ข่าวในอดีต
คนชอบหั่น
เหตุเกิดเมื่อ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๒๔ ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปในที่เก็บศพของโรงพยาบาลตำรวจ และได้ทำการชำแหละเอาข้อมือและเท้า ของศพหญิงคนหนึ่งซึ่งถูกสามียิงตาย เพราะความหึงหวง หลังจากชันสูตรศพตามระเบียบของเจ้าหน้าที่ของสถาบันนิติเวช แล้วเก็บศพไว้รอญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ทางโรงพยาบาลตำรวจจึงนำความแจ้งกับเจ้าพนักงานตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่ และเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกรมตำรวจ ก็ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายจิตวิปริตรายนี้ให้ได้โดยเร็ว ด้วยเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีเหตุทำนองนี้เกิดขึ้นสองครั้งแล้ว
รายแรกเป็นศพของหญิงสาวอดีตแอร์โฮสเตส ซึ่งเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุรถชนกัน โดยชำแหละเอาข้อเท้าทั้งสองข้างไป
รายที่สองเป็นศพของหญิงสาวที่ฆ่าตัวตาย ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยชำแหละเอามือและเท้าทั้งสองข้างไป
ต่อมาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัว นายเกียรติ หรือ ฟรานซิส อายุ ๓๗ ปี พนักงานแปลเอกสารต่างประเทศของบริษัทแห่งหนึ่ง ในซอยตรงข้ามสถานีตำรวจบางรัก ถนนนเรศ แขวงสี่พระยา ตามหมายจับวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๒๔ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น
ทั้งนี้เป็นคดีเดิม ที่ถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ปีเดียวกัน นายเกียรติได้ไปเที่ยวที่ห้องอาหารแถวสะพานควาย และได้ทำความรู้จักกับ น.ส.สกุล พนักงานเสริฟ ในที่สุดก็เกิดชอบพอกัน นายเกียรติจึงได้นัดเจอโดยให้ฝ่ายหญิงมาหาที่บริษัทซึ่งตนทำงานอยู่
เมื่อหญิงสาวมาหานายเกียรติก็พาขึ้นไปบนชั้นสี่ และใช้เนคไทรัดคอ จนเธอเกือบหมดสติ จากนั้นยังใช้เหล็กขูดชาร์ฟแทงซ้ำที่หน้าท้อง เธอได้พยายามร้องขอชีวิตและให้สัญญาว่าจะไม่นำความแจ้งตำรวจ นายเกียรติจึงใจอ่อนยอมปล่อยตัว และนำไปทำบาดแผลที่โรงพยาบาลเลิศลิน โดยบังคับให้เธอแจ้งว่าได้รับบาดเจ็บจากการพยายามฆ่าตัวตาย แต่หลังจากที่เธอได้รับการรักษาแล้ว ก็รีบไปแจ้งความให้จับกุมตัวนายเกียรติ แต่เขาได้หลบหนีไปเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงออกหมายจับกุมไว้
เมื่อได้ตัวนายเกียรติมาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้จรวจค้นห้องพักของเขา ได้พบกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ ภายในนั้นมีถุงน้ำเกลือ ยาทาเล็บสีแดง หนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวการชำแหละศพ กล่องเข็มฉีดยา เส้นผมผู้หญิงในซองจดหมาย ซึ่งเขาบอกว่าเป็นของภรรยาตนเอง และมีดปลายแหลมยาวประมาณหนึ่งคืบอีกหนึ่งเล่ม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้พานายเกียรติไปค้นบ้านพักอีกแห่งหนึ่ง ที่ซอยสุทธิสาร แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ได้พบยาฉีดชนิดต่าง ๆ มีดแล่เนื้อหนึ่งเล่ม และยารักษาโรคหลายชนิด
ต่อมาได้มีผู้โทรศัพท์แจ้งว่าพบชิ้นส่วนข้อมือและเท้าคนลอยขึ้นอีดอยู่ในท่อพักน้ำ หน้าบ้านในซอย ห่างจากบริษัทที่นายเกียรติทำงานเพียง ๑๐๐ เมตร เจ้าหน้าที่จึงให้มูลนิธิร่วมกตัญญูเก็บชิ้นส่วนเหล่านั้นไปไว้ที่สถาบันนิติเวช
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเป็นเวลาหลายชั่วโมง นายเกียรติจึงได้รับสารภาพว่า ตนเองคือผู้ก่อพฤติกรรมสยองขวัญชำแหละศพเหล่านั้นเอง และให้การว่าที่ทำลงไปนั้น ไม่รู้สึกตัวแต่มาจากความฝังใจในการเดินทางไปเรียนวิชาแพทย์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้เล่าประวัติของเขาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้ว่า
เขาได้ถูกทางบ้านส่งตัวเรียนที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่จบประถมปีที่สี่ จากประเทศไทยใหม่ ๆ หลังจากสำเร็จชั้นมัธยมก็เข้าเรียนต่อทางด้านแพทย์ เป็นเวลาถึง ๔ ปี และเป็นผู้ช่วยแพทย์อยู่ที่อังกฤษนั่นเอง
ต่อมาได้แอบชำแหละศพคนตาย จึงถูกไล่ออกจากงานและส่งตัวกลับเมืองไทย เมื่อปี ๒๕๑๐ ได้ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าโหดที่สระบุรี ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อพ้นโทษออกมาได้เมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้ภรรยา และได้ทดลองทางการแพทย์เป็นเหตุให้ภรรยาเสียชีวิต จากนั้นจึงเข้าไปคลุกคลีตีสนิทตามโรงพยาบาล จนรู้ลู่ทางสามารถแอบเข้าไปชำแหละศพในห้องเก็บศพได้
ในคดีชำแหละศพคนที่ตายแล้วนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาว่า บุกรุกสถานที่ราชการ ลักทรัพย์ (ศพ) โดยผ่านสิ่งกีดขวางและคุมครองทรัพย์เข้าไป ซึ่งน่าจะเป็นโทษสถานเบา
แต่คดีที่พยายามฆ่าหญิงสาวพนักงานเสริฟ คงจะมีโทษหนักพอสมควร ซึ่งเมื่อถึงเวลานี้ ก็คงจะไม่สามารถที่จะก่อคดีประหลาดพิศดารได้อีกแล้ว จึงไม่ได้ข่าวคราวในหน้าหนังสือพิมพ์แต่ประการใดเลย.
############
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
20 มิ.ย. 54 06:30:10
|
|
|
|