ความคิดเห็นที่ 1 จากที่ได้รับรู้ข่าวนี้ ผมไม่กล้าให้ความเห็นเหมือนกัน  มันมีอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ตรงไปตรงมา ในฐานะที่เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หรือรู้เห็นกับตาตัวเอง การรับรู้ข่าวสารเพียงด้านเดียว ก็อาจทำให้เราเข้าใจอะไรผิดได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เช่น กรณีแม้ค้าที่ถูกรถเมล์ชนแล้วต่างก็เชื่อกันว่าถูกชนเพราะวิ่งหนีเทศกิจ ทั้งๆที่พอตอนหลังมีภาพวงจรปิดพิสูจน์แล้วไม่ใช่   แค่อยากเตือนสติทุกๆคนที่ได้รับรู้ข่่าวสารต่างๆ อย่าเพิ่งปักใจเชื่ออะไรอย่างง่ายๆ ลองคิดพิจารณาให้ดีก่อน ว่าข่าวที่ว่านั้น มันมีโอกาสเป็นจริงได้หรือไม่ จากคุณ : jutapit เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 08:58:27

ความคิดเห็นที่ 2 มุมมองของคุณ จขกท.ก็น่าคิดครับ แต่ผมมองจาก "เหตุ" ครับ "เหตุ" ก็คือ พ.อ.โคดแมนจอดรถขวางบ้านเขา ทั้งๆที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็น "ขาว-แดง" ที่ห้ามจอด พอมี "เหตุ" ก็เลยมี "ผล" ที่ตามมา ซึ่งก็คือการโดนตามให้ไปเลื่อนรถที่ขวางไว้ และลงท้ายด้วยการพุ่งเข้าชนตามภาพวงจรปิด !!! ไม่ว่าหมอมุกแกจะอารมณ์ร้ายหรือไม่ ไม่ว่าแกจะเคยมีพฤติกรรมรุนแรงหรือไม่ แต่หากไม่มี "เหตุ" ที่เกิดขึ้นจากความมักง่ายของ พ.อ.โคดแมน มันก็จะไม่มี "ผล" ที่บานปลายจนเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้แน่ๆครับ ผมว่าในทางตรงกันข้าม พ.อ.โคดแมนนั่นแหละครับ ที่น่าจะเคยมีประวัติใช้ความรุนแรงด้วยซ้ำไป จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:01:32

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ว่าเขาจะมีประวัติอย่างไรภาพจากกล้อง  มันฟ้องว่า คนขับรถพยายามฆ่า  เพียงแต่คนที่มาอ้างเป็นคนขับหน้ายังไม่สนว่าได้ทำอะไรไป  ข้อสำคัญตอนนี้กำลังสงสัยลูกมันเป็นคนขับ  แต่พ่อมันมารับผิดชอบ  การแสดงความคิดเห็นอย่างคุณ  เลวสงสัยเป็นพวกลูกหลานมันยังมาแสดงความชั่วในนี้อีก  สังคมไทยเป็นอย่างไรรู้บ้างไหม  คำพูด หนักนิดเบาหน่อย อภัยให้กัน  จอดรถขวางกันต้องฆ่ากันไม่สมควร ถ้าญาติคุณถูกชนโดยเจตนาแบบนี้จะรับจ้างมาเขียนแบบนี้ไหม จากคุณ : แปลงข้าว เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:03:16

ความคิดเห็นที่ 4 อืม  เข้าบ้านไม่ได้ แล้ว จอดรถรอหน้าบ้านตัวเองยังผิดก็ ให้มันรู้ไป ในเมื่อมีบ้านให้เขาไปพักผ่อนรอ จะไปยืนขาแข็งรอพวกไร้สามัญสำนึกในการจอดรถทำไม คนมีสำนึก ต้องเข้าไปขอโทษ เจ้าของบ้านที่เอารถเข้าบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:03:30

ความคิดเห็นที่ 5 ฮืมมม...... น่าคิด แต่ที่แน่ๆๆ ทหารแก่คนนั้นเก่งนะครับ ขับรถชนคนต่อหน้าลูกสาวด้วยเนีี่ยสิ ไม่กลัวว่าลูกจะเอาเป็นตัวอย่างหรือไง จากคุณ : mokirup เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:03:52

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องหมอมุกนิสัยจะเป็นยังนั้นไม่รู้ แต่จากข่าวนี่คนชนนี่ทำเกินกว่าเหตุจริง ๆ ถ้าบอกว่าไม่ตั้งใจชน  คนปกติก็ต้องลงมาดูคนเจ็บบ้าง ว่าอาการเป็นยังไง แต่นี่ไม่มีเลย ขับรถหนีไปเลย จากคุณ : คีตกานต์ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:04:36

ความคิดเห็นที่ 7 โหดมาก จากคุณ : prg047 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:12:35

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่ค่ะ เท่าที่รับฟัง มีความมาข้างเดียว ประกอบกับภาพเหตุการณ์มันมืดมากด้วย จากคุณ : yimsou เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:15:19

ความคิดเห็นที่ 9 ที่ จขกท พูดมา ถ้าเป็นแบบนั้น ก็มีเหตุผล ด้วยความที่ว่า ไม่ยอมกันทั้งสองฝ่ายตั้งแต่คราวแรก แต่การแก้ปัญหาด้วยการขับรถชนคน มันก็เกินเหตุไปจริงๆ ถ้าต้องเชคประวัติด้านพฤติกรรม ควรไปเชคทั้งคู่เลยค่ะ ไมใช่มาแนะนำให้เชคหมอมุกฝ่ายเดียว เราไม่ได้อยู่ในที่เิกิดเหตุ รับรู้ข่าวสารก็จากบอร์ดนี้เท่านั้น กระแสตอนนี้สังคมเห็นใจผู้บาดเจ็บ และเป็นผู้ถูกกระทำตั้งแต่วันที่ 11 โน่นแน่ะ แต่เราก็สนับสนุนให้ จขกท แสดงแนวคิดอีกมุมออกมาค่ะ เห็นด้วยจริงๆ ว่าต้นเหตุแล้วหมอมุก ได้ทำอะไรไว้บ้าง จนเกิดเรื่องบานปลายแบบนี้มา นี่ถ้าเปลี่ยนหมอมุก เป็นนายทหารผู้ชาย มันอาจจะจบแบบ ชกต่อย หรือ ชักปืนยิงกัน แล้วสังคมก็คงจะไม่แสดงออกกันแบบนี้ ค่อยๆ ดูไปค่ะ เรื่องมันยังอีกยาว ส่วนเรื่องที่นายทหารคู่กรณีได้นำรถหลวงมาใช้ อะไรนั่นก็ตำหนิไปเถิด อะไรที่มันผิดระเบียบแบบแผน ตำหนิไปก็ไม่มีใครว่า จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:20:59

ความคิดเห็นที่ 10 โทสะขนาดไหนครับถึงกับขับรถชนกันได้ ต่อให้ชูนิ้วกลาง ตะโกนด่า ก็ไม่มีสิทธิขนาดบอกว่า บันดาลโทสะขับรถชนก็สมควรแล้ว เหมือนเวลาคนเหยียบเท้ากันในผับ แล้วมายิงกันตาย อันนั้นจะบอกว่าสมควรยิงเหรอครับ โลกเราบางทีผลก็ไม่ได้เกิดจากเหตุที่ สมควร เท่าเทียม กันหมดนะครับ จากคุณ : gagigunggai เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:41:15

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้่ามากินทั้งครอบครัว ครอบครัวต้องรู้เห็นด้วยกับ การกระทำอันเหียมโหดแบบนี้ ต้องเอาครอบครัวมาสอบสวนด้วยครับ เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยครับ จากคุณ : ชัยสมุย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:43:23

ความคิดเห็นที่ 12 คุณครับ ร้านอาหารแถวนั้นมีหลายร้าน หมอมุกจดทะเบียนรถไห้ร้านประกาศหาเจ้าของขยับรถ เป็นผมปวดขรี้ปวดเยี่ยวผมก็ไม่รอหรอกครับ อย่างน้อยก็จอดรถไว้ก่อน เปิดบ้านเอากระเป๋าเอาของไปเก็บในบ้าน กินน้ำกินท่าให้หายเหนื่อยก่อน ค่อยออกมาขยับรถก็ได้ เพราะทหารมาก็ต้องรู้ว่ารถบ้านนนี้แน่ เพราะอยู่ตรงหน้าบ้านเลย อีกอย่างกลับมาขึ้นรถกันทั้งครอบครัว แสดงว่าต้องสั่งเช็คบิลแล้วจะกลับบ้าน กว่าจะประกาศหาเจ้าของรถตามร้านต่าง ๆ กว่าจะเช็คบิล ผมว่ามีอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงแน่ ๆ วิธีแก้ปัญหานี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก 1. หมอมุกควรทำป้ายแบบยกได้ พร้อมเขียนว่า รถยังไม่ได้เข้าบ้านกรุณาอย่าจอดขวางทางเข้าบ้าน ขอบคุณค่ะ 2.คนมีรถขับไปจอดที่ไหนก็ตาม ยึดอยู่ในใจว่าอย่าจอดรถขวางทางเข้าบ้านเขา เดินไกลหน่อยแต่สบายใจ 3 มนุษย์เราควรมีความอดทนมากกว่านี้  เพราะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมา มันไม่คุ้มค่าเลย.. .......... อย่างกรณีนี้ หมอมุกอาจพิการ อาจเสียชีวิต อาจหายแต่ไม่เหมือนเดิม ทหารคนนั้น ถ้าผิดจริงก็ต้องถูกให้ออกจากราชการ อนาคตตัวเองและครอบครัวอาจจดับวูบ... มันไม่คุ้มกันเลย.. จากคุณ : มหาอุตม์ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:44:37

ความคิดเห็นที่ 13 การตั้งข้อสังเกต ของ จขกท. น่าสนใจคะ และด้่วยความเคารพ การไม่ลดราวาศอกของเธอ จากการตั้งข้อสังเกต เป็นการลงทุนที่คุ้มค่้ามากคะ กับการแลกมาซึ่งการอาจพิการ และไม่สามารถทำงานต่อได้จากนี้ จะอย่างไรก็ตาม การแค้นเคือง การทะเลาะวิวาท จะสักแค่ไหน สมควรหรือคะที่จะตอบโต้ด้วยการกระทำดังในภาพวงจรปิดนำเสนอ ? ... ดังเช่น คห.ที่ 1 นำเสนอ กรณีแม่ค้าโดนรถเมล์ชน เสียชีวิต ดิฉันเสพข่าว และทราบว่าคุณป้่าเดินข้ามไปมา เพื่อเอาของชุดใหม่มาขาย เพราะการให้การของน้องสาวคุณป้าผู้เสีชีวิตเอง ไม่เคยเชื่อว่าโดนชนเพราะหนีเทศกิจ และไม่ได้ดูคลิปแต่แรก แต่ฟังจากการให้คำ ของทั้ง 2 ฝ่าย และเชื่อตั้งแต่นั้นว่าเสียชีวิตจากความประมาทของตนเอง ... กรณีนั่น คนขับรถเมล์ไม่ได้มีเจตา แต่เขาก็เจอข้อหาเช่นกันคะ แม้คุณป้า่ท่านนั้นจะปาดหน้ารถเอง ประมาทเองก็ตามที สรุปแล้ว ถ้ามีความเป็นคนบ้างผู้ชน ควรลงมาดูดำดีไม่ใช่หนีหัวหดร่วม 10 วัน ไม่ผิดต้องพิสูจน์คะ ต้องหนี ต้องกลัวทำไม เมื่อชนเขาชัดเจน คำถามคือ หนีทำไม ? ... เพิ่มเติมคะ .. และนั่นก็หน้าบ้านคุณหมอมุกด้วย  เคยเห็นป้าย หรือข้อความที่ประตูไหมคะว่า "ขอความกรุณาอย่าจอดรถขวางทางเข้าออก" กรณีหน้าบ้านคุณหมอมุกอาจไม่มี แต่ด้วยจิตสำนึกถึงจะเป็นถนนสาธารณะอะไรก็ตาม การจะจอดรถขวางทางเข้าออกบ้านใคร หากเขามีความจำเป็นจะต้องเข้าบ้าน ด้วยเหตุจำเป็น ไปจอดขวางไว้แบบนั้น คนไปจอดผิดไหม ? หรืออ้างแค่ถนนสาธารณะใครก็จอดได้ ? มีสิทธิ์จอดคะแต่ไม่ควรไปเดือดร้อนคนอื่น ดิฉันจะจอดรถหน้าร้านขายของสักร้านแต่ไม่ได้ซื้อของร้านเขา ต้องไปธุระบริเวณนั้น ทั้งๆ ที่จอดได้ ดิแฉันยังต้องถามเลยว่า จอดได้ไหมคะ ? ทุกครั้ง เพราะรู้สึกเกรงใจคะ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 09:59:04 จากคุณ : คุณหนูแดง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 14 ทำไมต้องสนใจประวัติด้วยผมไม่เข้าใจ แต่ละฝ่ายก็ต้องไม่พอใจกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ทำไมหรอถ้าคนโดนชน เกิดเป็นพวกเด็กแว้นซักคน หรือ ขี้ยาซักคน น้ำหนักของความผิดมันจะต่างไปหรอ? ...เมื่อไหร่ จะเลิกเชื่อกันสักทีว่ามี คนดี,คนเลว อยู่จริงๆ เราชอบแยกแยะว่าคนนี้ดี คนนี้เลว แต่บางครั้งกับแยกไม่ออกว่า การกระทำแบบนี้ดีหรือเลว... จากคุณ : metung เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:02:23

ความคิดเห็นที่ 15 ควรตรวจประวิติของคนขับรถมากกว่าเพราะมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง แต่ก็คิดว่าคนขับคงจะมีเจตนาทำร้ายร่างกายมากกว่าเจตนาฆ่า เพราะจากกล้องวงจรปิดจังหวะที่ขับเข้าชนระยะกระชั้นชิดมาก ในข่าวบอกว่าตั้งใจขับชนจนหมอมุกกระเด็นไปไกลกว่า 30 เมตร น่าคิดตรงที่ว่าชนกระเด็นไปไกลถึง 30 เมตร แต่ในกล้องวงจรปิดสถาพหน้ารถแทบไม่มีรอยบุบอะไรเลย ทั้งที่ถ้าชนจนกระเด็นไกลขนาดนี้แรงปะทะคงทำให้สภาพฝากระโปรงหน้ารถพังยับเยินเลยทีเดียว คิดว่าตอนรถพุ่งเข้ามาหมอมุกคงจะกระโดดหลบขึ้นไปบนฝากระโปรงรถมากกว่าที่จะตั้งใจกระโดดขึ้นไปหาเรื่องกับคนขับ เพราะดูแล้วกระโดดหลบออกด้านขวาก็คงไม่พ้นเพราะอยู่ในมุมจำกัด โดนออกทางด้านซ้ายก็ไม่พ้น หมอมุกเลยโดดขึ้นฝากระโปรงรถเพื่อเลี่ยงการปะทะจากการพุ่งเข้าชน ขณะที่หมอมุกติดอยู่บนฝากระโปรงรถคนขับก็ขับต่อไปจนผ่านมา30เมตรหมอมุกถึงตกลงมาหัวน็อคพื้น ก็คงต้องรอให้หมอมุกฟื้นมาให้การอีกทีละครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 10:07:57 จากคุณ : ZHEZA_N1 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:05:18

ความคิดเห็นที่ 16 ที่จขกท.ตั้งข้อสงสัยว่าคุณหมอมุก เคยมีพฤติกรรมเคยใช้ความรุนแรงบ้างหรือเปล่า ขอตอบว่า ไม่อาจทราบได้เพราะไม่มีหลัก แต่ที่ได้รับรู้จะสื่อคือคุณหมอเธอเป็นบุคคลที่มีความเสียสละ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีจิตใจที่งดงาม ทำประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์และแผ่นดินเกิด บิดาเธอก็ได้เสียชีวิตเพราะหน้าที่จากการปกป้องแผ่นดินไทย เป็นคลิปหลักฐานถึงความดีงามของเธอ ซึ่งอยู่ช่วงท้ายของรายการคุณสรยุทธ จากคุณ : Vdara1 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:26:59

ความคิดเห็นที่ 17 สงสัย  จขกท  ไม่เคยไปทานข้าวแถวนั้น   แถวนั้นมีร้านอาหารเยอะมาก  และคู่กรณี  ไม่รู้ไปทานร้านไหนไม่ใช่หรอคะ  เค้าให้ทางร้านประกาศเรียกตั้งหลายร้าน   เข้าไปรอ  30  นาทีไม่แปลกหรอก   กว่าจะเจอตัวเจ้าของรถ  กว่าจะเยื้องย่างมาเลื่อนรถ  เผลอๆ  เมาก้อไม่มาอีก จากคุณ : cool_girlgang เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:38:39

ความคิดเห็นที่ 18 สันนิษฐานได้เป็นประโยชน์กับจำเลยมากเลยครับ ไปเป็นทนายน่าจะรุ่งน่ะครับ เอ หรือทนายฝ่ายจำเลยปลอมตัวมาโพสเองเลยเนี่ย ผมดูจากข่าว ก็พอปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้ว่า พันเอกทรานฟรอมเมอร์นั่น ไปจอดรถขวางเขา เขาให้เด็กเสริฟร์ไปประกาศขอให้มาเลื่อนรถ ก็ไม่มา แกอ้างตอนให้สัมภาษณ์นักข่าว ว่า ไม่เห็นมีใครมาบอก ดังนั้น ถ้าจะให้รอจนทานข้าวเสร็จ รอจนเขาเดินมาที่รถ โอ้ มาเอารางวัลมารยาทดีประจำปี บวกตำแหน่งแม่พระดีเด่นไปเลยคับ ถ้าใครจะทำอย่างนั้นจริงๆ เอารถเข้าบ้านไม่ได้ เขาก็จอดหน้าบ้านเขา แล้วเข้าไปทำธุระตามปกติ ฝ่ายครอบครัวอดัมส์นี่ตะหาก ที่จอดขวางหน้าบ้านเขา แล้วยังไปเขียนชื่นชมเขาบนกระจกรถอีก พอเขาออกมาเลื่อนรถเข้าบ้าน ก็เอารถพุ่งชนซะ แล้วไปเปลี่ยนกันชน เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน ใครน่าจะมีประวัติการใช้รุนแรงมากกว่ากัน คงคิดได้ไม่ยาก ที่จริง ตำรวจน่าจะสืบกลับไปด้วยซ้ำว่า เคยทำแบบนี้มาก่อนหรือไม่ เคยชนแล้วหนีกะคู่อริให้ต้องนอนตายกลางถนนมาแล้วกี่ครั้ง เพราะไม่น่าเชื่อว่าจะเคยลงมือเป็นครั้งแรก จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:41:52

ความคิดเห็นที่ 19 1ปัญหา มันไม่ได้อยู่ตามที่คุณตั้งกระทู้ คุณควรที่จะตั้งว่า คนขับรถที่ชนหมอมุก มีพฤติกรรมที่ชอบความรุนแรงไหม แบบว่ากัดไม่ปล่อย จากคุณ : คนธรรมดา (tukta_von) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 10:54:27

ความคิดเห็นที่ 20 ทำไม..ไม่ตามไปดู ประวัติชาติที่แล้วด้วยเลยล่ะครับ จากคุณ : pocky_Dr เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 11:03:48

ความคิดเห็นที่ 21 เราไม่รู้หรอกค่ะว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง  ต่อให้คู่กรณีทั้งสองมีการด่าทอกันจริงๆ  ยั่วโทสะกันจริงๆ แต่ฝ่ายที่ขับรถชนก็ทำเกินกว่าเหตุไปเยอะมากเลยค่ะ  เพราะฉะนั้นก็ควรมารับผลของการกระทำของตัวเองซะ ส่วนนายพันคนที่มาออกข่าว  เหมือนเค้าตั้งใจพูดให้คนรู้ว่าเค้าไม่ใช่ตัวจริงยังไงไม่รู้สิค๊ะ  งานนี้ต้องดูไปเรื่อยๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ตำรวจจับคนร้ายตัวจริงให้ได้นะค๊ะ จากคุณ : เกล็ดขนมปัง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 11:24:50

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่าจะโทสะ หรือจะมีอารมณ์รุนแรง ขนาดไหนก็ไม่มีสิทธิ์ชนคนหรอก หรือว่า คุณโดนใครด่าทั้งที่ตัวเองไปจอดรถไว้บ้านคนอื่น แล้วคุณจะขับรถชน ผมว่าคุณห็คงจะทำแบบนั้นไม่ต่างจากทหารคนั้นชัวร์ๆ ครับ ดูจากการโพสแล้ว ผมว่าเป็นคุณ คงเหยีบบมั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 11:46:15 แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 11:45:36 จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 11:41:05

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวนะคะ สาเหตุมันอยู่ที่  นายทหารคนนั้นจอดรถในที่ห้ามจอด  ซ้ำยังจอดขวางหน้าบ้านคนอื่นอีก  เราเป็นคุณหมอเราก็คงไม่รู้จะไปตามยังงัยหรอกค่ะ  ใครจะไปตรัสรู้ล่ะคะว่าเจ้าของรถอยู่ที่ไหน เบอร์โทรก็ไม่มีติดหน้ารถไว้  แถมไปประกาศเรียกที่ร้านอาหารละแวกนั้นแล้วรอตั้งนานก็ยังไม่มีใครมาเลื่อนรถ  ถ้าเป็นแบบนี้เราก็ไม่ยืนรอหรอกค่ะ  ใครจะมายืนดมควันรถ  เข้าบ้านตัวเองดีกว่า คุณหมออาจจะผิด  ก็ตรงที่จอดซ้อนคันไว้  และใส่เบรคมือด้วย  แต่การที่ลูกสาวของนายทหารนั้น  ได้ลงมาเขียนด่าไว้ที่กระจกรถคุณหมอนี่  ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีส่วนผิด  ทำไมไม่คิดว่ารถคันที่จอดซ้อนนั้นเป็นรถของบ้านที่คุณจอดขวางอยู่หรือเปล่า  เขียนด่าเค้าแล้วยังระบายอารมณ์กันไม่พออีกเหรอ   ถึงจะมีการโต้เถียงกันบ้าง  แต่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว  ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดขับรถชนคนได้  ในเมื่อคุณออกรถไปแล้ว  คุณวนรถกลับมาอีกทำไม  แบบนี้มันส่อเจตนาชัดๆ ซ้ำร้ายเมื่อชนคุณหมอแล้ว  (ทั้งๆที่คุณอ้างว่าคุณหมอโดดใส่รถคุณเอง)  ทำไมคุณไม่ลงมาช่วย  ทำไมไม่พาคุณหมอส่งโรงพยาบาล   คุณกลับขับรถหนี  แถมปิดไฟหน้าด้วย  ทำแบบนี้แล้วจะให้เข้าใจว่ายังงัย!!! จากคุณ : Passion-Flower เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 11:42:56

ความคิดเห็นที่ 24 คิดไปได้นะ... จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 11:48:56

ความคิดเห็นที่ 25 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10717581/V10717581.html คคห 25 ในข่าวสามมิติ บอกว่า หมอรีบไปเข้าห้องน้ำ จากคุณ : truffle (Truffle) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:07:21

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ต้องทำดัดจริต ไปสงสัยหมอมุกหรอก สงสัยตัวเองเหอะ เป็นคิ่ข้าเกี่ยงข้องกับทหารหน่วยงานไหน ถึงแสดงความโง่ แบบพวกกินเงินเดือนจากภาษีชาวบ้านออกมา ดูแค่วิดิโอจากกล้องวงจรปิดอย่างเดียวพอ เจตนาชนหยั่งงั้น บันดาลโทสะ ไปอ้างได้แค่กับมารดาพวกดัดจริตบางคนฟังแค่นั้นอะ อะไรไม่รู้จริง อย่ากระแดะมาตั้งทู้เลยว่ะ แสดงความโง่ที่ถูกถ่ายทอดมาทาง DNA เปล่าๆ จากคุณ : คนเรียนน้อย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:07:40 A:58.8.61.219 X: TicketID:319549

ความคิดเห็นที่ 27 ถามจริงๆ ถ้าเปลี่ยนจากหมอมุก เป็นญาติ เป็นพี่เป็นน้องคุณ คุณยังจะตั้งกระทู้นี้อยู่ไหม จากคุณ : pocky_Dr เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:15:49

ความคิดเห็นที่ 28 เราคิดตั้งแต่แรกแล้ว ว่าคงมีปัญหาจริงๆ แต่ยังไงก็ตามมันไม่ใช่เหตุผลที่ใครจะมาขับรถพุ่งชนใครได้นะคะ ถึงจะอ้างว่าบันดาลโทสะ หรือ อ้างว่าทะเลาะกันมาก่อนก็เถอะ คนหนึ่งกำลังนอนโคม่าอยู่ ย่อมควรค่าแก่การได้รับความเห็นใจในตอนนี้ และคนที่ขับรถชนเขามันก็ควรได้รับโทษตามกฏหมาย จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:18:50

ความคิดเห็นที่ 29 คำให้การ ขัดแย้งกับสิ่งที่เห็นในวีดีโอทุกอย่าง แหลได้หน้าด้านๆ จขกท. เป็นอะไร สมองบกพร่องเหรอ ถึงได้มาหาความเป็นธรรมให้คนชั่วเห็นๆ จากคุณ : คงเลวพ่อๆ กัน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:50:38 A:79.232.156.145 X: TicketID:318780

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ในหัวข้อ ยืนยันได้ว่าไม่มีประโยคใดที่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว เพียงแต่เสนอบางแง่มุมที่เป็นเหตุ และนำมาซึ่งผลที่เกิดขึ้น  ซึ่งอาจจะขัดกับความรู้สึกหลายๆท่าน  เหรียญยังมี 2 ด้าน กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน  เพียงแต่เราจะยอมเปิดรับทั้ง 2ด้าน หรือฟังเพียงแต่เขาเล่าว่าแล้ว มาพิพากษากันตามคำเล่าของเขา.... ไทยแลนด์แดนโฆษณาชวนเชื่อ สื่อเสี้ยมอย่าง..สรยุทธ เป็นดั่งเทพเจ้า... เจริญๆครับ จากคุณ : แมงปอล้อลม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 13:56:01

ความคิดเห็นที่ 31 ขอสนับสนุน จขกท. ค่ะ ท่านศักดิ์สิทธิ์และครอบครัวเป็นคนดีมาก คนรอบข้างใครๆ ก็ทราบ ตระกูลท่านเป็นทหารมาตลอด อยากให้คิดถึงบุญคุณท่านบ้าง หลายๆ ความเห็นอคติเกินไปค่ะ ภาพที่ออกอากาศใช้คอมพิวเตอร์ทำเอาก็ได้ ไม่เห็นมีคนขอให้ตรวจสอบบ้างเลย จากคุณ : แมวใจดี (luckko) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:09:11

ความคิดเห็นที่ 32 คห.30 ผมว่า ความเห็นของคุณก็ได้เสนอแล้ว ส่วนสังคมจะมีความคิดเห็นหรือกระแสอย่างไรนั้น ก็คงอีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมเข้าใจว่าประเด็นหลัก ทุกท่านเข้าใจตรงกันว่า การขับรถชนคนนั้น มีเจตนาหรือไม่ ถ้ามี ก็โทษหนัก ซึ่งศาลจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนชุมชนออนไลน์ก็แค่แสดงความคิดเห็นและเหตุผลส่วนบุคคลเท่านั้น คนไหนจะเชื่ออะไรง่าย หรือเชื่อยาก ก็สุดแท้แต่หลักคิดและพื้นฐานในการวิเคราะห์ แต่หากเค้าจะเชื่อคำบอกเล่าครั้งแรกโดยทันที ก็๋ไม่มีอะไรผิดหรอกครับ เพราะแค่เชื่อ ส่วนข้อเท็๋จจริงนั้น ก็๋จะต้องแสวงหากันต่อไป เพราะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมชั้นต้น คือ กระบวนการสอบสวนของ พงส. แล้ว แต่ผมก็เห็นด้วยกับ คห.ส่วนใหญ่ครับ เจตนาขับรถชนผู้อื่น โดยเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ จึงมีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากคุณ : ชินชา เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:20:52 A:203.114.122.27 X: TicketID:156719

ความคิดเห็นที่ 33 คห.12 คห.17 แสดงว่าคุณใช้บริารเส้นทางนี้หรือร้านอาหารแถวนี้ประจำ จึงรู้ว่ามีร้านอาหารเยอะ ถูกต้องค่ะรู้จริง สำหรับ คห.31 คุณคงเป็น.......ท่านศักดิ์สิทธิ์ เลยไม่มีวาสนาได้ นั่งทานอาหารร้านในละแวกนั้น จากคุณ : ประชาชน เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:33:25 A:58.9.119.130 X: TicketID:179776

ความคิดเห็นที่ 34 มันคงต้องแยกกัน ฝั่งนึงจงใจใส่เบรกมือและจอดรถขวาง เพื่อยั่วโทสะ อีกฝั่งฝั่งนึงพยายามฆ่า เนื่องจากโดนยั่วโทสะสำเร็จ อันดับแรกต้องไม่ลืมว่าฝั่งพยายามฆ่าคงไม่รู้ว่าจอดขวางหน้าบ้านหรอก เนื่องจากมันเป็นฟุตบาทริมถนน ไม่ใช่ทางเข้าออก แต่อย่าลืมนะว่ามันขาวแดง จอดไม่ได้อยู่แล้ว นิสัยคนไทยก็งี้แหล่ะ ไม่เป็นไรหรอก จอดแป๊บเดียว ฝั่งหมอมุกก็นะ ดูแล้วจงใจยั่วโทสะเหมือนกัน จอดหน้าบ้านชั้นเหรอ จอดซ้อนคันซะเลย ใส่เบรกมือซะ ด้านหน้าด้านหลังมีรถขวางไอ้คนนี้อยู่ด้วย จะได้ออกยากๆ (แต่คงจะลืมไปว่าหน้าบ้านน่ะ ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์นะ เพราะเป็นฟุตบาทริมถนน+ขาวแดง เป็นที่สาธารณะ ตัวเองก็จอดไม่ได้เหมือนกัน แต่ยึดติดไปแล้วว่าเป็นที่ของตน) ต่างฝ่ายต่างใช้อารมณ์เป็นหลักเรื่องทั้งหมดเลยเกิดขึ้น จากที่อ่านจากกระทู้คนที่อยู่บ้านใกล้บอกมุก บอกไว้ว่าหมอมุกทำแบบนี้บ่อยๆ กับใครก็ตามที่มาจอดตรงหน้าบ้านตัวเอง พอฝั่งคนชนเลื่อนรถปุ๊บ หมอมุกออกมาเลื่อนรถทันที แสดงว่าน่าจะดูอยู่แหล่ะ ถ้าดูอยู่ทำไมไม่ออกมาเลื่อนให้ จริงๆรถหมอมุกขวางแบบนั้นน่าจะใช้เวลาพักใหญ่ๆเลยกว่าอีกฝั่งจะออกไปได้ ไม่แปลกเลยที่จะทำให้อารมณ์มันโกรธขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งได้เห็นว่าพอตัวเองขับรถออกไปปุ๊บ หมอมุกก็ออกมาทันที น่าจะยิ่งของขึ้นได้ง่ายๆ เลือดเข้าตาเลยขับชนซะเลย ถ้าเป็นคนขี้โมโหคงจะเข้าใจความรู้สึกนั้นได้ดี แต่ประเด็นคือ เราเลือกจะทำอย่างอื่นแทนได้นี่นะ อย่างเช่นกรีดรถ ทุบรถให้เสียหาย ของแบบนี้มันซ่อมได้นะ แต่ชีวิตคนมันซ่อมไม่ได้เหมือนสิ่งของ ก่อนจะตัดสินใจพุ่งเข้าชนน่าจะฉุกใจคิดนิดนึงว่านี่ชีวิตคนทั้งคนนะ คนทั่วไปขนาดแค่เห็นสัตว์ตัดหน้ารถยังหักหลบเลย แต่นี่กลับพุ่งเข้าชน มันไม่ถูกต้อง ผลที่ออกมาเลยเป็นอย่างที่เห็น เจตนาในการฆ่า มันร้ายแรงกว่า เจตนาในการยั่วโทสะ แต่คนทั่วไปก็ลืมคิดว่าการยั่วโทสะคน ถ้าคนบางคนมันขาดความยับยั้งชั่งใจ ผลที่ออกมามันย่อมร้ายแรงตาม จะบอกว่าไม่ใช่ญาติพี่น้องของตัวเองเลยพูดได้ แต่อย่าลืมนะว่าถ้ามองด้วยสายตาของคนนอก อย่าใช้อารมณ์มาเป็นตัวตัดสิน แบบคิด คิดให้ลึกๆ น่าจะรู้เหตุที่มาที่ไปได้ง่ายกว่า หมอมุกเองก็ได้รับผลของการกระทำของตัวเองไปแล้ว และยังไงซะคนที่ชนก็ต้องออกมารับผลของการกระทำด้วยตัวเองเหมือนกัน ถ้าหมอมุกเป็นอะไรไป ชีวิตก็ควรจะชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน กฏหมายไทยน่าจะเข้มงวดในทุกๆทาง คนจะได้เกรงกลัวกฎหมาย ไม่กล้าทำอะไรผิดๆอีก จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:38:26

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยกับ คห.34 ค่ะ จากคุณ : เกล็ดขนมปัง เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 14:54:23

ความคิดเห็นที่ 36 คห. 34 พูดมาก็ถูก แต่ก็อยากให้คิดถึงหัวอกเจ้าของบ้าน ที่กลับ มาบ้านแล้วเข้าบ้านไม่ได้ก็ดี จากคุณ : เลน่า เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 15:39:11

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 36 - ทำไมคุณถึงคิดว่าเราไม่เข้าใจล่ะคะ เราเข้าใจดีค่ะ เพราะบ้านเป็นตึกแถวเหมือนกัน ลักษณะหน้าบ้านเป็นเหมือนกับหน้าบ้านหมอมุกเลย ต่างกันนิดหน่อยตรงที่หน้าบ้านเราไม่ได้ตีเส้นขาวแดง แต่สงสัยจังที่คุณว่าเข้าออกไม่ได้ คือตรงจุดหน้าบ้านหมอมุกก็เหมือนหน้าบ้านเราคือ เป็นริมฟุตบาทนะคะ ไม่ใช่ทางเข้าออก ให้รถเข้าไปจอดในบ้านได้ ถ้ามันเป็นทางเข้าออกเลย แต่ดันไปจอดตรงทางเข้า-ออก อันนั้นหมอมุกเค้ามีสิทธิ์เต็มๆ แต่นี่มันเป็นริมฟุตบาท ที่ถูกตีเส้นขาว-แดง เราเข้าใจดีเลย เพราะว่ารถชอบมาจอดหน้าบ้านบ่อยๆ จอดนานๆ เพื่อไปรับประทานอาหาร ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ แต่เราก็ไม่เคยเอากรวยไปตั้งหน้าบ้านนะ ก็ปล่อยให้เค้าจอดไป เพราะมันเป็นที่"สาธารณะ" ไม่ใช่ที่ของเรา บ้านเราก็ใช้วิธีไปจอดที่ไกลๆแล้วเดินมาเหมือนกัน ไม่เคยจอดซ้อนคันแล้วล๊อกเบรกมือ เคยเหมือนกันที่ไปจอดหน้าบ้านชาวบ้าน แถวโรงพยาบาลกลาง แล้วไปโรงพยาบาล เพราะตอนนั้นที่จอดรถของโรงพยาบาลเต็ม ลักษณะเหมือนกันคือเป็นตึกแถวแต่ไม่มีเส้นขาวแดง เจ้าของตึกก็เปิดร้าน ก็เห็นแหล่ะว่าเราเอารถมาจอด เค้าไม่ว่า ไม่ไล่ แต่รู้มั๊ยคะว่าตอนกลับมาเราเจออะไร รถเราโดนเอากาวยัดซิลิโคนยัดในรูกุญแจ ทุกรูเลยด้วย เราเปิดประตูไม่ได้ ทำได้แค่ลากรถเข้าอู่ เราโกรธเราโมโห เพียงแต่เรามีความยับยั้งชั่งใจที่จะไม่ทำให้เกิดกรณีบาดหมางกันขึ้นมาต่างหาก เราแปลกใจว่าทำไมคุณถึงคิดว่าเราจะไม่เข้าใจความรู้สึกของหมอมุก ที่มีคนมาจอดขวางหน้าบ้าน ในเมื่อเราก็ต้องเจอเหมือนๆกับที่หมอมุกเจอ ทุกๆวันด้วย  เมื่อกี้รถโค้กที่จอดขวางหน้าบ้านก็เพิ่งขับออกไปเอง แต่เราก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนเอารถมาขวางแล้วยกเบรกมือขึ้นด้วย เพราะเราก็เคยเจอคนเอากาวซิลิโคนมายัดในรูกุญแจ โกรธไม่น้อยกว่ากันหรอก ทางเลือกมันมีหลายทาง ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกกระทำ มันมีเหตุ มันถึงเกิดผล จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:09:36

ความคิดเห็นที่ 38 ผมก็คิดเหมือนกันว่า น่าจะมีสาเหตุมากกว่าที่เป็นข่าว ถ้าบ้านเราอยู่ใกล้ร้านอาหาร มีรถมาจอดขวางหน้าบ้านเป็นประจำ คงน่ารำคาญเหมือนกัน เคยเห็นคนโวยวายเพราะมีคนไปจอดรถขวางหน้าบ้านบ่อยครั้ง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้ร้านอาหาร หรือ ที่ๆหาจอดยาก (มีลุงคนหนึ่งบ้านอยู่ใกล้วัดแกโกรธมากที่คนมางานศพ ไปจอดรถขวางหน้าบ้านแก  คงโดนบ่อย จึงออกอาการ แต่เราไปนานๆครั้งก็อดตำหนิแกไม่ได้ ว่าคนเขามางานไม่มีที่จอดน่าจะยอมๆบ้าง) เป็นเราคงจะโมโหเหมือนกัน ที่มีรถมาจอดขวางหน้าบ้านทุกวัน  ในทางตรงข้ามกัน ถ้าเราเป็นคนขับรถหาที่จอดไม่ได้ เจอแต่ป้ายห้ามจอดรถขวางทางเข้าออก ติดไว้ทุกหน้าบ้านโดยเฉพาะตึกแถวในเมืองที่ๆจอดรถหายาก  เราก็คงโมโหเหมือนกันว่า ทำไมจอดไม่ได้ในเมื่อเป็นถนนสาธารณะ ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องรู้จักใจเขาใจเราบ้าง ค่อยพูดจากัน คงไม่เกิดเหตุแบบนี้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่  การขับรถพุ่งชนคน  เป็นการเจตนาฆ่า ผิดกฎหมาย คนที่มีสติยั้งคิดคงไม่ทำ แต่อารมณ์ชั่ววูบบางทีคนเรา  ก็ทำอะไรลงไปโดยขาดสติ   มาเสียใจภายหลังคงไม่เกิดประโยชน์อันใด จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:11:34

ความคิดเห็นที่ 39 มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับคนใช้รถใช้ถนนที่อารมณ์ร้อน ลุแก่โทสะโดยง่าย อาจจะเห็นได้จากยิงกันตายแค่ขับรถปาดหน้ากันแค่นั้น กลายเป็นว่าจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังมากๆ ไม่ควรทำการโดยขาดสติไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตามเพราะอารมณ์โมโหบันดาลโทสะมันเกิดได้กับทุกๆ คน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเห็นโดยง่ายคือเดือดร้อนทั้ง 2 ฝ่าย เรื่องของคุณหมอมุกถือเป็นอุทาหรณ์สอนคนได้ดีมาก ถ้าหากใครยังมีนิสัยแบบนี้ก็น่าจะมีการปรับปรุงและเปลี่ยนพฤติกรรมได้แล้ว จะทำแบบคุณหมอมุกก็ดีหรือแบบนายทหารใหญ่โตคนนี้ก็ดีสรุปคือเดือดร้อนทั้งคู่ จากคุณ : เปรมสินี เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:19:58

ความคิดเห็นที่ 40 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 16:28:05 จากคุณ : เปรมสินี เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:20:29

ความคิดเห็นที่ 41 ซ้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 54 16:28:49 จากคุณ : เปรมสินี เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 16:21:47

ความคิดเห็นที่ 42 คิดเหมือนความคิดเห็นที่ 4 และ 18 ค่ะ ไม่ว่าใครจะยั่วโมโหใคร หรือใครมีประวัติการใช้ความรุนแรงก็ตาม แต่การกระทำเช่นนี้รุนแรงเกินที่จะรับได้ค่ะ ชีวิตคนทั้งคนกว่าจะคลอดออกมา กว่าจะเลี้ยงให้โต กว่าจะร่ำเรียน จนเป็นหมอ ไม่ได้ใช้เวลาวันสองวันนะคะ ทำไมไม่นึกถึงหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่เค้าบ้าง หากเค้าต้องสูญเสีย อยากจะถามนายทหารท่านนี้ว่า ท่านจะชดใช้ยังไงคะ จากคุณ : All up to you (All up to you) เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:46:09

ความคิดเห็นที่ 43 สมเหตุสมผล เกิดเนอะ..ชายชาติทหาร...เฮ้อ (แมนจริงๆ) จากคุณ : สาวถุงกาแฟ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 18:08:01

ความคิดเห็นที่ 44 เจ้าของกระทู้พูดก็มีเหตุผลดีครับ จากคุณ : เหตุผลของคนบ้า เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 18:34:05 A:202.28.12.104 X: TicketID:295217

ความคิดเห็นที่ 45 ผมคิดว่า หมอโดนใบสั่งเก็บครับ ให้จงใจเหมือนอุบัติเหตุ จากคุณ : ผมคิดงี้อะ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:11:43 A:110.168.153.90 X: TicketID:312087

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมยังไง แต่ถึงขนาดตั้งใจขับรถชนมันเกินไปค่ะ ถ้าไม่จอดรถขวางหน้าบ้านเขาเรื่องมันคงไม่ปานปลายมาถึงขนาดนี้ คิดว่าคนในเหตุการณ์ทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าทุกคนเกรงใจซึ่งกันและกัน ว่าแต่เดี๋ยวนี้คนใจร้อนขึ้นเนอะ เอะอะก็ตีกันฆ่ากัน จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:40:44

ความคิดเห็นที่ 47 หมอมุกอาสาไปชายแดนใต้รักษาคนไข้ ไม่กลัวตาย แล้วกำลังจะลงไปอีก คุณดีอย่างคุณเจ้าของกระทู้ ทำเชี้ยอะไรดีๆ มั๊งครับ อยากรู้ จับประเด็นได้ปัญญาอ่อนมาก ควายครับ ****คนดีๆ จิตใจดี ต้องมีคนที่ยอมคน หรือให้คนเอาเปรียบตลอดเวลาหรือครับ*** จากคุณ : งี่เง่าสิ้นดี เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:19:29 A:124.120.182.172 X: TicketID:320807

ความคิดเห็นที่ 48 ขอถามบ้าง เกริ่นก่อนว่า สิ่งที่ดิฉันกำลังเอ่ยถึง เป็นการวิจารณ์ตามเนื้อข่าวนะคะ ดูจากหน้าร้านหมอแล้วเค้าไม่สามารถถอยรถเข้าบ้านได้ เพราะเป็นกระจกและถูกดัดแปลงให้เป็นคลีนิค แล้วที่บอกว่าหมอจะจอดหน้าบ้านแปลว่า หมอก็ต้องจอดในที่ห้ามจอดเหมือนกันใช่เปล่า???หรือจอดบนฟุตบาธ มันก็ผิดอีกแหละ แล้วบนถนนแม้ว่าจะอยู่หน้าบ้านแต่มันก็เป็นถนน ไม่ได้เป็นที่ส่วนตัวจอดรถนี่ เป็นที่สาธารณะ ต่อให้ขาวดำคนอื่นก็จอดได้นี่คะ มันเคยมีกรณีที่พ่อเราขับรถกำลังจะจอดหน้าบ้านใครสักคน ที่ไม่มีรถเข้าออกแน่นอน เพราะดูจากสภาพบ้านและการวางของรกรุกรังภายในบ้าน พอจะจอดเจ้าของบ้านก็มาไล่ ขนาดขอแค่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่ยอมค่ะ แต่พี่แกดั้น มาไล่เอาไอ้ตอนที่คุณตำหนวดมาพอดี คุณตำหนวดเลยไปด่าเจ้าของบ้านว่า "คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ไม่ให้เขาจอด นี่เป็นที่สาธารณะ ขาวดำ ใครๆก็จอดได้" พ่อเราเลยจะเอารถออก แต่ตำรวจก็บอกว่า "จอดได้ จอดเลย"แล้วตำรวจก็ไป พอพ่อจอดเจ้าของบ้านก็มาชี้หน้าด่าพ่อเราว่า "ถ้าเมิงจอด กรูจะทุบรถเมิง"  -"- อย่าลืมว่า ในกทม.คนจะเข้าใจไปเองว่า "ถนนหน้าบ้าน" มันคือ "ที่จอดรถส่วนบุคคล" จริงแล้วมันไม่ใช่นะคะ มันเป็นที่สาธารณะ สำหรับกรณีนี้ เริ่มต้นด้วยการ "ผิดทั้งคู่" เพราะคนหนึ่งจอดในที่ห้ามจอด ส่วนอีกคนรู้ทั้งรู้ว่าห้ามจอด แต่จอดรถซ้อนคัน แถมดึงเบรคมือไว้อีกต่างหาก ที่อ้างว่าไปเข้าห้องน้ำด้วยเวลา30นาที++ มันดูไม่สมเหตุสมผลค่ะ ขนาดเราขี้ไม่ออกยังไม่เคยอยู่ในห้องน้ำนานขนาดนี้เลยค่ะ เหน็บกินเหม็นด้วย -"-  เราว่ากรณีนี้น่าจะเป็นการยั่วโทสะมากกว่าค่ะ ส่วนคนขับสุดโหด อันนี้คงไม่ต้องบรรยาย พยายามฆ่าเห็นๆ จะโมโหแค่ไหน แต่ถ้าไปชนเค้าปางตายแบบนี้แล้ว ... ขอให้ไอ้คนทำถูกจับตัวไวๆค่ะ จากคุณ : โจรดอกบ๊วย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:24:45

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่รู้ว่าพวกคุณเคยได้ดูรายการอะไรสักอย่างที่คุณสัญญา คุณากรเป็นพิธีกรได้รึเปล่า ที่มีผู้หญิงคนนึงมาเล่าประสบการณ์ "ถูกแย่งที่จอดรถ" โดยเรื่องมีอยู่ว่า พี่แกกำลังจะขับรถไปจอดที่ถนนหน้าบ้าน แล้วก็มีรถเจ้ากรรมจอดอยู่ในที่นั้น พี่แกเลยบีบแตรไล่หลายรอบเพื่อที่จะไล่ให้ตาคนนี้ออกไปจากที่จอดรถ ผลเลยโดนไอ้บ้าคนนี้เอาคัตเตอร์ไล่ฟันหน้าเป็นแผลเหวอะหวะ แล้วก็โดนซ้อมยับเยินๆเลยค่ะ บางคนก็ปากกล้าเหลือเกิน เค้าจอดเหลื่อมมานิดนึงหน่อยนึงก็ด่ายันบรรพบุรุษเค้า ถึงกับเอาปืนมาขู่กันก็มี จริงแล้วของแบบนี้ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันก็ได้ อย่าพยายมยั่วโทสะกันเลยจะดีกว่า แม้เราจะไม่ผิด ไม่ได้แปลว่าเราจะแก่ตายเสมอไปนี่คะ -"- จากคุณ : โจรดอกบ๊วย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:30:47

ความคิดเห็นที่ 50 เราว่าควรตรวจสอบพฤติกรรมความรุนแรงของครอบครัวนั้นทั้งครอบครัวมากกว่า จากคุณ : นางเอกหนังไทย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 22:54:59

ความคิดเห็นที่ 51 จากภาพข่าว...รถก็เก็บจอดในบ้านได้นี่คะ??? เป็นไปได้ว่า มีฐานเหล็กให้เข้าตรงฟุตบาท หากคุณมีบ้านตรงนั้น...ที่มีคนมาจอดรถขวางหน้าบ้านทุกวัน....ทำงานแพทย์กลับบ้านดึกๆ ประกาศหาเจ้าของร้าน ต้องเดินไปบอกทีละร้าน (คงราว 10-15นาที)....แล้วก็กลับมารอที่รถ อีก 10-20 นาที...ทุกวัน คุณจะนั่งรอในรถ ...ทุกวัน...รอให้เค้ามาเลื่อนรถ  แล้วกล่าวคำว่า "ขอบคุณ" ทุกวันไหมคะ ???? ความเหนื่อยสะสมในยามดึก...เจอรถขวางทุกวัน...ไม่แปลกที่ปุถุชน จะเซ็ง จนเลือกจอดรถประกบข้าง ใส่เบรคมือ...สั่งสอนซะบ้าง บางทีวันนั้น  หมออาจเดินแจ้งทุกร้านให้ประกาศ...แล้วเพิ่งเดินกลับมา ยังไม่มีคนมาเลื่อนรถ  จึงเข้าห้องน้ำ รอๆๆๆ  เพราะบางวันอาจต้องรอเป็นชั่วโมง  หมอจะโง่รอในรถทำไม????  ทำไมหมอต้องเป็นฝ่ายรอ   ทำไมรถนั้นไม่เป็ฯฝ่ายรอบ้าง ???  ออกไม่ได้ ก็รอให้หมอมาเลื่อนรถไงล่ะ ??? เวลา 35-45นาทีนั้น  ไม่ใช่เวลาที่หมอไปนั่งส้วมอย่างเดียวนี่คะ??? รวมเวลาไปแจ้งแต่ละร้าน  รอๆๆๆ  อาจรอประจำ บ้างเป็นชั่วโมง จึงไปอาบน้ำบ้าง  หรือวันนั้นแค่เข้าห้องน้ำ  .... ไม่ว่าหมอจะทุ่มเถียงหรือไม่ (ซึ่งเราคิดว่าไม่)....คุณมาจอดขวางรถจะเข้าบ้าน...หมอต้องทนแบบนี้ทุกคืน...และคุณก็เขียนด่าแล้ว...คุณรอหมอออกมาสิ เหมือนที่หมอรอคุณน่ะ....เราคิดว่า หมอไม่ได้ผิด ไม่ได้อารมณ์ร้ายกว่าปุถุชนใดๆค่ะ จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 02:31:58

ความคิดเห็นที่ 52 จอดรถขว้างทางเข้าบ้าน  มักง่าย จอดรถประกบข้างมันเลย  อื้ม... ผลที่เกิดน่ากลัวจริงๆ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 07:43:11

ความคิดเห็นที่ 53 ต่อไปคงต้องออกกฏหมาย จะเปิดร้านอาหารได้คุณต้องมีที่จอดรถให้เพียงพอแน่ เพราะผลกระทบมันตามมาเยอะจริงๆ จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 12:15:53

ความคิดเห็นที่ 54 มีคนมากมายที่ฆ่าคนตายเพราะบันดาลโทสะ แม้ภรรรยายังฆ่าสามี ที่ตนคิดว่านอกใจก็เพราะบันดาลโทสะนะ ทั้งๆที่รักกันมากๆ ก็ยังฆ่ากันได้ด้วยความหึงหวง   เพราะฉะนั้นก่อนจะ กวนโทสะใครก็ควรฉุกคิดให้ได้ด้วยว่า ยิ่งทำให้เขาโมโหมากๆ ก็อาจทำให้เขาขาดสติได้ด้วย  และอยากจะย้ำให้หลายคนที่ออกความคิดโดยไม่ทราบมาก่อน ด้วยว่า ตรงหน้าบ้านหมอมุก เป็นฟุตบาทธรรมดา ไม่ได้เป็นทางเข้าออกของบ้้าน ซึ่งเป็นขาว-แดงห้ามจอดรถ แต่คนไปร้านอาหารก็จอดกันเป็นปกติ แม้แต่หมอมุกก็จอดหน้าบ้านด้วยเองเป็นประจำ จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 14:25:46

ความคิดเห็นที่ 55 เชื่อว่านายทหารที่มากินข้าว คงคิดว่าตัวเองใหญ่มากเช่นกัน ตอนเจ้าหน้าที่ที่ร้านอาหารมาบอก คงคิดว่ารอกินให้เสร็จก่อน (คิดว่าตัวเองก็ใหญ่มากกกกกกกทำไมต้องไปเลื่อนรถ) ที่มาให้ข่าวบอกว่าไม่มีคนมาแจ้ง ไม่น่าเป็นไปได้เพราะมีการจดเลขทะเบียนไปให้ที่ร้าน ทางร้านก็รับเรื่องไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีพยานในร้านมาเกี่ยวข้องอีกเยอะ ต้องรอดูกันต่อไป ที่สำคัญ ขับรถออกไปแล้วยังจะวนกลับมาอีกทำไม ถ้าไม่ตั้งใจมาหาเรื่องหรือมาต่อว่าเขา เพราะดูจากการเขียนข้อความต่อว่าไว้ก็น่าจะพอแล้วกับการที่เขาจอดขวางไว้ เพราะถ้าไม่มีรถนายทหารจอดขวางอยู่ หมอเขาคงจะเอารถเข้าบ้านเลย จากคุณ : kojapanako เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 16:09:06

ความคิดเห็นที่ 56 ขอสนับสนุน จขกท. ค่ะ ท่านศักดิ์สิทธิ์และครอบครัวเป็นคนดีมาก คนรอบข้างใครๆ ก็ทราบ ตระกูลท่านเป็นทหารมาตลอด อยากให้คิดถึงบุญคุณท่านบ้าง หลายๆ ความเห็นอคติเกินไปค่ะ ภาพที่ออกอากาศใช้คอมพิวเตอร์ทำเอาก็ได้ ไม่เห็นมีคนขอให้ตรวจสอบบ้างเลย จากคุณ : แมวใจดี (luckko) ขอให้ญาติคุณเจอแบบคุณหมอแล้วกัน จากคุณ : salila เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 19:40:48