PANTIP.COM : U10650570 ***เรียนนิติศาสตร์ มีอาชีพไหนแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่รู้จะเป็นอะไรบ้างคะ ขอแสงสว่างนำทางหน่อยคะ ^^ *** [ปัญหาชีวิต]

ความคิดเห็นที่ 9

เรียนนิติศาสตร์ ... แล้วจะไปประกอบอาชีพอะไรได้ ? ? ? ............................เป็นคำถามประจำสำหรับนักศึกษา ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเรียนนิติ ฯ ไป ( หาตะหวัก ตะบวย...) ทำไม ! ! !

ประทานโทษ ในวงเล็บนั้น เป็นความในใจ ท่านจะไม่อ่านก็ได้ หากเห็นว่าไม่ควรอ่าน

ขอตอบตรงๆ ให้ตรงคำถาม.....ว่า เรียนกฎหมายมาแล้วจะไปทำงานอะไรได้บ้าง ? ? ?

ตรง ... คือ ผู้เรียนจบกฎหมาย สามารถไปทำงาน อะไร ประเภทไหน ก็ได้...ไม่จำเป็นต้องไปทำงานที่เกี่ยวกับกฎหมายแต่ประการใด...เพราะในปริญญาบัตร มิได้บังคับ

ที่เห็น ๆ ในปัจจุบัน มีบัณฑิตนิติศาตร์มากมายที่ไปทำงานด้านบันเทิง...ร้องเพลง เป็นนักแสดง....หรือไปเป็นนายหน้าขายประกัน....ขายสินค้า...........รับเหมาก่อสร้าง....รับจ้างตกแต่งภายใน...เป็นไกด์ ( มัคคุเทศก์ ) ทำทัวร์ เป็นแม่ครัว พ่อครัวปรุงอาหาร.... หรือประกอบกิจการร้านอาหาร.......ทำงานธนาคารที่มิใช่งานสายนิติกร.......เป็นสจ๊วต - เป็นแอร์ ให้บริการบนเครื่องบิน..........ทำงานเป็นพนักงานโรงแรม....ตั้งเต้นท์ขายรถมือสอง........บริการพิมพ์นามบัตร....ซื้อ-ขายบ้าน....ซื้อขายคอมพิวเตอร์.....เป็นหมอดู.............ทำโฆษณา .............เป็นอาจารย์ตามโรงเรียน หรือวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ..............ฯลฯ

เหล่านี้คือตัวอย่าง ที่เห็นได้ทั่วๆไป สำหรับอาชีพการทำงานหากิน ของจริง ของนิติศาสตร์บัณฑิต ในประเทศไทย

เอาเป็นว่า........ความรู้ปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต ถือเป็นความรู้เบื้องต้น พื้นๆ สำหรับมนุษย์โลกในยุคปัจจุบัน....ถือว่าผู้เรียนจบมาสามารถอ่านหนังสือเป็น มีความรู้ได้ในระดับหนึ่ง....พูดจาภาษาคนได้รู้เรื่องมากกว่าผู้ที่ไม่จบ จึงสามารถไปทำมาหากิน....อะไรก็ได้ อย่างมีศักดิ์ มีศรีของผู้คนในสังคมไทย...... ก็เท่านี้เอง

แต่หากจะทำมาหากินในสายงานของวิชาการนิติศาสตร์ อย่างแกร่งกล้า ในวงราชการ....ท่านก็จะต้องมีความรู้เพิ่มเติม สูงขึ้น มากกว่า เหนือกว่าระดับ น.บ. ธรรมดา ๆ

เช่น

* จะเป็นผู้พิพากษา หรืออัยการ ก็ต้องเรียนเนติ ฯ ให้จบอีกด้วย ( ยาก และหนักขึ้นไปอีก )

* จะเป็นทนายความ ต้องผ่านการอบรมจากสำนักฝึกอบรม ฯ ทั้งภาคทฤษฎี และปฎิบัติ และสอบให้ผ่าน จึงจะได้ตั๋วทนาย หรือ ใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ( ไม่ยากดอก แต่ก็ไม่ใช่ของง่าย )

* หรือจะไปรับราชการอื่นๆ เช่น เป็นนายตำรวจสัญญาบัตร เป็นเจ้าหน้าที่การทูต เป็นเจ้าพนักงานที่ดิน เป็นนายทหารสัญญาบัตรตามความต้องการของกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดอำเภอ เป็นเจ้าพนักงงานพิทักษ์ทรัพย์ เป็นเจ้าหน้าที่ กกต. เป็นพนักงาน กทม. เป็นเจ้าหน้าที่นิติกรตามกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ....ฯลฯ...............

ท่านก็ต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม และย้ำความรู้เดิมให้แน่น มิฉะนั้น จะไปสอบสู้คนอื่นที่เขาเตรียมตัวมาดี ไม่ได้

* หรือหากจะเรียนกฎหมายให้สูงขึ้นถึงระดับ มหาบัณฑิต ( ปริญญาโท ) หรือดุษฎีบัณฑิต ( ปริญญาเอก ) ก็จะเป็นการดีแก่ค่าตัวของตนเองในการเข้ารับราชการระดับสูง ระดับมันสมอง หรือในบริษัท ห้างร้านที่ใหญ่โต หรือเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยดังๆ

สุดท้าย ขอเรียนว่า...ผู้จบกฎหมายมา มีโอกาสเข้าทำงาน ( มีคนเขารับ ) มากกว่า กว้างกว่า จบสาขารัฐศาสตร์ หรือศิลปศาตร์สาขาอื่นๆ ....กล่าวคือ

* มีงานหลายตำแหน่งที่หากรับผู้จบรัฐศาสตร์ หรือศิลปศาสตร์สาขาอื่นๆ ก็ต้องรับผู้จบกฎหมายด้วย....เช่น ปลัดอำเภอ นักการทูต นายตำรวจสัญญาบัตร ฯลฯ

* แต่งานบางตำแหน่ง หลายตำแหน่ง ที่เปิดรับแต่ผู้จบนิติศาสตร์ แต่ปิดประตูรับผู้จบรัฐศาสตร์ หรือศิลปศาตร์สาขาอื่นๆ ....เช่น นิติกร .........เสมียนศาล ( หน้าบัลลังก์ ) ....... ทนายความ....ฯลฯ

ขอให้ท่านโชคดี ท่านมาถูกทางแล้ว....แต่คลำ ...... ให้ดีๆ หน่อย

จากคุณ : Detente

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 17:11:41