ความคิดเห็นที่ 1 ยอมไม่ได้หรอกครับ..มนุษย์ต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติมาทุกยุคทุกสมัย.. หากวันใดที่มนุษย์เราถอดใจ ไม่ยอมต่อสู้ดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอดกันแล้ว.. บัดนั้น..มนุษยชาติคงจะต้องสูญสิ้นเผ่าพันธ์ลงไปอย่างน่าเสียดาย.. ธรรมชาติมันคงไม่ได้คิดจะเอาคืนอะไร..เพียงแต่มันก็เป็นไปตามระบบของมัน.. มนุษย์เราต่างหาก..ที่ควรจะคิดรับมือกับมันให้ได้..ประเทศที่เขาเจริญแล้ว.. เขาเตรียมรับมือจากภัยพิบัติกันทั้งนั้น..มีแต่ประเทศสารขันธ์เท่านั้น.. ที่ไม่ยอมรับรู้อะไรเกี่ยวกับธรรมชาติที่กำลังแปรปรวน..มัวแต่บ้าสี..ห่วงอำนาจ.. เมื่อถึงเวลานั้นมาถึงจริงๆ..มนุษย์ในประเทศเหล่านี้ คงจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์เป็นอันดับแรก.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 02:30:56

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ คุณครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน ผมดีใจนะที่ยังมีคนที่ไม่ยอมแพ้ ... ... แต่เราจะรักษ์ธรรมชาติ แบบไหนดีละ .... จากคุณ : Stang25 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 05:50:57

ความคิดเห็นที่ 3 หลายๆเหตุการณ์ที่หนักขึ้นมันก็เป็นผลของการกระทำของคนนั่นแหละค่ะ ไม่รู้จะว่ายังไงดีค่ะ สงสารก็สงสารนะคะ แต่ถ้ามาดูว่าทำไม มันก็พูดไม่ออก ถึงหลายๆคนจะช่วยกันแต่อีกสิบเท่าของคนที่ช่วยกันเอาแต่ทำลาย มันก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่ดี คุณหรือบรรพบุรุษตัดไม้เพราะจะเอาไปขายสุดท้ายบ้านคุณก็โดนน้ำท่วม คุณถมที่ปลูกบ้านทำมาหากินในทางที่น้ำผ่าน สักวันน้ำจะมาทวงที่คืน เอาความสะดวกของตัวเองเอาความเจริญทางวัตถุเข้ามาโดยไม่คิดว่ามันมีผลกระทบกับธรรมชาติโลกก็จะร้อนขึ้นๆ ทำอะไรเค้าไว้ตอนนี้เค้าคงมาเอาคืนแล้วละค่ะ ที่ทำได้ตอนนี้คือก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ ปลูกต้นไม้หรือทำกิจกรรมที่กระทบกับโลกน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ เผื่อว่าลูกหลาน(ถ้ัาคนไม่สูญพันธ์ไปซะก่อน)ที่อาจจะมีโอกาสเกิดมาในอนาคตจะได้เกิดมาเจอต้นไม้มีอากาศหายใจไม่ได้เกิดมาเจอทะเลทรายหรือไม่มีโอกาสได้เกิด จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 08:38:18

ความคิดเห็นที่ 4 อีกไม่กี่ล้านปี ดวงอาทิตย์ก็เผาโลกหมดแล้วหล่ะครับ อย่ากังวลไปเลย จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 09:28:57

ความคิดเห็นที่ 5 ลองคิดดูดีๆ นะครับ ว่ากันจากข้อมูลที่เราเคยได้ยินได้อ่านกันมาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บางส่วนที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ตัวอย่างข้อมูลที่ 1 โลกเคยมีไดโนเสาร์ อาศัยมากมาย แต่ปัจจุบันเหลือแต่ กิ่งก่า ฯลฯ ไดโนเสาร์ใหญ่ๆ ที่เรารู้จึกมีให้เห็นเฉพาะโครงกระดูก ตัวอย่างข้อมูลที่ 2 โลกมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศมาตลอดเวลา ในยุคไดโนเสาร์ว่ากันว่าโลกมีความชื้นสูงมากและร้อนมาก ต่อมาก็เกิดยุคน้ำแข็ง และกลายเป็นสภาพอย่างที่เรามีชีวิตอยู่กันในปัจจุบัน ตัวอย่างข้อมูลที่ 3 ในอดีตผืนดินบนโลกเป็นผืนใหญ่ ๆ ผืนเดียวกัน ต่อมาแยกตัวกลางเป็นทวีปต่างๆ อย่างปัจจุบัน และมีบางทวีปที่จมหายไปแล้ว เห็นด้วยว่ามนุษย์มีส่วนที่ทำให้สมดุลย์ของโลกในปัจจุบันเปลี่ยนไป การเปลี่ยนสมดุลย์นี้อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเรา แต่ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับโลกใบนี้ครับ เมื่อสิ่งต่างๆ บนโลกเปลี่ยนไป ถ้าคนไม่สามารถปรับตัวได้ก็คงจะสูญพันธ์ไปครับ แต่โลกก็ยังคนอยู่ รอสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ ๆ ที่จะวิวัฒนาการขึ้นมาเป็นเจ้าโลกทดแทนมนุษย์อย่างเราในปัจจุบัน เมื่อรู้แบบนี้เราก็ต้องช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมบนโลกให้มีสภาพที่มนุษย์อย่างเราจะสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปกติสุข ก็เท่านั้น อย่าสำคัญว่าเรามีความสำคัญกับโลก สิ่งที่เราทำมีความสำคัญต่อการอยู่หรือไม่ของพวกเรา ไม่ใช่กับโลกใบนี้ครับ ที่บอกว่า รักษ์โลก ก็คือรักษ์ความอยู่รอดของมนุษย์ครับ ไม่ใช่รักษาการอยู่รอดของโลก จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 14:10:57 A:202.57.155.98 X: TicketID:237525

ความคิดเห็นที่ 6 อีก 1 ข้อกังขาของเราคือ... ............... คำถาม ............. ..... ถ้าถึงวันนั้นวันที่เราไม่มีบ้าน หากย่อนกลับมาได้คุณจะทำอะไรในวันนี้ ???..... สำหรับผม ถ้าวันนั้นจะมาถึงจริงๆๆ วันนั้นผมอยากอยู่ที่บ้านกับครอบครัว ..... นั้งเล่น .... นอนเล่น .... และคุยกันตามประสาพ่อ-แม่-ลูก.. ... ผมก็เริ่มแล้วครับ ... แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 22:31:11 จากคุณ : Stang25 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 19:41:21

ความคิดเห็นที่ 7 เชื่อว่าถ้าทุกคนรู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม เชื่อว่าโลกเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยครับ จากคุณ : คนข้างๆ (seabuff the pearl) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:09:54

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบจังคำนี้ คนคือไวรัสของธรรมชาติ จากคุณ : malina เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 23:27:48

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ! จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:26:38