Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฟ้อง A I A อีก 2 คดี ประกันชีวิตแบบ 18 TMAE ติดต่อทีมงาน

ขออ้างอิงกระทู้เดิม เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกัน (เรื่องอาจยาวสักหน่อย แต่เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่แน่นอน)


ความเห็นห้องสินธร
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2011/02/I10270271/I10270271.html

ความเห็นห้องศาลาประชาคม
http://topicstock.pantip.com/social/topicstock/2011/02/U10270651/U10270651.html

ในลิงค์เป็นการฟ้องร้องของคุณทรงกฤษณ และครั้งนี้เป็นเรื่องราวของครอบครัวดิชั้น

       ดิชั้น  ฟ้อง   A I A  อีก  2  คดี   เมื่อวันที่  3  มิถุนายน  2554   คดีหมายเลขดำที่ ผบ.701 / 2554  และ  คดีหมายเลขดำที่  ผบ. 702 / 2554    ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้   เป็นการประกันชีวิต  แบบออมทรัพย์  18  TMAE    ศาลประทับรับฟ้องแล้ว
       คุณพ่อ และ คุณแม่  ของดิชั้น   ทำประกันชีวิต  แบบออมทรัพย์  18  TMAE กับ บริษัท   A I A  คนละกรมธรรม์  รวม 2 กรมธรรม์ โดยตัวแทนขายประกันชีวิตของ บริษัท  A I A  ที่มาเสนอขายประกันชีวิต  บอกว่าตลอดอายุสัญญา  คุณพ่อ และ คุณแม่ จะได้รับผลตอบแทนรวม  200 %   ของทุนประกัน  โดยแบ่งผลตอบแทน  ที่บริษัท  A I A จะจ่ายให้กับคุณพ่อ และ คุณแม่   ออกเป็น  3  ส่วน

       ส่วนที่ 1. จะได้รับผลตอบแทน  เป็นเงินสดคืน  10 %  ของทุนประกัน  ทุก ๆ  3  ปี  โดยจะได้รับเงิน  สิ้น  ปีที่ 3 ,  ปีที่ 6 , ปีที่ 9 , ปีที่ 12 , ปีที่ 15  รวมเป็นเงิน  50 %  ของทุนประกัน และ ในสิ้นปีที่  18  ครบกำหนดสัญญา  จะได้รับเงินสดคืน  50 %  ของทุนประกัน
       สรุป  ส่วนที่ 1  จะได้รับผลตอบแทนรวม  100 % ของทุนประกัน

ส่วนที่ 2. จะได้รับผลตอบแทน  เป็นทุนประกันเพิ่มประมาณ  10 %  ของทุนประกัน  ทุก ๆ  3  ปี  กล่าวคือ  ปีที่  3 ,  ปีที่  6 , ปีที่  9 , ปีที่  12 , ปีที่  15 และ ปีที่  18  รวม  6  ครั้ง  
       สรุป  ส่วนที่  2  จะได้รับทุนประกันเพิ่มรวมประมาณ  60 %  ของทุนประกัน

      ส่วนที่ 3.  เมื่อครบกำหนดสัญญา  จะได้รับเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญา  ประมาณ  40 %   ของทุนประกัน
      รวม ผลตอบแทนที่จะได้รับตลอดอายุสัญญา  ใน  ส่วนที่ 1 รวมกับ  ส่วนที่ 2  รวมกับ ส่วนที่  3 ( 100 % + 60 % + 40 % )  เป็นเงินจำนวน  200  %    ของทุนประกัน ตามที่ตัวแทน   มาเสนอขายประกันชีวิต
      ในส่วนของเงินครบกำหนดสัญญา  จะได้รับเงิน  ใน  ส่วนที่ 1 รวมกับ  ส่วนที่ 2  รวมกับ ส่วนที่  3 ( 50 % + 60 % + 40 % )  เป็นเงินจำนวน  150 %    ของทุนประกัน

       ก่อนครบกำหนดสัญญา  บริษัท  A I A  มีหนังสือมาแจ้งให้  คุณพ่อ กับ คุณแม่   ทราบว่า จะจ่ายเงินครบกำหนดสัญญาให้  เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่า  บริษัท   A I A   จ่ายเงินครบกำหนดสัญญา  ให้น้อยกว่าที่ตกลงกันไว้กับตัวแทนขายประกันตอนทำประกันชีวิต  ถึง  9 %  ของวงเงินประกัน
กล่าวคือ  บริษัท  A I A จ่ายเงินครบกำหนดสัญญาให้เพียง  141 %    ของทุนประกัน  เท่านั้น  
      ต่อมา  บริษัท  A I A  มีหนังสือมาถึง คุณพ่อ  คุณแม่ อีกฉบับหนึ่ง   พร้อมได้แนบเช็คมาให้ตามจำนวนเงิน  ที่ บริษัท  A I A   ระบุไว้ในหนังสือฉบับก่อน  คือจ่ายเงินครบกำหนดสัญญา ให้เพียง  141 %   ของทุนประกันเท่านั้น

แต่ที่ คับข้องใจ มากที่สุด ก็คือ  ตอนท้ายของหนังสือของบริษัท  A I A  ที่ส่งมาพร้อมกับเช็คนั้น   มีข้อความระบุว่า  
       “  การยอมรับเช็ค  ฉบับนี้  จะถือเป็นการรับเงินอันสมบูรณ์ของท่าน  สำหรับการรับชำระเงินค่าสินไหม และ การเรียกร้องใด  ที่มีต่อ  บริษัท ฯ  ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้  และ  ถือว่าท่านให้การยินยอมโดยปราศจากข้อสงสัยว่า  บริษัท ฯ  หมดความรับผิดชอบตามกรมธรรม์ประกันภัยหมายเลขดังกล่าวข้างต้น  นับแต่วันที่ครบกำหนดสัญญาเป็นต้นไป  และ  ทั้งนี้ถือว่า  กรมธรรมประกันภัยฉบับนี้ถูกยกเลิก และ เวนคืนให้แก่ บริษัท ฯ  แล้ว  ”
       จดหมายของบริษัท   A I A  ฉบับนี้   ยื่นเป็นพยานเอกสารในการฟ้องคดีแล้ว
       ลองคิดดูซิคะ  จ่ายเงินมาให้ไม่ครบตามจำนวนที่ถูกต้อง  แล้วยังมีหนังสือข้อความดังกล่าว  บังคับอีก   อย่างนี้ใคร ๆก็กลัวว่า  ถ้ายอมรับเงินตามเช็ค  กลัวว่า เงินส่วนที่ขาดไปก็จะหมดสิทธิที่จะเรียกร้องอีกต่อไป
       คุณพ่อ  คุณแม่ก็กลัว ซิคะ   จึงได้คืนเช็ค  ที่บริษัท  A I A  ส่งมาให้นั้น  กลับคืน  บริษัท  A I A ไป  
       ต่อมา  บริษัท  A I A ทำหนังสือมาถึงคุณพ่อ คุณแม่  อีก  พร้อมได้แนบเช็คฉบับเดิม  คืนกลับมาให้ คุณพ่อ คุณแม่อีกครั้ง  
       ก็เท่ากับ  บริษัท  A I A  บังคับให้  คุณพ่อ คุณแม่ ของดิชั้น ต้องจำยอมรับเช็ค  โดยปริยาย  ทั้งที่จำนวนเงิน ยังไม่ครบตามที่ตกลงกับตัวแทนขายประกันชีวิตไว้
       ถ้าท่านเป็น  คุณพ่อ  คุณแม่  ของดิชั้น  ท่านจะทำอย่างไร ?  คะ

       คุณแม่  รู้ว่า  คุณทรงกฤษณ   ศรีสุขวัฒนา  ฟ้อง  บริษัท  A I A  เพราะได้รับเงินครบกำหนดสัญญา  ไม่ครบตามที่มีการเสนอขายประกันชีวิต  แต่เป็นการประกันชีวิต  แบบ  21  TMAE   ซึ่งให้ผลตอบแทนรวมตลอดอายุสัญญา  รวมแล้ว  200 %  เหมือนกัน  เพราะคุณแม่  ทำประกัน  แบบ  21 TMAE  ไว้ให้  ดิชั้น  กับ พี่สาว ด้วย
       เมื่อ คุณแม่  ปรึกษา  คุณทรงกฤษณ    ศรีสุขวัฒนา  
       คุณทรงกฤษณ  มีความเห็นว่า การจ่ายเงินครบกำหนดสัญญานั้น เป็นหน้าที่ของบริษัท  A I A  ที่จะต้องทำอยู่แล้ว   ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
       และบอกว่า  เราเป็นคนไทย  เรามีสิทธิโดยชอบธรรม  ที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม   ให้กับตัวของเราเอง  ในเมื่อเราไม่ได้รับเงินครบกำหนดสัญญา  ครบตามจำนวน  ที่ตกลงกันไว้
        การฟ้องร้องเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น   เป็นสิทธิพื้นฐาน ของประชาชน คนไทย  ทุกคน  ที่สามารถทำได้
       สำหรับ  หนังสือของ  บริษัท   A I A   ตามข้อความที่มีมาถึง  คุณพ่อ คุณแม่  ของ ดิชั้น  ดังกล่าว  นั้น  
       คุณพ่อ และ คุณ แม่  ของ  ดิชั้น  ยังกลัวเลย   ถึงกับต้องคืนเช็คกลับไป   แล้วประชาชน  ทุกคนจะไม่กลัว หรือ
       ตามหนังสือของบริษัท  A I A  ดังกล่าว เมื่อผู้เอาประกัน ได้รับเช็คแล้ว  ก็จะไม่กล้าฟ้องบริษัท  A I A   เพื่อเรียกเงินที่ยังขาดอยู่อีกต่อไป  เพราะ คิดว่า  การรับเช็คครบกำหนดสัญญาดังกล่าว  ของ  บริษัท  A I A  เท่ากับสัญญาเลิกกันไป   ถึงแม้ว่าจะได้รับเงินยังไม่ครบตามที่ตกลง  ไว้กับตัวแทนขายประกันชีวิต ก็ตาม

       เป็นอย่างไรบ้าง  กับการกระทำของ บริษัท  ประกันชีวิต

       คุณพ่อ  คุณ  แม่  ของ  ดิชั้น  จึงตัดสินใจฟ้อง  บริษัท  A I A  ทั้ง  2  กรมธรรม์  รวมเป็น  2  คดี  ดังกล่าว   เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง  ในฐานะที่เป็นผู้บริโภค  และ เป็นคนไทยอีกคนหนึ่ง  ที่ต่อสู้คดีกับ  บริษัท    A I A   ที่เป็น บริษัท  ต่างชาติ    เพื่อเรียกร้องความถูกต้อง และ เรียกร้องความเป็นธรรม ของคนไทย

        ทุก  ๆ ท่าน  ที่ ทำสัญญาประกันชีวิต  แบบ  18  TMAE  และ  แบบ 21 TMAE    ที่ครบกำหนดสัญญาแล้ว  ได้รับเงินไม่ครบตามที่ตัวแทนตกลงไว้ในวันที่เสนอขายประกันชีวิต  นั้น    ถึงแม้ว่าจะได้รับหนังสือของกับ บริษัท  A I A  พร้อมกับเช็ค  และมีข้อความ เหมือนกับที่  คุณพ่อ คุณแม่ ของ  ดิชั้นได้รับ   ก็อย่ากลัว  
       พวกเรา  ทุกคนที่ทำประกันชีวิต  ทุกกรมธรรม์  ที่ได้รับเงินครบกำหนดสัญญาไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ตอนตัวแทนมาขายประกันชีวิต  มาเสนอขายประกันชีวิตให้กับเรา    พวกเรา ควรที่จะลุกขึ้นมา  ฟ้องเรียกร้องความเป็นธรรม  ให้กับตัวของเราเอง และ ประชาชน ทั่วประเทศ  จะดีกว่า   การจำยอม  โดยไม่ยอมลุกขึ้นมาต่อสู้  เพื่อความเป็นธรรม  ของคนไทย   ถ้าพวกเรา  ลุกขึ้นมาฟ้องเรียกร้องความเป็นธรรมกันมาก ๆ  เป็น 1,000 คดี  เป็น  10,000  คดี หรือ เป็น 100,000 คดี  ดูซิว่า  เราจะได้รับความเป็นธรรม หรือ ไม่

      ดิชั้น  ได้คุยกับคุณ ทรงกฤษณ  ไว้แล้ว   ถึงปัญหาดังกล่าว
     คุณทรงกฤษณ    บอกว่า  ยินดีให้คำปรึกษา  เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม  ให้กับ ประชาชนชาวไทย   และ ให้หมายเลข โทรศัพท์มาด้วย
      โทร  02 – 848 – 9080   โทรสาร  02 – 412 – 6854  
      มือถือ  08 – 9494 -7335

จากคุณ : gungging
เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 13:41:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com