ดร.สุเมธ เล่าวิธีทรงงานของ"สมเด็จพระเทพฯ" ไขเบื้องหลังแบรนด์"ภัทรพัฒน์"
|
|
แม้ภัทรพัฒน์(PAT PAT) จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเกิดได้แค่ 2 ปีกว่า แต่ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ทำให้มูลนิธิชัยพัฒนาผู้รับผิดชอบ ที่มีดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เป็นเลขาธิการ เป็นปลื้มเพราะได้ช่วยชาวบ้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อันเป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งพระองค์ท่านพระราชทานชื่อภัทรพัฒน์
ดร.สุเมธย้อนถึงสาเหตุที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีทรงตั้งแบรนด์ภัทรพัฒน์ว่า
เนื่องจากสินค้าของชาวบ้านมีจุดอ่อน 2 3 ประการคือเมื่อผลิตออกมาแล้วมีปัญหาตลาด อีกทั้งมาตรฐานอะไรต่างๆ ก็ไม่มีการควบคุม ประเด็นที่ 2 ที่เป็นจุดอ่อนคือเรื่องแพคเกจจิ้ง หีบห่ออาจจะไม่ดึงดูดนัก และยุคนี้เรื่องแบรนเป็นเรื่องสำคัญ สินค้าดีไม่ดีพอแบรนด์ดี ๆ ก็อาจจะไปได้ก็ได้ ฉะนั้นเลยเข้าไปแก้ปัญหาตรงนี้ให้กับชาวบ้าน พูดง่าย ๆ ทางมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นตัวกลางแทนชาวบ้านและแทนที่จะเงินเข้ากระเป๋าก็นำเงินส่วนนั้นให้กับชาวบ้านที่ได้มูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก ที่ผ่านมาสินค้าของภัทรพัฒน์ขายดีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืด สินค้าแปรรูปทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ผ้า หรือเครื่องจักรสาน ฯลฯ บางอย่างผลิตไม่ทันความต้องการบของตลาดเพราะเป็นวานแฮนด์เมดที่ต้องใช้เวลา ซึ่งตอนนี้ข้าวของภัทรพัฒน์มีวางขายที่ห้างบิ๊กซีทุกสาขา
สมเด็จพระเทพฯทรงอยากให้ภัทรพัฒน์ทำอีคอมเมิร์ซ เราก็ต้องพัฒนาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เราทำอยู่แต่ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะเจ้าหน้าที่มูลนิธิน้อยมาก งานเต็มมือตลอด ดร.สุเมธบอกและว่า แนวทางการพัฒนาภัทรพัฒน์เป็นรูปแบบง่าย ๆ เพราะว่ามองสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่รูปแบบของร้าน เนื่องจากรูปแบบร้านอาจจะมีภาระในเรื่องของการบริหารเรื่องของการจัดการมากขึ้น ดังนั้นต่อไปอาจจะคิดให้มีรถเข็น เล็ก ๆ มีกระจุกกระจิกทุกอย่างอยู่บนนั้น ไปตั้งไว้ที่โน่นที่นี่แล้วแต่ใครหน่วยงานหรือองค์กรไหนจะเปิดโอกาสให้ภัทรพัฒน์ไปขาย
ในฐานะที่ดร.สุเมธเป็นผู้หนึ่งที่ติดตามสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสที่เสด็จไปทรงงานตามที่ต่างๆ นานหลายสิบปี เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนายังทึ่งในพระมานะอดทนของและความตั้งพระทัยของพระองค์ท่าน
คำถามที่เราถามกันเองเหมือนกันว่าสมเด็จพระเทพฯทรงเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเพราะเราเองก็เหนื่อย คราวก่อนไปเชียงรายภาษาชาวบ้านเรียกหืดขึ้นคอแล้วไปบนภูเขา พระองค์ท่านก็เหนื่อยไม่ใช่ไม่เหนื่อย แต่ว่าสิ่งที่ทรงสนพระทัยงานที่จะต้องให้เสร็จ แล้วชาวบ้านรอให้ช่วยเหลืออยู่แล้ว ด้วยหน้าที่ด้วยเจตนารมย์อย่างแรงกล้า เพราะไม่มีอะไรบังคับพระองค์ท่าน ท่านอยากจะหยุดเมื่อไรอยากจะพักเมื่อไหร่ก็เป็นอิสระ แต่ไม่ทรงเคยเลย มีแต่เติมงานขึ้นมา เวลาช่องว่างบางทีเราหยุดถอนหายใจ มีช่องว่างตรงนี้ พระองค์ท่านจะได้ทรงพัก แต่พอว่างก็ทรงเติมงานเข้ามา ทรงหาอะไรมาเติม คือจะทรงทำให้มีงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นแบบอย่างให้กับพวกเรา
แท้ที่จริงสิ่งที่พระองค์ท่านทำให้เรา ทำให้ประเทศชาติในส่วนรวมดีขึ้น เพราะเหตุไฉนเราจะอยู่เฉย ๆ ธรรมชาติของพระองค์ท่านก็เป็นกันเองไม่ถือพระองค์ และสนพระทัยทุกเรื่อง และทรงตามเรื่องตลอด ไม่ลืม ภาพที่เราเห็นพระองค์ท่านจะทรงบันทึกตลอดจำ ซึ่งถ้าเราไม่รักอะไรเราก็ไม่จำ แต่พระองค์ท่านจำได้หมดเลย ชื่อคนชื่อสถานที่ แสดงว่าพระทัยฝังอยู่ตรงนั้น ใฝ่พระทัยตามติด ยากที่จะหาใครปฏิบัติอย่างพระองค์ท่านได้ ที่ผ่านมาใครทำงานผิดไปช้าไปพลาดไปก็ทรงดุบ้างเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็ไม่ได้กริ้ว อาจจะพระอารมณ์ขึ้นหน่อยหนึ่งแล้วก็ว่ากันใหม่ พระองค์ท่านไม่เคยเอาอะไรจากใคร ทรงให้ตลอด เป็นธรรมชาติของพระองค์ท่าน ด้วยเหตุนี้จึงทรงเป็นที่รักของประชาชนทั่วไป แล้วบารมีอันนี้ก็ตกลงมาถึงพวกเราด้วย ไปที่ไหนชาวบ้านชาวช่องก็ต้อนรับขับสู้ ผมอยู่ใกล้พระองค์ท่านก็พลอยซึมซับไปด้วย เราทำตามก็เป็นสิ่งที่ดี และเป็นที่รักใคร่ของผู้คน พระองค์ท่านสนใจทุกอย่างเกษตร วิทยาศาสตร์ สุดจะเจียรนัย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเยอะมาก ผมตามเสด็จมาตั้งแต่ปี 2524 รวม 30 -31 ปี ก็สนุกดีได้เรียนรู้เยอะ พระองค์ท่านมีพระอารมณ์ขันตลอดเวลา ทรงงานเป็นธรรมชาติ
มติชนออนไลน์ วันที่ 01 เมษายน พ.ศ. 2554
ขอจงทรงพระเจริญพระเจ้าข้า
จากคุณ |
:
phahurat
|
เขียนเมื่อ |
:
2 เม.ย. 54 09:26:56
|
|
|
|