ความคิดเห็นที่ 1 สมควรได้รับคำชมหรือคำด่า จากคุณ : ชัย (lakdee) เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:06:24

ความคิดเห็นที่ 2 เขาคงมีการวางแผนกันก่อนตัดสินใจทำน่ะค่ะ ก่อนที่จะปล่อยให้ไปทำร้ายคนอื่นๆอีกต่อไป จากคุณ : คนทาง เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:10:35

ความคิดเห็นที่ 3 คงจำเป็นต้องทำมั้ง? จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:19:33

ความคิดเห็นที่ 4 ขอให้ลูกสาวปลอดภัยด้วยเทอญ จากคุณ : Zen Entania เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:28:39

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าตำรวจไม่ยิงคนร้าย คนร้ายอาจยิงหัวหมอก็ได้นะคะ แล้วถ้าตำรวจไม่หยุดคนร้าย  คนร้ายอาจไปยิงใครต่อใครไม่รู้กี่ศพก็ได้ คุณอำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  ให้คุณหมอหายไวๆนะคะ จากคุณ : Pig_Rangsit เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:38:42

ความคิดเห็นที่ 6 ณ.เหตุการณ์แบบนั้น  เราคงโทษเจ้าหน้าที่ไม่ได้หรอกครับ  เจ้าหน้าที่ก็คงไม่อยากให้ตัวประกันได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรอก   ถ้าไม่มีการตัดสินใจทำอะไรลงไป  อาจเกิดเหตุเลวร้ายมากกว่านั้นก็เป็นได้  ยิ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ร้ายแรง  การตัดสินใจยุติปัญหาไม่ให้ลุกลาม  ซึ่งถ้าไม่ทำอาจไปชนใครหรือทำร้ายใครหลายๆคนก็ได้  หรือถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำแบบนี้  เกิดมีใครตายมากกว่านี้  ผมว่าคงโดนประนามหรือโดนด่ามากกว่าก็เป็นได้ จากคุณ : sinepapa เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:42:22

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าคนร้ายยิงหมอตาย หลาย ๆ คนก็จะบอกว่า ทำไมไม่จัดการคนร้ายซ่ะก่อน ตำรวจก็คงโดนอีก โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง "เป็นธรรมดาในสังคม ไม่ว่าเราทำอะไร ก้อจะมีคนว่าไปหมด ฉะนั้นสิ่งไหนที่คิดว่า ถูกต้อง ก้อทำไปเถอะ " จากคุณ : โมกหลวงสีชมพู เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:44:38

ความคิดเห็นที่ 8 คนร้ายมันคลั่งมันจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น....... ตำรวจนายนั้นทำถูกแล้ว จากคุณ : lee_qd เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:45:32

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่สามารถตัดสินได้ว่าถูกหรือผิดเลยค่ะ เหตุการณ์เฉพาะหน้าขนาดนั้น คนที่อยู่ในเหตุการณ์ มันก็ยากจะตัดสินใจ เพราะเสี่ยงไปทุกกรณีเลยค่ะ  ได้แต่ภาวนา ขอให้อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขี้นอีกเลย ไม่ว่ากับใครก็ตาม - สงสารตำรวจที่ถูกยิง ภรรยากำลังท้องลูกคนที่ 4 - สงสารคนขับแท๊กซี่ ที่ต้องมาตายแบบนี้ ไม่คุ้่มค่ากับชีวิตเลย -  สงสารคุณหมอ และสงสารคุณแม่คุณหมอ ที่ต้องมาเห็นภาพที่กระสุนหลายสิบนัดระดมยิงไปที่รถ ที่ลูกอยู่ในรถนั้น   - สงสารตัวเองที่อยู่ในสังคมด้วยความหวาดระแวง อันตรายรอบด้าน ขอให้คุณตำรวจและ คุณคนขับแท๊กซี่ ไปสู่สุขคตินะคะ จากคุณ : ป้าลายคราม เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:55:19

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 7 "เป็นธรรมดาในสังคม ไม่ว่าเราทำอะไร ก้อจะมีคนว่าไปหมด ฉะนั้นสิ่งไหนที่คิดว่า ถูกต้อง ก้อทำไปเถอะ " ********** ก็จริงอย่างที่ว่านะครับ แต่ยังไม่อยากให้คุณยุส่งแบบนี้ อะไรที่มันจะเป็นอันตรายต่อส่วนรวม  ผู้ปฏิบัติ ต้องคิดให้รอบคอบ คิืดให้รอบด้าน ตำรวจจะหยุดคนร้ายในขณะที่มีตัวประกัน ต้องคิดหนัก แผนต้องรัดกุม ในกรณีนี้ ทั้งคุณ และผม และอีกหลายๆท่าน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้จริง ว่าตำรวจมีการวางแผนกันอย่างดีหรือไม่  อย่างไร..? อย่าเพิ่งยุส่งครับ  ต้องคิดถึงว่าถ้าเป็นคุณ ไม่ใช่หมอ ความรู้สึกคุณจะเป็นเช่นไร...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : วันเนา 54 20:59:31

ความคิดเห็นที่ 11 ใช้ข่าวที่คนร้ายเอามีดแทงตำรวจ แล้วปล้นรถ ยิงแท็กซี่ต่อหรือเปล่าครับ ถ้าข่าวนั้น ตำรวจก็ตัดสินใจถูกต้องแล้ว ไม่งั้นอาจลามแน่ + แพทย์หญิงอาจถูกฆ่าด้วย จากคุณ : KC_CRUSH เขียนเมื่อ : วันเนา 54 21:01:54

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน มีเหตุการณ์เหมืิอนแบบนี้ ที่ปากทางแยกลาดพร้าว ในรถมีตัวประกันทั้งหมด 4 คน ผู้ใหญ่ 1 เด็กเล็กๆ  3 คน ผู้ร้าย 1  ทั้งหมดโดน ตำรวจ รุมซันโว ต้องเรียกแบบนี้จริงๆ เจ้าหน้าที่ยืนรอบๆตัวรถวอลโว รุมยิงเข้าไป ผล ตายหมดทั้ง 5 คน ในยุคนั้น รถวอลโวมีโฆษณา ว่า ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว  เลยมีการล้อเลียน รถวอลโวใหม่ ว่า  ทุกชีวิตวอดวายในวอลโว จากคุณ : q385pd เขียนเมื่อ : วันเนา 54 21:44:12

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนแรกคง คิดว่า แพทย์หญิงตายไปแล้วหละครับ คงไม่เหลืออะไรจะเสียไปมากกว่านี้ จากคุณ : Gin_tonic1989 เขียนเมื่อ : วันเนา 54 22:15:25

ความคิดเห็นที่ 14 แค่สงสัยว่าไอ้ตำรวจที่ชอบโชว์ว่าแม่นปืนมันไปไหนหมดหรือมีเอาไว้แค่ออกงานออกTV แพทย์หญิงโดนไปตั้งหลายนัด จากคุณ : c (tiggernox) เขียนเมื่อ : วันเนา 54 22:25:04

ความคิดเห็นที่ 15 ลองย้อนดูเหตุการณ์ ตั้งแต่แรก คนร้ายมีแต่มีดใช่ไหมค่ะ ที่ฟังข่าวไม่แน่ใจนะ ว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกติงได้เลยค่ะ แล้วก็เอามีด ทำร้ายตำรวจ แล้วแย่งปืนมา ต่อมา เอาปืนนั่นยิงตำรวจ แล้วก็ ยิงคนขับแท๊กซี ใช่หรือเปล่าคะ เอาตั้งกะแรก นะคะ ช่วงที่คนร้ายวิ่งลงมาจากรถ หลังจากยิงตำรวจ ไม่วิสามัญไปเลย รอให้ยิ่งรถแท๊กซี่อีก เคยดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ เคยมีประชาชน ตัดสินใจ วิ่งเข้าไป ชาร์ท คนที่ถือมีดจึ้คนอยู่ แต่ตอนหลังสัมภาษณ์ตำรวจ ตำรวจบอกว่า ห้ามทำแบบนี้ คือ อาจจะได้รับอันตรายทั้งคนที่ถูกจึ้ และ คนที่เข้าชาร์ท ตำรวจมีภาวะการตัดสินใจที่ดีกว่า เพราะได้รับการฝึกฝนมา เหตุการณ์นี้ คิดดูว่า จังหวะที่คนร้ายวิ่งลงจากรถ ทำไม ตำรวจไม่ตัดสินใจวิสามัญไปเลย ที่สงสารที่สุด คือ คนขับแท๊กซี่ จริงๆ สงสารมากๆ ตำรวจกี่คน คนร้ายคนเดียว ไม่เข้าใจ การตัดสินใจที่ได้รับการฝึกฝนมา สงสาร สงสาร คนขับแท๊กซ๊่ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 54 22:50:29 จากคุณ : dady_mim (Dady_mim) เขียนเมื่อ : วันเนา 54 22:50:07

ความคิดเห็นที่ 16 ทำอะไรก็ไม่พอใจเนอะคนไทย จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : วันเนา 54 22:50:44

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าตำรวจ ปล่อยให้คนร้ายหนีไปได้ และอาจจะทำร้าย พญ จนตาย พวกคุณก็จะบอกว่า ตำรวจไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้คนร้ายฆ่าคน ตายเป็นว่าเล่น เปลืองภาษี งานนี้ ถือว่าคุ้ม เพราะคนร้ายฆ่าคนตาย มาแล้วตั้งสองคน ถือว่าคลุ้มคลั่งแล้ว อาจจะทำอะไรรุนแรงกว่านี้ก็ได้ ถ้าตัวประกันตาย ก็ถือว่าคุ้ม พญ ถือว่าเป็นผู้เสียสละ แปลก คนร้ายฆ่าคนตายตั้งสองคน พวกคุณกลับไม่เห็นใจคนตาย และครอบครัว แต่ไปเห็นใจ และเข้าข้าง พญ ที่แค่บาดเจ็บ แถมยังจะด่าตำรวจอีก จากคุณ : กระท่อมชาวไร่ เขียนเมื่อ : วันเนา 54 22:54:33

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 15 คนร้ายเป็นญาติผู้ใหญ่ ของพวกกรรมการสิทธิมนุษยชน ครับ ขืนยิงตายเร็ว เดี๋ยวออกมาแถลงข่าวว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุอีก ดูอย่างไอ้ เดนนรก อย่างจิีบ ไผ่เขียว สิ มันหาว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ดูพวกมันทำสิ ไอ้พวก กรรมการสิทธิมนุษยชน องค์กร ที่ไม่เคยสร้างประโยชน์ให้กับสังคม นอกจาก ทับถมและ ถากถาง จากคุณ : กระท่อมชาวไร่ เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:01:34

ความคิดเห็นที่ 19 แปลก คนร้ายฆ่าคนตายตั้งสองคน พวกคุณกลับไม่เห็นใจคนตาย และครอบครัว แต่ไปเห็นใจ และเข้าข้าง พญ ที่แค่บาดเจ็บ แถมยังจะด่าตำรวจอีก จากคุณ : กระท่อมชาวไร่ ************************ เขียนว่า"พวกคุณ"เลยเหรอ ขึ้นไปอ่านใหม่ทุกคห.เลยนะคะ มีกี่ความเห็นที่ด่าตำรวจ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่า เขาไม่เห็นใจคนตายและครอบครัว จากคุณ : Pig_Rangsit เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:04:46

ความคิดเห็นที่ 20 ไอ้นั่น มันคิดว่า มันกำลังอยู่ในเกมส์  GTA   รึ  !!! ถึงได้ปล้น แทง ยิง แบบในเกมส์........ .......................................................................................... จากคุณ : จักรยานล้อหลุด เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:12:19

ความคิดเห็นที่ 21 คนเรามีสองประเภท คือทำดีแล้วโดนด่า กับไม่ทำhaแล้วด่าคน ...... เชื่อว่า จนท. ตัดสินใจแบบนั้นคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ณ จุดนั้น จากคุณ : อยากจะโปร เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:12:37

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนที่ยิงเจ้าหน้าที่รู้รึเปล่าล่ะ ว่า มีตัวประกันอยู่ในรถ.............. ในอีกแง่นึง เจ้าหน้าที่ก็ทำถูกแล้ว ที่วิสามัญ  สมควร  กระหน่ำยิงเลย ................... แต่ในอีกแง่ ถ้าเจ้าหน้าที่รู้ว่ามีตัวประกัน แล้วยังกระหน่ำยิง อันนี้ เจ้าหน้าที่ระวัง กระแสสังคมนะ..................... จากคุณ : จักรยานล้อหลุด เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:15:11

ความคิดเห็นที่ 23 =..=* คนร้ายทำอะไรคนอื่นไม่ได้มากกว่าก็ดีแล้ว ยังจะอะไรมากมายอีก.. จะให้ทุกคนทำงานให้เพอร์เฟกต์ถูกใจประชาชนทุกคนทุกครั้งไปก็ไม่มีหรอก ผู้ที่เสียไปแล้วและน่ายกย่องก็ยกย่องซะ จะไปด่าตำรวจทำไมล่ะ จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:25:27

ความคิดเห็นที่ 24 สมควร วิสามัญค่ะ แต่สงสารตำรวจ คนขับแท๊กซี่ แล้วก็แพทย์หญิง จากคุณ : petite.ciel เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:27:02

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วคุณคิดยังไง จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:31:30

ความคิดเห็นที่ 26 นึกถึงสมัยที่หน่วยอรินทราช (หรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ) ที่ไปช่วยตัวประกัน ตอนนั้นผู้ร้ายขับหนีไปทางเมืองกาญจน์ ช่อง 9 คุณภิเษก ศรีสวัสดิ์ ได้รายงานข่าวการช่วยเหลือตลอด แบบถ่ายทอดสดด้วย ปรากฎว่า ตอนบุกไปช่วยตัวประกัน หน่วยนี้ก็ระดมยิงเข้าไปเหมือนกันค่ะ แต่ก็พลาดไปโดนเบ้าตา ตัวประกันที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนนึง ซึ่งท่านนี้ดีมาก เสียสละตัวเองให้คนร้ายจับแทน แล้วปล่อยคนอื่นๆ ไป ตอนหลังไปเสียชีวิตที่ รพ ตำรวจ ........................... ทางตำรวจ ถ้าประสานงานกับทางทหาร จัดทีม สไนเปอร์มาช่วยเสริมทัพ ตำรวจ "อาจจะ" ช่วยอะไรได้มากกว่านี้นะคะ ตำรวจไม่ได้ฝึกมาแบบ โป้งเดียวจอด ต้องทหารเฉพาะหน่วยเท่านั้นค่ะ ปล ออกตัวก่อนนะคะ เรื่อง ทหารกับสไนเปอร์ ไม่ได้เจาะจงไปเรื่องใด แต่เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ทราบค่ะ ว่ามีหน่วยนี้ในเมืองไทย แล้วยิงแม่นมาก เข้าศรีษะ นัดเดียวจอด น่าจะมาช่วยได้น่ะค่ะ จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : วันเนา 54 23:32:22

ความคิดเห็นที่ 27 ขอให้คุณหมอผู้หญิงหายไวๆ แข็งแรงเหมือนเดิมนะคะ จากคุณ : ซาตานหมูน้อย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 00:27:22

ความคิดเห็นที่ 28 สมควรวิสามัญครับ  เพราะคนร้ายมีอาวุธ ยิงแท๊กซี่เสียชีวิตมาแล้ว ยังโชคดีที่เขาไม่ทำร้ายคุณหมออีกคน และตอนนี้คุณหมอก็ปลอดภัยแล้วจากลูกหลง จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 00:40:25

ความคิดเห็นที่ 29 มันอยู่ที่ประสิทธิภาพมากกว่า ถ้าแน่ใจว่าตัวเองยิงแม่น มีหน่วยแม่นปืน ก็ยิงไปเถอะ แต่ถ้าไม่มั่นใจ ไม่แม่น แล้วไปทำเค้าตาย หรือกระสุนไปโดนเค้าตาย หลายคนมองว่า ยิงๆไปเถอะ ดีกว่าไปฆ่าคนอื่นอีก นี่ให้เป็นลูกสาวตัวเองบ้างแล้วจะรู้ ตำรวจ ต้องมีประสิทธิภาพกว่านั้น ตำรวจไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะเให้ใครตาย หรือเลือกเสียสละตัวประกันได้ เพราะถ้าแบบนั้น ใครก็เป็นตำรวจได้ แค่ไม่สามารถจับคนร้าย ที่ยิงคนตาย ได้จนบานปลาย ไปยิงคนอื่นๆ อีก แค่นี้ก็น่าอับอายแล้ว ตำรวจไทยแย่ มานานแล้วกับเรื่องคนร้ายจับ ตัวประกันเนี่ย ไม่รู้ฝึกมากันยังไง หรือเก่งแต่ รีดไถชาวบ้าน ที่ทำผิดกฏจราจร (แบบเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง) ป.ล. ผมแค่เบื่อสื่อที่ชอบอวยกันว่า ตำรวจทำดีที่สุดแล้ว ทำดีที่สุดแล้ว ย้ำๆกันจนคิดว่า คนดูคิดเองไม่ได้ ป.ล.2 อาจแรงไปหน่อยขออภัย แต่เหตุการณ์นี่ทำผมรู้สึกว่า ความปลอดภัยใน ชีวิตประชาชนมันน้อยนิดจัง ต้องติกันบ้าง แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 00:45:32 จากคุณ : YOKBOA เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 00:43:19

ความคิดเห็นที่ 30 แพทย์หญิงถูกยิงทั้งหมด 4 นัด คะ ไม่ใช่ 1 นัด -_-" นัดแรก เข้าที่ท้อง ทะลุเข้าไปค้างในกระเพาะ ,นัดที่2 เข้าที่หลัง..แต่ค้างในกล้ามเนื้อ, นัดที่3 เข้าที่รักแร้ นัดที่4 เข้าบริเวณต้นแขนแถวศอกค้างในกล้ามเนื้อเหมือนกัน พี่เค้าโชคดีมากๆที่ไม่ถูกตำแหน่งสำคัญเลย ถ้าคนที่ซวยกว่านี้โดน 4 นัดคงตายไปแล้วอ่ะ จากคุณ : คนรู้จัก (LICKISS) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 01:19:56

ความคิดเห็นที่ 31 แพทย์หญิงถูกยิงทั้งหมด 4 นัด คะ ไม่ใช่ 1 นัด -_-" นัดแรก เข้าที่ท้อง ทะลุเข้าไปค้างในกระเพาะ ,นัดที่2 เข้าที่หลัง..แต่ค้างในกล้ามเนื้อ, นัดที่3 เข้าที่รักแร้ นัดที่4 เข้าบริเวณต้นแขนแถวศอกค้างในกล้ามเนื้อเหมือนกัน พี่เค้าโชคดีมากๆที่ไม่ถูกตำแหน่งสำคัญเลย ถ้าคนที่ซวยกว่านี้โดน 4 นัดคงตายไปแล้วอ่ะ จากคุณ : คนรู้จัก (LICKISS) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 01:21:38

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนฟังข่าวภาคเที่ยงช่อง spring news ได้ยินว่าคุณตำรวจที่ขับรถไล่ตามรถคนร้าย มีลูกชายนั่งอยู่ในรถด้วย อายุยังไม่ถึง 10 เลยมั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ต้องนับถือคุณตำรวจคนนี้มาก ๆ ที่ยอมเสี่ยงชีวิตของลูกตัวเองด้วยเพื่อหน้าที่ ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะเป็นตำรวจฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ส่วนคุณคนขับแท๊กซี่คนนั้น ได้ยินจากข่าวว่า ฟังรายงานเหตุการณ์จากวิทยุ แล้วอยู่แถวนั้นพอดี จึงตัดสินใจขับรถขวางคนร้าย จนโดนคนร้ายยิงอย่างที่เป็นข่าว ฟังแล้วก็ได้แต่สลดใจ จากคุณ : verify by me เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 01:21:41

ความคิดเห็นที่ 33 แพทย์หญิงถูกยิงทั้งหมด 4 นัด คะ ไม่ใช่ 1 นัด -_-" นัดแรก เข้าที่ท้อง ทะลุเข้าไปค้างในกระเพาะ ,นัดที่2 เข้าที่หลัง..แต่ค้างในกล้ามเนื้อ, นัดที่3 เข้าที่รักแร้ นัดที่4 เข้าบริเวณต้นแขนแถวศอกค้างในกล้ามเนื้อเหมือนกัน พี่เค้าโชคดีมากๆที่ไม่ถูกตำแหน่งสำคัญเลย ถ้าคนที่ซวยกว่านี้โดน 4 นัดคงตายไปแล้วอ่ะ จากคุณ : คนรู้จัก (LICKISS) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 01:21:44

ความคิดเห็นที่ 34 คนร้ายฆ่าคนมาแล้วสองศพ ถ้าตำรวจไม่ทำอะไร หมอหญิงอาจเป็นศพที่สาม ตำรวจคงตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้ว ลงมือเลยดีกว่า ดีกว่าจะมีศพเพิ่มอีกเป็น 4 เป็น 5 จากคุณ : ปรานทยา เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 01:31:57

ความคิดเห็นที่ 35 พล.ต.ต.วิชัยกล่าวต่อว่า เมื่อนายธาดาขับรถหลบหนีมาถึงบริเวณแยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ.ฝ่ายสืบสวนพญาไท และอีกหลายหน่วยก็ได้เข้าไปสกัดจับ บล็อกรถเอาไว้ จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ.เข้าไปชาร์จ ก่อนจะช่วยเหลืออุ้ม พญ.พิภัทราออกมาจากรถได้ แต่ก็ถูกนายธาดายิงใส่จนได้รับบาดเจ็บไปด้วย ขณะเดียวกัน นายธาดาก็พยายามยิงต่อสู้กับตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องวิสามัญฆาตกรรมนายธาดาดังกล่าว ที่มา http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000046375 อะไรเนี่ย มีชาร์จแพทย์หญิงออกมาก่อนด้วยเหรอเนี่ย  5555 จากคุณ : ll - N o b U - ll เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 01:50:09

ความคิดเห็นที่ 36 หยุดนะอย่าขยับ ยกมือขึ้น พวกเราได้ล้อมไว้หมดแล้ว........ ประมาณนี้น่ะหรือครับ...นี่ไม่ใช่ในละครนะครับ จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 07:52:31

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ.ฉิงฉิง ชุดนั้นหน่วย นเรศวร 261 ครับ สังกัด กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หนึ่งในหน่วยจู่โจมเก่งที่สุดในไทย จากคุณ : reenbun เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 08:00:03

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าปล่อยไป จะมีอีกกี่คนที่ต้องตาย รวมถึงคุณหมอเอง อาจจะโดนยิงหัวก็ได้ คิดว่า ตำรวจน่าจะทำดีที่สุดแล้ว จากคุณ : blueberryinlove เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 08:03:49

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าดิฉันนั่งอยู่ในรถคันนั้น ก็อยากให้ตำรวจหยุดคนร้ายนะคะ ตอนที่คนร้ายจับหมอเป็นตัวประกัน คนร้ายคงไม่เหลือสติไว้ต่อรองกับใครแล้ว ยังไงคนในรถก็อันตรายจากคนร้ายอยู่ดีและถ้ารู้ว่ามีคนดีๆตายแล้วสองคน สนับสนุนตำรวจให้รีบหยุดคนร้ายค่ะ ไม่อย่างนั้นเหยื่ออาจจะมากกว่านี้ แต่ถ้าใช้พลแม่นปืนน่าจะดี ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวตำรวจและแท๊กซี่ที่สูญเสียด้วยค่ะ ขอให้คุณหมอปลอดภัย จากคุณ : richly @ money เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 09:03:49

ความคิดเห็นที่ 40 เสียใจกับผู้ที่สูญเสียทุกท่าน  ให้ครอบครัวเข้มแข็งเร็ววัน  และดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ (ไม่รู้ว่าทางรัฐจะช่วยเหลือเยียวยามากน้อยเพียงใด) ขอให้แพทย์หญิงหายป่วยโดยเร็ว เรานึกถึงผู้โดยสารต่างชาติสองคนในรถแท็กซี่  ดีนะที่ไม่โดนยิงไปด้วย  ป่านนี้หายตกใจขวัญเสียหรือยังไม่รู้ จากคุณ : aicm เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 10:16:35

ความคิดเห็นที่ 41 น่าจะเอาคนที่ยิงเสธแดงมาจัดการนะ จากคุณ : ตี๋ไม่เล็ก เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 11:58:45

ความคิดเห็นที่ 42 คนร้ายอยู่ในรถ พร้อมตัวประกัน เป้าเคลื่อนที่นะคะ แถมมีกำบังมิดไปหมด นาทีนั้นตำรวจต้องตัดสินใจว่าจะหยุดคนร้ายหรือจะปล่อยไป ตัวประกันมีสิทธิ์ถูกยิงหัวได้ทุกเมื่อเนื่องจากคนร้ายฆ่ามาแล้ว 2คน จะฆ่าอีกคนก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ตัวประกันไม่ใช่เพื่อต่อรองแล้วค่ะนาทีนั้น ตำรวจตัดสินใจถูกต้องที่ต้องหยุดคนร้ายให้ได้ ถ้าปล่อยไปอาจได้ศพตัวประกันแทน ขอให้พญ.ท่านหายป่วยไวๆค่ะ ขอให้ดวงวิญญาณที่กล้าหาญของตำรวจอีกนายและคุณ taxi ไปสู่สุคติ จากคุณ : พลูโต_มาดริด เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 12:28:59

ความคิดเห็นที่ 43 ฝากบอกถึงโจรที่คิดจะจับตัวประกันว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องจับตัวประกันให้ลำบากแล้ว หนีไปคนเดียวจะคล่องตัวกว่า เพราะถึงมีตัวประกันหรือไม่มี ....มันก็ค่า(ฆ่า)เท่ากันสำหรับเมืองไทย ถ้าคิดจะจับตัวประกันเพื่อต่อรองในเืมืองไทย...คิดผิดแล้วค่ะคุณโจรทั้งหลาย แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 14:22:51 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 14:20:58 จากคุณ : สาวรำวง (สาวรำวง) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 14:20:00

ความคิดเห็นที่ 44 ในความคิดของผม ตำรวจไม่น่ารีบตัดสินใจระดมยิงแบบนั้น เพราะแน่นอนตัวประกันจะต้องโดนลูกหลงไปด้วย จะเห็นว่าตำรวจระดมยิงทุกทิศทุกทาง ไม่ใช่เฉพาะยิงทางด้านคนขับเท่านั้น ยังยิงเข้าทางประตูคนนั่งและด้านหลังหลายนัด แล้วอย่างนี้ตัวประกันจะไม่โดนลูกหลงได้ยังไง? นี่โชคดีมากที่ตัวประกันไม่ถึงตาย ถ้าตายละก็ งานนี้ตำรวจคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ผมอยากให้ตำรวจได้นำเหตุการณ์นี้มาวิเคราะห์และฝึกฝน หากลยุทธ์ที่ถูกต้องในการจัดการคนร้ายในสถานการณ์แบบเดียวกันนี้ในอนาคต เพราะการยิงแบบนี้ แน่นอนคนร้ายตายแน่ แต่ตัวประกันล่ะ? ตำรวจไม่คิดหรือว่าเค้าก็มีชีวิต เค้าไม่มีส่วนผิดอะไรเลย ทำไมเค้าต้องรับเคราะห์ไปด้วย เมืองนอกเค้าคิดว่า ปล่อยคนผิด100คน ยังดีกว่าฆ่าคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว แต่นี่ตำรวจไทยคิดว่า ฆ่าคนผิดให้ได้ คนบริสุทธิ์โดนลูกหลงก็คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อย่างนั้นหรือ? จากคุณ : Shy-yai เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 14:35:59

ความคิดเห็นที่ 45 ทำไมช่วงนี้ ได้ยินข่าวตำรวจดีๆ มากขึ้นนะ จากคุณ : dot_face เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 14:53:43

ความคิดเห็นที่ 46 ไปกันใหญ่แล้ว แปลกที่หลายคนยังคิดว่าการระดมยิงเป็นสิ่งที่ถูกต้องในขณะนั้น เอามาให้อ่านกันครับ http://www2.bpp.go.th/paru3/negotiation/ 9. วิธีปฏิบัติเมื่อคนร้ายไม่เจรจาด้วย        คนร้ายอาจจะไม่สนใจที่จะพูดหรือตอบคำถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการเจรจาในเบื้องต้นมีแนวทางในการปฏิบัติของผู้เจรจาเบื้องต้นดังต่อไปนี้       9.1 ให้ดำเนินการพูดคุยกับคนร้ายโดยสอบถามคนร้ายต่อไป แม้ว่าคนร้ายจะเงียบไม่ยอมพูดตอบออกมา       9.2 ห้ามพูดขู่เข็ญ ข่มขู่ คนร้ายไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ       9.3 แนะนำวิธีการที่คนร้ายจะสามารถโต้ตอบการเจรจากับผู้เจรจาได้ แทนการพูดโต้ตอบ เช่น การพยักหน้า หรือการโยนอาวุธออกมา หรือการเคาะข้างฝาหรือประตู 10. การปฏิบัติในถานการณ์ “การเจรจาไม่ได้” หรือ “การเจรจาล้มเหลว”       ในบางเหตุการณ์เป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถเจรจาได้ เช่น คนร้ายไม่ยอมเจรจาเลย หรือเจรจาไปแล้วแต่ล้มเหลว คนร้ายได้เริ่มต้นทำร้ายหรือฆ่าตัวประกัน หรือทำลายเผาทรัพย์สินหรือกระทำการรุนแรงอย่างใดอย่างหนึ่งลง ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ การตัดสินใจในการดำเนินการต่อไปเป็นความรับผิดชอบของผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ในขณะนั้น อาจจะสั่งให้หน่วยกำลังหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจอื่นเข้าใช้แก๊สน้ำตา โจมตีด้วยอาวุธหรือเข้าจับกุมแย่งอาวุธคนร้าย เป็นต้น แต่ผู้เจรจาในเบื้องต้น (เมื่อผู้เจรจาหรือหน่วยที่รับผิดชอบยังมาไม่ถึง) ก็ต้องพยายามหาทางพูดคุยหรือเจรจากับคนร้ายต่อไป เพื่อเหตุผลดังต่อไปนี้       10.1 เป็นการเบี่ยงเบนหรือทำลายสมาธิของคนร้ายในการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่รุนแรง       10.2 ทำให้คนร้ายเกิดความพะวักพะวน       10.3 เพื่อเป็นการถ่วงเวลาให้ผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยช่วยเหลือตัวประกันได้มาถึงที่เกิดเหตุ       10.4 เพื่อเป็นการหาหนทางเลือกอื่นๆจากคนร้าย       10.5 คนร้ายอาจจะยอมพูดคุยเจรจาด้วยในที่สุด มีขั้นตอนเขียนไว้อย่างชัดเจน ที่เหลือก็คือว่าได้ทำตามรึปล่าว สุดท้ายคงต้องรอฟังผู้ที่ตัดสินใจในขณะนั้นว่ามีเหตุผลเพียงพอรึไม่ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเจตนาดีและไตร่ตรองรอบคอบพอแล้ว มีเหตุอันสมควรให้ทำ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าทำไปโดยความวู่วาม ไม่มีแบบแผนนี่เรียกว่าแย่มาก คงต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงเท่านั้น เพราะฉะนั้นคนที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่มาพูดว่า "ทำถูกแล้ว" "ดีที่สุดแล้ว" ผมว่ารอก่อนดีกว่าครับ ได้แต่แสดงความเสียใจกับการสูญเสียของพลเมืองดีและตำรวจไปอีกสองคน ถ้ามีความผิดพลาดจริงอย่างไรก็ขอให้นำไปปรับปรุงและเป็นบทเรียนต่อไป จากคุณ : พิเศษไม่ใส่ผักโรย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 15:12:38

ความคิดเห็นที่ 47 ลูกปืนคนร้ายมันหมดไปแล้ววว จากคุณ : uk perspective เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 15:13:49

ความคิดเห็นที่ 48 วิสามัญคนร้ายเพื่อหยุดการกระทำคนร้ายไม่ว่า แม้กระทั้งเพื่อความปลอดภัยของหมอเอง แต่ประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจเอง ดีมากน้อยแค่ไหน จะวิสามัญคนร้ายให้หยุดเนี่ย ถึงยิงกัน 30 กว่านัดเลยหรือ ที่ยิงๆ ไปเนี่ยรู้หรือเปล่าว่ามีตัวประกัน หรือเพราะอะไร ตำรวจฝึกยิงปืนกันแค่ไหน ยิงหวังผลได้หรือเน้นยิงเยอะไว้ก่อน ตัดสินใจวิสามัญถูกแล้ว แต่ไร้ประสิทธิภาพ ผลที่ตามมาเลยเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 16:02:08 จากคุณ : m4cool เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 15:32:38

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณคุณ reenban มากนะคะ ที่มาแก้ไขชื่อหน่วย นี่อ่ะค่ะ อยากให้หน่วยแบบนี้มาช่วยในสถานการณ์แบบนี้ แต่คงไม่ได้สแตนบายด์ไว้ 24 ชม จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 19:02:28

ความคิดเห็นที่ 50 หลังจากที่ตำหนิกันอย่างเมามันแล้ว ถ้าต่อท้ายด้วยคำแนะนำดีๆ ก็จะมีประโยชน์ไม่น้อยต่อการปฏิบัติงานต่อๆไปของเจ้าหน้าที่นะครับ จากคุณ : แป๊ป (Errantry) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 19:33:00

ความคิดเห็นที่ 51 เอาตามลำดับ เท่าที่ตามข่าวรวมทั้งที่ผ่านจุดเกิดเหตุมาหลังจากเรื่องเกิดแล้ว พอดีผมกะลังจะไปสะพานกรุงธนพอดี  ไอบ้านี่มันจี้รถทหารที่เกษียณแล้วมาจากบางกรวย หลังจากนั้นมันวิ่งข้ามสะพานซังฮี้มาตรงวังศุโขทัย โดยมีตำรวจบางพลัดซึ่งได้วอรับแจ้งขี่มอไซค์ตามมาตลอดทาง 3 คน แต่ไม่ทัน ทีนี้พอถึงแยกตรงพรรคชาติบรรหาร มันลงไปในป้อมจราจร โดยที่ตำรวจผู้เคราะห์ร้ายอยู่ในป้อม ไม่ทราบเรื่องอะไรมันมาถึงก็แทงตำรวจเลย แล้วเอาปืนของตำรวจยิงตำรวจตาย 1 นัด  แล้วมันก็วิ่งตรงไปทางรถไฟสามเสนผ่านหน้าสนง.เขตดุสิต แล้วมันติดไฟแดงพอดี ปรากฎว่า มีตำรวจงานปราบปรามยาเสพติดมาทำธุระอยู่หน้าสนง.เขต ได้รับแจ้งจากวัยรุ่นที่ขี่มอไซค์แล้วเห็นเหตุการณ์มันยิงตำรวจที่ป้อม บอกให้ทราบ ตำรวจคนนี้พอดีขับรถตำรวจมาด้วยเลยขับรถไล่ตามมันไปเพราะว่าไฟเขียวพอดี จับไม่ทัน  หลังจากนั้นมันเลี้ยวขวาตรงทางรถไฟแล้วไปเลี้ยวซ้ายเพื่อไปเสาวรีย์ มันวิ่งข้ามทางรถไฟแล้วย้อนศรไปวิ่งอีกฝั่ง ทำให้ก่อนข้ามแยกตึกชัย ไปเฉี่ยวเอาแท๊กซี่เคราะห์ร้ายที่อยู่เลนขวาสุดและพยายามะหลบเข้าเลนกลางแต่รถเยอะ และมีผู้โดยสารมาสองคน พอกระจกรถแท๊กซี่ด้านคนขับผ่านมาข้างๆมันพอดีหลังจากเฉี่ยวชนแล้ว มันยิงสวนกระจกนัดเดียวโดนคนขับตาย ทำให้คนขับเสียการควบคุมรถเบี้ยวไปปีนเกาะกลางถนน เลยเกาะกลางไปโดนรถหมอผู้หญิงที่อยู่เลนขวาสุดที่รอเลี้ยวตรงแยกตึกชัยพอดี เป็นรอยเฉี่ยวนิดหน่อย หมอผู้หญิงก็เห็นบอกว่าจะลงไปเคลียร์รถที่ชนและลงไปช่วยคนขับแท๊กซี่ด้วย เพราะเห็นหน้าฟุบข้างลงไปตรงกระจก ไอบ้านั่นมันเลยลงจากแคมรี่คันเดิม ไปจี้หมอผู้หญิง ที่มากับแม่ แต่แม่หนีทัน แล้วจี้หมอผู้หญิงให้ไปนั่งด้านหลัง แล้วมันยังยิงรถตำรวจปราบยาเสพติดที่ขับตามมาด้านหลังไปสามนัด แต่ตำรวจไม่เป็นไรแต่กระจกหน้าเป็นรู สรุปว่าถึงตอนนี้มันใช้กระสุนไปห้านัดแล้ว แล้วพอมันยิงรถตำรวจเสร๊จมันก็กลับขึ้นไปบนรถขับไปทางเสาวรีย์ พอมันข้ามแยกตึกชัยปุ๊ป ตำรวจสน.พยาไท ที่ประจำแยกอาจจะเห็นเหตุการณ์รวมถึงได้วิทยุรับแจ้งด้วย ก็ออกไปขวางมันบนถนน มันเลยขับชนตำรวจไปเลย ชนเสร็จมันวิ่งไปเสาวรีย์แต่เวลานั้นตำรวจหลายหน่วยงานได้วิทยุรับแจ้งมาดักรออยู่ที่เสาวรีย์เพียบอยู่แล้ว  ตำรวจเลยยิงยางรถ ไปต่อไม่ได้ แล้วก็ยิงรถแคมรี่ของหมอผู้หญิงซะพรุน  35 รู  ไอบ้ายิงโต้ตำรวจออกมานัดนึง สรุปใช้หมดแม๊ก 6 นัด ส่วนหมอโดนไปสี่นัด อย่างน้อยๆ สามนัดเป็นของตำรวจที่ยิงใส่รถแน่ๆ  โดยที่ตำรวจที่ยิงใส่รถเข้าใจว่าไม่รู้ว่ามีหมออยู่ในรถด้วย เนื่องด้วยเหตุการณ์มันต่อเนื่องและเร็ว  เพราะตำรวจที่รู้ว่ามีหมออยู่ในรถนั้นเป็นตำรวจที่ไล่ตามมา เพราะแม่ของหมอได้บอกว่าลูกสาวอยู่ในรถด้วย แต่เข้าใจว่ากว่าที่แม่หมอจะบอกตำรวจว่าหมออยู่ในรถ ไอบ้ามันถูกยิงไปแล้วด้วยมั้งจากตึกชัยไปเสาวรีย์แปปเดียวเอง วิทยุบอกไม่ทันหรอก เหตุการณ์จบไปก่อนที่แม่หมอจะบอกตำรวจแล้ว สรุป คนขับแท๊กซี่ซวยจริงๆครับ ไม่ได้ไปขวางเพื่อช่วยแต่อย่างใด แค่ขับผ่านมาอยู่เลนขวาสุดแล้วออกซ้ายไม่พ้น คันหน้าแท๊กซี่เป็นรถเก๋งหลบพ้นเลยโชคดีไป แท๊กซี่หลบไม่พ้นไอบ้ามันคงเมายานึกว่าแท๊กซี่จะมาทำร้ายมันเลยยิงสวนไปเลยนัดเดียวตอนที่รถสวนกันพอดี  ส่วนตำรวจที่ป้อมจราจรที่ถูกยิงก็ซวยเช่นกันครับเพราะไม่ทราบมาก่อน อยู่ดีๆมันก็จอดรถที่ป้อมแล้วลงไปแทงตำรวจเพื่อที่จะเอาปืนดื้อๆเลยครับ  แต่ตำรวจที่ถูกมันชนนั้นเจตนาหยุดรถมันเลยเนื่องด้วยได้รับแจ้งแล้ว แต่มันก็ชนไป  ส่วนตำรวจปราบปรามยาเสพติดก็โชคดีไป โดนยิงหน้ารถไปสามนัด ตอนที่ไล่ตามมาแล้วมันยิงแท๊กซี่เสร็จมันเห็นตำรวจตามมาก็ยิงใส่ไปสามนัด แต่ไม่โดนคน จากคุณ : miroslav เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 20:40:10

ความคิดเห็นที่ 52 ณ จุดนั้น ถือว่าถูกค่ะ แต่วิธีการ ... ไม่น่าใช่ ตำรวจตามโรงพัก ไม่ได้ฝึกยิงปืนจนแม่นเป๊ะแน่นอนค่ะ ตำรวจที่แม่นปืนจริง ๆ อย่างที่ความเห็นบนบอกค่ะ นเรศวร 261 ต้องยิงให้ได้แม่นขนาดที่ว่าเปรี้ยงเดียวเข้าหัวค่ะ เพราะถ้าจำไม่ผิด หน่วยนี้ถวายอารักขาด้วยค่ะ จริง ๆ สตช. น่าจะให้แต่ละโรงพักมีการฝึกทบทวนการปฏิบัติหน้าที่บ่อย ๆ นะคะ กรณีเกิดเหตุการณ์สำคัญที่ต้องตัดสินใจเฉพาะหน้า อย่างกรณีนี้ จะได้ไม่เป็นที่กังขาของคนทั่วไปค่ะ จากคุณ : natgabig เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 21:19:37

ความคิดเห็นที่ 53 ตำรวจไทย ขาดการฝึกฝนครับ นี่ยังแค่ BB Gun นะครับ ถ้าเปนของจริง ตายยกโรงพักแน่ -"- จากคุณ : Meow-Meow (piggy_and_kitty) เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 54 23:41:24

ความคิดเห็นที่ 54 ที่อ่านมาผมเห็นด้วยกับคห. 29 มากที่สุด คิดเหมือนกันเลยเลยครับ และสำหรับหลายคนที่คิดว่าถ้าไม่รีบเด็ดหัวคนร้าย พญ.อาจโดนคนร้ายสอยก่อนก็ได้ ก็เลยคิดว่าให้ตร. สาดกระสุนมากที่สุดเท่าที่ทำได้โดยที่พญ. อยู่ในรถ หมายความว่าถ้าพญ.กับคนร้ายตายพร้อมกันก็ถือว่าเสมอตัวเพราะยังไงก็คิดว่าอาจโดนคนร้ายสอยอยู่แล้ว แต่ถ้าพญ.รอดมาได้ก็ถือว่าโชคดีไป "คิดกันอย่างนั้นหรือครับ" "ชีวิตผู้หญิง 1 คน คุณตีราคาเท่าไหร่ครับ" พญ.อาจไม่มีค่ามากมายสำหรับคุณ แต่สำหรับครอบครัว ญาติพี่น้องของเขา ไม่สามารถประเมินค่าได้หรอกครับ พูดง่ายๆคือ พญ.ไม่ใช่ญาติของคุณ และการวิสามัญก็ต้องวางแผนให้รอบครอบ รัดกุมครับ ยางล้อรถก็ยิงไปแล้ว ไปไหนไม่ได้ไกลหรอกครับ และหน่วยพิเศษที่ฝึกมา ไม่ทราบว่าฝึกมาทำถ้วยอะไรเหรอครับ ประสิทธิภาพมีแค่นี้เหรอครับ หรือไปเที่ยวสงกรานต์หมด ปล่อยให้ตร.จราจรปฏิบัติหน้าที่ จากคุณ : Sir Buyachita เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 01:39:10

ความคิดเห็นที่ 55 ผมขอเสนอแนวทางการแก้ไขที่จะสามารถจัดการเรื่องความสามารถโดยการยกเลิกกฏหมายให้ใส่หมวกกันน็อคและเปิดไฟหน้าและเข็มขัดนิรภัยครับ  ไม่อย่างนั้นความสามารถจะลดลงไปเรื่อยๆ  เพราะดูอย่างหน่วย 261 ความสามารถไม่ได้ลดลงกลับมีแต่เพิ่มมากขึ้นชาวบ้านมั่นใจเพราะว่าไม่ต้องมายุ่งกะ หมวก ไฟ เข็มขัด!!!!! จากคุณ : Dinsosamsi เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:22:14

ความคิดเห็นที่ 56 ขั้นตอนของกระบวนการก็โอเค แต่ประสิทธิภาพไม่ได้เรื่อง    คนร้ายเมายาบ้าที่โดนวิสามัญยังยิงแม่นกว่าซะอีก จากคุณ : yabeer เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 13:48:51

ความคิดเห็นที่ 57 สรุปว่า วิสามัญโดยที่ไม่รู้ว่ามีตัวประกันหรือไม่ (อารมณ์ค้างเนื่องจากตำรวจถูกแทงมาด้วย) ขอให้เจริญตำรวจไทย จากคุณ : ll - N o b U - ll เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 14:27:36

ความคิดเห็นที่ 58 อยากให้บางคห.โดนมั่งหวะ ปากดีทั้งนั้น จากคุณ : แพมเพิ่ด เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 15:10:41 A:58.64.65.44 X: TicketID:313276

ความคิดเห็นที่ 59 โดนไป 4 นัดนะ ถ้าเป็นลูก เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เราล่ะ จะคิดว่าดีแล้วจริงเหรอ... ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ คิดรอบคอบแล้วใช่มั๊ย ระดมยิงให้ตายๆไปมันง่ายนะ ใครๆก็ทำได้ ปาฏิหารย์จริงๆที่รอดมาได้ จากคุณ : With LoVe and Golden Fish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 15:23:19

ความคิดเห็นที่ 60 คุณตำรวจเค้าทำหน้าที่ของเค้าดีที่สุดแล้วล่ะ แต่เหตุผลที่บอกว่า ไม่รู้ว่าแพทย์หญิงอยู่บนรถนั้น ฟังแล้วดูไม่ดีเลยอ่ะ ถ้าเสียหมอหนึ่งคนไป คงจะเสียผู้คนในอนาคตอีกเยอะ สงสารที่สุดก้อคือคุณหมอ และตำรวจที่เสียชีวิต จากคุณ : Medic Love เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 16:07:05

ความคิดเห็นที่ 61 งานนี้รัฐบาล จะต้องเยียวยา คุณหมอ คนนี้ เป็นอย่างดี จากการได้รับบาดเจ็บ จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แต่่ ก็ไม่สมควรเอาผิด หรือลงโทษทางวินัยกับตำรวจที่พยายามหยุดคนร้าย แต่เห็นสมควร ให้ส่งไปรับการฝึกอบรม ในหลักสูตรการช่วยหรือชิงตัวประกัน และการอบรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจะได้ตำรวจที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นกว่านี้ สำหรับคุณหมอ  โดนยิงจากกระสุนลูกหลงของตำรวจแน่นอน ดูจากการให้สัมภาษณ์ของเธอทีวีช่อง 3 เมื่อกี๊นี้เอง แสดงว่าตำรวจอาจไม่ทราบว่ายังมีตัวประกันอยู่ข้างในรถอีกคน เนื่องจากคนร้ายไล่แม่ของคุณหมอลงจากรถไปก่อนและบังคับให้คุณหมอ เธอนั่งในตำแหน่งคนขับ และให้บังคับหมอบลง  เลยทำให้เธอรอดตาย โดยโดนยิง 4 นัดแต่ไม่โดนจุดตาย    เราจึงยังมีคุณหมอทำประโยชน์แก่ ชาติต่อไปอีกคนหนึ่ง ที่สำคัญคือ มีแท๊กซี่ที่เสียชีวิตไป คนนึง และตำรวจที่ป้อมอีกคนที่โดนแทงตายและแย่งปินไปได้ ตรงจุดนี้แหละครับ ที่ตำรวจควรได้รับการฝึกอบรมใหม่ ทั้งกรม (การโดนคนร้ายแย่งปืนไปได้ นี่แหละ ที่ทำให้ คนร้ายมีอาวุธไปยิง คนขับแท๊กซี่ตายได้) แม้ว่าคราวนี้จะเป็นเหตุสุดวิสัย ขนาดชีวิตตนเองยังไม่ทันได้รักษาเอาไว้ได้เลย แล้วปืนจะไปเหลืออะไร  เพราะ โดนแทงทันที โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ถึงอย่าง ไร ก็ตายในหน้าที่ สมควรได้รับบำเหน็จไป หรือถ้าลำบากเกินไป ก็ควรบรรจุในหลักสูตรหรือปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรียนตำรวจ เพราะกรณีแบบนี้ ในต่างประเทศ อย่างอเมริกา  ตำรวจจะมีสิทธิยิงก่อน เพื่อรักษาชีวิตของตนเองได้ อยากให้ผู้บัญชาการตำรวจ  ออกมาชี้แจงชัดๆ เลยว่า ตำรวจมีสิทธิจะยิงหรือไม่ กรณีที่คนร้ายไม่ยอมวางอาวุธ และมีท่าทีคุกคาม แต่ก็ของยกย่อง ตำรวจอีกนายที่พยายามสกัดจับจนตัวเองถูกชนปางตาย รายนี้ต้องขอชมเชยความกล้าหาญนับเป็นตำรวจที่ดี แต่เมื่อหายแล้ว อยากให้ได้ เข้ารับการฝึกอบรมเป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ สรุปว่า ตำรวจทำดีแล้วในการเข้าสกัดจับและวิสามัญมันเสีย แต่อยากให้รอบคอบในการปฏบัติมากกว่านี้  จะลดการสูญเสียมากกว่านี้ และต้องการให้รัฐบาล ชดเชยเยียวยาคุณหมอ และทายาทของแท๊กซี่ตนนั้น อยากรู้ตัวเลขด้วยครับ ไม่ใช่งุบงิบ จ่ายหมื่นสองหมื่น แล้วมาออกสื่อว่าได้ให้การช่วยเหลือแล้วจำนวนหนึ่ง (เกลียดมาก ๆคำนี้ ให้ พันเดียวก็จำนวนหนึง) ทั้งนี้ทั้งนั้น มาจากยาเสพติดเป็นหลัก  ลุยหนัก ๆ หน่อยครับ อย่าให้มีเมายาออกมาแบบนี้  เจอใครเมายาถืออาวุธ ยิงขาให้หักแล้วค่อยเข้าจับเลยครับ มันหายเมายาแล้วจะได้รู้ว่า เสพยาจนเมา ตำรวจอาจยิงเอาได้ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 54 17:56:34 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 54 17:46:53 จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 17:41:03

ความคิดเห็นที่ 62 สรุปน่าจะมีการรื้อระบบตำรวจใหม่ อ่อนเรื่องทักษะ ไม่มีไหวพริบ ไม่มีแบบแผนแก้ตัวอย่างเดียว สถานะการตั้งแต่เริ่มต้นน่าจะสกัดจับได้เร็วกว่านี้ การสื่อสารโดยวิทยุน่าจะเป็นการกระจายข่าวได้ดีที่สุด แล้วตำรวจตามป้อมทำอะไรกันอยู่หรือหลับอยู่ให้เขามาแทงเอาปืนไป เป็นเรื่องง่ายมากเอามีดมาปล้นปืนถ้ามีปืนแล้วดีแต่พกโชว์ขอแนะนำว่าอย่ามีดีกว่ามันเป็นอันตรายกับประชาชน การวิสามัญหรือบันดาลโทษะดูแล้วเป็นการยิงที่ไม่ได้หวังผลต่อคนขับ หรือกลัวจะเอาคนร้ายเอากระสุนนัดเดียวมาต่อสู้ เห็นมีแก้ข่าวว่าไม่รู้ว่าผู้ร้ายมีปืนกี่กระบอก มันผิดตั้งแต่การสื่อสาร ถ้ามันมีหลายกระบอกแล้วมันจะเอามีดไปแทงตำรวจทำไม และการติดตามผู้ร้ายติดตามยังไงไม่รู้เหตุการณ์อะไรเลยมีตัวประกันก็ไม่รู้ ผมว่าถ้าอ้างเรื่องเวลา เหตุการณ์อื่นๆมันช้ากว่านี้หรือไง มันก็เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นประเทศไทยก็ต้องเจอแบบนี้ต่อไป สรุปตำรวจไม่มีประสิทธิภาพ จากคุณ : pam เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 20:31:31 A:203.113.118.50 X: TicketID:271750

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้านักข่าวได้เข้ามาดูในกระทู้นี้ นะคะ ช่วยเสนอข่าวว่า ควรแก้ปัญหายังไงกับพวกติดยา ก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านแว้นๆกันน่ะ ควรจะกวาดต้อนพวกนี้ไปเกณฑ์ทหารลงใต้ไปซะ ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองดีกว่าทำอะไรไร้สาระแบบนี้ แก้ปัญหาก่อความเดือดร้อนคนอื่นและในอนาคตได้อีก เพราะพวกติดยาที่น่ากลัวมีเยอะ แยะเต็มไปหมดจริงคะ ล้มเหลวจริงๆ ประชาชนอยู่กันอย่างหวาดกลัว จากคุณ : whitelife เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 23:18:20

ความคิดเห็นที่ 64 ในความเห็นของผม ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนพลเมืองดี การตัดสินใจดำเนินการทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก การวิสามัญคนร้ายจะบอกว่าเพื่อยุติความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นต่อไปโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน จะเรียกว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ได้อย่างไร ถ้าหากในรถคันนั้นตัวประกันเป็นตัวเรา พ่อเรา แม่เรา ลูกของเรา เราจะคิดอย่างไร ผมว่าคงไม่มีใครคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ตายเพื่อให้คนอื่นรอด และสังเกตุจาก่รอยกระสุนที่ยิงไปที่รถ เป็นการยิงแบบสาดเข้าไป ไม่ได้ยิงแบบหวังผล รอยกระสุนกระจายเต็มรถไปหมด ทำให้สัญนิฐานได้ว่าเป็นการยิงแบบหลับหูหลับตายิง ยิงเอามัน ยิงตามเพื่อน      เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตัวประกันและคนร้ายตายหมด เหตุการณ์ครั้งนั้นต้องบอกว่าถูกรุมยิง เพราะเจ้าหน้าที่ยืนอยู่รอบรถแล้วระดมยิงเข้าไปในรถทำให้คนที่ในรถเสียฃีวิตทั้งหมด ผ่านมา 30 ปีแล้ว ตำรวจไทยก็ยังไม่ได้มีการพัฒนาอะไรเลย ยังคงปฏิบัติการเหมือนเดิม แล้วการไปดูงานต่างประเทศเพื่อศึกษาหาความรู้วิธีการดำเนินการต่าง ๆ ไม่ได้นำมาพัฒนากันเลยหรือ เสียงบประมาณในการไปดูงานกันปีละเท่าไร       ลองไปถามเจ้าหน้าที่ดำรวจในโรงพักสักแห่งดูสิว่าตั้งแต่จบจากโรงเรียนตำรวจมา ได้มีการอบรมพัฒนากันบ้างหรือไม่ เคยยิงปืนกันคนละกี่นัด       เคยพบกับเหตุการที่ดำรวจปฏิบัติหน้าที่กับตัวเองมาครั้งหนึ่งที่แถวอำเภอวังน้อย ผมเข้าไปธุระในกรุงเทพ ขากลับมาก่อนถึงอำเภอวังน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดถนนพหลโยธินเพื่อสกัดรถคนร้ายซึ่งก็ไม่ทราบว่าเขาไปทำอะไรกันมา ทำให้รถติดอยู่บนถนนรถคนร้ายก็ไม่สามารถผ่านไปได้ สักพักมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถือปืนวิ่งมาจากทางด้านหน้าของรถผม มาหยุดอยู่หน้ารถผม พอมองกระจกหลังมีตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งถือปืน    ลัอมรถคันที่อยู่ข้างหลังผมอยู่ แล้วเรียกให้คนที่อยู่ในรถคันนั้นลงมา ปรากฏว่ารถผมซึ่งอยู่ติดกับรถคนร้ายกลายเป็นกำบังให้เจ้าหน้าที่ดำรวจไปกลายเป็นตัวประกันที่อยู่ระหว่างตำรวจกับคนร้าย ถ้ามีการยิงกันขึ้นจะเกิดอะไรขึ้นกับผมและครอบครัวที่อยู่ในรถ จะเกิดอะไรขึ้นกับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ในขณะนั้น เป็นวิธีการปฏิบัติที่ตำรวจจะใช้รถของประชาชนเป็นตัวประกันให้ตัวเองไม่ถูกคนร้ายยิงอย่างนั้นหรือ จากคุณ : makeoa (อู๊ดครับ) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 54 10:09:22