ความคิดเห็นที่ 1 การพยายามกระทำความผิดมีหลักในประมวลกฏหมายอาญาดังนี้ มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายาม กระทำความผิด ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองใน สามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น //////// ตามวรรคแรกหมายความว่า   1.1.บุคคลใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด เช่น ก. ยกปืนเล็งไปที่ ข. จะยิง ข. แต่ ค. ปัดกระบอกปืนไปทางอื่น หรือ 1.2.กระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล เช่น ก. ยิงไปที่ ข. (กระทำไปตลอดแล้ว) แต่ ข.หลบทัน (ไม่บรรลุผล) ซึ่งทั้งสองกรณี  น่าจะเป็นการกระทำผิดในขั้นพยายามฆ่า  และ  ต้อง รับโทษสองในสามของข้อหาฆ่าผู้อื่น ตามวรรคสองของ ม.80 กรณีคุณ จขกท. ถ้ายอมความกันได้ก็ควรยอมความกันเสียนะครับ เท่าที่อ่านข้อเท็จจริง เราเป็นคนคิดจะไปใช้กำลังกับเขาแบบนั้น  ถ้าเอาเรื่องกันมีแต่เสียทั้งสองฝ่ายครับ ไปสู่ชั้นพนักงานสอบสวน เขา ผู้เสียหายเขาอาจแจ้งความคุณจขกท.  ได้  นอกจากพยายามทำร้ายร่างกายแล้ว  ยังอาจรุนแรงไปถึง  พยายามฆ่าได้เลยทีเดียวครับ มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ สองในสามของโทษข้างต้น(กรณีพยายาม ก็คูณเอาดู  หนักทั้งนั้นแหละครับ) ถ้ามีการขอโทษกันไม่เอาเรื่องกัน  ผมเข้าใจว่า(คห.ส่วนตัว)   ตำรวจอาจใช้ดุลยพินิจให้เป็นกรณีความผิดลหุโทษ  คือทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อกายจิตใจ  ซึ่ง กรณีเป็นการพยายามกระทำความผิดลหุโทษ  ตามกฏหมายอาญาไม่ต้องรับโทษ  (คือ จบๆกันไปนั่นเองครับ) มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิด อันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 105 ผู้ใดพยายามกระทำความผิดลหุโทษ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ สรุปคือ  จะให้ชี้ชัดว่า คุณ จขกท.มีความผิดไหม  ณที่นี้คงไม่ได้มันอยู่ที่พยานหลักฐานในชั้นสอบสวน  แต่  ถ้าไม่ยอมกันจริงๆ  ก็คงต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม ซึ่ง  อาจถูกตั้งข้อหา พยายามฆ่า-พยายามทำร้าย  และต้องพิสูจน์ความผิดอีกพอสมควร    ถ้าคิดว่าไม่ผิดจริงๆก็สู้คดีไป   แต่ถ้าคิดว่าเราผิดหรือทำไม่เหมาะสม  ก็จบกันดีไหม ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 11:57:18

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ติดคุกหรอกครับ เสียค่าปรับ 500 บาทลองดูคดีที่ ผ่านๆมาที่เจ้อะไรตบคนหาเสียงยังเสียแค่500เองครับ ข้อหาทำร้ายร่างกายครับ -.-ไทยแลนด์แดนสวรรค์ของคนมีเงินครับ จากคุณ : CivilEng~ (CivilEng~) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 12:14:18

ความคิดเห็นที่ 3 ผิดข้อหาขู่ ทำให้กลัว...  ตกใจ.กลัว (กลัวว่ารถจะชน) ลหุโทษ ปรับไม่เกิน ๑ พัน หรือ จำคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ แกล้งขับรถจะชน แต่ไม่ได้ชน แค่แกล้งให้กลัวเท่านั้น เพราะไม่มีเจตนาทำร้าย และไม่คิดจะชน ไม่ใช่ความผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกาย เพราะคิดจะชนจริงๆ ผมว่าคงชนไปแล้ว (ใช้ตอนสืบพยานในศาล) เจตนาในใจไม่มีใครรู้ แต่ผลของการกระทำย่อมบอกสิ่งที่อยู่ในใจได้ ถ้าผมเป็น จขกท ผมก็แค่เร่งเครื่องดังๆ ออกตัวเอี๊ยดๆ ให้ดูน่ากลัว แล้วก็แกล้งจะชนเท่านั้น ถ้าชนจริง คงตายไปแล้ว มันก็แค่ขู่ทำให้ตกใจกลัวเท่านั้น เป็นความผิดลหุโทษที่สำเร็จลงแล้ว ตาม ม.๓๙๒ จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 12:43:02

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าขับรถแกล้งจะชน กับ ขับรถทำเป็นจะชนแล้วขับไปจะชนแต่ผู้เสียหายกระโดดหลบทัน ถ้าเป็นกรณีแรก ยังไงผมก็คิดว่าผิดแค่ทำให้กลัว ตาม ม.๓๙๒ ถ้าเป็นกรณีหลัง คือ เค้ากระโดดหลบทัน จึงไม่ได้ชน อันนี้อาจผิดฐานพยายามทำร้ายร่างกายตาม ม.๒๙๕ , ม.๘๐ ประกอบ ม.๕๙ ว.๒ (เล็งเห็นผล) ดีไม่ดีกรณีที่สองถ้าสืบได้ว่า ขับเร็วและแรงล่ะก็อาจโดนข้อหาพยายามฆ่าโดยเจตนาแบบเจตนาเล็งเห็นผลได้ จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 12:51:01

ความคิดเห็นที่ 5 ทะเลาะกัน เป็นข้อหาก่อการวิวาท ปรับคนละ 500 บาท แต่พยายามฆ่าเป็นอีกกรณีหนึ่งคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 13:33:43

ความคิดเห็นที่ 6 ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า แกล้งขับจะชนนี่แหละ แกล้งยังไง แบบไหน ออกตัวรถหรือยัง แล้วตอนนั้นอีกฝ่ายอยู่ตรงไหน ขอโทษไปก็จบเหอะ อย่าเอาคอไปพาดเขียงเลย รอดก็ดีไป ไม่รอดก็ซวยไป คุ้มไหม จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 16:05:25