ความคิดเห็นที่ 1 คนใกล้ตัวมีแบบนี้ สุดท้ายไม่รอด เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง ยิ่งนานวัน คนก็เติบโต แต่อีกคนไม่ไปไหน จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 14:46:15 A:124.122.36.44 X: TicketID:140846

ความคิดเห็นที่ 2 ก็คงต้องดูนิดนึงอ่ะครับ คือ ไม่จำเป็นว่าต้องเรียนสูงเทียบเท่ากับเรา แต่เค้าจะต้องมาอยู่ในสังคมของเราได้ ต้องคุยกันรู้เรื่อง คุยภาษาเดียวกันได้ รสนิยมไปด้วยกันได้ เช่นเดียวกันเราก็ต้องเข้าไปอยู่ในสังคมของเค้าได้ด้วย แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 14:48:33 จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 14:47:23

ความคิดเห็นที่ 3 การคบกันเป็นเรื่องของคนสองคนก็จริงคะ แต่ถ้าต้องแต่งงาน มันก็เหมือนกับว่าเราแต่งกับคนทั้งตระกูลของอีกฝ่ายด้วยนะคะ จะบอกว่าเป็นเรื่องของคนสองคนไม่ได้หรอกคะ เพราะไม่มีใครอยู่คนเดียวในโลก คนรอบข้างและสังคมมีส่วนด้วยคะ ดั่งที่เขาบอกว่า คับตัวอยู่ได้ คับใจอยู่ไม่ได้ ถึงจะฝืนแต่งกัน แล้วคิดว่าฝ่ายหญิงจะมีความสุขเหรอคะ? ต้องไปอยู่ท่ามกลางคำเหยียดหยันตลอดเวลา ถึงเขาจะไม่บอกสามีให้รู้ แต่เราคิดว่าฝ่ายสามีย่อมรู้แก่ใจดี ถามจริง ๆ นะคะ เป็นแบบนี้แล้ว พวกเขา 2 คนมีความสุขไหม? จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 14:47:44

ความคิดเห็นที่ 4 รู้สึกเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ... V แต่คนเรายังอยู่ในสังคม ยังมีพ่อ มีแม่ มีญาติ-พี่น้อง มีเพื่อนฝูง (ไม่ได้เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่นี่.. 0_๐! ) V เรื่องความรู้ อาจไม่หนักหนาเท่าไร แต่ถ้าบอกอาชีพ ..... น้อยครอบครัวที่จะยอมรับได้ค่ะ .... ต่อให้รู้ว่าผญ เป็นคนนิสัยดี ไม่เลวร้ายอะไรก็ตาม V ถ้าผญ.รักผช.ด้วยความจริงใจ .... น่าจะลองเปลี่ยนอาชีพได้นะค่ะ เราว่า นี่ก็เป็นการให้เกียรติคนรัก อีกอย่างนึ่ง ...... ให้เค้าทั้งคู่ ลองปรึกษากันดูก่อนว่าจะทำงัยต่อไป  .... V ถึงตอนนี้ผช. คิดว่ารักได้ แต่ต่อไปเมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว คุณยังจะให้ภรรยาทำงานแบบนี้อยู่รึป่าวล่ะ!...... น่าคิดนะค่ะ V เราขอเอาใจช่วย (คู่ของเพื่อนคุณ) อีกคนค่ะ จากคุณ : แมงมุมดำ (สาวน้อยริมบึง) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 14:52:40

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเขาทำให้เรา"รัก"ได้  ไม่ว่าจะมีความรู้-ฐานะ-อาชีพ อะไรอย่างไรก็ตาม  ก็ต้องถือว่าคู่ควร+เหมาะสมแล้วครับ  เพราะ  ผมเชื่อในวิจารณญาณของตัวเราเองว่าจะเลือกได้ในจุดๆหนึ่งที่เหมาะสมกับตัวของเรา แต่  ต้องมั่นใจนะครับ  ว่ามันคือความ"รัก"   ไม่ใช่  ความ"ใคร่" จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 14:58:53

ความคิดเห็นที่ 6 โดยส่วนตัวผม ผมได้บอกเพื่อนผมไป โดยที่ออกตัวว่า ในความคิดผมเอง ผมบอกเพื่อนว่า ผมไม่สนใจ เรื่องความรู้ ว่าจบชั้นไหนมา  หรือ ทำอาชีพอะไร ลองถ้าเราชอบใคร หรือเรารักใครแล้ว เรื่องพวกนั้น มันไม่สำคัญ แต่แน่นอนว่า ผมก็แคร์ ทางครอบครัวผมด้วย  แล้วทางออกล่ะ  มันอยู่ตรงไหน ผมบอกเพื่อนผมไปว่า  แน่นอน  ถ้าเป็นผม  ผมจะยังคงรักเธอ และคบกับเธอต่อไป เพราะกว่าที่เราจะหาคนดีๆ ที่เรารักเขา และเขารักเรา ได้   มันยากเย็นแสนเขน  จะให้เราเลิก และไปหาคนใหม่ที่ มีการศึกษาดีๆ ทำงานดีๆ เราคงไม่เสียเวลาขนาดนั้นไปหา แต่ผม  ผมจะพยายามช่วยเหลือเธอ ให้เธอได้เรียนอะไรเพิ่มเติม  เพื่อหางานอื่นที่ดีกว่านี้ทำ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 54 15:08:57 จากคุณ : pigchifar เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:02:08

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบคบกันยังนวดอยู่มั้ยคะ ถ้าเค้าคิดจะจริงจังเค้าต้องเลิกและหาอาชีพใหม่ค่ะ อีกอย่างหมดนวดเรียน กศน ได้ค่ะไม่ผิดกฏหมาย อาชีพที่ผ่านมาของคนเราไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญคือ การดำเนินชีวิตและความคิดต่างหาก มีหลายคนที่เป็นหมอนวด แต่ทำเพราะภาระและความจำเป็น แต่เค้าคิดได้เค้าไปลง กศน จบ ม6 ต่อรามหรือ มสธ ก็ได้ค่ะ แล้วแฟน จขกท ทำอะไรบ้างที่ส่อให้เห็นว่าเธออย่างจะก้าวออกมาจากอาชีพนั้น ก้าวออกมาจากเารศึกษาที่จบน้อยไปหน่อย เก่งว่าดูความกระตือรือล้นพวกนี้ก่อนจะพาไปพบพ่อแม่ดีกว่าค่ะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:02:25

ความคิดเห็นที่ 8 เราจบป.ตรี มีกิจการเป็นของตัวเอง แฟนเราจบปวช. ที่บ้านเลี้ยงวัวนม เรายังไม่สนใจและไม่คิดรังเกียจด้วย ที่บ้านก้อยังให้คบกันต่อไปไม่มีปัญหาเพราะคนสองคนรักกัน จากคุณ : jeabpiglet เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:03:30

ความคิดเห็นที่ 9 "ความรู้" สำคัญครับสำหรับผม เพราะหากมันมีข้อจำกัดในเรื่องนี้ และทำให้เราคุยกัน "ไม่รู้เรื่อง" แล้ว ผมเชื่อว่าปัญหาอื่นๆในชีวิตจะตามมาครับ การจะจับมือกันเดินไปพร้อมๆกันนั้น นอกจาก "ความรัก" ที่ต้องมีให้กันแล้ว วิสัยทัศน์ และ ความเข้าใจ มันก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญเช่นกัน หากผมมีความรู้อยู่ประมาณนึง และผู้หญิงข้างกายผมจบ ม.3 ผมก็คิดว่าทัศนคติต่างๆระหว่างเราคงต้องมีปัญหาแน่ๆ ยกเว้นว่าจบ ม.3 แต่มีความไฝ่รู้ และเปิดใจที่จะเรียนรู้โลกทัศน์ใหม่ๆ ซึ่งมันจะมีซักกี่คนกันละ ที่จะมีคุณสมบัติแบบนั้น ??? และ  "ความรู้" ยังอาจเชื่อมโยงต่อเนื่องไปยัง "อาชีพ" ได้อีกด้วยครับ เพราะ "ส่วนใหญ่" ของคนที่มีความรู้ ก็จะมีอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีพซึ่งสังคมไม่ได้รังเกียจอะไรเขาหรือเธอ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:04:59

ความคิดเห็นที่ 10 ปัญหาของคุณ  คุณก็ตอบเองไปหมดแล้วนี่ จากคุณ : พลังจิต เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:10:01

ความคิดเห็นที่ 11 ดิฉันรู้จักอยู่คนหนึ่งคะตอนไปเที่ยว ตจว. ท่านเป็นผอ.โรงเรียน มีภรรยา จบป.3 ภรรยาแกเขียนหนังสือไม่ค่อยเป็น เขียนได้แต่ชื่อ คิดเลขเก่งมากเพราะแกรับซื้อของเก่า (คล้ายๆวงษ์พาณิชย์) ผอ.แกก็เคารพและรักภรรยามาก จากคุณ : Peacefulmean เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:13:05

ความคิดเห็นที่ 12 ผู้หญิง ที่ผมพูดถึงคนนี้  เขาเป็น หมดนวด (นวดจริงๆ นวดอย่างเดียว ไม่ได้มีบริการอื่นแฝง เพราะสถานที่นวดนั้น ไม่ได้ให้บริการอย่างอื่น.... ง่ายๆคือ ไม่ใช่หมอ นาบ  ครับ) จากคุณ : pigchifar เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:15:00

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่มีใคร แก่เกินเรียนคะ เรื่องการศึกษา อยากให้สูงสักแค่ไหน ใฝ่เอาคะ :) ... ส่วนเรื่องอาชีพ ถนัดอย่างไหนก็ทำอย่างที่ตัวถนัด รัก และชอบ หากเลือกได้ อาชีพสุจริต จะไปอายทำไมเล่าคะ :) หรือหากมองว่ามันไม่ดี ก็เปลี่ยนหางานที่เหมาะสมกว่า โดยคนสองคนช่วยกัน สิคะ น่ารักดีออก ^__^ หรือจะหางานทำร่วมกันไปเลย อัีนนี้ก็แจ๋วน๊า   ... สำหรับดิฉัน ความรู้ อาชีพ มันเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนกันได้คะ  หากเราใฝ่ และ แสวงหา แต่ ... ถึงองค์ประกอบ ความรู้ หน้าที่การงาน เท่าเทียมหรือไปกันได้ ความคิด การใช้ชีวิต ชอบคนละรูปแบบ นี้มากกว่าสำหรับดิืฉันที่จะทำให้เราไปกันไม่ได้ ... ส่วนเรื่อง "การตอบคำถาม"  ถามตัวเองคะว่า สิ่งที่เราเป็น "ควรแล้วหรือจะต้องอายใคร" อันดับแรกคุณต้องภูมิใจในสิ่งที่คุณเป็นให้ได้ซะก่อนคะ คำตอบที่ตอบออกไปมันจะบอกความเป็นคุณได้เอง แต่เมื่อตอบไป พ่อแม่ หรือใครจะไม่รับ รับไม่ได้ เอาหน้าไปไว้ที่ไหน ต้องหันมาถามคนที่จะอยู่ด้วยกันอีกครั้งล่ะคะว่า "เธอล่ะ จะเอาหน้าไว้ที่เดิม หันมาที่ฉัน หรืออายคน ต้องหันหน้าหนีไปอย่างคนอื่น" ก็ว่ากันไป ........ จากคุณ : คุณหนูแดง เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:25:20

ความคิดเห็นที่ 14 แฟนผม ม.6 ส่วนผม จบ โท ไม่มีปัญหา แฟนทำงาน 7-11 จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 15:45:18

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าถามคำถามนี้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว คงตอบว่าไม่สำคัญ ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ทำให้เรานับถือได้ รักได้ก็น่าจะพอแล้ว ส่วนเรื่องพ่อแม่ เราแคร์แน่นอน  แต่ตอนนั้นยังเด็กยังไม่ค่อยคิดไกลๆ ปัดเรื่องพ่อแม่ยอมรับไหมไปก่อน คิดเข้าข้างตัวเองว่าถ้ารักกันจริง เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์และพ่อแม่จะเข้าใจ ถ้าถามตอนนี้....ตอบได้เลยสำคัญ  มองตามความเป็นจริง ที่อยู่บนพื้นฐานเดิม คือต้องคุยกันรู้เรื่อง ทำให้เรานับถือได้ เพราะงั้นอย่างน้อยๆ การศึกษาก็สำคัญในระดับนึงล่ะที่ทำให้คุยกันรู้เรื่อง ไม่งั้นอยู่ด้วยกันวันๆนึงคงกร่อยน่าดู  พูดอะไรไปอีกฝ่ายเหวอ งง ตลอด ไม่จำเป็นว่าคุณต้องจบด็อกเตอร์ไอคิวสองร้อย เราถึงจะนับถือ คุณอาจจะจบแค่อนุปริญญา แต่เป็นคนฉลาดใฝ่รู้ มีความรู้กว้างขวาง ก็แลกเปลี่ยนความคิดกันรู้เรื่องได้ แต่แน่นอนว่าก็คงไม่ใช่จบปอหก  ภาษาอังกฤษไม่กระดิก ไม่ชอบอ่านอะไรมากกว่านิยายในไทยรัฐ ไอ้แบบนั้นก็คงจะอยู่กันยากซักหน่อยล่ะค่่ะ แต่แน่นอนแหละว่า  การศึกษามันคงไม่ใช่ตัวกำหนดในการจะรักหรือไม่รักใคร แต่มันคงเป็นหนึ่งในตัวกรอง ในการเลือกคนที่เราจะศึกษาดูใจมากกว่า เพราะปูนนี้แล้ว ขืนคบมั่วซั่ว ลองๆดูไปก่อน มันเสียเวลาง่ะ จากคุณ : ยืมแม่มาเล่น (ยืมแม่มาเล่น) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 16:07:29

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท หมายถึง นวดแผนโบราณ หรือปล่าวคะ จากคุณ : กุ้ง (Wichie) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 16:15:53

ความคิดเห็นที่ 17 การจะคบกัน ต้องจริงใจกันครับ อย่าโกหก ไม่งั้นไปกันไม่รอด และถ้าถามผม ความรู้ ระดับทางสังคม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต สำคัญมากกับชีวิตคู่ครับ เพราะรักกันมันแป๊บเดียว มันมีวันลดลง มีวันหมดไป ถ้าวิถีชีวิตมันไปคนละแบบ คุยอะไรกันได้ไม่นาน ปรึกษาอะไรไม่ได้เลย ไม่นานก็มีกิ๊ก มีออกนอกลู่นอกทางล่ะครับ จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 16:41:09

ความคิดเห็นที่ 18 การศึกษา เรียนเพิ่มเติมได้ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ถ้าคิดจะเรียน เดี๋ยวนี้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ มีเนตยิ่งง่าย คนเรามีโอกาสไม่เท่า สำคัญถ้าคิดได้ ก็ดีกว่าที่คนคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดแต่เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ จัดงานใหญ่โตสุดท้าย หม้อข้าวไม่ทันดำ ก็แยกกันเสียแล้ว หมอนวดในสปาแพงๆ ก็มีเยอะ ตามโรงแรมสี่ดาวขึ้นไปทางใต้ เงินเดือนเป็นหมื่นบาท ช่วงไฮ หลายที่ต้องง้อหมอมือดี ไม่ให้ย้ายค่าย ในกทม.มีดังๆ หลายที่ ตั้งแต่ร้านเล็ก จนระดับรับคนมีเงินอย่างเดียวก็มี แต่หมอจับเส้นเก่งมักมีอายุ สาวรุ่นๆทำน้อยมากๆ ไปอยู่เฟรนไชน์แทน เพราะรายได้ไม่มากนักและใช้แรงเยอะ ที่สำคัญลูกที่ต้องการหมอที่มีประสบการณ์สูง แต่เรื่องนี้นานาจิตตัง คนนวดเก่งไม่เกี่ยวกับอายุ อยู่ที่ครูสอนมาดีหรือเปล่า อาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ สุจริต แต่ไม่ค่อยเด่นดังมาก และอาจทำให้คนเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ถ้าแนะนำอย่างเป็นรูปธรรมคงสื่อสารได้ตรงกัน โอกาสของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เมื่อรักกัน และทั้งคู่พยายามจะปรับตัวเข้าหากัน ฝ่ายหญิงต้องใช้ความพยายามมากกว่า ฝ่ายชายแน่นอน(กรณีฝ่ายชาย ระดับการศึกษา การงานเหนือกว่า) เพราะต้องพิสูจน์ใช้ทางบ้านฝ่ายชาย มั่นใจว่ามีคุณภาพ คุณสมบัติที่จะเป็นสะใภ้บ้านฝ่ายชายได้ เช่น ศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติม (ไม่ใช่นอนเฉยๆไม่ทำอะไร) ขยัน อดทน ไม่เกียจคร้าน งานบ้าน(ไม่ทำตัวแบบเกาะเขากิน) ประหยัดอดออม รู้จักเก็บ รู้จักใช้จ่าย ไม่นำญาติพี่น้องของตน ไปสร้างปัญหาบ้านฝ่ายชาย มีระเบียบ วินัย รับผิดชอบ เป็นแม่ที่ดีของลูก ใจคอกว้างขวาง ไม่ดื้อรั้นไร้เหตุผล ตรงไปตรงมา เป็นคู่คิด ที่ปรึกษาได้ ไม่ต้องมีความลับต่อกัน ออกงาน รับรองผู้ใหญ่ได้ สมัย30-40ปีก่อนหญิงไทย ส่วนใหญ่เรียนไม่สูง แต่การเรือนเป็นเลิศ ก็บริหารจัดการบ้านช่อง เลี้ยงลูกเต้า ดูแลพ่อตาแม่ยาย จนตั้งตัวได้หลายครอบครัวแล้ว ทั้งคนไทย คนจีน คนเหนือ จนลูกจบป.เอก ก็หลายบ้านแล้ว ถ้าฝ่ายหญิงเป็นคนดี คิดได้จริงๆ พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยใช้ความเพียรกับเวลา ด้วยความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ฝ่ายชายพร้อมรับผิดชอบ ดูแลชีวิตฝ่ายหญิง เพราะต้องมีต้นทุนให้ฝ่ายหญิง ศึกษาเล่าเรียน และทำงานบ้านไปด้วยแน่ ซึ่งไม่ใช่เงินน้อยๆ ถ้าให้ฝ่ายหญิงทำงานเก่าหลังแต่งงาน ชีวิตคู่มีปัญหาแน่นอน และคนในบ้านฝ่ายชายต้องเข้าใจ ไม่รังเกียจ  ไม่นำเรื่องในอดีตของฝ่ายหญิงมาฟื้นฝอยหาตะเข็บ เรื่องนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะมีปัจจัยหลายตัว ส่วนใหญ่ที่เจอกัน มักเป็นงานแต่งกับสาวทางเหนือ อีสาน ซึ่งคนภาคกลางอคติ ว่าจะมาเกาะฝ่ายชายกิน โดยยกโขยงมาทั้งบาง แต่สาวดีๆก็ได้ผ่านการพิสูจน์มากหลายบ้านว่า ไม่นำพาปัญหานั้นมาให้ฝ่ายชาย และไม่เกียจคร้าน งี่เง่า รักสะอาด ไม่ทำตัวแบบตัวอิจฉาในละครหลังข่าว ซื่อสัตย์ต่อสามี เลี้ยงลูกเป็น จนพ่อผัวแม่ผัวไว้วางใจ มอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้ ระดับการศึกษา ฐานะ อาชีพ เป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นส่วนที่ว่าถ้ามีในระดับหนึ่ง ก็มองเรื่องอื่นแทน เพราะไม่ต้องมาเหนื่อยสู้ชีวิต เหมือนสมัยบรรพบุรุษอีก แต่คนที่บ้านรวย สวย จบนอก เงินเดือนสูง กลับ เจ้าชู้หลายใจ โกหก ไม่รับผิดชอบ บางคนมีลูกยังไปทำแท้งก็มี หรือไม่เลี้ยงทิ้งให้ผัวเก่าเลี้ยง จึงกล่าวได้ว่าไม่มีอะไรดิ้นได้ตายตัว สุดแท้แต่บุญกรรมที่ทำร่วมกันมา คนเราถ้าคุยกันรู้เรื่อง และยอมรับกันได้จริงๆ เรื่องอื่นก็คงไม่ยากที่จะฝ่าพันร่วมกัน จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 17:18:44

ความคิดเห็นที่ 19 ต่างคนต่างจิตต่างใจนี่คะ.. บางคนรับได้ คิดว่า ความรู้กับอาชีพไม่สำคัญ..ก็คบกันไป.. บางคนรับไม่ได้ เพราะให้ความสำคัญกับความรู้และอาชีพ ก็คงไม่คิดที่จะเริ่มต้นตั้งแต่แรกแล้วมั้ง... เราว่านะ..ถามคนร้อยคน คำตอบที่ได้ก็ต่างกัน ซึ่งคุณเจ้าของกระทู้หรือเพื่อนของคุณเจ้าของกระทู้ไม่สามารถนำไปใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับตัดสินชีวิตตัวเองได้หรอกค่ะ.. สำคัญที่สุด คือ.. เพื่อนของคุณเจ้าของกระทู้ต่างหากที่มีความคิดเห็นอย่างไร.. ถามคนอื่นไปก็เท่านั้น... .......................................... แต่ถ้าถามส่วนตัวเรา.. ก็ตอบว่า..สำคัญค่ะ.. ความรู้ อย่างน้อยก็ต้องคุยกับเราได้.. อาชีพก็ต้องเป็นอาชีพสุจริตที่ไม่มีข้อกังขา สำหรับเรา..อายุขนาดนี้...ไม่ใช่แค่รัก หรือ หลง แต่ต้องเหมาะสมด้วย... อย่างน้อยพาไปแนะนำให้ใครต่อใครรู้จักได้ไม่อายใคร.. ถ้าแม้ในใจเรายังแอบกังวล หรือแอบรู้สึกอายเวลาที่เราพาคนของเราไปไหนต่อไหน..ยังนึกไม่ออกว่า..ชีวิตคู่จะมีความสุขได้อย่างไร ถ้าขาดซึ่ง "ความภาคภูมิใจ" ในตัวของคู่ชีวิต แต่ทั้งนี้เราเป็นผู้หญิงไงคะ.. ยังไงๆ สามีก็เป็นฉัตรแก้วกั้นเกศอยู่ดีล่ะ  ก็ต้องหาฉัตรงามๆ ที่มั่นคงคุ้มแดดคุ้มฝนให้เราได้...   จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยรสส้ม เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 17:23:15

ความคิดเห็นที่ 20 ขอมอบแด่เพื่อน จขกท. คนไม่ยึดติด นานๆจะมีมาซะที จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย (ต็กโกวคิ้วป้าย) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 19:17:03

ความคิดเห็นที่ 21 จิตใจที่ผูกพันธ์กันแล้ว แม้ว่าอยู่ห่างกันแค่ไหน ระยะทางของหัวใจ ก็ไม่เปลี่ยนแปลง ขออวยพรให้ทั้งคู่โชคดีครับ จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย (ต็กโกวคิ้วป้าย) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 19:25:07

ความคิดเห็นที่ 22 รีบๆเรียนต่อ พร้อมๆกับเปลี่ยนอาชีพด้วยครับ แล้วค่อยดูอีกทีว่าจะไปกันได้ไหม จากคุณ : MSH เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 20:15:34 A:124.121.179.148 X: TicketID:317712

ความคิดเห็นที่ 23 ที่จริงแค่หมอนวดแผนไทยนี่นา  ไม่น่าเกลียดตรงไหนเลย     ส่วนการศึกษา  เราว่า  ดูที่ ความประพฤติและมารยาททางสังคม เถอะ  คนสมัยนี้  มีการศึกษาดีก็แต่ใบปริญญา  แต่...พฤติกรรมแย่ๆเยอะไปนะ ส่วนตัวเรา  บอกไม่ถูกเมหือนกันว่า จะมีผลต่อการตัดสินใจสักแค่ไหน  แต่เราก็ไม่อายถ้าต้องมีแฟนที่ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่คนสมองเฉียบแหลมมากมาย (ปกติเราชอบคนเก่ง  อาจไม่ใช่เรียนเก่งแต่คือ เป็นคนไบรท์ๆอ่ะ) จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 21:58:35

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนตัวของเรานะคะ เมื่อก่อนความรู้และอาชีพของคนรักนี่สำคัญมาก อีกอย่างคือที่บ้านส่งให้เรียนดีๆ ก็เพราะเค้าคงอยากให้เราเจอสังคมดีๆ ซึ่งก็น่าจะมีคนดีๆ ด้วย แต่เอาเข้าจริง คนดีๆ ในสังคม ดีๆ ที่คิดว่าจะมีนั่นก็หายากเหลือเกิน เราเลยเปลี่ยนมาชอบคนขยัน และคนดี ดีกว่าค่ะ ถ้าเรารักเขาจริงแล้วก็คอยส่งเสริมเขา ก็น่าจะ ok อยู่ จากคุณ : ตุ๊กตาหน้ารถ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 02:43:51

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนแรก ผมเชื่อว่า ความรักชนะทุกสิ่ง แต่สุดท้ายก็ทราบความจริงว่า มันไม่ใช่ ไม่ใช่อะจ๊อด มันไม่ใช่ !!!!!!!!!!! ฐานะทางสังคม อาชีพการงาน หน้าตาของอีกฝ่าย ญาติโกโหติกา ความประพฤติ นิสัย ฯลฯ ถ้าครอบครัว จขกท. รับได้ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้นี่ เหอ ๆ แย่ทันตาเห็น ฮาาา จากคุณ : เสี่ยวเก้า (กระบี่เก้าเดียวดาย) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 03:17:42

ความคิดเห็นที่ 26 ลอกคำตอบเจ้าหญิงน้อยรสส้มกับท่านเสี่ยวเก้าค่ะ อะไีรที่ทำให้มันไม่เป็นปัญหาได้แต่แรกตั้งแต่มีสิทธิเลือก หรือ เลือกให้มีปัญหาน้อยสุดเราก็จะำทำค่ะ ไม่อยากแต่งงานไปแล้วมามีปัญหาจุกจิกเล็กน้อยกับเรื่องแบบนี้ เพราะคาดไว้แล้วว่าชีวิตคู่ต้องมีอะไรให้ปรับให้แก้กันอีกมาก ไม่ใช่ว่าจะต้องดีเลิศมากมาย เอาให้มันเหมาะสมกับเรา คุยกับเรารู้เรื่อง เข้าสังคมของอีกฝ่ายได้โดยไม่มีปัญหา และต่างฝ่ายต่างภูิมิใจซึ่งกันและกันค่ะ จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 08:01:13

ความคิดเห็นที่ 27 ผมยกย่องผู้หญิงแบบนี้มากกว่าวัยรุ่นสมัยใหม่สะอีก...เพราะ - วัยรุ่นสาวๆ ...ให้แฟนฟรีๆ ตั้งแต่..ม.ต้น ม.ปลาย มหาลัย..รวมแล้วมีแฟนมากมาย...แล้วก็เลิกกันหมดทุกคน ฟรีๆ ไม่ได้เงิน - แต่แฟนเพื่อนคุณได้เงิน - ให้ฟรีๆ มันแย่กว่าแลกเงิน นะครับผม จากคุณ : อาจารย์แมว เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 54 20:35:39 A:182.53.199.230 X: TicketID:199878

ความคิดเห็นที่ 28 เราจบ ตรี  เคยมีแฟน จบ ม.3 แต่ไปกันไม่รอดคับ เพราะความคิด ต่างกันมาก  เราจะคิดก่อนทำ  แต่ แฟน ทำก่อนคิด โดยเฉพาะเรื่องงาน ไม่เคยอดทนเลย แทนที่จะหางานใหม่ก่อน แล้วค่อยออก  แต่ เธอออกก่อนทันที แล้วก็ตกงาน  บางงานไปทำครึ่งวัน ก็ออก บางงาน ทำวันเดียว  ทั้งที่ไม่ค่อยมีเงิน เลย   และอีกหลายๆ อย่าง ที่เธอทำไม่ได้ ทำไม่เป็น และไม่รู้เรื่องเลย  เช่น ภาษาอังกฤษ หรือ คอมฯ นี่ ไม่ได้เลย  แล้วงานส่วนใหญ่ ก็มีคอมฯ มาช่วยทำงาน  เธอก็จะทำไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน แต่เหตุผลที่เลิกจริงๆ เพราะเธอ ไม่เคยเก็บอารมณ์ ถ้าไม่พอใจใครเธอจะแสดงออกมาทันที ทำให้งานเลี้ยงของเราและเพื่อนๆ  กร่อยไปเลย จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 19:36:31

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 27 ผมยกย่องผู้หญิงแบบนี้มากกว่าวัยรุ่นสมัยใหม่สะอีก...เพราะ - วัยรุ่นสาวๆ ...ให้แฟนฟรีๆ ตั้งแต่..ม.ต้น ม.ปลาย มหาลัย..รวมแล้วมีแฟนมากมาย...แล้วก็เลิกกันหมดทุกคน ฟรีๆ ไม่ได้เงิน - แต่แฟนเพื่อนคุณได้เงิน - ให้ฟรีๆ มันแย่กว่าแลกเงิน นะครับผม จากคุณ : อาจารย์แมว ขอบคุณครับ อจ แมว แต่แฟนเพื่อน ไม่ได้ ขาย บริการครับ  เขาเป็น หมดนวดแผนโบราณ แต่เพื่อนผมไม่ได้บอกทางบ้านว่าแฟนทำอาชีพหมอนวด แต่ก็ลำบากใจทุกทีเวลาพาแฟนไปเจอครอบครัว จากคุณ : pigchifar เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 54 15:26:27