ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ฟังผ่าน ๆ ดูเหมือนจะมีบางขั้นตอนที่ไม่ค่อยถูกต้องน่ะครับอย่างเช่นการบอกว่าเงินเข้าธนาคารแล้วโดยที่มีคนมาเซ็นต์รับทราบแล้วพอตรวจสอบกลับไปปรากฎว่าเป็นใครที่ไหนก็ไม่ทราบ... ทำไปทำมาเหมือนการไปรษณีย์ไทยจะต้องมีเอี่ยวด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับที่บอกว่ามีคนเซ็นต์รับจดหมายไปแล้วทั้งที่จริง ๆ ไม่มีคนชื่อที่เซ็นต์รับอยู่จริง... ไม่ใครก็ใครต้องมั่วแล้วแหละครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 00:44:36

ความคิดเห็นที่ 3 ทางเจ้าของร้านน่าจะเล่นแง่มากกว่า คือเอกสารมาแล้วบอกไม่ได้รับบอกปัดกันดื้อ ดื้อ เรื่องอย่างนี้มีหรือจะไม่ทราบ ในเมื่อเพื่อนบ้านรับเงินและย้ายออกไปกันหมดแล้ว ถ้าทางเจ้าของร้านทำตามขั้นตอนที่เขาให้ใช้ตามสิทธิ์หรือติดตามเรื่องราวมาตั้งแต่ต้นก็น่าจะได้เงินมากกว่า10.2ล้านแน่นอนอ่ะ แต่นี่ได้ ตรว.ละ 130000บ. ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่แล้วนะครับ... จากคุณ : bb เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 01:31:45 A:183.89.174.191 X: TicketID:322641

ความคิดเห็นที่ 4 สรยุทธเจาะข่าวเด่น 14 กรกฎาคม 2554 http://www.youtube.com/watch?v=QIM_I2Ow8M0 จากคุณ : TungstenPalm เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 02:54:19

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องเล่าเช้านี้ 15 กรกฎาคม 2554 http://www.youtube.com/watch?v=q5JcK6DjbmA จากคุณ : TungstenPalm เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 02:54:47

ความคิดเห็นที่ 6 สรยุทธเจาะข่าวเด่น 18 กรกฎาคม 2554 http://www.youtube.com/watch?v=pNs43XYLPgk จากคุณ : TungstenPalm เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 02:55:15

ความคิดเห็นที่ 7 เรียก70 ล้าน จริงครับ ออกจากปากของลูกสาว ตอนออกทีวีครั้งแรก อ้างเรียกเผื่อต่อ จากคุณ : Eng G20 (Eng G20) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 02:56:47

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นอ้างว่ามีการใช้เอกสารเท็จอันนี้ไม่ทราบแต่คิดว่า รฟม.ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องทำแบบนั้น ผมเอียงไปฝั่ง รฟม. มากกว่า แต่ผมดูจบแล้วคิดว่า เออๆ คุณจะไปฟ้องใครว่าใครทำผิดขั้นตอน ทำเกินกว่าเหตุ จะไปฟ้องศาลปกครองหรือศาลอาญาอะไรก็ว่าไป แต่ก่อนอื่นช่วยย้ายออกมาก่อนได้มะ เขาจะได้ลงมือก่อสร้างกันเสียที โครงการเริ่มแล้วล่าช้า ค่าจ้าง ค่าปรับ ฯลฯ ที่ต้องเสียไปไม่ใช่มาจากไหน ภาษีพวกเรานี่แหละ ต้องเอาภาษีของคนกี่คนมาใช้เพื่อรอคนบ้านเดียวพอใจนี่มันใช่เรื่องไหม แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 03:09:37 จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 03:05:10

ความคิดเห็นที่ 9 รถไฟฟ้าทำถูกต้องตามขั้นตอนแล้วครับ ก๊อปมาจากเว็บนี้ เขาให้รายละเอียดไว้ครบถ้วนแล้ว http://www.sahanetilaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=315510&Ntype=1 การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ๑. กฎหมายที่เกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์                กฎหมายที่ใช้บังคับทั่วไปก็คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ การเวนคืน อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการต่างๆแม้จะมีกฎหมายเกี่ยวกับกิจการนั้น กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ต่างหากก็ตาม หากการใดไม่มีบทบัญญัติไว้โดยเฉพาะก็ให้นำเอาบทบัญญัติของกฎหมายหลักคือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาใช้ได้                กฎหมายที่เกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ เช่น                - พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๔ พ.ศ. ๒๕๓๔                - รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๔๙ (บัญญัติว่าการเวนคืนจะต้องชดใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรม ภายในเวลาอันควรแก่เจ้าของ ตลอดจนผู้ทรงสิทธิที่ได้รับความเสียหายในการเวนคืนนั้น ตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยการกำหนดค่าทดแทนให้อย่างเป็นธรรม โดยคำนึงถึงราคาที่ซื้อขายกันตามปกติ การได้มาสภาพและที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์และความเสียหายของผู้ถูกเวนคืน)                - พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามมาตรา ๖๘ (บัญญัติว่า เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างหรือขยายทางหลวง ถ้ามิได้ตกลงในเรื่องการโอนไว้เป็นอย่างอื่น ให้ดำเนินการคืนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์)                - คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๒๙๐/๒๕๔๑ ลงวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๑ (วางหลักเกณฑ์การกำหนดค่าทดแทน)                การพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์จำเป็นจะต้องพิจารณา หรือใช้กฎหมายที่มีใช้บังคับย้อนหลังไปอย่างน้อย ๒ ปี ถึง ๕ ปี กล่าวคือ พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๔๙๗ กำหนดการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนให้มีผลใช้บังคับระหว่าง ๒ – ๕ ปี (ถูกยกเลิก) แต่พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ฉบับปัจจุบัน มาตรา ๖ กำหนดให้มีผลใช้บังคับระหว่าง ๒ – ๔ ปี ซึ่งฉบับนี้ปัญหาฟ้องต่อศาลยังไม่เกิด จนกระทั่งมีการออกพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดินในบริเวณดังกล่าว และเมื่อมีการจ่ายหรือวางเงินค่าทดแทนอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกเวนคืน การใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี และจนกระทั่งขั้นสุดท้าย ผู้ถูกเวนคืนใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ซึ่งศาลจะพิจารณาคดีโดยนำข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้นย้อนหลังไปหลายปีขึ้นวินิจฉัย ดังนั้น กฎหมายที่เกี่ยวกับการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ถูกยกเลิกไป หรือเฉพาะส่วนที่ถูกยกเลิก อาจมีความจำเป็นต้องนำมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงที่เกิดย้อนหลังไป ๒. ขั้นตอนการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์                เมื่อรัฐมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการอันจำเป็น ฯลฯ ก็จะมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนแล้วเข้าทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนนั้น แล้วตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่กำหนดราคาเบื้องต้นและจำนวนเงินค่าทดแทนให้แก่ผู้ถูกเวนคืนแล้วประกาศให้ทราบ ต่อไปก็ตราพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งมีผลให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของ “เจ้าหน้าที่” คือ รัฐหรือหน่วยงานที่จำเป็นที่จะต้องเวนคืนอสังหาริมทรัพย์นั้น แต่เจ้าหน้าที่จะต้องจ่ายหรือวางเงินค่าทดแทนก่อนจึงมีสิทธิเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้น                บางกรณีอาจจะมีการตราพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ โดยมิได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาก็ได้ ซึ่งก็จะมีการตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์และจำนวนเงินค่าทดแทนเช่นเดียวกัน ๓. การกำหนดค่าทดแทน                ตามพระราชบัญญัติเวนคืน พ.ศ. ๒๕๓๐ ฉบับปัจจุบัน มาตรา ๒๑ เงินทดแทนให้กำหนดโดยคำนึงถึง                (๑) ราคาซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด (ในวันที่ออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน)                (๒) ราคาที่กำหนดไว้เพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ปกติต่ำมาก)                (๓) ราคาประเมินเพื่อเก็บค่าธรรมเนียมในการโอน (ปกติต่ำมาก แต่ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๓๕ กรมที่ดินได้ปรับราคาประเมินให้สูงกว่าเดิมมากขึ้น)                (๔) สภาพที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ และ                (๕) เหตุและวัตถุประสงค์ของการเวนคืน (ต่อมากฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ กำหนดให้คำนึงถึงความเสียหายของผู้ถูกเวนคืน)                เท่าที่ผ่านมาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น คณะกรรมการกำหนดค่าทดแทนให้ต่ำมาก ผู้ถูกเวนคืนเกิดความรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้จะใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังได้ตัวเลขค่าทดแทนที่ต่ำมาก จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาลต่อไป ผลปรากกว่าส่วนใหญ่ศาลพิพากษาให้ค่าทดแทนเพิ่มขึ้นจนเป็นที่พอใจ แต่ทั้งนี้จะต้องแล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป                ข้อสังเกต          ๑. ตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๔ วางหลักเกณฑ์เพื่อกำหนดค่าทดแทนให้สูงขึ้น (มาตรา ๑๐ ทวิ)                ๒. ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ ฉบับปัจจุบัน มาตรา ๔๙ บัญญํติถึงการกำหนดค่าทดแทนว่า “การเวนคืนจะต้องใช้ค่าทดแทนที่เป็นธรรมภายในเวลาอันควรแก่เจ้าของ ตลอดจนผู้ทรงสิทธิบรรดาที่ได้รับความเสียหายในการเวนคืนนั้นตามที่กฎหมายบัญญัติโดยการกำหนดค่าทดแทน ต้องกำหนดให้อย่างเป็นธรรม โยคำนึงถึงราคาที่ซื้อขายกันตามปกติ การได้มา สภาพและที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์และความเสียหายของผู้ถูกเวนคืน” ๔. การอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี                ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน ไม่พอใจในราคาอสังหาริมทรัพย์ หรือจำนวนเงินทดแทนที่คณะกรรมการกำหนด มีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือจากเจ้าหน้าที่ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่ให้มารับเงินค่าทดแทนนั้น ๕. การฟ้องคดีต่อศาล                ถ้าผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนไม่พอใจในคำวินิจฉัยของรัฐมนตรี หรือในกรณีที่รัฐมนตรีมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด ๖๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ ให้ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลภายในกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีหรือนับแต่วันที่พ้นกำหนด ๖๐ วัน นับแต่วันที่รัฐมนตรีได้รับคำอุทธรณ์ (ทางปฏิบัติส่วนมากรัฐมนตรีจะไม่วินิจฉัยอุทธรณ์)                ในกรณีรัฐมนตรีหรือศาลวินิจฉัยให้ชำระเงินค่าทดแทนเพิ่มขึ้นให้ได้รับดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดของดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารออมสินในจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น นับตั้งแต่วันที่ต้องมีการจ่ายหรือวางเงินค่าทดแทนนั้น จากคุณ : ไอ้คุณแหลม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 04:27:20

ความคิดเห็นที่ 10 เราอยู่ใกล้ ๆ ค่ะ บ้านอยู่รัตนาธิเบศร์ วันที่เค้าขนของ พอดีเราไปตลาดเช้า ผ่านหน้าร้านพอดี เช้าวันนั้นมีคอมมาโด กับตำรวจหลายนาย และมีคนงานพร้อมรถขนของ กำลังเตรียมแพคของลงลังอยู่ วันที่เราเห็นเนี่ยเป็นครั้งที่สองจากที่ครั้งแรกเจ้าของบ้านเอาปืนขู่ คราวนี้ตำรวจเลยมากันเต็มไปหมด ราคาที่ได้เนี่ย เราว่าน้อยไปจริง ๆ ค่ะ แต่เค้ามีขั้นตอนให้ไปอุทธรณ์ ทำเลแบบนี้คงหาไม่ได้อีก ตอนนี้ตึกแถวใหม่ ๆ ในเขตชุมชนเนี่ย หาไม่ได้หรอก แต่ถ้าเป็นเรา เราคงไปต่อสู้ตามกฎหมายให้ได้เงินเพิ่มมากกว่า เพราะห้องข้าง ๆ แก ที่เป็น 7-11 เนี่ย เค้ายอมย้ายไปตั้งนานแล้ว ร้าน 7-11 น่าจะเงินดีกว่าร้านขายยาด้วยซ้ำนะ มุมนั้นมีร้านนี้ร้านเดียวที่เหลืออยู่ ทาง รฟม เลยต้องใช้ไม้แข็ง วันนั้นเห็นกันทั้งตลาดพระนั่งเกล้า ผ่านแผงไหน ก็ไม่มีใครเห็นใจเค้า ทุกคนว่า เจ็ดสิบล้านเนี่ยมันมากเกิน จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 07:22:56

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งที่ รฟม. ชี้แจง มันไม่มีผลประโยชน์มาถึงพนักงานคนใดเลย ทุกคนได้เงินเดือนเท่าเดิม ปฏิบัติงานตามหน้าที่เหมือนเดิม ... แต่สิ่งที่ร้านยาห้องแถวแสร้งโหวกแหวกโวยวายอยู่ก็คืออยากได้เงินแบบไม่สมเหตุสมผล กะรวยภายในข้ามคืน ... แล้วสรรหาคำสวยๆ อย่าง "ความชอบธรรม" มาอ้างก็แค่นั้นเอง จากคุณ : คนเล็กนักเรียนโต เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 09:00:56

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับทุกคน...ข้างบน               โดยเฉพาะความเห็นที่ 2,3,9,10.... จากคุณ : Peacefulmean เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 09:17:24

ความคิดเห็นที่ 13 บ้านแถวสะพานพระราม 8 เป็นสลัมเนื้อที่เล็ก ไม่ติดถนนใหญ่ ยังได้หลักไม่ต่ำกว่า ล้านเลย..................... น้าต่อรองราคาแบบ พอใจทั้งสองฝ่ายนะ ไม่น้าเกิน 30 ล้าน.............และไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน............... แต่สำหรับผม 25 ล้านกำลังดี ซื้อบ้านติดถนนได้ ................. 10 ล้านมันต่ำเกินไป......... แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 09:51:14 จากคุณ : ฟามลับ (ohiyo_eak) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 09:50:48

ความคิดเห็นที่ 14 การที่เค้าจะเวนคืนที่ในสายทางรถไฟฟ้า เค้าจะให้ความสำคัญกับบ้านหลังที่ถูกเวรคืนมาก ฉะนั้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยคิดต่อโดยตรง  และจะมีการแจ้งหลายครั้งเป็นไปตามขั้นตอน ราคาประเมินก็ไม่ได้มั่ว ๆ ให้ต้องมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตีราคาประเมิน บ้านหลังอื่น ๆ เค้าก็ไม่มีปัญหา แต่ร้านขายยาก็ทำเิกินไป ต้องการเงิน 70 ล้าน ภาษีประชาชนนะที่ต้องไปจ่ายให้พวกคุณ และยังให้ข่าวมั่วว่าไม่ได้รับแจ้งอีก...กรรม จากคุณ : Qing Ling เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 10:00:03

ความคิดเห็นที่ 15 คห 2 ใช้คำสรรพนามเรียกผู้อื่นให้มีสัมมาคารวะมั่ง คำก็ลูกเจ๊กๆ ขอถามหน่อยเหอะแล้วตัวคนพูดเองนะลูกใคร (ว่ะ)? จากคุณ : คนที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 10:52:06 A:119.42.66.154 X: TicketID:255841

ความคิดเห็นที่ 16 โครงการสายสีม่วงเริ่มสำรวจตั้งแต่ ก.พ. 2549 ทั้งทำการศึกษาความเป็นไปได้ และสำรวจพื้นที่ ทั้งสำรวจดิน และที่ไม่พลาดเลยคือการทำประชาพิจารญ์เพื่อแจ้งข่าวให้ผู้ถูกกระทบ และหลายรอบด้วย ทั้งประชุมทั้งส่งเอกสาร แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้ามีชาวบ้านถูกกระทบแล้วจะเลิกโครงการ ไม่ได้หมายความว่าคนส่วนน้อยจะมามีอำนาจให้โครงการพัฒนาชาติยุติได้ แต่สิ่งที่รัฐกำลังทำอยู่คือจะแก้ไขการกระทบอย่างไร จะบรรเทาความเดือนร้อนคนส่วนน้อยอย่างไร จะมีมาตรการอย่างไรให้เกิดความยุติธรรม จ่ายให้คนนึงปกติ อีกคนเรียกร้องมากเกินก็ยอมจ่ายเพราะถือว่า "เค้าเรียกร้องความชอบธรรม" ก็คงไม่ใช่ แล้วยังมีหน้าบอกว่า "ก็ยอมรับนะคะว่าโครงการเป็นสิ่งที่พัฒนาประเทศชาติ แต่ถ้ากระทบกับครอบครัวหนู...อุ๊ยหรือครอบครัวคนอื่นๆ ก็ลองชั่งน้ำหนักดู" (ลูกสาว) ก็เค้าชั่งน้ำหนักแล้วถึงออกมารูปแบบนี้ และให้โอกาสแล้ว แต่คนที่ไม่ชั่งน้ำหนักคือคุณนั่นแล่ะ คนอื่นก็ไม่เห็นมีปัญหา เป็นอยู่คนเดียว ไม่รู้สึกว่าเป็นตัวปัญหาหรอ จากคุณ : SK-II (SiangKaen) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 11:05:33

ความคิดเห็นที่ 17 ราชการที่ไหนจะซื้อตามราคาตลาด สาธร สุรวงศ์ หมู่บ้านเสรีโดนตัดถนนทั่วหน้า คิดราคาตลาดก็ตรูดบานพอดี ถือปืนมั่วๆ เป็นอเมริกา โดนยิงเดี้ยงไปแล้ว ตำรวจเค้าดุ ไม่ใจดีเหมือนเมืองไทย จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 11:07:35 A:115.87.71.94 X: TicketID:320807

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าจ่ายให้ในราคาที่รับได้คงไม่มีปัญหาหรอกครับ (ไม่ต้องถึง 70 ล้าน) ผมเห็นคนรู้จักที่อยู่ญี่ปุ่นบอกว่า ถ้าโดนเวรคืนสร้างอะไรก็แล้วแต่ เขาฉลองกันใหญ่ครับ   เพราะเหมือนกับถูก Lotto เลย เพราะเขาจ่ายเยอะมาก และรวมค่าขนย้ายค่าเสียเวลาด้วย จากคุณ : ZOFFY เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 11:19:46

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นพูดกันถึงราคาประเมินราคาตลาดเลยขอเข้ามาแสดงความเห็นตามที่เคยได้ยินมาบ้าง  ผิดถูกขออภัย  กรมที่ดินมีการประเมินราคาเป็นระยะ ๆ ครับ  แล้วเขาก็ประเมินจากราคาที่แจ้งซื้อขายกันนั้นแหละ  แต่เวลาซื้อขายกันทั้งคนซื้อคนขายก็ไม่อยากเสียภาษีเสียค่าธรรมเนียมกันมาก  ก็แจ้งเท็จกันเสียส่วนใหญ่  ราคาประเมินมันถึงแปลก ๆ ไปทั่วประเทศ     เห็นใจผู้ที่ถูกเวรคืนทุกท่าน  ทั้งกรณีนี้และกรณีอื่น ๆ   เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องถูกด่าในรักษาหน้าที่ด้วยเหมือนกัน   แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 11:41:20 จากคุณ : marupong เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 11:28:11

ความคิดเห็นที่ 20 การส่งจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ตอบรับน่ะ  ไม่ต้องให้เจ้าของบ้านหรือคนที่ถูกจ่าหน้าเซ็นต์รับเองหรอก  เพียงแต่ส่งให้บุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วที่อยู่ในบ้านเป็นคนลงชื่อรับแทน  กฎหมายก็ให้ถือว่าได้ส่งโดยชอบแล้ว  ไม่อย่างนั้น ลองคิดดูว่าคนส่งมันจะเล่นตุกติกขนาดส่งจดหมายทางไปรษณีย์ แล้วแอบส่งคนมาเซ็นต์รับแทนที่บ้่านคนรับเหรอ   หรือว่าจะสมคบกับไปรษณีย์เล่นตุกติก   มันจะคิดซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนี้เหรอ ลูกจ้างในร้านขายยาเซ็นต์รับจดหมาย  หรือ รปภ.ของอาคารเซ็นต์รับจดหมาย  ก็ถือว่าได้รับแทน   ถือเป็นการส่งโดยชอบแล้ว  จะไปอ้างได้ไงว่าใครไม่รู้เซ็นต์รับ จากคุณ : ละอ่อนธรรม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 11:46:01

ความคิดเห็นที่ 21 ปกติไปรษณีย์ส่งจดหมายที่มีการลงทะเบียนตอบรับ คนไปรษณีย์เขาจะถามว่า คนรับเป็นอะไรกันกับผู้จ่าหน้าซองของจดหมาย ไปดูได้ที่สมุดหรือใบลงนามเซ็นต์รับ จะมีช่องไว้ให้กรอกว่าความสัมพันธ์เป็นอะไรกัน? จากคุณ : คนที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:08:28 A:119.42.66.154 X: TicketID:255841

ความคิดเห็นที่ 22 ...กม. เวนคืน ออกมาเพื่อกันพวกหัวหมอ... ...และ เพื่อความรวดเร็ว จึงเป็น กม. พิเศษ... ...กม. ได้รับการยอมรับออกมาแล้ว... ...ปัญหาคือ เจ้านี้ ไม่ยอมรับ เงินที่ได้... ...และ ไม่ร้องเรียนตาม ช่องที่เปิดให้... ...แต่เรียกเงินเพื่อให้ รฟม. มาต่อรองเอง... ...ถ้าทุกคนทำอย่างนี้ จะมี กม. เวนคืนไปทำไม... ...ชาติหน้า ก็เวนคืนอะไรไม่ได้... ...พอเขาบังคับใช้ กม. เข้ารื้อถอน ก็ออกมาดราม่า ...ว่า โหดร้าย ทำเกินไป เพื่อโจมตี รฟม. ...อย่างนี้ ไม่ไหว จากคุณ : ซีมาสเตอร์ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 13:28:27

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่าเจ้าของบ้านเริ่มเบี่ยงเบนประเด็น ประเด็นหลักคือเขาไม่ยอมย้ายถ้าไม่ได้รับเงินค้าเวณคืนตามที่ต้องการ ส่วนหลักฐานอื่นๆหรือแสดงให้คนอื่นๆรับทราบว่าไม่รับข้อมูลใดๆทางรฟม.นั้นหรือรฟม.แสดงหลักฐานเท็จเป็นเพียงข้ออ้างมากกว่า มีที่ไหนเขาจะทุบอาคารทั้งแถบข้างบ้านติดกันเขาก็ย้ายออกได้รับเงินทดแทนกันหมดแล้ว แต่คุณกลับบอกไม่รู้เรื่องนี้จดหมายก็ไม่รู้ใครเซ็นรับ คุณโง่หรือคุณโง่จริงๆ วันๆหนึ่งไม่ออกจากร้านหรือคุยกับเพื่อนบ้านหรือติดตามเรื่องเกี่ยวกับบ้านคุณเองบ้างเลยเหรอ คุณคงคิดว่าผู้ชมทางบ้านโง่สิน่ะ ข้างบ้านเขาย้ายของออกกันหมดแต่เหลือบ้านคุณไม่รู้เรื่อง นับวันยิ่งออกทีวีผู้ชมทางบ้านก็ยิ่งเกลียดกริยาที่คุณแสดงออกทีวีเพิ่มขึ้นทุกที ออกๆไปเถอะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ก่อนที่ชาวบ้านแถวนั้นจะเกลียดคุณไปมากกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 14:20:45 จากคุณ : darakorn เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:13:58

ความคิดเห็นที่ 24 ในฐานะที่บ้านถูกเวนคืนเหมือนกัน แต่ของเราริมถนนจรัญสนิทวงศ์ค่ะ เป็นร้านค้าเช่นกัน แต่กิจการคนละประเภท อยากบอกว่าค่าเวนคืนที่ได้ไม่คุ้มหรอกค่ะ ของเราตึกแถว 3 ห้องได้ไม่กี่ล้าน ถ้าต้องสร้างตึกใหม่จำนวนเงินที่ได้รับชดเชยไม่พอสร้างจริง ๆ แล้วยังเรื่องทำเลอีก ราคาซื้อขายที่ดินละแวกนี้ก็ขึ้นพรวด ๆ เพราะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมา แต่มันไม่มีประโยชน์ที่จะขวางราชการ มันเป็นการพัฒนาเพื่อประโยชน์สาธารณะค่ะ โดนเวนคืนก็ถือว่าซวยอะ ทำไงได้ หากไม่พอใจราคาก็ทำได้เพียงแค่ยื่นคำร้องและฟ้องต่อศาลปกครองตามระบบนะคะ อย่างเราฟ้องแล้วก็ไม่ได้เพิ่ม ก็จบ ไม่ว่ายังไงการกีดขวางแบบจระเข้ขวางคลองแบบนี้มันก็เห็นแก่ตัวค่ะ ไร้ประโยชน์ด้วย อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้เกิดแก่รัฐด้วย ซึ่งก็ต้องใช้เงินภาษีประชาชนนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 14:39:57 จากคุณ : Someday I'll Know เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 14:38:08

ความคิดเห็นที่ 25 จะให้เงินเท่ากันได้ไง ในเมื่อถนนหลักที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงตัดผ่านคือ รัตนาธิเบศร์ ซึ่งร้านเซเว่นก็อยู่ใกล้มากกว่า ... หรือจะให้เปรียบธุรกิจในเครือเจ้าสัวซีพี กับร้านยาห้องแถวก็เปรียบไม่ได้อีก ถ้าเจ้าสัวซีพีนั่งดูอยู่คงขำน้ำตาไหล ... เห้อ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 15:00:51 จากคุณ : ลูกขุน 747 (ลูกขุน747) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:00:16

ความคิดเห็นที่ 26 ทำไมเขาเวนคืนมาทั้งโครงการไม่เห็นมีปัญหา ทำไมต้องมามีปัญหากับร้านนี้ร้านเดียว มันน่าคิดนะ จากคุณ : หูกระจง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 15:48:22

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 23 ครับ ชาวบ้านออกไปจนหมดแล้ว  ตัวเองบอกไม่รู้เรื่อง เพื่อนบ้านไม่มีหรอครับ ชาวบ้านไม่ได้พูดถึงเลยหรอครับ แล้วเห็นตอม่อที่จะผ่านบ้านพวกคุณไหม มันจ่อมากแล้วนะครับ จากคุณ : comstupid เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 16:28:39

ความคิดเห็นที่ 28 ดูมาเมื่อสัปดาห์ก่อนและสัปดาห์นี้อีกสองวัน รู้สึกว่าคนลูกสาวนี่เขี้ยวลากดินทีเดียว สรรหาทุกอย่างมาอ้าง มาด่าลุงคนใส่แว่น สงสารลุงแกจริงๆ หนูตายนะคะ หนูไม่มีงานนะคะ หนูไม่เคยได้รับค่ะ หนูไม่เซ็น ฯลฯ จากประสบการณ์ขอบอกว่าเธอเขี้ยวมากๆ จากคุณ : Tomorrow she must be my girl. เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 17:47:26

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ marupong (คคหที่ 19) คะ ขอชี้แจงเรื่องราคาประเมินของกรมที่ดินค่ะ ที่บ้าน 10 ปีก่อน ตารางวาละเท่าไหร่ เมื่อวันก่อนไปกรมที่ดิน....ถามราคาประเมิน ราคาเท่าเดิม.... ทั้งๆที่บ้านติดถนนใหญ่ การจราจรดีขึ้นมาก รถเมล์มากขึ้น คนย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น ราคาขายตามท้องตลาดสูงขึุ้้น มีอุโมงค์ มีสะพายลอยทั้งรถข้าม และคนข้าม  เรียกว่าทุกอย่างดีขึ้นค่ะ ถามคนที่ทำงานในกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ก็จะไม่มีการประเมิืนใหม่ค่ะ (แล้วที่เห็นทุกวันนี้ ยังไม่ชัดอีกหรือคะ) จากคุณ : ปุยปุย เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 17:55:41

ความคิดเห็นที่ 30 ดูแล้วคุณลูกสาว ชีเยอะนะคะ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากเกินไปรึปล่าว จากคุณ : Anny_love love เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:07:21

ความคิดเห็นที่ 31 เพิ่งดูเรื่องเด่นเย็นนี้จบเมื่อกี๊ ยิ่งเห็นกำพืดของ2พ่อลูกนี้ ตอนท้ายหนูจบเภสัชน่ะค่ะ ไม่ได้จบกฎหมาย........... ส่วนผมก็ไม่ได้จบกฎหมายเหมือนกันน่ะครับ แต่ขอร้อง ออกเถอะครับประชาชนทุกคนเขาโหวตให้คุณแล้ว........ เงินเวณคืนของรัฐถึงจะไม่มากเท่าราคาที่คุณควรได้ 70กว่าล้าน แต่ก็มาจากภาษีของประชาชนคนไทยทุกๆคน........ สุดท้ายคุณเรียนจบขนาดนี้พร้อมเงินเวณคืนประมาณ10ล้าน ถามจริงๆว่า ที่พูดนั้นคิดจริงๆเหรอ ที่บอกว่าไม่รู้จะไปซุกหัวนอนที่ไหน ปล.เพิ่งเห็นคุณสรยุทธของขึ้นก็งานนี้หล่ะ5555 จากคุณ : darakorn เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:14:37

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ว่า มีการแจ้งให้ เจ้าของบ้านทราบว่าจะต้องทำการรื้อถอนอย่างเด็ดขาดล่วงหน้าหรือเปล่า เพราะเท่าที่ดู 1. การโอนเงินเข้าธนาคารออมสิน เกิดขึ้นภายหลัง(จากการบุกเข้ายึด) และไม่ครบจำนวน 2. มีการแจ้งผ่านไปรษณีย์ แต่ไม่มีการเซ็นต์รับ ซึ่ง น่าจะมีให้ จนท เข้าไปติดประกาศแจ้ง(คล้ายๆกับการติดหมายศาล) ถ้าแจ้งแล้ว เจ้าของทราบแล้ว แล้วดื้อ ไม่ยอมออก ที่เข้ารื้อแบบที่เห็นก็น่าจะเป็นที่ยอมรับได้ แต่ถ้าไม่มีการแจ้ง เจ้าของบ้านไม่ได้รับทราบด้วย ไม่รู้เรื่องเงินที่โอนไปไว้ที่ ธนาคารออมสิน ผมว่าการบุกยึดแบบที่เห็นก็รุนแรงเกินไปมาก อีกทั้งของที่ยึดไปก็จะมีปัญหา เพราะไม่ว่าจะหายจริงหรือไม่จริง ก็จะมีปัญหากับ เจ้าของ แน่ๆ จากคุณ : LazBue เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:17:10

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่อง 70 ล้าน เยอะไปจริงๆ แต่เท่าที่ดู เขาก็ไม่ได้ว่าต้องเอา 70 ล้านให้ได้ ไม่ได้ไม่ออก แต่การร้อง การฟ้อง ก็ต้องเอามากไว้ก่อนอยู่แล้ว ไม่ใช่หรือครับ จากคุณ : LazBue เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:18:58

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ยินข่าวทีแรกคิดเลยว่า รฟม. ผิด เพราะปกติความเห็นเริ่มต้นของผมมักจะเอนเอียงมาทางผู้เืดือดร้อนอยู่แล้ว แต่หลังจากดูเรื่องเด่นเย็นนี้ทั้ง 2 วัน ที่สองฝ่ายมาออกรายการพร้อมกัน ผมว่า รฟม. "ไม่ผิด" แต่สองพ่อลูกนั่นแหละ "เขี้ยว" งานนี้ รฟม. ดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่ร้านขายยาเล่นเกมเพื่อจะเอาค่าเวนคืนที่สูงมาก (จนเกินไป) อย่างกรณีส่งเอกสารทางไปรษณีย์มีคนเซ็นต์รับเรียบร้อย แต่ร้านขายยาบอกว่าอยู่ร้านทุกวัน รับเอกสารเอง แต่เอกสารนี้ไม่ได้รับ ไม่รู้ว่าใครรับ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะไปรษณีย์เขาส่งเอกสารสายหลังจากร้านเปิดแล้วแน่ๆ (ร้านเปิดแปดโมง) เวลา รฟม. พูดอะไร ตัวลูกสาวจะพูด (สอด) ตลอดเวลาว่าขอดูหลักฐาน แม้ทาง รฟม. บอกว่าเห็นด้วยตาเขายังถามว่ามีหลักฐานรูปถ่ายไหม แต่ขณะที่ รฟม. มีหลักฐานเอกสารเซ็นต์รับแล้ว ทั้งเอกสารไปรษณีย์ตอบรับ และเอกสารอื่น ถ้าเป็นเอกสารที่ตัวเองเสียเปรียบก็จะยืนยันอย่างเดียวว่าไม่รู้เรื่อง "ขอความเป็นธรรม" สำหรับคนที่มีสำนึก หากเกิดกรณีนี้ควรจะรีบขวนขวายใช้ช่องทางที่ รฟม. เปิดให้ จะเจรจา จะอุทธรณ์อะไรก็รีบทำ ไม่ใช่เล่นเกมแบบนี้ เห็นแล้วหมดสงสาร เรื่องเชื้อชาติผมว่าไม่เกี่ยวกับ ไม่ใช่ว่าร้านขายยาร้านนี้มีเชื้อจีนแล้วจะไปว่าเขา เพราะเชื้อชาติไทยแท้ๆ ก็ไม่ได้ต่างกัน ที่บ้านนอกมีเยอะแยะไปที่ชาวบ้านไทยแท้บุกรุกปลูกบ้านอยู่ในที่หลวง อยู่ในเขตทางหลวงบ้าง ริมคลองชลประทานบ้าง พอถึงเวลาหลวงต้องการใช้ที่ดินขึ้นมาก็จะเกิดปัญหา ขอค่ารื้อถอน ทั้งที่เข้ามาอยู่แบบผิดกฎหมาย และหลวงเขาก็ไม่ได้คิดค่าเช่ามาตลอด พอถูกรื้อถอนก็ร้องว่าหลวงรังแก กรณีบ้านนอกนั้นเข้าใจ เพราะการศึกษาน้อย เขาก็คิดของเขาง่ายๆ แต่กรณีร้านขายยา การศึกษาสูง แต่พฤติกรรมไม่ต่างจากคนบ้านนอก แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าไร้การศึกษา แต่เรียกว่า "เห็นแก่ตัว" จากคุณ : oddy.freebird เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:23:57

ความคิดเห็นที่ 35 นู๋จบเภสัช ไม่ได้จบกฏหมาย ถ้าใช้ตรรกะนี้กันทุกคน ประเทศชาติจะยุ่งแน่ จากคุณ : อริยสัจ4 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:24:02

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ ปุยปุย (คคหที่ 29) ครับ การประเมินราคาที่ดินตอนนี้ไม่ได้ขึ้นกับกรมที่ดินนะครับ หน่วยงานที่ทำการประเมินราคาคือกรมธนารักษ์นะครับ จะมีการประเมินราคาเป็นระยะครับ ไม่แน่ใจว่าประเมินใหม่ทุกปีหรือเปล่า จากคุณ : MetalMan (bugae) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:26:19

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณ คุณ MetalMan (bugae) ค่ะ ไม่ทราบจริงๆค่ะ ว่าใครประเมิน แต่จริงๆก็ยังสงสัยว่า ทำไมประเมินเท่า 10 ปีที่แล้วคะ (10 ปีก่อนไปโอนที่ดิน.....ปีนี้ไปโอนบ้านค่ะ เพิ่งรู้ค่ะ ว่าต้องโอนบ้่านด้วย ไม่ใช่บ้านติดมากับที่ดินที่รับโอนมาแล้ว) เลยอยากรู้ราคาประเมินขึ้นมา..... สงสัยเพราะมีนักการเมืองแถวนี้หลายท่านรึเปล่าคะ ราคาประเมินเลยขึ้นไม่ได้.... ท่านๆ จะได้เสียภาษีกันน้อยๆ จากคุณ : ปุยปุย เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:37:01

ความคิดเห็นที่ 40 แรกๆบอกตามตรงน่ะครับว่ารู้สึกสงสารเขาจริงๆ แต่พอดูบทสนทนาระหว่าง2ฝ่ายแล้วรู้สึกได้ว่า "เขาทำตัวของเขาเอง" จากคุณ : darakorn เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:46:34

ความคิดเห็นที่ 41 คห. 37 คุณปุยปุยไปเอาราคาประเมินทุนทรัพย์ของกรมที่ดินมาเปรียบเทียบ คงไม่ได้มั้งครับ  ของกรมที่ดินเป็นราคาประเมินเพื่อใช้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ไม่ใช่สำหรับเป็นราคารประเมินเพื่อจ่ายค่าเวนคืน   ดังนั้น  คุณดูของปีนี้กับ 10 ปีที่แล้วก็ไม่แปลกหรอกครับ จากคุณ : ละอ่อนธรรม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:47:47

ความคิดเห็นที่ 42 เรียนคุณปุกปุยครับ แล้วราคาที่ดินของร้านวีวี ราคาประเมินกรมที่ดินมันแค่ 4 หมื่นกว่า แต่ได้ราคาเวณคืนตารางวาละ 130,000 มันยังต่ำไปหรือครับ คุณ MetalMan ที่ดินมีการประเมินใหม่ทุก 4 ปีครับ จากคุณ : Eng G20 (Eng G20) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 18:54:17

ความคิดเห็นที่ 43 ผมรู้แค่ว่า  ร้ายขายยาตระกูลนี้เปิดกิจการอยู่ที่ไหน ผมจะไม่ขอเข้าไปใช้บริการครับ จากคุณ : babyonboard เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 19:08:32

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนแรกก็ คิดว่า การที่ไปรื้อทำลายร้านเขา ดูเกินกว่าเหตุ แต่พอมาฟังยัยเจ๊ลูกสาวแล้วได้แต่คิด ยัยนี่ท่าจะเเรง ไม่ธรรมดา และไม่มีมารยาทสุดๆ เหน็บแนมสอดตลอด เอ้อ..เรียกสูงๆนะเงินภาษีทั้งนั้น - - จะเอากันถึงขนาดไหนคะ - - ใจโอนไปทาง รฟม แล้วค่ะ เพราะทางนั้นมีขั้นตอนชัดเจน เขาทำเรื่องเรียบร้อยกันทุกบ้าน จะพลาดแค่บ้านเจ๊ได้ไง จากคุณ : พี่น้องที่เคารพ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 19:18:09

ความคิดเห็นที่ 45 ดู 2 พ่อลุกแล้วกลายเป็น เอาตัวเองมาประจานให้คนทั้งประเทศรับรู้ว่าตัวเองกำลังโชว์ความงี่เง่าอยู่ เขาคงคิดว่าความคิดเขาฉลาดหลักแหลมมากมายเป็น เภสัช คะ แล้วงัย คุณน้องออกทีวีกรามบานเชียว ทีแรกก็คิดว่า รฟม.น่าจะผิด แต่ผิดคาดครอบครัวนี้เจอคนฉลาดหลักแหลมกว่า จากคุณ : หนอนน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 19:36:08

ความคิดเห็นที่ 47 ขอเถิดครับ อย่านำเรื่องเชื้อชาติมาเป็นประเด็นความขัดแย้งเพิ่มเลย ผมเองก็เจ๊กเต็มร้อยที่ใจเป็นไทยล้านเปอร์เซนต์ไปแล้ว แม้หน้าตาจะบ่งบอกแบบกลมกลืนกับผู้คนเวลาไปจีน แต่ผมบอกพวกเขา ทุกครั้งว่าผมเป็นคนไทย  ดีชั่วอย่างไรอยู่ที่การกระทำของคนคนนั้น ทราบหรือไม่ครับว่า ลูกเจ๊กก็เป็นผูู้กู้เอกราชของชาติไทยจากพม่ามาแล้วครับ สำหรับกรณีนี้ดูมาตั้งแต่ต้น แรกเริ่มผมออกจะเห็นใจสองพ่อลูกที่ถูกเวนคืน แต่ดูจนจบวันนี้ ต้องยอมรับว่าเห็นใจไม่ลงจริงๆกับความดื้อรั้นและเห็นแก่ตัว เป็นเรื่องแปลกที่ผูู้เสียหายกลับมีกระแสสังคมที่จะเห็นใจน้อยมากขนาดนี้ หากทั้งสองท่านได้มีโอกาสมาเช็คเรตติ้งของตนเองในพันทิป ผมก็ขอความกรุณาให้ลองไปคิดทบทวนสักนิดในสิ่งที่ท่านได้กระทำลงไป และเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังไม่สาย  ย้ายออกไปเถิด หากไม่พอใจยังมีกระบวนการต่างๆ ทางกฏหมายให้ดำเนินการได้ หากทำตามนี้ คงจะมีคนให้ความเห็นใจเพิ่มขึ้นบ้างครับ จากคุณ : gunsue เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 20:48:07

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่าทาง รฟม. ไม่อยากคุยตั้งแต่วันที่พี่ชายเขาเอาปืนออกมาแล้ว  ในทางปฎิบัติถ้าเขาประเมินว่าคุยไม่รู้เรื่องเขาก็ลุยแบบดิบๆแบบนี้ล่ะเพื่อให้มันจบๆไป   ดูจดหมายซะก่อนพ่อลูกเขาบอกแล้วรฟม.ว่าไม่รับรองความปลอดภัย   ไม่มีใครในหน่วยงานอยากไปเสี่ยงกับลูกปืน รื้อร้านนี้ได้ก็ไม่ได้ตำแหน่งหรือโบนัสเขาก็แค่ทำงานของเขา    แถมมีชายชุดดำด้วย ซึ่งทางนั้นอ้างว่ามาแค่วันเดียว  แต่หน่วยงานที่จะทำงานเขาจะไปรู้ได้ไงมากี่วัน อยู่ไม่อยู่   เกิดรื้อไปเจอรออยู่ในบ้านยิงสวนออกมา เขาก็ต้องพาตำรวจมาเต็มพิกัดแบบนี้ จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 21:37:46

ความคิดเห็นที่ 49 เกลียดพ่อลูกคู่นี้จิงๆ หัวหมอจิงๆ ให้:-)เจ๊งๆทุกสาขาเลยป่ะ บอกไม่มีที่ซุกหัวนอน ให้มันสมพรปากมันละกัน จากคุณ : เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 21:50:33

ความคิดเห็นที่ 50 i agree with mostly comments, respectfully. p.s. it is impossible for this small old commercial building in out of the town cost 2,5 millionDOLLARS. where is it ? ... london, timesquare, l.a., or ........ wake up pleaseeeeeeee จากคุณ : stupid เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 22:03:34 A:138.188.100.234 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 51 สรยุทธเจาะข่าวเด่น วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2554 http://www.youtube.com/watch?v=dsUvFtLjGpg จากคุณ : TungstenPalm เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 22:04:10

ความคิดเห็นที่ 52 ถ้าคนไทยทุกครอบครัวคิดแบบร้านขายยาร้านนี้ ประเทศไทยคงไม่ต้องพัฒนากันแล้ว เข้าใจครับว่าบ้านใครใครก็รัก แต่บางครั้งก็ต้องคิดถึงส่วนรวมบ้าง เค้าก็ไม่ได้ไล่ออกเฉยๆ เรื่องเงินที่เค้าจ่ายถ้าน้อยไปยังไงทำไมบ้านอื่นเค้าถึงยอมรับกันได้ จากคุณ : นายกานต์ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 54 22:55:01

ความคิดเห็นที่ 53 ลูกสาวนี่ท่าทางจะแรงไม่เบา จากคุณ : chirasak1980 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 00:16:02

ความคิดเห็นที่ 54 "บ้านพี่สาวผมก็ถูกเวนคืนนะครับ ไม่ได้มีปัญหา โดนของการทางพิเศษ เราให้ความร่วมมือด้วยดี และไม่อุทธรณ์ ไม่ฟ้องคดีด้วย แม้จะได้ต่ำกว่าคุณเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ไม่มีปัญหาครับถ้าเรารู้จักกฎหมายคือกฎหมาย" ... รองรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการ รฟม. -------------------------------------------------------------------------- "หนูจบเภสัชค่ะ หนูไม่ได้จบทนาย" ... หมวยห้องแถวร้านยาวีวี -------------------------------------------------------------------------- จากความรู้สึกส่วนตัวเลยนะครับ ... ผมเอือมระอาหมวยมาก เถียง แถ แท๊ด แท๊ด หาจุดยืนอะไรไม่ได้ แฝงไปด้วยผลประโยชน์แบบไม่ลืมหูลืมตา เป็นอุปสรรคขัดขวางความเจริญของชาติ รกโลกจริงๆ ครับหมวย จากคุณ : คนเล็กนักเรียนโต เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 00:18:53

ความคิดเห็นที่ 55 ดูข่าวตอนแรกก็เข้าข้างร้านยาอยู่นะ เพราะดูว่า รฟม จะรุนแรงไป แต่พอฟังไปเรื่อยๆ ก็คิดว่า รฟม ก็ทำตามขั้นตอนแล้วนี่ (ถึงแม้ว่าคุณลูกสาว จะพูดแทรกจนทำให้งงข้อมูลบ้างเล็กน้อย) แต่ร้านยานี่แรงนะ ดูเหมือนจะไม่ยอมอะไรเลย แต่พอได้ยิน 70 ล้านเข้าไป คิดในใจว่า สมควร เจอร้านนี้เข้าไป รู้สึกขอบคุณเจ้าของบ้านทุกหลัง ร้านทุกร้านที่โดนเวนคืนในทุกสถานีของรถไฟฟ้าทุกสาย ถนนทุกสาย มากๆเลยค่ะ ที่เสียสละให้เราได้รับความสะดวกสบายกัน จากคุณ : battery ไฟอ่อน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 00:46:31

ความคิดเห็นที่ 56 ... เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 11:49:56

ความคิดเห็นที่ 57 การ "บีบให้คนเสียสละเพิื่อส่วนรวม" นะ ใช้ ราคาประเมินรูปแบบปัจจุบันของรฟม. เหมาะสมแล้วหรือครับ? ควร X 2 ไปเลยครับ เป็นค่าหาที่อยู่ใหม่ และค่าความเสียสละบ้านของพวกเค้า ล่าช้า 1 วัน ดอกเบี้ย + ค่าปรับ เท่าไหร่ครับ? ยิ่งลากไปเรื่อยๆ "ส่วนรวม" มีแต่เสียหายกันหมดครับ แล้วสุดท้ายคนที่ต้องเสียค่าปรับก็คือ "พวกเราทุกคนที่เสียภาษี" จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 12:09:55

ความคิดเห็นที่ 58 อยู่แถวๆนั้นเหมือนกันครับ ถึงว่าตรงนี้สร้างได้ล่าช้าเพราะติดเวนคืนนี่เอง จากคุณ : moonoiz เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 12:43:13

ความคิดเห็นที่ 59 ชื่อร้านนี่ถ่วงความเจริญจริงๆ ร้านไรนะ วีวีฟาร์มาซี -*- จากคุณ : Darth Aiglatson เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 12:48:23

ความคิดเห็นที่ 60 คุณต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม..แต่ผมให้เงินชดเชยคุณได้แค่นี้นะ..คุณเอาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ มันจะพอหรือไม่พอมันก็เรื่องของคุณ.. แต่คุณต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม..ถ้าคุณยึกยัก คุณจะต้องโดนด่านะ ว่าขัดขวางการพัฒนา ไม่รู้เรื่องเหรอว่าคนอื่นเขารอใช้ประโยชน์อยู่ คุณจะโดนสังคมประนาม กลายเป็นคนทรยศต่อประเทศชาติ..เพียงเพราะคุณคิดเห็นแก่ตัวแค่ว่า เงินที่ได้รับไป..มันไปสร้างบ้าน สร้างอาชีพใหม่ ไม่ดีพอ..หรือคุณภาพได้ไม่เท่าเดิม..คุณไปอยู่ที่ใหม่ สร้างอาชีพใหม่..มันอาจจะไม่พอกินพอยาไส้เท่าที่เดิม..มันก็เรื่องของคุณ..แต่คุณต้องเสียสละ คุณจะต้องไปเริ่มต้นใหม่จากศูนย์..คุณภาพชีวิตคุณต้องด้อยลงกว่าเดิม..เพราะว่าคุณคือผู้เสียสละ (แบบโดนมัดมือชก) ถ้าคุณไม่พอใจ..ไปฟ้องศาลเอาเอง..แล้วดื้อแพ่งไม่ยอมย้าย..คุณก็รับคำประนามไปก่อน เพราะคุณดันไม่รักชาติ ไม่ยอมเสียสละ อยู่ที่เดิมคุณจะมีรายได้ คุณจะรวยยังไง..แต่คุณต้องไปหาที่ใหม่ คุณต้องอยู่แบบพอเพียงให้ได้..เพราะกฏหมายเขาบอกว่าชดเชยให้ได้แค่นี้ ถ้าไม่รู้จักคำว่าพอเพียง..ก็ไปศึกษาซะเถอะ..รีบปรับตัวซะ..จะได้อยู่ที่ใหม่แบบสบายใจ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนไทย แต่ดันมีเชื้อชาติอื่น..ถ้าคุณยิ่งดื้อแพ่ง..คุณจะยิ่งโดนประนามนะ..ดีไม่ดีอาจโดนไล่ออกนอกประเทศได้.. ความเห็นใจอย่าหวังจะได้รับ..เพราะถ้าคุณไม่ยอมเสียสละ แล้วไม่รับเศษเงินนี้ไป..คุณจะต้องโดนผู้คน ที่เขาพร้อมจะเหยียบย่ำคุณ.. เพราะคุณไม่รู้จักพอ..คุณจะเอาให้ได้เท่าเดิม..คุณมันเห็นแก่ตัว..หุบปากหุบคำ..แล้วก็ยอมรับต่อโชคชะตาซะ.. เพราะคุณถูกกำหนดมาให้เป็นผู้เสียสละแล้ว..จงรับมันไปแต่โดยดี..แล้วไม่ต้องอุทรณ์หรอก..เพราะคุณก็จะได้เท่าเดิมนั้นแหละ.. แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 13:18:32 จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:11:28

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าเวนคืนไม่ได้ ต้องเสียค่าปรับเท่าไหร่? งานจะล่าช้าไปอีกเท่าไหร่? คำนึงถึงผลประโยชน์ของรัฐ เป็นเหตุผลอันสมควรที่สุดค่ะ จากคุณ : พาระวี เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:40:57

ความคิดเห็นที่ 62 คำว่า กฏหมาย ต้องเป็น กฏหมาย คำๆ นี้สำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่ว่าพอใจรึเปล่า แต่เป็นคนในสังคม ต้องรู้จักเคารพกฏหมาย อย่าให้ใครดูถูกว่ามีกฏหมายปกครองมาตั้งหลายร้อยปี แต่ไม่รู้จักกฏหมาย ครับ จากคุณ : hunchback เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:51:27

ความคิดเห็นที่ 63 #เห็นด้วยกับ 24  บ้านดิฉันก็ถูกเวนคืนที่ถนนจรัญสนิทวงศ์เหมือนกัน ถ้าถามว่าคุ้มมั๊ย มันคุ้มอยู่แล้ว แล้วเราก็อยู่ในพื้นที่มานาน  ก็ไม่อยากย้าย แต่ด้วยทางการเค้าจะส่งจดหมายมาเป็นระยะ (หลังจากมีการเข้ามาสำรวจและประเมินราคาแล้ว) แต่ด้วยกฎหมายและเราก็อยากให้พื้นที่ของเรา ซึ่งจะมีการทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเหมือนกัน มีความเจริญ ซึ่งเป็นของส่วนเราและเพื่อต่อไปลูกหลานของเราก็สะดวกสบายด้วย  เราก็ต้องเตรียมตัว หาที่อยู่ใหม่ซึ่งก็ทันการ  ตอนแรกก็คิดจะไปอุทรณ์แต่ด้วยไม่อยากเสียเวลา  เพราะต้องรอเรื่องเป็นเวลาพอสมควร ก็เลยยอมรับ  แล้วแทบทุกคนที่โดนส่วนใหญ่ก็เข้าใจเหตุผล  แต่ก็มีบางรายที่ไม่ยอมก็เป็นความกันนานนน  มาก  แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ และย้ายออกโดยดี   แต่ของรายร้านขายยาดูมาสองครั้งแล้ว ดูไม่ค่อยฟังเหตุผล  แล้วแย่งกันพูดพ่อ-ลูก  โดยเฉพาะลุกสาวอารมณ์ร้อนมาก  แต่ก็เข้าใจเพราะเค้าก็อยากได้ราคาสูง ๆ  แต่ดูการกระทำมันก็ขัดกันพอสมควร จากคุณ : ใบชะพลู (bichapoo) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:53:50

ความคิดเห็นที่ 64 ขอโทษค่ะ   ข้อความผิด   มัน ไม่ คุ้ม อยู่แล้ว จากคุณ : ใบชะพลู (bichapoo) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:54:50

ความคิดเห็นที่ 65 70 ล้านนี่ก็เยอะไปจริงๆ แหละครับ รู้ว่าเรียกเผื่อต่อรองราคา แต่ทำไมตอนเข้า ยื่นเรื่อง อะไรมาทำไมไม่แย้งไปตอนที่มีโอกาส จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่ม อะไรยังไงก้ว่าไป พอมันทำอะไรไม่ได้แล้วก็ หายเป้นหนักกว่าเดิม **ผมไม่แน่ใจว่ามีการยื่นเรื่องอะไรไปหรือป่าวนะครับ จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 13:58:46

ความคิดเห็นที่ 66 ตกลงว่า เวนคืน เวรคืน หรือเวณคืน แล้วตกลงหมวยแกคืนบัตรประชาชนรึยัง เห็นร้องเหย็งๆว่าอยากจะคืน ไม่อยากเป็นคนไทยแล้ว จากคุณ : BananaLeaf เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 14:46:49

ความคิดเห็นที่ 67 รฟม.บอกว่า ล่าช้าจนรอไม่ได้แล้ว ตอม่อ มาจ่ออยู่หน้าบ้านรอแกย้ายเท่านั้น  ที่ผ่านมาต้องเสียค่าปรับไปแล้ว 120 ล้าน ใช่ค่ะ120ล้านบาท  โปรดดูได้จากคลิ๊ปที่มีผู้โพสไว้ให้ด้านบน  จนก่อนจบรายการแกก็ย้ำกับลูกสาว ว่าต้องการ 74 ล้าน คุณ สรยุทธิ์ถามซ้ำ ก็ได้คำตอบเดิม 74 ล้านค่ะ จากคุณ : hug for love เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 14:49:26

ความคิดเห็นที่ 68 ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายสิครับ แหกปากโวยวาย เล่นละคร เงินมันจะลอยมาไหม ? จากคุณ : คนเล็กนักเรียนโต เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 14:58:59

ความคิดเห็นที่ 72 ที่จริงเขาเชื้อสายจีน น่าจะรู้ว่า ถ้าอยู่เมืองจีน กรณีแบบนี้ เขาจะได้อะไรบ้าง จากคุณ : ชายไร้เงา เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 15:49:08 A:202.57.188.3 X: TicketID:052742

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นอะไรกันมากหรือเปล่าเนี่ยพวกคุณบัตรผ่าน...ต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นกันไป..แบบผู้เจริญแล้วอ่ะ..จะให้ผมมีอะไรมากไปกว่านี้หรือ.. ผมมีความเห็นอะไร..แสดงว่าจะต้องไปมีอะไรกับใครหรือไง..เกินไปมั้งคุณ..เอาแค่พอดี ๆ ก็แล้วกันนะ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:05:50

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่เกี่ยวกับเชื้อชาติหรอกครับ หากแต่มันเกี่ยวกับความโลภในตัวของคนเรามากกว่า ผมมองว่าร้านขายยาละโมบ เรียกราคาเวนคืนแบบยิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 แถมยังบอกด้วยว่าเป็นราคาที่เรียก "เผื่อต่อ" หากคิดแบบนี้บ้านเมืองมันก็อยู่ไม่ได้แล้วครับ กม.เวนคืนเป็น กม.พิเศษ ที่ออกมาเพื่อให้รัฐสามารถเดินหน้าไปได้ ในโครงการสาธรณูปโภคที่เป็นประโยชน์ต่อ "ส่วนรวม" ครับ หากเอาในทาง "ขั้นตอน" แล้ว รฟม.ดำเนินขั้นตอนการเวนคืนได้ครบถ้วนตามข้อกฏหมายด้วยซ้ำไป อีกทั้งหากร้านขายยาไม่พอใจจริงๆ มันก็มีขั้นตอนทางกฏหมายที่ให้ไปร้องต่อศาลได้ ซึ่งก็น่าจะใช้ช่องทางที่ว่านี้ต่อสู้กับทางฝั่ง รฟม.ไปตามกระบวนการ แต่ไม่ใช่การมาดื้อแพ่งแบบนี้ อย่าลืมว่าค่าปรับการไม่ยอมส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมานั้น มันมากมายมหาศาลมากกว่าเงินที่ร้านขายยยาเรียกร้องซะอีกครับ และที่สำคัญ มันคือเงินภาษาของคุณ ของผม ที่ต้องจ่ายไปทั้งทางตรงและทางอ้อมแน่ๆ เอาเงินของส่วนรวม ไปจ่ายให้กับคนเพียงครอบครัวเดียว ที่ไม่มีความเคารพในกฏหมายเฉกเช่นครอบครัวอื่นๆ แบบนี้มันน่าเห็นใจหรือเปล่า...ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อีกทั้งการชี้แจงตอนออกสื่อนั้น ทางฝั่ง รฟม.มีหลักฐานครบถ้วน และมีท่าทีที่นิ่ง สงบ และไม่ก้าวร้าว ในขณะที่อีกฝ่ายนั้น แทบจะกินเนื้อเถือหนังฝั่งตรงข้ามเลยหากว่าทำได้ ในโลกของประชาธิปไตยนั้น หากคนส่วนใหญ่เขายินยอม และยอมรับการเวนคืน และการรื้อถอน แต่มีคนส่วนน้อย (มาก) ไม่ยอมย้ายออกไป แบบนี้เราก็คงอยู่กันไม่ได้แล้วครับ รฟม.เจรจาจนหมดน้ำลายไปเท่าไรแล้ว ก็ยังได้รับคำตอบเดิมคือต้อง 70 ล้านเท่านั้น คุณๆคิดว่ามันสมเหตุ สมผล หรือเปล่าละครับ ??? อีกทั้งการที่ลูกสาวอ้างว่า "ไม่รู้กฏหมาย เพราะจบมาทางเภสัช" ผมฟังแล้วเป็นการเอาสีข้างเข้าถูจนสีข้างไหม้เป็นแถบเลยครับ เพราะประชาชนทุกคนต้องรู้กฏหมาย ยิ่งเป็นกฏหมายพื้นฐานแบบนี้ด้วยแล้ว แบบที่เขาแจ้งการเวนคืน และตัวเองดื้แพ่งแบบนี้ ผมว่ายิ่งต้องรู้โดย "สามัญสำนึก" ด้วยซ้ำไปเลยครับ ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกมาสอนหรอก ผมล่ะ..อยากให้มีรถพ่วงเบรคแตก วิ่งเข้าไปที่ร้านขายยานั้นในตอนที่ไม่มีคนอยู่บ้านซักคันจริงๆ...พับผ่าเถอะ !!! แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 16:08:15 จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:07:45

ความคิดเห็นที่ 75 อยากให้2พ่อลูกนั้นหัดปล่อยวาง ........ หรือถ้าย้ายออกแล้วไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร เงินที่ได้จากการเวณคืน ก็ไปทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์และมอบให้กันและกันซ่ะ ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ที่แปลงนี้แต่ก่อนก็ไม่ใช่ของคุณ อนาคตคุณตายไปมันก็ไม่ใช่ของคุณ "อันตัวเรา ยังไม่ใช่ของเรา" หัดเข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เพื่อที่จะรู้จัก"ปล่อยวาง"บ้างก็ดีน่ะ....... จากคุณ : darakorn เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:28:44

ความคิดเห็นที่ 76 เกรียนทั้งตระกูล บ้าหรือเปล่า  เขียนจดหมายไปข่มขู่เขา (ถ้า รฟม ฟ้องขึ้นมา จะหาข้อก.ม.เถียงไม่ออกนะ) ทั้งพกปืน เอามีดทาเนยมาข่มขู่ ยังจะเรียกร้องหาหลักฐาน ใครเขาจะหัวหมอ เหมือน พวก เมิง ถ่ายได้ ทุกช๊อต (ตั้งใจจะเอาเป็นหลักฐาน เพื่อตัวเองจะได้ดูน่าสงสาร) อิลูกสาวนีน่ะ ร้ายสุดๆเดาเอาว่า ถ้ามีแฟน ป่านนี้ คงโดนขอเลิกไปแล้ว แปลกนะ กระแส ไม่มีใคร อยู่ ข้าง ร้านนี้เลย คิดเอาแล้วกัน จากคุณ : ทุเรียนสีชมพู เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:42:27

ความคิดเห็นที่ 77 หัวหมอ มากๆๆๆ จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 16:50:57

ความคิดเห็นที่ 78 ดูตอนแรกก็เข้าข้างร้านยาเหมือนกัน แต่พอ รฟม. มาพร้อมหลักฐานก็รู้เลยว่าเจ้หมวยกินสตอ..มาเยอะแน่ๆ แถมเรื่องปืนขู่ มีดขู่นี้ในห้องพันทิพเองก็เห็นว่ามีคนมาโพสตั้งแต่วันเกิดเหตุ จากคุณ : แนน (Ying_perh) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 17:59:05

ความคิดเห็นที่ 79 ล่าสุด ยอมออกแล้ว เวนคืนสายสีม่วงเสร็จ 100%หลังเจรจาร้านขายยาออกได้แล้ว นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมยังทราบเรื่องการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อที่ยังเหลือบริเวณพระนั่งเกล้าที่เป็นร้านขายยา  2 คูหา ซึ่งทางเจ้าของบ้านได้มีการยื่นคำร้องขอรับเงินค่าเวนคืนจากรฟม.แล้ว โดยค่าเวนคืนที่ทางรฟม.พิจารณาให้นั้นอยู่ที่ 10.2 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าของบ้านยอมเจรจาด้วย โดยจะรับเงินค่าเวนคืนจากรฟม.ไปก่อน และไปเรียกร้องค่าเวนคืนภายหลังได้ตามพรบ.เวนคืน โดยยื่นเรื่องถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และอีกช่องทางคือเจ้าของบ้านสามารถฟ้องร้องต่อศาลเรียกร้องค่าเวนคืนเพิ่มเติมได้ภายใน 1 ปีซึ่งในวันที่ 14 ก.ค.นี้ทาง รฟม.จะไปช่วยเจ้าของบ้านขนของย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนงานก่อสร้างก็สามารถเข้าพื้นที่ได้ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ นอกจากนี้บอร์ดยังรับทราบการปรับแผนวิสาหกิจฉบับใหม่ ของ รฟม. (ปีงบประมาณ2555-2559) โดยเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับการก่อสร้างของโครงการรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ  ในอีก 5 ปีข้างหน้า  ส่วนงบประมาณของปี 2555 คงต้องรอดูแผนบริหารราชการ 4 ปีของรัฐบาลใหม่ว่าจะออกมาในทิศทางใด ซึ่งทางหน่วยงานก็ต้องปรับให้สอดคล้องอีกครั้ง จากคุณ : ko kai kuk kuk เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:22:17

ความคิดเห็นที่ 80 เราว่าพ่อลูกพูดความจริงไม่หมด แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ซึ่งเราตกใจที่เค้าปั้นหน้าออกทีวี ไหนจะเรื่องที่เอามีดจี้คออีก ลูกสาวยังหน้าระรื่น มันน่าตกใจตรงที่ถ้าเค้าโกหกมันจะโกหกแบบไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ แบบว่าถ้าเราเห็นพ่อเราพูดไม่จริงต่อหน้าเรา เราคงรู้สึกแย่มากอ่ะ มันเข้าข่ายช่วยกันโกหก หรือเค้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี ดูแล้วสังเวชค่ะ ไม่รู้เค้าสอนลูกยังไง สอนแต่หนังสือ แต่เรื่องจริยธรรมไม่รู้สอนกันบ้างรึเปล่า จากคุณ : may เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 18:58:06 A:183.89.116.8 X: TicketID:207916

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านมาหลาย คคห ไม่มีใครรู้สึกบ้างเลยหรอว่า กฏหมาย ให้ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น....  สมัยนี้ทุกคนก็ทราบว่าอะไรๆ ก็แพงมาก ให้ราคาประเมินเท่านี้ 10 ล้าน คิดว่าเพียงพอแล้วหรอ เสียสละเพื่อส่วนรวมน่ะใช่ คิดว่าเขาก็คงเสียสละให้ได้ แต่ทำไมไม่ชดเชยให้เขาสมน้ำสมเนื้อ กับที่เสียสละล่ะ คนอื่นที่ย้ายออกไปเพราะ ก็ทำใจว่าสู้อำนาจรัฐไม่ได้ไง ก็ต้องไป จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องไป เป็นเรา เราก็เสียสละให้ได้นะ เพื่อส่วนรวม เราก็เสียภาษีเหมือนกัน แต่ขอเงินชดเชยที่ไม่ทำให้เราต้องลำบากมากมายได้ไหมล่ะ มีกี่ คคห. ที่จะพูดถึงเรื่อง เงินชดเชยที่ไม่เป็นธรรม เราไม่ได้เข้าข้าง บ้านนั้นนะ แต่เรากำลังคิดว่าถ้าเป็นตัวเราล่ะ แน่นอนมันไม่สามารถชดเชยได้เต็มที่ แต่มันก็ควรจะได้ดีกว่านี้นะ กฏหมายเอาเปรียบประชาชน มัดมือชก ลองคุณหาเช้ากินค่ำ เก็บหอมรอมริบ สร้างบ้านซื้อที่ หมดไปสัก 5 ล้านละกัน แล้วจู่ๆ ยังผ่อนแบงค์ไม่หมด เขามาเวรคืน บอกเอ้า ให้ค่าเวรคืน 9แสน????? จะเอาไม่เอา ราคามันเท่านี้แหละประเมินแล้ว แล้วหนี้ล่ะ หนี้ที่ยังใช้ไม่หมด ไหนจะต้องไปหาที่อยู่ใหม่ ไหนจะต้องไปทำงานทำการ นึกให้ดีๆ ว่า ที่ว่าๆ บ้านนั้นกันนะ คิดว่ามันเป็นธรรมแล้วหรอ อย่าได้เอาความเสียสละมาอ้างเลย เสียสละเพื่อชาติทำได้ แต่ขอร้องล่ะ รัฐก็อย่าเอาเปรียบประชาชนนักเลย จากคุณ : พิซซ่ากับอาเจ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 19:02:54

ความคิดเห็นที่ 82 ท่าทางเขาจะเขี้ยวกันทั้งบ้านมั้ง  เคยเดินผ่านร้านเขา เขาเขียนป้ายว่าห้ามจอดรถหน้าบ้านเขา เดี๋ยวลูกค้าเข้ามาซื้อของไม่ได้   แต่หน้าร้านคนอื่นก็มีรถจอดอยู่  ทำอย่างกับว่าถนนหน้าบ้านเป็นถนนส่วนตัวที่เขาจ้างคนมาสร้างไว้เองเลย จากคุณ : แม่ตี๋น้อย เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 20:12:07

ความคิดเห็นที่ 83 i agree with no. 74, ^^ ^^ no. 81 " panya oon " ..555 จากคุณ : stupid เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 20:30:20 A:138.188.100.228 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 84 ถ้าให้บ้านหลังนี้หลังเดียวก็ต้องให้หลังอื่นๆอีกทั้งโครงการ เอาแค่ที่ดูมาออกรายการก็น่าจะฟังกันออกแล้วว่าครอบครัวนี้ขี้โกหกมากๆ สมควรแล้วครับ  อ้อแล้วอย่าลืมคืนบัตรประชาชนด้วยนะครับคุณลูก จากคุณ : pvman65 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 20:36:06

ความคิดเห็นที่ 85 สรุปแล้ว รื้อเสร็จหรือยังครับ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 20:53:13

ความคิดเห็นที่ 86 เห็นใจประชาชนที่โดนเวนคืนนะครับ ต้องหาที่อยู่ใหม่ ลำบากต่อชีวิตประจำวัน              คนที่โดนเวนคืนตลอดสายมีเป็น 100เป็น1,000ราย เค้ายอมรับสภาพในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หลังนี้ไม่ยอมรับ แถมยังฉวยโอกาส ลักไก่เรียกเงินค่าเสียหายเกินความเป็นจริงอีกต่างหาก 70 กว่าล้าน เอาไปสร้างหมูบ้านย่อมๆ ที่ตจว.ได้สบายๆ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 21:03:35 จากคุณ : decoy เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 21:03:05

ความคิดเห็นที่ 87 คุณพิซซ่ากับอาเจ ราคาที่ได้น่ะ ไม่ใช่ราคาประเมินของกรมที่ดินนะครับ ราคาประเมินของกรมที่ดิน ที่ดินตารางวาละ 4 หมื่นกว่าบาท ราคาที่รับเวณคืน 130,000 กว่า ถ้าคุณพิซซ่ามีประสบการณ์ด้านการซื้อขายที่ดิน หรืออสังหาฯ คุณจะรู้ว่าราคาที่ได้น่ะมันใกล้เคียงราคาตลาดเลย จะแตกต่างบ้างก็ไม่มาก โอกาสที่เจ้าของที่ดิน จะขายที่ดินได้ราคามากกว่าราคาประเมินของกรมที่ดินถึง 3 เท่าน่ะมีครับ แต่น้อยมากๆที่จะถึง อนึ่ง การประเมินราคาเวณคืนน่ะ เค้าใช้ข้อมูลหลายฝ่าย รวมทั้งราคาซื้อขายจริงๆ ในท้องตลาดมาดู หากจะเอาราคาประเมินของกรมที่ดินมาใช้บังคับเวณคืนเลย ร้านนี้จะได้ค่าที่ดิน ประมาณ ไม่เกิน 2,000,000 เท่านั้น(ผมคิดราคาให้ 50000 บาทต่อตารางวาเลย แต่ราคาที่คุณสรยุทธ์บอกในรายการ 4 หมื่นกว่าบาทต่อ ตรว เท่านั้น) ตัวบ้านจะได้ราคาประเมินของกรมที่ดินอีก ประมาณ 2,513,280 บาท(ผมคิดพื้นที่ใช้สอยให้ 640 ตรม) -ตัวอาคาร ราคา ตรม.ละ 5950 บาท(ราคาของอาคารพาณิชย์ตึกแถว 5 ชั้น จังหวัดนนทบุรี)  มูลค่าอาคาร =640*5950 =3,808,000 บาท -หักค่าเสื่อมของตัวอาคารอายุ 22 ปี อีก 34%  มูลค่าตัวอาคารคงเหลือ =2,513,280 เท่านั้น ราคาประเมินของกรมที่ดินรวม จะได้ 4,513,280 บาท ครับ ซึ่งราคาที่ทางร้านได้ 10.2 ล้านบาท มันชี้ให้เห็นว่าราคาที่ได้น่ะ มันไม่ใช่ราคาประเมินของกรมที่ดินตามที่คุณเข้าใจ ราคานี้ถ้าคนมีประสบการณ์ด้านอสังหาฯจะรู้เลยว่านี่มันประมาณราคาตลาดแล้ว จะสูงกว่านี้ก็อีกไม่มากเท่าไหร่ เจ้าของบ้านหลายคนอยากได้ราคาสูงๆ แล้วในความเป็นจริง มีใครมาซื้อมั้ยละครับ หาก รฟม ยอมจ่ายตามที่เรียกร้อง เท่ากับว่ายอมจ่ายชดเชยราคาที่ดินให้ ตรว ละ ประมาณ 1,600,000 บาท ราคาประเมินที่ร้านขายยามันแค่ 4 หมื่นกว่าๆ จะเอา 1,600,000 ต่อตารางวาเลยเหรอครับ ผมจะรู้สึกเห็นใจ หากการเรียกร้องนั้น เรียกตามความเหมาะสมที่สมควรจะได้รับ แต่นี่มันฉวยโอกาสชัดๆ กะถูกหวย รฟม นึกว่าเป็นของรัฐ อย่างไรเสียรัฐก็มีปัญญาจ่าย แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 21:51:32 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 21:37:57 จากคุณ : Eng G20 (Eng G20) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 21:29:39

ความคิดเห็นที่ 88 เป็นครอบครัวที่เห็นแก่ตัวมาก งกที่สุด ลูกสาวคงได้นิสัยจากพ่อมา งกพอๆกัน แถได้อีก มาออกรายการ ประจานตัวเองแท้ๆเลย จากคุณ : ลูกชิ้นปลาเด้ง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 21:40:37

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณความเห็น 87 ครับ ทำให้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังสงสัยว่าทำไมคนที่ถูกเวนคืนเกือบทุกคนถึงรู้สึกว่าไม่คุ้มล่ะครับ ทั้งที่เค้าก็ให้ราคาที่เหมาะสม(มั้ง) ใครที่เคยโดนเวนคืนช่วยแชร์ด้วยนะครับ เผื่อว่าในอนาคตอาจโดนกับตัวผมเอง จากคุณ : fog_tgr เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 22:00:40

ความคิดเห็นที่ 90 ที่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าไม่คุ้ม คงเพราะว่า ไม่ได้เป็นความต้องการของเขาที่ต้องย้าย เหมือนเราถ้าไม่อยากย้ายบ้าน ยังอยากอยู่ที่เดิม ต่อให้ใครมาให้ราคาบ้านเราเท่าไหร่ เราก็คงรู้สึกไม่อยากขาย ยิ่งถ้าเท่ากับราคาตลาดด้วยแล้วไม่ต้องมาคุยเลย แต่ถ้าให้สูงกว่าราคาตลาดมากๆๆๆ อันนี้ค่อยน่าสน คนที่ถูกเวนคืนแต่ละคนคงรู้สึกเหมือนกัน ก็น่าเห็นใจครับ จากคุณ : Eng G20 (Eng G20) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 22:21:37

ความคิดเห็นที่ 91 ทำมาหากินในตึกนี้มาตั้งหลายปี   ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวจนจบการศึกษาดีๆกันทุกคน   มีตังค์ซื้อปีนไว้ป้องกันตัว มีตังค์จ้างคนมาคุ้มครองตั้งหลายคน          รฟม.ให้เท่าไหร่   ก็เป็นกำไรทั่งนั้นแหละ         ทำมาหากินบนแผ่นดินไทย   จนสร้างฐานะได้ขนาดนี้  มีแต่กำไรแล้วหละครับท่าน        อยากบอกอีกอย่างว่า   หมวยเอ๊ย  ใครออกรายการคุณสรยุทธ์ ทุกรายชนะหมด มีหมวยเภสัชนี่แหละ   ทำเสียสถิติรายการคุณสรยุทธ์ หมดเลย จากคุณ : ศรีวรลักษณ์ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 22:51:33

ความคิดเห็นที่ 92 เห็นมีคนสงสัยว่าทำไมคนที่ถูกเวนคืนถึงรู้สึกว่าไม่คุ้ม เลยขอตอบเพิ่มค่ะ กรณีเรานะคะ ในส่วนราคาที่ดินถือว่าคณะกรรมการฯประเมินให้สูงพอสมควรค่ะ อันนี้หากเป็นที่ดินเปล่าก็พอใจนะ แต่ที่บอกว่าไม่คุ้มคือ ราคาสิ่งปลูกสร้างค่ะ การประเมินจะคำนวนราคาสิ่งปลูกสร้าง แล้วหักค่าเสื่อม ซึ่งทางรัฐจะมีสูตรการคำนวนของเขาค่ะ ซึ่งตรงนี้ล่ะที่มีปัญหา เพราะราคาที่ได้รับชดเชยก็อย่างที่บอกคือถ้าต้องสร้างตึกใหม่ที่มีลักษณะเดียวกันนั้นมันไม่พอค่าใช้จ่ายค่ะ เช่น ค่าวัสดุ ค่าแรงงาน ค่าแบบ รวมถึงขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง เป็นต้น อีกอย่างที่สำคัญสุด ๆ คือ ทำเลค่ะ รวมถึงโอกาสทางการค้า ซึ่งจุดนี้รัฐไม่ได้ชดเชยให้ ถ้าเป็นที่อยู่อาศัยธรรมดาก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไรหรอก อันนี้ไม่พูดถึงเรื่องของจิตใจอย่างความผูกพันกับที่เดิมนะคะ แต่อย่างบ้านเราค้าขายมานาน มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว การที่ต้องหาที่ค้าขายใหม่ มันหมายถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมา แล้วยังต้องหาฐานลูกค้าใหม่ด้วยซึ่งไม่รู้จะเวิร์คเท่าเดิมไหม สรุปคือต้องเริ่มใหม่หมด ถ้าถามว่าทำไมไม่หาซื้อที่ละแวกเดิม อันนี้มันก็ไม่ง่ายนะคะ ต่อให้มีคนขายก็สู้ราคาไม่ไหวหรอก ริมถนนจรัญฯน่ะ เราถึงบอกว่าถูกเวนคืน ถือว่าซวย แต่ต้องทำใจอะค่ะ ป.ล. อย่านำประเด็นเรื่องเชื้อชาติมาเกี่ยวเลยค่ะ ครอบครัวเราก็เชื้อสายจีน แต่ว่าเชื้อชาติ สัญชาติมันไม่เกี่ยวกับการเป็นคนดี หรือไม่ดี ส่วนเรื่องเหตุผล แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 54 23:12:13 จากคุณ : Someday I'll Know เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:03:16

ความคิดเห็นที่ 93 เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนร่วม จากคุณ : Juneboyz เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:05:32

ความคิดเห็นที่ 94 ต้องเห็นแก่ส่วนรวม ต้องย้ายนะ เรียกร้องแพงไม่ได้ .... เอ็งต้องไปหาซื้อบ้านใหม่ (บ้านใหม่ของเอ็งจะมีปัญหาเหมือนคนห้องชายคาโดนหรือเปล่าไม่รู้ เพื่อส่วนรวม)  บ้านใหม่ของเอ็งจะมีมลพิษทางเสียง อากาศ หรืออะไรก็เรื่องของเอ็ง เพื่อส่วนรวมเว้ย เอ็งต้องไปหาเพื่อนบ้านใหม่ๆ (ถ้าโชคดีเจอคนดีก็ดีไป โชคร้ายก็เรื่องของเอ็ง เพื่อส่วนรวม) เอ็งต้องไปเปิดร้านใหม่ ร้านเก่าเอ็งทำเลดีแล้ว เรื่องของเอ็งเพื่อส่วนรวม ถ้าร้านทำเลใหม่เอ็งไปไม่รอด ก็ทำใจ เพราะเพื่อส่วนรวม แล้วต่อให้บ้านของเอ็ง มันมีคุณค่าทางจิตใจ มีเทพนิยายประจำตระกูล เป็นบ้านที่คอยค้ำจุนครอบครัวเวลาเผชิญวิกฤติ เป็นบ้านที่พ่อแม่หรือคนที่เอ็งรักซึ่งเสียไปแล้วรักมาก เอ็งก็ต้องทำใจ เพื่อส่วนรวม พวกกรูคนไทย ไม่สนใจหรอกกับความรู้สึกหรือเรื่องอื่นๆในอนาคตของเอ็ง เพราะ พวกกรูจะไปทำงานไวๆ......   เอ็งเข้าใจไหมว่าเพื่อส่วนรวม.... เข้าใจไหม หา ! จากคุณ : มึนตึน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:15:14

ความคิดเห็นที่ 95 ผมเคยมีเพื่อนอยู่แถว  พ.ท.ที่เวนคืนทำ สะพานวงแหวนอุตสาหกรรมครับ มีเพื่อนหลายคนมาก คืนนับเป็น50-60 ครัวเรือนเลยเพราะเคยเรียนอยู่แถวนั้น เขาก็ได้รับเงินน้อยนิดครับ แต่มันเป็นอะไรที่เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า เขาเวนคืนไปทำ เพื่อ ส่วนรวม เขาไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะครับ แต่มันต้องยอม แต่เขาก็ได้เงินมาบ้าง แต่ไม่เท่ามูลค่าที่ถูกเวนคืนไปหรอกครับ ***แบบนี้ถ้าเวนคืนทำถนน ทำสะพาน ทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่พอใจ ไม่ย้ายออก แบบนี้ มันจะจบลงตรงไหนครับ ต้องแก้กฏหมายแล้วครับ เพราะมีแล้วใช้ไม่ได้ บังคับใช้ก็ไม่ได้  คนไทยแยกถูกผิดไม่ออก เน้นแต่สร้างภาพ กลัวคนอื่นว่าไม่ดี จากคุณ : ชัดเจนทางตรง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:20:53

ความคิดเห็นที่ 96 อาหมวยร้านยาชอบพูดแทรกขึ้นมากลางวงบ่อยๆ ขณะที่คนอื่นเค้ากำลังพูดอยู่ ดูๆ ไม่ค่อยมีมารยาทเลย ดูไปรำคาญหมวยไป เห็นใจที่ได้ราคาต่ำ แต่อยากให้อาหมวยไปเรียนรู้เรื่องมารยาทในการพูดจา จังหวะที่ควรพูด หรือควรชัทอัพหน่อยก็ดี อีกอย่าง เห็นคุณสรยุทธก็พูดแล้ว ว่า "มันเป็นการเวนคืนครับ มันเป็นการเวนคืน" มีใครได้ราคาตามที่พอใจจากการเวนคืนมั่งหละ โดนเวนคืนก็คือ ซวย นั่นแหละ อาหมวยกับอาแปะ ก็ทำใจเหอะ เห็นด้วยว่า สิบล้าน มันก็น้อยไปจริงๆ แต่เจ็ดสิบล้าน อาหมวยกับอาแปะก็คงจะต้องฝันต่อไปนะถ้าจะเอาจากการโดนเวนคืนหนะ "มันเป็นการเวนคืนครับ มันเป็นการเวนคืน จากคุณ : ค่ำคืนนี้มีเพียงดาว เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:22:10

ความคิดเห็นที่ 97 บ้านเราอยู่มา..เราไม่ได้อยากย้ายออก..ประเมินให้เรา..แถมมีค่าเสื่อมอีก.. อยากให้คนเขาเสียสละ..เงินที่ให้เขาไปให้เขาไปหาได้เท่าเดิมยังไม่ได้เลย.. ทำไมไม่ให้เขาอย่างน้อยก็ต้องเท่าเดิม..หรือดีกว่าเดิม..เพราะเขาต้องเสียสละ.. ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยกับ 2 พ่อลูกนั้น..ที่ยืนยันที่จะเรียกร้องเท่าเดิม..มันมากไป แต่ 10 ล้าน..มันไม่ใช่แน่นอน..คุณให้เขาเสียสละ แต่ไปให้ราคาประเมิน แถมมีค่าเสื่อมด้วย..ใครจะยอม..ส่วนคนที่ยอม..คนที่ไม่มีปากมีเสียงของบ้านเรา มีเยอะนะคุณ.. ไม่ได้พูดถึงสองพ่อลูกคู่นี้..ญาติผมก็เพิ่งจะโดนเวนคืนเหมือนกัน.. ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำมาหากินแล้ว..ไม่พบปะ ไม่สังสรรค ไม่พูดกับใคร เพราะเงินที่ได้มันไม่พอจริง ๆ ทำกิจการ..แต่ต้องย้าย.. ก่อนจะย้ายไปต้องไปลงทุน..ทำสถานที่ประกอบการก่อน สร้างบ้านรอไว้ก่อน แค่ส่วนนี้ก็ไม่พอแล้ว..จะรอให้ย้ายเอาของเก่าไปใช้..เพื่อจะสำเร็จ แล้วช่วงที่รอล่ะ รอให้ทุกอย่างเสร็จ..ไม่ต้องทำมาหากินเลยเหรอ..ต้องเลี้ยงลูกน้องอีก.. ให้ลูกน้องมันหยุดรองานสัก 2-3 เดือนนี่..ใครมันจะยอมรอ..คือจะให้เขาเสียสละ คุณก็ต้องให้เขาให้พอ..ที่จะไปดำเนินการต่อให้ได้..ให้สำเร็จทุกขบวนการ ไม่ใช่ไม่พอ..ให้เขาไปดิ้นรนต่อเอาเองเหรอ ไม่พอก็เรื่องของคุณ..เพราะคุณต้องเสียสละ ให้แค่นี้พอแล้ว..สมควรแล้ว..คุณไปตัดสินให้เขา..โดยไม่ต้องให้เขาอุทรณ์เลย ถามหน่อยว่า..เวลาคุณไปซื้อที่ดินใหม่..ซื้อตึกที่ใหม่ ในทำเลทอง..ใครเขาขายให้คุณ ในราคาประเมิน และหักค่าเสื่อมกันบ้าง มันมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ่นทุกวัน แต่ไม่ได้บอกว่า 70 ล้าน..มันสมควรเลย..มันโอเวอร์เกินเหตุ..สมควรจะโดนด่า..แค่นึกถึงในหลักความจริงเท่านั้น พูดถึงหลักการ..ใจเขาใจเราอ่ะ..ไม่ได้พูดถึงใครคนใดคนหนึ่ง.. สองพ่อลูกคู่นี้..อาจจะเป็นตัวจุดกระแส ให้คนรังเกียจ ให้คนประนาม ทำให้คนที่เขาจะโดนเป็นรายต่อไป..แล้วมาเรียกร้องเพิ่มเติมอย่างนี้ หลัง ๆ ต่อไป..คงจะไม่มีใครเห็นใจแน่นอน..เพราะคนจะมองว่าเห็นแก่ตัวไปหมด แต่ให้นึกถึงหลักความจริงกันหน่อย..ถ้าคุณเป็นแค่ลูกจ้างเขา..ก็แค่ย้ายบ้านจบ แต่ที่เป็นเจ้าของกิจการ..ให้นึกถึงใจเขาหน่อย..ไม่ได้พูดถึงพ่อลูกคู่นี้เหมือนกัน แค่นึกว่าทำไม..ที่คนส่วนใหญ่ยอมย้าย เพราะไม่มีปากมีเสียง..สู้ไม่เป็น แต่พอมีคนสู้..กลายเป็นว่า..คนอื่นเขายังย้าย..แล้วทำไมแกไม่ย้าย มีสิทธิ์อะไร สุดท้ายก็ขอภาวนา..ว่าอย่าให้พวกคุณได้โดนเวนคืนกันเลย.. ตอนนี้พวกคุณยังไม่โดนกัน..ก็ยังหน้าระรื่นกันอยู่ได้..ถ้าโดนคงไม่พูดอย่างนี้.. ต้องโดนคนประนามว่าเป็นตัวถ่วงความเจริญ..เป็นคนหัวหมอ.. แต่ไม่นึกถึง..สิ่งที่เขาได้รับ..ว่ามันคุ้มกับชีวิตและสิ่งที่เขาต้องเสียไปไหม พูดถึงหลักการ..ไม่ได้พูดถึงพ่อลูกคู่นี้..เพราะไม่ชอบที่เรียกร้องมากเกินไปเหมือนกัน ยังไงกฏหมายก็ต้องถูกเสมอล่ะ..ไม่งั้นคนในสังคมจะอยู่กันไม่ได้..ถ้าไม่เคารพ แต่เวลาพูดถึงคนที่โดนเวนคืน..แล้วเห็นว่าเขาหัวหมอ..ยั้ง ๆ กันหน่อยไม่ได้หรือ ถ้าพวกคุณโดนกันมั้ง..จะเป็นยังไงน้อ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:25:33

ความคิดเห็นที่ 98 ราคานี้ รฟม. โดน หมวย ด่ากระจาย ... แล้วเกิด รฟม. ดันให้ตามใจหมวย ไม่จมน้ำลายคนทั้งชาติเลยเหรอ ? ... โดนทั้งขึ้น ทั้งล่อง เงินเดือนก็ได้เท่าเดิม "เห็นใจก็เรื่องนึงนะครับ แต่หน้าที่ก็อีกเรื่องนึง" เข้าใจกันนะครับพี่ๆ จากคุณ : คนเล็กนักเรียนโต เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:27:26

ความคิดเห็นที่ 99 ดูท่าทางแล้ว  เราไม่กล้าไปซื้อยาพ่อ-ลูกคู่นี้มากินเลยอ่ะ  กลัวจ่ายยาผิดมาให้ แล้วด่าว่า  ทำไมเจือกไม่รู้ว่า " กินยาผิด"อ่ะ ก็ชีมีเครื่องหมายถูกอยู่ที่หน้าซะอย่างนั้น ไม่เห็นยอมพูดถึงเรื่องที่คนในบ้านตัวเองไปรับทราบการแจ้งต่างๆ อ้างแต่ว่าตัวเองกับพ่อ  ไม่รู้เท่านั้น มีคนแบบนี้  ไม่ต้องเดินหน้ากันแล้ว  เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาล จากคุณ : ซอนต๊อก เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:35:13

ความคิดเห็นที่ 100   " ดูโลภ ๆ "   จากคุณ : เด็กหลังส้วม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 23:55:20

ความคิดเห็นที่ 101 ผมดูทั้งสองวัน ไม่รู้สึกเห็นใจร้านขายยาเลย : ( จากคุณ : SuicideJumper เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 00:04:31

ความคิดเห็นที่ 102 ความคิดเห็นที่ 83 [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน i agree with no. 74, ^^ ^^ no. 81 " panya oon " ..555 จากคุณ : stupid เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 54 20:30:20 A:138.188.100.228 X: TicketID:322214 ----------------------------------------------------------------------------- จะว่าเรา ปัญญาอ่อน ถ้าเราไม่รับ มันก็กลับไปหาคุณเอง ใช่ไหม งั้นเราไม่รับละกัน เราอาจจะไม่ฉลาด แต่เราก็ไม่เคยทับถมใครหรอก เห็นๆอยู่ว่า กฏหมายมันไม่ค่อยเป็นธรรม ไม่ค่อยสมเหตุสมผล เขียนมาเพื่อให้รัฐจ่ายน้อยที่สุด โดยไม่สนใจความเป็นจริง ไม่เกี่ยวกับเสียสละไม่เสียสละ ไม่เกี่ยวกับสองพ่อลูกนั่น ลงคุณ stupid เจอบ้าง แล้วจะรู้ ขอคืนคำว่า ปญอ. ให้คุณไปละกัน เราไม่รับหรอก อีกอย่างคนไม่รู้จักกัน จะมาว่า ปญอ. ได้อย่างไร หยาบคายจริงๆ จากคุณ : พิซซ่ากับอาเจ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 00:06:23

ความคิดเห็นที่ 103 บัตรผ่านบางคน..มันเกินจะเยียวยาแล้วครับ..คงต้องทนกันต่อไป.. ได้แต่ภาวนา..ว่าเมื่อไหร่..เขาจะให้บัตรผ่านเลิกใช้ห้องนี้เสียที.. แต่บัตรผ่านดี ๆ เขาก็จะเดือดร้อนกันอีก..คนพวกนี้ ถ่วงความเจริญของแท้.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 00:38:00

ความคิดเห็นที่ 104 To ความคิดเห็นที่ 81 ผมเข้าใจที่คุณสื่อมานะครับ แต่ผมเห็นว่าเหตุผลที่ทุกคนกำลังพูดถึง เป็นเรื่องที่ว่าร้านดังกล่าวไม่ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมาย และผมเชื่อด้วยว่าเนื่องจากเภสัชกรหญิงคนดังกล่าว ไม่ได้ศึกษาหรือสนใจมาทางกฎหมายจริงๆ เลยเชื่อด้วยความเข้าใจของตนว่า วิธีดื้อแพ่งเช่นนี้ น่าจะทำให้ตนเองได้รับสิ่งที่ต้องการ สรุปคือ น่าเห็นใจเพราะว่า "เธอประมาทกฎหมายเกินไป" ถ้าร้านนี้ปรึกษานักกฎหมายตั้งแต่ต้น เรื่องแบบนี้(น่าจะ)ไม่เกิดขึ้นแน่นอน ข้อสังเกตของผมที่ว่าเธอประมาทกฎหมาย ก็เนื่องจากการปฏิเสธเรื่องไปรษณีย์ตอบรับนั่นล่ะครับ เรื่องแบบนี้ถ้าใครศึกษากฎหมายมาจะทราบดีว่ามันมีผลเช่นไร มีฎีกาเยอะมาก เกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์จำเลยแกล้งไม่ได้รับ แกล้งไม่อยู่บ้าน ไม่ยอมรับรู้การส่งจดหมายหรือการปิดหมาย โดยอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นรับหรือเห็นตัวจดหมายนั้น แต่กฎหมาย "ถือว่า(deem)..." ได้รับ มีคนมากมายตกม้าตายเพราะเรื่องเหล่านี้ ยิ่งเธอพูดปิดท้ายในวันที่สองว่าตนไม่ได้เรียนทนาย จึงชัดเจนมากว่าเธอประมาท ยังไม่รวมถึงจดหมายขู่ที่เธอส่งไปให้ รฟม. อีกฉบับ ซึ่งผิดพลาดมากทีเดียวครับ ทำให้การเข้ารื้อของ รฟม. ครั้งที่สอง มีน้ำหนักขึ้นมาทันที หากผมเป็นทนายให้ก็ค่อนข้างหนักใจกับประเด็นจดหมายขู่ของเธออันนี้ ทุกคนเห็นใจครับ รวมทั้งผมด้วยเรื่องราคาประเมินที่น้อยเกินไป แต่เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่ดีในการให้คนเห็นความสำคัญของการใช้สิทธิของตนตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้ที่เสียสิทธิจะละเลยมิได้ และไม่ควรใช้วิธีนอกกฎหมายมาต่อรองกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัฐ สังคมปัจจุบันมันซับซ้อนขึ้นมาก หากเกิดเรื่องเหล่านี้ควรปรึกษานักกฎหมายก่อนจะดีที่สุดครับ ขอสรุปอีกทีว่า ผมสนับสนุนให้เธอสู้ต่อด้วยวิธีการทางกฎหมาย เพื่อจะได้เป็นคดีตัวอย่างให้แก่ผู้ที่จะถูกเวนคืนอื่นๆ ในอนาคตด้วย และที่สำคัญถ้าร้านนี้ได้เข้ามาอ่านความเห็นของผม ก็อยากจะฝากบอกด้วยว่า "สู้อย่างมีสติ"ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 54 00:49:44 จากคุณ : โรงเรียนลูกผู้ชาย เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 00:39:38

ความคิดเห็นที่ 105 เห็นด้วยนะว่าคนที่ถูกเวนคืนควรจะเสียสละ แต่เราก็อยากจะให้รัฐชดใช้ให้พอที่เขาเสียไป เพราะมันยากนะที่จะต้องไปสร้างตัวใหม่ คุณประเมินให้แค่ราคาที่ดิน แถมยังมีค่าเสื่อมอีก คิดดูว่าถ้าต้องไปสร้างตึกใหม่ ซื้อที่ใหม่ มันจะใช้เงินขนาดไหน แถมยังต้องตกแต่งใหม่อีก ค่าใช้จ่ายทั้งนั้น แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับร้านยานะที่เรียกร้องเผื่อต่อเยอะเกินไป ปล. เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต่อว่าร้านยาเพราะคิดว่าทางร้านเรียกเงินเยอะเกินไป และเราก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่บอกว่าควรเสียสละเขาให้เท่าไหร่ควรเอาเท่านั้นและต่อว่าร้านยา น่าจะไม่เคยโดนเวนคืน จากคุณ : nawisas เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 04:09:36

ความคิดเห็นที่ 106 ผมว่าจุดที่เขาพลาดที่สุดคือบอกว่า จบเภสัชไม่ได้จบทนายนี่แหละครับ เพราะไม่รู้กฎหมายเลยไม่ต้องทำตามกฎหมายก็ได้งั้นเหรอครับ ขืนใช้ตรรกะนี้ประเทศชาติได้ล่มจมกันพอดี จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 05:38:02

ความคิดเห็นที่ 107 จริงๆบ้านก็อยู่แนวสายทางเหมือนกัน คิดว่า 10 ล้าน น้อยไปแต่ เรียก 70 ล้านก็เยอะเกิน ภาษีประชาชนทั้งนั้น ดูรายการ คุณลูกสาวอ้างไม่รู้ไม่เห็น แต่ข้างบ้านรื้อถอน ย้ายออกไปกันแล้วจะไม่รู้ได้ยังไง เหตุผลฟังไม่ขึ้น คิดว่าคงจะดื้อเพื่อให้ได้ราคาตามต้องการจริงๆ แล้วเรื่องชักปีนแย่งปืนของลูกชายเจ้าของร้าน คนแถวนั้นก็ยืนยันว่าจริงค่ะ รวมทั้งทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ แต่ในรายการดูเหมือนจะเลี่ยงที่จะพูดถึง คือตอนนี้น่าจะเปิดเจรจากันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม รฟม. อาจจะให้ราคาเพิ่มอีกนิด แต่ไม่น่าจะเกินกว่าคูหาข้างๆ ดูรายการที่เค้ากางผังตึกกับแนวสายทางให้ดู เหมือนด้านหน้าร้านขายยาไม่ได้คิดถนนรัตนธิเบศน์ แต่ติดถนนรอง (7-11 ติดถนนรัตนธิเบศน์ด้านหนึ่ง อีกด้านติดถนนรอง) ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกไหม? แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ร้านขายยาได้ค่าชดเชยต่ำกว่า 7-11 ก็ถูกต้องแล้วเนื่องจากทำเลต่างกัน จึงไม่ควรได้รับชดเชยเกินกว่า 7-11 70 ล้านมันมากไป อยากให้นำภาษีประชาชนมาพัฒนาประเทศด้านอื่น แทนที่จะให้ร้านขายยาได้ประโยชน์คนเดียว จากคุณ : ใจเย็นๆกันนะ (บ้านสีชมพูประตูสีขาว) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 08:11:08

ความคิดเห็นที่ 109 เหนื่อยเปล่ากับการฟ้องร้อง ถ้าศาลยอมตาม ประเทศนี้คงจนลงอีกเยอะ แต่พ่อค้าหิวเงินคงรวยขึ้นอีกมากเช่นกัน แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 54 09:53:40 จากคุณ : Kingdom of Heaven เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 09:48:50

ความคิดเห็นที่ 110 อยากรู้เรื่อง 2 พ่อลูก ถามคนแถวนั้นดูเค้าเอือมกันตั้งนานแล้ว            และที่บอกว่าเป็นประชาชนไม่มีที่อยู่ ที่กิน ที่อาศัย                  งานเข้า!!!...แล้วอีกร้านหนึ่งละ แกมีร้าน                             ขายยาอีกร้านหนึ่ง ตอนคนอื่นย้ายกันหมดแกก็รู้ ว่าเค้าออกกันหมด แต่แกอ้างในรายการว่า คนอื่นเค้าก็เดือดร้อน ต่อต้านกัน แต่ไหนหว่า???เค้ายอมย้ายกันหมด โดยไม่ต่อต้านนะ                 การมาออกรายบการนี้เหมือนเป็นกระบอกเสียง                 ก็จริง..แต่ต้องดูด้วยว่าเรื่องของเรามันะออกมา             แล้วสังคมเห็นใจหรือไม่...งานนี้ 2 พ่อลูก เสียคะแนน               ตอนท้าย กับคำพูดที่ว่า...หนูจบเภสัช ไม่ใช่กฎหมาย จากคุณ : Peacefulmean เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 09:56:46

ความคิดเห็นที่ 111 อีกนิดคะ บ้านเคยโดนเวนคืนทำสะพานพระราม 7 เมื่อ 20 ปีที่แล้วเหมือนกัน คือ ไม่มีทางไม่รู้หรอกคะ ยิ่งเป็นเรื่องได้ประโยชน์เสียประโยชน์กับเราโดยตรง ยิ่งต้องอยากรู้ข้อมูลเยอะสุด แล้วถ้าบ้านข้างๆ ย้ายไปแล้วหรือได้เงินไปแล้ว ก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปอีก ส่วนตัวคิดว่าร้านขายยาน่าจะรู้ดีทุกขั้นตอนแต่ไม่อยากเจรจา หรือไม่พอใจในเงินชดเชยที่ได้รับ จึงอ้างว่าไม่รู้เพื่อให้ดูน่าสงสารและเป็นผู้ถูกกระทำมากกว่า จากคุณ : ใจเย็นๆกันนะ (บ้านสีชมพูประตูสีขาว) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 10:07:15

ความคิดเห็นที่ 112 เรื่องราคาที่ดินและราคาตึกจะได้เท่าไหร่ก็มีกรรมการเป็นผู้กำหนด เท่าที่ทราบตัวอาคารเขาไม่หักค่าเสื่อมด้วย จะเก่าแค่ไหนเขาก็ให้เท่ากับราคาที่ต้องสร้างใหม่ ค่าแรงก่อสร้างเขาก็ยังให้เป็นราคาปัจจุบัน แต่ราคาที่ประเมินไม่ได้ก็คือราคาความผูกพัน ซึ่งคำตอบของข้อนี้ก็คือความเสียสละ ไม่งั้น ต่อไปนี้คงไม่ต้องสร้างกันแล้วรถไฟฟ้า เพราะจะได้ไม่ต้องมีคนเดือดร้อนแบบนี้ จากคุณ : หูกระจง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 10:18:05

ความคิดเห็นที่ 113 คนหัวหมอ ของจริงครับ  เขี้ยวลากดินอีกต่างหาก น่ากลัวครับคนจำพวกนี้  ยืดเยื้อมาเป็นปี สังคมและคนส่วนใหญ่ก็เดือดร้อนล่ะครับ จากคุณ : Good will hunting เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 11:30:03

ความคิดเห็นที่ 114 70 ล้าน เขาคงคิดถึงราคาตอนที่รถไฟฟ้าสร้างเสร็จครับ เพราะถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จเมื่อไร บ้านอาหมวยเขาติดสถานีพระนั่งเกล้าเลยครับ แบบนั้นถึง 70 ล้านแน่ๆ แต่ รฟม เขาสนใจที่ราคาก่อนสร้างครับ จากคุณ : moonoiz เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 11:53:05

ความคิดเห็นที่ 115 เงินค่าเวณคืนที่ดิน10.2ล้าน....... เงินค่าปรับที่รฟม.ต้องจ่ายให้บริษัทสัมปทานที่ส่งมอบล่าช้า1ปีเกือบ120ล้าน เงินภาษีของประชาชนทั้งทั้งนั้น........ ยิ่งถ้าครอบครัวนี้ยังยืนยันเรียกราคาสินทรัพย์ค่าเวณคืนที่ดิน70ล้านเผื่อต่อ แล้วแบบนี้จะเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในการเวณคืนที่ดินบ้านที่ถูกเวณคืนและกำลังถูกเวณคืนแถบนั้นครับ คุณเรียก70ล้านบ้านติดคุณบ้านหลังอื่นๆที่ทำเลดีกว่าคุณหลังใหญ่กว่าคุณไม่เรียก100ล้านเลยเหรอ มีคนแบบนี้เยอะๆบ้านเมืองเราคงวุ่นวายน่าดูครับ....... จากคุณ : darakorn เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 13:26:23

ความคิดเห็นที่ 116 ... เน้น ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ช่วยๆๆ กันกด VOTE ก็ดีนะครับ เพี่อที่ กระทู้จะได้อยู่ได้นานๆ นะครับ จากคุณ : okb เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 15:43:52

ความคิดเห็นที่ 117 อยากจะขอบคุณผู้ที่เคยถูกเวนคืนที่ดินทุกท่านค่ะ ท่านอาจจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ แต่ดิฉันถือว่า ทุกท่านได้เสียสละเพื่อประเทศของเราเป็นอย่างมากค่ะ จากคุณ : livelyjammy เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 17:46:11

ความคิดเห็นที่ 118 ขอความกรุณา คุณสันติ ความคิดเห็นที่2 อย่าใช้คำว่า เจ็กกบฎ ได้ไหม มันเป็นคำหยาบคายสำหรับ ลูกหลานคนไทยเชื้อสายจีน จากคุณ : bozobath เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 18:38:18

ความคิดเห็นที่ 119 รู้แต่ว่า ลูกสาวไร้มารยาทมาก คนพูดอยู่ก็พูดแทรกไม่รอให้เขาพูดจบ เค้าพูดอยู่ก็มีหัวเราะคอยทำหน้ายิ้มเยาะ... ตอนข้างบ้านเค้าย้ายออกกันไม่ได้ถามเค้ากันเลยเหรอว่าทำไมย้าย? ต่อให้ไม่ได้รับจดหมาย แต่ถ้ารอบๆโดนหมดคิดว่าเค้าจะเหลือบ้านตัวเองโดดอยู่บ้านเดียวเหรอ? คิดว่าจ่านค่าเวนคืนให้น้อยไปนะ แต่วิธีของสองพ่อลูกนี้เกรียนมาก จากคุณ : Nikomosphere เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 18:48:17

ความคิดเห็นที่ 120 มันก็พอกันแหละ...2ฝ่ายเลย 10 ล้านมันก็น้อยไปหน่อย(หน่อยเดียวนะ) แต่เรียก 70 ล้านมันก็เกินไป(มากๆเลยด้วย) สรุป รฟม.เขี้ยวลากดินสู้สองพ่อลูกไม่ได้ จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:31:00

ความคิดเห็นที่ 121 เห็นแก่ตัวจริงๆสองพ่อลูก เภสัชหัวหมอของจริง กลับไปอยู่จีนไป นี่ถ้าที่จีนคงโดนไปแล้ว จากคุณ : ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:32:10

ความคิดเห็นที่ 122 ^ ^ ทำไมต้องไล่เขาไปไหนเหรอคุณ..ในเมื่อเขาก็เป็นคนไทยเหมือนคุณ.. เขาจะดีจะชั่วอย่างไร..คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาไล่ใครให้ออกไปจากประเทศไทยได้นะ.. แตกแยกกันเรื่องเสื้อสีไม่พอนะ..จะเอาเรื่องเชื้อชาติอีกหรือไงครับ..คงสะใจกันมาก.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 19:57:13

ความคิดเห็นที่ 123 ความคิดเห็นที่ 122 ถ้าดูในรายการสรยุทธ์ อีหมวย:-)บอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากจะคืนบัตรประชาชนให้กับประเทศไทยน่ะ คนที่มันคิดแบบนี้สมควรที่จะอยู่ในแผ่นดินไทยหรือไง ยังออกตัวไม่เลิกแหะ จากคุณ : เบื่อพวกถ่วงความเจริญ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 20:14:57 A:221.128.92.34 X: TicketID:257520

ความคิดเห็นที่ 124 น่าจะอนุญาตให้สร้างร้านขายยาใต้รถไฟฟ้า อยากอยู่นักก็อยู่ไปเลย 55+ จากคุณ : violetlittle เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 54 20:36:59