|
ขอแสดงความเห็นเฉพาะกรณีบำนาญนะครับ เนื่องจากกลัวว่าน้องๆ รุ่นใหม่ที่อยากเข้ารับราชการจะเข้าใจกันผิดๆ
- ระบบบำนาญของข้าราชการพลเรือนสามัญยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเข้าก่อนหรือหลังปี 40 ผู้มีสิทธิได้รับบำนาญ คือ ข้าราชการ และ ลูกจ้างประจำ (ปัจจุบันไม่มีการบรรจุลูกจ้างประจำแล้ว) ส่วนพนักงานราชการ และ ลูกจ้างชั่วคราว ไม่มีบำนาญ ส่วนพนักงานรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันยกเลิกบำนาญหมดแล้ว มีแต่เงินกองทุนสะสม
- ผู้รับราชการเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 25 ปี จะได้รับบำเหน็จ ไม่มีสิทธิได้รับบำนาญ - ผู้รับราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป มีสิทธิเลือกรับระหว่างบำเหน็จ หรือ บำนาญ ดังนั้นต้องรับราชการอายุไม่เกิน 35 ปี จึงจะมีสิทธิได้รับบำนาญ (ยกเว้นไปบรรจุที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะได้เพิ่มอายุราชการทวีคูณ)
- ผลประโยชน์จากบำเหน็จ 1. เงินเดือนสุดท้าย (สมมุติชำนาญการพิเศษ งด.ตันที่ 50,500) X อายุราชการ (สมมุติ 35 ปี) = 1,767,500 บาท 2. เงินก้อนจาก กบข. ประกอบด้วย 2.1 เงินสะสมหักจากเงินเดือน (เลือกได้ตั้งแต่ 3% - 15%) + ผลประโยชน์ 2.2 เงินสมทบ (รัฐสมทบ 3%) + ผลประโยชน์
- ผลประโยชน์จากบำนาญ 1. เงินเดือนเฉลี่ย 5 ปีสุดท้าย (สมมุติ 40,000) X อายุราชการ (สมมุติ 35 ปี) หารด้วย 50 = 28,000 บาท/เดือน (รับไปจนตาย) 2. เงินก้อนจาก กบข. ประกอบด้วย 2.1 เงินสะสมหักจากเงินเดือน (เลือกได้ตั้งแต่ 3% - 15%) + ผลประโยชน์ 2.2 เงินสมทบ (รัฐสมทบ 3%) + ผลประโยชน์ 2.3 เงินชดเชย (รัฐออกให้ 2%) + ผลประโยชน์ (ผลประโยชน์มากน้อยขึ้นอยู่กับผลกำไรที่ กบข.นำเงินไปลงทุน) 3. เงินบำเหน็จดำรงชีพ คือ บำนาญรายเดือน (สมมุติ 28,000) X 15 เท่า = 420,000 บาท (ได้ตอนเกษียณ) 4. เงินบำเหน็จตกทอด คือ บำนาญรายเดือน (สมมุติ 28,000) X 15 เท่า = 420,000 บาท (ตกแก่ทายาทเมื่อตาย)
ปล. ที่พูดถึงนี่เฉพาะ ขรก.พลเรือนสามัญนะครับ
แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 09:16:05
จากคุณ |
:
ผู้ชายในฝัน..ฉันคงเป็นไม่ไหว
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ม.ค. 54 12:37:57
|
|
|
|
|