Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
China City complex - 80% ของคนทำธุรกิจยังไม่รู้ตัวว่าความตายกำลังมาเยือน ติดต่อทีมงาน

เป็นกระทู้ที่เขียนโดยคุณสัมมาชน มีทั้งหมดสี่ตอน
เราคุยเรื่องนี้กันตั้งแต่มกราคมแล้ว คนให้ความเห็นมากมาย
เลยอยากฟังได้ความเห็นของคนที่ทำํุธุระกิจหน่อยว่า
ถ้าCCCเกิด SMEไทยจะตายหรือเกิด


ประชาชาติธุรกิจ : ฉบับวันที่ 17-19 มกราคม 2554

พาดหัวข่าว : ผวา "ทุนจีน" ทุบ SMEs
พาดหัวรอง : "อี้อูโมเดล" ถล่มผู้ค้ารายย่อย - สำเพ็งระส่ำ

ข่าวเรื่อง China City Complex สร้างความตระหนกให้กับนักธุรกิจไทยมาได้เกือบ 1 สัปดาห์แล้วครับ สืบเนื่องจากมีการประกาศตัวเปิดพื้นที่ขายปลีกขนาดยักษ์ซึ่งจะเป็นศูนย์รวม ของสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งมีพื้นที่โดยประมาณถึง 700,000 ตารางเมตร ใหญ่เทียบเท่ากับห้างสรรพสินค้าปลีกขนาดยักษ์แห่งหนึ่งทีเดียว

คนที่อยู่ในแวดวงการค้าปัจจุบัน จะรู้พิษสงของสินค้าที่ผลิตจากประเทศจีนดีครับว่าเป็นฝันร้ายระดับไหนสำหรับ ผู้ผลิตไทย เพราะความที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาก และมีปริมาณมหาศาลมากเสียจนสามารถท่วมท้นเข้ามา "ฆ่า" สินค้าไทยได้ทุกประเภทไม่มียกเว้นทีเดียว

ประเทศจีนในปัจจุบันนั้น มีความถึงพร้อมในศักยภาพการผลิตไปจนถึงการค้าเกินกว่าที่เอกชนของไทยจะต้าน ทานได้โดยปราศจากการหนุนช่วยของภาครัฐ เพียงแต่ว่าโครงการณ์ China city complex นี้ กลับถูกผลักดันให้แจ้งเกิดโดยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เสียเอง..!!

ผมเชื่อว่ามีคนไทยจำนวนมากเคยไปเที่ยวที่ตลาดชายแดนแม่สาย จังหวัดเชียงรายกัน บางคนไปซ้ำหลายๆครั้งด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดฝั่งพม่านั้นถือเป็นจุดสำคัญของการ "ช็อปปิ้ง" ชนิดที่พลาดไม่ได้เป็นอันขาด ด้วยความที่เต็มไปด้วยสินค้าราคาถูกอย่างเหลือเชื่อสารพัด ในราคาที่ผู้ผลิตชาวไทยรู้ดีว่าต่ำกว่าต้นทุนที่เราจะผลิตเองด้วยซ้ำ รวมถึงคนที่เคยไป เสิ่นเจิ้น, กว่างโจว, เซี่ยงไฮ้ ก็รู้ในสิ่งเดียวกัน

ผมค่อนข้างใกล้ชิดกับวงการผลิตเครื่องนุ่งห่ม,รองเท้า และผลิตภัณฑ์ประเภทเคหะสิ่งทอ ซึ่งเคยมีการปรับทุกข์กันตั้งแต่เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วว่า เมื่อไหร่ที่สินค้าจากจีนเอาจริงในการบุกไทย เมื่อนั้นเราจะอยู่กันอย่างลำบาก แต่ตอนนั้นความวิตกเรื่องนั้นยังมองไม่เห็นเป็นรูปธรรม เพราะเข้าใจกันว่าจีนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่กำลังผลิตจะเหลือมากพอที่ จะไหลบ่าออกนอกประเทศ

ที่จริงแล้วสัญญาณอันตรายจากการบุกไทยของสินค้าจีนส่งสัญญาณมาได้เกือบ 10 ปีแล้วครับ ตัวอย่างเช่นชุดชั้นในของจีนที่มีผู้นำเข้าชาวไทยนำเข้ามาตีตลาดจนผู้ผลิต รายย่อยเล็กๆในประเทศไทยเริ่มล้มหายไปจากวงการ รวมจนถึงรองเท้าจากจีนที่มีผู้นำเข้ามาตีตลาดระดับล่างของประเทศไทยจนผู้ ผลิตระดับเล็กๆตามตึกแถวต้องหมดอนาคตเลิกราไปอีกไม่น้อย ทุกอย่างเกิดจากฝีมือของพ่อค้าไทยรังแกกันเองทั้งสิ้น

จนมาถึงประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา หากใครไปเดินเล่นริมถนนเยาวราชบ่อยๆ จะสังเกตุเห็นว่า พวกที่ค้าขายสินค้าจากจีนตามแผงลอยริมถนนเยาวราชนั้น เกือบครึ่งหนึ่งจะเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่แท้ๆ...ไม่ใช่คนไทย ซึ่งหมายความว่า วันนี้คนจีนได้เข้ามาแย่งตลาดค้าขายของไทยตั้งแต่ต้นทางคือการนำเข้าจนถึงการค้าปลีกโดยตรงสู่มือผู้บริโภคแล้ว

แต่ทุกสิ่งทุกกระบวนการนั้น รัฐบาลไทยสามารถแก้ปัญหาให้กับคนไทยได้...ถ้าหากมีความจริงใจ...เพราะทั้งหมดเป็นการค้าแบบผิดกฎหมาย

แต่กับกรณีของ China City Complex ที่กำลังจะเปิดตัวในย่านบางนานี้แตกต่างกันครับ เพราะมีรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์รับรองและสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเจ้าภาพคนสำคัญคือนายอลงการณ์ พลบุตรเป็นผู้ผลักดัน

ดังนั้นในหลายวันที่ผ่านมา ความตระหนกตกใจจึงแผ่ขยายไปทั่วในกลุ่มนักธุรกิจไทย ซึ่งน่าแปลกใจที่น้อยคนนักจะรู้ระแคะระคายถึงโปรเจ็คการลงทุนนี้มาก่อน ทั้งๆที่มีขนาดการลงทุนที่ใหญ่มากและผลกระทบก็มหาศาลมากเช่นกัน

ถึงกับระดับกรรมการระดับสูงของสภาอุตสาหกรรมไทยพยายามจับมือกับกลุ่มหอการ ค้าไทยต่อต้าน CCC อย่างเกรี้ยวกราดและรุนแรงมากเสียจนนายอภิสิทธิ์ต้องหลบฉากจากการออกหน้า ป่าวร้องโครงการณ์นี้ แล้วให้นายอลงกรณ์เป็นหนังหน้าไฟแทน

การที่คนระดับนายจิโรจน์ ตั้งกิจงามวงศ์ ซึ่งเป็นเลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทยถึงกับออกมาพูดว่า

"น่าตกใจมากที่โครงการนี้มาแบบเงียบๆ ที่สำคัญคนของเราเป็นนำเข้ามา ผมเชื่อว่าคนอีกกว่า 80% ไม่รู้ว่าความตายกำลังมาเยือน....ฯ"

ได้บ่งบอกถึงความเครียดและความกังวลถึงสิ่งที่กำลังจะตามมาอย่างชัดเจน

ในขณะที่มุมมองจากผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารกลับบอกว่า

"ควรจะมองเรื่องนี้ในมุมบวก เพราะเราอาจจะใช้เป็นโอกาสร่วมมือกับผู้ผลิตชาวจีนในรูปแบบของคู่ค้ามากกว่า คู่แข่ง เพราะต่อให้เรากีดกันไม่ให้โครงการนี้เกิด เขาก็ไปที่อื่นได้ โดยที่เราจะไม่ได้อะไรเลย...ฯ"

แต่ในมุมมองของผมและนักธุรกิจที่ผมได้แลกเปลี่ยนทัศนะกันในช่วงไม่กี่วันที่ ผ่านมา เรามองตรงกันว่านี่คือก้าวแรกของหายนะที่กำลังจะเกิดกับ SMEs ของประเทศไทยในไม่ช้านี้ครับ

จากคุณ : this is thailand
เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:26:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com