ความคิดเห็นที่ 1 ผลิตกระดาษแล้วเปลี่ยนเป็นเงินได้เอง แค่นี้ก็ไม่ต้องสู้ด้วยแล้ว จากคุณ : 33 (jobchan) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:29:27

ความคิดเห็นที่ 2 กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรระดับจักรวาล แต่....กลับติดหล่มในสงครามเวียดนาม และต้องยกพลกลับบ้านอย่างชอกช้ำ เพราะเจอการรบแบบกองโจรของ "เวียดกง" กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรระดับจักรวาล แต่....กลับบุกยึดอิรัคด้วยข้ออ้างเรื่องอาวุธเคมี ทั้งๆที่โลกทั้งโลกเขาเห็นลิ้นไก่ว่าอยากได้น้ำมันเขา และท้ายที่สุด...ก็ไม่ได้มีการเจออาวุธเคมีที่ว่าแม้แต่ชิ้นเดียว กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรระดับจักรวาล แต่ไม่มีปัญญาไล่ล่าตามจับ โอซามา บิน ลาเดน เลยทำให้ทุกวันนี้คนในชาติของตนต้องอยู่แบบ "ขนหัวลุก" เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะเจอเหตุการณ์แบบ 911 ภาค 2 อีกครั้ง กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรระดับจักรวาล แต่เจอลูกตื้อและลูกอึดของตาลีบัน สอยแบล็คฮอคว์ร่วงเป็นนกปีกหัก ทั้งๆที่อาวุธของพวกตาลีบันแสนจะล้าสมัย กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรระดับจักรวาล แต่มีเจ้าภาพมากมายที่จ้องจะจองกฐิน ชนิดที่เผลอไม่ได้เลยแม้แต่จะกระพริบตา เพราะรัฐบาลของตนดันสร้างศัตรูเอาไว้เยอะ จนหากวันไหนเกิดอะไรขึ้นมา อาจงงๆว่าเป็นการลงมือของศัตรูเจ้าไหน .......มีอำนาจต่อรองกับนานาชาติ .....มีแต่คนศิโรราบขอเป็นพันธมิตร แต่ต้องอยู่แบบหวาดระแวงแบบนี้.... ผมว่าเป็นกองทัพธรรมดาๆดีกว่าครับ..... แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 19:47:29 จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:46:20

ความคิดเห็นที่ 3 ค่อยดูเกาะเมกาจมละกันครับ อยากรู้เทคโนโลยีไหนจะช่วยได้ จากคุณ : F:A:B:R:E เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:17:11

ความคิดเห็นที่ 4 อยากมองข้ามรัสเซีย กับจีน แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 20:17:39 จากคุณ : Eak sound เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:17:24

ความคิดเห็นที่ 5 สหรัฐอมริกาเป็นประเทศที่มีกำลังทหารมาก และทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ เรือรบอเมริกาครอบครองทุกน่านน้ำ ขีปนาวุธและเครื่องบินรบทิ้งระเบิด สามารถโจมตีเป้าหมายได้ทั่วทุกทวีป อีกทั้งยังมีกองทหารอีกหลายแสนกอง ประจำการอยู่ตามประเทศต่างๆ ทุกๆ 2-3 ปี อเมริกาจะต้องส่งทหาร เรือรบ และเครื่องบินทิ้งระเบิดไปสู้รบในประเทศที่ห่างไกล.. นัยว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศครับ.. งบประมาณแผ่นดินของอเมริกาในปี 2004 เกินครึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทางด้านการทหารครับ จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:31:01

ความคิดเห็นที่ 6 ประเทศเค้ารวมด้วยกำลังทหาร และพัฒนาโดยใช้การทหารนำครับ จากคุณ : the chubby knight เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:36:27

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วงระหว่างปี 1898-1934 ทหารอเมริการ บุกคิวบา 4 ครั้ง นิการากัว 5 ครั้ง ฮอนดูรัส 7 ครั้ง สาธารณรัฐโดมินิกัน 4 ครั้ง เกาะเฮติ 2 ครั้ง กัวเตมาลา 1 ครั้ง ปานามา 2 ครั้ง เม็กซิโก 3 ครั้ง และโคลัมเบีย 4 ครั้ง.. ช่วงยุคปัจจุบันก็เห็นๆกันอยู่.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:37:06

ความคิดเห็นที่ 8 คำตอบ......  คือ ก็อเมริกา  ... มีเงินเยอะ... กองทัพจึงเกรียงไกร...... หากถามว่า... แล้วอเมริกาเอาเงินมาจากไหน  ถึงได้มีมากมาย คำตอบ...... ง่าย ๆ    เบื้องต้น  ก็เอามาจาก  น้ำมัน...ที่มีอยู่ทั่วโลก อย่างอื่นๆ  ก็คือ  ทรัพยากร   แร่ธาตุ.... ที่มีอยู่ทั่วโลก จากคุณ : Detente เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:43:13

ความคิดเห็นที่ 9 ก็พี่แกเล่นยืมมือองค์กรกลางๆ ปิดปากประเทศอื่นๆ ตัวเองทำได้อยู่คนเดียว แถมป่าวประกาศไปทั่วโลก แบบนี้มันจะไม่เกรียงไกรได้อย่างไร เอิ๊กๆๆ คิดหรือว่าประเทศอื่นๆเค้าไม่ซุ่ม คิดค้น อะไรใหม่ๆ มั่งนะ ใครซ้อมยิงนิวเคลียร์ มีขีปนาวุธอะไร ก็เที่ยวร้องแร่แห่กระเชอ กดดันเค้าทุกวิถีทาง แต่ทีตัวเอง แหมม มีอะไรต่อมิอะไรแอบซุ่มใต้ดินเยอะแยะ น้ำมันอีก เที่ยวไปราวีเค้าอยากยึดมาเป็นของตัว ที่แหล่งของตัวเองที่อลาสก้า เฉยๆ อุบเงียบ กรูเก็บของกรูอย่างเดียว เมกา มันเป็นเกาะ ติดทะเลสามด้าน กองทัพอากาศมันเลยต้องยิ่งใหญ่หน่อย เมกามันรบเก่งทางอากาศกับเรือ เพราะต้องวิ่งออกจากบ้านไป ไม่มีแผ่นดินใหญ่ติดกับใคร ลองมันเอาทหารบกมารบกันบนดินดูดิ เห็นมันเคยชนะใครที่ไหนบ้าง ไอ้ความเกรียงไกรแบบนี้ สำหรับเรา เรียกว่า "กร่าง" บางทีนะ เราแอบลุ้นลึกๆ เหมือนกัน อยากให้เหตุการณ์ในตะวันออกกลาง มันลามมาทาง จีน กับ เกาหลีเหนือ ดูบ้าง อยากรู้ว่า หน้าไหนมันจะกล้ามาแหยมเปิดศึกกับสองประเทศนี้ จะได้เห็นศักยภาพทางทหารจริงๆจังๆ เสียที ไม่รู้ว่าถ้ามาแล้ว รัสเซีย จะออกอาการยังไงบ้าง หึ หึ จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 22:43:31

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ายุโรปรวมตัวกัน (ไม่นับอังกฤษ เพราะถึอว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับเมกา) ก็พอสู้กับเมกาไหวครับ หรือไม่รอให้จีนพัฒนากว่านี้อีกสัก 40-50 ปี ตอนนั้นก็คงพอฟัดพอเหวี่ยงกันครับ แต่ถ้าญี่ปุ่นหันมาจับมือกับจีน ก็ไม่ต้องนานแค่ 20-30 ปี ก็เทียบเมกาได้แล้วครับ จากคุณ : FIndinGBeautYINNegativESpacES เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 22:53:42

ความคิดเห็นที่ 11 แยงกี้ เค้าพิมพ์แบงค์ใช้เอง เค้าพิมพ์ออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเค้าอยากพิมพ์ แถมเค้ายังบอกว่า ใครจะใช้สกุลเงินของเค้าหรือไม่ เค้าไม่ง้อ ใครจะต่อว่า เรื่องพิมพ์แบงค์เอง โดยไม่มีหลักประกันอะไรเลย เค้าก็ไม่สนใจ แต่ถ้าเราลองพิมพ์แบงค์เองโดยไม่มีทองคำหนุนซิ...เค้าโวยวายเราแน่นอน จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 06:57:41

ความคิดเห็นที่ 12 อีกไม่นานยุคตกต่ำก็จะมาถึง จากคุณ : นายสาระแน เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 07:48:22

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่แปลกนี่ครับ ลอง search งบทางทหารของเขาดูซิครับ หา list อันดับงบทางทหารของทุกประเทศมาดูน่ะครับ แล้วจะเห็นว่า งบทางทหารอเมริกันปีเดียว มากกว่า งบทางทหารประเทศลำดับ 2-5 รวมกันอีก เพราะงั้น แม้แต่ลาว ไทย หรือภูฏาน  ถ้ามีงบขนาดนั้น ก็ยิ่งใหญ่เกรียงไกรได้ครับ แล้วทำไงถึงจะมีงบขนาดนั้นได้ล่ะ ก็พิมพ์ธนบัตรโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำสิคร้บ ไม่ต้องคำนึงถึงทองคำ หรือเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ อยากได้เท่าไหร่ พิมพ์ออกมาใช้ได้เลย ทำแบบนั้นได้เมื่อไหร่ อย่าว่าแต่ทางทหารเลยครับ ไม่ว่าด้านไหนก็ยิ่งใหญ่เกรียงไกรได้ทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 12:16:21

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่า อนาคตเอมริกา จะไม่ใช่ทหารไปรบ ภายในอีก 10 ปีนี้ เค้าจะผลิตหุ่นรบออกมา ผมว่า ถ้าเกิดสงครามโลก ครั้ง 3 มันจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเหมือนเดิม จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ สามประเทศจะอยู่ ตรงข้ามกับ อเมริกาและยุโรปอย่างแน่นอน จากคุณ : mak2010 (mak2010) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:39:36

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่มีอะไร ยั่งยืน ยิ่งใหญ ตลอดกาลครับ กรุงโรม โรมัน เปอร์เซีย เจงกิสข่าน จากคุณ : witpk2 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 15:46:19

ความคิดเห็นที่ 16 ผมชื่นชอบอเมริกานะครับ ที่เค้าเปิดรับโลกภายนอกและ รับการเข้ามาของชาติตะวันตก รวมถึงรับพลเมืองต่างๆด้วย จากคุณ : Motevo เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 22:25:16

ความคิดเห็นที่ 17 #16 ผมชอบนโยบายของเขาตรงนี้เลยครับ ที่เปิดรับโลกภายนอก ประเทศอเมริกาเลยคนหลายเชื้อชาติ เลย ลองดูทหารเขาสิครับ มีคนไทยก็มี คนจีนก้มี เกาหลีก็มี มีคนหลายเชื้อชาติเข้ามารับราชการทหารในประเทศเขา แล้วก็อยู่ร่วมกันโดยไม่มีการเหยียดสีผิว เชื้อชาติกันรุนแรงมากมายเท่าไรด้วย ลองดูหนังทหาร หนังสงครามของอเมริกาได้ จากคุณ : im626 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 22:51:43

ความคิดเห็นที่ 18 ครอบครัวดิฉัน หมายถึง รุ่นลูกๆคุณปู่  จนถึงหลาน และเหลน  ตั้งรกรากในอเมริกามากที่สุด  ถูกส่งไปเรียนที่อเมริกามากที่สุด   อเมริกา  มีทองคำสำรองเก็บไว้มากที่สุดในโลกค่ะ   ไม่เชื่อก็ลองไป search ดูเอง มีเทคโนโลยี่  ที่ขายไปทั่วโลกได้มากที่สุด มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ผลิตสินค้าขายทั่วโลก  มีการลงทุนตั้งโรงงานใหญ่ๆนอกประเทศไปทั่วโลก  มีการขายเฟรนไชน์  ลิขสิทธ์ต่างๆ  มีศิลปิน สร้างหนัง  นำรายได้เข้าประเทศมหาศาล มีการส่งออกธัญญพืชออกไปเลี้ยงชาวโลก  มากที่สุดในโลก   เป็นนายหน้า  เป็นตลาดกลางในการซื้อขายถ่านหินไปทั่วโลก เป็นมูลค่ามากที่สุด มีคนต่างชาติหอบเงินเข้าไปลงทุน ทั้งโดยตรง ซื้อหุ้น ที่ดิน พันธบัตร มากที่สุดในโลก คิดเป็น 60% ของการลงทุนในประเทศนี้  ไม่มีคำว่าขายชาติ  ขายแผ่นดิน เพราะชาติคือคน ใครมีปัญญาเข้าไปอยูก็เชิญ ใครจะออกไปก็เชิญ  ไม่มีใครสามารถหอบเอาบ้าน เอาที่ดิน เอาตึก เอาโรงงาน ขนดาวเทียม  ออกไปได้   เป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนการลงทุน  ด้วยการเปิดให้บริษัทใหญ่ๆทั้งโลกเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  NASDAQ  ประเทศที่นำหุ้นเข้าไปเทรดมากที่สุด คือ  ประเทศจีน  เปิดเทรดที่นี่ ก่อนที่จะเปิดตลาดหุ้นในประเทศจีนด้วยซ้ำไป ตลาดหุ้นอเมริกาประเทศเดียว  มีมูลค่ามหาศาล มากกว่า ตลาดหุ้นทุกประเทศในโลกรวมกัน   บริษัทใหญ่ๆแค่บริษัทเดียว เช่น ไมโครซอฟ  มี marketcap มากกว่ามูลค่าในประเทศเล็กๆทั้งตลาด มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก   มีเงินนับเป็นน้อง  มีทองนับเป็นพี่  เขามีมากกว่าใครๆ สรุปว่า  เพราะเขารวยไงคะ จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง (P.Stone) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 04:17:33

ความคิดเห็นที่ 19 ผมนี้แหละคนนึง ที่จองกฐินอเมริกา   ถึงผมไม่มีอาวุธสู้คุณ ผมมีแค่ดาบปลายอันสุดท้ายก็จะยอมสู้ตาย  ไอฟายเมริกา จากคุณ : Joe Satriani เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 13:44:14

ความคิดเห็นที่ 20 คนเรามักไม่ชอบขี้หน้าคนที่เหนือกว่าเรา   ถ้าถูกด่ามากแสดงว่าเหนือกว่าคนอื่น ไว้ให้อเมริกาล่มจม  ก็คงไม่มีใครด่าว่าอีกต่อไป   แต่ก็คงอีกนาน  เพราะว่าคนเราถ้าอยู่สูงกว่าคนอื่น  พอต่อยอดขึ้นไปอีกมันก็สูงกว่าเรื่อยๆ  ที่เห็นชัดก็เรื่องการพัฒนาอาวุธเขาไม่ได้หยุดกับที่   แต่มันคิดอะไรใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ  คนอื่นอย่างดีได้แต่จ้องจะก๊อปปี้หรือพยายามตามให้ทัน   ก็เลยไม่ล้ำหน้าสักที   ถ้าจะพูดให้เป็นธรรมถ้าหากใช้แนวคิดแบบ กรีก  โรมัน  เปอร์เซีย  สเปน  อังกฤษ  ฝรั่งเศส   คือไม่คำนึงถึงศีลธรรมเท่าไร ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองตอนที่อเมริกามีระเบิดนิวเคลียร์และเทอร์โมนิวเคลียร์  (ระเบิดไฮโดรเย่น)ก่อนคนอื่นหลายปี  หากต้องการแผ่อำนาจก็สามารถจะทำได้ตั้งนานแล้ว  โดยทำลายโซเวียตก่อน(รัสเซียทดลองระเบิดเบิดนิวเคลียร์เดือนสิงหาคม 1949 ส่วนระเบิดไฮโดรเย่นทดลองในเดือนสิงหาคม 1953  ส่วนอเมริกามีระเบิดไฮโดรเย่นตั้งแต่ปี พฤศจิกายน  1952  และที่สำคัญในปี 1949 ที่โซเวียตเพิ่งเริ่มทดลองระเบิดนิวเคลียร์นั้นอเมริกามีอยู่ในคลังแล้วถึง 235 ลูกที่มา-วิกิพีเดีย กับhttp://www.nrdc.org/nuclear/nudb/datab19.asp  ส่วนจีนยังไม่ต้องทำอะไรเพราะยังล้าหลังสุดกู่ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 54 20:28:29 จากคุณ : หมอที่ดิน เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 20:23:16

ความคิดเห็นที่ 21 จำนวนระเบิด               us    su      uk     fr     ch 1945 6 -- -- -- -- 6 1946 11 -- -- -- -- 11 1947 32 -- -- -- -- 32 1948 110 -- -- -- -- 110 1949 235 1 -- -- -- 236 1950 369 5 -- -- -- 374 1951 640 25 -- -- -- 665 1952 1,005 50 -- -- -- 1,055 1953 1,436 120 1 -- -- 1,557 1954 2,063 150 5 -- -- 2,218 1955 3,057 200 10 -- -- 3,267 1956 4,618 426 15 -- -- 5,059 1957 6,444 660 20 -- -- 7,124 1958 9,822 869 22 -- -- 10,713 1959 15,468 1,060 25 -- -- 16,553 1960 20,434 1,605 30 -- -- 22,069 1961 24,111 2,471 50 -- -- 26,632 1962 27,297 3,322 205 -- -- 30,823 1963 29,249 4,238 280 -- -- 33,767 1964 30,751 5,221 310 4 1 36,287 1965 31,642 6,129 310 32 5 38,118 1966 31,700 7,089 270 36 20 39,105 1967 30,893 8,339 270 36 25 39,563 1968 28,884 9,399 280 36 35 38,633 1969 26,910 10,538 308 36 50 37,841 1970 26,119 11,643 280 36 75 38,153 1971 26,365 13,092 220 45 100 39,822 1972 27,296 14,478 220 70 130 42,193 1973 28,335 15,915 275 116 150 44,791 1974 28,170 17,385 325 145 170 46,195 1975 27,052 19,055 350 188 185 46,830 1976 25,956 21,205 350 212 190 47,913 1977 25,099 23,044 350 228 200 48,920 1978 24,243 25,393 350 235 220 50,441 1979 24,107 27,935 350 235 235 52,862 1980 23,764 30,062 350 250 280 54,706 1981 23,031 32,049 350 275 330 56,035 1982 22,937 33,952 335 275 360 57,859 1983 23,154 35,804 320 280 380 59,938 1984 23,228 37,431 270 280 415 61,623 1985 23,135 39,197 300 360 425 63,416 1986 23,254 40,723 300 355 425 65,056 1987 23,490 38,859 300 420 415 63,484 1988 23,077 37,333 300 410 430 61,549 1989 22,174 35,805 300 410 435 59,124 1990 21,211 33,417 300 505 430 55,863 1991 18,306 28,595 300 540 435 48,176 1992 13,731 25,155 300 540 435 40,161 1993 11,536 21,101 300 525 435 33,897 1994 11,012 18,399 250 510 450 30,621 1995 10,953 14,978 300 500 400 27,131 1996 10,886 12,085 300 450 400 24,121 1997 10,829 11,264 260 450 400 23,203 1998 10,763 10,764 260 450 400 22,637 1999 10,698 10,451 185 450 400 22,184 2000 10,615 10,201 185 450 400 21,851 2001 10,491 9,126 200 350 400 20,567 2002 10,640 8,600 200 350 400 20,190 US = United States, SU = Soviet Union/Russia, UK = United Kingdom, FR = France and CH = China จากคุณ : หมอที่ดิน เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 20:32:13