ความคิดเห็นที่ 1 เค้ารักคุณหรือเปล่าคะ แม่สามียอมรับในตัวคุณหรือเปล่า คือถ้าคุณไม่ท้องเค้าก็ไม่คิดจะรับผิดชอบหรือแสดงออกว่ารักหรืออยากดูแลหรือไง อ่านๆแล้วรู้สึกว่าเค้าไม่ได้รักคุณเลย ตอนนี้พาแม่มาอยู่เป็นเพื่อนดีไหมคะ เพราะตอนคลอดคิดว่าเค้าก็คงไมาสนใจอยู่ดี มีพ่อไม่รับผิดชอบ ไมมีจะดีกว่านะคะ อันนี้ไม่ได้ยุแค่เตือนสติดูค่ะ ลองคิดและตัดสินใจดูค่ะ เพราะคุณน่าจะดูแลพ่อแม่ ไม่ใช่มาเลี้ยงลูกคนอื่น แม่เค้า ย่าเค้า ยายเค้า เลี้ยงได้ทำไมไม่ให้ไปอยู่ด้วย เอามาเป็นภาระ เกาะเมียไม่พอเอาลูกมาเกาะด้วย เด็กน่าสงสารนะคะ เค้าควรจะอยู่กับคนที่อบรมสั่งสอนเค้าได้มากกว่าค่ะ คิดให้ดีแล้วตัดสินใจหลังคลิดก็ไม่สาย ตอนนี้ ใกล้คลอดแล้ว ก็น่าจะดูแลสุขภาพ สุขภาพจิตให้ดีค่ะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:13:36

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อนะค่ะ พอเราโทรบอกสามีว่าเราเครียดนะ เราก็จะคลอดแล้วด้วย ลางานมาเลี้ยงลูกก่อนได้ไหม เพราะลูกเค้าไม่ฟังแม่บ้านเลย เราต้องตื่นเช้ามาจัดการเรื่องไปโรงเรียนทุกวันบางที่เราก็ไม่ไหว สามีได้แต่เฉยค่ะ จนตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วค่ะ จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:14:35

ความคิดเห็นที่ 3 มันเป็นการยากที่จะให้คนที่ไม่ใช่แม่มาทำหน้าที่แม่ เพราะเด็กไม่ใช่จะมีแต่ด้านน่ารักอย่างเดียว การจะแก้ปัญหาของคุณนี้แก้ที่คนอื่นคงไม่ได้เพราะปัญหาใหญ่อยู่ใจคุณไม่ได้รักเด็กคนนี้ค่ะ... จากคุณ : แก้วแต้มสี เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:15:43

ความคิดเห็นที่ 4 แม่เด็กเค้าไปไหนคะ เห็นตอนแรกบอกว่าเด็กอยู่กับแม่  สาเหตุใดสามีจึงให้มาอยู่กับคุณ รีบจัดการปัญหาก่อนที่คุณจะคลอดด่วนเลยค่ะ  เพราะความรักของคุณจะไปที่ลูกคุณเท่านั้น เพราะพื้นฐานคุณก็ไม่ได้รักและเอ็นดูลูกเลี้ยงเท่าไหร่อยู่แล้วค่ะ   พอคุณคลอดออกมา ตอนนี้แหละเป็นเรื่องแน่นอน ไหนจะลูกอ่อน ไหนจะลูกเลี้ยง  แล้วถ้าพี่มาเล่นกับน้องหรือทำอะไรกับน้องคุณคงไม่ใจเย็นแน่ค่ะ แล้วปัญหาของพี่ก็จะตามมาเป็นอิจฉาน้อง     ถ้าคุณเอาใจใส่ลูกอ่อนมากๆ คนพี่ก็จะเก็บกด เป็นเด็กมีปัญหาและแสดงออกด้วยความก้าวร้าว มีนจะไปกันใหญ่นะคะ  ไม่ได้บอกให้กังวลแต่มันมีเค้าความยุงยากมาให้เห็๋นแล้วค่ะ ส่งไปให้ย่าดูแล แล้วเอาเงินที่สามีให้คุณ เดือนละ 5000 ไปให้ย่าแค้าแทน ดีกว่ามั๊ยคะ จากคุณ : ป้าลายคราม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:29:00

ความคิดเห็นที่ 5 เด็กคนนี้อยู่กับย่ามาตั้งแต่เด็กค่ะ เพราะย่าเห่อหลานคนแรกมาก จนมาเอาจากแม่เค้าไปเลี้ยงตั้งแต่สิบกว่าวันค่ะ และหลังจากที่พ่อกับแม่เค้าเลิกกัน แม่เค้าขอลูกไปเลี้ยง เลี้ยงได้แค่ปีเดียว เค้าก็บอกว่าไม่สามารถเลี้ยงได้ ให้พ่อเด็กไปรับกลับมา จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:39:57

ความคิดเห็นที่ 6 พอย่ารู้ว่าเราจะไม่เลี้ยงหลานให้แล้ว ก็โทรไปร้องไห้กับลูกชาย ว่าหลานน่าสงสารไม่มีใครอยากจะเลี้ยง ถ้าไม่มีใครเลี้ยงแม่จะขายรถไปเลี้ยงหลานให้เอง จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:46:58

ความคิดเห็นที่ 7 สามีมาเราให้ฟังว่าสงสารแม่มาก เราก็บอกว่าแล้วเราจะต้องทั้งทำงานและเลี้ยงลูกสองคนได้ยังไง เราก็ต้องทำงานเลี้ยงตัวเองเลี้ยงลูกที่จะเกิดมา จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 20:51:40

ความคิดเห็นที่ 8 เลิก!!!!เหอะะะะะะะะะะคะ!!!! มีสามีผิดไม่ต้องคิดจนตัวตาย คิดเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกดีกว่าคะ การมีสามี คือการมีชีวิตคู่ คู่ชีวิตที่ดี ต้องอยู่เคียงข้างกัน มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ร่วมทุกข์คะ ไม่ใช่ปล่อยกันไว้อย่างนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นราชการเงินเดือนน้อย แต่เห็นมีเยอะไปคะ ราชการเงินเดือนน้อยที่ดูแลครอบครัวให้ดีมีสุขได้ ไม่อยากพูดไรมากนะคะ อยากแนะนำแค่ว่า หักดิบเถอะคะ บอกเขาไปเลย ถ้าไม่คิดถึงฉัน ก็ไม่เป็นไร เชิญคุญดูแลคุณลูกคุณแม่ที่น่าสงสารของคุณไป ส่วนฉันจะดูแลลูกของฉันเอง ลูกเกิดมาก็ให้ใช้นามสกุลคุณ จบคะ ทำให้ได้นะคะ เป็นกำลังใจให้คะ สู้ ๆ ความรัก ไม่จำเป็นที่จะต้องไม่เสียเปรียบอะไร หรือได้เปรียบทุกอย่าง เพียงแต่ บางจังหวะ ชีวิต ต้อง ยอมให้กันบ้าง ฟัง ๆ มาจากที่คุณเล่าเขาไม่ค่อยใยดีคุณ ยังไงก็สู้ ๆ คะ เชื่อเรา สุดท้ายลูกคือสิ่งสำคัญคะ จากคุณ : capu เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:07:47 A:58.11.104.249 X: TicketID:287336

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าต้องให้เลี้ยงลูกคนอื่น ขอบายตั้งแต่วันแรก!! จากคุณ : maewfoo เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:26:18

ความคิดเห็นที่ 10 ใจคุณไม่รักลูกเลี้ยงอยู่แล้วอ่ะ ในเมื่อใจไม่เมตตายิ่งอยู่อย่างนี้ สงสารลูกเลี้ยงคุณ ส่วนตัวคุณ ทำงานเก็บเงินออมไว้บ้างเพื่อลูกที่กำลังจะเกิด เวลาสามีขอ ให้บอกว่าไม่มี ถ้าตังก์สำหรับลูกเลี้ยงหมด ก็ให้ขอเค้า เพราะลูกเค้า สุดท้าย เราว่านะ ถ้าคุณทำใจรักลูกเลี้ยงได้ คุณอาจจะได้พี่ที่ช่วยเลี้ยงน้อง รักน้อง ดูแลน้องที่กำลังจะเกิดได้อย่างดีเลยนะ เด็กอ่ะยังใสอยู่ อย่ายัดเยียดความเกลียดชัง เบื่อหน่าย ให้เค้ารับรู้เลย เลี้ยงเค้าไว้ ก็เหมือนปลูกต้นไม้ ต้องดูแล ดอกผลจะเห็นได้ก็ตอนเค้าโตนี่แหละ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ single mom เหอะ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:29:57

ความคิดเห็นที่ 11 พ่อแม่แท้ๆของเด็กยังไม่ยอมเลี้ยงลูกตัวเอง แล้วคุณจะฝืนเลียงลูกคนอื่นทำไมล่ะครับ ลูกคุณเองก็มีแล้วด้วย จากคุณ : I เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:30:05 A:115.87.98.187 X: TicketID:321024

ความคิดเห็นที่ 12 เลี้ยงลูกตัวเอง ว่ายากแล้ว ... นี่ให้เลี้ยงลูกคนอื่น ยากยิ่งกว่า.... ที่ว่าลูกคนอื่นน่ะ ไม่ใช่เพราะไม่มีใจเมตตาหรอกนะ.. แต่ติดว่าเป็นลูกคนอื่น เพราะ คนอื่น ต้องคอยกำกับดูแลเด็กด้วยตลอด...(โทรถามไถ่ตลอด) เหนื่อยแน่นอนค่ะ.... พอตอนคลอดแล้วด้วย อารมณ์คุณจะปรวนแปรกว่านี้อีกเยอะ... เห็นด้วยกับ คห ข้างบน ว่าขอแม่เรามาอยู่ด้วยซักพัก....และ ส่งเด็กไปให้ย่าเค้าเลี้ยงค่ะ... รับรองว่า ไม่ว่าคุณจะทำดีแค่ไหน ก็เสมอตัวค่ะ ไม่ได้ดีหรอก ... เพราะ ดูเหมือนตัวย่า และพ่อเด็กเอง ก็ตั้งแง่กับคุณ ไม่ใช่น้อยแล้ว.... ขอโทษ หากความเห็นไม่ถูกใจ.... จากคุณ : นี่แหละความจริงของชีวิต (ป้อม-ยาม) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 21:50:53

ความคิดเห็นที่ 13 พอจะเลิกกันได้ป่าวอ่ะคะ ไม่สบายใจก็ส่งเด็กไปให้ย่าเค้าเลี้ยง ไม่แปลกหรอกที่คุณจะไม่ค่อยรักลูกเลี้ยง มันไม่ใช่ลูกตัวเองนี่คะ แถมเกิดจากสามีเรากับผู้หญิงคนอื่น จะให้รักดั่งลูกคงยาก สามีคุณก็เหลือเกิน ดูแล้วคุณก็เป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ ก็ถอยออกมา แต่งกับคนมีภาระยังไงก็ปวดหัว ใจเราไม่คิดจะเอาพ่อหม้ายลูกติดมาเป็นสามีอ่ะค่ะ กลัวมีปัญหาทีหลัง แรกๆก็ดีหมด รับได้ทุกอย่าง หลังๆมันก็ต้องมีคิดเล็ก คิดน้อย คิดเยอะ ผู้ชายบางคนเค้าก็รักลูกเกินไปค่ะ สอนไม่ได้ ตีไม่ได้ กลัวลูกจะมีปมด้อย เราเคยเห็นค่ะ เวลาลูกเค้ามีปัญหาจะด่าเมียก่อนเลย เป็นเกราะป้องกันให้ลูกมากเกินไป อย่างนี้อย่ามีเมียใหม่เลย อยู่เป็นโสดเหอะ จากคุณ : may เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:02:01 A:183.89.177.120 X: TicketID:207916

ความคิดเห็นที่ 14 มันมาถึงขั้นนี้แล้วนะครับ เปลี่ยนแปลงยาก ลองคิดว่าลูกเขาคือลูกคนโตของคุณไปเลยดีกว่าครับจะได้สบายใจ ปัญหาจริง ๆผมว่าคุณกำลังจะมีลูกเป็นของคุณเองมากกว่า..ซึ่งความรู้สึกตรงนี้มันมาทำให้คุณคิดมาก เลยไปพาลเด็กซึ่งเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ปล.ถ้าไม่ใช่ผมขอโทษด้วยนะ ตอนที่คบกันคุณก็รู็ใช่ไหมว่าเขามีเมีย มีลูกอยู่ ด้วยความเคารพ....สงสารเด็ก ๆครับ(ทั้งลูกคุณและไม่ใช่ลูกคุณ) จากคุณ : หัวหน้าเผ่าฯ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:16:15 A:115.67.233.187 X: TicketID:301517

ความคิดเห็นที่ 15 เหมือนผู้ชายไม่ได้รักคุณจริงๆค่ะ เค้าไม่เลิกกับคุณเพราะคุณมีผลประโยชน์ อยู่หรือเปล่า มีอย่างที่ไหน เมียท้องโย้จะคลอดแล้ว มีแต่จ้องจะไถ เงินเมีย จากคุณ : เอ๋จังตัวน้อย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:20:15

ความคิดเห็นที่ 16 เราคิดว่าเราให้เด็กคนนี้เท่าที่เราจะให้ลูกของเราแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการดูแล อบรม สั่งสอน แต่ความรักยอมรับค่ะว่าไม่เท่า เรื่องมีอารมณ์โกรธเวลาที่กวนเราเวลาทำงานมีค่ะ แต่ก็ต้องเก็บในใจขณะอยู่ต่อหน้าลูกค้า และคอยไปสอนไปบอกตอนลูกค้ากลับไปแล้ว แต่เค้าก็จะคอยกวนเราอยู่ทุกวัน ตอนไม่มีลูกค้าเค้าก็จะไม่คอยกวน แต่ถ้าลูกค้ามาเมื่อไหร่ เค้าจะเริ่มปฎิบัติการรบกวน อยากจะมาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง ขณะที่เรากำลังอธิรายละเอืยดให้ลูกค้าฟังอยู่ แล้วเวลาทำงานของเราก็มักจะตรงกลับเวลาที่เค้าเลิกเรียน เราต้องทั้งทำงาน สอนการบ้าน ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเวลาที่เราติดลูกค้ายาวๆ ไม่นั่งเฝ้าเค้า เค้าก็ไม่ทำ เดินออกไปเล่นกับเพื่อนข้างนอกเฉยเลยค่ะ      เค้านอนห้องเดียวกับเรานะค่ะเวลาจะนอนเค้าก็นอนคนเดียวไม่ได้ งานเราเลิก 22.00 น. แต่เราอยากให้เค้านอน 21.00 น. ถ้าเราติดลูกค้าเค้าก็ไม่ยอมนอนค่ะ       เรามีสมุดดาวแห่งการทำความดีให้เค้าด้วย เวลาที่เค้าทำการบ้านเสร็จ ก็จะได้ดาว เพื่อแลกเป็นเงิน เอาซื้อของเล่นที่อยากได้อะค่ะ       แต่ที่เราไม่อยากทนอีกต่อไป เพราะคำพูดของย่าเค้าค่ะ ว่าโรงเรียนที่เราหาให้ไม่ดี ครูอยากได้แต่เงิน ไม่ยอมจี้เด็กให้เรียนหนังสือ อยู่ที่บ้านก็ยังไม่มีใครคอยจี้อีก อะไรประมาณนี้อะค่ะ จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 22:32:22

ความคิดเห็นที่ 17 เอาลูกเลี้ยงไปให้ย่าเลี้ยงครับ ตัดปัญหานี้ไปได้   แต่อาจมีปัญหาอื่นตามมา ค่อยๆแก้ไปทีละเปลาะ จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 23:37:33

ความคิดเห็นที่ 18 มาต่อค่ะ........ถ้าอธิบายยืดยาวไปต้องขอโทษด้วยนะค่ะ อยากระบายจริงๆ ซึ้งการเลี้ยงดูของเรากับย่าจะต่างกันมากจนลูกสับสนอะค่ะ เราจะสอนลูกให้ช่วยเหลือตัวเอง อาบน้ำเอง แต่งตัวเอง กินข้าวเอง แต่ถ้าย่ามาจะทำตรงข้ามหมดเลยค่ะ อาบน้ำให้ ใส้กกนให้ แต่งตัวให้ทุกอย่าง  แล้วก็ป้อนข้าวด้วยกับข้าวก็จะเลือกที่ดีๆ เช่นตักกุ้งใส่จานหลานไว้เกือบทั้งหมด เราได้แต่นั่งมองตาปริบๆ อะค่ะ แล้วเวลาที่ย่ากลับไปเราก็ต้องมาเค้าโหมดสอนลูกช่วยเหลือตัวเองใหม่ ซึ้งลูกก็จะต่อต้านเราว่าทำไมย่ายังทำให้ได้ เวลาอยากได้อะไรก็จะยกย่าขึ้นมาอ้าง ว่าตอนอยู่กับย่าย่ายังซื้อให้ได้ เราจะตั้งกฎว่าถ้าไป 7-11 จะซื้อขนมได้ไม่เกินสองชิ้น ให้เลือกเอาที่อยากได้ที่สุด ส่วนนม และไอศครีม เรามีให้ในตู้เย็นอยู่แล้ว แต่พอย่ามาจะเอากี้ชิ้นก็ได้ ลูกก็ต่อต้านเราอีกอะค่ะ แล้วที่ย่าเค้าข่มเรามากๆ เลยก็คือ เล่าให้เราฟังว่าเคยตบแม่ของหลานต่อหน้าหลาน สาเหตุเพราะทิ้งให้หลานนอนอยู่ในห้องคนเดียวแล้วหนีไปเที่ยว แต่ว่ามีอาของหลานนอนอยู่นอกห้องนะค่ะ เมียของน้องชายแฟนก็เคยตบเพราะเถียงเค้าอะค่ะ เราก็ฟังเค้าเงียบๆ แต่ก็คิดในใจถ้าทำกับเราแบบนี้ได้ขึ้นโรงพักกันบ้างละค่ะ จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 54 23:50:35

ความคิดเห็นที่ 19 ย่าเค้าบอกว่าไม่สามารถเลี้ยงหลานได้ค่ะ เพราะต้องทำงานผ่อนรถ ผ่อนบ้านให้ลูก ย่าเค้าซื้อห้องแถวไว้สองหลังตั้งใจจะยกให้สามีเราและพี่ชายของสามี แต่พอทำเรื่องอะไรไปแล้ว เกิดปัญหาขึ้นคือ คือถูกปล้นขโมยรถ ขโมยทอง แล้วก็เป็นเจ้าแม่แล้วถูกโกงแชร์ด้วย เงินก็เลยไม่พอที่จะโป๊ะรถกับบ้าน สามีเราก็เลยทำเรื่องกู้เงินมาสี่แสน เพื่อช่วยแม่ แต่สามีเราจะถูกหักเงินทุกเดือนเดือนละสี่พัน เป็นเวลา 13 ปี เงินส่วนที่เหลือก็เอามาดาวรถแต่สามีเราไม่ปัญญาผ่อนค่ะจึงให้แม่ผ่อนและใช้รถไป ตอนแต่งงานกับเราสามีอยากให้เราเป็นคนผ่อนรถให้ แต่เราบอกว่าไม่สามารถทำได้(ผ่อน 7500 ต่อเดือน 7 ปี) และแนะนำให้สามีขายรถเอาเงินไปใช้หนี้ที่กู้มาจะได้ไม่โดนหักเดือน และเสียดอกเบี้ยตั้ง 240,000 บาท และจะได้ไม่ต้องลำบากแม่ด้วย แล้วอีกสักสองสามปีค่อยช่วยกันเก็บเงินซื้อรถใหม่ หรือซื้อเมื่อเรามีความพร้อมแล้วจริง สามีก็มีเอนเอียงจะเชื้อเรา แต่แม่สามีไม่ยอมค่ะ กลัวอายชาวบ้าน แล้วเรื่องบ้านมีคนเช่าอยู่ทั้งสองห้องค่ะ จ่ายค่าผ่อนเพิ่มอีกนิดหน่อยในหลังของพี่ชายค่ะ พี่ชายสามีไม่ต้องอะไรเลยค่ะ จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 00:11:47

ความคิดเห็นที่ 20 นิสัยแม่สามี กับสามีคุณเป็นแบบนี้ ก็สมควรแล้วล่ะ ที่ต้องเลิกกับเมียเก่า คุณจขกท.จะพยายามยังไง ก็คงทนอยู่กับแม่สามีอย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าลูกเลี้ยงชอบอ้างพ่ออ้างย่านัก ก็ให้ไปอยู่กับ พ่อ กับย่าน่ะแหละดีแล้วครับ จากคุณ : I เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 00:25:08 A:115.87.98.187 X: TicketID:321024

ความคิดเห็นที่ 21 1. สามีคุณคงรู้นิสัยแม่ของตัวเองดีว่าไม่เหมาะจะเลี้ยงหลาน และเห็นว่าคุณมีความสามารถจะดูแลเด็กได้ดีกว่า จึงไว้วางใจอยากให้คุณช่วยดูแลลูกคนโต โดยเฉพาะด้านการศึกษาเล่าเรียน 2. คิดว่าเข้าใจความรู้สึกของพ่อเด็กนะ ที่นานๆ ทีจะได้กลับมาอยู่กับครอบครัว เขาคงอยากพบทั้งคุณและลูกพร้อมกัน 3. อารมณ์เด็กโดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ปกติมักจะเรียกร้องการเอาใจใส่มากกว่าคนอื่น จากประสบการณ์ครอบครัวที่มีลูกคนเดียว เด็กก็มักเรียกร้องความสนใจ เวลาพ่อแม่คุยกับคนอื่น บางทีเด็กก็วีนขึ้นมาให้ต้องฟังเขาก่อน แบบที่ลูกเลี้ยงของคุณชอบมากวนตอนคุยกับลูกค้า อยากจะบอกให้คุณอดทน และเข้าใจ  อยากให้คุณบอกรักเด็กบ่อยๆ บอกเหตุผลที่ไม่อยากให้เด็กมากวนตอนคุยกับลูกค้าว่าแม่จำเป็นต้องทำงาน เพื่อหาเงินเลี้ยงดูหนูและน้อง ขอให้หนูรักน้องและเป็นเด็กดีช่วยแม่เลี้ยงน้อง ถ้าพวกคุณจูนกันได้ ต่อไปคุณอาจจะมีผู้ช่วยที่ดีเพิ่ม 4. เห็นด้วยที่คุณแนะสามีให้ขายรถเพื่อใช้หนี้ก่อน รถยนต์ยิ่งใช้ ก็ยิ่งด้อยค่า บอกแม่สามีให้ยอมอายชาวบ้านแล้วหมดหนี้ ดีกว่าอดตาย แล้วยังมีหนี้ 5. หวังว่าคุณและลูกเลี้ยงจะเข้ากันได้ดี เพราะเท่าที่ดูเด็กก็ติดคุณเหมือนกัน ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับคุณ  แต่เพราะผู้ใหญ่ทำให้สับสน ทางที่ดีขอให้สามีบอกแม่ว่าอย่าพึ่งมาพบเด็ก เพื่อให้เด็กกับคุณปรับตัวให้เข้ากันให้ได้ก่อน จากคุณ : Morinda เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 03:52:28

ความคิดเห็นที่ 22 วันหลังหากแม่สามีถามว่าหลานเค้าน้ำหนักขึ้นหรือเปล่ากินข้าวได้เยอะไหม แล้วให้หลานเค้ากินอะไรบ้าง  ก็บอกเขาว่าอยากรู้ก็เอาไปเลี้ยงเองซิ  ไม่มีเวลาตอบเพราะไม่ว่าง ดิฉันอยากเจอสภาพแบบนี้จัง  จะจัดการชะให้ขึ้นไทยรัฐหน้า 1 เลย  อยากเอามาให้เราเลี้ยงทำไม  ใครทำให้มันเกิดก็เอาไปเลี้ยงเองซิ ดิฉันบ้างครั้งก็เคยมีปัญหากับแฟนถึงกับจะเคยเลิกกัน  แต่ดิฉันไม่เคยคิดจะทิ้งลูกให้ใครหน้าไหนเลี้ยง  ไม่ว่าจะเป็นพ่อ  หรือย่า แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 08:15:25 จากคุณ : มีความจริงใจมาให้ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 08:15:02

ความคิดเห็นที่ 23 และที่รู้สึดผิดอีกอย่างนะค่ะ พ่อแม่เราตั้งใจทำงานเก็บเงินส่งเสียเราจนเรียนจบ เอาเงินเก็บของพ่อแม่มาเปิดร้านให้ หวังให้เก็บเงิน ตั้งตัว เรากับน้องชายที่เรียนจบทำงานแล้ว ก็ช่วยกันส่งเสียน้องชายอีกคนที่กำลังเรียนปริญญาตรี อีกปีกว่าๆ ก็จบแล้ว และเราก็ยังมีน้องคนสุดท้องที่ยังเรียนอยู่ชั้นประถมเหมือนกัน เราเองยังไม่เคยดูแลน้องคนสุดท้องเหมือนที่ดูแลลูกเลี้ยงเลยค่ะ ซึ้งทำให้แม่น้อยใจมาก แต่ความเป็นแม่ก็อดสงสารลูกไม่ได้ถึงกับบอกเราว่าถ้าเราลำบากก็ไม่ต้องส่งน้องเรียนก็ได้ แม่จะส่งน้องเอง เราถึงเป็นทุกข์ใจอยู่ทุกวันอะค่ะ แม่ส่งเราเรียน 6 ปี (อาชีพที่เรียนต้องเรียน 6 ปีค่ะ) เราตอบแทนบุญคุณแม่ได้แค่นี้เองเหรอ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 11:41:56 จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 11:33:53

ความคิดเห็นที่ 24 ๕๕๕ ผมว่าคุณเจอบททดสอบจากลูกเลี่้ยงครับ... เค้ารู้จุดอ่อนคุณ... ผมก้อมีลูกที่ขอมาเลี้ยง..(พ่อแม่เค้าตายหมด) เราอยากช่วยเหลือสังคม เด็กอายุขนาดนี้รู้เรื่องแล้ว.. ถ้าเป็นผมนะ.. ผมจะยื่นคำขาดว่า ถ้าจะให้เลี้ยงลูกให้ สิทธิ์ต้องมี... ดื้อมากทำโทษ...ถ้าใครมาโวย..ไม่ยาก..ทำโทษเด็กเพิ่มให้เค้ารู้ว่าใครมีอำนาจ.. แต่คุณต้องมีเมตรา (เขียนผิด) พอคุณผ่านจุดทดสอบ เด็กเค้่าน่าจะดีขึ้น... เหมือนเวลาพาเด็กไปดูของเล่น.. ถ้าเด็กร้องไห้อยากได้ของเล่น..แล้วคุณซ้ือให้ คราวหน้าเค้าก้อจะร้องไห้.. แต่ถ้าไม่ซื้อให้โดยมาเหตุผล... คราวหน้าเค้าก้อจะไม่ร้องไห้... ถ้ามันไม่ดีก้อคิดดูว่าอยู่คนเดียวได้มั้ย... จากคุณ : Jedcon เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 12:00:02

ความคิดเห็นที่ 25 ทายว่า จขกท จบเภสัชป่าวคะ ถ้าผิดขออภัยค่ะ จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 12:13:20

ความคิดเห็นที่ 26 หุหุ  ไม่มีเวลาเลี้ยง ไม่มีเวลาดูแล  แต่ยังจะมากำกับ มาตั้งกฏให้เป็นอย่างโน้น เป็นอย่างนี้  ร้ายกาจเกิดเหตุ คิดว่า จขกท ก็ทำได้ดีแล้วนสำหรับการเลี้ยงลูกของสามีแบบนี้  แต่บังเอิญมีคนที่คอยชักใยเด็ก ทำให้เด็กเสียคนน่าจะเป็นย่าเด็กเอง  ไม่รู้ว่ารักหลานแบบไหนกันนี่  วิธีการเลี้ยงแบบนี้โตขึ้นคงได้ช้ำใจกันแน่ ถ้า จขกท  คิดว่าจำเป็นต้องเลี้ยงจริง ๆ  และสามารถรับได้กับเด็กคนนี้  ก็ต้องเด็ดขาดกับแม่สามีและสามีให้ได้ เลี้ยงได้ ก็ต้องดุได้ ว่าได้ สั่งสอนได้  ไม่อย่างนั้นอย่าเลี้ยงให้เหนื่อยเลย  เพราะถ้าเลี้ยงได้ดีย่าเขาก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะเขา แต่ถ้าเลี้ยงแล้วเด็กเขาเสียคน เกเร เขาก็จะโทษว่าเพราะแม่เลี้ยงใจร้าย จากที่อ่านมา  จขกท  ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดให้ได้ในทุกเรื่อง  ดูเหมือน จขกท  จะยอม ๆ ให้กับสามีมากไปรึเปล่า  เลยไม่กล้าขัดใจทั้งสามีและแม่สามี จากคุณ : ชมพรกร เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 17:19:15

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าย่าสปอยเด็กจนขนาดแม่เด็กรับไปยังบอกเลี้ยงไม่ไหว ก็พอเข้าใจ จขกท ค่ะ ตัวเด็กเองก็คงต้องการความรักแหล่ะ และย่าก็ประเคนให้ทุกอย่างจนเด็กเข้าใจว่า ความรักต้องเป็นแบบนี้ ต้องได้ทุกอย่าง ต้องมีคนมาเอาใจ คอยสอดส่องดูแล ไม่ละเลยเขา ลึกๆเด็กอาจจะกลับการถูกทิ้งอยู่ ก็เลยพยายามเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง แม้ว่าจะเป็นทางลบก็ตาม แต่ก็ทำให้เขาได้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหนึ่ง ก็คงต้องคุยต้องบอกเขาไปแหล่ะว่า บ้านนี้มีกฏยังไง ถ้าคุณย่ามาทำให้ หนูต้องตอบกลับยังไงบ้าง อย่างเวลาย่าจะแต่งตัวให้ ก็อาจจะพูดกลับไปว่า ขอบคุณครับ คุณย่า แต่ผมโตแล้ว ทำหลายอย่างได้ด้วยตัวเอง เดี๋ยวผมแต่งตัวให้ดูนะครับ คนเลี้ยงหลายคน แนวทางมันไม่ค่อยชัดเจน เด็กก็สับสนได้เหมือนกัน จะว่าเด็กผิดไม่ใช่หรอกค่ะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่ไปลงกับเด็ก ซึ่งเด็กก็แค่พยายามจดจำ ลอกเลียนแบบ และเรียนรู้จากคนรอบข้างเท่านั้นเอง ต้องบอกเขาไปอะไรถูก/ผิด ไม่งั้นโตไปปรับทัศนคติเขายากขึ้นจะลำบากน่ะ ถ้าเขาถูกทิ้งอีก เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีตัวเองทำอะไรผิด แล้วฐานะของคุณต่อเขาคืออะไร แม่ พี่เลี้ยง คนรับใช้ มันชัดเจนไหม ถ้าคุณเป็นแม่เลี้ยงก็ต้องมีบทบาทชัดเจนว่า แม่เลี้ยง ไม่ใช่แค่พี่เลี้ยง หรือคนรับใช้ มาป้อนข้าวป้อนน้ำ สอนการบ้าน หาอาหาร คอยรับ/ส่งเขา ขอบเขตของคำว่า แม่ ต้องมีกว้างกว่า สิทธิขาดต้องมีน่ะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนรอบข้างก็ต้องปฏิบัติกับคุณด้วยเหมือนกัน ตัวเด็กเองจะได้เห็นความแตกต่างของฐานะ เราว่าตัวเด็กเองก็ลองกับคุณเหมือนกันนะ อย่างที่ว่า กับย่าได้ กับแม่ได้ ทำไมกับคุณถึงไม่ได้ ท่าทีที่คุณยอมทุกคนมากเกินไป อาจทำให้เด็กเอามาข่มได้นะ ประมาณว่า ไม่มีพาวเวอร์ในการดูแลเขาได้ คนที่ให้และคุ้มครองเขาได้เป็นย่า เป็นพ่อ ส่วนแม่คนนี้ทำตามอย่างเดียว ถ้าไม่ได้เดี๋ยวจะไปบอกพ่อบอกย่า ประมาณนั้นน่ะ นั่นก็อาจจะเพราะคุณอ่อนเกินไป ไม่แสดงอำนาจให้ชัดเจน จนฐานะมันก้ำกึ่งว่า เป็นอะไรกันแน่ สำหรับเด็กคนนี้ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 05:37:25

ความคิดเห็นที่ 28 ลองคิดกลับกันว่าเราเป็นเด็กดูบ้าง... น่าสงสารนะว่าไหม... ไม่มีใครรักเค้าจริงๆเลยซักคน คนที่จะสอนหรืออบรมให้เป็นคนดี(อย่างจขกท.)ก็ไม่พร้อมแถมมีย่าคอยทำแบบนั้นอีก คนแก่อ่ะชอบตามใจหลานอยู่แล้วโดยไม่คิดหรอกว่ามันจะทำให้เด็กเสียคน คนที่่จะตัดสินใจได้ก็คือสามีคุณอ่ะแหละ   เป็นพ่อเด็กก็ต้องตัดสินใจอ่ะนะ  คุณทำดีที่สุดแล้วนิ จากคุณ : tanyatorn เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 18:18:57

ความคิดเห็นที่ 29 ขอแนะนำเพิ่มนะคะ ก็ให้เด็กไปอยู่กับแม่แท้ ๆ เค้านั่นแหละ และให้พ่อเค้าส่งเดือนละ 5,000 ไม่ได้เหรอ.......... จากคุณ : เราเอง เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 13:10:29 A:203.155.29.220 X: TicketID:294838

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนน้องเค้าอยู่กับแม่เค้า พ่อเค้าส่งเงินให้ทุกเดือนอยู่แล้วค่ะ แต่แม่เค้าน่าจะมีสามีใหม่อะค่ะ ก็เลยไม่เอาลูก เราก็เลยเหมือนเจอทางตัน ถ้าให้เค้าอยู่เราก็ทุกข์ใจ ถ้าให้เค้าไปเราก็ใจดำ จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:50:20

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะค่ะ เรามาคิดดูแล้ว ที่ผ่านมาประมาณ 3 เดือนกว่าที่อยู่กับลูกเลี้ยง ในขณะที่กำลังท้องได้ 5 เดือนต้องเครียดและปรับตัวตลอดจนตอนนี้จะท้องได้ 9 เดือนแล้ว อาจจะเป็นเพราะสภาพจิตใจที่แปรปวน ประมาณว่าตัวเองก็จะทำอะไรเองไม่ได้อยู่แล้ว ยังต้องดูแลเด็กอีกคน และก็ต้องทำงานไปด้วย ผลก็เลยกลายเป็นเบื่อหน่าย รำคาญ แถมมีภาระเรื่องจ้างแม่บ้านเพิ่มเข้ามาอีกที่ต้องรับผิดชอบเอง ก็เลยอยากจะหนีไปไกลๆ ไม่อยากจะรับผิดชอบอะไร (อาจจะเห็นแก่ตัว แต่บางที่ก็รู้กสึกเหมือนตัวเองกำลังจะบ้า) แต่พอนึกถึงลูกในท้องก็รู้สึกว่าต้องอดทนเพื่อลูก ถ้าจะระบายให้พ่อกับแม่ที่บ้านฟังก็ไม่อยากให้ท่านมาทุกข์กับเรา ก็เลยขอมาระบายในนี้ เพราะเราเชื้อว่ามันต้องมีทางออก แม้จะเจอทางตันอาจจะทุลักทุเลก็ต้องปืนกำแพงหรือขุดดินเพื่อผ่านมันไปให้ได้ ขอเพียงแค่มีกำลังใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 16:25:25 จากคุณ : ทำใจให้บริสุทธิ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 17:09:16

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีค่ะ คุณแม่และว่าที่คุณแม่ทุกคน ตอนนี้รายการพ่อแม่มือใหม่ของบริษัท ทีวีบูรพา กำลังตามหาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่กำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6-7 เดือน ขึ้นไปค่ะ หากคุณแม่ท่านใดสนใจอยากให้ข้อมูลกับทีมงาน รบกวนติดต่อ การ์ตูน (ครีเอทีฟ) ที่ 02 158 6122 ต่อ 613 หรือ 084 658 1115 หรืิออีเมล์ lcartoonl@gmail.com ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : nattananpos (nattananpos) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 54 18:22:22