|
ผมเกิดชนบทที่บ้านเกิดสุโขทัยท่ามกลางแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมันก๊าด เรียนชั้นประถมผมก็ยังอ่านหนังสือ,ทำการบ้านจากแสงตะเกียง
จนโต เรียนจบ ไปทำงานรับราชการตอนอายุวัยรุ่น(๑๘-๒๐ปี)ก็ยังอยู่ชนบทได้สามปีเศษ
...ลาออกจากราชการ..เข้าเมืองศิวิไลซ์..ชีวิตผมเปลี่ยนมาอยู่ท่ามกลางแสง-สี-เสียง จากครูบ้านนอก..มาเป็น"นักดนตรีฝีมือเด่น"ในกรุงเทพ ค่าตัวหลายหมื่นบาท-เมื่อเกือบ ๓๐ ปีที่แล้ว
..ชีวิตผมหรูหรามาก ใส่เสื้อผ้าราคาแพง ต้องซื้อที่ห้างย่าน"สยาม-เซ็นทรัล"เท่านั้น(เสื้อผ้าตลาดประตูน้ำกระจอกสำหรับผม-ไม่ชอบใส่)
..ขนาดไปอยู่ตจว. ยังต้องให้แฟน บินเข้ากทม.เพื่อซื้อเสื้อผ้ามียี่ห้อที่เคยใส่ ที่ห้างต่างจังหวัดที่ไปอยู่..ไปซื้อรองเท้าหนังสักครู่..ขี้เกียนจเดินเลือก..ถามพนักงานว่า "คู่ไหนที่แพงที่สุด"..พนง.ชี้คู่ไหน..ก็ซื้อคู่นั้น
ผมอยู่ในสังคมแบบจมไม่ลง ฟุ้งเฟ้อ โก้หรูมาก(คิดว่า)ตัวเองดังมาก คนรู้จักมาก..หลงตัวเองสุดๆ...และผมคิดว่า(ตอนนั้น)ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต
ไปไหนๆ มีแต่คนรู้จัก ทักทาย มีแฟนหญิงควงแบบไม่ซ้ำหน้า จนต้องแบ่งเวลา สลับเวลาอยู่กับแฟนแต่ละคน
ทั้งที่ทำงานเงินเดือนหลายหมื่นมา 20 กว่าปี(เล่นดนตรี-ร้องเพลง)แต่ไม่มีเงินเก็บในธนาคารเลย..ไม่มีสมุดธนาคารแม้แต่ใบเดียว
จนเวลาล่วงเลย...วัยร่วงโรย..งานน้อย เงินหด สังคมโลก ที่เคยอยู่ ก็เริ่มเล็กลง-เล็กลง ตามกาลเวลา
และจากคนที่เคย"[กินเหล้า-สูบบุหรี่-เฮฮา-ปาร์ตี้"..เมื่อถึงวันที่"เลิก-หักดิบ" สติกลับคืน-ความคิดก็เปลี่ยน..เลิกเที่ยวเสเพลหัวราน้ำ..ไม่สูบบุหรี่ ก็ไม่อยากออกไปดมควันคนอื่น ..ทุกวันนี้ อยากอยู่แต่บ้าน..มีความสุขกับภรรยา ลูกๆ...สอนการบ้าน..เล่นเกมกันเขา....กินข้าวพร้อมหน้ากันทุกมื้อ...ปลูกต้นไม้,เลี้ยงหมา
จากสังคมคนเล็ก..สู่สังคมแสงสีที่กว้างใหญ่ ในโลกสังคมมายา จนในที่สุด..ความสุขที่สุด ที่ไฝ่หา..ไม่ได้อยู่ในสังคมแบบนั้น ..แต่อยู่ที่"สังคมครอบครัวเล็กๆ"ของเราต่างหาก
จากคุณ |
:
ตาสาน
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 54 15:14:24
|
|
|
|
|