|
ถ้าจะยกเลิกได้ครับ
แต่หากจะเอาแบบนั้นจริงๆ มันก็ต้องแก้กฏหมายให้ยุติธรรมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุด้วย
ในกรณีที่หากอุบัติเหตุนั้นพิสูจน์ได้จริงๆ ว่าคุณตายเพราะการ "ไม่ใส่" หมวกกันน๊อค และโดยที่หากว่าถ้าคุณใส่อยู่นั้น อาจผ่อนหนักเป็นเบาได้
หากจะถึงตายก็แค่บาดเจ็บ หากจะแค่บาดเจ็บก็อาจจะไม่เป็นไรเลย
กรณีแบบนี้หากผมเป็นคู่กรณี ก็ต้องเปิดช่องทางกฏหมายให้ผมได้ต่อสู้ด้วยครับ
เพราะคุณ "เลือก" ที่จะไม่ใส่ และเอาความเสี่ยงส่วนตัวมาโยนให้ผู้คนร่วมถนน "ร่วม" รับผิดชอบด้วย
มันไม่ยุติธรรมต่อคนอื่นที่ใช้ถนนร่วมกับเราครับ
ยังไม่นับว่ารัฐบาลควรต้อง "ลดภาษี" ให้กับประชาชนอีก เพราะสถาบันทางการแพทย์ที่ผลิตหมอออกมานั้นตั้งมาจากเงินภาษี ไหนจะเรื่องของการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพของคนในชาติที่มาจากภาษีเช่นกัน
เพราะการที่รัฐต้องมาแบกภาระ ในการรักษาคนที่ "เลือก" จะไม่ใส่หมวกกันน็อคแล้วเกิดอุบัติเหตุ มันส่งผลกระทบถึงภาพรวมกับคนในชาติไม่ทางตรงก็ทางอ้อมอย่างแน่นอน
ทางตรงก็คือการเป็นคู่กรณีของคนที่ "เลือก" จะไม่ใส่หมวก ทางอ้อมคือการจ่ายภาษีเพื่อให้เกิดกระบวนการทางการแพทย์
กรณีของ ตร.ที่รีดไถนั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องปลายเหตุครับ หากเราใส่หมวกตามที่กฏหมายกำหนด ข้อหานี้ ตร.ก็แทบจะทำอะไรเราไม่ได้เลย
ยกเว้นว่าจะเล่นงานในข้อหาอื่น เช่น รถแต่ง, ไม่มีกระจกมองข้าง, ท่อดัง, ไม่ขับขี้ชิดขอบทางด้านซ้าย ฯลฯ
อีกทั้งก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฏหมายหมวกกันน็อคนั้น เขามีการวิจัยออกมาแล้วครับว่าช่วยลดจำนวนคนตายลงได้จริง
กฏหมายมันมีออกมา ก็เพราะเขาคิดแล้วว่าดีต่อส่วนรวม
หากเราคิดว่ามันไม่ดีจริงๆ ก็ใช้กระบวนการทางรัฐสภา โดยการเลือก สส.ที่คุณชอบ หรือเลือกพรรคที่คุณชอบ และสามารถช่วยผลักดันในการแก้กฏหมายที่เราเห็นว่ามันห่วยครับ
จากคุณ |
:
ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 54 14:37:00
|
|
|
|
|