ความคิดเห็นที่ 1 ต่อนะคะ ตอนนี้แม่เรากลุ้มใจมาก  กลางคืนก็นอนไม่ได้เพราะคิดเรื่องนี้ทั้งคืน เมื่อวานนี้ แม่เราได้โทรมาปรึกษาว่าจะแจ้งความดีไหม เพราะแม่รับพฤติกรรมนี้ไม่ได้ น้องไม่เชื่อใครเลย นอกจากความคิดอันผิดๆของน้อง และเพื่อนน้อง คนที่น้องควรจะ เชื่อ และเคารพมากที่สุดคือ พ่อ แต่น้องก็ไม่ได้กลัว หรือเคารพพ่อแม้แต่น้อย   **มีครั้งนึง พ่อบอกให้น้องขึ้นไปนอน เพราะมันดึกแล้ว แต่น้องไม่ฟังเพราะกำลังนั่งเล่น เกมคอมอยู่ พ่อจึงขู่ว่าถ้าไม่ขึ้นไปจะทุบคอมทิ้ง    ยังไม่ทันที่พ่อจะทำอะไร น้องเรา จัดการทุบจอคอมเองเลยค่ะ แม่เราก็ปวดหัวมากว่าจะทำยังไงดีกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะเงินที่หายไปเป็นเงินจำนวน มาก  ถ้าจะแจ้งความก็กลัวน้องติดคุก (น้องมีคดีติดตัวด้วยค่ะ  แต่เรื่องอะไรไม่ทราบ แม่เราไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง บอกเราเพียงว่ามีคดีติดตัว)   แต่ถ้าปล่อยไปยังงี้เงินจำนวนนั้นก็จะหายไปเฉยๆ  และน้องก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิมเป็น แน่และอาจจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นมากกว่านี้ก็ได้ พอถามน้อง มันก็ยืนยันอย่างเดียวว่าไม่ได้เอา  จะให้สาบานให้ตายภายในสองวัน สามวันก็ได้  แต่แน่นอนน้องเรามันคงไม่กลัวบาป กลัวกรรมอยู่แล้วค่ะ สิ่งที่พูด ออกจากปากน้องเรา เชื่อถือไม่ได้เลยสักครั้ง  แม่ก็ไม่รู้จะทำไง   แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 16:25:17 จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:10:17

ความคิดเห็นที่ 2 รู้จักตำรวจ ขอความร่วมมือขู่ได้นะ  ไม่ต้องทำคดีจริงๆ  แต่ถ้าน้องชายหัวหมองานนี้ก็ยุ่งเหมือนกัน จากคุณ : ยิบยอง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:15:59

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อนะคะ ****เราควรจะหาทางแก้ปัญหานี้ยังไงดีค่ะ เราสงสาร พ่อ กับ แม่ เหลือเกิน ไม่อยากให้ต้องมาคิดมากกับเรื่องนี้ ทั้งเรื่องพฤติกรรมของลูกที่ไม่สามารถสั่งสอน ตักเตือนได้ และเรื่องเงินที่หายไปจำนวน มากด้วย แต่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างเลย เราว่าเหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้นอีกและจะหนักกว่านี้อีก เรื่อยๆ **รบกวนด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ อยากร้องไห้ ปวดหัว คิดมากจนเก็บไปฝัน น้องเราอายุ 17 จะ 18 นะคะ จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:16:34

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่มเติม เงินที่หายไปเป็นเงินจำนวนมาก  เรากับแม่ คิดไม่ถึงเลยว่าเงินขนาดนั้นจะขโมยไปทำอะไร ติดการพนัน ?  (น้องชอบเล่นเกมฟุตบอลออนไลน์มาก  เกมนี้สามารถพนันได้ป่าวค่ะ) ให้เพื่อนยืม(เชื่อเพื่อนมาก  เพื่อนอาจจะร้อนเงินแล้วเห็นว่าบ้านเราพอมีฐานะ เลยขอยืม ประกอบกับน้องเจอเงินห่อนั้นพอดี)? ติดยาเสพย์ติด? จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:19:36

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกำลังใจให้นะครับ 1. ถามว่าติดพนันหรือเปล่า ก็ต้องดูพฤติกรรมก่อนหน้านี้ครับว่าน้องคุณเป็นยังไง ส่วนเกมฟุตบอลออนไลน์์ ไม่น่าจะเล่นพนันได้นะครับ แต่ถ้าแทงบอลออนไลน์อ่ะ มีครับ 2. ให้เพื่อนยืม ผมว่าจะน่าเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะวัยรุ่นอายุประมาณนี้จะติดเพื่อนมากครับ 3. ติดยาหรือเปล่า ต้องให้คนใกล้ตัวสังเกตพฤติกรรม น่าจะดูออกได้ไม่ยากครับ ผมให้ตำรวจมาช่วยขู่หลอกๆ ก่อนนะครับ เตี้ยมกับตำรวจ แล้วให้น้องรับสภาพผิด อาจจะให้น้องคุณอยู่ห่างกับเพื่อนหรือเกมส์หรือยาเสพติด โดยการให้เขาบวชเณรครับ น่าจะช่วยได้ ขู่ว่าถ้าไม่ไปบวชก็จะจับติดคุก ธรรมะอาจจะช่วยให้น้องคุณดีขึ้นได้ครับ เอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : musashikotaro เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:30:24

ความคิดเห็นที่ 6 musashikotaro ขอบคุณมากนะคะ น้องเรามีคดีติดตัว เลยถูกบังคับให้บวชเณรถวายในหลวง เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ก็มีพฤติกรรม เช่นเดิม จนมาเกิดเหตุการณ์นี้ค่ะ (ตอนบวช แม่เราก็น้ำตาไหล ดีใจมาก  นึกว่าบวชเสร็จลูกจะกลับมาเป็นคนดี  เฮ้ออออ) จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:37:35

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าไปนอนคุกจริง ๆ ผมว่าออกมาจะยิ่งกว่าเดิมนะครับ เพราะวิชาการภายในคุกนั้นสูงส่งนัก คนที่ออกมาถ้าไม่เป็นคนดี ก็อาจจะเสียคนไปเลย จากคุณ : anuwat_nu เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 16:54:08

ความคิดเห็นที่ 8 ก่อนอื่น   ถามความต้องการของคุณแม่ของคุณให้ชัดเจนว่า  ต้องการจัดการอย่างไร หากยืนยันว่า  จะดัดนิสัยน้องอย่างจริงจัง   ก็แจ้งตำรวจ   แต่หากว่า  อยากได้เงินคืน  แต่ไม่อยากให้น้องติดคุก   ก็หาตำรวจที่รู้จักเรียกน้อง ซึ่ง ตร.เขามีวิธีของเขาค่ะ จากที่คุณเล่า   พฤติกรรมของน้องคุณทั้งหมด    มันอยู่ในตัวเขามานานแล้ว พ่อแม่ของ จขกท.   จัดการอย่างไรในอดีตเมื่อน้องมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : แม่จากัวร์ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:02:30

ความคิดเห็นที่ 9 คงต้องทำให้เขาได้รู้สึกบ้างครับ แต่ถ้าเขาโมโหร้ายก็ต้องระวังตัวไว้บ้างครับ ต้องยอมรับผลที่จะตามมาด้วย 1.คิดได้ กลับตัวไม่ทำอีก 2.คิดไม่ได้ ทำอีก หนักกว่าเดิม จากคุณ : tanwatana เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:02:58

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่รู้จะแนะนำอะไร เข้ามาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : Decemberka เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:03:23

ความคิดเห็นที่ 11 อยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนแรกจะบอกว่าให้ลองพาไปบวช แต่พออ่านๆไป ก็ลองไปแล้ว ในกรณีที่ขอความร่วมมือจากตำรวจขู่ไว้ก่อน ถ้าราบรื่นก็ดีไปค่ะ แต่ถ้าไม่ รอบหน้ากลัวว่าจะหนักกว่าเดิมและยิ่งเอาไม่อยู่ แนะนำลองพาน้องไปพบจิตแพทย์ ถ้ายอมไปนะ นอกจากน้องแล้ว แฟนน้องก็อย่าลืมนะคะ อยู่ใกล้ๆกัน ปั่นหัวใส่ไฟกันง่ายๆเลยเชียว ต้องดูแลทั้งสองคน จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:04:12

ความคิดเห็นที่ 12 ****ขออนุญาต นำข้อความจากกระทู้อื่นมาโพสไว้ห้องนี้นะคะ อยากให้แม่ได้ อ่าน แต่แม่ใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็น  จะส่งลิ้งค์ไปให้น้องคนสุดท้องเปิดให้แม่อ่าน แต่งงานแล้ว ก็บรรลุนิติภาวะแล้ว น้องชายตอนนี้เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยอยู่นี่ครับ ธรรมดาคนมีประวัติมักจะถูกสงสัยก่อน ซึ่งนั่นอาจจะเป็นการซ้ำเติมเขา ซึ่ง กรณีนี้ เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนกระทำก็เป็นได้ มีคนอื่นที่น่าสงสัยอีกบ้างหรือเปล่าครับ เช่น ลูกสะใภ้ หลาน แม่บ้าน แม่ครัว คนสวน คนขับรถ ลูกจ้าง ฯ +++++++++ ถ้า น้องชายยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่คนเดียว ก็ให้แม่เรียกมาคุยก่อนครับ ลูกแม่ น้องตัว ไม่ใช่ใครอื่น จากคุณ : เลื่องชื่อระบือนาม   เห็นด้วยกับคุณ เลื่องชื่อระบือนาม ค่ะ เราคิดว่าให้แม่ค่อยๆคุยกับน้องน่าจะดีกว่า เพราะถ้าหากแม่แจ้งจับน้องขึ้นมาจริงๆ แล้วตำรวจสอบสวนพบว่าน้องไม่ได้เป็นคนขโมยเงินไป มันจะแย่ต่อความรู้สึกของน้องและคนในครอบครัวมากๆเลยนะคะ ตอนนี้น้องแค่เป็นผู้ต้องสงสัยเท่านั้นเอง ยังไงคุยกันในครอบครัวก่อนดีกว่าค่ะ ไงก็อย่าเพิ่งแจ้งความเลยนะคะ จากคุณ : lalilate'   ผมอ่านแล้ว รู้สึกเห็นอกเห็นใจ จขกท มาก สังเกตคุณจะเป็นลูกที่แม่รัก คุณจึงผูกพันเป็นห่วงแม่และน้องมาก น้องชาย คงจะเป็นเด็กที่ขาดความรัก รู้สึกตัวว่าพ่อแม่ไม่รัก ขาดความเอาใจใส่ตั้งแต่เด็ก เด็กพวกนี้มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใฝ่หาสิ่งเด่น ให้คนยอมรับ เพื่อมาตอบสนองความรักสิ่งที่ขาดไป ต่างกับเด็กกำพร้าที่เขาเข้าใจสภาพของเขา พฤติกรรมจะต่างกัน มาถึงขั้นนี้ พฤติกรรมมีการพัฒนามาแสดงความก้าวร้าวใส่คุณพ่อ ถ้าเป็นลูกผมจะโดดถีบทันที ต้องเล่นกันอย่างนี้ ปล่อยไว้มันจะมาเขกพ่อเมื่อไรก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาพิจารณามาก เป็นเวลาที่จะต้องจัดการ ใช้การพูดจาดีๆ คงไม่ได้ผล ขนาดมีคดีติดตัวยังไม่เกรง ยังมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ แต่คุณยังเล่าไม่หมด มีคนในบ้านอีกไหม คุณสรุปแค่ไม่มีใครเข้าถึงห่อเงิน เพียงแค่นี้ เป็นเพียงข้อสงสัย จะเอาไปตัดสินความผิด ยังไม่ชัดเจน รอข้อมูลเพิ่มเติม ผมจะปรึกษาผู้รู้ว่าจะทำอย่างไร   จากคุณ : TinyNu แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 17:05:35 จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:05:03

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับ คห. 2 ยังไม่ต้องทำคดี เพียงแต่หาตำรวจที่รู้จัก ไว้ใจได้ไปขู่ดูก่อน โดยบอกว่าเราแจ้งความให้ไปจับ ฯลฯ แล้วพาไปสอบที่โรงพัก ฯลฯ เข้าคุกจริงๆคงไม่ดี ดัง คห. 7 ว่านะคะ ไปวัดสายที่พระท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อจะได้ฝึกกรรมฐาน เวลาจะออกจากสมาธิก็แผ่เมตตาให้น้องชายคุณ พร้อมอธิษฐานจิตให้เขา เป็นคนดี ให้คิดถูก พูดถูก ทำถูก ฯลฯ  ช่วยได้ค่ะ และใจเราสงบลงด้วย ก็จะมีปัญญายึกหาทางแก้ปัญหาได้ จะให้ดีก็ชวนเขาไปปฏิบัติ อย่างนั้นก็เร็วขึ้น เขาจะเลิกละสิ่งไม่ดี อย่างน้อยก็ค่อยๆเบาบางลง การฝึกกรรมฐาน เป็นการทำให้ใจหยุด สงบ และขจัดกิเลส พอขจัดได้ วิบากก็ถูกเคลียถอยร่นออกไป ก็เลิกละสิ่งทีไม่ดี คนเราทำผิด เพราะวิบากเดิม ที่ไม่ดีส่งผล กระตุ้นอยู่ จากคุณ : Tigerprog เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:05:44

ความคิดเห็นที่ 14 อย่าพึ่งแจ้งความเลยค่ะ เสียประวัติเปล่า ๆ ยังไงก็น้องเรา ลองสังเกตุพฤติกรรมน้องดู เงินเยอะขนาดนี้ คงยังไม่ใช้หมดหรอกค่ะ อาจพอตามคืนได้บ้าง สังเกตุว่าเขาซื้อของอะไรที่มีมูลค่าผิดปกติหรือเปล่า คบกับเพื่อนกลุ่มไหนอยู่ ถ้าเขามีเพื่อนสนิทลองให้เขาชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน จริง ๆ อยากให้ลองมอมเหล้าแล้วหลอกถามน่ะค่ะ ไม่รู้จะสมควรหรือเปล่า รีบ ๆ ตามนะคะ ก่อนที่เงินล่องลอยไปไกล จากคุณ : peemaika เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:06:06

ความคิดเห็นที่ 15 นิทานสอนใจ พ่อแม่รังแกฉัน เมื่อชัยอายุ 6 ขวบ ขณะที่นั่งรถไปกับพ่อ ถูกตำรวจจับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด พ่อแอบยื่นเงิน 500 บาทให้ตำรวจ และได้รับอนุญาตปล่อยตัวไป พ่อหันมาพูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรลูก เงินแค่นี้ซื้อเวลา ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 8 ขวบ ป้าพาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเป็นเงิน 75 บาท เมื่อป้าไปชำระเงิน ยื่นธนบัตรร้อยบาทให้พนักงาน ได้รับเงินทอน 55 บาท เพราะลูกค้ามากและเข้าใจว่าธนบัตร 50 บาท คือ 20 บาท ป้ารับเงินทอนและใส่กระเป๋าทันที แทนที่จะบอกพนักงานว่าทอนเงินผิด เมื่อออกจากร้านป้าก็พูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรหลาน...ความผิดของเขาเองใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 9 ขวบ ครูให้การบ้านปลูกต้นหอมแดงในกระบะ 2 สัปดาห์ แล้วนำไปส่งที่โรงเรียน แม่ลืมซื้อหัวหอมแดงมาให้ชัย เมื่อครบกำหนดวันส่ง แม่ให้พ่อไปซื้อต้นหอมแดงที่ตลาด และฝังลงในกระบะให้ชัยนำไปส่งครู แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรลูก... ครูไม่รู้หรอก มีส่งก็ดีแล้ว ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 12 ขวบ ชัยทำแว่นตาใหม่ราคาแพงของลุงแตก ลุงจึงนำใบเสร็จไปอ้างกับบริษัทเครดิตที่ลุงใช้บริการอยู่ว่าแว่นตาถูกขโมย ได้รับเงินชดใช้มา 15,000 บาท เต็มราคาที่ซื้อมา ลุงพูดกับชัยอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่เป็นไรหรอกหลาน สิทธ์ของเราใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 15 ปี ได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ครูฝึกได้สอนวิธีกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามให้บาดเจ็บโดยไม่ผิดถือว่าอยู่ในเกม ครูฝึกบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก... ได้เปรียบไว้ก่อนเป็นดี ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 16 ปี ได้ไปทำงานระหว่างปิดเทอมที่แผนกซูปเปอร์มาร์เก็ต ของห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อแห่งหนึ่ง หัวหน้าแผนกให้ชัยจัดกระเช้าผลไม้ โดยแนะนำให้จัดวางผลไม่สวยจวนจะเน่าอยู่ก้นตะกร้า คัดผลสวย ใบโตสีสด จัดวางอยู่ส่วนบน หัวหน้าแผนกสอนว่า “ไม่เป็นไรหรอก ผู้ซื้อไม่ได้ใช้เองแต่นำไปฝากคนอื่น ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 18 ปี ได้สมัครสอบเพื่อเข้าขอรับทุนของมหาวิทยาลัย ปรากฏผลทราบเป็นการภายในว่ามาเป็นอันดับ 2 เมื่อพ่อรู้เข้าจึงไปพูดกับกรรมการซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ในที่สุดชัยก็ได้รับทุน พ่อพูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรลูก...เป็นโอกาสของเราใครๆ ถ้ามีโอกาส เขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 19 ปี เพื่อนเอาข้อสอบปลายปีที่ขโมยมาขายกับชัยเป็นเงิน 1,500 บาท ชัยลังเลใจและตัดสินใจซื้อในที่สุด เพราะเพื่อนพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกชัย...เกรดมีผลกับอนาคตนะ ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ” เมื่อชัยอายุ 24 ปี ชัยถูกจับข้อหายักยอกเงินบริษัท 700,000 บาท และต้องติดคุก พ่อกับแม่ไปเยี่ยมและตัดพ้อต่อว่า “ทำไมลูกทำอย่างนี้กับพ่อแม่ ที่บ้านเราไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนขี้โกงเลยนะ” ขอบคุณข้อมูลจาก มีธรรมหนึ่ง ดอทคอม (และ www.tumsrivichai.com) นิทานสอนใจ เรื่องพ่อแม่รังแกฉัน: พ่อแม่ที่ตามใจลูกจนเกินไป เป็นการปลูกฝังในสิ่งที่พ่อแม่ทำให้แบบเกินพอดี ทำให้ลูกติดนิสัยเอาแต่ใจ ไม่มีความอดทน พ่อแม่รังแกฉัน เป็นประโยคเปรียบเทียบ พ่อแม่ที่ดีต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็น ตัวอย่างที่ดีในที่นี้ไม่ใช่สิ่งดีๆอย่างเดียวต้องรวมเรื่องที่ไม่ดีด้วย และอธิบายให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีๆเพราะอะไร นิทานสอนใจ พ่อแม่รังแกฉัน โดย พระยาอุปกิตศิลปสาร http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=129319 จากคุณ : jomjonbupa เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:06:34

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วตำรวจสอบสวนพบว่าน้องไม่ได้เป็นคนขโมยเงินไป >>>>>>>>>>>>>>>>> ผมอยากให้คุณพิจารณา ทบทวน ด้วยเหตุผลว่า มีอะไรที่ปรักปร่ำน้องคนนี้ได้ เอาเป็นว่า ลองคิดว่ามีอะไรบ้างที่จะพิสูจน์ว่าน้องเป็นขโมย ลองค่อยๆคิด จากคุณ : TinyNu   ต้องให้ราชทัณฑ์เอาไปอบรมซักทีแล้วมั๊งครับ จากคุณ : หิวข้าวแล้ว   เหมือนน้องเราเลยคะ ลักเล็กขโมยน้อย อะไรที่ขโมยได้ แล้วขายเป็นเงิน เอาหมดคะ เอาไปเลี้ยงผู้หญิง แต่ไม่ได้กินเหล้า สูบบุหรี่ แม่เราก็แจ้งความ ให้ตำรวจมาลากตัวถึงบ้านคะ แต่เราไม่มีหลักฐาน ก็ได้แต่เขียนบันทึกประจำวันเท่านั้น ทำร้ายร่างกายพ่อแม่พี่น้อง น้องชายเราก็เคยนะคะ เราก็ไปแจ้งความที่สน. ตำรวจก็ลากตัวเข้าไปนอนคุก1คืน วันรุ่งขึ้นก็ปล่อยออกมา แค่เนี่ยอ่าคะ เอามอไซที่บ้านไปขับโดยไม่บอก ก็เคยเหมือนกัน ไปตามถึงร้านเกมส์ถึงได้คืน เรียนไม่จบม.3เหมือนกัน แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ทำมาหากิน อยู่หอกับแฟน ไม่มาขอเงินที่บ้านแล้ว จากคุณ : สวยและรวยมาก ฟันยาก มีความรู้ (เจ้าแม่รูท66) ความเห็นส่วนตัว ^ ^ วันนี้ขโมยเงินแม่ วันหน้าเขาอาจจะทำอะไรมากกว่านี้ นี้คือแม่นะค่ะ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะ ใครจะรับผิดชอบแทนเขา เราว่า .. ลองขั้นเด็ดขาดเถอะค่ะ แต่ลองถามก่อนว่ามีเหตุผลอะไรถึงใช้เงินขนาดนั้น เงินไม่ใช่ พันสองพัน  ^ ^"   เข้าใจค่ะเพราะแต่ก่อนน้องชายก็เคยขโมยปืนพ่อไป ทำเอาวุ่นทั้งบ้าน อาจเพราะความคึกคะนอง ตอนนี้โตขึ้นคิดเป็นแล้ว แต่ก็เล่นเอาพ่อกับแม่ทุกข์เป็นปีๆ ป.ล. เอาใจช่วยนะค่ะ ขอให้เรื่องคลี่คลายเร็วๆ จากคุณ : เจ้าหญิง_ตากลม พวกมีปัญหาทางจิต จากคุณ : ชอบเลี้ยงปลา จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:08:36

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าไม่รับ ไม่พูดความจริงก็ให้ตำรวจเป็นคนมาตรวจเลยค่ะ หาลายนิ้วมือ หาหลักฐานไปเลย แจ้งความไปว่าเงินถูกขโมย เข้าใจนะคะ ว่าเป็นพี่น้องคนในครอบครัว แต่ถ้าไม่ดัดฯตั้งแต่ตอนนี้ยิ่งโตจะยิ่งลำบากค่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:22:11

ความคิดเห็นที่ 18 น่าจะ....เรียกน้องมาคุยดีๆ และให้รับรู้ถึงสิ่งที่แม่ตั้งใจเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไร?? เพราะเชื่อว่าสิ่งที่แม่ทำนั้นสมบัติทุกชิ้นแม่ก็ทำเพื่อลูกๆทั้งนั้น............ค่อยๆปลอบและถาม...และชี้ให้เห็น และต้องเปิดใจยอมรับด้วย................หากน้องปฎิเสธ ใช้เหตุผล ให้มากกว่าอารมณ์นะคะ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : ณัฐ วัชรพล จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:27:59

ความคิดเห็นที่ 19 ส่งไปเป็นทหารไป เขากำลังต้องการกำลังพลอยู่พอดีเลย บวชเรียนไปอาจจะไม่ได้ผล อาจจะไปขโมยเศียรพระ หรือทำอะไรที่มันส่งผลต่อพระพุทธศาสนาเลย ถ้าส่งไปเป็นทหาร วันๆ ฝึกๆ และก็อยู่แต่ในค่ายทหาร ไม่ได้ทำอะไร ได้ฝึกวินัย ฝึกความรักชาติ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา ผมคิดว่าส่งไปเป็นทหาร น่าจะดีนะครับ....ยังไงลองดูครับ แต่ผมแนะนำทหารครับ ส่งไปเกณฑ์ทหารมันเลย จากคุณ : Mr.Kritkung จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:38:54

ความคิดเห็นที่ 20 ส่งไปเป็นทหารไป เขากำลังต้องการกำลังพลอยู่พอดีเลย บวชเรียนไปอาจจะไม่ได้ผล อาจจะไปขโมยเศียรพระ หรือทำอะไรที่มันส่งผลต่อพระพุทธศาสนาเลย ถ้าส่งไปเป็นทหาร วันๆ ฝึกๆ และก็อยู่แต่ในค่ายทหาร ไม่ได้ทำอะไร ได้ฝึกวินัย ฝึกความรักชาติ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา ผมคิดว่าส่งไปเป็นทหาร น่าจะดีนะครับ....ยังไงลองดูครับ แต่ผมแนะนำทหารครับ ส่งไปเกณฑ์ทหารมันเลย --------------------------------- ตามคำเรียกร้อง จากคุณ : Mr.Kritkung เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:39:03

ความคิดเห็นที่ 21 555+ จขกท. copy มาแล้วก็ไม่บอก จากคุณ : Mr.Kritkung เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:39:55

ความคิดเห็นที่ 22 ปัญหานี้แก้ยากครับ ถูกดำเนินคดี ก็ไม่ดี จะยิ่งโกรธกันเข้าไปใหญ่ ไม่ทำอะไรเลย ต่อไปจะเป็นยังไง จะดีขึ้นก็คงเป็นไปไม่ได้ อาจจะหนักข้อยิ่งกว่าเก่า แต่ต่อไปต้องคอยระวังให้มากที่สุด และต้องทำใจปล่อยเลยตามเลยบ้าง ไม่รู้ว่าปกติความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นยังไง แต่เดาว่าคงไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ลองให้พ่อหรือแม่ที่เขาพอจะฟังหน่อย ค่อยๆพูดค่อยๆจา ใจเย็นๆ เลิกรื้อฟื้นอดีต เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีกันใหม่ได้ไม๊ เขาต้องการอะไร พ่อแม่ให้ได้แค่ไหน เริ่มให้เขามารับรู้การทำงานของพ่อแม่บ้าง ให้เขารับผิดชอบการงานบ้าง แต่อย่าเพิ่งให้รับผิดชอบเรื่องการเงิน แต่ให้เขารับรู้ความยากลำบากในการทำงานบ้าง เขาอาจจะคิดได้          แต่ที่สำคัญ พ่อและแม่ที่อยู่กับเขา ต้องใจเย็นๆให้มากที่สุด เขาอาจจะมีผิดพลาดอีกบ้าง ก็ต้องไม่ดุด่าว่าเขา ค่อยๆพูดจากัน และฟังเขาให้มากขึ้นหน่อย อย่าใช้คำพูดที่ไม่ดีกับเขา คอยให้กำลังใจเขาถ้าเขาทำงานได้          เริ่มต้นกันใหม่ ไม่มีคำว่าสาย จากคุณ : ศรีวรลักษณ์ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 17:44:11

ความคิดเห็นที่ 23 ปัณหาระดับชาติ ทำไมไม่คุยกันละครับ จากคุณ : pompulars เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 18:04:18

ความคิดเห็นที่ 24 ตามมาจากกระทู้โน้น แต่ขอเน้นบางคำ คุก ไม่ใช่ที่ดัดสันดาน แต่จะทำให้เป็นคนเลวกว่าเดิม คนในครอบครัว ลูกในไส้ น้องคลานตามกันมา ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าให้อภัย และพูดคุยกัน หาจุดจบให้ได้ ว่าอย่าให้มีเหตุนี้อีก แนะนำให้คุยขอให้น้องบวชในวัดปฏิบัติที่เคร่งครัดสักปี เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ตอนคุยต้องให้แม่คุยว่าอยากจับผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ เคยเห็นคนไม่รักดี พอไปบวชแบบปฎิบัติเคร่งครัด มีพระผู้ใหญ่คอยชี้แนวทาง ก็มีความสุขในการปฎิบัติ จนไม่ขอสึกเลยก็มี การบวชเณรแบบแป๊บๆ ไปเจอสังคมสนุกๆในวัยเดียวกัน ไม่มีการอบรมสั่งสอนเน้นๆเนื้อๆ ยังไงก็แก้คนไม่รักดีให้รักดีได้ แต่ก่อนบวชต้องใช้อุบายให้มากหน่อย ไม่เช่นนั้นน้องจะเลี่ยงไม่ยอมบวชแบบนี้ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 18:48:01

ความคิดเห็นที่ 25 .. จากคุณ : DarkEnemy เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 18:52:45

ความคิดเห็นที่ 26 ผมน่าจะว่า คนเก๊บเงินซ่อนเองอ่ะครับ ซ่อนไว้ไม่ดีเองรู้อยู่แล้วว่า ลูกชาย มีนิสัยไงอ่ะครับ .. ถือว่าเป้นความผิดของ คุณแม่ เอง .. คราวหน้าหาที่เก๊บซ่อนให้ดีกว่าเดิม จากคุณ : everything on เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 19:51:53

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ everything on ค่ะ  เราก็ได้บอกไปตั้งแต่ต้นกระทู้แล้วว่า มันเป็นความประมาทของแม่เรา บวกกับมันไม่ เคยหายด้วยเลยนิ่งนอนใจ แต่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อหาทางออกกับเหตุการณ์ตอนนี้ จะให้เราไปว่าแม่ ก็คงจะใช่เรื่อง  แค่นี้แม่ก็เป็นทุกข์มากพอแล้ว คงไม่มีใครอยากไปซ้ำเติมแม่ ให้แย่ลงไปกว่าเดิม ขอบคุณนะคะ  สำหรับความคิดเห็น จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:19:03

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นใจคุณแม่และ จขกท มากๆค่ะ แต่เราเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม  บางอย่าง บางเรื่อง เราก็ไม่สามารถควบคุมและจัดการได้เลยจริงๆ สำหรับเรื่องนี้  เราขอให้คุณแม่ คุณพ่อ และ จขกท หาทางออกได้เร็วๆนะคะ   ขอนำหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาให้คุณแม่อ่านซักนิดเผื่อว่าจะช่วยในการตัดสินใจ และทำให้จิตใจคลายความทุกข์ได้บ้าง  ตามหลักของพรหมวิหาร 4  ดังนี้ค่ะ เมตตา  คือ  ความรักแบบเมตตา ปรารถนาให้เขามีความสุข  ในกรณี้นี้ก็คงจะต้องให้ความเมตตากับน้องชายคุณให้มากๆ  ความโกรธ ความเสียดายเงินซึ่งก็จำนวนมากโขนั้น  อาจทำให้คุณแม่เสียใจ ผิดหวังมาก แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็คงต้องใจเย็นๆ  ที่สำคัญคือต้องปรับใจให้นิ่งให้ได้  แล้วค่อยๆมองกว้างๆ  คิดถึงอนาคตไกลๆ  เพราะถ้าน้องชายทำจริงๆ  ถึงวันนี้คงต้องวางระบบกันใหม่เลยล่ะ  ทำใจดีๆ ร่มๆ เพื่อจะได้มีสติ สำหรับการแก้ปัญหาแบบถอนรากถอนโคน กรุณา คือ การปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ ถ้าหากน้องชายทำจริงๆ  อาการแบบนี้เขาคงไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่มีความสุขแน่นอน  แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าทุกข์หรือปัญหาของน้องชายคืออะไร  อาจจะเป็นตามที่คุณสงสัย ...อันนี้น่าจะเปิดใจคุยกัน  เราว่าปัญหาในครอบครัวคุณอย่างหนึ่งคือ  รู้มาตั้งนานแล้วว่าน้องมีพฤติกรรมลักขโมย แต่ทำไมจัดการไม่ได้ซักที  ความจริงแล้วถ้าพ่อแม่ใกล้ชิด หรือสามารถพูดกับลูกได้จริงๆ  มันน่าจะสามารถตกลงหรือสั่งสอนกันได้  ยังไงถ้าต้องการคุยกันจริงๆอาจต้องมีผู้ใหญ่หรือบุคคลที่น้องรักและไว้ใจเป็นตัวกลางนะคะ มุฑิตา พลอยยินดีเมื่อเขาได้ดี หรือมีความสุข  อันนี้สมมุติว่าสามารถคุยกันรู้เรื่อง  ตกลงกันได้  ก็คงจะทราบแนวทางว่าต้องทำยังไง  น้องอยากทำอะไรต่อไป  เหตุผลในการกระทำคืออะไร  สิ่งไหนคือสิ่งที่เขาทำแล้วมีความสุข(ภายใต้ศีลธรรม)  อันนี้ไม่ยาก  ถ้าคุยกันแล้วก็แค่คอยสนับสนุนเขาแค่นั้น อุเบกขา  คือการมีใจเป็นกลางกับกรรมของคนอื่น เพราะเห็นตามจริงแล้วว่าใครทำอย่างไร ย่อมได้รับผลสอดคล้องตามนั้น สุดท้ายแล้ว  ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง  แต่ถ้าเราหวังดีต่อเขาจริงๆ  มีแนวทางมากมายที่เพื่อนๆได้ให้ความเห็นไปแล้ว  เพียงแต่คนในครอบครัวต้องปฏิบัติอย่างจริงใจ  และพร้อมที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน  รักเขาให้มากๆ(รักแบบเมตตา/ไม่ใช่คาดหวัง/ไม่เปรียบเทียบ)  พูดกับเขาด้วยความจริงใจ  และยิ้มให้เขาด้วยความปรารถนาดี  คนปกติจะรับรู้ถึงความรู้สึกปรารถนาดีได้ค่ะ   ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : บาดเจ็บสาหัส เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:40:39

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ บาดเจ็บสาหัส ขอบคุณมากๆนะคะ   แม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะ ถ้าแม่ได้อ่านความคิดเห็นของคุณ แล้วคงรู้สึกดีขึ้น ขอบคุณมากๆสำหรับทุกความเห็นนะคะ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 20:50:25 จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:49:34

ความคิดเห็นที่ 30 ยินดีค่ะ จากคุณ : บาดเจ็บสาหัส เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 20:57:05

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจ และ เห็นใจ ครอบครัว จขกท นะคะ แต่ว่าแนะนำไม่ถูกเลย เราคิดว่าจับติดคุกไปก็เปล่าประโยชน์น้อง จขกท ก็คงไม่ดีขึ้น เผลอๆจะแย่ลงกว่าเดิม เพราะเคยติดคุกมาแล้ว อะไรก็ไม่กลัวแล้ว เด็กดี พ่อแม่บอกก็ต้องเชื่อแล้วค่ะ ถึงไม่ดียังไง ก็ไม่ถึงกับขโมยเงินเยอะขนาดนี้หรอก เงินเยอะขนาดนั้น เอาไปทำอะไรก็ลองสืบหาดูค่ะ การพนัน ให้เพื่อน เลี้ยงเพื่อนก็เป็นไปได้ เราว่าจับติดคุกไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดหรอกค่ะ พ่อแม่ควรทำใจค่ะ เสียแล้วเสียไป เอาคืนมาไม่ได้แล้ว ไม่ยอมรับแถมไม่กลัวบาป ถึงกะกล้าสาบาน คนพวกนี้ไม่กลัวบาปหรอกค่ะ เห็นกล้ายืนยันแบบนี้มาเยอะ กล้ามาก เราคิดว่า พ่อแม่ควรเก็บเงินให้มิดชิดค่ะ ของมีค่าอะไร เก็บใส่ตู้เซฟอะไรไว้ หรือไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเก็บไว้ ไปไว้ในตู้ที่ธนาคารนู่นค่ะ เหลือแต่ของจำเป็นที่ใช้ประจำวัน และไม่ต้องให้เงินใช้ค่ะ ถ้าให้ก็กำหนอดไปเลยว่าให้เท่าไหร่ ยังไง ต่อวัน ต่ออาทิตย์ หรือเดือน ต้องเอาจริงค่ะ คงไม่เลวขนาดจะตีพ่อแม่หรอกนะ ให้แค่พอใช้ธรรมดา อย่าให้ขึ้น ชื่อว่าฟุ่มเฟือย ไม่พอก็ไม่ต้องให้อีก เพราะหนังสือไม่เรียน ค่าใช้จ่ายก็แค่เรื่องกินนี่แหละ ถ้าทำได้ก็หลอกล่อไปว่า ถ้าอยากได้เงินก็ทำงานสิ ให้เค้าดูแลร้านก็ได้นี่คะ หรือให้เค้าไปหางานง่ายๆทำ เพราะถ้าไม่ไปทำเงินก็ไม่พอใช้ ที่สำคัญห้ามใจอ่อน หรือพ่อแม่จ้างให้เค้าทำอะไรก็ได้ที่เป็นงานน่ะ ที่เราคิดได้มีเท่านี้ค่ะ เด็กหัวดื้อ นิสัยไม่ดี ต้องใช้ไม้แข็ง อ่อนไม่ได้ ถ้าพ่อแม่ยอมต่อไป เดี๋ยวก็จะขี่คอพ่อแม่ซักวัน อย่าให้ลูกมีอำนาจเหนือค่ะ มันจะคุมยาก แต่ก็เข้าใจค่ะ เด็กบางคนโตเป็นควายยังคิดไม่ได้เลย สู้ๆนะคะ จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 21:00:04

ความคิดเห็นที่ 32 คุยกันดี ๆ ค่ะ ถ้าเขาเอาไป เขาอาจจะมีความจำเป็นอะไร ต้องซักถามให้ดี เพราะถ้าเขาไม่รักพ่อแม่ เขาก็คงเอาไปหมดเลย ค่อย ๆ พูดกัน อาจจะได้เหตุผล และค่อยพิจารณาอีกทีว่าจะแก้ไขอย่างไร ถ้าแม้แต่คนในครอบครัวยังให้อภัยเขาไม่ได้ เขาคงจะไม่มีที่ยืนแล้วละค่ะ จากคุณ : โสดในซอย จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 21:17:12

ความคิดเห็นที่ 33 ผมกลัวแต่ว่าเขาอาจจะไปรวยทางลัด เอาเงินตรงนี้ ไปเป็นทุน เอเย่นยาขาใหญ่ งานนี้อาจจะถึงขั้นประหารชีวิตได้นะครับ ถึงไม่เสพก็เถอะ จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:15:40

ความคิดเห็นที่ 34 แนะนำให้แจ้งความค่ะ หากมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยจนกระทั่งกล้าขโมยเงินพ่อแม่เป็นแสนๆได้อย่างนี้ ถ้าปล่อยไว้ต่อไปจะเป็นอันตรายต่อทั้งครอบครัวและสังคมค่ะ แต่ก่อนจะแจ้งความ แนะนำให้เรียกมาคุยก่อนนะคะ คุยกันดีๆแบบไม่ใช้อารมณ์และบอกว่าพ่อแม่รักน้องมากแค่ไหน พี่ชายเคยเลวสุดๆมาก่อนเหมือนกัน ตอนนี้ดีขึ้นเยอะมากแล้ว เพราะพ่อกับแม่พยายามทำให้เค้ารู้สึกว่าไม่ได้รักเค้าน้อยกว่าใครค่ะ แก้ไขเพิ่มเติมค่า แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 54 22:37:15 จากคุณ : ruri riru เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 54 22:31:40

ความคิดเห็นที่ 35 น่าเห็นใจจริงๆครับ สงสารแม่คุณ จขกท. มากๆเลย จะแจ้งจับ คงรู้สึกใจจะขาดแน่ๆ แต่ถ้าไม่ทำน้องคุณอาจจะยากมากกับการกลับมาเป็นคนดีของสังคม แต่ผมพูดตรงๆเลยนะ แถวบ้านผมมีคนติดยามากมาย โดนจับแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เพื่อนผมคนนึงเล่นกันมาแต่เด็กๆ พอมันโตขึ้นหน่อยมันห่างพวกผมไป มันติดยา ขายยา ขโมยรถ ติดคุกแล้วไป 2-3 ครั้ง ยังทำเหมือนเดิม จนล่าสุดติดคุกไปปีกว่าๆ มันถึงพอจะกลับรำได้ แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าเดิมมากมาย แต่ถ้าไม่แจ้งจับน้องคุณอาจมีอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ก็เป็นได้ จริงๆก็น่าให้ลองให้ราชทัณฑ์อบรมดูนะ เกิดจะดีขึ้น หรือไม่ก็ถ้าอายุถึงเกณฑ์จับให้เป็นทหารไปซะ เกิดมันจะดีขึ้น แล้วกลับรำได้ ลองดูนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ยากจะทำใจจริงๆเรื่องนี้ จากคุณ : WinStOry เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 00:09:50

ความคิดเห็นที่ 36 ทหารๆ ทหารๆ จากคุณ : Mr.Kritkung เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 01:47:48

ความคิดเห็นที่ 37 คงช่วยอะไรเจ้าของกระทู้ไม่ได้ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้ด้วยดีแล้วกัน.... PS. แนวทางทหารก็ดีนะ แต่ใช่ว่าใครอยากเป็นก็เป็นได้ แม้จะร้องขอก็เถอะ กฏระเบียบข้อบังคับก็มี.... อย่างช่วงที่ผ่านมา เพื่อนผมก็สมัคร แต่เขาก็ไม่รับ   เพราะไม่ผ่านการตรวจร่างกาย จากคุณ : crazynice เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 02:09:56

ความคิดเห็นที่ 38 เฮ้อ เครียดเหมือนกัน จะบอกว่า น้องชายที่บ้านก็มีพฤติกรรมประมาณนี้เหมือนกันค่ะ แบบชอบก่อความวุ่นวายให้ ยืมเงินประจำ ทำยังไงให้เค้ามีความคิด ดี ดี บ้างหน๊อ  คิดว่า จะไม่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจเนี่ย หัวอกเดียวกันเลยค่ะ เป็นพี่สาว จนคิดว่าไม่อยากมีน้องแบบนี้เลย ให้น้องมันตาย ๆ ไปเลยอ่ะ จากคุณ : jppj เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 03:21:18

ความคิดเห็นที่ 39 เรื่องของเจ้าของกระทู้เหมือนเราเลยค่ะ แต่ของเราเป็นพี่ชาย  ทุกวันนี้ต้องดูแม่ทุกข์ใจเพราะไม่รู้จะจัดการยังไงกับพี่ชายเรา เห้อออออ จากคุณ : vanilla macadamia เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:53:54

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่า จะไปโทษ น้องมันก็ใช่เรื่อง ก็ทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องเป้นคนแบบไหน แม่ก้ยังเอาเงินเก็บไว้ในบ้านอีก ผมว่าประมาทมากกว่า ที่จะไปโทษน้อง ถ้าน้องไม่ได้เอาไปจริง จำทอย่างไง จากคุณ : mak2010 (mak2010) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 16:21:44

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ mak2010 ลองกลับไปอ่าน คห.27 ดูนะคะ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 16:49:51

ความคิดเห็นที่ 42 เอาไปสมัครเรียนทหารเลย....อายุ 15 ก็สามารถเข้าเรียนได้แล้วนะ จากคุณ : Mr.Kritkung เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 23:43:11

ความคิดเห็นที่ 43 แนะนำให้คุยก่อน 1.  ถ้าไม่ยอมรับก็บอกว่าจะแจ้งความ และคาดว่าน่าต้องรับโทษ และถ้ารับโทษ ทางครอบครัวจะไม่ช่วยประกันตัวออกมา ก็ให้คุกลงโทษและดัดสันดานไปค่ะ( ไม่คิดว่าคุกจะทำให้กลับตัวเป็นคนดีได้ค่ะ) แต่ครอบครัวต้องทำใจว่าคงไม่ได้ลูกคนเดิมกลับมาอีกแล้ว 2. ถ้ายอมรับ ก็ให้ตกลงกันว่าจะส่งไปสมัครเป็นทหาร คิดว่าวินัยทหารสร้างคนได้ค่ะ ส่วเข้าวัดช่วยได้เฉพาะคนที่ปริ่มๆน้ำ น้องคุณดูจะจมลึกอยู่ใต้น้ำมาก แสดงว่าไม่มีวินัยขาดความรับผิดชอบมาตั้งแต่เด็ก ส่งไปให้ทหารสอนเถอะค่ะ จากคุณ : Singing Blue Jay เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 11:14:05

ความคิดเห็นที่ 44 มีลูกอยู่ ๓ แบบ... ๑.อภิชาตบุตร  - บุตรที่ประเสริฐกว่ามารดาบิดา ๒.อนุชาตบุตร  - บุตรที่เสมอกันกับพ่อแม่ ๓.อวชาตบุตร  - บุตรที่เลวกว่ามารดาบิดา น้องคุณ จัดอยู่ในอวชาตบุตร คือ ลูกที่เกิดมาเลว พระธรรมเท่านั้นที่จะเปลี่ยนจากคนเลว คนชั่ว ให้เป็นคนดีได้  ซึ่งอุบายอะไรก็แล้วแต่กรณีนะครับ จากคุณ : eau_med เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 18:08:25

ความคิดเห็นที่ 45 บางครั้งเราซึ่งเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือญาติๆ พูดหรือเตือนอะไร   เขาก็ไม่ฟังเราหรอกค่ะ (กำลังวัยรุ่น เชื่อแต่เพื่อน)  บางอย่างต้องให้เขาเจอด้วยตัวเอง  ต้องดัดนิสัยเขาบ้างค่ะ  เขาจะได้รู้ว่าพ่อแม่เอาจริงแล้วนะ  ต่อไปจะได้ไม่ทำอีกค่ะ จากคุณ : แม่น้ำฟ้า เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 14:12:19

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องเป็นยังไงบ้าง...ถึงไหนแล้ว หาทางออกได้บ้างไหม?? จากคุณ : Mr.Kritkung เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 54 01:13:52

ความคิดเห็นที่ 47 ขอให้  ผ่านพ้นไปด้วยดี นะ ครับ จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:40:42

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาอัพเดทนะคะ ช่วงนี้ยุ่งๆค่ะ  มีสอบไฟนอล ซัมเมอร์ พรุ่งนี้ซะด้วย สำหรับแม่เรา ตอนนี้ก็ทำใจได้มากขึ้นแล้ว ส่วนเงินจำนวนนั้นก็หายไปเฉยๆ   สำหรับน้องเรา  ก็ต้องดูพฤติกรรมมากขึ้น เราก็คงได้แต่หวังว่าเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก สำหรับเราตอนนี้ เห็นแม่ทำใจได้มากขนาดนี้ ก็รู้สึกดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาติดตาม  และหลังไมค์ มาถามข่าวคราวเสมอนะคะ ^^ จากคุณ : angsumaree01 เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 18:40:29