ผู้หญิงเป็นหนี้เพราะความรักเป็นเหตุ

คมชัดลึก : ควันหลงเทศกาลจากช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ดร.รัชดา ธนาดิเรก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ จัดสัมมนา “เงินในกระเป๋า กับ รักของเรา” เพื่อให้ความรู้ข้อคิดแก่วัยรุ่นหญิงกว่า 100 คนที่เข้าร่วมสัมมนา พร้อมชี้ความรักไม่ได้จำกัดแค่ผู้หญิงผู้ชาย แต่ความรักคือความรู้สึกที่ดีต่อทุกคนบนโลกนี้ ที่สำคัญที่สุด คือการรักตัวเอง เพราะความรักคือการให้พลังความรู้สึกที่ดีให้แก่คนอื่น ถ้าตัวเองไม่มีพลัง ไม่มีกำลังที่จะยืนหยัด ก็ให้ความรักกับคนอื่นไม่ได้ ส่วนเรื่องเงินทองเปรียบเสมือนพาหนะขับขี่ในการดำเนินชีวิตที่ต้องใช้เงิน

ดร.รัชดา กล่าวด้วยว่า ผู้หญิงไทยมักคิดว่าหากมีแฟนจะฝากชีวิตไว้ที่ฝ่ายชาย พร้อมยกหลักการ 3D มาฝากไว้เตือนใจผู้หญิงทั้งหลาย ได้แก่ 1. Die การตาย ถ้าเราไม่รู้จักยืนหยัดด้วยตัวเอง ถ้าวันหนึ่งสามีตายจะอยู่อย่างไร 2.Divorce การหย่าร้าง ในวันนี้เรามีแฟน แต่งงานและรักกันมาก แต่ถ้าวันหนึ่งเขาหย่ากับเราจะทำอย่างไร 3.Disaster หายนะ อาจเกิดน้ำท่วม ภัยพิบัติ บ้านพัง ไฟไหม้ สงครามได้เสมอ เพราะฉะนั้นต้องรู้จักระวัง รู้จักเก็บออม เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้ดูแลตัวเองได้ และตามอัตราตัวเลขประชากรศาสตร์ ผู้หญิงอายุยืนกว่าผู้ชาย จึงมีโอกาสสูงมากที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียว ถ้าไม่วางแผนการเงินให้ดีจะอยู่อย่างไร

ด้าน ดร.ผุสดี ตามไท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สัดส่วนกลุ่มที่ 6 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ามีงานวิจัยหนึ่งบอกว่า ผู้หญิงปัจจุบันนี้เป็นกลุ่มที่อยู่ในหมู่ยากจนมากที่สุดในโลก เพราะตายช้า อายุยืนกว่าผู้ชาย 5-7 ปี ซึ่งผู้หญิงเป็นหนี้เพราะความรักเป็นเหตุ รักใครก็รักเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้นำไปสู่การมีหนี้สิน และในงานวิจัยยังระบุว่า ผู้หญิงหากหาเงินได้ 100 บาท เมื่อเข้าสู่ชีวิตคู่ จะเอาเงินใช้กับครอบครัวถึง 80 บาท แต่ผู้ชายใช้เงินกับครอบครัว 50 บาท เพราะฉะนั้นผู้หญิงมีโอกาสถูกชักนำไปสู่ความเป็นหนี้มากกว่าผู้ชาย และยังตายช้า ต้องแบกภาระ ถ้าวันหนึ่งผู้ชายเดินหันหลังไปจากชีวิตเรา จะทำอย่างไร ซึ่งอเมริกามีปัญหาเรื่องนี้มาก เรียนจบ ม.6 ส่วนใหญ่จะมีคู่รักในวันวาเลนไทน์ และแต่งงานกัน มีลูก ไม่ทำงาน โดยผู้ชายเป็นฝ่ายเรียนหนังสือ เมื่อเรียนจบมีหน้าที่การงานที่ดี สุดท้ายก็ไม่เอาคู่ชีวิต ทิ้งแล้วเดินหันหลังออกจากบ้าน ผู้หญิงต้องตกหลุมดำ เพราะจบแค่ ม.6 ไม่ได้ทำงาน

"อยากให้ผู้หญิงจงรักตัวเอง เมื่อตัดสินใจแต่งงานอยู่ด้วยกัน หากสามีให้เงิน ควรเม้มเก็บใส่กระเป๋าตัวเองบ้าง รู้จักการออม เปิดบัญชีของเรา อย่าให้ใครมายุ่ง ต้องรู้จักเก็บให้ดี หากผู้หญิงไม่มีอิสระทางการเงิน ไม่มีเงินในกระเป๋าตัวเองจะทำอย่างไร วันนี้ไม่ว่าจะได้รายได้เข้ากระเป๋าด้วยวิธีใด ขอให้เก็บ และทำให้งอกเงย อย่านำไปใช้โดยไม่จำเป็น ขอให้วางแผนในอนาคต เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะกับเด็กวัยรุ่น ต้องรู้จักรักตัวเอง รู้จักใช้เงินอย่างเป็นประโยชน์”

นอกจากนี้ ในงานยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปเรื่อง “สร้างนิสัยการเงินด้วยวิธีของเรา” โดย ดร.รัชดาได้แนะวิธีทำ “อัตราส่วนความอยู่รอด” (Survival Ratio) เพื่อให้ทดสอบว่าตัวเองมีรายรับรายจ่ายเท่าจึงจะอยู่รอด โดยการนำ “รายได้ บวก รายได้จากทรัพย์สินอื่นๆ หารกับรายจ่าย” ถ้าได้ผลลัพธ์มากกว่า 1.0 ถือว่าอยู่รอด หากต่ำกว่า 1.0 ถือว่าแย่

“ถ้ารายได้คงที่ และอยากให้อัตราส่วนความอยู่รอดมีมากขึ้น ให้กลับไปดูรายจ่ายว่าควรจะลดอะไรได้บ้าง เช่น ค่าใช้จ่ายดูภาพยนตร์จากที่เคยจ่ายเต็มราคา ให้เช็กโปรโมชั่นว่ามีส่วนลดไหม หรือน้ำจากที่ซื้อให้นำไปเองจากบ้านแทน ซึ่งแต่ละคนจะมีรายรับรายจ่ายไม่เหมือนกัน ขอแนะนำวิธีการออมเรียกว่าลบ 10% เช่น ได้ค่าขนมมาเท่าไร ให้หัก 10% เข้าธนาคาร ที่เหลือค่อยใช้ อีกวิธี บวก10% เช่น ซื้อของ 100 บาก ให้หัก 10% จากราคาของนั้นแล้วเก็บเข้าธนาคาร” ดร.รัชดาแนะวิธีการออมอย่างง่ายๆ


http://www.komchadluek.net/detail/20110217/88947/ผู้หญิงเป็นหนี้เพราะความรักเป็นเหตุ.html

จากคุณ	: หมาป่าดำ
เขียนเมื่อ	: 17 ก.พ. 54 20:08:56