ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้  คุณแสนเชิง   เคยอ่าน กระทู้ของคุณแสนเชิงมาหลายกระทู้แล้วค่ะ  ยังไม่มีโอกาสได้แสดงความเห็น และครั้งนี้ก็เช่น กัน โดยส่วนตัวแล้ว ชอบความคิดของคุณแสนเชิงมาก  สามารถสื่อเรื่องราว ได้อย่างน่ารัก และประทับใจทุกครั้ง และ คิดว่า คุณแสนเชิงเป็นคนอ่อนไหวเรื่องความรัก พอสมควร   สำหรับเรื่อง พรมลิขิต ดิฉันเชื่อนะคะ และตอนนี้ดิฉันคิดว่า กำลังเจอกับเหตุการณ์ นั้นจริง ๆค่ะ จากคุณ : มา reeya เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:13:45

ความคิดเห็นที่ 2 บอกไม่ถูกเลยคะเรื่องพรหมลิขิตนี่   พอพูดถึงเรื่องความรักนี่จะงงไปเลย  รู้สึกสับสนทันที จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:23:56

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีครับ...แวะมาทักทาย เดี๋ยวช่วงเย็นๆจะมาออกความเห็น นะครับ..วันนี้ทำงานเช้าตรู่ของที่โน่น จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา รสก. (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:26:18

ความคิดเห็นที่ 4 คุณแสน สำหรับชีวิตป้านี่ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร  ...ตอนเป็นสาวๆ มีคนมาชอบมากมาย แต่เราไม่เคยคิดจะชอบใครซักคนเลย ใครอยากจีบก็จีบไปไม่สนใจไม่มอง  แต่พอมาเจอลุงครั้งแรก ..เรามีเซ้นต์บางอย่างว่า ..อีตาคนนี้ต้องมาจีบเราแน่ๆเลยมันแวบเข้ามาในความรู้สึกและก็ลีมเลย เพราะไม่ค่อยได้เจอกันอีก แต่พอสักพักมาเจอกันและก็เป็นจริงๆ และเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าบอกใครๆว่าเป็นแฟนชั้น  และเป็นคนเดียวเลยกระทั่งแต่งงาน .. ตั้งแต่วันนั้นจวบจนวันนี้ก็ 32 กว่าแล้วค่ะ .. จากคุณ : ป้าลายคราม เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:30:14

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นสิ่งที่ฟ้าบันดาลมั่งจ๊ะ!!...คู่กันแล้วก้อไม่แคล้วกันหลอกจ๊ะ..... จากคุณ : ยายซิ่ง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:37:04

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อคืนกำลังนอนคิดเล่นๆอยู่เลยว่าพรหมลิขิตมีจริงไหม เฮ้อ! พรหมลิขิตฉันอยู่ที่ไหน T-T จากคุณ : รักนี้มีเพียงเรา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:38:38

ความคิดเห็นที่ 7 วันที่เจอ..........   ผมนึกไม่ออกว่าเป็นวันอะไร  เวลาไหนด้วยซ้ำ   แต่จำได้ว่าชวนเขาไปดูหนัง ตั้งใจไว้ว่าตอนเลิกงาน จะไปกัน   แล้วก็มัวแต่ทำงานจน.......ลืม งานมันติดพัน ยังไม่เสร็จ   จนเพื่อนมาบอกว่า ไปนัดใครเขาไว้  ........เขารออยู่   จึงได้รีบออกมา แล้วฝากงานให้เพื่อนต่อ   ออกมาเจอเขานั่งรออยู่ที่โรงอาหาร ทำหน้ายิ้มๆ ส่วนตัวผมพูดอะไร ไม่ออก   ไม่รู้จะแก้ตัวอะไร แต่เขาก็พูดดี บอกว่า รู้ว่ายังทำงานไม่เสร็จ เขาเห็นอยู่   และในที่สุด วันนั้นผมก็ไม่ได้ไปดูหนังหรอกครับ เวลามันไม่ทันแล้ว ทำได้เพียง   ไปหาร้านอาหารเงียบๆ แล้วนั่งคุยกัน แล้วก็ไปส่งเธอที่บ้าน..............   .........จากวันนั้น ความสัมพันธ์ก็เดินหน้าไปเรื่อยๆ  และผมก็ไม่ได้มีเขาคนเดียว   จีบไปทั่วเหมือนกัน ตามประสาคนโสด ที่ยังไม่มีภาระต้องรับผิดชอบ   และ ก็ค่อยๆห่างหายไปทีละคน เป็นเพราะผมบ้าทำงาน จนผิดนัดเรื่อยๆ สาวคนอื่น   เขาไม่รอผม  จนเขามีแฟนไปหมด ซึ่งเราก็จากกันด้วยดี   แต่เธอก็ยังรอผมอยู่ จน......ถึงวันที่ผมตัดสินใจมีครอบครัว......   แรกๆ ของการปรับตัว ค่อนข้างลำบากมาก ผมมักจะติดงานจน เสียนัดบ่อยๆ   แล้วมักจะลืมด้วย ( ในเวลานั้นยังไม่มีพวกมือถือ การติดต่อกันทำได้ยาก )   กลับมาจนถึงบ้านถึงได้นึกออกว่ามีนัด เวลาทำงานผมมันพวกบ้าเสียด้วย ถ้าไม่เสร็จ   ไม่เลิก สมาธิจะไปอยู่กับงานหมด  จนมีลูกนั่นแหละครับ ถึงได้เพลาลง กลับมาใส่ใจ   กับครอบครัวมากขึ้น   นี่........คงจะเป็นพรหมลิขิตของผม......มั้ง ครับ จากคุณ : ว่าวปักเป้า เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:38:46

ความคิดเห็นที่ 8 ป้าคิดว่า พรหมลิขิต 20% ชีวิตของป้าค่ะ  นอกนั้นป้าลิขิตชีวิตตัวเองทั้งนั้น.. พอเวลาผ่านจนอารมณ์ รัก-โกรธ เบาบางลงแล้วกลับมาย้อนคิดดู ป้าว่าเขาคือคนที่ใช่นะคะ เพียงแต่เป็น คู่เวรคู่กรรมกันมากกว่า  ทุกอย่างจึงยืดเยื้อ  ไม่สิ้นสุด... จะว่ายังรักกันก็ไม่ใช่  จะว่าเราเกลียดกันแล้วก็ไม่ใช่....นั่นนะดิตกลงมันคืออะไรกันแน่นะ จากคุณ : ป้าพัด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:43:59

ความคิดเห็นที่ 9 โหวว อ่านของอาว่าวแล้วประทับใจภรรยาคุณอา มากค่ะ ส่วนตัวฉิงฉิงเชื่อค่ะ ซือเฮีย เจอด้วยตัวเอง แล้วก็ประสบความสำเร็จ วินาทีที่หันไปมองหนุ่มคนนี้ ความคิดมันแว่บเข้ามาในสมองทันที ทั้งๆ ที่ยังเป็นแค่เพื่อนกัน ส่วนพ่อหนุ่มคนนี้ก็เหมือนกัน คิดเหมือนกับเราและเป็นฝ่ายรุก 55 แค่นั้นล่ะ ที่เหลือก็ปล่อยไปตามบุญตามกรรม เพลงนี้ เป็นหนึ่งในเพลงที่เค้านั่งร้องกับกลุ่มเพื่อนที่คณะเวลาฉิงฉิงเดินผ่าน ^_^ ..................................................................... จะไม่ยอม ให้วันใด ปล่อยให้ใจ ฉันต้องขาดเธอ จะผูกพัน สองเรา ให้เป็นหนึ่งเดียว กลับมาเป็นเหมือนเคย กลับมาเลย เพราะเรานั้น จะผูกพัน สองเราให้เป็นหนึ่งเดียว กลับมาเป็น เหมือนเคย กลับมาเลย เพราะเรานั้น..............คู่กัน จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:47:55

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเคยมีแฟนคนไทยคนหนึ่ง ตอนผมเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ พอเราเป็นแฟนกัน ก็เอาคอมมาเปิดดูรูปเก่าๆที่เราเก็บไว้ ปรากฎว่า ตอนผมอยู่ ม.5 ผมได้ไปจัดงานนิทรรศการ ที่สวนแห่งหนึ่งย่านจตุจักร ซึ่งเธอก็ได้ไปเยี่ยมชมงานนิทรรศการนั้นด้วย โอ้ว...มันช่างดูเป็น"พรหมลิขิต" อะไรเช่นนี้ เพลงที่เข้ากับบรรยากาศตอนนั้น คือ เพลง"หากันจนเจอ" หนังสือที่เข้ากับตอนนั้น คือ "ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา" แต่สุดท้ายเราก็เลิกกัน..... ถ้า"พรหมลิขิต"มีจริง ที่ผมเจอคงจะต้องเรียกว่า"มารลิขิต" เพราะ เราจบกันไม่ดีสักเท่าไหร่...ผมเห็นหน้าเธอแล้วแทบจะวิ่งหนี (ไม่ใช่อะไรนะครับ เวลาเจอกันเธอชอบพูดจาเสียดสีผม) --------------------------------- ตัดภาพมาที่แฟนคนปัจจุบัน ตอนอยู่ปี3 ผมเป็นแฟนกับสาวแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ซึ่งจริงๆ แฟนคนปัจจุบัน ก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ผมกับแฟนชาวญี่ปุ่น ก็รักใคร่ สนุกสนาน กันดี จนพอหมดระยะเวลาแลกเปลี่ยนเธอก็กลับประเทศไป เราแยกกันด้วยดี...ทุกวันนี้ยังติดต่อ และห่วงใยกันเสมอ เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่ผมเป็นแฟนกับแฟนคนปัจจุบัน และเธอ ก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว ซึ่งผมก็ยินดีด้วย ว้า...ช่างเป็นเรื่องที่ธรรมดาจริงๆเลยใช่มั้ยครับ แต่แฟนคนนี้ คือ คนที่ผมตัดสินใจจะอยู่ด้วยกันไปตลอดลมหายใจ ------------------------------------- ถ้าจะเอาเรื่องผมไปทำหนัง ผมว่าเรื่องแรกขายดีกว่า เพราะมันตอบสนองโจทย์"พรหมลิขิต" ที่คนชอบเสพโรม๊านซ์...ชื่นชอบกัน ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าหดหู่นะครับ ถ้าความรักมันเป็นเรื่องของ"พรหม"มาลิขิต แต่ไม่ใช่"เรา"ลิขิตเอง โลกเบี่ยวๆมีประชากรเป็นพันล้านคน คุณเชื่อว่ามีเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับเราจริงๆหรือ................... แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 09:55:00 จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:52:44

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อวาน เพิ่งคุยกับเพื่อนเรื่อง พรหมลิขิต อยู่เหมือนกัน เพื่อนบอกว่า การเจอคนรัก เป็น ดวงทำให้เรามาเจอกัน เหมือน พรหมลิขิตชีวิตที่ขีดไว้แล้ว เราบอกว่า ลึกๆ น่าจะเป็นเหตุการณ์ นำพา ให้คนมาเจอกันมากกว่า แต่ไม่รู้เค้าเรียกว่า อะไร เพราะคนเรา มาจากที่ต่างกัน สังคมต่างกัน แต่ต้องมาเจอกันจากการเป็นสัตว์สังคมของมนุษย์ ก็ต้องมีสถานการณ์ จุดของเวลาทำให้่ คนสองคนมาพบกัน พบหน้ากัน คุยกันก่อน แล้วรู้สึกถูก ชะตา ถูกตา ต้องใจ ท่ามกลางคนอื่นๆมากมาย คุยกันต่อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เปิดใจกว้างยอมรับในความคิดของคนๆนั้น จึงเปลี่ยนมาเป็น ชอบ พอ คบหาดูใจ ในฐานะคนรัก ไม่รู้ว่า พรหมลิขิต กับ Love at first sight เหมือนกันหรือเปล่า และไม่รู้ว่า เหตุการณ์ที่นำพามาให้เรา เจอกัน เรียกว่า พรหมลิขิต หรือไม่ และมันก็ตามมาด้วย คำถามว่า เนื้อคู่หรือเปล่า  รักแท้หรือไม่ อยากรู้เหมือนกันคะ "@ @" จากคุณ : NuTTy_C เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 09:56:59

ความคิดเห็นที่ 12 ป๋าแสนเชิง..เอาความรักมาฝากแต่เช้าเลยอ่ะ..ถ้าเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เขาจะเรียกว่าพรหมลิขิตได้ไหมอ่ะ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 10:06:38

ความคิดเห็นที่ 13 มา reeya --ขอบคุณสำหรับคำชม ชมมาเถอะครับผมชอบ อิอิ เรื่องที่เอามาตั้งกระทู้ก็เป็นเรื่องธรรมดาๆในชีวิตประจำวันแหละครับ ก็เอามาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คุณหนูขาวมณี --แหม...หนูขาว ถ้ารักใครสักคนก็จะเข้าใจเองแหละ อิอิ ขวัญชัยอิศรา รสก. (kwanchaiisra) --ขอบคุณครับ เย็นๆค่อยคุยกันเนอะ ป้าลายคราม --ความรักของป้าตุ๋ยนี่ เป็นความรักในฝันของใครๆหลายคนเลยนะ เห็นป้ามีความสุข น้องแสนก็มีความสุขจ้ะ ยายซิ่ง --คู่แล้วไม่แคล้วกันจริงๆอ่ะ ยายนู๋ซิ่ง....ว่าแต่ เพลงเพราะจริงๆ ขอบคุณคร๊าบ รักนี้มีเพียงเรา --เดี๋ยวก็เจอเองแหละ....เหมือนเพลงหากันจนเจอไงครับ ว่าวปักเป้า --ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับคุณว่าว ยินดีด้วยสำหรับความสุขในวันนี้ครับ ป้าพัด --ป้าพัด ดีแล้วจ้ะที่เลือกที่จะลิขิตชีวิตตัวเอง เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็มีหลายแง่มุม มีความทรงจำดีๆให้นึกถึง มีความผิดพลาดให้เรียนรู้   เป็นกำลังใจให้ป้าเสมอจ้ะ ^^ หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง --แหมซือม่วย ฟังแล้วสงสาร เอ๊ย !! อิจฉาพ่อหนุ่มคนนั้นเหลือเกิน อิอิ เพลงนี้เพลงโปรดเช่นกัน ฟังแล้วอยากกินกาแฟ 555+ นายอุดม --สวัสดีครับคุณอุดม ขอบคุณเข้ามาคุยกัน...ก็เราเพื่อนกันนี่นา ผมจำได้ โลกเบี่ยวๆมีประชากรเป็นพันล้านคน คุณเชื่อว่ามีเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับเราจริงๆหรือ ฟังแล้วน่าคิดเหมือนกันเนอะ ขอบคุณครับ NuTTy_C --ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆ และกิฟท์ที่มอบให้ เอาเป็นว่าที่คุณNuTTy_C อยากรู้  ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน อิอิ ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน --สวัสดีครับลุงต๋อง ช่วงสั้นๆเหรอ ตอบยาก อันนี้ต้องดูที่เรื่องราวต่อจากนั้นและวันข้างหน้าด้วยอ่ะ จากคุณ : แสนเชิง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 10:40:09

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าเปลี่ยนจาก พรหมลิขิต เป็น กรรมลิขิต ล่ะก็ เราเชื่อค่ะ เพราะเราเชื่อว่า คนเราที่ได้มาเจอะเจอ หรือ ไม่ได้เจอะเจอ ก็ตาม ก็เพราะกรรมที่พวกเขาได้กระทำร่วมกันมาก่อน ทั้งจากชาติก่อนๆๆๆๆๆ และในปัจจุบัน แต่ก็คงบอกไม่ได้แน่นอนว่า เป็นผลจากอดีตชาติหรือตอนนี้กันแน่  สำหรับเรา ณ ตอนนี้ เราว่าเรากำลังสร้างกรรมใหม่ของเราอยู่ ด้วยการไม่สร้างกรรมร่วมกับใคร วันๆ อยู่แต่ในห้อง จะได้พูดคุยกับคนก็ผ่านหน้าจอ หน้าจริงไม่เคยเห็น ดังนั้นการที่เราไม่มีใคร จึงเป็น เราลิขิต ค่ะ จากคุณ : good thinking เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:00:06

ความคิดเห็นที่ 15 คห.8 จะว่ายังรักก็ไม่ใช่ จะว่าเกลียดกันแล้วก็ไม่ใช่อีก ตอนนี้อารมณ์ประมาณนี้เลยค่ะ แล้วจะทำยังไงดีคะ คิดไม่ออก มึนไปหมดแล้ว คุณป้าพัด ทำอย่างไรคะ เล่าให้ฟังบ้าง จากคุณ : panudee (Panudee) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:05:48

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ละคนโรแมนติกจังค่ะ แต่ของเก่งไม่คิดเลยนะคะว่าเป็นพรหมลิขิต เพราะตอนแรกไม่ได้ปิ๊งๆน้องหมูคนนั้นเลย จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:10:03

ความคิดเห็นที่ 17 ก็เชื่อเรื่อง พรหมลิขิตนะ แต่จะลิขิตให้เราเจอ หรือไม่เจอ อยู่ที่พรหมจะลิขิตแล้วกัน จากคุณ : freebird365 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:28:06

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนมีแฟนคนแรก ก็เคยคิด เป็นเพราะพรหมลิขิตแน่ๆเลย ที่ทำให้เราได้รู้จักกัน เขาอยู่ไกลถึงอเมริกา เวลาตรงข้ามกัน ถ้าคาดกันนิดเดียวไม่เจอกัน เราก็คงไม่ได้คุยกัน แต่สุดท้ายก็เลิกกัน ความคิดมันขัดแย้งกัน หลังจากนั้น ก็คบคนโน้นที คนนี้ที มันก็ไม่ใช่พรหมลิขิตอะไรแล้ว ไม่เคยเลิกเพราะเขาหมดรักนะ  ก็ยังรักเราทุกคน แต่ไปกันไม่ได้ มันเป็นนิสัยเสียของตนเองแหละ ที่ไม่ค่อยอดทน และเอาแต่ใจ ไม่พอใจก็เลิก สุดท้ายก็ไม่ไปรอดสักราย กลับมาเป็นโสดแล้ว บางทีก็รู้สึกว่าอยู่คนเดียว มันเหงานะ แต่มันสบายใจกว่ามีอีกคน จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:28:34

ความคิดเห็นที่ 19 คิดเล่นเห็นต่าง....พรหมลิขิต คิดเล่นเห็นต่าง....ปลักขิก 555+ ส่วนตัวผมคิดว่า พรหมลิขิต เกิดขึ้นในชีวิต ครอบครัวผมครับ ส่วนตัวผม ก็มี ปลักขิก เหมือนกันครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:35:24

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ คุณแสนเชิงที่เคารพ :) ดิฉันค่อนข้างจะเชื่อเรื่องนี้ค่ะ ขอมอบเพลงนี้ให้ทุกท่านค่ะ อิอิ ^_^ จากคุณ : Sandy ^_^ (Zand) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:43:27

ความคิดเห็นที่ 21 เราเชื่อค่ะ เพราะบางคู่ไม่น่าจะพบจะเจอจะรู้จักกันได้แต่ก็ได้มาเจอกัน เราว่าที่เราได้มารู้จักทุกๆคน คงมาจากพรหมลิขิต หรือง่ายๆก็กรรมที่มีร่วมกันแหละค่ะ อย่างเรากับแฟนไม่น่าจะมาคบกันได้ แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆทำให้เราได้รู้จักกัน คบกัน จนตอนนี้ต่างคนก็ต่างมีชีวิตของตัวเองที่ไม่เหมือนกันเลย แต่ช่วงนึงก็ทำให้เราได้รู้จักกัน จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:54:47

ความคิดเห็นที่ 22 พูดไม่ถูกเหมือนกัน ค่ะพี่แสน ว่าเราลิขิตเอง     หรือพรมลิขิตให้ แฟนแคทเคยพูด ว่า ก่อนที่เรา 2 คนจะเกิด  สวรรค์ให้มาเกิดเป็นคู่กัน จังหวะ แฟนแคทจับได้ตั๋วเครื่องบินลงมาเกิดและไปลงที่มาเลเซีย  ด้วยความที่ถึงก่อนเลยแก่กว่ากัน 11 ปี ส่วนของแคท นั่งเรือมา ต้องพายเรือมาเอง แคทมัวแต่พายเรือ เหนื่อยด้วยเรือหยุดที่ท่าเรือประเทศไทย 55555 แล้วเราก็บังเอิญ มาเจอกันค่ะ   ปล.  เป็นเรื่องสมมุติ ที่เค้าเล่าให้ฟัง นะคะ   อุอุ จากคุณ : onlycat เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:01:38

ความคิดเห็นที่ 23 สำหรับเรา การได้พบใครสักคน อาจจะเป็นพรหมลิขิต แต่การที่จะ "รัก" หรือ "ไม่รัก" เป็นเรื่องที่เราเลือกเองไม่ว่าจะกับใคร และเราเคารพในอีกฝ่ายว่า เขาก็มีสิทธิ์ที่จะรัก หรือ ไม่รัก เราก็ได้ เพราะอย่างที่เคยบอกค่ะ ความรักของเราไม่ต้องการการครอบครอง จากคุณ : ล็อกอินนี้นิสัยดีแต่ปากเสีย เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:08:44

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะ ^^ วันนี้เรทติ้งดีเชียวค่ะ... การที่ความรักจะลงเอยและเป็นคนที่ใช่นั้น โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องพรหมลิขิตค่ะ หรือคำที่บอกว่า"บังเอิญ"นั่นแหละ คือ พรหมลิขิต มันได้กำหนดจังหวะและเวลาไว้แล้ว อาจจะฟังดูงมงายนิดนึงค่ะ :P แต่หลายๆเรื่องก็บังเอิญเสียจนไม่น่าเชื่อ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่าง ตั้งแต่พรหมลิขิต คิดว่าพรหมลิขิตเป็นจุดเริ่มต้นให้คนเรามาเจอกัน ถูกตาต้องใจกัน(เคมีตรงกัน) แต่จะได้ลงเอยกันไหมก็ขึ้นกับคนสองคนค่ะ ที่เกิดจากผลของการกระทำของคนทั้งสองเมื่อครั้งอดีตและส่งผลมาในปัจจุบัน(ผลกรรม) ดังนั้นการกระทำทั้งอดีตจนถึงปัจจุบันที่มีต่อกันจึงสำคัญมากกว่าพรหมลิขิตค่ะ Right time, Right place and Right person Right time และ Right place คงหมายถึง พรหมลิขิต Right person หมายถึง คนที่ใช่ ว่าคนนี้ดีอย่างไร ตรงใจเราแค่ไหนอย่างไร และตัวเราไปตรงใจเค้าอย่างไร จากคุณ : คืนทะเลหนาวและดาวพันดวง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:28:00

ความคิดเห็นที่ 25 ผมมองว่าเรื่อง"พรหมลิขิต" เป็น ทฤษฎีสมคบคิด รูปแบบหนึ่งครับ ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) คือ เรื่องเล่า บทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคน โดยนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอื่นๆเพื่อให้ประโยชน์/ให้โทษต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งใด หรืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษณะของทฤษฎีสมคบคิดโดยทั่วไปมีข้อเท็จจริงประกอบอยู่เพียงเล็กน้อย หรือส่วนหนึ่ง เพียงเพื่อเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีหลักฐานสนับสนุนที่ดูเหมือนเกี่ยวข้องกันเท่านั้น อาจมีเหตุผลสนับสนุนจากความเชื่อส่วนบุคคล ความเชื่อเกี่ยวกับทางศาสนา การเมือง หรือวัฒนธรรมที่แตกต่างไป เรื่องเหล่านี้นักวิชาการจะไม่ใช้อ้างอิง ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานก่อนที่จะเชื่อเรื่องนั้นๆ ที่มา wikipedia แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 12:30:47 จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:29:54

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะคุณแสน พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด.. จงเชื่อในพรหมลิขิต จงเชื่อในเหตุการณ์ที่นำพาความรักมาให้ จงเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีเส้นขนาน และเชื่อว่า.. รักแรกพบคือจุดเริ่มต้นของพรหมลิขิต... จากคุณ : ความรักมาทักทายแล้วหายไป เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:50:45

ความคิดเห็นที่ 27 พรหมลิขิต เล่น ตลก สำหรับเรา ลิขิต ให้พบกัน  และก็จากกัน  ฮือ  ฮือ  อย่างไม่กลับ จากคุณ : จิตพลู เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 13:03:15

ความคิดเห็นที่ 28 เพิ่งเคยเห็นหน้าคุณเก่ง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  ตอนที่ไม่ได้เห็นรูป จากที่คิดเอาเองนะคะ  คาดว่าคุณเก่งน่าจะรูปร่างท้วม ๆ ท่าทางห้าว ๆ (ประเมินจากเวลาคุณเก่งเม้นในกระทู้ค่ะ) แต่ผิดทุกอย่างเลยวุ้ย  ผิดคาดไปหลาย จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 13:06:55

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ Panudee คะ.....เมื่อก่อนป้าคิดว่าเขาเป็นสามีของป้า เป็นพ่อของลูก เขาควรจะทำหน้าที่ ที่เขาควรจะทำ พอไม่เป็นอย่างที่คิด ที่หวัง เลยเกิดความรู้ต่างๆ  ที่มีแต่ทำให้เราทุกข์ใจ  เสียใจ.. พอเวลาผ่านพ้นนานเข้า...ความรู้สึกต่างๆจางลง  มองเขาเป็นเพียงมนุษย์ร่วมโลกคนหนึ่ง ที่เคยได้อยู่ร่วมกัน   เลิกให้ความสำคัญในตัวเขา..เขาจะอยู่ยังไง ทำอะไรก็เรื่องของเขา  แค่อย่ามาทำให้เราเดือดร้อนก็พอ มันต้องใช้เวลานานมากสำหรับป้าที่จะทำใจ  แต่พอทำได้แล้วมีความสุขมากขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่ยังทำใจไม่ได้ทั้งหมด  เลยมีความรู้สึกว่า...จะว่ายังรักกันก็ไม่ใช่  จะว่าเราเกลียดกันแล้วก็ไม่ใช่ค่ะ แต่ป้าว่าความรู้สึกนี้ดีกว่าที่เราเกลียดกันนะคะ... จากคุณ : ป้าพัด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 13:13:49

ความคิดเห็นที่ 30 good thinking --สวัสดีครับคุณขนม...พูดจาเหมือนปลง เลิกคาดหวังอะไรบางอย่างไปทีเดียวเชียว เราลิขิตให้ไม่มีใครได้ เราก็ลิขิตให้มีใครได้เช่นกันนี่นา อิอิ panudee (Panudee) --ขอบคุณครับ รอคำตอบจากป้าพัดด้วยกันเนอะ kangkakangka --คนนี้แหละ พรหมลิขิตชัวร์คุณเก่ง หมอแสนฟันธง อิอิ freebird365 --พี่ใหม่ เดี๋ยวถึงวัยอันควรก็เจอเองแระ อิอิ ..ฟ้าใส.. --คุณฟ้าใส ใจเย็นๆน๊า ค่อยๆปรับตัวปรับใจให้ยอมรับสิ่งที่ต่างจากตัวเองได้ เดี๋ยวก็เจอเองแหละ เชื่อแสนเถอะ Julia-RoboT.JR --เอ่อ...เจตนายังเหมือนเดิมจริงๆคุณ Julia-RoboT.JR   555+ Sandy ^_^ (Zand) --ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆครับคุณ Sandy mnoppy12 --ขอบคุณนะครับ เห็นด้วยนะครับ บางครั้งมันก็บังเอิญเกินไป จนไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ onlycat --สวัสดีจ้ะแคท สมกับเป็นแฟนคลับจริงๆมาตอบทุกครั้ง อิอิ เรื่องสมมุติของแฟนแคท ฟังแล้วรู้สึกว่าพรหมลิขิตมีจริง....ยังไงไม่รู้ อุอุ ล็อกอินนี้นิสัยดีแต่ปากเสีย --ขอบคุณครับคุณหวาน รักที่ไม่ต้องการครอบครอง แต่ต้องสัมผัสได้ใช่มั๊ยล่ะ อิอิ คืนทะเลหนาวและดาวพันดวง --ไม่งมงายหรอกค่า :P ก็หลายๆเรื่องก็บังเอิญเสียจนไม่น่าเชื่อ จริงๆนี่นา ^^ นายอุดม --ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ เก็บเอาไปคิดได้ดีเลยล่ะ ความรักมาทักทายแล้วหายไป --แหมพี่กุ๊ก เชื่อมั่นในพรหมลิขิตเต็มที่เลยน๊า จิตพลู --อาจยังไม่เจอพรหมลิขิตจริงๆก็ได้นี่ครับคุณจิตพลู เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) --สวัสดีครับคุณเด็กหญิงเอาแต่ใจ ป้าพัด --เป็นกำลังใจให้ป้านะ จากคุณ : แสนเชิง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:09:06

ความคิดเห็นที่ 31 เคยคิดว่าเจอคนที่ใช่  มีพรหมลิตประมาณนั้นวันวานผ่านไปทำให้รู้ว่าเป็นความเพ้อฝันชีวิตจริงมันไม่ง่ายเหมือนในละคร เศร้า จากคุณ : lovepanda เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:12:00

ความคิดเห็นที่ 32 ใช่ค่ะคุณแสน..  พี่เชื่อมั่นในพรหมลิขิต จากประสบการณ์ที่ผ่านมา 29 ปีที่ได้สัมผัส  มันไม่ได้เป็นเพียงโชคชะตาที่พาให้เรามาพบกัน แต่มันเป็นเพราะพรหมลิขิต ขีดเส้นมาให้เป็นไป  และพรหมลิขิตก็ไม่ได้ทำให้พี่ผิดหวังเลยค่ะ เคยนึกเล่นๆ ว่า " ถ้าเราไม่ได้เจอกับคนนี้ ป่านนี้ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรหนอ จะสุขสบายเหมือนทุกวันนี้ หรือจะดีกว่า หรือจะลำบากแสนสาหัส " แต่สรุปว่าพอใจและมีความสุขกับปัจจุบันกับคนๆ นี้ที่สุด จากคุณ : ความรักมาทักทายแล้วหายไป เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:41:30

ความคิดเห็นที่ 33 พรหมลิขิตให้เราเกิดมาอยู่ใกล้กัน... พรหมลิขิตให้เราได้มาเรียนห้องเดียวกันตอนม.ต้น พรหมลิขิตให้เราได้มาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปเป็นสิบปี... จากวันนั้นที่เป็นแฟนกันจนถึงวันนี้...แต่งงานกันมาหกปีกว่า... เราสองคนก็ไม่ได้รบกวน"พรหมลิขิต"อีกเลย พรหมลิขิตแค่ทำให้เรามาพบกัน... แต่การรักษาความสัมพันธ์ให้ตลอดรอดฝั่งเป็นหน้าที่ของเราสองคน... ขอบคุณพรหมลิขิต...ที่ทำให้เราได้กลับมาพบกัน... จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:29:49

ความคิดเห็นที่ 34  ให้คุณนุช จากคุณ : คืนทะเลหนาวและดาวพันดวง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 16:10:05

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องบางเรื่องเหมือน "พรหมลิขิต" เป็นเรื่องราวน่าจดจำมากมาย แต่.... เรื่องบางเรื่องก็เหมือน "ผีผลัก" จนบางครั้งแยกไม่ออกว่าเป็น พรหมลิขิต หรือ ผีผลัก จากคุณ : ปูจ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 16:22:48

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีครับ คุณแสนเชิง มาตามสัญญาก่อน ขอตัวไปรพ.หาหมอ ติดตามอาการเจ็บป่วย ตัวผมไม่เชื่อนักเรื่องพรหมลิขิต เชื่อตัวเอง ผมเอง อดีตเคยแต่งงาน แต่เพราะเราไม่เข้าใจกันเลยเลิกร้างลากันไปผมเองยังโสดจนทุกวันนี้ และไม่เคยแม้แต่จะคิดอีกเลยว่าจะมีรักอีกครั้ง ผมว่าชีวิตแบบผมอยู่คนเดียว เหมาะที่สุดครับ เบื่อการกระแนะกระแหน นี่คือสาเหตุที่ผมขอเลิก เพราะวัยเราต่างกันด้วยหรือเปล่าไม่ทราบ ? วันนี้ไม่มีห่วงเพราะพ่อแม่ก็จากไปทั้งสองท่าน เหลือพี่ชายน้องชาย น้องสาว หลานๆเท่านั้นเอง ผมยังอยู่และใช้ชีวิตประเทศตอก.มานานพอควร จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 19:12:41

ความคิดเห็นที่ 37 ...                         ........ จากคุณ : ...I'm ลั้นลา.. (~AcareMom~) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 20:29:16

ความคิดเห็นที่ 38 ฉันเชื่อในโชคชะตา   และเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เป็นของใครจริง ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ทุกอย่างบนโลกใบนี้ มีเหตุผล มีที่มาที่ไป ไม่มีอะไรที่เกิดความบังเอิญ ! จากคุณ : New Horizon ! เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 02:26:24

ความคิดเห็นที่ 39 พรหมลิขิตก็เป็นปัจจัยครับ แต่สุดท้ายก็มนุษย์ที่เป็นคนเลือกเองว่าจะเอาสิ่งที่ลิขิตมาให้หรือไม่ ผมเคยเห็นคนที่ทั้งยอมไปตามลิขิต กับคนที่พยายามฝืนลิขิตเพื่อไปสู่เป้าหมายอื่น ผมมองว่าพรหมลิขิตหรือโชคชะตา เหมือนเล่นไพ่ คือ คุณเลือกไพ่ในมือไม่ได้ แต่ได้ไพ่มาแล้ว จะเล่นให้แพ้หรือชนะอย่างไร อันนั้นเรื่องของคุณล้วนๆ ในเรื่องของคู่ ผมมักดูที่หน้าตาครับ ไม่ใช่ว่าสวยหล่อหรือเปล่า แต่หน้าเหมือนกันไหม เท่าที่เห็น คู่ที่ไปกันได้ หน้าจะเหมือนกัน และอีกอย่างที่สำคัญคือ มีศีลและความเมตตากับคุณธรรมเสมอกันหรือไม่ ถ้าใช่ ก็น่าเชื่อว่าเป็นคู่กันมาครับ ปล. ผมกับแฟนเคยมีหลายคนถามว่าเป็นพี่น้องกันหรือเปล่า เพราะหน้าเหมือน (ทั้งที่คนนึงไทย คนนึงฝรั่ง ไม่รู้มองกันมุมไหน) แต่มีแต่คนบอกว่าหน้าเหมือนกัน และอากัปกิริยา สีหน้าท่าทางก็เหมือนกัน ยิ่งเวลานั่งข้างกันยิ่งเห็นชัด ก็ไม่รู้จริงแค่ไหน จากคุณ : Baritone เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 07:16:21

ความคิดเห็นที่ 40 คิดเหมือนเจ้าของกระทู้เลยครับ คิดว่าคงมีเพื่อนๆก็คงคิดเหมือนกันพรหมลิขิตหรือเรา  ที่ลิขิตตัวเอง จากคุณ : ทามากิ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 08:01:21

ความคิดเห็นที่ 41 lovepanda --ที่เจออาจจะยังไม่ใช่ก็ได้นะครับคุณlovepanda ความรักมาทักทายแล้วหายไป --ยินดีด้วยจ้ะพี่กุ๊ก ตอนนี้ก็คิดว่าเจอแล้วเช่นกัน อิอิอิ I'll be there for you --มาแนวหวานเจี๊ยบทีเดียวเชียวคุณนุช ยินดีสำหรับคู่รักที่ใช่และชีวิตคู่ที่มีความสุขด้วยจ้า คืนทะเลหนาวและดาวพันดวง --ไม่ให้ผมบ้างเหรอจ๊ะ  อิอิ ปูจ๊ะจ๋า --แล้วคนปัจจุบันนี่ผีผลัก หรือพรหมลิขิตครับ......ล้อเล่นน๊า ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) --ขอบคุณครับที่มาเล่าสู่กันฟัง ...I'm ลั้นลา.. (~AcareMom~) ขอบคุณจ้ะโอ๋  เปิด MV เข้าบรรยากาศเหลือเกิน New Horizon ! --ขอบคุณมากครับคุณNew Horizon ! ความคิดเห็นชัดเจนดีครับ Baritone --ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆครับคุณ Baritone ยกตัวอย่างได้เข้าใจง่ายดีครับ ทามากิ --สวัสดีครับคุณทามากิ ได้คำตอบหรือยังครับ อิอิ จากคุณ : แสนเชิง เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 10:48:08

ความคิดเห็นที่ 42 กับคนรักคนนี้ พูดว่าพรหมลิขิตก็อาจจะพูดได้ค่ะ เพราะเส้นทางเดินชีวิตของเรา..ไม่น่าเชื่อว่าจะมาบรรจบกันได้ แรกรู้จัก...ไม่คิดว่าจะรักเค้าค่ะ.... เพราะคิดว่า...คนชอบเค้าเยอะแล้ว...เราจะไม่ชอบเค้าหรอก เราต้องไม่ชอบเค้า แต่ก็เป็นจริงดังที่คิดค่ะ คือ เราไม่ชอบเค้า....แต่เรารักเค้า...และ เรารักกันค่ะ จากคุณ : แม่ขนตางอน เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 14:20:20

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับ คุณแม่ขนตางอน --แต่ก็เป็นจริงดังที่คิดค่ะ --คือ เราไม่ชอบเค้า....แต่เรารักเค้า...และ เรารักกันค่ะ --ตอนแรกอ่านแล้วงงๆ แต่อ่านไปอ่านมา รู้สึกอบอุ่น สัมผัสได้ถึงความรักของคุณทั้งคู่เลยทีเดียว เห็นด้วยนะครับ จะใช้คำไหนก็ช่างเถอะ แต่ก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิตที่แท้จริงล่ะครับ จากคุณ : แสนเชิง เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 15:35:27

ความคิดเห็นที่ 44 ผมเชื่อว่าครึ่งนึงเป็นเรื่องของพรหมลิขิตครับ เพราะการที่คน 2 คนได้มาเจอกัน คงไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน พรหมลิขิตที่ว่านี้มันก็คือ "กรรม" นี่แหละครับ "กรรม" แปลว่า "การกระทำ" จะมีกรรมดี หรือกรรมชั่วมาด้วยกันแต่ปางก่อนก็สุดแล้วแต่ แต่นั่น....มันคือปัจจัยในการนำคน 2 คนมาเจอกันครับ ส่วนอีกครึ่งนึงเป็นการลิขิตจากเจ้าตัวเอง ว่าเมื่อได้เจอกันแล้วจะกำหนดทิศทางชีวิตกันไปอย่างไร จะชักชวนกันทำบาป สร้างเวร หรือจะพากันทำกรรมดีเท่าที่เรี่ยวแรวจะมี ครองตัวให้ศีลเสมอกัน ไม่ดีหรือเลวไปกว่ากันมากนัก ตรงนี้แหละครับ ที่จะเป็นเข็มทิศพาชีวิตของคน 2 คนเดินหน้าไปด้วยกัน ผมตกหลุมรักกับเธอแบบไม่ทันได้ "ตั้งตัว" แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ผมบอกับตัวเองว่าผมต้อง "ตั้งใจ" ตั้งใจทำทุกอย่างในปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่คน 2 คนจะทำได้ คนเรานั้น บางทีมันก็มีเส้นบางๆ ที่คั้นระหว่างความรัก กับ มิตรภาพครับ อยู่ที่ว่าคน 2 คนจะพร้อมใจก้เวข้ามมาหากันและกันหรือเปล่า หากว่าทั้งคู่ไม่ยอมข้าม เขาก็จะยังคงความเป็นเพื่อนต่อไปตราบนานเท่านาน แต่หาทั้งคู่พร้อมใจกันข้ามมาหากันและกัน "ความรัก" มันก็จะเกิดขึ้นเพราะความกล้าหาญนั้นครับ เธอและผมตกหลุมรักกัน เพียงเพราะการส่งข้อความหากัน ใน วัน, เวลา และ วินาทีเดียวกันครับ ถ้าหากว่าเราคลาดกันในวัน, เวลา และ วินาทีนั้น คนสองคนก็คงไม่มีโอกาสเด้สร้างเรื่องรักหวานๆให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เจ๊แสนเชิงที่รักของกระผมก็อย่าเพิ่งเหงาไปนะครับ เพราะโลกนี้มีใครซักคนที่เกิดมาเพื่อเป็นของเราอย่างแน่นอน เพียงแต่เราจะเจอกันเมื่อไร และรักษากันและกันไว้ได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ขอความรักจงอยู่คู่คุณๆทุกคนครับ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 19:53:18

ความคิดเห็นที่ 45 หรือพระพรหมจะลืมเรา จากคุณ : วับวิบพริบพราว เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 20:01:27

ความคิดเห็นที่ 46 ความรักกับความใคร่ สิ่งไหนจะมีพลังมากกว่ากัน โบราณว่าเวลาพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน ยังใช้กับสังคมในปัจจุบันนี้ได้หรือเปล่า บางครั้งเคยคิดว่าคำสาบานของงานแต่งงานในโบสถ์คริสท์ ทุกวันนี้ยังขลังอยู่หรือเปล่า จากคุณ : Heaven can't wait เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 16:43:56 A:58.11.75.159 X: TicketID:173373

ความคิดเห็นที่ 47 เราเจอรักแท้ในอินเตอร์เน็ต....ความสัมพันธ์ที่ใครก็บอกว่ามันฉาบฉวยที่สุด หกปีที่แล้ว ผู้หญิงคนนึงเปิดกระทู้ๆนึงขึ้นมาอ่าน เรายังจำวันนั้นได้เลย มันเป็นช่วงเวลาที่สภาพจิตใจเราแย่มาก เกือบจะอกหักแต่ก็ไม่รู้ว่าเคยเป็นแฟนกันตอนไหน จะเรียกว่าอกหักดีไหม กระทู้นั้นมันเป็นกระทู้เชยๆ ที่เราเลื่อนเม้าส์ผ่านไป แต่ก็ต้องเลื่อนกลับมาเพราะวันนั้น.... มันไม่มีอะไรให้อ่านจริงๆ อ่านแล้วถึงได้รู้ว่าไอ้กระทู้เชยๆนั้นน่ะ เนื้อหาข้างในมันสุดยอดมาก ตกหลุมรักงานเขียนของเค้าผ่านตัวหนังสือ ด้วยความที่ว่าเค้าทิ้งอีเมลล์ไว้ แล้วที่เค้าเขียนมามันยังไม่จบ ก็เลยแอดเมล์ไป เพราะบางช่วงเราไม่ได้เข้าอินเตอร์เน็ตนานๆ อาจจะพลาดกระทู้ภาคต่อของเค้าได้ แอดเมลล์ไปแล้วเค้าก็รับ เราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก ตอนสมัยเอ๊าะๆเราป๊อปจะตาย 5555+ ชื่อเอ็มเพี้ยนๆของเค้าทำให้เราทักไปทีนึง .....จุดเริ่มต้นของเรื่องยาวๆอยู่ตรงนี้ เรื่องมันยาวมาก แต่จนแล้วจนรอดเราก็ไม่ได้เป็นแฟนกับเค้าหรอก เราก็กลับไปหาต้นเหตุของความเสียใจ เค้าอยู่เคียงข้างเรามาตลอด 3 ปีที่เราใช้คำว่าแฟนกับผู้ชายอีกคน ไม่ใช่ว่าเราคบใครเผื่อเลือกนะ สารภาพว่าไม่ได้คิดจะจริงจังกับคนที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ต (ตอนนั้นมันหลายปีแล้วค่ะ ยังไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนตอนนี้) จนแล้วจนรอดเค้าก็เคียงข้างเราในฐานะ "พี่ชาย" เค้ายืนยันเจตนารมณ์นั้นมาโดยตลอด จนเมื่อปัจจัยอะไรหลายๆอย่างพร้อม เราถึงได้รู้ว่า ....เค้าแอบรักเรามาโดยตลอด...โดยที่เราไม่รู้เลย แล้ววันที่เราก็ได้เป็นแฟนกัน สองปีเข้าสู่ปีที่สามแล้วค่ะ ไม่คิดว่ามิตรภาพวันนั้นจะนำรักแท้มาให้เราในวันนี้ ถ้าวันนั้นไม่อ่านกระทู้นั้นก็ไม่รู้จะได้เจอกันหรือไม่ เพราะเค้าเรียนอยู่ห่างจากเรากว่า 7000 ไมล์ มันเป็นอะไรที่ข้ามขอบฟ้ามารักกันมากๆเลยค่ะ ^^" สองปีที่แล้วเค้าทิ้งอนาคตดีดีและหน้าที่การงานกลับมาเป็นวิศวะธรรมด๊าธรรมดา เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้เรา ตอนนี้ก็ห่างกันไป 7000 กว่าไมล์เหมือนเดิม เพื่อสร้างความมั่นคง และอนาคตของเราทั้งคู่ค่ะ จากคุณ : ผักผลไม้รวม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 01:59:31

ความคิดเห็นที่ 48 ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) --ตอบยาวเช่นเคยนังตุ้ม แต่อ่านแล้วก็เพลินทุกครั้ง ให้ความเห็นได้ดีมากไอ้น้องรัก วับวิบพริบพราว --ไม่ลืมหรอกครับ ยังไม่ถึงคิวน่ะ อิอิ Heaven can't wait --ผมว่าคำสาบานคงไม่ขลังเท่ากันคำว่าจริงใจหรอกนะครับ ผักผลไม้รวม --ขอบคุณครับคุณ ผักผลไม้รวม  อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย เรื่องราวความรักที่คุณมาเล่าสู่กันฟัง อ่านแล้วได้กำลังใจดีๆมากเลยครับ จากคุณ : แสนเชิง เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 11:38:16