แต่ถ้าไม่ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายกองกลางเลย ก็อย่าหวังว่าจะแต่งด้วย จากคุณ : maewfoo เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:33:18

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมต้องไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงหากินล่ะครับ หากแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน มันก็คือครอบครัวของคุณและเขา ที่ต้องร่วมกันสร้างคนละไม้คนละมือ ฝ่ายชายที่เขามีความรับผิดชอบ เขาก็อาจจะทำหน้าที่จัดสรรเงินทองเองแหละ เขาอาจให้คุณไปเลย 1 ก้อน สำหรับค่าอาหาร และของใช้ในบ้าน ส่วนของเงินออมนั้น ก็ต้องมาคิดกันว่าจะเอาตรงไหนออมดี ไอ้คำพูดที่ว่า "ผู้ชายต้องให้เงินเราทุกเดือน " ผมว่าแบบนี้มันก็เกินไปนะครับ...มันเหมือนเป็นหน้าที่ๆต้องทำ ทั้งๆที่การสร้างครอบครัวเป็นหน้าที่ร่วมกันทั้งฝ่ายหญิงและชาย ถ้าแต่งงานกันแล้ว มันคือครอบครัวของคุณแล้วครับ คุณบริหารชีวิตกับสามีคุรได้เลย 2 คน โดยไม่ต้องให้พ่อแม่มาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากนัก พ่อแม่ของคุณยังไงก็ต้องตายจากกัน แต่เขาของคุณต่างหาก...ที่จะอยู่กันไปจนแก่เฒ่า ถ้าปล่อยให้พ่อแม่คุณมาจัดการชีวิตครอบครัวของคุณมากนัก หากฝ่ายชายเขาทนรำคาญไม่ได้ มันอาจลงเอยด้วยการเลิกกันนะครับ.. จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:43:13

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องเงินเรื่องทองเป็นสิ่งที่ต้องพูดให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เพราะเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการใช้ชีวิตคู่ จะจัดการอย่างไร จะมีเงินกองกลางหรือไม่ ใครจะเป็นฝ่ายดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ชีวิตคู่ล่ม หรือทะเลาะเบาะแว้ง เพราะเรื่องเหล่านี้มาเยอะมาก ผู้หญิงอย่างไรก็ต้องมีงานมีอาชีพ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น เราต้องดูแลตัวเองได้ สามีจะเกรงใจมากกว่าเราไม่มีอาชีพ คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงกลัวว่าลูกจะถูกเอาเปรียบ จึงคิดเช่นนั้น ทางออกคงไม่ต้องตึงจนถึงขนาดคุณไม่ทำงานเลย อธิบายให้ท่านเข้าใจว่าทำใมเราจึงต้องทำงาน จากคุณ : ป้านิด (Luktaharn) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:52:02

ความคิดเห็นที่ 13 มองจากอีกมุม แม่คุณคงไม่อยากให้ลูกแต่งงานไปแล้วลำบาก เลยต้องพูดแบบนี้ ยังไงลองหาทางคุยๆดูเพราะมันก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะเลือกแบบไหน พอแต่งงานไป ไม่มีลูกไม่เท่าไรหรอกค่ะ ต่างคนต่างหาเงินต่างคนต่างใช้มันก็ง่าย แต่พอมีลูก คนที่ต้องเป็นคนเลี้ยงหลักๆคือผู้หญิงนะคะ ถ้าคนที่จะแต่งด้วยเค้าเลี้ยงเราไม่ได้นี้ก้อแย่ เค้าก็คงไม่อยากให้ลูกลำบากอ่ะค่ะ แล้วลองคิดถึงปัญหาครอบครัวต่างๆ แม่คุณก็ต้องเจอเรื่องพวกนี้มาก่อน เลยพยายามมองอีกแง่นอกจากความรัก เราคิดประมาณนี้นะคะ ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกลำบากหรอกค่ะ แต่จริงๆช่วยกันทำงานสร้างครอบครัว เป็นเรื่องที่ดีค่ะ สมัยนี้แล้ว ถึงไม่ได้รวย แต่มีความสุขก็น่าจะเีพียงพอ พยายามคุย พยายามอธิบายให้ท่านเข้าใจ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ปล. เห็นด้วยกับป้านิดค่ะ ว่าผู้หญิงยังไงก็ต้องมีงานมีอาชีพ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเราก็ต้องเลี้ยงตัวเองได้ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 19:56:47 จากคุณ : kidasawa เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 19:54:10

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงแม่น้องเมบอกว่าไม่ต้องการแต่งงาน แต่ก็เคยบอกผมว่า ถ้าแต่งงานแล้วต้องเอาเงิน มาให้เธอเก็บเอาไว้ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับที่บ้านผม ที่พ่อจะเป็นคนกำกับดูแลการใช้เงิน ของบ้านทั้งหมด เงินเดือนของแม่ก็ต้องโอนเข้าบัญชีของพ่อ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:10:26

ความคิดเห็นที่ 15 สังคมไทยก็ปลูกฝังสั่งสอนลูกผู้หญิงกันมาอย่างนี้แต่ไหนแต่ไรมาแล้วนี่คะ ถึงขนาดว่ามีลูกผู้หญิงไม่ให้เรียนหนังสือก็มี  เพราะเดี๋ยวมันก็มีสามี สามีหาเลี้ยง  หึ หึ เป็นคนรุ่นใหม่ก็ทำใจลำบาก  ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ก็กลายเป็นลูกอกตัญญู พ่อแม่ไม่ผิดอยู่แล้ว  เพราะใครก็รักลูกก็อยากให้ลูกสุขสบาย(จะไปเอาเปรียบใครก็ช่าง) ไม่ว่าฝ่ายหญิงฝ่ายชาย มีลูกชายก็อยากได้สะใภ้รวย  มีลูกสาวก็อยากได้ลูกเขยรวย  หรืออย่างน้อยลูกตัวเองไม่ต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยง  อย่างนี้ทั้งนั้น ไม่ยอมรับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป  บางทีดิฉันก็ งง น่ะ  ที่ผู้หญิงเรียกร้องความเท่าเทียมชาย  แต่พอจะแต่งงาน  กับเรียกร้องให้ผู้ชายต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองทุกอย่าง จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:14:27

ความคิดเห็นที่ 16 "ผู้หญิงหากินยังได้เงิน ไม่อย่างนั้นจะไปนอนจะไปแต่งกับมันทำไม" ก็หนูไม่ใช่ผู้หญิงหากินนี่คะ คำว่าครอบครัวมันไม่ได้มีแต่ Sex นี่ครับ ทำไมถึงมองแต่เรื่องนั้น จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:30:05

ความคิดเห็นที่ 17 ให้ในทีนี้หมายถึงเป็นเงินกองกลางหรือเปล่าครับ? หรือว่าให้เงินไว้ใช้ส่วนตัว พูดถึงเรื่องเงินตรงนี้ทางบ้าน จขกท. ไม่น่าจะทราบนะครับว่าเรื่องเงินใครให้ใคร หรือว่าทางสามีต้องส่งส่วยให้กับทางบ้าน จขกท. ด้วย จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:38:56 A:59.189.245.178 X:218.186.10.226 TicketID:282558

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ^ จริงค่ะ ข้ออ้างหนึ่งในการเรียกร้องเงินทอง หลักประกันชีวิต ก่อนที่ผู้หญิงจะแต่งงาน  ว่าถ้าไม่เรียกร้อง  ก็เท่ากับไปนอนกับเขาฟรีๆ ไม่มีค่าตอบแทน  หรือได้น้อยๆ ก็ไม่คุ้ม  อะไรแบบนี้  ฟังทีไร  สะดุ้งทุกที   คิดแบบนี้มันก็เหมือนขายตัวชัดๆ  พอเราพูดตรงๆ ก็พากันโกรธอีกแน่ะ สังคมไทย เกลียดคำว่า ขายตัว มาก   แต่ความคิดการกระทำบางอย่างกลับสวนทาง จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:41:28

ความคิดเห็นที่ 19 นี่แหละคะ ความเชื่อของคนโบราณ บ้านเราพ่อเราก้อทำงานหาเงินเลี้ยงแม่เราเหมือนกัน เราก็เหมือนแม่เปรยๆว่า ผู้ชายต้องหาเงินเลี้ยงผู้หญิงไม่งั้นจะแต่งกันทำไม เง้อ คิดได้ไง ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงก้อมีสองมือสองเท้าหนึ่งสมองเท่ากัน ต่างคนต่างทำมาหากินสร้างครอบครัวด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอ นั่น คือชีวิตเราแชรํกันดีกว่ามั้ยการแต่งงานก็เหมือนการเอาชีวิตมาแชร์กันทุกๆด้าน แล้วเรื่องอะไร นั่นมันสมัยก่อน นี่มันยุค 2011 แล้ว บอกแม่ไปเลย แม่ก็แม่นะ แต่อย่าเอาความเชื่อในยุคของตนเองมาวัด กับสมัยนี้ โลกนี้มันหมุนเร็วจะตาย ให้ยึดติดกับอะไรเดิมๆไม่ได้หรอกต้องหมุนไปตามมัน เกิดมาแปปเดียวเดี๋ยวก้อตายกันแล้ว จะเอาอะไรหนักหนากะชีวิต จากคุณ : เจ้าหญิงน่ารัก เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 20:50:34 A:58.9.204.178 X: TicketID:298979

ความคิดเห็นที่ 20 คุณต้องพึ่งตัวเองน่ะใช่.... แต่ผู้ชายของคุณ...ต้องเป็นที่พึ่งคุณได้เช่นกัน ถ้าผู้ชายเค้ายังไม่มีศักยภาพพอที่จะเลี้ยงดูใครได้.....ก็ยังไม่สมควรที่จะไปขอใครมาแต่งครับ(ความเห็นส่วนตัว) จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:42:53

ความคิดเห็นที่ 21 อยากรู้จังว่าพ่อแม่คุณมีลูกชายหรือป่าว ถ้าเค้ามีลูกชายแล้วเค้าจะให้ลูกชายตัวเองเหนื่อยทำงานหาเงินเลี้ยงเมียไหม บางครั้งคนเราคิดที่จะเอาเปรียบอีกฝ่าย โดยที่ไม่ยอมจะเสียเปรียบบ้างเลย เราว่าเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจนะคะ จากคุณ : candy_pinkmie!! เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:46:57

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นใจเจ้าของกระทู้ และขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับความคิดของคุณแม่เจ้าของกระทู้ค่ะ ตราบที่เรายังทำงาน หาเงินเองได้ โดยไม่เอาแต่แบมือขอเขา (ยกเว้นฝ่าย ช. จะเต็มใจให้เองนะ) ช. เขาไม่มีวันดูถูกหรือลำเลิกบุญคุณเราได้เลยค่ะ อย่างเราเอง แฟนทำธุรกิจส่วนตัว เรากำลังจะแต่งกันปีนี้แหละค่ะ ทุกวันนี้ เขาหาได้เท่าไร ให้เราเก็บหมด (เก็บไว้ในธนาคาร แต่เราไม่ได้นำไปใช้นะคะ) พอเขาจะใช้อะไร ก็มาเบิกกับเรา หรือถ้าเราซื้ออะไร ก็บอกเขา เขาก็ให้เอาจากกองนี้ออกมาใช้ ทุกวันนี้ ฝากกับเราไว้ 7 หลัก เรายังไม่คิดจะเลิกทำงานเลย ยังบอกเสมอว่า แต่งงานแล้ว อย่าห้ามเราเลิกทำงานนะ รู้สึกภูมิใจที่ยังหาเงินเองได้อ่ะ จากคุณ : จากใจ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:50:06 A:110.168.37.230 X: TicketID:227260

ความคิดเห็นที่ 23 นี่อาจเป็นเหตุผลที่ผู้ชายหลายคนเลือกไม่แต่งงาน จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:51:56

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเป็นผม แต่งงานแล้วต้องมาหาเีลี้ยงดู ผู้หญิงอย่างนี้ ไม่แต่งครับ ครอบครัวคือการช่วยกัน เข้าใจกัน ค่อยๆสร้างมันขึ้นมาด้วยคนสองคน ถ้าแต่งแล้วต้องมาเพิ่มภาระให้กับตัวเอง แล้วจะแต่งงานทำไม? อยากมีอะไร ก็ไปซื้อได้ ถูกกว่าต้องมาเลี้ยงดูใครอีก จากคุณ : ศูนย์ให้ยืมควง เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:11:34

ความคิดเห็นที่ 25 นานๆทีพวกกิเลสนิยม+สุขนิยม แบบผม จะเห็นด้วยกับ#3ป จากคุณ : Schweissnaht (Schweissnaht) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:12:08

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านดูแล้วงงครับ เสียใจเรื่องอะไรครับ ไหนมาบอกใหม่สิ ไม่เข้าใจเลย ก็แค่รวมกระเป๋าเดียวกัน กรณีส่วนใหญ่ คุณอาจต้องดูแลบ้านค่าใช้จ่าย เงินเลยให้คุณ ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ---------- แม่เจ้าของกะทู้สอนอะไรมาหรอ สอนให้อยู่บ้านเฉยๆ งานไม่ต้อง เอาเงินสามีมาใช้ให้หมดหรอ... ช่วยบอกให้ชัดหน่อย แม่คุณสอนอะไรมาครับ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:46:10

ความคิดเห็นที่ 27 ยังไม่ทันแต่งงานก็มีปัญหาแล้ว  คุณเอาแต่เรื่องที่ไม่ดีของพ่อ แม่มาพูด แล้วถ้าแต่งงานออกไปจริงๆ  พ่อ กับ แม่ ของคุณจะเป็นยังไงในสายตาคุณ เราเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดทั้งหมดของแม่คุณ แต่ก็ไม่อยากให้คุณมองแฃ แม่ในแง่ไม่ดีตลอด จากคุณ : anwan เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:29:00

ความคิดเห็นที่ 28 คห 26 แม่ จขกท ก็ให้ จขกท ทำงานนั่นแหละค่ะ แต่เงินส่วนของ จขกท เราต้องเก็บให้พ่อกับแม่ และเงินของผู้ชายก็ต้องให้เรา ผู้หญิงหากินยังได้เงิน ไม่อย่างนั้นเราจะไปแต่งไปนอนกับเขาทำไม จขกท ก็แย้งแม่ไปว่าแล้วทำไมถึงต้องไปเปรียบกับผู้หญิงแบบนั้น แม่ก็บอกอย่างที่ว่าว่าผู้หญิงหากินยังได้เงิน ไม่อย่างนั้นก็ไปแต่งไปนอนกับฟรีๆจะแต่งทำไม จขกท ไม่เห็นด้วยกับแม่ค่ะ จขกท คิดว่าทำไมเราถึงต้องไปเอาเงินของเขา ทำไมแม่ต้องบังคับ จขกท ให้เป็นตามใจแม่ทุกอย่าง ถ้าเขาจะให้ ก็อยากให้เป็นเพราะเขาเต็มใจให้ ไม่ใช่เหมือนเพราะเราเห็นแก่ตัว เหมือนเอาตัวแลกเงิน แต่ตอนนี้ พ่อแม่โกรธ จขกท มากค่ะที่ไม่เชื่อฟังท่าน จขกท คงโดนฟาดอีกแล้วคืนนี้ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:35:33 A:58.9.84.166 X: TicketID:245516

ความคิดเห็นที่ 29 คห 27 เรารักพ่อแม่ของเราค่ะ พ่อแม่มีพระคุณเหลือคณานับอยู่แล้ว ท่านรักเรามาก จนบางครั้งเราก็รู้สึกว่ามันมากเกินไป ตั้งแต่จำความได้ เราถูกบังคับให้ทำตามใจท่านทุกอย่าง ถ้าเราไม่ทำตามเราจะถูกฟาด เขวี้ยงกรรไกรใส่ เขวี้ยงขวดใส่หัว หรือเอาเสื้อผ้าเราไปตัดให้ขาด เราทนอารมณ์ท่านได้ทุกอย่าง แม้หลายๆเรื่องมันจะไม่มีเหตุผล แต่คราวนี้เราแค่อยากแย้งท่านบ้าง เพราะเราก็มีเหตุผลของเรา คิดว่าทำไมเราถึงต้องไปเอาเงินของเขา ถ้าเขาจะให้ ก็อยากให้เป็นเพราะเขาเต็มใจให้ ไม่ใช่เหมือนเพราะเราเห็นแก่ตัว เหมือนเอาตัวแลกเงินน่ะค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 23:49:34 A:58.9.84.166 X: TicketID:245516

ความคิดเห็นที่ 30 แบบนี้ก็น่ากลัวอยู่ ปล่อยแม่เค้าไปคิดไปเหอะครับ  อย่าไปเถี่ยงเลย เรื่องมันยังไม่เกิดด้วย ------- ถึงเวลาจริงๆไปอยู่กับสามี พ่อแม่คงทําอะไรไม่ได้แล้วละ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 00:03:52

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาให้กำลังจขกทนะคะ ขอให้ผ่านพ้นเรื่องกลุ้มๆไปได้ด้วยดีนะคะ บางทีอาจจะต้องใช้เวลานิดนึงในการทำให้คุณพ่อคุณแม่ของคุณจขกทเห็นว่า คุณมีความสุขที่อยู่กับแฟนคนนี้มากกว่าคนรวยๆแต่นิสัยไม่ดี เวลาและการกระทำจะช่วยพิสูจน์ได้นะคะ ส่วนตัวไม่มีประสบการ์ณเรื่องนี้ด้วยเพราะคุณพ่อคุณแม่เปิดใจและให้เราตัดสินใจทุกๆอย่างในชีวิตเองมาตั้งแต่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยจนจบ จนตอนนี้แก่แล้วค่ะ  โดยเฉพาะคุณพ่อเราท่านจะสอนเราและน้องชายพึ่งตัวเองมากกว่าพึ่งผู้อื่น พอแต่งงานออกมาพวกท่านก็ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรกับครอบครัวเรา เราจะจัดสรรการเงินกันอย่างไรก็เป็นเรื่องของเราและสามี จากคุณ : Voici_Grace เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 00:36:43

ความคิดเห็นที่ 32 ลองมองไปรอบๆตัวคนที่แต่งงานแล้วหรือมีแฟนค่ะ โลกเรานี้มีหลายแบบ มีผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว มีงานทำ แต่ยังต้องการเงิน(บ้าง)จากสามี มีผู้หญิงที่ไม่ต้องการเงินจากสามีเลย มีผู้หญิงที่ยินดีให้เงินหรือเลี้ยงสามี อื่นๆ อีกสารพัด... และก็มีผู้ชายที่แต่งงานแล้ว มีงานทำ แต่ให้ภรรยาหากินเอาเองต่อไป ผู้ชายที่หามั่งไม่หามั่ง ขอภรรยากิน ผู้ชายที่ให้เงินภรรยา(บ้าง) อื่นๆ อีกสารพัด ... ถ้าสองฝ่ายมีความต้องการต้องตรงกัน ปัญหามันก็เกิดน้อยหน่อย แต่ถ้าสุดกู่มาเจอกัน เช่น หญิงอยากได้เงินบ้าง แต่ชายไม่ทำงานแต่จะขอเกาะหญิง มันก็โสภาสถาพร ...แสนจะอ่อนใจ เรื่องแบบนี้ครอบครัวใครครอบครัวมันที่จะตกลงกันค่ะ แต่ดิฉันเห็นด้วยกับ คห ที่ 11+12+13 ค่ะ ผู้ชายที่ยินดีให้ค่าใช้จ่ายในบ้านให้ภรรยาถือ ค่าขนมลูก ค่าของใช้ส่วนตัวนิดๆ หน่อยๆ แก่ภรรยายังมีอีกเยอะค่ะในโลกใบนี้ โดยที่เขาไม่คิดว่าต้องแลกกับค่าตัวอะไร ถ้าเขามีกำลังให้ได้ เขาก็ให้ค่ะ แต่ผู้ชายบางคนมีมาก แต่ไม่อยากให้เลยก็มี ถือว่าอยากอยู่ด้วยกันก็ช่วยๆ กันไปก็มีไม่มีใคผิดใครถูก คุณเองต้องอยู่กับผู้ชายคนนั้น ต้องตัดสินใจเองค่ะ จากคุณ : โชคดีค่ะ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 02:31:03 A:92.72.230.4 X: TicketID:285439

ความคิดเห็นที่ 33 อ๋อ... ตอนแรก ก้อเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับพ่อแม่ จขกท อย่างรุนแรง อ่านๆไป ..ก็พอจะเดาได้แล้ว จขกท. อายุยังไม่มาก คงยังไม่เหมาะที่แต่งงาน เร็ววันนี้ ยังเรียนอยู่นิ เพียงแค่ใกล้จบ ...ยังไม่ต้องรีบหรอกครับ.. พ่อแ่ม่ ก็คงอยากให้ลูกตัวเอง ไม่ลำบาก... จขกท ต้องทำงานประจำไป สัก สอง สามปี เลี้ยงดูพ่อแม่ คบกับแฟน คนปัจจุบัน ไปเรื่อยๆ สักวัน เมื่อพร้อมทั้งคู่ สามารถ ร่วมใจกันปลูกบ้านไ้ด้ ก็ออกมาอยู่ด้วยกัน แต่งงาน ตามประเพณี (พ่อแม่คงไม่ไ้ด้ห้ามแต่ง) ค่าใช้จ่ายในบ้าน เงินเดือนของทั้งสองคน ก้อเอามาเปิดเผยกันเลย ว่าใครได้เท่าไหร่ๆ ต้องใช้จ่ายเท่าไหร่..ต่อไปมีลูก ก้อต้องคิดมากขึ้น ..ถ้าสองคนเอาเงินมารวมกันแล้วเหลือเก็บ พอนำไปปรนนิบัติ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็ ระบุไปเลย นี่เงินสำหรับ เด็ก นี่สำหรับผู้สูงอายุทั้งสองฝ่าย ถึงเวลานั้น พ่อแม่ จขกท จะเข้ามายุ่งเรื่องภายใน อะไรได้มากมาย ล่ะ ... สรุป ไม่เห็นต้องร้องไห้ ไม่เ็ห็นต้องรีบ แต่งงาน ถ้ายังไม่ต้องแต่งงาน ก็ยังไม่ต้อง บอกเรื่องนี้กับแฟน เดี๋ยวก็เกิด อคติ กับ พ่อแม่ จขกท อีก.. รอวันที่ทั้งสองทำงาน ประจำที่เป็นหลักแหล่ง แต่งงาน มีเงินพอใช้ พอออม พอเลี้ยงดูบุพการี ทั้งสองฝ่าย ก็ มีความสุข ในเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้วนี่ ปล. ถ้า จขกท. ยังอยู่ในวัยที่ ยังโดนพ่อแม่ ฟาด หรือ ด่า เสียงดังๆ ได้อยู่ ก็เป็นเพราะ จขกท ยังไม่โตในสายตาของพ่อแม่..เรียนให้จบ ทำงาน..ทำตัว ว่าสามารถดูแลตัวเองได้...ถึงเวลา จขกท. ก็จะหมดช่วงชีวิตที่จะต้องมีพ่อแม่ มากำหนดหนทางได้แล้ว จากคุณ : HU_โตโต้ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 04:24:47

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ เห็นด้วยกะคุณ HU_โตโต้ ค่ะ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ จากคุณ : อ้ายดื้อ (หนูไม่รู้เค้าจ้างหนูมา) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 08:31:03

ความคิดเห็นที่ 35 มองในแง่ดีว่าเขาคงเป็นห่วง กลัวเราแต่งไปแล้วจะลำบากมั้งคะ พ่อแม่ทุกคนต้องรัก และเป็นห่วงลูกเสมอคะ จากคุณ : สาวร๊ายร้าย little witch เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 10:19:48

ความคิดเห็นที่ 36 คุณจะไปคิดให้มันปวดหัวไปทำไม คุณแต่ง ไม่ใช่แม่คุณแต่งสักหน่อย คุณอยากได้สามีแบบไหนก็เลือกเอา ส่วนแม่เค้าจะคิดอะไร ยังไง ก็ไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงด้วยหรอก เออออห่อหมกไปด้วยซะก็สิ้นเรื่อง จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 14:07:48

ความคิดเห็นที่ 37 เชื่อพ่อแม่เถอะ.... วันนี้เขาไม่ให้เรา ทั้งที่มี   แล้ววันที่เขาไม่มีละ... พอเขาไม่มี...นอกจากจะต้องเลี้ยงเขา  ยังต้องเลี้ยงไปถึงพ่อแม่เขาอีก  แล้วจะช้ำหนัก... พูดก็ไม่ออก ...บอกใครก็ไม่ได้ การแต่งงาน เหมือนเล่นป็อกเด้ง ...อาจได้2-3 เด้ง ถ้าเขาดี มีความเป็นผู้นำ  มีคุณธรรม และอาจเสีย  2-5  เด้งเหมือนเรา - เสียตัว - เสียเงินทองที่หามาได้- เสียมรดกของพ่อแม่- เสียความเป็นคุณหนูกลายเป็นคนรับใช้ -เสียความเป็นสะใภ้กลายเป็น( ^o^ ) จากคุณ : pamade เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 15:29:20

ความคิดเห็นที่ 38 แต่ความคิดพี่นะผู้ชายดีๆไม่ต้องบอกหรอกค่ะ ว่าทำงานเท่าไหร่เอาเงินมาให้ชั้น เค้าอยากให้ เค้ารัก เค้าสงสาร เค้าให้หมดตัวอยู่แล้วละ จากคุณ : น้ำมะตูมชื่นใจ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 16:22:02

ความคิดเห็นที่ 39 ตามปกติ สามีก็ต้องให้เงินภรรยาบ้างไม่ใช่หรือ ในฐานะผู้นำเช่น คชจ.ในบ้านและลูกในอนาคต ก็บอกท่านไปซิว่าเขาให้รายเดือนด้วย ถามจริงว่าแต่งแล้ว ต่างคนต่างมีเงินเดือนแล้วต่างคนต่างใช้เหรอ แล้วคชจในบ้านล่ะ หารกันเหรอ ถ้าแบบนี้เป็นเราก้ไม่แต่งนะเพราะเรายังต้องทำงานบ้านด้วย ซักผ้ารีดผ้ากวาดถูให้เขาเหมือนกัน พ่อแม่ เขาไม่อยากให้เราลำบากในอนาคต เช่น หากต้องหย่า คุณจะไม่เหลืออะไรเลยกลัวว่าจะหอบลูกมาเป็นภาระให้คุณอีก จึงอยากให้คุณได้ส่วนของเขาเป็นทุนสำรองบ้าง ตกลงก่อนแต่งเลย ว่าคชจ.ในบ้านเขารับหมด และให้คุณอีกจำนวนนึง พ่อแม่คงไม่มีข้ออ้างมา อ้างแล้วมั้ง จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 16:36:39

ความคิดเห็นที่ 40 เค้า กำลังสับสน ระหว่างคำว่า ขายตัว กับ แต่งงาน รึเปล่านี่ .?? จากคุณ : hirohiko เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 17:25:29

ความคิดเห็นที่ 41 กรรมแท้  มีแม่แบบนี้ เฮ้อ จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:53:40

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้ามีลูกแล้วสามีเลี้ยงน่ะไม่แปลก แต่ถ้ายังไม่มี ขอแต่เงินสามีนี่ มันก็เกินไปหน่อย จากคุณ : nong_ao เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 21:21:23

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดส่วนตัวของเรานะคะ คนที่จะแต่งงานกัน ต้องพร้อมทั้งสองฝ่าย ทั้งหญิง และชาย  พร้อมที่จะดูแลกันและกันถ้าอีกฝ่ายไม่สามารถดูแลตัวเองได้แบบสุดวิสัย อาจจะด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดกับฝ่ายชาย หรือ หญิง คนที่เหลือต้องดูแลอีกคนได้ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ใจไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบใคร ก็ยังไม่ควรแต่ง เรื่องเงิน เราว่าทั้งหญิงและชาย ต้องมีรายได้ของตนเอง ไม่ควรหวังพึ่งพาให้ใครเลี้ยงดู คือต้องช่วยกัน มีอะไรแบ่งปันกัน ผู้หญิงสมัยนี้เก่ง เรียนสูง ๆ ทำงานเก่ง ๆ กันทั้งนั้น ทำไมต้องให้ผู้ชายเลี้ยงดูด้วยล่ะคะ อย่าลืมสิทธิสตรีนะคะ ชายหญิงเท่าเทียม จากคุณ : ~ROME LUCERNE~ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 22:29:58

ความคิดเห็นที่ 44 นี่เป็นอีก1เหตุผลที่ผู้ชายรักกันเองรึป่าวอ่ะ เราแค่สงสัยน่ะ อย่ามาด่าเราเด็ดขาดใครที่ไม่เห็นด้วย จากคุณ : เริ๊ด เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 23:16:34 A:125.27.240.158 X: TicketID:302379

ความคิดเห็นที่ 45 ผมอยู่กับแฟนมา3ปี ไม่ได้แต่งงานกัน ผมยังให้เงินแฟนใช้ทุกเดือน โดยที่เค้าไม่ต้องขอเลยครับ จากคุณ : rabellu เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 00:58:46

ความคิดเห็นที่ 46 ที่บ้านคุณพูดมันก็ถูกแล้วนี่คะ   ผู้ชายถ้าเป็นผู้ชายพอและมีความรับผิดชอบเค้าต้องให้ถึงแม้เราไม่ได้ขอ  เพราะมันเป็นหน้าที่ค่ะ และถึงแม้คุณจะทำงานได้เงินเดือนมากแค่ไหนก็ตาม  เค้าก็ควรต้องให้ค่ะ ให้มากให้น้อยอีกเรื่องนึง  ลองคิดดูใหม่นะคะ ขนาดเราคบกันแฟนเราเฉยๆ  ไม่ได้อยู่ด้วยกัน   แฟนเราก็ให้เงินเราใช้นะ  ทั้งๆ  ที่เราไม่ได้ขอ  บางทีไม่ได้ให้แต่ก็ซื้อของให้  หรือไม่ก็ไปกินข้าวแฟนเราก็ออก เงินไม่ได้วัดว่าเค้ารักเราหรือเปล่าหรอกนะคะ  แต่มันวัดว่าเค้าใส่ใจดูแลคุณบ้างเรายังรู้สึกดีเลยเหมือนแฟนเรารักเราและก็ดีกับเรามากๆนะ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 15:14:32 จากคุณ : lovepanda เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 15:10:45