ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าคุณเปิดร้านหนังสือเช่าคุณจะเจออะไรบ้าง? อยู่ดี ๆ ฉันก็เปิดร้านหนังสือเช่า มันก็โอเคนะ ได้อ่านหนังสือใหม่ตลอด แต่มันก็เป็นอาชีพที่น่าเบื่อมาก เป็นเจ้าของร้านหนังสือเช่าไม่ต้องทำอะไรมาก ไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ได้ ที่จริงเก็บสมองเอาไว้ที่บ้านเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ แค่คุณบวกลบเลขได้ถึงหลักร้อย คุณก็ทำอาชีพนี้ได้แล้ว ข้อเสียของอาชีพนี้คือ คุณจะได้พบคนทุกแบบ และจะพบเหตุการณ์ประหลาด ๆ ทุกวัน จนในที่สุดคุณจะชินกับเหตุการณ์ประมาณนี้ไปเอง 1. ใบสมัครสมาชิกของที่ร้าน จะพิมพ์สองหน้า(บนกระดาษบาง ๆ แผ่นเดียว) หน้าแรกกรอกชื่อ ที่อยู่ และประวัติ หน้าหลังมีข้อตกลงและช่องให้เซ็นชื่อยอมรับข้อตกลง แต่น่าแปลกมากที่ 99.99% ของผู้สมัคร ไม่มีใครพลิกดูหน้าหลังเลย ทั้งที่มองข้างหน้ามันก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าข้างหลังมีตัวหนังสืออะไรอยู่ด้วยอีกเยอะแยะ จนบางครั้งก็อยากจะมอบโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรให้กับคนที่เซ็นชื่อด้านหลังโดยไม่ต้องให้เตือน แล้วบอกกับเขาว่า “คุณช่างเป็นคนฉลาดและช่างสังเกตที่หายากยิ่งในสยามประเทศ” 2. ทุกคนเรียกร้องบัตรสมาชิก แต่ 99.99% ไม่เคยเอามาใช้เลย ไม่รู้จะเก็บเอาไว้บูชารึไง เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า บัตรสมาชิกนะไม่ใช่วัตถุมงคล 3. มากกว่า 50% ของคุณลูกค้า ไม่เข้าใจคำว่า “ค่าเช่าคิดเป็น 10% จากราคาปก” แต่ดันเข้าใจคำว่า จุ๊มุ๊, จิ๊มิ, งุงิ, ชิมิ ฯลฯ จนบางครั้งก็คิดเหมือนกันว่าอาจต้องเปลี่ยนเป็น “ค่าชุงิ คิดเป็น 10 เปอร์ซิ จากราคาปิ๊” คุณลูกค้าอาจจะเข้าใจได้ง่ายกว่า – -” 4. ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นที่นี่ที่เดียวหรือเปล่า แต่ส่วนมากคนที่ดูแปลก ๆ ไม่น่าไว้วางใจมักจะเป็นลูกค้าชั้นดี ตรงเวลา สม่ำเสมอ แต่พวกคนที่ดูดี พูดจาดี ที่มักพูดว่า “แย่จังเลย คนที่โกงได้กระทั่งหนังสือเนี่ย” มักจะเป็นพวกที่ต้องโทรทวงตลอด 5. ทุกคนชอบคิดว่าค่าปรับแพงเกินไปที่จะจ่าย แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเอาหนังสือไปดองไว้นานเกินกว่าทางร้านจะรับได้ 6. ผู้ที่เอาหนังสือไปเกิดกำหนด จะมีข้ออ้างแค่สามแบบเท่านั้น ตามสถิติจะเป็นดังนี้ ผู้ที่ค้างเกิน 7 วัน ————> ไม่ว่างเอามาคืน ผู้ที่ค้างเกิน 15 วัน ————> ไม่สบาย ผู้ที่ค้างเกิน 30 วัน ————> บังเอิญไปต่างจังหวัดพอดี๊พอดี แล้วเพิ่งจะกลับมา แรก ๆ ก็เห็นใจในความจำเป็น ไม่กล้าปรับแพง หลัง ๆ เจอทุกวัน เริ่มคิดได้ ปรับแพง ๆ ไปเลย เผื่อว่าคราวหน้ามันอาจจะไม่สบายหนักจนตายไปเลย หรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด ชาตินี้คงเอามาคืนไม่ได้แล้ว เราจะได้ไม่ขาดทุน 7. ประตูเลื่อนที่ร้าน มีป้าย “ประตูเลื่อน” พร้อมลูกศรขนาดใหญ่มาก ติดอยู่ 4 ป้าย แต่คนก็ยังผลักอยู่ดี แถมส่งสายตาเข้ามามองหน้า เหมือนจะถามประมาณว่า “ล็อคทำไม?” 8. ป้ายห้ามต่าง ๆ ที่เขียนไว้ให้พวกลูกค้าซกมก ๆ อ่าน ส่วนมากลูกค้านิสัยดีจะเป็นผู้ได้อ่าน และได้รู้สึกผิดซะเอง(ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะว่าพวกคุณเลยนะ T T) ส่วนไอ้คนที่ซกมกมักไม่ได้อ่าน(ทำเป็นมองไม่เห็น) และยังคงทำตัวซกมกต่อไปชั่วกาลนาน 9. แปลกมาก ผู้ที่เอาหนังสือมาคืนช้ามาก จนทางร้านต้องบอกว่า “ไม่อนุญาตให้เช่าอีกแล้ว” มักจะถามว่า “แล้วถ้าสมัครใหม่จะเช่าได้มั้ยคะ?” . – -” ไม่เข้าใจว่าใช้เซ้นส์ส่วนไหนคิดเนี่ย ถ้าถามว่าหนูไปเกิดใหม่แล้วมาเช่าใหม่ได้มั้ย จะน่าข้องใจน้อยกว่า 10. หลายคนเจ้าปัญหา ชอบบ่นเรื่อง “หลายมาตรฐาน” เช่น “ทำไมคนนั้นเช่าได้เยอะ ทำไมคนนี้ไม่เสียค่าปรับ ทำไมคนนู้นไม่ต้องวางมัดจำ ฯลฯ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนี่นา” มันเป็นเรื่องแปลกจริง ๆ ที่คนพวกนี้เข้าใจคำว่าหลายมาตรฐาน แต่ไม่เข้าใจว่าตัวเองมีความรับผิดชอบต่ำกว่ามาตรฐาน 11. เป็นเรื่องแปลกอีกนั่นแหละที่คนส่วนมากไม่ยอมเสียเงิน แต่ยอมเสียเครดิต เมื่อดองหนังสือไปนาน ๆ หรือทำหนังสือชำรุดสูญหาย มีส่วนน้อยมากที่จะมาเคลียร์ ส่วนมากจะหายหัวไปเลย และเปลี่ยนเบอร์โทร ทั้งที่เงินค่าปรับที่เขาจะต้องเสียนั้นมันน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับความเชื่อถือที่เขาต้องเสียไป 12. หลังเลิกเรียนมักมีเด็กวัยรุ่น(มัธยม) มาเช่าหนังสือ จึงได้รู้ว่าแฟชั่นสุดฮิตของพวกเด็กวัยรุ่นช่วงนี้ คือ “การโทรไปทะเลาะกับแฟน” พอเข้ามาในร้านปุ๊บ มันโทรทันที และจะโทรไปพูดกันดี ๆ ไม่ได้ ต้องโทรไปชวนทะเลาะ เสร็จแล้วจะมีดราม่า น้ำตาร่วง และมีเพื่อนร่วมขบวนการอีกสองสามคนคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ วันต่อมาคิดว่ามันน่าจะเลิกกันแล้ว ไม่ ปรากฏว่ามันยังคบกันอยู่ และยังโทรไปทะเลาะกันได้อีก ..เพื่อ? – -” 13. มีช่วงนึงหนังสือหายเยอะมาก คือเช่าแล้วไม่คืน (ช่วงเปิดร้านแรก ๆ ยังไม่รอบจัด ถูกเด็กหลอกบ่อย) จึงมีการติดชื่อและสำเนาบัตรประจานขึ้นบอร์ด โดยหวังว่าคนอื่น ๆ จะได้ไม่กล้าทำ แต่ผลลัพธิ์ คือ “อุ๊ย ตะเองดูซิ มีชื่อตะเองขึ้นบอร์ดด้วย .” “ว้ายยย จริงด้วย แต่ก็มีชื่อตะเองเหมือนกันนะ อุ๊ย มีชื่อนังX ด้วย เดี๋ยวต้องไปบอกมันให้มาดู ฮุๆๆๆ” เฮ้อ ..มองโลกในแง่ดีกันจังเลยนะ —ขอบคุณร้านหนังสือเช่า ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอยากบวช— เซง ๆ ก็บ่นไป ขำ ๆ ^ ^ ใครมีข้อแนะนำสำหรับคนพวกนี้ เชิญได้ค่ะ จากคุณ : indepencil (indepencil) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 19:23:05

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความ(แปลกๆ)ดี ชอบค่ะ save web เป็น fevorite แลวนะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 54 08:34:04 จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 19:39:56

ความคิดเห็นที่ 3 ชอบครับ เป็นคนช่างสังเกตและบรรยายได้ฮามากเลย จากคุณ : shusei เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 19:52:40

ความคิดเห็นที่ 4 คนอ่านหนังสือก็คงมีหลายประเภท ของเราเป็นลูกค้าชั้นดี เพราะได้ต่อใบสมัครสมาชิกฟรีทุกปี แต่ก็แปลกพอบัตรเก่าหมออายุ ทำไมต้องให้ลูกค้ากรอกข้อมูลในแบบสมัครใหม่อีกทุกปี ทั้งๆ ที่ก็ข้อมูลเดิมนี่ล่ะ เอาจากของเก่าไม่ได้หรือ ที่ร้านเช่า ให้เก็บบัตร ปชช.ที่ยังไม่หมดอายุไว้ด้วยเวลาลูกค้ายืม หรือบัตรที่มีรูปติด เช่น ใบขับขี่  ไม่ก็มัดจำเท่าราคาหนังสือ  เขาจะได้ไม่กล้ายืมนาน เพราะบัตรมันต้องใช้ ให้คืนแต่บัตรสมาชิกพอ จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 19:54:22

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณที่นำความรู้มาเผยแพร่ จะเป็นประดยชน์อย่างมากสำหรับคนที่จะเปิดร้านให้เช่าหนังสือ จะประกอบอาชีพอะไรต้องทำด้วยใจรัก และสนุกสนานกับอาชีพนั้น แต่สำหรับคุณ  คงไม่เหมาะกับอาชีพนี้แล้วหละ จากคุณ : พลังจิต เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 20:22:46

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านแล้ว .... อยากรู้เหลือเกินว่า "หนังสือ" จะรู้สึกยังไงกับคนเรา ถ้ามันมีความคิด ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ตรงค่ะ จขกท. สู้ๆ ค่ะ ปล. เคยอ่านเวตาล อ่านทีไรรู้สึกว่า เราไม่ฉลาดเอาซะเลย หง่ะ! จากคุณ : ป๋วย เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 20:25:31 A:1.47.250.48 X: TicketID:277950

ความคิดเห็นที่ 7 @น้องเหมียวสีสวาด : ขอบคุณมากสำหรับคอมเม้นท์ และ "ถูกใจ" ตัวแรกของล็อกอิน T T ซาบซึ้งมากค่ะ ขอบคุณที่แวะเข้าไปเยี่ยมที่เว็บด้วยค่ะ @shusei : ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ @tormay : ลูกค้าชั้นดีเป็นสุดยอดของความน่าชื่นชมสำหรับร้านหนังสือเช่าเลยล่ะค่ะ ^ ^ ที่ร้านก็สมาชิกรายปีเหมือนกัน ที่ต้องให้กรอกใหม่ ก็เพื่ออัพเดทข้อมูล เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรค่ะ (บางคนชอบเปลี่ยนบ่อย) ที่ร้านเก็บบัตรประชาชนเหมือนกันเลย แต่บางคนก็ดองเหมือนกัน โดยเฉพาะวัยรุ่นเขาจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับบัตรถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่มาเอา หรือบางคนหนักมาก กลัวเสียค่าปรับ ยอมไปทำบัตรใหม่เลย - -" มีหลายแบบค่ะ แต่ลูกค้าดี ๆ ก็มีเยอะ... @พลังจิต : ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ ^ ^ ที่จริงอาชีพนี้ทำเพราะรักนะ ชอบอ่านหนังสือ และก็สนุกกับคนดี ๆ นะ แต่สำหรับคนแปลก ๆ พวกนี้เจอทุกวันก็แอบหดหู่เล็ก ๆ ค่ะ เอามาเล่าขำ ๆ อย่าซีเรียส @ป๋วย : ถ้าหนังสือมีชีวิต มันคงจะชอบเวลาถูกอ่านนะคะ เคยคิดว่าบางทีมันอาจจะกำลังรอลุ้นว่าคนอ่านจะทำหน้ายังไงเวลาอ่านมัน หรือไม่ก็คอยลุ้นให้เราอ่านเจอตอนสนุก ๆ เร็ว ๆ ^ ^ จากคุณ : indepencil (indepencil) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 20:44:53

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : อีกฝั่งฟากของเวลา เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:06:12

ความคิดเห็นที่ 9 สมแล้วกับที่ชอบอ่านหนังสือ ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีมากเลยค่ะ ทำเรื่องปวดหัวจริงๆ ให้เป็นเรื่องปวดหัวไป ฮาไป ได้ เก่งๆๆ ปล --  ถ้าเล่นผ่านคอมจะแวะเข้าไปบลอกค่ะ จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 21:20:45

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านแล้ว... ปวดตับแทน จขกท. จัง จากคุณ : 26JUNEVIP เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 22:09:25

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วขำๆ ยิ้มได้ด้วยค่ะ ขอบคุณ จขกท นะคะ แต่คาดว่า ณ ช่วงเวลานั้น จขกท คงจะำขำก็ไม่ใช่ โกรธก็ไม่เชิงนะคะ น่า อย่างน้อยทำงานกับเด็ก เจอวัยรุ่นบ่อยๆ เราก็สดใสไปกับเค้า (รึเปล่า?? อิอิ) ส่วนตัวเราไม่เคยเช่าหนังสือเลยค่ะ หากชอบจริงๆ จะซื้อตลอดจนมีหนังสือมากกว่าเสื้อผ้าซะอีก เคยมีเพื่อนยืมหนังสือไป เราก็ให้ยืมนะคะ ด้วยความเป็นเพื่อนกัน ครั้งนึงมีเรื่องแบบว่า มีเพื่อนคนนึงทำหนังสือเราขาด เราร้องไห้ (ไม่ได้ร้องต่อหน้านะคะ กลับมาร้องไห้ที่บ้าน) เพราะเราจะรักหนังสือของตัวเองมาก ทุกเล่มจะจำได้หมด สมมุติว่าหายไปแม้แต่เล่มนึงเราจะรู้ทันทีเหมือนกัน (ถึงจะมีหลักร้อยขึ้นก็เหอะ ^^) ที่จริงเราก็ไม่ได้หวงของหรืออะไรมากมาย แต่กับเพื่อนคนที่ทำหนังสือเราเสียหาย (เพื่อนทุกคนจะรู้ว่าเรารักหนังสือมาก)  เราก็ไม่ให้ยืมอีกเลยค่ะ เพราะหนังสือของเราเราก็รักเหมือนกัน และเมื่อคุณยืมไปแล้วไม่รักษาเราก็ต้องมีกฏของเราเพื่อปกป้องของของเราเหมือนกัน แต่ก็แปลกดีค่ะ กับเพื่อนที่ดี แม้จะยืมบ่อยแค่ไหน นานยังไง หนังสือก็ไม่เคยจะขาด ตอนไปยังไง กลับมาสภาพก็ปกติเช่นตอนยืมไปแต่แรกทุกครั้ง เช่นกันกับคนที่ไม่คิดว่าเป็นของตนเองก็ยังคงมักง่ายไม่รักษาหนังสือที่ยืืมเราเช่นเดิม ยังทำหน้ามึนตอนเอาหนังสือมาคืนแล้วสภาพยับเยินซะอีก แทนที่จะสำนึกผิด กลับกลายเป็นว่าเพื่อนที่ดีๆ ละอายใจแทนซะงั้น ก็เพราะพวกนี้ยืมหนังสือต่อจากเค้าไปน่ะสิ เห้ออ!! >< คิดว่าเราเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ก็ได้น๊า เราว่าคนพวกนี้มีทุกที่ในสังคมจริงๆ นะคะ บางทีเรื่องการยืมหนังสือ ก็บอกอะไรได้หลายอย่างเหมือนกันเนอะ ^^ ปอลอ ชอบอ่านบทความของ จขกท อ่านเรื่อยๆ ตามแต่ จขกท จะตั้งกระทู้ขึ้นมาตั้งแต่ล็อคอินเดิมแล้วนะคะ (ยิ้มมมม^^) (ขออภัยที่เราจำล็อคอินเก่า จขกท ไม่ได้ จำได้แค่ว่า จขกท มักเขียนเรื่องเครียดๆ ในมุมบวกให้ยิ้มเสมอ จากสิ่งรอบตัว จากงานที่ทำและเป็นสิ่งที่ทำให้เราจดจำคุณได้แม่นขึ้นค่ะ ^^) ขอบคุณสำหรับรอยยิ้มนะคะ ^^ จากคุณ : หนูน้ำ (แฟนฉันเป็นลิง) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 23:29:42

ความคิดเห็นที่ 12 เราก็พวกดองหนังสือไม่ไปคืนนะ บางทีก็ 7 วัน โดนปรับทีสองสามร้อย เพราะว่าเช่าทีเป็นสิบกว่าเล่ม (ร้านอยู่ไกลจริงๆ ไม่ได้อ้าง -*-) แต่โดนปรับก็ไม่เคยบ่นอะไรนะ ที่ร้านเค้าก็ยังให้เช่าต่อ ที่ร้านก็ไม่เคยโทรมาทวงเลย (ไม่เห็นเค้าเคยบ่นกับเรานะว่าเราคืนช้าหรืออะไร แต่กับคนอื่นเห็นบ่นๆอยู่) แถมเราจะเช่ากี่เล่มก็ได้ เค้าไม่หวงไม่ห้าม เพราะถึงเราจะดองไม่เอามาคืนเร็ว แต่ก็คืนแน่ๆ และไม่เคยบ่นขอลดราคาค่าปรับ (รู้ตัวว่าตัวเองผิด) ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอกว่าเค้ากำหนดว่าเช่าได้ 3 เล่ม ต่อ 1 คน เราไปถึงวันแรกก็หยิบมาเป็นสิบเล่มเลย แต่ก็ไม่เห็นเค้าติงอะไร วันหลังไปเลือกๆหนังสืออยู่ เค้าบอกกับคนอื่นว่าเช่าได้ไม่เกิน 3 เล่ม (ครั้งแรกที่เช่าเยอะไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเค้ายอม) หนังสือที่เรายืมมา ถ้าเป็นหนังสือใหม่ มั่นใจได้ว่าพอเอาไปคืน มันก็จะเหมือนหนังสือเพิ่งซื้อมาใหม่แน่นอน เราค่อนข้างถนอมหนังสือ ไม่เคยเปิดหนังสือแบบกางจนสุด เวลาอ่านไม่จบไม่มีการพับหน้ากระดาษ กลัวมันยับน่ะ แล้วก็แปลกตรงที่ว่าไม่ว่าเราจะย้ายหอไปอยู่ที่ไหน แล้วไปเช่าหนังสือในแถบที่เราอยู่  ร้านเค้าก็ยอมให้เราเช่าเยอะๆ+ดองหนังสือได้หลายวันโดยไม่โทรทวง จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 01:13:23

ความคิดเห็นที่ 13 ฮาตรง เก็บ ค่าชุงิ เป็น สิบ ปิ๊ อะไรนี่แหละ 555+ จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 04:54:19

ความคิดเห็นที่ 14 ฮาดีค่ะ  เราเองก็ไม่ชอบเอาบัตรสมาชิกไปเหมือนกัน  เพราะเช่าต่อเนื่องร้านประจำเค้าใช้คอม  อีกอย่างเช่าจนสนิทกันไปแล้ว  เรียกว่าเห็นหน้าก็จะรหัสได้เลยไม่ต้องถาม  เช่าทีก็ไม่ต่ำกว่า 3 เล่ม  แต่ถ้าไม่ว่างเอาไปคืนก็ยอมโดนปรับตามราคาหนังสือแต่โดยดี ตอนนี้พึ่งมารู้ว่าธุรกิจร้านหนังสือเช่านี่ต้องเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกัน  ยังไงก็อดทนนะค่ะ จากคุณ : agileeye เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 08:28:42

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบมากๆ เลยค่ะ อยากให้ช่วยกันโหวตหน่อยนะคะ คนอื่นๆ จะได้เข้ามาอ่านด้วย ขำๆ ในสถานการณ์เครียดๆ ก็ได้ผ่อนคลายดีเหมือนกันนะคะ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 09:17:44 A:115.128.33.225 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 16 เจอพวก นั่งอ่านหนังสือในร้าน จนจบเล่มโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร ทั้งที่ป้ายบอก" ชำระเงินก่อนอ่านในร้าน" พวกเขาอ้างว่าดูหลายเล่มยังไม่เจอเล่มถูกใจ เออ นะอ่านจนใกล้จบละมั้งนั้น เห็นถืออยู่อ่านไป80%์ ของเล่ม บัตรสมาชิกไม่เคยพก แต่จำต้องรหัสทุกครั้ง ที่ยืมหนังสือ ขี้เกียจพก ไม่ก็ทำหายไปเลย เดี๋ยวนี้ใช้คอมยิงบาร์โค้ดหนังสือแล้ว เมื่อก่อนจดเอา เคยอ่าน 21 เล่มใน 1 วัน เช่าได้ครั้งละ 7 เล่ม เผอิญเป็นลูกค้าพิเศษ คนเดียวอ่านจบไว 7เล่ม 2-3 ชม ก็เอามาคืน จนพี่ เจ้าของร้านเขา งงตอนแรกไม่รู้ว่าอ่าน จบไว หรือไม่ถูกใจ เขาเลยให้ยืมจำนวนกี่เล่มก็ได้ จะไม่ต้องเดินไปๆมาๆ 555+ หนังสือนิยาย ทุกเล่ม 8 บาท ยืมได้1วันคืนพรุ่งนี้ (นิยายใช้เวลาอ่านมากกว่าหนังสือ ตูนอีก) กว่าจะจบก็ 2 วันได ปรับอีก 8 บาท รายได้พิเศษ คนเปิดร้านหนังสือการ์ตูน จะมีเน็ทให้เล่น ชม ละ 15 บาท (ไม่มีเกมส์) และหน้าร้าน ขายเครื่องดื่ม ต่างๆ ขนม ให้ลูกค้าในร้าน ที่เล่นคอมไปด้วยรายได้เดือนนึงไม่ต่ำกว่า สอง สามหมื่น ค่าไฟ ค่าเน็ท ค่าเช่าที่ยังไม่หัก!! ้ จากคุณ : เบนนี่คิม เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 10:20:01

ความคิดเห็นที่ 17 " 4. ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นที่นี่ที่เดียวหรือเปล่า แต่ส่วนมากคนที่ดูแปลก ๆ ไม่น่าไว้วางใจมักจะเป็นลูกค้าชั้นดี ตรงเวลา สม่ำเสมอ แต่พวกคนที่ดูดี พูดจาดี ที่มักพูดว่า “แย่จังเลย คนที่โกงได้กระทั่งหนังสือเนี่ย” มักจะเป็นพวกที่ต้องโทรทวงตลอด " เข้าใจได้ว่า ดูคนดูภายนอกไม่ได้ครับ ส่วนคนที่เป็นพวกคลั่งไคล้การ์ตูน (โอตาคุ) เท่าที่เคยอ่านมาพวกเขาจะมีวินัยในการเช่ามาก คือเค้าจะจริงจังกับอะไรที่เป็นการ์ตูน จึงไม่อยากเสียสิทธิ์ทั้งหลาย แต่เรื่องการแต่งกายบุคลิกเค้าจะไม่ค่อยใส่ใจครับ ^^ จากคุณ : เช เชียงราย เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 10:28:42

ความคิดเห็นที่ 18 เบื่อพวกนั่งอ่านขวางทางในร้านหนังสือ เบื่อมาก ยืนอ่านเค้ายังหลบได้ แล้วก็พวกเข้ามาพูดโทรศัพท์ในร้านหนังสือด้วย แถมแมร่งเดินพูดไปมาทั่วร้าน อย่างกับเป็นบริเวณบ้านมัน ยังไงยังงั้น จากคุณ : ไม่เกี่ยวเลย เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 10:32:52 A:124.120.183.155 X: TicketID:321974

ความคิดเห็นที่ 19 ใช่คนเดียวกับที่เคยมาตั้งกระทู้เล่า เรื่องพฤติกรรมของลูกค้าในร้านหนังสือเช่า แถวๆต่างจังหวัดรึปล่าวคะ (เหมือนจะเป็นทางภาคตะวันออก) ครั้งนั้น เล่าได้ตลกมาก มีคนเข้ามาติดตามอ่านมาก ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยด้วยนะคะ ตามเข้าเว็ปไปเซฟไว้แล้วคะ เว็ปดูดี ดูง่าย มีอะไรน่าอ่านเยอะเลย ชอบมากคะ จากคุณ : เอื้องราตรี เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 11:14:59

ความคิดเห็นที่ 20 ขอตอบข้อ 2 และ ข้อ 3 ค่ะ เวลายืมหนังสือ เราพกแต่เศษตังค์ไปค่ะ ไม่ได้พกกระเป๋า บัตรก็เลยทิ้งเอาไว้ สุดท้ายมันก็จะอันตรธานไปไหนไม่รู้ บอกชื่อง่ายสุดค่ะ รหัสสมาชิกยังจำ บ่ได้เลย ส่วนเรื่องราคา 10% เนี่ย ส่วนใหญ่การ์ตูนมันมัก 35 มั่ง 45 มั่ง เลยต้องถามค่ะว่า 10% ของคุณเนี่ยมันปัดขึ้น หรือ ปัดลง หรือไม่ปัด แต่ละร้านไม่เหมือนกัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะปัดลง ถามอีกสักครั้งให้มั่นใจ ยอมดีกว่าคิดราคามาแล้วเศษตังค์ไม่พอค่า จากคุณ : cinimania เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 12:26:39

ความคิดเห็นที่ 21 เคยเห็นแต่แบบบนี่ร้านเช่านะ  แต่ไม่รู้คนเอาไรคิด อ่านซะจะจบเล่ม แล้วบอกว่า  ว้าเสียดายจัง  ยังไม่มีเรื่องใหม่ หรือเล่มที่สนใจ จากคุณ : เจ้าหนูจอมมึน เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 13:03:48

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ ดีใจจังเลย ได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำแล้ว ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะที่ช่วยโหวต แล้วบางคนก็น่ารักมาก ๆ ที่อุตส่าห์ติดตามมาโดยตลอดตั้งแต่ Login เก่าที่ยังเป็นมือถือโน่นแน่ะ @หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง : ขอบคุณมากค่ะ ^ ^ @หนูน้ำ : เราก็เป็นคนรักหนังสือมากเลย ตอนเปิดร้านใหม่ ๆ ทำใจไม่ได้กับสภาพหนังสือที่กลับมาแบบยับเยินสุด ๆ แต่หลัง ๆ ก็ต้องทำใจค่ะ ใช่เลยค่ะที่ว่านิสัยการยืมและการอ่านหนังสือ บอกอะไรได้หลาย ๆ อย่างเลยล่ะ @Rita_Bunny : ที่ร้านก็มีลูกค้าแบบนี้ค่ะ คือถึงจะชอบเกิน แต่ก็มีความรับผิดชอบ และไม่เอาไปนานเกิน แบบนี้ทางร้านก็จะไว้ใจเหมือนกัน พิจารณาเป็นรายบุคคลไป @เบนนี่คิม : คนอ่านในร้านแล้วไม่จ่ายเงิน ที่ร้านไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้เสียหาย แต่ก็จะรู้สึกในแง่ลบว่าคนนี้ไม่ค่อยรู้จักเกรงใจเลย อะไรงี้ และขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำดี ๆ ค่ะ @เช เชียงราย : ท่าจะจริงค่ะ ^ ^ @เอื้องราตรี : ใช่ค่ะ คนนั้นเลย... ขอบคุณที่ติดตาม และขอบคุณที่แวะเข้าไปเยี่ยมที่เว็บค่ะ @cinimania : บัตรสมาชิกนี่ช่วยในเรื่องของความถูกต้องและสะดวกรวดเร็ว ทางร้านเลยอยากให้ใช้ เพราะบางคนทำรหัสผิด เวลาุยุ่ง ๆ ก็เกิดความผิดพลาดได้มาก^ ^ ส่วนเรื่อง 10% ก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ เลยว่าจะติดราคาเช่าที่ปก จะได้สะดวกขึ้น มีคนติดตามอ่านชื่นใจจัง แบบนี้ถ้าจะเอาเรื่องขำ ๆ มาโพสต์บ่อย ๆ คงไม่รำคาญกันเนอะ ^ ^ วันนี้ที่เว็บมีลงบทความ บันทึกเสือสมิง ด้วยค่ะ ใครว่าง ๆ ก็เข้าไปอ่านได้นะคะ... จากคุณ : indepencil (indepencil) เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 13:19:27

ความคิดเห็นที่ 23 ไปเยี่ยมบลอกมาแล้ว ขอยาดเซฟค่ะ เยี่ยม  จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 13:35:12

ความคิดเห็นที่ 24 ขำอะ ตลกกะสำนวนและความเปนจริงที่ จขกทเอามาบอกมากๆเลย สนุกมากๆ ว่างๆเขียนอะไรให้อ่านอีกเหอะ สำนวนดีรับรองจะตามติด จากคุณ : ชอบอ่านหนังสือ เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 13:55:47 A:180.183.117.99 X: TicketID:267089

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับข้อ 13 บางร้านเค้าขอชื่อโรงเรียน/ห้อง มหาลัย/คณะ ไว้ด้วยเลยครับ ไม่คืนก็ตามไปติดต่อกับฝ่ายนิสิตทันที รีบเอามาคืนแทบไม่ทัน จากคุณ : Yotsubato! เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 13:56:39

ความคิดเห็นที่ 26 ฮามากเลยอ่ะ โหวตค่ะ จากคุณ : jigabelle เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:14:58

ความคิดเห็นที่ 27 ฮาดีค่ะ เราไม่ได้เช่าหนังสือเลย แต่ก็ยอมรับแต่ก่อนเช่าวีดีโอ มีส่งช้าบ้าง ก็ยอมให้ปรับนะคะเพราะดู ไม่ทัน เช่าหนังมาเยอะเกิน แล้วกำหนดคืนหนังใหม่ แค่วันเดียว เองค่ะ จากคุณ : onlycat เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:44:11

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้ว ไม่ตลก ... คุณอคติกับลูกค้าเกินไป ผมเกลียดร้านเช่าหนังสือที่เจ้าของมีวิสัยทัศน์แบบนี้ จากคุณ : oommy เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 14:54:02

ความคิดเห็นที่ 29 เราคืนช้าคะ แต่เสียค่าปรับเป๊ะตลอด ไม่ดีหรอได้ค่าปรับไปกินฟรีๆอ่ะ จากคุณ : ห้องนี้ศรีนวล เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 16:11:12

ความคิดเห็นที่ 30 คืนช้าได้ค่าปรับจริงครับ แต่เสียลูกค้าคนอื่น เพราะมาถามทีไร หนังสือไม่อยู่ทุกที พาลไปเช่าร้านอื่นดีกว่า ส่วนใหญ่เจ้าของร้านไม่ได้ชอบนะครับ คืนช้าเนี่ย ยิ่งพวกหนังสือออกใหม่ด้วยแล้ว เป็นร้านใหญ่ ๆ หน่อยอาจจะได้ เพราะเค้าซื้อมาหลายก๊อบปี้ แต่ร้านที่ซื้ออย่างละเล่มเนี่ย เดือดร้อนแน่นอน จากคุณ : Yotsubato! เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 17:19:35

ความคิดเห็นที่ 31 เราเป็นผู้เช่าค่ะ อยากบอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเจ้าของร้านเอามานินทาหลับหลัง เราคงเลิกเช่าร้านนั้นทันที โดยเฉพาะข้อ 10 เราไม่เห็นด้วยที่คุณจะลดค่าปรับให้ลูกค้า หรือเรื่องค่ามัดจำ เพราะทำให้ร้านคุณไม่มีมาตรฐาน โดยเอาความพอใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่กับละเมิดกฎที่คุณเป็นคนตั้งมาเอง แล้วคุณจะมีกฎไว้เพื่ออะไร เราเองเป็นลูกค้าชั้นดีของร้านเช่าเสมอ แค่พนักงานที่ร้านเห็นเราก็เลือกหนังสือให้เราได้เลย รอจ่ายเงินอย่างเดียว จากคุณ : ดา (สร้อยมุก) เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 20:30:40

ความคิดเห็นที่ 32 มาให้กีบเน้อ จากคุณ : Quenn เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 20:53:29

ความคิดเห็นที่ 33 เหอ ๆ ยังมีคนเครียดได้อีก - -" อันนี้เอามาเล่าให้ขำนะ เราเปิดร้านมาเดือนนี้นับได้ครบ 2 ปี พอดี อยู่มาสองปี ก็มีความสุขค่ะ ความสุขเกิดจากลูกค้าดี ๆ หลายคน ความสุขที่ได้อ่านหนังสือ ก็ทำให้อยากทำอาชีพนี้ต่อมาเรื่อย ๆ แต่ทุกวันก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้ล่ะให้เห็น จะว่าเครียดรึเปล่า ตอนนี้ไม่นะ เพราะชิน แต่ถามว่าชอบมั้ย ไม่มีใครชอบหรอกค่ะ ถ้าเจอทุกวันก็เบื่อนะ แยกเป็นประเด็นไป ดีก็ส่วนดี ไม่ดีก็ส่วนไม่ดี ไม่มีอาชีพไหนเพอร์เฟ็กท์ อันนี้เอามาเล่ากันขำ ๆ เหมือนเล่าประสบการณ์แหละค่ะ ไม่ได้ตั้งใจนินทาให้เสียหาย เพราะไม่ได้ระบุเจาะจงอะไร แค่บางครั้งก็อยากสะท้อนสังคม และคนบางประเภทในแง่มุมขำ ๆ ถ้าทำให้บางคนเครียดก็ขออภัย เหอ ๆ ^ ^ @หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง : ขอบคุณมากเลยค่ะ ดีใจ ได้แฟนบล็อกเพิ่มอีกหนึ่งและ @ชอบอ่านหนังสือ : ที่จริงเขียนบทความลงบล็อกทุกวันเลยค่ะ ^ ^ @Yotsubato! : เก็บประวัติส่วนนี้เหมือนกัน หลัง ๆ ตามไม่ไหว เยอะเกิ๊น @jigabelle : ขอบคุณสำหรับโหวตน้าาาา @onlycat : ขอบคุณที่อ่านค่ะ คนที่เช่าหนังสือแล้วเกินบ้าง อะไีรบ้าง(พองาม) แต่ก็เสียค่าปรับไม่บ่น ที่ร้านก็ถือว่าเป็นลูกค้าชั้นดีค่ะ แบบนี้ชอบนะ (แต่มีบางคน เกินเป็นชาติ แถมยังไม่ยอมให้ปรับอีก เหนื่อยใจ... - -") @oommy : แต่ดิฉันไม่เกลียดคุณนะคะ เพราะในโลกนี้มีคนที่มีวิสัยทัศน์ต่างกันมากมาย ถ้าตามเกลียดไปหมด ดิฉันคงต้องเหนื่อยมาก ^ ^ @ห้องนี้ศรีนวล : ชอบคนที่เสียค่าปรับเป๊ะ ๆ มากค่ะ แต่ที่อยากได้หนังสือคืนเร็ว เหตุผลตาม คห.30 เป๊ะเลย @ดา (สร้อยมุก) : ชอบความเห็นนี้ค่ะ โดยเฉพาะตรงเรื่องมาตรฐาน และกฎ แล้วจะลองเอาไปปรับใ้ช้ดู เผื่อว่าใช้มาตรฐานเดียวกันแล้วอาจจะดีขึ้นค่ะ ^ ^ เอา give ไป @Quenn : ขอบคุณสำหรับกีฟค่าาา ^ ^ จากคุณ : indepencil (indepencil) เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 22:26:00

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้ว สนุกมากครับ ฮาดี ที่บ้านผมก็ขายของ มีลูกค้าเยอะ มีดี ไม่ดี มีขโมยก็มี ผมก็เกลียดขโมย กับลูกค้าที่ชอบติดเงินแล้วโกง คนพวกนี้เป็นลูกค้าก็จริงแต่ผมอยากให้มันเลิกมาซื้อซะทีเหมือนกัน แต่ผมไม่เลิกขายของเพราะคนดีๆก็มีอีกเยอะ ว่างๆจะมาเล่ามั่ง ผมว่าผมเข้าใจ จขกท. นะ แล้วคิดว่า จขกท. มีEQสูงด้วย เอาเรื่องเครียดประจำวันของตัวเองมาเล่าให้ฮาขำได้นะ ลีลาการตอบกระทู้ก็เจ๋งด้วย ถึงมีคนหลงประเด็นก็ยังมองในแง่ดีได้อีก เดี๋ยวผมจะไปอ่านเวปครับ จากคุณ : เดคิซุงิคุง เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 23:21:10 A:113.53.237.91 X: TicketID:323265

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วนึกภาพออกเลย เราชอบอ่านการ์ตูนตาโตชอบไปเช่าทีละ10เล่ม อ่าน1-2วันก็จบ ร้านที่เราเช่าประจำไม่ต้องสมัครสมาชิกแต่ต้องฝากบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ พี่เจ้าของร้านก็ดีกับเรามากเพราะเราขาประจำยืมคืนตรงเวลาเราหยิบกี่เล่มก็ได้เพราะพี่เขารู้ว่าเราอ่านไว เล่มใหม่ๆมาเขาจะบอกเราก่อนตลอด แต่แถวนั้นเด็กเยอะ แบบเด็กม.ต้นกรูเข้าร้านทีเห็นพี่ทำหน้าเหนื่อยใจ แห่กันมาเยอะส่งเสียงดัง ยืนอ่านเป็นชั่วโมงสุดท้ายเช่าไป1-2เล่ม ลูกค้าคนอื่นๆพอเห็นร้านคนเต็มมีเสียงดังก็ไม่กล้าเข้า หนังสือบางเล่มถูกฉีกไปบางหน้า เรานี่เคืองสุดๆ มันจะเก็บไว้รู้ทำไมคนเดียว เราก็อยากรู้อยากอ่านนะ 55+ บางคนก็มายืนคุยโทรเกะกะขวางทางคนอื่น จะหยิบก็ไม่หยิบสักที บางคนยืมแล้วไม่คืนตามกำหนดลูกค้าคนอื่นๆก็ต้องรอ เราเคยรอการ์ตูนบางเล่มรอจนไม่ไหวต้องหาร้านอื่นเช่า เห็นใจค่ะลูกค้าดีๆก็มีเยอะ แต่พวกไม่ดีทำเสียหายได้มากกว่าที่คิด เราไม่คิดว่าคุณนินทาลูกค้าเลยนะ ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าที่จะอยู่เหนือกฏ ทำผิดติไม่ได้ เขาเอาเงินมาให้คุณ แต่คุณก็มีสิ่งอื่นหยิบยื่นแลกเปลี่ยนไป อะไรที่ผิดที่ไม่ดีไม่จำเป็นต้องอมพะนำ คราวหน้ามาเล่าอีกนะคะ ชอบอ่าน จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 54 23:58:21

ความคิดเห็นที่ 36 การเปิดร้านหนังสือที่มีคุณภาพมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครๆคิด เราก็เป็นคนนึงที่เปิดร้านหนังสือเช่าเพราะใจรัก เรามองว่าการเปิดร้านไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แค่เริ่มต้นเลือกทำเลก็ยากแล้วไหนยังจะต้องบริหารงานไม่ว่าจะเป็นรายรับ รายจ่าย ให้สมดุลในแต่ละเดือน ทั้งยังต้องคิดโปรโมชั่นอยู่เสมอถ้าคุณมีคู่แข่งที่เปิดร้านอยู่ในละแวกเดียวกัน นอกจากนี้พนักงานที่ร้านต้องเป็นคนที่มีความรู้ทั้งเรื่องหนังสือและเรื่องบริการที่ดี ไม่ว่าลูกค้าที่เข้ามาจะเรื่องมากแค่ไหนคุณต้องบริการอย่างดีที่สุด ถ้าคุณอยากให้ร้านคุณอยู่ได้และมีกำไรคุณต้องรู้ความต้องการของลูกค้า และรู้ว่า ลููกค้าแต่ละคนอ่านหนังสือแนวไหน นอกจากนี้คุณยังต้องนำหนังสือแนวอื่นที่ร้านอื่นไม่มีเข้ามาในร้านเพื่อให้มีความหลากหลายมากขึ้น ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านคุณต้องหาเวลามานั่งที่ร้านบ้างเพื่อจะได้รู้ถึงความต้องการของลูกค้า หนังสือที่เอาเข้ามาในแต่ละสัปดาห์ต้องมีการจัดงบประมาณที่ดีไม่งั้นหนังสือที่เอาเข้ามาอาจจะไม่มีคนอ่านเลย(ขาดทุน) จะเอาหนังสือที่ตัวเองชอบเค้ามามากก็ไม่ได้ต้องดูว่าลูกค้าส่วนใหญ่สนใจในเรื่องไหน หากต้องซื้อหนังสือทุกเล่มทั้งการ์ตูนและนิยายร้านคงเจ๊งเพราะหนังสือจะออกใหม่ทุกวัน เจ้าของร้านต้องรู้แนวทางในการนำหนังสือเข้ามาที่ร้าน   แน่นอนว่าการเปิดร้านต้องมีปัญหา แต่ก็สามารถแก้ไขได้โดยทางกฎหมาย ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อยากจะให้หลายๆคนรู้ว่าการเปิดร้านหนังสือไม่ง่ายอย่างที่ใครๆคิด นอกจากคุณต้องรู้หนังสือแล้ว คุณต้องบริหารจัดการและ บริการควบคู่กันไปด้วย คุณคงเอาสมองทิ้งไว้แต่ทีบ้านไม่ได้แล้วล่ะคะ เพราะการทำร้านหนังสือมันต้องคิดมากกว่านั้นในทุกเรื่องที่กล่าวมา จุดสำคัญที่สุดคุณต้องไม่ดูถูกลูกค้าของคุณเองไม่ว่าลูกค้าจะเป็นแบบไหนลูกค้าก็คือพระเจ้า หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการจะเปิดร้านหนังสือนะคะ ถ้าให้ดีคุณควรจะรู้ว่าซื้อหนังสือมือ 1 ที่ไหนลดราคา ถ้าคุณจ่ายเงินค่าหนังสือที่ซื้อมาเต็มราคางบคุณบานแน่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์อ่านจนจบ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 05:00:24 จากคุณ : bubbleturtle เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 04:54:21

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลที่น่าสนใจค่ะ จากคุณ : น้องเหมียวสีสวาด เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 08:15:30

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วนึกถึงเรื่องของผม  " ผมเป็นคนไม่ดีน่ะครับ" ผมเป็นนักอ่าน ยืม หนังสือ ร้านการตูนร้านนึงประจำ   ผมนึกๆ ดูยอดรวมที่ผมเช่าร่วมๆ แล้วก็คงละหลายพันอยู่   วันนึงผมทำหนังสือหาย   ผมไปบอกทางร้าน   ผมเสียค่าหนังสือ เล่มนั้นได้ไหม ? ทางร้านบอกผมให้ไปซื้อหนังสือเล่มนั้นให้ใหม่ผมถึงจะเช่าต่อได้ ถามว่าผมจะไปซื้อมาใช้คืนไหม  ...............    ผมก็คิดผมให้เงินร้านนี้มาหลายพันบาทแล้ว ......................... ขอโทษน่ะครับ ทางร้านอาจจะทำตามกฏก็ไม่เป็นไร  นี้ร้านให้เช่าหนังสือ ไม่ใช้ร้านสะสมหนังสือ ทำเพื่อธุรกิจ  ครับ  ถึงลูกค้าจะทำยังไง มันก็เป็นบริการครับ คุณควรจะคิดถึงผลกำไรสูงสุดมากกว่า   แต่คุณจะเปิดเอามันก็ไม่เป็นไรครับ  หนังสือ ให้เช่าเล่ม  เล่มนึงแค่ 10 วันก็คืนทุนค่าหนังสือแล้ว จากคุณ : แก้วคุง เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 08:33:36

ความคิดเห็นที่ 39 ในฐานะคนทำอาชีพบริการเช่นกัน ( ไม่เคยเปิดร้านเช่าหนังสือ ) อ่านแล้วไม่ขำนะคะ ถึงแม้ว่าอยากจะเล่าให้มันตลกๆ ก็ตาม เป็นการนินทาลูกค้าแบบไม่ให้เกียรติ คห. คุณbubbleturtle เขียนในมุมเจ้าของร้านได้ดี ฉันคิดว่าการเปิดร้านหนังสือเช่า ให้อยู่ได้นาน ต้องใช้สมองคิดอย่างมาก ทำยังไงไม่เจ๊งก่อนคืนทุน เพราะต้องลงทุนไปไม่ใช่น้อย และต้องเพิ่มทุนเรื่อยๆ กำไรค่าเช่าเท่าไหร่ถึงจะพอกับค่าใช้จ่ายรายเดือน เอาสมองเก็บไว้บ้านไม่ได้เลย แล้วเรื่องลูกค้าที่เจอ แน่นอนอยู่แล้วคนเรามันมีหลายประเภท ยังไงก็ต้องรับมือ บริการทุกคน แต่ใช่ว่าคนที่ทำไม่ถูกต้อง จะต้องผิดเสมอไปนะ เรื่องเล็กๆน้อยๆ เล่าสนุกๆแต่อย่าให้มันเป็นมุมมองที่ดูว่าเขาแย่มากๆเลย ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นคนที่ให้เงินเลี้ยงดูเรา เราดูแลพ่อแม่ให้ตังค์เรายังไง เราดูแลลูกให้เงินเรายังไง เราก็ควรจะดูแลลูกค้าแบบนั้น เอ็นดูเด็กๆให้เหมือนลูกหลานในครอบครัว แล้วคุณจะเป็นแม่ค้าที่น่ารักมาก ถ้าลูกค้ารักคุณ เขาก็จะรักหนังสือของคุณ เกรงใจคุณ ก็จะเกรงใจหนังสือของคุณ ไม่กล้าทำยับ ไม่กล้าทำหาย อาจจะคืนช้าไปบ้าง เราให้อภัยกัน เพราะยังไงเขามาคืนดีกว่าไม่มา เสียลูกค้าไป 1 คน ก็เรื่องใหญ่นะ เพราะมันคือเงินที่หายไปไม่ใช่น้อย เล่าสนุกๆแบบให้น่าเอ็นดูกว่านี้อีกนิดนะคะ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 10:47:04

ความคิดเห็นที่ 40 @เดคิซุงิคุง : เราไม่ได้มี EQ สูงหรอกจ้า แต่มาโพสต์ในที่สาธารณะแบบนี้ก็ต้องน้อมรับข้อคิดเห็น และความคิดที่แตกต่าง ไม่งั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร และขอบคุณที่แวะเข้าไปดูที่บล็อกนะคะ ^ ^ @จะเอาอะไรกับลมปาก : คุณเป็นคนที่ช่างสังเกต และเข้าใจเจ้าของร้านได้ดีมากเลยค่ะ อยากให้โลกนี้มีลูกค้าแบบนี้เยอะ ๆ @bubbleturtle : เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากค่ะ คุณเปิดร้านหนังสือเช่าเหมือนกันเหรอคะ บางทีเราน่าจะได้คุยกันนะ มีเรื่องอยากถามเยอะแยะ @แก้วคุง : สำหรับเม้นท์นี้ ทำให้เข้าใจความคิดของลูกค้าที่ไม่ค่อยชอบรับผิดชอบหนังสือมากขึ้นค่ะ อ่อ เค้าคิดกันแบบนี้นี่เอง จะได้หาวิธีป้องกัน และทำความเข้าใจกับเค้าว่า ที่จริงร้านหนังสือไม่ได้กำไรเยอะอย่างที่คิด... @ ..ฟ้าใส.. : ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ ไว้คราวหน้าจะให้ซอฟต์ ๆ กว่านี้หน่อย ^ ^ จากคุณ : indepencil (indepencil) เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 11:01:21

ความคิดเห็นที่ 41 เคยทำร้านเช่าแถวบางปะกงอยู่หลายปีครับ ให้ความเห็นแบบเป็นกลางนะ ผมว่าจขกท.ไม่ได้ตั้งใจนินทา แต่คงเ็็ซ็งลูกค้าบางกลุ่ม นอกจากเล่าตลกๆแล้วอาจอยากได้ความเห็นว่าเจอคนแบบนี้ทุกวันควรทำไง ประมาณนั้น ผมบอกเลยว่าบริการให้เช่า ไม่ง่ายเหมือนการขาย เพราะขาย ขายขาด พอใจก็กลับมา ไม่พอใจก็ไปที่อื่น แต่เช่านี่ ถ้ามันไม่กลับมาเราเดือดร้อนนะ ทำมาได้ตั้งสองปีนี่ผมว่าจขกท.ไม่ธรรมดาแล้วครับ ต้องเป็นคนใจดีและอดทนพอสมควรแหละ ดูจากการตอบกระทู้ คิดว่าตัวจริงน่าจะเป็นคนอารมณ์ดี ตอนที่ผมทำนะแรกๆผมก็เครียดกับลูกค้าพวกที่ไม่รับผิดชอบ บางคนผมไม่อยากให้มาีอีกเลย แต่ก็ต้องทนเพราะเป็นลูกค้า คิดว่าจขกท.น่าจะเข้าใจ ตรรกะที่ว่า ถ้าดีกับเขา แล้วเขาจะดีกับเรา นี่ใช้ได้กับคนบางกลุ่มเท่านั้นนะ คนส่วนมากยิ่งดีด้วยยิ่งไม่เกรงใจ ยิ่งยอมก็ยิ่งได้ใจ วิธีแก้คือต้องเข้มแข็งครับ อย่ายอม ปรับได้ต้องปรับ ทวงได้ต้องทวง ไม่งั้นร้านเราแย่ ผมชอบ คห.30 นะ คนที่คิดว่าค้างแล้วเสียค่าปรับก็น่าจะพอใจแล้ว ลองอ่าน คห.30 ดู เจ้าของกิจการ บางครั้งก็ต้องการอะไรที่ไม่ใช่เงินเหมือนกัน คห.36 ให้ข้อมูลที่ดีมากๆ ครับ เรื่องบางเรื่องคนที่ไม่ได้ทำจริงๆก็ไม่เข้าใจครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : อะไรของมัน เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 12:04:58 A:173.234.20.137 X: TicketID:323306

ความคิดเห็นที่ 42 ผมว่าคนที่มาพิมพ์ว่าไม่ชอบ จขกท. คงเป็นพวกไร้วินัย แล้วแทงใจดำมั้งครับ คนพวกนี้นอกจากไร้วินัย ยังไร้สำนึก จากคุณ : ปึงเจ็กตี่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 13:30:31

ความคิดเห็นที่ 43 คห36  เราอ่านเยอะเกือบหมดร้านแล้ว เรารู้งั้นสิว่าใครชอบอ่านอะไร แนวไหน เรื่องไหนมากที่สุด เราคงเปิดร้านชื้อเล่มนั้นมาให้เช่าได้โดยไม่ขาดทุนเลยสินะ อิอิ จากคุณ : เบนนี่คิม เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 17:46:59

ความคิดเห็นที่ 44 คห 43 ถ้าคุณอ่านที่เราโพสอย่างละเอียดตั้งแต่แรก คุณก็จะรู้ว่าเราเอาหนังสือที่ลูกค้าไม่ค่อยนิยมเข้ามาเหมือนกันอาจจะไม่มากเท่าหนังสือที่เป็นที่นิยม เช่น นิยายแนวแฟนตาซี ธรรมะ นิยายจีน หรือ นิยายแปล พ็อกเก็ตบุ๊ค สารคดี แล้วลูกค้าที่เค้าอ่านนิยายที่เค้าชอบจนหมดเค้าก็จะหันมาอ่านแนวอื่นบ้าง ที่ร้านนำหนังสือที่แตกต่างเข้ามาตลอด เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าบางคนอ่านการ์ตูนวัยรุ่นพออ่านหมดก็หันมาอ่านนิยายวัยรุ่น เช่น jamsai พออ่านจนหมดก็มาอ่านนิยายผู้ใหญ่ซึ่งระหว่างที่ลูกค้าเปลี่ยนแนวไปนั้นแนวเดิมๆก็นำเข้ามาอยู่ตลอดทำให้ลูกค้าสามารถกลับมาอ่านแนวที่ตัวเองชอบได้ ถ้า คห 43 คิดว่าคุณรู้ว่าใครอ่านอะไร แนวไหน คุณมีความสามารถคุณก็เปิดร้านได้เลยค่ะ แต่นอกจากนั้นคุณต้อง บริหาร เป็น และบริการได้อย่างดีด้วย ลูกค้าถึงจะติดแอยู่กับคุณไปตลอด แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 21:32:37 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 21:32:04 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 54 21:31:03 จากคุณ : bubbleturtle เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 54 20:11:47

ความคิดเห็นที่ 45 เราเป็นลูกค้าประจำร้านเช่าหนังสือเลยอ่ะค่ะ มากกว่า 5 ปีแล้ว 1.เราเองเคยสงสัยเลยถามว่า หนังสือพวกแปล (แฮร์รี่,เดอะริง ฯลฯ) ทำไมต้องมัดจำด้วย ? ทางร้านเลยบอกว่า หนังสือพวกนี้ราคามันสูง บางทียืมไปแล้ว คือยืมลืม  ยืมแล้วไม่กลับมาคืนเลย แต่ทางร้านก็คืนมัดจำเมื่อตอนมาคืนหนังสือนะคะ 2.เรื่องบัตรสมาชิก ลืมทิ้งไว้ไหนก็ไม่รู้จำไม่ได้ละ หายไปเลย แต่จำเลขสมาชิกได้ ไปถึงแค่บอกเลขสมาชิกเท่านั้่น อิอิอิ 3."แต่ส่วนมากคนที่ดูแปลก ๆ ไม่น่าไว้วางใจมักจะเป็นลูกค้าชั้นดี ตรงเวลา สม่ำเสมอ " อันนี้ไม่น่าใช่เรา เพราะเราเป็นคนที่เลทเสมอ อย่างต้องคืนวันนี้นู่นนนน อาทิตย์หน้าถึงคืน แต่ก็เสียค่าปรับ ไม่เคยบ่นเลยนะ บางทียังถามเลยว่า ทำไมคิดค่าปรับถูกจัง มันเลยมานานมากแล้วนะ คำตอบก็คือ " ก็น้องเสียค่าปรับจนพี่เกรงใจแล้วหล่ะสิ พี่เลยไม่กล้าปรับแพง "    ~?~" 4.ส่วนเรื่องป้าย ส่วนใหญ่ที่เราเห็น จะเป็นการห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในร้าน แต่เท่าที่เห็นป้ายมันไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย จนเจ้าของร้านบอกว่า เดี๋ยวจะเปลี่ยนป้ายละ ป้ายภาษาไทยอ่านไม่ออก จะเพิ่มภาษาเป็นอังกฤษ ลาว ฝรั่งเศส บลา บลา บลา ~~~ 5.เรื่องทำหนังสือหาย ... เคยเป็นครั้งเดียว หายไปไหนหาไม่เจอจริง ๆ จนป่านนี้แล้วก็ยังหาไม่เจอ แต่ก็ได้คุยกับเจ้าของร้าน เจ้าของร้านบอกไม่เป็นไร หนังสือเล่มนี้มันนานแล้ว เราเลยบอกว่างั้นเดี๋ยวเราจ่าย 50% ของราคาหนังสือแล้วกัน เจ้าของร้านก็ไม่เอา เราเลยออกแนวบังคับว่างั้น 30% ของราคาหนังสือ ถ้าไม่ให้เราจ่ายเราก็ไม่กล้าเช่า สุดท้ายเจ้าของร้านเลยต้องเอาไว้ พร้อมกับได้เครดิตพิเศษ คือถ้าหนังสือมาใหม่จะโทรบอกน้องก่อนเลย และ ถ้าคืนหนังสือช้า พี่จะลดค่าปรับให้ ^___^ 6.เรื่องการคิดค่าเช่าหนังสือ เราไม่ค่อยที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนี้หรอก ว่าเค้าจะปัดขึ้นปัดลง ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากกว่า เพราะเจ้าของร้านเองก็มีรายจ่ายเยอะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 54 09:21:49 จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 09:56:11

ความคิดเห็นที่ 46 เคยเจอแต่ร้านเช่าปิดหนีผม สมัครสมาชิกได้สองอาทิตย์ เสียตังไปห้าสิบบาท ยืมหนังสือแค่สามครั้ง คืนไปหมดแล้วด้วย พอจะไปยืมดันปิดร้านเซ้งซะงั้น ไม่ทิ้งเบอร์ให้ติดต่อด้วย  แย่มากๆ จากคุณ : ช่างคอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 10:07:52

ความคิดเห็นที่ 47 ทุกวันนี้ช่วง เสาร์-อาทิตย์ จะนั่งทำร้านเช่าการ์ตูน นิยาย แถวบ้าน ลูกค้าเนี่ย ถ้าเค้าดีนะ เค้าจะดีเสมอต้นเสอมปลาย แต่พวกมีปัญหา เนี่ย มียังไง ก็มี ยังงั้น เช่น -ประตูบางที เค้าเปิดแต่ไม่ยอมปิด ป้ายก็ติดไว้นะตรงที่จับประตูเลย แต่ทำไมไม่ปิด ก็ตองบอกนะ บางคนก็โอเคปิด บางคนมีมาจิกใส่ด้วย(ปลวกแอร์ออก) -เรื่อง พวกการ์ตูนออกใหม่ จะมีบอร์ดเขียนรายชื่อ และหลังที่นั่งของที่ทำเช่าคืนจะมีชั้นวางหนังสือการ์ตูนใหม่ คือบางทีเนี่ยถ้าไม่อยู่ มันก็จะไม่อยู่ แต่ลูกค้าก็มักจะ มอง และก็ถามว่าเรื่องนี้อยู่มัย ทังๆที่ก็เห็นอยู่ว่ามันไม่อยู่ ที่ป้ายก็เขียนไว้เเล้วนะว่า ถ้าท่ชั้นไม่อยู่แสดงว่าไม่อยู่ไม่ตองถาม(มันเหนื่อยนะถามกันแทบทุกคน ทั้งๆที่ก็เห็นอยู่ว่ามันไม่อยู่) -แล้วพวกลูกค้าเก่าๆ บางคนรูมากชอบอำเดกนั่นร้าน(เรากเคยโดนแต่รู้ทัน) ว่าเออเนี่ยพี่เจ้าของร้าน ให้เป็นพิเศษนะ หรือสนิท(ความจริงพี่เจ้าของร้านไม่ได้ให้พิเศษ) พวกนี้ถ้าเห็นเด็กหน้าใหม่ก็จะอำ อยากจะบอกว่า นั่งร้านหนังสือเช่าอะ ต้องมองลูกค้าไว้ที่อคติก่อนเลย ถามว่าทำไม เพราะบางทีที่เรามองแง่ดีเกินไป คนเสียคือเรา เคยครั้งนึง โดนนิยายไป20กว่าเล่ม พอจะวางแผนจับมันไม่มาหายจ้อย เพราะสุดท้าย มองแง่ดีเกินไป คนเสียก็คือทางร้าน หนังสือเล่มนึงไม่ใช่เล่มละบาทสองบาท เล่มเป็นร้อยสองร้อยกว่า  แต่ถามว่าลูกค้าดีๆไม่มีเหรอ มี พวกดีๆ เราก็มองปกติรูว่าเค้าไม่ทำหรอกแต่ก็อย่าวางใจชะล่าใจ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 11:22:15

ความคิดเห็นที่ 48 เพื่อนเคยโดนปรับเกือบ 2 พัน บ้าไปแล้ว จะอะไรนักหนา จากคุณ : ลูกแพร์ติงต๊อง เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 54 22:05:43

ความคิดเห็นที่ 49 เกือบได้เปิดแล้วค่ะ แต่มีคนคัดค้านน่าดู ว่าได้เงินน้อย ดูถูกดูแคลน ส่วนเราก็รักหนังสือมาก อยากเปิดมากอยากอยู่กับหนังสือ คิดแล้วคงเป็นบ้าถ้ามีคนยืมแล้วไม่คืน บางเรื่องไม่ได้หาซื้อง่ายๆอ่ะ ดีแล้วที่ไม่ได้เปิด จะเปิดร้านเน็ตแทน ก็ดันทุนไม่พอ 555 จากคุณ : สวัสดีค่ะขอโทษค่ะขอบคุณค่ะ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 02:14:58

ความคิดเห็นที่ 50 ร้านที่เราเป็นสมาชิกอยู่ แพงเวอร์ๆ คิดราคา20% จากปก หนังสือเล่มละ300 ค่าเช่า 60  บาท แต่ก็ยอมเช่าเพราะหนังสือใหม่เข้าตลอด ทั้งไทยต่างประเทศ คงหาจากร้านอื่นไม่ได้ จากคุณ : Much the same เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 08:20:40

ความคิดเห็นที่ 51 เราก็ทำร้านเช่าหนังสือ แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้ซื้อหนังสือเข้าเลย เพราะว่าคนเช่าน้อยลง เราก็ให้ลูกค้าเช่าตามสภาพของหนังสือที่เรามี ส่วนเรื่องลูกค้า เราก็เจอแบบที่จขกท. เล่านั่นแหละ เป็นธรรมดา แปลกกว่านี้ก็ยังเจอมาแล้ว เราว่าใจเขาใจเรานะ ลองให้ลูกค้ามาเป็นเจ้าของร้านหนังสือเช่าแล้วจะรู้ว่าทำไม เจ้าของร้านถึงรู้สึกแบบนั้น จากคุณ : MS (Ms_Econ) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 54 22:29:43

ความคิดเห็นที่ 52 เคยรอคินดะอิจิเดือนนึง มันมีพวกบ้าเอาไปดอง 1 เดือน คือ คนที่ยืมไปเอาไปอ่านไม่คืนสักที ตามยังไงก็ไม่ได้ ปิดเครื่องตลอด จนเจ้าของร้านนั้นคิดว่าตายไปแล้ว สรุปพอเดือนกว่าๆผ่านไป เอามาคืน สรุปคือลืมว่าเล่มนี้ยืมมา มาเห็นตราปั้มข้างๆว่าเป็นร้านนี้ เลยเอามาคืน เบอร์โทรเปลี่ยนไปแล้ว เจ้าของร้านด่าเช็ดเลย คือคิวรอต่อเยอะอะ จนเจ้าของร้านตัดใจซื้อเล่มใหม่ ค่าปรับอะไรเจ๊แกก็ไม่ลดให้นะ ถือว่าประมาทเอง ปล. ตอนนั้นเราได้แต่มุบมิบกับแช่งในใจเท่านั้นเอง 5555 จากคุณ : phonomenon เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 03:21:05

ความคิดเห็นที่ 53 เราเองก็เคยเปิดร้านเช่าหนังสือค่ะ ช่วงระยะเวลาสิบสามปีที่เปิดร้าน เจอลูกค้าหลายประเภทมากๆ จนบางทีก็นึกพิศวงว่า มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ(ฟระ) ทำให้รู้สึก(เป็นการส่วนตัว)ว่าแค่การเช่าหนังสือ ก็ทำให้คุณได้เรียนรู้นิสัยพื้นฐานของคนๆนั้นแล้วค่ะ ตอนแรกๆที่เปิดร้าน ไม่ขำเลยค่ะ เครียดดดดดด ประสาทเสีย สุขภาพจิตแย่มากๆ (ไม่ได้โอเวอร์นะคะ ช่วง 3-4 ปีแรกรู้สึกอย่างนี้จริงๆ) เพราะปกติเราเป็นคนที่รักหนังสือมาก ชอบอ่านหนังสือ เลยตั้งใจว่าถ้าได้ทำธุรกิจของตัวเอง เราจะเปิดร้านหนังสือเช่า แต่ถ้าใครรักหนังสือ แนะนำว่าอย่าเปิดร้านหนังสือเช่าเลยค่ะ เพราะคุณจะเจอลูกค้าประเภทไม่ถนอมหนังสือให้คุณ ทำหนังสือหาย (ประเภทหายากๆ) หนังสือโดนฉีก หนังสือยับเยินเหมือนไปลุยสงครามมา ทั้งที่เพิ่งเช่าได้แค่ 2-3 คน ฯลฯ ซึ่งคุณจะหาลูกค้าได้น้อยมากๆที่จะดูแลถนอมหนังสือให้คุณเหมือนกับที่คุณถนอมหนังสือของคุณเอง จากที่เคยเจอๆมานะคะ 1.ลูกค้าบางส่วนไม่ค่อยถนอมหนังสือให้เรา เพราะเค้าคิดว่า เป็นแค่หนังสือเช่า ไม่ต้องดูแลรักษามาก ก็เลยเจอประเภทหนังสือขาด หนังสือเปียก ชำรุด หาย ฯลฯ ที่เคยเจอแล้วประทับใจมากมีครั้งนึง คือ หนังสือเปียก มีกลิ่นบุหรี่ สงสัยเอาเข้าไปอ่านตอนนั่งอึแน่ๆ 555 2.ลูกค้าบางท่านอยากได้หนังสือเล่มนี้มากๆๆๆๆ ขอซื้อเราแล้วเราไม่สามารถขายให้ได้ เพราะมันหาซื้อยาก ผ่านไปซักระยะจนเรา(เกือบ)ลืมไปแล้ว ลูกค้าคนเดิมมาเช่าหนังสือเล่มเดิมไปอ่านอีก วันต่อมาที่ต้องเอาหนังสือมาคืน ลูกค้าแจ้งว่า ทำหนังสือหาย -"- 3.การ์ตูนติดเรท (สมัยที่ยังไม่มีปัญหาลิขสิทธิ์) ตอนหลังต้องเช็คทุกหน้า เพราะโดนฉีกเฉพาะหน้าที่เรทๆ รวมทั้งนิยายแปลที่มีบทโรแมนซ์หวือหวา โดนฉีกเหมือนกัน 4.ทำหนังสือหาย ถ้าไม่เล่ม 1 ก็เล่มจบ หนังสือที่ว่า เป็นเรื่องที่ออกมานานมากกกกกกก หาซื้อไม่ได้แล้ว T__T 5.พวกการ์ตูนชุด ประเภทหลายเล่มจบ ถ้าหายไปซัก 1 เล่มแล้วหาซื้อมาซ่อมคืนไม่ได้ เราก็จะเสียลูกค้าบางส่วนที่เค้าไม่ชอบอ่านแบบไม่ครบชุด 6.เคยเจอลูกค้าเป็นคุณลุงท่านนึง เวลามาเช่าชอบจ่ายเป็นเหรียญสลึง+ห้าสิบสตางค์ นับจนมึน เคยติดเงินด้วย 1 บาท บอกว่าเอาเงินมาไม่พอ (เช่า 7 บาทเนี่ยนะคะคุณลุง T_T) พอวันต่อมามาเช่าอีก เราก็คิดเงินที่แกให้ไม่ครบวันก่อน (1 บาทก็เงินค่ะ) แกก็โวยว่าไม่ได้ค้าง เราก็เลยเอาเหรียญสลึง+ห้าสิบสตางค์ที่แกให้มาคราวก่อนให้แกดู บอกว่า นี่ไงคะ ที่คุณลุงให้มาเมื่อวาน หนูยังเก็บไว้เลย ขาด 1 บาท แกก็อึ้งๆไป ยอมจ่ายที่ค้าง 7.คุณลุงคนเดิม มาเช่าทุกวันก็บ่นทุกวัน ว่าให้เวลาเช่าน้อย ค่าเช่าแพง (ทั้งที่ร้านเราค่าเช่าถูกกว่าทุกร้านนะ) เราก็ชักไม่ไหว เพราะแกเป็นคนที่ีมีปัญหามากกกกกกกก เลยบอกแกนิ่มๆว่า คุณลุงคะ ปกติร้านหนูก็ไม่รับเหรียญสลึง+ห้าสิบนะคะ เพราะร้านหนูไม่ใช่โลตัส ถ้าคุณลุงไม่แฮปปี้ที่จะเช่าหนังสือร้านหนู คุณลุงไปเช่าร้านอื่นก็ได้นะคะ (เป็นครั้งแรกที่ไล่ลูกค้า T_T) แต่คุณลุงพูดหน้าตาเฉยว่า ไม่เอาอ่ะ อั๊วจะเช่าร้านลื้อนี่แหละ ไม่ไปเช่าร้านอื่นหรอก เราก็เลยใบ้กิน T_T ตอนหลังมารู้ว่า แกเป็นคนแบบนี้ ร้านอื่นเลยไม่ให้แกเช่า ร้านเราเลยตกเป็นเหยื่อ 555 8.ลูกค้าบางท่าน มาเช่าหนังสือ พอเราขอบัตรประชาชน+เงินมัดจำค่าหนังสือ ก็โวยวายว่า ทำไมต้องเอาบัตร ทำไมต้องเอามัดจำ อ้าววว เราก็ไม่รู้ว่าบ้านคุณอยู่ไหน คุณทำมาหากินอะไร ให้คุณเช่าโดยไม่มีมัดจำ ถ้าคุณไม่คืน เราจะไปตามหนังสือจากคุณที่ไหน หนังสือราคาก็ไม่ได้ถูก งงค่ะ 9.แรกๆที่ให้เช่านิตยสาร ประเภทรายปักษ์ (15 วันออก 1 เ่ล่ม) คิดค่าปรับน้อย ให้เช่าสองวัน เลยเจอลูกค้าท่านหนึ่ง เช่าเล่มนึง หายไปเป็นครึ่งเดือน ค่อยเอามาคืน แล้วก็มาเช่ืาปักษ์ใหม่ หายไปครึ่งเดือนอีก ลูกค้าที่ชอบอ่านนิตยสารท่านอื่นเลยไม่รอ เพราะนิตยสารเป็นอะไรที่คนอ่านชอบอ่านเล่มใหม่ๆอยู่แล้ว ถ้าเล่มเก่าจะไม่อัพเดท ไม่อยากอ่าน เราเลยขาดทุนค่าเช่ากับนิตยสารตลอด ตอนหลังมารู้ว่า เค้าเช่าไปแจกเพื่อนๆที่ทำงานอ่านด้วย ถูก ประหยัด ไม่ต้องซื้ออ่าน เล่มเดียวอ่านกันทั้งออฟฟิศ เราเลยแก้ปัญหาโดยการให้เช่าวันต่อวัน คืนช้าปรับเท่าราคาเช่า พอเปลี่ยนระเบียบการเช่านิตยสารกับหนังสือใหม่ๆปุ๊บ ลูกค้าคนนี้ไม่เคยเอามาคืนช้าอีกเลย 10.ลูกค้าที่ไม่คืนหนังสือ พอเจอกันข้างนอก (เป็นต่างจังหวัดค่ะ เลยเลี่ยงกันไม่พ้น เมืองเล็ก ต้องเห็นหน้ากันประจำ) เห็นเราปุ๊บ เกิดอาการคอเอียงทันที ขี่รถมอเตอร์ไซค์สวนกัน หรือเดินสวนกัน เค้าจะหันหน้าหนี ไม่ให้เราเห็นหน้า (ถึงไม่เห็นหน้าแต่ช้านเห็นตัวแกรนะเฟร้ยยย -"-) จำหน้าแม่นทุกคนที่ไม่คืนหนังสือ 555 11.ลูกค้าท่านนึง มาทุกวันที่ชั้นหนังสือล็อกเดิม อยู่ที่ร้านวันละ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ออกจากร้านโดยไม่เคยเช่าหนังสือเลย ผ่านไป 1 อาทิตย์ เราก็เลยถามเค้าว่า หาหนังสือที่ถูกใจไม่ได้เหรอคะ ให้ช่วยหาไหมคะ เค้าเลยเช่า Jojo เล่ม 43 ตั้ง 1 เล่ม O^O โอ้วววว ถ้าเราไม่ทัก เค้าคงอ่านจนจบชุดแล้วแน่ๆ 12.ลูกค้าอีกท่านนึงมาทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเหมือนคนแรก พอออกจากร้าน เช่าแต่เรื่องเดิมๆซ้ำๆ เคยเปิดดูหนังสือแต่ละเล่มที่ลูกค้าท่านนี้เช่าไป เจอรายชื่อลูกค้าท่านนี้เช่าเรื่องเดิมไปไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งในแต่ละเล่ม สงสัยอ่านเรื่องอื่นๆไม่ถูกใจ จริงๆมีอีกเยอะค่ะ แต่แค่นี้ก็คิดว่าเยอะแล้ว 555 อยากให้อ่านขำๆนะคะ คงไม่ว่าที่เมาท์ลูกค้า เพราะมันเป็นประสบการณ์ในอดีตที่เคยเปิดร้านหนังสือ ขอบคุณที่อ่านค่ะ จากคุณ : Tabiti เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 11:38:05