Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เปิดโปงธุรกิจ Amway จากประสบการณ์จริง ติดต่อทีมงาน

เปิดโปงธุรกิจ Amway จากประสบการณ์จริง (น่า อ่านมั๊กๆ)]

นี่คือเรื่องจริงจากประสบการณ์ของคนที่เคยทำ Amway มา ขอบคุณคุณผู้ให้ประสบการ์อันนี้
คนเรามักอยากรวยโดยไม่ต้องทำงานหนักเป็นจริงได้หรอ? อย่าโดนเค้าหลอก และอย่าหลอกตัวเอง
คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทุกคนเป็นคนรับผิดชอบ ขยันขันแข็ง
มีประสบการณ์ ความรู้ในการทำงานนั้นๆ พัฒนาจนเค้าสามารถประสบ ความสำเร็จได้
เช่น เบิร์ด ธงชัย ( ร้องเพลงเก่ง) , บิล เก็ต (เจ้าของmicrosoft) หรือ แม้กระทั่งนักฟุตบอล
อย่าง ซี ดาน ซึ่งทุกคนล้วนย่อมต้องฝึกฝนและทำงานหนักกว่าจะถึงจุดนั้น


วันแรกที่เข้าไปฟังแอมเวย์ และหลงเชื่อเพราะเราเชื่อที่เค้าล้างสมองเราว่า
แอมเวย์เป็นอาชีพอิสระ งานสบาย เน้นความ สัมพันธ์ไม่ต้องทำงานหนักแต่สามารถ
มีรายได้เดือนละเป็นแสน หรือ เป็นล้าน ถ้าถึงขั้นยมทูต เอ้ย มงกุฏฑูต
เราและคนมากมายเชื่อ เค้าบอกว่าน้องคิดดูนะว่าเดือนๆนึงน้องซื้อยาสีฟัน 4 หลอด
และต่อมา น้องแนะนำให้คน 4 คน เพื่อนหรือญาติน้อง ให้ซื้อยาสีฟัน และคน4คน
ก็แนะนำไปอีก 4คน เดือนๆนึงน้องจะได้รายได้ โดนไม่ต้องเหนื่อยออกแรง แค่แนะนำ สิ่งดีๆ
ให้เพื่อนเป็นงานสบายๆ ไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องมีเจ้านาย ไม่ต้องตอกบัตร
แล้วเราก็หลงเชื่อเค้าด้วยความโง่เขลา พร้อมๆกับคน อีกมากมาย


วันนั้นเราก็ได้สมัครสมาชิกกับเค้าไปพร้อมกับมีความฝันตามที่เค้าได้เล่าเรื่อง
ฉายสไลด์ เพื่อให้ความฝันและจินตนาการเราบรรเจิดทุกคนที่ House (กลุ่ม) ดีกับเรามาก
มีการแลกเบอร์กัน พูดคุยสนุกสนาน พร้อมนัดกันว่าจะพาเราทัวร์คลังสินค้าแอมเวย์
เพื่อจะได้ให้เรารู้จักแอมเวย์ดีขึ้น โดยคนที่จะพาเราไปก็คือ Upline เรา
ซึ่งก็คือเพื่อนเราที่ชวนมา


วันรุ่งขึ้นเราก็ได้ไปทัวร์ พร้อมกับได้รับการบอกว่าเราน่าจะซื้อสินค้าแอมเวย์ใช้
เพื่อที่จะได้รู้ว่าสินค้าแอมเวย์ดียังไง และ เหตุผลสำคัญคือเราต้องรู้ในตัวสินค้า
ก่อนที่จะไปแนะนำคนอื่นได้ ซึ่งเราก็เห็นด้วยคล้อยตาม วันนั้นเราหมดเงินไป
ประมาณสามพันเกือบๆสี่พัน รวมค่าสมัคร


เราเริ่มไป House บ่อยขึ้น ไปคลังแอมเวย์ ไปประชุม ซึ่งUplineเราและพวกพี่ที่เฮ้าส์
บอกเราว่าต้องมา ห้ามขาด เพราะเค้าจะมีการสาธิตสินค้าให้เราดู พร้อมบรรยาย
และด้วยเหตุผลว่าถ้าเราไม่ดูแล้วเราจะไปสาธิตให้ ลูกค้าดูได้ไง
แล้วจะแนะนำสิ่งดีๆให้ลูกค้าได้ยังไง


เรายังเรียนอยู่ แต่ด้วยจิตใจมุ่งมั่น เราเริ่มขาดเรียน เราเริ่มกลับบ้านดึก
ไม่ใช่ดึกธรรมดานะ ดึกแบบตีสอง ตีสาม เราเริ่มโดนที่บ้านว่า เเละทุกครั้งที่เราบอกที่เฮ้าส์
ทุกคนจะปลอบ ใจเรา บอกว่า ไว้วันที่น้องสำเร็จกับแอมเวย์ ที่บ้านน้องจะเข้าใจเอง
พ่อแม่จะได้ไปเที่ยวเมืองนอก น้องมีเงินให้พ่อแม่ใช้สบายๆ ไม่ต้องให้เค้าทำงาน
ตอนนี้ก็อดทนไปก่อน ถ้าเราโฟกัสกับแอมเวย์ให้มั่น วันที่เราสำเร็จก็จะใกล้ขึ้น
ตอนนี้ น้องเดินมาเกือบครึ่งทางแล้ว อย่าถอย อย่าท้อแท้ ต้องสู้ว่าเราสำเร็จได้
และอีกครั้ง ที่เรา โง่เขลาเราเริ่มไป House ทุกๆอาทิตย์ ทุกครั้งที่ไป
ก็จะมีการพูดปลุกใจ ปลุกระดม เปิดเพลงประมาณ ว่า We are the champion
อะไรประมาณนั้น เราเริ่มซื้อของใหญ่ และแพง โดยบังคับให้ที่บ้านซื้อ พร้อมกับบอกว่า
มันดีมากๆๆๆ เพราะทุกคนที่แอมเวย์บอกว่ามันคือสุดยอดสินค้า ที่ราคานั้นแม้จะสูง
แต่คุณภาพสุดคุ้ม นั่นก็คือ เครื่องกรองน้ำ และ เครื่องกรองอากาศ
เราซื้อที่ละอย่าง เพราะเราต้องพยายามหว่านล้อมที่บ้านถึงขั้นทะเลาะกัน
เพื่อจะเอา เพราะเราเชื่อแอมเวย์ เชื่อพี่ๆและ Upline ว่าพ่อแม่เราจะมีสุขภาพดีขึ้น


ราคาของสองเครื่องนี้รวมกันก็ประมาณเกือบห้าหมื่นบาท เราเริ่มไปสัมนาแอมเวย์ที่
ต่างจังหวัดพร้อมกับที่กลุ่ม ซึ่งเดือนนึงจะจัด สองครั้ง โดยครั้งๆนึง ประมาณ
พันกว่าบาทเ หตุผลที่เราได้ถูกบอกว่าต้องไปก็คือเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสินค้ามากขึ้น
มีการบรรยายที่มีประโยชน์มากพร้อมกิจกรรม เกี่ยวกับตัวสินค้า และได้พบกับวิทยากร
ที่ประสบความสำเร็จกับแอมเวย์แล้ว เป็นระดับเพชร มงกุฏฑูตเราก็ไป
บางครั้งที่มหาลัยใกล้สอบ มีติวกันกับเพื่อน เราก็ไม่ได้ติว เพราะเราต้องไปสัมนาพัทยา
เพื่อนเราเก็บชีตไว้ให้แต่เราก็ไม่มีเวลาอ่านนัก เพราะเรากว่าจะกลับ ก็ตีสองตีสามแล้ว
เรียนเราก็โดดเพราะเราโฟกัสว่าวันนี้เราจะต้องไป เฮ้าส์ตอน เย็น และ
เราเริ่มนัดลูกค้าตอนกลางวัน ซึ่งก็เป็นญาติๆของเรา แผนทุกอย่างถูกวางโดย Upline
ของเรา และรู้มั๊ยหนึ่งในวิธีที่จะสำเร็จกับแอมเวย์ได้ก็คือ ต้องเชื่อ Upline จริงๆ เรามีชีทด้วย
ได้มาจากสัมนา มันบ้ามากกกเลย แต่ตอนนั้นเราก็เชื่อเพราะเราโดนบิ้วทุกวันจากการไปเฮ้าส์
มันคือหนึ่งในวิธีการสะกดจิต หรือล้างสมอง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เราไม่รับรู้
ความจริงจากโลกภายนอก แม้เพื่อนหรือญาติพ่อแม่จะบอกอะไรยังไงเราก็ตามเราไม่เชื่อ
เราเหมือนถูกผีสิง เราต้องไปเฮ้าส์ทุกวันเพราะที่นั่นมีคนที่เข้าใจเรามีจุดหมายเดียวกับเรา
ต้องการสำเร็จเหมือนเรา แล้ววันนึงคนที่หัวเราะเราจะหันมามองเราด้วย ความทึ่ง และ
ยอมรับเรา ที่เเอมเวย์มีแต่เพื่อนเเท้ เป็นครอบครัว นั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกได้ซึ่งเรากำลังจะเล่าแล้วล่ะ
ว่าต่อไปที่เราค้นพบความจริงเป็นไงเราเริ่มกลายเป็นสาวกแอมเวย์แล้วอย่างเต็มรู­ปแบบ
ทุกๆวัน เราพูดแต่เรื่องแอมเวย์เราใช้ของทุกอย่างที่เป็นแอมเวย์ ยาสีฟัน สบู่ น้ำยาล้างจาน
แฟ้บ น้ำ อากาศ และทุกอย่างที่แอมเวย์จัดจำหน่าย เช่น กระดาษทิชชู่ หลอดไฟฟิลลิปส์
โอรีโอ น้ำมัน ข้าวสาร ทุกๆๆอย่างในชีวิตเราคือแอมเวย์ ที่เฮ้าส์จะมีการพูดเปลี่ยนเวรกัน
เราได้รับมอบหมายให้พูดเรื่องแอมเวย์กับชีวิตประจำวัน ซึ่งตอนนั้นเราเล่าอย่างภาคภูมิใจมาก
ว่าเราบริโภคทุกอย่าง เป็นแอมเวย์จริงๆ เราเสร็จขั้นตอนการซื้อของมาใช้แล้วด้วยการ
หมดเงินไปประมาณแสนหนึ่งถ้าจะได้ เราเริ่มกลายเป็นดาวดวงใหม่ที่ทุกคนตั้งแต่อัพไลน์
ของอัพไลน์ ต้องมาสนใจเป็นพิเศษ ก็แน่สิเราสร้างยอดให้เค้าทุกวันหนิ
เราต้องเข้าเฮ้าส์แล้วพี่อัพไลน์พวกนี้จะเรียกเราวางแผนกลยุทธการขาย เค้าเริ่มสอนให้เรา
ชวนคนมาทำ มาสมัครโดยให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมาห้าคน แล้วชวนมาให้ได้
มาที่เฮ้าส์แล้วเดี๋ยวเค้าจะจัดการให้เอง


เราชวนเพื่อนสนิทเรามา สองคน จริงๆชวนเจ็ดแต่มาแค่สอง สองคนนี้รักเรามาก เราก็รู้ว่า
เค้ามาเพราะเกรงใจและ ไม่อยากให้เราเสียใจ เค้ามาฟังๆโดยที่อัพไลน์เราเป็นคนบรรยาย
เราอยู่อีกห้องนึง เชื่อมั๊ยว่าคนเป็นสิบๆมาช่วยเราคิดว่าจะทำยังให้เค้าสมัคร
มาบอกทริคมากมายช่วยเรา บ้างก็บอกว่าให้เค้าจ่ายเงินเลยเพราะเค้ากำลังบิ้วได้ที่
คือกำลังมีอารมณ์ร่วม ถ้าปล่อยไปพรุ่งนี้มักจะหายจ้อย เรารู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้
เราต้องเริ่มต้นได้เเล้ว และเป็นจริง เราบังคับเพื่อนเราสองคนให้สมัคร
โดยเราบอกเค้าว่าลองดูก็ไม่เสียหาย มันดีจริงๆและเราก็อยากให้เพื่อนรักเราได้เจอในสิ่งดีๆ
อย่างที่เราเจอ> เพื่อนเราก็เงียบๆ และก็ตกปากรับคำสมัคร
อย่างที่เราเจอ> หลังจากสองคนนั้นกลับไป


ทุกคนต่างมายินดีกับเราในก้าวแรกพร้อมกับคำพูดเด็ด น้องมีเพชรในมือน้องแล้วนะ
อย่าให้หลุดมือ สองคนนั้นสามารถเป็นเพชรในสายงานน้องได้ ขึ้นอยู่กับน้องแล้วนะ
ว่าอยากสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ และแล้ววันนั้นเราก็ได้อยู่วางแผนกับอัพไลน์และอัพไลน์
ของอัพไลน์จนดึก วางแผนว่าจะทำยังไงกับเพื่อนสองคนนี่ดีจะทำยังไงให้เค้ามาทำเต็มตัว
ให้เค้าซื้อเครื่องกรองอากาศ กรองน้ำภายในเดือนนี้ เพราะเราทำยอดไว้เยอะแล้ว
ถ้ามียอดสองคนนี้มาเพิ่ม เราก็ได้เบรค ก็คือทำยอดทะลุเป้า ได้เลื่อนตำแหน่ง
ซึ่งทุกคนบอกเราว่าต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้ เพราะอีกไม่กี่เปอร์เซนต์เราก็จะเบรคแล้ว


ก่อนที่เราจะจัดการเพื่อนสองคนของเรา ที่ยอมสมัครเป็นดาวไลน์เรา เราได้ถูกวางแผน
กลยุทธการเยี่ยมบ้านเพื่อนๆ เพื่อขายสินค้า โดยUplineเราเป็นคนสอนวิธีให้ทุกอย่าง
เริ่มจากจะชวนเค้ายังไง จะทำยังไงให้เค้ายอมให้เราไปสาธิตสินค้า
อัพไลน์เราบอกว่า เค้าจะจัดการสาธิตให้เองและ ไปพร้อมเรา เพราะเค้าเก่งแล้ว
พูดเก่งด้วย ก็แน่สิเค้าเป็นดารานี่ไม่เก่ง ได้ไง เค้าบอกว่าขอแค่เราโทรไปนัดคนให้ได้
ที่เหลือเค้าจัดการเอง เราก็เลยโทรไปหา เพื่อนๆแรกๆเราก็บอกเค้าตรงๆว่าเราจะเข้าไป
สาธิตสินค้าแอมเวย์ ซึ่งเพื่อนๆก็จะปฎิเสธ อ้างว่าไม่ว่าง ติดนู่นนี่ พ่อแม่เค้าก็ไม่ว่าง
อย่ามาเลยเสียเวลา เรากลับไปบอกอัพไลน์เราว่าเราทำไม่ได้ ไม่มีใครสนใจ
อัพไลน์เราปลอบใจเราพร้อมสอนทริคการโกหก ต่างๆนานา โดยให้เริ่มด้วยมุขแรก
เค้าสาธิตให้ดูสดสด ...สวัสดีอาร์ทเราดามนะ เป็นไงบ้าง โอโห้ไม่เจอกันตั้งแต่มหาลัย
เลยนะ หลายปีอยู่ นายเป็นไง สบายดีนะ ที่บ้านพ่อแม่สบายดีนะ ทำงานอะไรอยู่ อืม...
เผอิญเราผ่านแถวบ้านนาย เราเลยนึกถึงว่าทุกคนสบายดีมั๊ย
คุณพ่อยังทำงานเป็นตำรวจอยู่รึปล่าว อืม... เกษียนแล้วหรอ แล้วคุณแม่ล่ะ อ้าว...
แล้วน้องนายเรียนที่ไหน อืม...ดีนะ ทุกคนสบายดี เราก็ดีใจ
แล้วนายปกติเลิกงานกี่โมง ล่ะ อืม... อย่างงี้ช่วงสองทุ่มก็ถึงบ้านแล้วสิ ดี ดี
เผื่อนเราแวะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อ คุณแม่ด้วย อยากเจอน่ะ มีเบอร์มือถือมั๊ย
แล้วเบอร์ที่ทำงานล่ะ โอเค เดี๋ยวค่อยคุยกัน นะบาย......
ขั้นตอนนี้ เค้าเรียกกันว่า เช็คฟอร์ม เก็บรายละเอียด "Form Check"
เป็นขั้นตอนสากลทำเพื่อเก็บรายละเอียดของสมาชิกในบ้าน
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ครั้งแรกให้ประทับ ใจ ให้เค้ารู้สึกว่าเรามาดีไม่ได้ต้องการ
ขายของ มุขนี้จะใช้กับคนที่ไม่ได้เจอมานาน และไม่รู้ว่าเราทำแอมเวย์
เพราะถ้าเค้ารู้ เค้าก็คงรีบวางหูแล้วล่ะ เราเริ่มหลอกเพื่อนสำเร็จด้วยมุขแรก
หรือมุขที่ว่า เราพึ่งไปฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพมา ดีมากๆเลย
เราอยากเข้าไปแนะนำคุณพ่อคุณแม่เธอน่ะ มีประโยชน์มากๆ เพื่อนกลุ่มแรกๆ
ที่เรานัดเค้ายังไม่ค่อยรู้มากนักว่าเราทำ แอมเวย์ จึงใช้ได้ผลกับมุขนี้


ก่อนไปทุกครั้ง เราก็จะต้องนั่งลิสต์สมาชิกในบ้านเพื่อนคนนั้นๆ ให้อัพไลน์ดู
เพื่อที่จะได้เตรียมของไปขายถูก เช่น ถ้าเค้ามีน้องที่เป็นเด็กอ่อน เราควรขาย
เครื่องกรองอากาศ อาหารเสริม พร้อมกับเตรียมโบรชัวร์ต่างๆ ไปให้พร้อม
แน่นอน เราต้องอย่ายอมแพ้ ถ้าเค้าทำท่าไม่สนใจระหว่างการสาธิต
ให้เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้เค้าสนใจให้ได้ และวิธีสุดท้ายที่มักได้ผลก็คือ
ทิ้งสินค้าไว้ให้เค้าทดลอง หนูอยากให้น้องมีสุขภาพดีจริงๆ เห็นคุณแม่บอกว่า
น้องเค้าชอบจามเวลานอน มันไม่ดีนะคะ โรคภูมิแพ้เนี่ย ป้องกันและรักษา
ตั้งแต่เด็กๆจะดีกว่า เครื่องกรองอากาศเนี่ยได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่ากรองได้ถึง
99.999 เปอร์เซน ถ้าตอนนี้ยังไม่สนใจซื้อไม่เป็นไรค่ะ ฝากไว้ให้ทดลองก่อน
เดี๋ยวอาทิตย์หน้าหนูผ่านมาแถวนี้ จะแวะมารับกลับ หนูอยากให้น้องได้อากาศบริสุทธิ์ค่ะ
จะได้ไม่จาม ...แน่นอน หนึ่งในห้ามักเกิดความเกรงใจและซื้อสินค้ากับเราในที่สุด
ซึ่งเพื่อนเราไปพูดให้เพื่อนเราอีกทีฟังว่าแม่เค้าซื้อก็เพราะตัดความรำคาญ
จะได้ไม่มาตื้ออีกตอนนั้นเราได้ฟัง อัพไลน์เราบอกว่าไม่ต้องสนใจ เพราะเราทำหน้าที่
ของเราสมบูรณ์แล้ว คือแนะนำสิ่งดีๆให้กับคนที่เรารัก ทั้งๆที่จริงๆน่าจะพูดว่า
ไม่ต้องสนใจ ก็เค้าซื้อแล้ว จ่ายเงินแล้ว เรายอดเพิ่มแล้วหันไปหาคนอื่นดีกว่า
แอมเวย์เก่งมากเรื่อง จิตวิทยา


เวลาผ่านไปประมาณครึ่งปี ผลการเรียนของเราเทอมนั้นตกหนึ่งตัว ดร็อปหนึ่งตัว
หลือ เรียน 3 ตัว ซึ่ง 3 ตัวนั้นเรากิน C,C,D ดร็อปเพราะ ลืมไปสอบ Quiz
เก็บคะแนนก็เลยดร็อปเพราะคิดว่าสู้ต่อไปคงได้แค่ด็อก อีกอย่างวิชานั้นเรียนเช้า
ไปเรียนก้ไม่ไหวเพราะกลับก็เกือบเช้าแล้วดร็อปดีกว่า อัพไลน์บอกว่า เรียนเมื่อไหร่ก็ได้
แก่แล้วก็ยังเรียนได้ การศึกษาไม่จำกัดอายุ จบตรีมาใช่ ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต
โฟกัส กับสิ่งที่เราทำดีกว่า เรามาครึ่งทางแล้ว แน่นอนหมดเงินไปก็สองสามแสนแล้วนี่
จุดนี้ เราเริ่มกู้ญาติที่เราสนิทเรียน โดยจะผ่อนชำระเค้าเดือนละห้าพัน เค้าไม่คิดดอก
เพราะเค้ารักเรา เหตุผลของเราก็คือเรากำลังทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทุกธุรกิจต้องลงทุน
ฉะนั้นการกู้หนี้ยืมสินของพวกทำแอมเวย์เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมันเป็นเงินลงทุน
ยังไงๆก็ได้คืนแน่อนอนอยู่แล้ว จุดนี้เเหละเราเริ่มติดบ่วงติดหนี้แล้ว


ตอนนี้เรามีดาวไลน์ สามคน สองคน ไม่ทำงาน สมัครเพราะความเกรงใจ
ส่วนอีกคนเป็นคนไฟแรงประมาณเรา อ้อ เราไม่ได้โชคดีขนาดว่าเจอเพชรในตมอะไร
ขนาดนั้นนะ เราโทรหาเพื่อนประมาณร้อยคนเห็นจะได้ รวมญาติด้วย และรวมเพื่อน
ของเพื่อนด้วย ทุกคนเริ่มรำคาญเรา บางคนยอมฟังเรา บางคนรีบขอวาง
บางคนไม่รับโทรศัพท์เราเลย เพราะเราพูดแต่เรื่องชวนเค้าไปสัมนา
เราเสียเงิน เยอะมากๆๆๆ จากหัวข้อใหญ่ๆที่จะเล่าให้ฟังนะ


หนึ่ง...เราเริ่มกักตุนสินค้า เพราะเราชวนใครไม่ได้ ขายได้ก็ไม่มาก แต่เราต้องการเบรค
ทำยอดติดกันหกเดือน เพื่อเลื่อนขั้นเป็น ดีดี ซึ่งก็จัดว่าเป็นตำแหน่งที่เกือบๆใกล้ๆเพชร
ทำยังไงล่ะ ใครจะยอมให้เรากู้ แอมเวย์มีวิธี ใครๆก็ทำกัน บัตร First Choice ไง
กับ บัตร Credit Kasikorn Thai Amway =ขั้นแรก เครดิตการ์ด ก็รูดเต็มวงเงิน
แบกเครื่องกรองน้ำเต็มคันรถมาเก็บไว้ที่บ้าน =ขั้นต่อมา สมัครบัตรเฟิร์สชอยส์
ซึ่งสามารถซื้อเครื่องกรองอากาศโดยเค้ามีตารางให้ผ่อนเป็นงวดๆ อ๊ะอ๊ะไม่ใช่แค่บัตรเดียว
อัพไลน์เราบอกว่าถ้าเรามีความรับผิดชอบอย่าไปกลัวเลย ให้เราไปหาญาติแล้วเอา
ใบสมัครเฟิร์สชอยส์ไปให้เค้าสมัครและเซ็น แล้วให้เอามาซื้อเครื่องกรองน้ำ ตุนๆเพื่อเบรค
ให้ได้ ไม่ต้องกลัวน้องใครๆก็ทำ พี่มีอยู่ 12 ใบ พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา เพื่อน แฟนเพื่อน
พี่ชายเพื่อน ยอดเงินในแต่ละใบก็หลักหมื่นสิคะ ถ้าใช้เต็มวงเงินก็หลายแสนที่พี่เค้าเป็นหนี้
แต่เค้าบอกว่าคุ้มแสนคุ้ม กับการรักษาโอกาสนี้ไว้ เพราะเราเดิมมาเกือบถึงเส้นชัยแล้ว
เราไม่มีทางเลือก ถ้ารักจะเป็นนักธุรกิจ ต้องกล้าเสี่ยง รับผิดชอบ หลังจากนี้ ต้องสัญญา
กับตัวเองว่าจะทำงานหนัก ออกขายทุกวัน เอ๊ะ เริ่มขัดแย้งกับตอนที่ชวนมาทำใหม่ๆนี่
ตอนแรกบอกงาน สบายๆๆไม่ต้องเหนื่อย มีเงินเดือนๆละเป็นแสน เอ๊ะ แต่ตอนนี้หนูเริ่ม
ติดหนี้เป็นแสนๆ อ้อ อัพไลน์คนนี้ก็ติดหนี้ค่ะ ห้าแสนน่าจะได้ แกเป็นเพชรนะแต่ติดหนี้
สรุป ด้วยความยังโง่อยู่ หนูไปล่าบัตรเฟิร์สชอยส์จากญาติๆมาได้ 10 ใบ พร้อมกับมี
เครื่องกรองน้ำ 9 ตัว กรองอากาศ อีก 7 ตัว และเครื่องสำอางค์ อาหารเสริมอีกเป็นโกดัง
เริ่มสมัครบัตรเครดิตเพราะอ้างได้ว่ามีเงินเดือนจากแอมเวย์ไปขอใบรับรองเงินเดื­อนได้


เรามีบัตรเครดิตทุกธนาคาร และใช้ เต็มวงเงินทุกธนาคาร สุดท้ายได้ตำแหน่งค่ะ เป็น ดีดี
มีหนี้ทั้งหมดไม่รวมที่พ่อแม่ช่วย ซื้อตอนต้น 582,000 บาท เราเริ่มกลายเป็นคนน่าสงสาร
เพราะเพื่อนสนิทเรารู้ว่าเราเป็นหนี้ ข่าวเริ่มแพร่ปากต่อปาก เพื่อนเรามาช่วยกันซื้อครีม
คนละขวดสองขวด ถึงตอนนี้เราหยุดสต๊อคของแล้วเพราะเรามีหนี้เยอะ
อัพไลน์เราพูดแต่ว่า ให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา แล้วเค้าจะช่วยขาย
เชื่อมั๊ยว่าเราเหมือนเป็นโรคจิต เวลาเรียนเราก็นั่งลิสต์ชื่อเพื่อน วิธีก็คือ ลิสต์เป็นชื่อเพื่อนมา
ห้าสิบคน แล้วหัวบนสุดก็เป็นชื่อสินค้า ตีตารางเป็นช่องๆ แล้วติ๊กดูว่าเพื่อนคนนี้
น่าจะขายสินค้าตัวไหน เราทำตลอด...รถติดก็ทำ นั่งเรียนก็ทำ อยู่บ้านก็ทำ ก่อนนอนก็คิด
เชื่อมั๊ยว่าเราปล่อยสินค้าไม่ได้เลย เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ปิดยอดปีบัญชี ทุกคนสต๊อค
เหมือนกันหมด ทุกคนของค้างเหมือนกันหมด ต้องการปล่อยของเหมือนกัน ขายยิ่งยาก
ยิ่งหาดาวไลน์เพิ่มยิ่งยาก เพราะเพื่อนเราเค้ารู้กันหมดแล้วนี่ว่าเราไปทำแอมเวย์แล้วติดหนี้
ติดสินเยอะขนาดไหน เรากลุ้มใจมาก แต่ดีที่เพื่อนที่ครั้งหนึ่งเราเคยมองว่าคนพวกเนี่ย
ไม่ใช่เพื่อนแท้ ไม่เข้าใจเรา รังเกียจเรา หนีหน้าเราเพราะเราแค่อยากแนะนำสิ่งดีๆ
ให้พวกเค้า เค้าหันกลับมาหาเรา เค้าเต็มใจที่จะช่วยเรา บางคนซื้อเครื่องกรองน้ำเราด้วย
โดยที่เราไม่ต้องไปสาธิตเค้าเลย เพราะเค้าอยากช่วย ในขณะที่เพื่อนที่เราเคยคิดว่าเป็น
ครอบครัว เพื่อนแท้ ง่วน อยู่กับการปล่อยสินค้าที่ตัวเองสต๊อคเหมือนกัน วันวันก็จะพูด
แต่เรื่องของ ปล่อยของ และไม่เคยสนใจว่าใครจะเดือดร้อนกว่าใคร เพื่อนแท้จริงๆ
และวิธีที่แย่มากๆที่พวกเค้าทำ แต่เราไม่ได้ทำนะคือ เค้าไปหลอกคนมาเป็นดาวไลน์
พยายามให้คนพวกนั้นซื้อสินค้า และให้ดาวไลน์เค้าซื้อผ่านเค้า โดยเค้าอ้างว่าสะดวกกว่า
จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ไปซื้อของที่คลังสินค้าให้ แต่เค้าเอาของที่ตัวเองสต๊อคไว้ให้แทน
วิธีนี้เรียกกันว่า ปล่อยของลองกรง พอดาวไลน์ถามว่าเอ๊ะทำไมไปเช็คในอินเตอร์เน็ต
แล้วไม่มียอดไม่มีพีวีแต้มเลย เค้าก็จะบอกว่า อ๋อ ระบบขัดข้อง แต่เเอมเวย์โทรมาบอกแล้ว
ว่าจะเพิ่มยอดให้ทีหลัง แต่มุขนี้ก็ใช้ได้ ผลนิดหน่อย สำหรับคนโง่ๆเท่านั้น


เราเริ่มรับรู้แล้วว่า อะไรที่เราคิดไว้มันช่างโง่เขลา เราเริ่มไม่ไปประชุม ไม่ไป เฮ้าส์ ไม่ไปสัมนา
เริ่มกลับไปใช้ชิวิตกับเพื่อนที่มหาลัย ติวหนังสือ เราเริ่มค้นพบเพื่อนที่แท้จริง ความสนุก
ในชีวติได้กลับมาอีกครั้ง กลับบ้านเร็วขึ้น พ่อแม่เราแฮปปี้ที่เราเริ่มคิดได้
เราทำงานพิเศษรับสอนพิเศษอีกทางเพื่อผ่อนหนี้ เราพยายามบอกปัดพวกที่แอมเวย์ว่า
เราไม่ว่าง เราเริ่มค้นพบความจริงที่เราโง่เขลามานาน ตอน นี้ห่างจากตอนที่สมัคร
แอมเวย์มาสามปีแล้ว เราเลิกทำไปแล้ว ไม่ได้ไปเฮ้าส์อีก พี่ๆ อัพไลน์แรกๆโทรมาตาม
กันทุกวันให้เราไป จนเราให้แม่เรารับและบอกเค้าไปว่าตอนนี้เราเป็นโรคเครียด ขอร้อง
อย่ามาตามเราเลย เราขอหยุดพัก พวกเค้าถึงจะยอมเลิกราวี แต่ก็ยังส่งแมสเสจมาตลอด
แนวปลุกระดมเหมือนเดิม


เราหยุดทำมาเกือบปีแล้ว หนี้สินตอนนี้เหลือประมาณห้าแสน เราได้ยินมาว่าอัพไลน์เรา
ออกรถเบนซ์แมส เค้านิยมทฤษฏีสร้างภาพ เพราะเรารู้ว่าเค้ากับแฟนเค้า
หนี้สินรุงรังเลย เพราะเราเคยไปจ่ายเงินที่ธนาคารกับแฟนอัพไลน์เรา
เราเห็นเค้าจ่ายทีเป็นปึกๆๆ ตอนนี้พวกเค้าอาจยังคิดไม่ได้ ขอเตือน อย่าเด็ดขาด
อย่าเชื่อคนง่าย อย่าคิดว่าจะยืมจมูกคนอื่นหายใจได้ อนาคต ความ สำเร็จทุกอย่าง
ขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่มีหรอกงานง่ายๆ นั่ง สบายๆ ได้เดือนละแสน แค่แนะนำบอกต่อ
ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านได้มากน้อยแค่ไหนก่อนโดนลบ แต่ นี่คือประสบการณ์จริง
ที่เราไม่อยากให้ใครต้องเจอเหมือนเรา แม่เรานั่งรอเรา ถึงตีสองตีสามทุกครั้งที่เราไปประชุม
พ่อเราร้องไห้เพราะได้รู้ว่าเราติดหนี้อยู่ห้าแสน ทั้งๆที่อายุแค่ยี่สิบ
น้องเราอายเพื่อน เพราะเวลาเราเจอเพื่อนน้องเราก็จะพูดแต่แอมเวย์
เพื่อนๆ ต้องเดือดร้อน เพราะเราตื้อตลอดเวลา และกลัวว่าเราจะขายของเค้า
เวลาที่เสียไป เงินทอง เพราะเราแค่อยากมีเงินอยากมีงานสบายๆ
เชื่อคนง่าย โดนครอบงำ ขอบคุณทุกคนที่อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 12:53:10

 
 

จากคุณ : ใบไม้เบาหวิว
เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 12:51:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com