Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กระทู้ฉิงฉิงพาเที่ยวกับ กท การต่างประเทศ : กำปั้นเหล็กในถุงมือแพร -- ปราสาทพระวิหารกับชาวไทย ติดต่อทีมงาน

กระทู้นี้ จะพาไปทำความรู้จักข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ซึ่งนำเสนอโดยกระทรวงการต่างประเทศ

http://www.mfa.go.th/190/file.php


อ่านกระทู้เกี่ยวกับวิวาทะเรื่องการถอนตัว มาหลายวัน เราอยากจะให้คนไทยได้รู้จักข้อมูลพอสังเขปเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ในระดับนึงก่อน ว่าปัญหาทุกวันนี้มันมีความเป็นมาอย่างไร (ถ้าเป็นข้อมูลที่ทราบกันอยู่แล้ว เราก็ขออภัย แต่ก็อยากนำเสนออยู่ดี ^_^)

เรานำข้อมูลมาจากกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมากที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการนำเสนอ บทความต่างๆ จากสื่อ เพราะแทบจะทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า สื่อมีความลำเอียงเข้าข้าง ไม่ข้างใด ก็ข้างนึง

เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นโต้แย้งบานปลาย เรื่อง ใครรักชาติ ใครไม่รักชาติ เราขอแค่เสนอข้อเท็จจริงเท่านั้นค่ะ

อย่างเคย ในฐานะเจ้าของกระทู้ ถ้ามีความเห็นใดไม่เหมาะสม นำมาซึ่งความแตกแยก หรือ เป็นชนวนเหตุทะเลาะวิวาทแบบไร้เหตุผล เราขอแจ้งลบ

และถ้าท่านใด เห็นว่าสิ่งที่เรานำมาเสนอ ไม่เหมาะสม หรือ รูปภาพประกอบไม่เหมาะแก่การนำเสนอ แจ้งเราได้ค่ะ ยินดีปรับปรุงแก้ไข กระทู้

ขอบคุณ wm มากๆ เหมือนเดิมจ้ะ

.................................................................


ถาม: ปราสาทพระวิหารเป็นของใคร ศาลโลกตัดสินว่าอย่างไร
ตอบ: ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา โดยวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ศาลโลกตัดสินว่า ปราสาทพระวิหาร ตั้งอยู่ในดินแดนที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กล่าวตอนนึงว่า "กรณีปราสาทพระวิหาร ศาลโลกได้วินิจฉัย ชี้ขาดไปแล้ว เราตระหนักดีว่าคำพิพากษาของศาลเป็นอันเสร็จเด็ดขาด" แม้รัฐบาลและประชาชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจหรือขมขื่นเพียงใด "ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาิติก็จะต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ"


ถาม : คำขอขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกของกัมพูชาในปี 2549 มีปัญหาอย่างไร
ตอบ : มีปัญหาเพราะแผนผังที่กัมพูชายื่นขอจดทะเบียนเมื่อปี 2549 ล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทย ไทยจึงคัดค้านมาอย่างต่อเนื่อง จนในเดือน พฤษภาคม 2551 กัมพูชายอมตกลง ที่จะขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทและจัดทำแผนผังใหม่จำกัดขอบเขตการขึ้นทะเบียน

เหตุผล -- เมื่อปี 2549 ทางกัมพูชาประสงค์ที่จะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร โดยยื่นแผนที่ (ตามภาพที่ 3) ซึ่งรุกล้ำพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่นี้ หรือเรียกว่า "พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม." ประเทศไทยจึงคัดค้านการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน

ท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศชัดเจนว่า กัมพูชาจะต้องจำกัดการขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทที่อยู่ในพื้นที่ของตนเท่านั้น ห้ามรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนที่ไทยอ้างสิทธิ "ในการเจรจาที่กรุงปารีส เดือน พฤษภาคม 2551 กัมพูชายอมตกลงขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทและทำแผนผังมาให้ไทยตรวจสอบก่อน"


ถาม : หลังจากกัมพูชาจำกัดการขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาททำให้ไทยเสียดินแดนหรือไม่
ตอบ : "ไม่เสียสิทธิ" เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่กรมแผนที่ทหารไปดูในพื้นที่โดยใช้เวลา 3 วัน ในการไปตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือทันสมัยที่สุด ผลปรากฏว่า ไม่มีส่วนใดล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิแม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียวตามแนวเส้นเขตแดนที่ระบุในแผนที่ L7017 โดยกรมแผนที่ทหารได้ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า "ไม่มีขอบเขตส่วนใดล้ำเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยที่ยึดถือตามหลักฐานการกำหนดแนวเส้นเขตแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร"

เมื่อมั่นใจว่ากรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบแล้ว จึงนำเรื่องเหล่านี้เข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา ซึ่งได้ให้ความเห็นชอบ จากนั้นก็ได้นำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาวันถัดมา

.....................

รายละเอียด เข้าไปรับข้อมูลได้ตามลิงค์ กท ตท ด้านบน เยอะมากค่ะ ค่อยๆ อ่านจะไ้ด้ทำความเข้าใจ ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร จะได้ "รักชาติให้ถูกทาง" ค่ะ

จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง
เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 11:38:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com