ก่อนอื่นต้องขอเล่าให้ฟังก่อนนะคะ
พอดีคุณพ่อโดนตำรวจมาล่อซื้อสินค้าคือ ชิ้นส่วนอะไหล่มอเตอร์ไซค์
ซึ่งห่อของมันเป็นของบริษัทรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่ง แต่สินค้าข้างในไม่ใช่สินค้าของบริษัทฯ นั้น ค่ะ
ตำรวจก็จับกุมคุณพ่อไปทำบันทึกการจับกุม และคุณพ่อก็เซ็นต์รับข้อกล่าวหาไปแล้ว
เมื่อเซ็นต์รับข้อกล่าวหา ก็ได้ทำการประกันไปในวงเงิน 1 หมื่นบาท
หลังจากนั้นตำรวจร้อยเวร ก็แจ้งว่า จะนัดเพื่อไปขึ้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาอีกครั้งหนึ่ง
มีข้อสงสัยค่ะว่า...
.. ถ้าเรื่องถึงศาลแบบนี้แล้ว คุณพ่อควรจะทำอย่างไรดี
ระหว่างการหาทนายมาสู้คดี หรือควรจะยอมรับไปดีกว่า เรื่องจะได้ไม่ยาว
..จริง ๆ แล้ว เรียกว่าจะปฎิเสธไม่ได้เลยค่ะ เพราะหลักฐานชัดเจน
ว่าเราขายของเทียมจริง แต่ในทางกฎหมายแล้ว เราควรจะทำอย่างไรดีคะ
..ถ้าเราจะอ้างเหตุผลว่า..
1.คุณพ่ออายุ 74 ปีแล้ว เป็นผู้สูงอายุ
2.ตอนที่มีเซลล์มาขายสินค้านั้น ร้านเราเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน ยังดูสินค้า
ไม่ออกว่า อันไหนของจริง อันไหนของปลอม
3.สินค้าที่ถูกจับ มีเพียง 1 ชิ้นเท่านั้น
4.เรามิได้มีเจตนาที่จะทำผิดจริงๆ
5.ฯลฯ
ถ้าใช้เหตุผลดังกล่าว จะเพียงพอหรือไม่คะ ที่ศาลจะอนุโลมให้เรา
และอยากทราบว่า ศาลจะปรับเราประมาณเท่าไร
แล้วเราจะโดนทั้งจำทั้งปรับหรือไม่
อย่างนี้เราควรจะยอมรับ หรือหาทนายมาสู้ดีคะ รบกวนปรึกษาด้วย
ขอโทษทีคะ เราไม่ทราบเรื่องกฎหมายเลย อาจจะเขียนแล้วทำความเข้าใจยากหน่อย
เพิ่งเคยโดนจับครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 54 18:01:42
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 54 16:58:02
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 54 16:44:34
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 54 16:27:11