ความคิดเห็นที่ 1 กำลังจะไปนอนพอดีเลยค่ะ  แต่เห็นกระทู้นี้ ขอแว๊บบมาให้กำลังใจ จขกท. ก่อนนะคะ  ล้มแล้วต้องลุกให้ได้ค่ะ  เมื่อก่อนเราก็เคยขายกับข้าวเหลือทุกวัน  ทำห่อหมกไป 50 เหลือกลับมาเป็น 20 แต่หลังจากมานั่งคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร  และลองปรับปรุงทุกอย่างตามแนวคิดของเราดู รวมถึงเปลี่ยนทำเลขาย ปรากฎว่าตอนนี้ทำอะไรไปก็ขายหมดค่ะ เพราะงั้น จขกท. สู้ ๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 16:50:15 จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:24:09

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้คนอื่นเป็นงัย แต่ผมคิดว่า คนจะค้าขายให้ประสบความสำเร็จ พูดง่ายๆคือรวยนั่นเอง ต้องใจแข็ง เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ส่วนที่รวยแล้วออกมาจัดโครงการนั้นโครงการนี้ ให้คนอื่นๆถือเป็นเรื่องดี แม้ว่าจริงมันคือการโฆษณาก็ตาม ทำทุกอย่างต้องหวังผล ไม่มีหรอกครับทำเพื่อสังคมฟรีๆอ่ะ อย่างที่เขาเขียนหนังสือมากันอ่ะ เขาบอกไม่หมดหรอก ส่วนที่ไม่ดีใครเขาจะบอก จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 07:51:01

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ    อายุยังน้อยยังมีโอกาสอีกมาก   ครั้งนึงเราเคยทำโชห่วย   แล้วขยับมาเป็นมินิมารท์ ในเวลาต่อมา    ขายได้ค่ะ  เพราะอยู่ใกล้ตลาดนัด  หลักๆเลยก็เหล้าเบียร์  เครื่องดื่มที่แช่ตู้เย็นๆ  และจิปาถะ     รองลงมาก็น้ำมันค่ะ  น้ำมันเบนซิน ที่ใช้เติมรถมอไซร์    ไปซื้อจากปั้มมาที่ละ30ลิตร    เอามากรอกขวดขาย  หน้าร้าน   แถวบ้านเราเป็นทางผ่านที่จะไปทะเล      ไม่มีปั้ม       ขายได้ค่ะ  มีลูกน้องคนนึง  เรามีลูกเล็กๆเลยต้องหาคนชว่ย      ยังไม่พอ  ไปซื้อเฟรนด์ไชส์ ลูกชิ้นปิ้งเฮง เฮงมาอีก  ขายได้ค่ะ   ทำมา3-4ปี  หมู่จัดสรรค์เยอะขึ้น  คนมาอยู่เยอะขึ้น   7-11มาเปิด    คนแห่ไป7 ทั้งที่ราคาพอๆกับร้านเรา   หรือบางชิ้นแพงกว่าอีก    เท่านั้นยังไม่พอ ห้างดอกบัวย่อย มาเปิดอีก  คนก็แห่ไปห้างดอกบัว  เพราะมีทุกอย่าง   ยอดขายเราตก บวกกับลูกชายอยู่ในชว่งวัยรุ่น มีปัญหามาให้แก้ทุกๆวัน   ช่วงนั้นแทบเป็นโรคประสาท  ต้องกินยาคลายเคลียดทุกวัน   ของในร้านก็หายบ่อยมาก  ซึ่งก็พอรู้สาเหตุอยู่   เลยท้อตัดสินใจเซ้งค่ะ       ตอนนี้มาทำร้านเกียวกับความงามพราะเรียนมาทางนี้  เมื่อก่อนก็เปิดคู่กันกับมินิมารท์  ตอนนี้ทำอย่างเดียวแล้วค่ะ เราสามารถคุมเงินได้   และตอนนี้กำลังเร่งผลิตสินค้าจะทดลองขายออนไลน์ดูค่ะ         จขกท.ต้องนึกถึงสภาพเศรษฐกิจยุคนี้ด้วย     ของแพงเกือบทุกชนิด   ค่าครองชีพสูงคนใช้เงินน้อยลง   ที่เขาประกาศโครมๆ ว่าเศรษฐกิจดีน่ะ   ดีกับคนกลุ่มไหน  ยอดจองรถ   ยอดจองบ้าน  ธุระกิจอสังหากำลังไปได้สวย ขอแชร์ความรู้หน่อยค่ะว่าจริงแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 54 08:23:13 จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 08:14:27

ความคิดเห็นที่ 4 คนเราช่วงจังหวะชีวิตไม่เหมือนกัน ที่สําคัญต้องมีความพยายามอย่าสิ้นหวัง อบายมุขอย่าไปข้องเกียว ถ้าทําได้โอกาสโตมีแน่ฯ อย่างผมล้มลุกคลุกคลานมาก็เยอะ พอดีจังหวะช่วง 4-5 ปีที่แล้วจับถูกทางแล้วเอาไปซื้อที่ซื้อทางไว้หลายที่ มาเวลานี้เลยเหนื่อยไม่มาก แต่ถ้าเป็นเวลานี้ผมบอกได้เลยเหนื่อยทุกคน ประกอบอดีตผมไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุขเที่ยวกลางคืนกินเหล้า เงินทองเลยไม่รั่วไหลเท่าไร่ครับ จากคุณ : moovit เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 08:36:05

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ ตามความเห็นส่วนตัวนะครับ 1. คนจีนค้าขายเก่ง เก็บเงินเก่ง เห็นแก่ตัว ไม่ช่วยเหลือ    ผู้อื่น ไม่จริงหรอกครับ คนจีนที่ไม่เห็นแก่ตัว ชอบช่วย   เหลือผู้อื่น เท่าที่เคยพบมาก็มีเยอะครับ 2. ตอนที่ล้มเหลวได้ข้อคิดก็คือ สุดท้ายคนที่รักและห่วงเราจริง   คอยเป็นกำลังใจให้เราก็คือ พ่อแม่และครอบครัวของเรา 3. ตอนที่ผมล้มผมไม่ทรมานนะแต่ผมรู้ว่าเมียและลูกคือยาชูกำลังใจของจริง 4. จะค้าขาย ทำอย่างไรถึงจะดีครับ ก็ง่ายๆไงครับ ขยัน อดทน (ตีโจทย์ให้แตก) 5. จังหวะชีวิตมีอยู่จริงหรือปล่าว ไม่รู้สินะ รู้แต่ว่าช่วงที่ค้าขาย   ถ้าคุณจับจุดได้ถูก ช่วงนั้นเค้าเรียกว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก 6. ตอบเหมือน 5 กับ 6 ครับ 7. ไม่รู้เหมือนกันครับ   สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้นะครับ.... จากคุณ : ple-ck. เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 09:17:04

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาให้ลังใจคะ จริงๆแล้วคนที่เขาค้าขายร่ำรวย ก็มีอดีตที่ล้มลุกคลุกคลานมาก่อน น้อยนักจะจับอะไรครั้งแรกแล้วสำเร็จรุ่งเรือง ยั่งยืน บางคนมีต้นทุนที่ดี พูดง่ายๆ มีทุน มีที่ทาง มีพ่อแม่ญาติพี่น้องเป็นแบ็คคอยสนับสนุน ไม่ได้มานับ 1อย่างเราๆ ที่ต้องกู้หนี้ยืมสิน มาลองผิดลองถูกเอาเอง อายุยังน้อยนะคะ ยังมีเวลาเติบโตอีกเยอะ อย่าเพิ่งท้อ ดิฉันและสามี เริ่มค้าขายตอนอายุ 30 ทำมา10กว่าปีแล้ว ไม่เคยเจ๊ง แต่ก็เป็นช่วงถดถอย รายได้ลดลงครึ่งนึง เคยมีท้อเหมือนกัน แต่สภาพเศรษกิจแบบนี้ ดิ้นรนมากก็เจ็บตัว สำคัญที่สุดเลยคือเรื่องทำเลคะ  ทำเลดีๆขายข้าวถุง 5บาทอย่างเดียวยังรวย แต่ทำเลดีๆก็มักไม่เหลือถึงเรา ของอย่างนี้อยู่ที่จังหวะของชีวิต จริงๆ บางคนมีทุน แต่หาทำเลดีไม่ได้ เพราะช้ากว่าเขา หรือตอนที่มีทำเลดีๆ แต่ทุนไม่พอ หาเงินไม่ทัน อย่างดิฉัน วันดีคืนดี ก็มีเซลล์ที่อาวุโสในวงการ มาบอกข่าวเซ้งร้าน ซึ่งเขาเลือกที่จะมาบอกกับเรา เมื่อไปดู ทำเลดี ไม่มีคู่แข่ง ดูปุ๊ป หาเงินมาเซ้งทันที  6เดือนคืนทุนแล้ว เห็นมั๊ยว่าเป็นจังหวะจริงๆ ขายดีมากๆ ตลอด 4ปี ยอดไม่เคยตก เลยตัดสินใจ เซ้งค่าเช่า จ่ายเงินก้อน สัญญา 10ปี   ลงทุนตกแต่งร้าน ให้ดูดีทำทั้งห้องนอนด้วย หมดค่าตกแต่งไป เกือบๆ 3แสน เซ้งอีก 6แสน หลังจากนั้น ยอดก็เริ่มตกลงเรื่อยๆ เพราะ ลูกค้า ทยอยออกไปหาเช่าอพาร์ทเมนต์ใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งมีผลกระทบกับเรามาก แถมยังมีแฟมิลี่มาร์ทมาลงหน้าหมู่บ้าน ทำให้ยอดเราตกลงแบบกู่ไม่กลับ อันนี้ก็เป็นจังหวะชีวิตอีก การค้า ธรรมชาติของมันก็เป็นเช่นนี้ มีขึ้นมีลง มีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆมากมายที่เราควบคุมไม่ได้ ช่วงที่ขายดี ต้องเก็บเกี่ยวและรู้จักบริหารเงินให้ดี สะสมไว้เผื่อเกิดวิกฤตการณ์ด้วย เอาจากเพื่อนๆเราที่เจ๊งไปละกัน ผลักดันให้เขาทำธุรกิจเดียวกัน สนับสนุนจัดหาสินค้าให้ อยู่ได้ ปีกว่าๆก็เจ๊งไป 3ร้าน เพราะทำเลที่ได้มันไม่ดี อีกทั้งบางร้านมีคู่แข่งที่ขายตัดราคามาก อีกร้านหมุนของ หมุนเงินไม่เป็น เอาเงินที่ขายของได้ไปใช้จ่ายประจำวัน แบบนี้ พอถึงเวลาจ่ายเงินก็ไม่มีจ่าย ส่วนร้านที่เราเซ้งมาเอง เจ้าของเดิมขายดีกว่าเรามากๆแต่ติดพนัน ทิ้งร้านบ่อย สุดท้ายก็ต้องขายของถูกๆ บวกกำไรนิดเดียว เพื่อให้ของออกเร็ว จะได้นำเงินไปใช้หนี้ทันอย่างนี้ก็วอดวายอยู่แล้ว ดิฉันไม่ได้ตอบเป็นข้อๆนะคะ แต่ จากประสปการณ์ ทำเลอันดับหนึ่ง การบริหารจัดการสินค้า การบริหารเงิน รองลงมา นอกนั้นก็ปัจจัยภายนอก เช่นขายดี แล้วเจ้าของตึกไม่ต่อสัญญา พอได้ที่ใหม่แล้วขายไม่ดี สุดท้ายก็เจ๊ง เอาใจช่วยให้คุณเข้มแข็งเร็วไวนะคะ หนทางยังยาวไกล จากคุณ : เอื้องราตรี เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 11:42:54

ความคิดเห็นที่ 7 เราไม่เคยทำธุรกิจจนเจ๊งเลยนะ เพราะ 1. ไม่ได้หวังรวยค่ะ  ตอนแรกที่เปิดร้านหวังเพียงมีเงินเลี้ยงลูกเท่านั้น แต่ธุรกิจก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จากวันละพัน จนตอนนี้ก็หลักหมื่นปลาย ๆ ค่ะ (ตัวเลขไต่ขึ้นเรื่อย ๆ จะตกในหน้าฝน ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ) 2.จับธุรกิจตัวที่สอง ด้วยความบังเอิญ  คือเราไปซื้อสินค้าร้านหนึ่ง ใช้เวลารอนานมาก แล้วไม่ได้สินค้าตามที่เราตั้งใจไว้แต่แรก  ขณะขับรถกลับ จึงคิดเล่น ๆ กับสามีว่า ทำไมเราต้องเสียเงินซื้อสินค้าที่เราไม่ต้องการ  แล้วธุรกิจตัวนี้ ไม่น่าจะยากเกินการเรียนรู้ของเราค่ะ ธุรกิจตัวที่สองนี้ ทำกะหวังค่าขนมลูกจริง ๆ เพราะรู้ว่าเราสู้เจ้าใหญ่ ๆ ในจังหวัดไม่ได้ เราใหม่มาก สำหรับธุรกิจตัวนี้ ดังนั้นจึงบอกสามีว่าช่วงหนึ่งปีแรก ถ้าหมุนเงินไม่ทัน ขอยืมก่อนหนึ่งล้านบาท แต่ก็พูดเฉย ๆ ค่ะ  เพราะธุรกิจสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ ค้าขายตอนแรกอย่าตั้งความหวังไว้สูง เมื่อไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ อาจทำให้เราหมดกำลังใจได้ค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 11:46:49

ความคิดเห็นที่ 8 คิดเหมือน คห.2 ค่ะ รักจะค้าขายแบบให้รวย ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งแบบเห็นแต่ตัว ไม่งั้นไม่มีทางรวยหรอก ดิฉันก็เคยค้าขาย ล้มแล้วลุก ตั้งร้านใหม่ 3 ครั้งแน่ะ แต่ทั้งหมด ทุนตัวเอง พอทุนหมดก็เลยเลิก หาทำงานขายแรง ลงทุนด้วยแรงกายเราเอง ไม่ได้กู้ใคร ถ้ามีทุนก็คงสู้ต่อ ให้กู้เงินมาลงทุน ไม่เอาอ่ะ จากคุณ : เศษไม้ใบหญ้า เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 13:40:04 A:79.222.214.125 X: TicketID:266839

ความคิดเห็นที่ 9 การทำธุรกิจ มันอยู่ที่เราจะควบคุมสิ่งต่างๆได้แค่ไหน โดยเฉพาะ คน (ลูกน้อง) บางคน ทำธุรกิจ ทำเอง ขายเอง มีกำไรดี แต่พอขยายธุรกิจ มีลูกน้องมาช่วย กลับ ขาดทุน มีอาม่า ขายหน้าร้านอยู่ถนนเยาวราช แต่ก่อน แกทำหน้าร้านด้วย ทำโรงงานด้วย แก่เล่าให้ฟังว่า ทำไปทุกปี ขาดทุนทุกปี เพราะ โรงงาน แกคุมไม่ได้ เดี๋ยวของโดนขโมย เดี๋ยวลูกน้องทำของเสียหาย ไหนจะค่าโสหุยอะไรอีก (ยิ่งวันยิ่งสูง) ดังนั้น แกก็เลยเลิกโรงงานไป ทำแต่ขายหน้าร้าน ปรากฎว่า มีกำไร พอเลี้ยงครอบครัว ลูกหลานได้ อาจจะไม่มาก เหมือนที่หวังไว้ แต่ก็ดีกว่าขาดทุน ลูกน้องมีหลายประเภท คุณจะเป็นเจ้านายแบบไหน ลูกน้องบางคนก็ดี ช่วยดูแล นู่นนี่ (น้อยมาก เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร) ส่วนใหญ่ จะเป็นประเภทสบายๆ เดี๋ยวป่วย เดี๋ยวมีธุระ เหนื่อย แน่ๆ คราบ จากคุณ : เจ้าเฟยเอื่ยน เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 15:09:46 A:58.11.6.59 X: TicketID:288407

ความคิดเห็นที่ 10 ทำธุรกิจ จะรุ่ง ต้องเก่ง + เฮง  50/50 บางคนเก่งแต่ไม่มีโอกาส บางคนโอกาสมาถึง แต่ไม่เก่ง ไม่ไขว่คว้าก็ไม่ได้ แต่เราว่าคนทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องงก เห็นแก่ตัวถึงจะอยู่รอดนะ เราเชื่อว่า ยิ่งให้ ยิ่งได้ คิดดี ทำดี ก็จะได้สิ่งดีๆกลับมา จากคุณ : ~AZZEZORIE~ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 19:04:58

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกคนมาจากศูนย์ จากไปเป็นศูนย์ด้วย อยู่อย่างสุขซิครับ จากคุณ : uthai_y เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 22:42:49

ความคิดเห็นที่ 12 หลายคนก่อนจะรวย ก็เคยเจ๊ง เคยพลาดมาแล้วทั้งนั้น  แต่ทุกความผิดพลาด มันคือประสบการณ์ บางธุรกิจ มันไม่ได้วัดกันแค่ 3 เดือนไม่มีลูกค้าเจ๊ง แต่ถ้าอดทนต่ออีกนิด 6 เดือน อาจจะมีลูกค้ามาก็ได้ มันต้องอาศัยเวลาในการเติบโต  บางธุรกิจ คุณทำ 2 ปีเจ๊ง ทั้งที่จริงๆอาจจะต้องใช้เวลา 3 ปี ถึงจะรอดก็ได้ แต่ความอดทนของคุณไม่นานพอ มันเลยไปไม่ถึงคำว่าอยู่รอด สิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด คือ ความสามารถในการแก้ปัญหาของคุณ  ไม่มีธุรกิจไหนที่ราบรื่นไร้ปัญหา งานทุกอย่างล้วนต้องเจอปัญหาทั้งนั้น ปัญหาในด้านการเงิน การลงทุน การคาดการณ์ตัดสินใจสั่งซื้อ การวางแผนการตลาด การขายสินค้า จะทำยังไงให้มีลูกค้า หรือว่าทำยังไงให้มีทุนหมุนเวียน สภาพคล่อง ถ้าคุณแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจไหน มันก็ไปรอดทั้งนั้น ขึ้นกับการตัดสินใจ แล้วการตัดสินใจ อะไรเป็นตัวบอกว่า เราควรตัดสินใจอย่างไร ถึงจะไม่ผิดพลาด หรือ ไม่เจ๊งนั่นเอง ก็คือ ประสบการณ์ คนที่เคยล้ม เคยพลาดมาก่อน ย่อมรู้ดีว่า เจ็บมันเป็นเช่นไร พลาดเพราะอะไร คงไม่อยากเจอซ้ำ หรือว่า รู้แล้วปัญหามันอยู่ตรงนี้นี่เอง หาเจอแล้ว จะต้องแก้ยังไง นอกจากประสบการณ์แล้ว ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ตัวช่วยในการตัดสินใจ  สิ่งหนึ่งที่นักธุรกิจต้องมี คือ ความกล้าเสี่ยง อย่ากลัว ถ้าต้องตัดสินใจอะไรใหญ่ๆ ถ้าคุณมองเห็นอนาคตว่าทำแบบนี้มันรอด หรือว่า ธุรกิจจะเติบโต ถึงแม้วันนี้จะยังไม่เห็นอะไร สิ่งที่คุณต้องมีอีกอย่างคือ ความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ ไม่ท้อถอยซะก่อน แม้ว่ามันจะล้มลุกคลุกคลานก็ตาม สัญชาตญาณก็สำคัญ มันต้องมีในตัว เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่า โอกาสมาแล้ว คุณรีบคว้าซิ หรือ รอก่อน หยุดก่อน อย่าพึ่งทำอะไรตอนนี้ ถ้าเรารู้จังหวะ ความผิดพลาดน้อย ความเสียหายก็จะน้อยตาม อย่ามองข้ามจิตใต้สำนึกของเราที่เตือน ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ในตัว ไม่ว่าทำธุรกิจไหน ก็ไม่พลาด สิ่งหนึ่งที่คนค้าขายต้องมี  ไม่ใช่ความงก หรือเห็นแก่ตัว แต่เป็นการให้ บางทียิ่งให้มาก เราก็จะยิ่งได้รับมาก การบริการเป็นสิ่งจำเป็น ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเหมือนลูก ที่เราต้องดูแล และแคร์เขา เขาเป็น"ลูก"ค้า  ที่ต้องการให้เราช่วยเหลือ บริการ เราให้บริการดี เทคแคร์ดี เขาก็กลับมาซื้อของกับเรา ค้าขายด้วยความหวังดี จะได้ลูกค้ามากกว่า ค้าขายเพื่อกำไร หวังผลระยะยาวดีกว่า ฟันได้ครั้งเดียวจบ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 01:10:13

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่อยากเจ๊งก็ไม่ต้องค้าขาย  เป็นลูกจ้างเขา  ถึงผมจะมีงานพิเศษบ้าง  งานหลักก็ยังเป็นลูกจ้าง  เศรษฐกิจต้มยำกุ้งผมก็แค่ 0 ไม่เคยติดลบ  ไม่เครียด  แต่ไม่รวย  ชีวิตแล้วแต่เลือกครับ (แต่ผมก็ยังมองหาลู่ทางค้าขายอยู่บ้างนะ   แต่คิดว่ายังหาไม่เจอ) จากคุณ : marupong เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 14:48:47