ความคิดเห็นที่ 1 ง่า...ถ้าเป็นหมันแล้วสองคนก่อนหน้าไม่น่าจะท้องได้นะคะ จากคุณ : Jet@Japan เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 10:39:31

ความคิดเห็นที่ 2 ู^ ^ สงสัย เพิ่งจะมาเป็นหมัน มั้ง  เอ... แต่ว่าเป็นหมันมัน ต้องเป็นมาก่อนสิ หรือ ว่า ฝ่ายหญิงที่แต่งงานด้วยมั้งที่เป็นหมัน  ใช่เปล่าคะ ท่านเจ้าของกระทู้ ปล. ของแบบนี้มันไม่ได้เป็นกับทุกคู่หรอกค่ะ จากคุณ : มา reeya เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 10:54:32

ความคิดเห็นที่ 3 ค่าของผู้หญิงอยู่ที่การทำตัวนะคะ ไม่ใช่อยู่ที่บริสุทธิ์ก่อนแต่งหรือไม่ เพราะคนที่ซิง แต่งงานไปก็ไม่ได้หมายความว่าสามีจะไม่ทิ้งนะคะ เก่งว่าบางคนเค้าก็ไม่ได้รักสนุกแบบนั้นนะคะ เก่งก็ไม่ได้แต่งงานค่ะ มีลูกแล้วด้วยค่ะ ทุกวันนี้แฟนรับผิดชอบดีมาก ส่วนคนที่มีอะไรด้วยนั้น จะได้แต่งหรือไม่ อันนี้มันไม่ได้ดูว่ามีอะไรกันหรือยังนะคะ ถ้ารักแฟน และมีอะไรกับแฟนคนนี้ คบคนเดียวมาตลอด10-15ปี แต่ความสัมพันธ์ ความมั่นคงในชีวิต นิสัยที่ปรับกันไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้แต่งค่ะ การแต่งงานไม่ได้ดูที่เรื่องนี้เรื่องเดียวนะคะ เก่งเชื่อว่าผู้ชายที่ไม่แคร์เรื่องนี้มีอีกเยอะค่ะ ทีเค้าไม่แคร์ไม่ใช่เพราะอะไร แต่ในเมื่อผู้หญิงมีอะไรกับคนเก่า แต่ไม่ได้มีอะไรกับใครหน้าไหนก็ได้ เป็นคนดี การกระทำก็ดี นิสัยดี ดีทุกอย่าง เธอจะต้องเป็นโสดไม่มีคนแต่งงานด้วยตลอดชีวิหรอคะ เก่งว่าสมัยนี้เค้าดูนิสัยกับเรื่องอื่นมากกว่าค่ะ ส่วนเพื่อน จขกท เค้าเรียกมักง่าย สักวันรคจะถามหาไม่รู้ตัว มั่วไม่ป้องกันอีกนะคะ ผู้หญิงก็โง่ไม่ป้องกันเหมือนกัน ปัญหาแบบเพื่อน จขกท ไม่ได้อยู่ที่มีอะไรกัน แต่อยู่ที่ไม่คิดจะป้องกันมากกว่า เก่งคนนึงละที่ไม่มั่นใจแฟนตัวเอง ตอนนอนด้วยกันก็ต้องใส่ถุงยางค่ะ เค้าอาจไม่มั่ว แต่ใครจะแน่ใจ แฟนเก่า เก่า เก่า ที่ผ่านมาได้ละ เก่งคนนึงละขอรักตัวเองก่อนจะได้ผลตรวจเลือกอ่ะค่ะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 10:54:56

ความคิดเห็นที่ 4 รุ่นน้องผมมาเป็นหมันตอนหลังครับ (มาแอบดูว่าจะถูกด่ากี่ความเห็นครับ) จากคุณ : ผู้หาเรื่อง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 10:58:26 A:124.122.254.30 X: TicketID:317712

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องธรรมดาของสามัญชนค่ะ  ช่างเหอะ  เค้าจะให้ก่อน  ให้หลัง  ก็ของๆ  เค้านี่เนอะ  ให้แล้วเค้าไม่เอา  ก็ยังมีคนเอานี่นา  ดูอย่างแม่หม้ายบางคนสิ  ลูกโตแล้ว  ยังได้กับหนุ่มโสดระดับราชกุล  ไม่เห็นแปลก  แม่หม้ายบางคนได้เป็นถึงเจ้าหญิง  เห็นยังมีคนเอา  ไม่เห็นว่าค่าจะด้อยลงตรงไหนเลยนี่นา จากคุณ : ขอบฟ้า ริมเล เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:02:01

ความคิดเห็นที่ 6 มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานไม่น่าจะดีนะครับ ................................................ เรามองที่การบรรลุนิติภาวะอ่ะ คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ มีความคิด ย่อมรู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไร ถ้าพลาดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หรือควรป้องการ สาเหตุนี้ได้อย่างไร ฉะนั้นการมี พสพ ก่อนหรือหลังแต่ง ถ้าไม่ทำให้มันเกิดปัญหามัน ก็ขึ้นอยู่กับความคิด เห็นส่วนบุคคลมากกว่า ถามว่า ดีไหม อันนี้ตอบไม่ได้น่ะ ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายเองสิต้องตัดสิน หมายถึง ตัว ช และ ญ ได้แล้วทิ้ง คือเจอ ผช เลว ไม่ไ้ด้แล้วทิ้ง คือเจอ ผช มักง่าย ได้แล้ว อยากได้อีก คือเจอคน ได้คืบจะเอาศอก แต่ถึงยังไงก็ตามน่ะ ใครจะได้ใคร ผญ เป็นฝ่ายเสียเปรียบนั่นแหละ แต่ถ้า รู้จักป้องกัน ทำมาหากินเองได้ ไม่พึ่งคนอื่น และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ถือไม่ผิดถ้าอยากจะทำ เพราะคนเราก็มีความรุ้สึก จากคุณ : แชร์ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:07:40 A:125.26.149.187 X: TicketID:309539

ความคิดเห็นที่ 7 ก็จริงนะ สาวๆต้องคิดให้ดี หากยังไม่ถึงขนาดเป็นมั่นเหมาะ ก็ควรระมัดระวังป้องกันการท้องไว้ให้ดี ส่วนจะเสียตัวก่อนตอนไหน ก็นานาจิตตังกันนะครับ บางทีอยู่กับผู้ชายเซ็กส์ห่วยๆ เห็นแก่ตัวอย่างไม่เคยรู้สึกรู้สานี่ มานก็ไม่สนุก ไม่มีความสุขเอาเหมือนกัน รักกับใคร่มานแยกจากกันได้ยากในความเป็นจริง ใคร่กลับกลายเป็นอุปกรณ์เสริมรักให้มั่นคงยั่งยืนด้วยซ้ำไป และผมว่าเดียวนี้ผู้ชายที่มองว่าเรื่องเสียตัวมาก่อน ทำให้ผู้หญิงด้อยค่าลง มีน้อยเต็มที จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:10:39

ความคิดเห็นที่ 8 เปิดประเด็น มาม่ามาอีกแล้ว ... จากคุณ : ป้าลายคราม เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:15:02

ความคิดเห็นที่ 9 ทำไมจะต้องคิดว่าจะถูกด่าล่ะครับ..เรื่องแบบนี้แสดงความคิดเห็นกันได้ครับ.. ต่างคนต่างความคิด.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:17:32

ความคิดเห็นที่ 10 เปิดประเด็นได้ดีค่ะ บอร์ดกำลังเหงาๆ อยู่ด้วย จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:18:21

ความคิดเห็นที่ 11 ทําไมเด็กถึงไปโรงเรียนสาย ทําไมตํารวจถึงโดนผู้ร้ายยิงตาย ทําไม ยันตระถึงทําสีกาท้อง เพราะคําฯเดียว "ชักช้า" จากคุณ : moovit เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:21:21

ความคิดเห็นที่ 12 ผมคิดว่ามันแล้วแต่มุมมองของแต่คู่ ไม่ใช่ว่าไม่บริสุทธิ์แล้วคุณค่าของบุคคลจะน้อยลง แต่เป็นเรื่องมุมมองของสองคนที่มีต่อกันหลังจากนั้นว่าจะเป็นอย่างไรมากกว่า ขอแชร์ประสบการณ์ของผมนะครับ ส่วนตัวผมกับแฟน คบกันมา 8 ปี ก็ตั้งอกตั้งใจจะไม่ล่วงเกินกันจนเลยเถิด ด้วยเหตุผลหลายอย่าง  เรื่องครอบครัวฝ่ายหญิงค่อนข้างเข้มงวด เรื่องการวางตัว แฟนที่ทำให้รู้สึกเกรงใจแต่ก็ไม่กดดัน ทั้งส่วนนึงที่เราทั้งสองคนเป็นคริสเตียนเห็นคุณค่า การแต่งงานที่มีพันธสัญญาที่พระเจ้าผูกพันไว้   ซึ่งตามรายทางผมก็จะช่วงมีสติหลุดบ้าง ก็คุยก็ปรับประคับประคองให้ไม่ล้ำเส้นและ ผ่านกันมาได้ จนมาถึงเวลาที่พร้อมจะแต่งงาน พร้อมจะสร้างครอบครัวกันแล้วนะ สิ่งที่พบคือ  ความรู้สึกที่มีต่อกัน มันไม่ใช่แค่ความรัก เหมือนตอนแรกๆ แล้วครับ แต่มันจะเพิ่มเรื่องความรู้สึกเคารพให้เกียรติคู่ของเรามาด้วย ความรู้สึกมั่นใจต่อกันอย่างหนักแน่น ซึ่งผมเชื่อว่า ความรู้สึกแบบนี้  จะมีส่วนช่วยให้การสร้างครอบครัวของคู่ผม จะไม่เปราะบาง หรือหวั่นไหวได้ง่ายๆ  เพราะพิสูจน์ความตั้งใจ ความรับผิดชอบคำพูดกันมาเยอะ ผ่านช่วงอารมณ์ความรู้สึกมามาก  และช่วยกันควบคุม ดูแลให้เหมาะสมได้ ประเด็นที่ว่ามีความสัมพันธ์ก่อนแต่ง ดีหรือไม่ดี ผมไม่ฟันธง เพราะมันแล้วแต่คนแล้วแต่คู่ แต่สำหรับคู่ของผม การไม่มีความสัมพันธ์กันก่อนตัดสินใจแต่งงาน  มันทำให้ผมให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติคู่ของผมมากจริงๆ  ซึ่งมันมีผลต่อการสร้างครอบครัวของผมครับ จากคุณ : ผมอยู่ที่นี่เพื่อคุณ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:35:21

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับเรา เรื่องอย่างนี้ต้องหลังเเต่งงานเท่านั้นคะ ลูกมีพ่อมีแม่ จะให้ไปฟรีๆได้ไง!!! เเต่ก็มีเพื่อนหลายๆคน(เยอะเลยแหละ) ที่คิดไม่เหมือนเรา เเล้วก็ว่าเราหัวโบราณ เอออ ก็พ่อเเม่สอนมาเเบบนี้^^ จากคุณ : อะเซเดเฮ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:37:51

ความคิดเห็นที่ 16 จะมีก่อนมีหลัง  ไม่ได้แปลว่าใครสูงกว่า ทำตัวดีกว่า แลดูเป็นกุลสตรีมากกว่าเลยซักนิดครับ จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:46:17

ความคิดเห็นที่ 17 มันแล้วแต่มุมมองค่ะ เราคิดว่าเรื่องเซกซ์กับเรื่องแต่งงานมันคนละเรื่องกันนะ ถ้าเรายังแยกมันไม่ออก ก็ควานหาสาวบริสุทธิ์ต่อไป แล้วมันก็ดูไม่แฟร์ที่ผู้ชายสนุกได้ ผู้หญิงทำไม่ได้ เรามองที่วุฒิภาวะค่ะ ถ้าเอาความคิดของตัวเอง เราตั้งปณิธานว่าจะ ไม่มีเซกซ์ในวัยเรียน ไม่ท้องก่อนแต่ง ต้องเรียนให้จบก่อน ซึ่งก็ทำได้ ตอนนี้ดูแลตัวเองได้ คิดไตร่ตรองแล้วว่าสามารถรับผลจากการผิดพลาดนั้นได้ เช่น การตั้งครรภ์ และสามารถที่จะดูแลลูกได้   เราถึงมองว่าไม่ผิดซักเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้สำส่อน อย่างน้อยเซกซ์สำหรับเราก็เพราะรัก คงไม่สามารถไปมีแบบ one night stand ได้แน่ๆ  คิดว่าถ้าไม่รักคงมีกับใครไม่ได้ เราถึงมองว่าอยู่ที่มุมมองของใครค่ะ คนที่เค้าเคยมีมาก็เก่งๆเยอะแยะไปค่ะ ถ้าผู้ชายมองผู้หญิงแบบนี้ ผู้หญิงเราก็มีสิทธิ์ดูเรื่องอย่างว่าของผู้ชายได้สิ จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:51:58

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเป็นแฟนผม ผมก้อรอวันแต่งงานเหมือนกันครับบ เป็นการวัดความอดทนและความให้เกียรติกันอย่างนึงครับบบ แต่การที่จะไม่แต่งงานแล้วมีอะไรกัน มันก้อไม่ได้วัดว่าถูกหรือไม่ถูก ดีหรือไม่ดี แต่มันน่าจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมมากกว่า แต่ถ้าคิดอยากจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันโดยไม่ได้แต่งงานก็ไม่ผิดอีกเหมือนกัน ไม่ได้บ่งบอกอะไร ว่าคนที่แต่งงานจะมีความรับผิดชอบต่อครับครัว คนที่ไม่แต่งไม่รับผิดชอบ มันไม่เกี่ยวกันเลยย ขึ้นอยู่กับคน คนที่ไม่แต่งคบกันยืดกว่ารับผิดชอบกว่าคนที่แต่งก้อมีถมเถไป จากคุณ : โมกหลวงสีชมพู เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:53:19

ความคิดเห็นที่ 19 ซ้ำคร้าบบบ ขออภัยยย เนตมันค้างงง แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 16:58:23 จากคุณ : โมกหลวงสีชมพู เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:54:06

ความคิดเห็นที่ 20 อย่าคิดว่าคนที่เห็นแย้ง  จะเสียก่อนแต่งเสมอไป  ก็เพราะบนโลกใบนี้  มีคนเสียก่อนแต่งมากกว่าเสียหลังแต่งไงล่ะ  หรือคุณว่าไม่จริง  แม้แต่คนของประชาชนก็ยังเห็นมานักต่อนัก  นอกจากคนนั้นจะหลอกตัวเอง  ลองมองคนใกล้ตัวคุณ  คนรอบตัวคุณ  คนใกล้ชิดคุณบ้างสิ  คงมีเสียก่อนแต่งบ้างล่ะค่ะ  และคนเหล่านั้นก็ไม่ได้หมายความว่าบิดามารดาจะไม่ได้สั่งสอน  ดีไม่ดีคนบางคนที่เกิดมา เพราะบิดามารดาได้กันก่อนแต่งก็มีนะขอบอก  ไม่ได้โกรธ  แต่ไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ไม่มีวิสัยทัศน์ของคนบางคนเลยว่ะ  งั้นเพื่อนเราที่มันได้กันก่อนแต่ง  เราต้องเลิกคบมันหรือเปล่า  เพราะมันไม่มีค่าให้คบ  เออเนอะ จากคุณ : ขอบฟ้า ริมเล เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:07:30

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่มีข้อคิดเห็น ครับ        ผมเองก็มีลูกสาว        และก็ สอนเรื่องรักนวลสงวนตัว ให้เขาฟังอยู่บ่อยๆครับ จากคุณ : ว่าวปักเป้า เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:12:05

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาแปลกใจวาสมัยนี้ยังมีคนมีแนวคิดแบบนี้อยู่ โดยส่วนตัว เรื่องนี้ก็ดีนะคะ ไม่ได้เสียหาย ไม่ได้แย่อะไร ดีต่อฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย แต่ปัญหาที่เรามักจะเจอก็คือ ความคาดหวัง และ การยึดติด มากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา...อธิบายยากค่ะ จากคุณ : มธุปายาส เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:15:29

ความคิดเห็นที่ 24 ก็ยังดีที่เรายังเป็นเพชร เม็ดงามๆ จากคุณ : ขอบฟ้า ริมเล เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:19:47

ความคิดเห็นที่ 25 เพศสัมพันธ์ก่อนหรือหลังแต่ง ผมว่าไม่สำคัญเท่าการรู้จักป้องกันตัวเองจาก โรคติดต่อ และ การท้อง(โดยไม่พร้อมครับ) จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:21:49

ความคิดเห็นที่ 26 รักและสงวนตัว ดีแท้ที่สุดสำหรับหญิง  ชายยุคนี้ เห็นแล้วเหนื่อย ค่ะ จากคุณ : จิตพลู เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:48:27

ความคิดเห็นที่ 27 มาลองถามผู้ชายบ้างถ้าแฟนตัวเอง เคยผ่านผู้ชายมาแล้ว จะใจกว้างรับได้ไหม . . . ปล. ถ้ามองในแง่ดี ก็ถือว่าได้คนมีประสบการณ์มาทำงานนะครับ แต่ต้องต่อสู้กับความรู้สึก เวลาที่นึกถึงแฟนเรากับคนนั้น บอกตามตรง เป็นความรู้สึกที่ยากลำบาก เจ็บปวด ต้องทำเป็นลืมๆ หรือทำใจยอมรับไป แล้วผู้ชายในห้องนี้คิดยังไงครับ?? แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 13:11:02 จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 13:04:30

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้วกลัวความคิดผู้ชายอ่ะ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 54 14:10:05 จากคุณ : lovepanda เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:06:14

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ ๒๗  ถามคำถามแบบนี้   เท่าที่เคยอ่านมา คนในนี้บางส่วนอาจถึงมาก เค้ารับได้นะ แต่เราว่า(ความคิดส่วนตัว)ในชีวิตจริง  มันลำบากกับความรู้สึก. จากคุณ : โอยสะลา. (โอยสะลา) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:16:53

ความคิดเห็นที่ 30 ของราคาเป็นแสน (สินสอด) ไม่ได้เห็นไม่ได้ลอง อย่าซื้อ 555 จากคุณ : กระท่อมชาวไร่ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:31:11

ความคิดเห็นที่ 31 จะเอาอะไรมาเป็นมาตรฐานของชีวิตละครับ แต่ละคน แต่ละชีวิตไม่เหมือนกัน บางคู่มาทำงานที่เดียวกัน เลยมาอยู่ห้องเดียวกัน ประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยกันสร้างครอบครัว แล้ว ค่อยไปแต่งที่หลัง แล้วอยู่กันจนตาย ก็มีเยอะ บ้างคู่คบกันหลายปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กันเลย ถนอมกันมาก แต่พอแต่งงานกันจริง ๆ กลับอยู่กันไม่ทันหม้อข้าวดำ เลิกกัน ก็มีให้เห็นมากมาย จากคุณ : คนลำตะคอง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:45:49 A:10.3.30.14 X:58.137.207.214 TicketID:272813

ความคิดเห็นที่ 32 ในฐานะคนหัวเก่า อยากให้กีบเจ้าของกระทู้จัง ตั้งกระทู้ได้โดนมากๆ ในฐานะคนหัวเก่า ตัวของผู้หญิงมีค่าเกินกว่าจะเป็น 'ของเล่น' ไม่ว่าตัวเองหรือคนอื่น ในฐานะที่มีลูกสาว พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงมาเพื่อให้เป็นของเล่นของใคร ในฐานะที่มีลูกชาย ตั้งใจจะอบรมสั่งสอนไม่ให้เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นเหมือนกัน ถึงจะแต่งกันไปแล้วก็เลิก ดีกว่าเปลืองเนื้อเปลืองตัวก่อนจะเจอคู่แท้ แล้วมาเสียดายตัวทีหลัง ในชีวิตจริง คุณถามตัวเองดีๆ ว่า พอถึงเวลาจริง คุณ 'โอเค' แน่หรือถ้าแฟน 'เคย' มาก่อน จะไม่คิดมากหรือว่า คุณจะ 'ดี' เท่าคนเก่าของเธอหรือเปล่า เธอจะคิดถึงคนเก่าบ้างไหม Ideal กับ ชีวิตจริง มันคนละเรื่องค่ะ จากคุณ : aunty36 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:18:01

ความคิดเห็นที่ 33 ให้กีบ คห. 12 ดีใจที่ยังมีคนรุ่นใหม่คิดในทางที่ถูกต้องแบบเก่า จากคุณ : aunty36 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:19:31

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ขอแสดงความคิดเห็นค่ะ แต่จะเข้ามาบอกว่า...เคยอ่านบทความวิจัยในเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ทั้งราบรื่นทั้งหย่าร้าง บางส่วนเป็นไปตามที่ คคห ที่ 12 พูดไว้ (เราไม่ได้เหมารวมค่ะ อาจจะจริงหรือไม่จริงทั้งหมดค่ะ แต่โดยส่วนตัวเห็นด้วยค่ะ) "การไม่มีความสัมพันธ์กันก่อนตัดสินใจแต่งงาน  มันทำให้ผมให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติคู่ของผมมากจริงๆ  ซึ่งมันมีผลต่อการสร้างครอบครัวของผมครับ" นอกจากการให้เกียรติแล้ว ยังรวมถึงความเคารพและนับถือคู่ขอตัวเองด้วย ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้มีผลต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่มากค่ะ จากคุณ : คืนทะเลหนาวและดาวพันดวง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:51:58

ความคิดเห็นที่ 35 เตือนใจวัยรุ่นช่วงมหาวิทยาลัยปี 1 ที่เป็นหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องเริ่มรับผิดชอบตัวเองได้ เป็นอย่างดีเลยทีเดียวว จะคบกันเป็นแฟนได้ แต่ต้องให้เกียรติกันน่ะ เพราะแต่ล่ะคนเป็นคนมีพ่อมีแม่ ไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ ต้องให้เกียรติกัน ไม่ใช่ของเล่นน อิอิ จากคุณ : โมกหลวงสีชมพู เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 17:06:39

ความคิดเห็นที่ 36 ผู้ชายนะ  อยากได้  แต่ผู้หญิงอยากเสียหรือเปล่า  ไม่ใช่เรื่องของการได้หรือเสียหลอก  แต่มันเป็นธรรมชาติ  ถ้านึกว่าตัวเอง มีพ่อมีแม่ ก็ให้เกียรติท่านสิ จากคุณ : กระจกฟ้า เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 17:18:39

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าที่ถูกต้องก็ตามนั้นอะค่ะ แต่ก็อยู่ที่คนสองคนด้วย ต่างคนก็ต่างความคิด จากคุณ : แดนสงบ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 18:08:54

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วแต่คนครับ เหมารวมไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นทุกคู่ที่แต่งงานโดยไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง ก็คงมีความสุขกันทุกคู่ แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 20:29:46

ความคิดเห็นที่ 39 เราว่าตอนพ่อแม่สอนก็จำกันนะคะ แต่พออีตอนนอนอ่ะดิ ดันลืมคำสอนพ่อแม่ไปหมดซะงั้น  เฮ้อ..........กำๆ จากคุณ : สาวถุงกาแฟ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 20:30:49

ความคิดเห็นที่ 40 ที่พูดมาเป็นเรื่องของใครบางคนเลยนะนั่น จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 21:35:21

ความคิดเห็นที่ 41 มีประเทศนี้ประเทศเดียวมั้งครับ ที่มองการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องการ ได้-เสีย จากคุณ : FIndinGBeautYINNegativESpacES เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 21:49:05

ความคิดเห็นที่ 42 ผมเคยมีความสัมพันธ์ในวัยเรียนเหมือนกันครับ แต่เป็นลักษณะถูกใช้งานเสียมากกว่า เธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาหลังจากผมเรียนจบมาแล้วหลายปี และเธอไปทำแท้งโดยไม่ปรึกษาผม ทั้งที่ผมชวนเธอแต่งงานแล้ว แต่เธอไม่ยอม ผมก็ไม่ทราบว่าทำไม ครั้งแรกผมก็พูดไม่ออก พอมาเกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ผมไมรู้เรื่องเลย เธอไปทำแท้งมาอีก แล้วมาบอกผมทีหลัง ผมจึงคิดว่าผมคงไม่สามารถสร้างครอบครัวกับเธอได้แล้ว จึงจากเธอไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง แต่งเป็นเรื่องเป็นราวครับ และผมก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานกับเมียด้วย เพราะเข็ดจากคนก่อน กลัวจะไม่ได้แต่งอีก ขนาดแต่งงานแล้วตั้ง 7 วันกว่าผมจะมีอะไรได้จริงๆ เพราะเมียผมกลัวครับ ทั้งๆที่หุ่นเธอสบึมส์มาก ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ผมได้ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วจึงสรุปว่าถ้าไมคิดจะมีลูก ไม่คิดครอบครัวด้วยกันก็อย่าไปนอนกับใครเลยครับ ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตก็ได้ ถ้ากลัวเปลือง อย่างน้อยให้ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายรับรู้ เรื่องความบริสุทธิ์ของผู้หญิงผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าผมชอบเธอคนนั้นจริง เช่นเธออาจเลิกกับสามีเก่า หรือสามีตาย ผมก็ไม่รู้สึกรังเกียจนะครับ อย่าเข้าใจผิดว่าบูชาพรหมจรรย์ จากคุณ : 49er จขกท. เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 23:30:56 A:124.121.179.39 X: TicketID:317712

ความคิดเห็นที่ 43 ผมเองไม่ใช่คนแรกของแฟนผม แต่ไม่เคยเป็นเรื่องกวนใจอะไรผมเลยครับ สิ่งสำคัญไม่ใช่อยู่ที่ความบริสุทธิ์ มันอยู่อยู่ที่การกระทำครับ ความสัมพันธ์ที่เค้าจะมีกับแฟนเก่า ในครั้งที่ยังมีความสัมพันธ์ให้กันแบบจริงใจ รักเดียวใจเดียว ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และปัจจุบันความสัมพันธ์ในอดีตก็จบไปแล้ว เค้าคบกับเราคนเดียว ผมมองไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรที่ต้องมารำคาญตะขิดตะขวงใจ พฤติกรรมที่ผมไม่เห็นด้วย คือการมั่วคู่นอน สำส่อน ผิดลูกผิดเมียผิดคู่คนอื่นครับ แต่เรื่องการมีอะไรกันก่อนแต่งงาน หากถึงวัยอันควร เป็นผู้ใหญ่พอ คบกันแบบเหมาะสม จริงใจลึกซึ้งกัน ป้องกันให้เรียบร้อย ผมมองว่าไม่มีอะไรเสียหายครับ เป็นเรื่องที่ออกจะปกติธรรมดามาก มีลูกสาวก็คงสอนไปในทิศทางนี้ คือ อยากรอก็รอ แต่ถ้าจะไม่รอ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ตราบที่เป็นความสัมพันธ์ที่คบกันอย่างเปิดเผย จริงใจ ถูกต้อง และมีการป้องกัน เรื่องบนเตียงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ ส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแต่งงานกันไปก่อนโดยที่ไม่รู้ว่าเรื่องบนเตียงจะเข้ากันได้มั้ย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า (เกิดมารู้หลังแต่งว่าคู่ชีวิตเป็นพวกโรคจิตบนเตียง จะทำยังไง?) เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความราบรื่นของชีวิตคู่ในระยะยาวแน่นอน การแต่งงานกันไปโดยยังไม่รู้จักเรื่องนี้ของกันและกัน ผมมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อชีวิตคู่ ปล. ผมไม่มองว่าเรื่องการร่วมรักคือการที่ฝ่ายหญิง "เสียตัว" ให้กับใคร หรือฝ่ายชาย "ได้ตัว" ใคร มันคือการที่คนสองคนแชร์แลกเปลี่ยนความผูกพันธ์ความลึกซึ้งที่มีความหมายให้กันและกัน สำหรับผมชีวิตคู่ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 54 06:08:17 จากคุณ : Baritone เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 05:59:57

ความคิดเห็นที่ 44 #41ประเทศฝรั่ง อินเดีย อาหรับ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ถือทั้งนั้นเป็นพันปี แต่แถบอุษาคเนย์โบราณไม่ถือเรื่องได้-เสีย นี้แต่ถือเรื่องผิดผัวผิดเมีย และฆ่าชายชู้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ตามพระอัยการลักษณะผัวเมือง สมัยกรุงศรีอยุธยา โรคติดต่อทางร้ายแรงเพศมีน้อย มักเป็นของนำเข้า จากทางตะวันตก จนกระจายไปทั่วโลก สาเหตุสำคัญ คือ โรคติดต่อจากการร่วมเพศ เพราะสมัยนั้นไม่สามารถตรวจได้ และยังไม่มีโรคที่ติดต่อทางพันธุกรรม ที่เกิดจากการร่วมเพศมากนัก ที่น่าจะมีแล้ว เช่น ไวรัสตับอักเสบบี สามารถหายเองได้ เป็นการคัดกรองโรค ที่ง่ายที่สุด ถ้าหญิงใดเป็นม่าย เป็นเวลาเป็นเดือนเป็นปี ก็มีคนแต่งเพราะเชื่อว่าคงไม่ติดโรค รักษาไม่ได้เป็นแล้วตายแน่นอน ถุงอนามัยยุคแรก ทำจากปลายลำไส้เล็กของหมู แกะ แพะ เพื่อป้องกันกามโรค ซิฟิริส หนองใน ฝีมะม่วง ให้ชายสวมเวลาเที่ยว ผู้ชาย เป็นตัวนำโรคติดต่อชนิดนี้มาสู่มนุษย์ จากสัตว์สู่คน จากชาย-ชาย จากเชื้อแบคทีเรีย จนพัฒนาเป็นไวรัส แต่ผู้หญิง เด็ก กลับรับเคราะห์จากชายที่มักมาก ไร้ความรับผิดชอบ และเป็นภัยต่อมนุษยชาติจนถึงปัจจุบัน โดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติ จนต้องเกิดกระบวนการคัดกรองเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ของมวลมนุษย์ที่มีคุณภาพในดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไป การมีสนม นางใน อยู่ในเขตปิดเพื่อป้องกัน โรคติดต่อทางเพศ โรคระบาด เช่น เรื้อน ฝีดาษ อหิวา(ห่า) มาสู่ชาย เด็ก ไม่ใช่แค่ไว้บำเรอกามเพียงอย่างเดียว ขออ้างอิงจากบทความนี้ พรหมจารีเป็นของฝรั่ง ไม่ใช่ขอไทยอย่างที่เชื่อกันมา ขณะนี้ผู้หลัก ผู้ใหญ่มักชอบพูดว่า ประเพณีไทยแท้แต่โบราณผู้หญิงทุกคนจะต้องรักนวลสงวนตัว จะต้องเป็นสาวพรหมจารี แต่ให้สังเกตว่า ประเพณีกวนข้าวทิพย์ที่ต้องใช้หญิงพรหมจารี ก็ยังต้องใช้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่มี"ประจำเดือน" เพราะคนโบราณรู้ว่า เมื่อย่างเข้าสู่วัยมีประจำเดือน ช่วงอายุ 13 ปี เด็กจะเริ่มมี"ความรู้สึกทางเพศ" ฉะนั้นเด็กอายุ 13 ปี จะมีพิธีกรรม"เปลี่ยนเด็กเล็กเป็นเด็กโต" ถ้าในเอกสารจีนที่พบในกัมพูชา เรียกว่า "พิธีเบิกพรหมจรรย์" เพื่อเปลี่ยนสถานะจากเด็กสู่สาว ทำขวัญเตรียมรับสถานการณ์ หรือ "พิธีลงข่วง" เป็นการเปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้มีโอกาสพูดคุย สนิทสนม และนำไปสู่การคบหา มี"เพศสัมพันธ์"เมื่อเกิดความพึงพอใจ แต่ก็ต้องอยู่ในความควบคุมของผีบ้าน ผีเรือน ผู้ใหญ่ รับรู้ รับฟัง มีการมา"ขอผี" ขอขมาลาโทษ ผู้ใหญ่ยอมอภัยให้สามารถอยู่กินกันได้ไม่เสียหาย ถ้าอยู่ไม่ได้ก็เลิกกันไป "สังคมสมัยใหม่ดัดจริต พูดว่าเป็นประเพณีไทยแท้แต่โบราณ ต้องแบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่อง ขอย้ำผมไม่ได้สนับสนุนการมั่วเซ็กซ์ อย่าเอาความคิดตัวเองมาคิดแทน ไม่เกี่ยวกับเซ็กซ์เลย แต่เรื่องเพศน่าจะเป็นเรื่องที่คุยกันได้เปิดเผย โดยไม่ต้องใช้คำหยาบคาย ส่วนคนกรุงถือว่ามีการศึกษาก็มองว่าคนต่างจังหวัดหยาบคายพูดเรื่องเพศแล้วรับไม่ได้วี้ดว้ายแต่แอบไปดูวีซีดีน้องแนท" ขอให้เลิกวิธีคิดแบบความเป็นไทยจอมปลอม โกหกหลวกลวงตัวเอง ดูความวรรณคดีในเรื่องเพศ ตัวละครในวรรณคดีไทยอย่าง นางวันทอง มีเซ็กซ์กันตั้งแต่อายุ 14 น่าจะหันมาสนใจพิธีกรรมของชาวบ้านในเรื่องเพศ ทั้งหมดคือเพศศึกษา เข้าใจเพศสภาวะ เพศสภาพความเป็นผู้ชายความเป็นผู้หญิงด้วยความเข้าใจความเป็นมาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่การกดขี่ทางเพศ แต่พึ่งพาอาศัยกัน และแล้ว...อวัยวะเพศก็กลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ สกปรก ความเชื่อ ความคิดผิดๆ ก็สะสมมาเรื่อยๆ โดยที่หญิงไทยก็รับในกติกายอมให้ถูกกดขี่ เชื่อว่า ผู้หญิงไม่ดีจริงๆ ไม่มีปัญญาจะถกเถียง มัวแต่อายที่จะพูดเรื่องเพศ โดยความเหลื่อมล้ำทางเพศ เข้ามามีอิทธิพลเมื่อ พระพุทธศาสนา-พราหมณ์-ฮินดู เข้าสู่ภูมิภาคนี้ พระนารายณ์ พระศิวะ พระพรหม ล้วนเป็นเทวดาผู้ชายทั้งสิ้น รวมทั้งศาสนาจากซีกโลกตะวันตก ก็มีส่วนทำให้สถานภาพของผู้หญิงต่ำผิดปกติแล้วเราก็รับคติ ความเชื่อนี้มาโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งระบบการศึกษาที่หล่อหลอมทั้งระบบในสังคม ไม่น้อยกว่า 50 ปี ก็ยิ่งตอกย้ำให้ผู้หญิงย่ำแย่ไปกันใหญ่ จนกระทั่งวิวัฒนาการเกิดเป็นเฟมินิสต์ขึ้นในปัจจุบัน http://chalita.exteen.com/20060421/entry แต่ผู้ชายไทยในปัจจุบัน มักสร้างทัศคติทางลบจนผู้หญิงหลายคน เสียจริตไปเพราะความเข้าใจผิด ความไม่รับผิดชอบ มุ่งแต่จะได้ตัวหญิงมา"บำเรอกาม"โดยอ้างเรื่องความไม่เข้ากัน โดยไม่มองเรื่องอื่น เป็นตัวบ่อนทำลายสังคมไทย เป็นผลให้ ชายที่ให้เกียรติต่อหญิง ไม่ล่วงเกินเมื่อหญิงให้ท่า ถูกเยียดว่า"โง่" ไก่อ่อน ไม่เอาไหน จนต้องหาคู่ครองที่รูปสวย ได้ยาก เพราะไม่ยอม"ผีผิด" แบบชายโฉดเหล่านั้น มีชายซักกี่คนที่ต้องการตัวหญิงมาบำเรอกาม แล้วไปขอขมาพ่อ แม่ ฝ่ายหญิง เมื่อจะอยู่กินฉันผัวเมีย ส่วนใหญ่กินจนเบื่อแล้วทิ้งไป เมื่อหญิงประสบทุกขเวทนาแรงกล้า คนที่อยู่เคียงข้าง และให้อภัยเสมอคือ "พ่อ แม่" ของหญิงไม่ใช่ชายโฉดเหล่านี้ คำว่าได้-เสีย ก็มีส่วนจากเหตุการณ์นี้ เพราะชายรับผิดชอบ ตอนเสพ แต่ละทิ้งตอนเบื่อ ชายที่รักจริง หญิงเหล่านี้ก็อาจไม่เลือก เพราะฝังใจกับชายโฉดไปแล้ว หรือคิดย่ำยีตัวเองจนพลาดโอกาสดีๆไป(บ้างว่าหญิงดีๆ เหมาะกว่า) ตอบได้อย่างเดียวตามคติพุทธ "กงกำกงเกวียน" หวั่นพืชเช่นไร ได้ผลเช่นนั้น กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง สุดท้ายคนที่อยู่กันมีความสุขในชีวิตคู่ คือคนที่มีกรรมดีทำร่วมกันมา เหมือนปลูกหน่อต้นไม้ใหญ่ ต้องใช้เวลา การเอาใจใส่อย่างใจเย็น เป็นเวลายาวนาน คนที่มีกรรมชั่วผูกกัน เมื่อชดใช้กันเสร็จก็ต้องจากกันไป ทิ้งไว้แต่บาดแผล อยู่ที่ละวางได้หรือไม่ เป็นสิ่งฉาบฉวยเหมือนเรือสวนกันในทะเล จากแล้ว แล้วกัน ไม่เจอกันอีก การแต่งงานเป็นสิ่งที่ชายให้เกียรติกับหญิง ในการประกาศต่อหน้าธารกำนัล สัญญาว่าจะยกย่องในเกียรติหญิงในฐานะ"เมีย" ไม่ลักกินขโมยกิน ร่วมทุกข์ร่วมสุข จนตายจากกัน ไม่ผิดต่อความเป็นผัวเมียต่อกัน โบราณจีงมีพิธี ผูกข้อมือ ถือเป็นการผูกมัด โดยสัจจะที่มีให้กัน จึงเรียกว่า"ผูกสมัครรักใคร่" มีขอขมาพ่อแม่ ฝ่ายชายหญิง ถือว่าไม่ผิดศีลข้อสาม เพราะพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาความ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 54 11:13:26 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 54 09:07:52 จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 09:00:31

ความคิดเห็นที่ 45 การสืบพันธุ์ ดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์เป็นเรื่องที่ก้าวข้ามยากมาก  ใครทำได้ อดได้ถือว่า เป็นผู้มีความอดทนเป็นเยี่ยม แต่คนที่อดไม่ได้ก็ไม่ได้เลวร้าย  มนุษย์ทุกคนก็มีสัญชาตญาณนี้ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ได้ว่าการมีเพศสัมพันธุ์ก่อนแต่งไม่ดี แต่ใครอดได้แสดงถึงเป็นคนควบตนเองได้ มีวินัย  ซึ่งน่าจะดี โลกมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะบางคนก็ไม่ถือเรื่องนี้  เมื่อก่อนเห็นมีแต่ผู้หญิงถูกทิ้ง เดี๋ยวนี้ผู้ชายถูกทิ้งมีเยอะแยะ  เพราะผู้หญิงไม่ได้ถือว่าเสียตัว  ผู้ชายก็ไม่ถือว่าเสีย สรุปต่างคนต่างได้.................ตามสบาย  อย่าให้เดือดร้อนละกัน จากคุณ : ตึกหนึ่ง เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 16:43:09

ความคิดเห็นที่ 46 ผู้ชายเลิกคิดแบบ จขกท แล้วศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงจะมีค่ามากกว่านี้ ผู้หญิงก็คน ผู้ชายก็คน เพราะฉะนั้นเราทุกคนก็มีความต้องการตามธรรมชาติ เลิกครอบกฎเกณฑ์ให้ผู้หญิงได้แล้ว ทำไมผู้หญิงต้องทำอย่างนั้น ต้องเป็นแบบนี้ เบื่อ สังคมบังคับจิตใจผู้หญิงมากมาย โหดร้าย การมี พสพ ก่อนแต่ง ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงเป็นเรยา หรือเป็นมหาโจร ฆ่าคน จากคุณ : Summerlife เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 16:36:25

ความคิดเห็นที่ 47 เราเคยเจอเพื่อนเรา มีแฟนคนแรก คบกันมาระยะหนึ่งผู้ชายก็ออกลายขอมีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิงซื่อๆ ยอมเพราะผู้ชายอ้างเรื่องรัก สักพักก็เลิกรากันไปพร้อมความเสียใจของเพื่อนเรา คบคนที่สอง....สักระยะ เพื่อนตั้งใจไว้จะไม่ยอมอีก แต่ผู้ชายอ้างไม่รักมัน ยังลืมแฟนคนแรกไม่ได้ใช่ไหม เมื่อมาเจอผุ้ชายคนที่ 3 เพื่อนบอกเสมอเสียดาย รุ้สึกตัวเองไม่คู่ควร สกปรก ที่ไม่ได้เก็บไว้ให้คนที่ 3 ที่แสนดี เราก็ได้แต่บอกไปว่า "เพื่อนแคร์ไหมว่าแฟนเคยผ่านผู้หญิงมากี่คน ที่ผ่านมามันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่แก้ไขอะไรไม่ได้ ณ วันนี้เพื่อนเป็นคนสุดท้ายของกันและกัน สุดท้ายเพื่อนอาจจะไปกันไม่รอด วันนี้ เวลานี้ เป็นเวลาที่เพื่อนควรมีความสุขกับชีวิตให้มากที่สุด ผู้ชายคนไหนที่คิดหยุมหยิมเรื่องพวกนี้ เลิกมันไปเถอะเพื่อน ในขณะที่ผู้ชายคิดเรื่องนี้ทุกลมหายใจ ผุ้หญิงบนโลกนี้คงเสียความบริสุทธิ์นับตั้งแต่วันที่เกิดมาแล้วล่ะ" จากคุณ : sherykik (Quake_In_Kyoto) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:10:46

ความคิดเห็นที่ 48 เราโชคดีค่ะ ที่ได้สามีดีค่ะ เราไม่ถือสามีเราจะเคยผ่านมากี่คน(โชคดีที่รอดเอดส์) ทุกวันนี้ แฟนคนแรกเขาก็ยังคุยกันแบบเพื่อน แฟนคนที่สองก็คุย 3 ก็คุย ไปตรงไหนแฟนเรารู้จักทุกซอกทุกมุม เพราะนั้นบ้านกิ๊กเก่า เมียเก่า แต่เราก็ไม่ได้มีสามีเราคนแรกค่ะ เราเรียบร้อยตั้งแต่ ม.3 แต่ย้าย รร.มาเรียน ในกทม. มาอยู่หอ 4-6 เราไม่มีแฟน มุ่งเรียน เรียน ม.เราก็ไม่ยุ่งกับใคร (มีคนปรามาสไว้ มันต้องได้สามีและลูกก่อนเรียนจบ) พอเริ่มทำงาน เริ่มมีแฟน คบกันได้ 3-4 ปี แฟนเราไปทำผุ้หญิงท้อง เลิกกันไป แล้วก็คบมาอีก ประมาณ 4-5 คน ก็มีกับทุกคน แต่เรามีสติทุกครั้ง ไม่เคยพลาด ถุงยางตลอด และสอนน้องๆทุกคน สุดท้ายมาเจอสามีคนนี้ เค้าไม่เคยสนใจอดีตเหมือนที่เราไม่สนใจเรื่องของเขา "เขาบอกเราเองผู้ชายร้อยทั้งร้อย เปิดโอกาสให้ก็หวังทั้งนั้น นอกจากคนดีๆ และเกย์เท่านั้นแหละ" ดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้น คำว่าพลาดจะไม่มีเลยค่ะ ถ้ามีสติ จากคุณ : sherykik (Quake_In_Kyoto) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:23:58

ความคิดเห็นที่ 49 ความจริงถ้าอยากมากก็ทำเองก็ได้นี่ครับ กระทู้ไม่ได้บอกว่าผู้ชายสำส่อนได้ แต่ห้ามผู้หญิงเสียหน่อย ผมคิดว่าทั้งสองเพศนั่นแหละควรแต่งงานก่อนมีเพศสัมพันธ์ จากคุณ : 49er เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:34:58 A:124.121.171.233 X: TicketID:317712

ความคิดเห็นที่ 50 โชคดีที่เราได้เจอแฟนที่ดี ให้เกียรติเราเสมอ และให้เกียรติรวมไปถึงพ่อกับแม่ของเราด้วย ไม่ใช่ไม่มีโอกาส เค้าน่ะมีโอกาสมากๆ แต่เค้าเลือกที่จะไม่ทำ เป็นผู้ ช ที่เรารู้สึกว่าเนี่ยเราเลือกมาไม่ผิดจริงๆ   เราเห็นว่าไม่ว่าจะ ญ หรือ ช ก็ไม่ควรมีก่อนทั้งนั้นนะคะ ถ้ามีแต่สมรรถภาพไม่มีศักยภาพที่จะรองรับเมื่อมันเกิดอะไรตามมา เพราะนั่นมันจะตามมาด้วยปัญหาทำแท้ง เด็กถูกทอดทิ้ง เลี้ยงเด็กได้ไม่ดีโตมาก่ออาชญากรรม ...เป็นปัญหาสังคม ส่วนเราในฐานะฝ่าย ญ ก็เชียร์ให้ทำตัวดีดีไว้ก่อนค่ะ เลิกกันอาจจะต้องเสียใจ แต่เสียแค่ใจอย่างเดียว ตัวเรายังไม่เสีย ถึงเลิกกันไปคงทำใจได้ง่ายกว่าค่ะ ใครที่จะมีถ้ารับผิดชอบตัวเองได้แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้ายังก็อยากให้คิดหน้าคิดหลังดีๆ ถ้ามันเป็นเรื่องที่ทำมาแล้วไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ มันก็อุปมาอุปไมยได้ว่าเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ควรทำนะ ถ้าเรายังไม่แน่ใจในตัวผู้ ช คนนั้น ก็ใช้ safe mode ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อกันไม่ให้ตัวเราเองต้องเสียใจในอนาคต จากคุณ : ผักผลไม้รวม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 01:30:54

ความคิดเห็นที่ 51 ผมว่าต้องดูด้วยว่ามีในกรณีไหน ถ้าเคยมีแฟน รักแฟนมากก ก็เลยมี แล้วผิดพลาดจบไม่สวย ไม่แปลก โอเค เข้าใจว่าไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆหรอก แต่ถ้าเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ ชอบเที่ยวกลางคืน วันไนท์สแตนด์ก็เคยทำมาแล้ว บายดีกว่า แล้วแต่กรณีไป แต่ความซิงไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก เพราะเราเองก็ไม่ได้ซิงมาจากไหน แต่ก็ไม่ได้มั่วไปเรื่อยๆ ถ้าแฟนเราเป็นประมาณเราก็น่าจะโอแล้ว คหสต.ชายหญิงก็ควรจะเท่าเทียมกันนะ จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 54 20:36:50