ความคิดเห็นที่ 1 การที่จะให้คนเป็นเมีย เก็บเงินดูแลค่าใช้จ่าย มันก็ต้องดูด้วยค่ะว่าเขาทำได้ไหม หรือมีนิสัยที่ไม่น่าจะให้ถือเงิน ไม่ผิดถ้าผู้ชายจะเก็บเงิบดูแลเอง ถ้าเมียเป็นแบบนี้ แถวบ้านเก่งก็มีค่ะ รถ บ้าน ไม่เหลือ หนี้อีกบาน เพราะเมียแอบติดพนัน คุณทำถูกแล้วที่ไม่ให้เค้ามาดูแล แต่เหนื่อยไหมที่ต้องมาทำอะไรซ้ำสองรอบ คนเราทำผิดพลาดกันได้ค่ะ แต่บ่อยไปเค้าเรียก ชุ่ย ยังไงก็เป็นกำลังใจได้นะคะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 06:41:22

ความคิดเห็นที่ 2 ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนที่ต้องแก้ไขครับ แต่ เมีย คือคนในครอบครัว ที่เราร่วมชีวิตด้วย ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าเราเป็นอะไรไปเธอต้องเลี้ยงลูก จึงเป็นภาระกิจประการหนึ่ง ที่เราต้องเพิ่มขีดความสามารถเธอขึ้นมาให้ได้ เพื่อที่เธอจะสามารถเลี้ยงลูกได้ แก้ไขปัญหาให้สำเร็จ คือเคล็ดวิชาของลูกผู้ชาย จากคุณ : พี (peh_chai) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:19:05

ความคิดเห็นที่ 3 พยายามต่อไปค่ะ จากคุณ : asamu เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:35:20

ความคิดเห็นที่ 4 ตราบใดที่เมียคุณไม่ได้ติดเที่ยว ติดการพนัน หรือเอาเงินไปเลี้ยงผู้ชายอื่น คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดอย่างนี้หรอก กินใช้ด้วยกันมาตั้งหลายปี พอเกิดเป็นหนี้สินขึ้นมา ดันมาโทษว่าเป็นความผิดเมียคนเดียว จากคุณ : Ton เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:46:30 A:202.28.12.103 X: TicketID:295217

ความคิดเห็นที่ 5 ภาวนา อย่าให้สามีอ่านเจอกระทู้นี้เลย จากคุณ : Supakanya เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:48:03

ความคิดเห็นที่ 6 ดีแล้วค่ะที่คุณคิดได้ทันตอนนี้ ... ตอนที่ยังแก้ไขปัญหาได้ ข้างบ้านเรา สามีเค้าถึงขนาดตรอมใจตายเลยนะ ทำงาน+โอทีเดือนหนึ่งรวมแล้วห้าถึงหกหมื่นบาท ไว้ใจให้เมียบริหาร... กินอยู่ฟู่ฟ่า ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ เงินไม่เคยเหลือเก็บแถมมีหนี้สิน ต้องขายรถยนต์ใช้หนี้ สามีตักเตือนก็ไม่ได้ เมียขู่ตะคอก ทำงานมานาน บ้านส่วนตัวก็ไม่มีจะอยู่ อยู่บ้านหลวง... จนปลดเกษียร ได้เงินมาเป็นล้าน อยู่มาไม่ถึง2ปี เงินหมด.... อยู่อย่างอยากลำบาก เพราะตอนทำงานเคยสบายนี่คะ ถึงเดือนก็มีเงินใช้ ตอนหลัง คนเป้นสามีตรอมใจตาย ตอนตาย ไม่มีเงินจะซื้อโลงใส่ ตอนนี้ครอบครัวเค้าแตกกระจัดกระจาย ต้องหนีหายไปจากสังคมที่นี่ เพราะอยู่ไม่ได้เจ้าหนี้เก่าตามทวง คุณ จขกท ได้ให้ภรรยาบริหารแล้วนี่คะ เมื่อเห็นท่าไม่ดีนำกลับมาบริหารเอง... เห็นด้วยค่ะ จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:49:01

ความคิดเห็นที่ 7 คห 4 สงสัยต้องรอให้เป็นแบบความเห้นที่ 6 ก่อน จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:55:01

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าเอาเงินไปให้คนที่ไม่ได้ทำงานบริหาร เพราะคนไม่ได้ทำงาน ไม่เห็นค่าของเงิน ก็มีแต่จะใช้ๆๆๆๆ แจกๆๆๆๆไปแบบไม่เสียดาย จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:57:02 A:115.87.63.197 X: TicketID:140846

ความคิดเห็นที่ 9 ก่อนแต่งงานน่าจะรู้นิสัยใจคอกันมาบ้างนะคะ ไม่ควรปล่อยให้พลาดเลย เสียดายเงินแทน แต่ขอชมจขกท.ค่ะว่าเก่งมากที่กล้าตัดสินใจแบบนี้ เห็นหลายคู่สามีไม่กล้า ทน ๆ กันไปจนกลายเป็นปัญหา สามีตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เลี้ยงลูกด้วย แต่ภรรยาเอาแต่แต่งตัวสวย ๆ ยังแปลกใจว่าสามีเขาสนใจแต่เรื่องรูปร่างหน้าตาหรืออย่างไร ไม่สนใจคุณสมบัติอื่น ๆ เลย จากคุณ : paripan เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:01:33

ความคิดเห็นที่ 10 คนเรามีความสามารถและการตัดสินใจไม่เท่ากัน  put the right man in the right job ต้องวางให้เหมาะสม ซึ่ง จขกท ก็รับทราบความสามารถของภรรยาแล้วว่าถนัดด้านไหน ความผิดหลักๆตกที่ตัวคุณเองเพราะ วางคนกับตำแหน่งงานไม่เหมาะสม แต่ก็ยังดีที่แก้ไขได้ทัน จากคุณ : electus เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:02:41

ความคิดเห็นที่ 11 .......ครอบครัวเรา.....สามีก็เป็นคนเก็บเงินนะคะ.......ทรัพย์สินทุกอย่างที่มี เป็นชื่อสามีเราหมด.....ไม่มีชื่อเราเลยสักชิ้น...... ....ตอนมาอยู่กับเขา...เรามาแต่ตัว.....ถ้าถึงวันนึงมีเหตุต้องไป...เราก็จะไปแต่ตัวเช่นกัน... ทุกวันนี้ทำงาน พอสิ้นเดือนก็กดเงินให้สามีหมด.....แล้วขอเงินเค้ามาทำงานวันละสองร้อยบ้างสามร้อยบ้างประมาณนั้น...เราว่าเราก็มีความสุขดีนะ.... ปล.ภาระทุกอย่างในบ้านสามีเป็นคนจัดการทั้งหมดค่ะ.... ปล.(อีกที) รักนะจุ๊ฟ จุ๊ฟฟฟ (อันนี้ไม่เกี่ยวกะกระทู้เลยแต่อยากบอก......555) จากคุณ : ...I'm ลั้นลา... (~AcareMom~) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:02:55

ความคิดเห็นที่ 12 เรียกภรรยาว่า มัน เนี่ยก็ควรจะไม่ให้เธอต้องทำงานที่เสี่ยงแล้วแหละครับด้วยความเคารพครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:20:13

ความคิดเห็นที่ 13 โชคดีจัง!... ยังไม่มีครอบครัว จากคุณ : แมงมุมดำ (สาวน้อยริมบึง) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:25:06

ความคิดเห็นที่ 14 ดิฉันเป็นเมืยที่เก็บเงินค่ะ ผู้หญิงที่เป็นแบบเมีย จขกท.มีไม่มากแต่ก็มีให้เห็นบ้าง ผู้หญิงดีก็มีถมไป เหมือนที่ คห.1 บอก คุณต้องรู้นิสัยเขาด้วยก่อนให้เขาเก็บเงิน ตัวดิฉันก่อนที่จะเก็บเงินสามีได้ก็ทะเลาะกันมาหลายปี แต่ตอนนี้เขายอมรับแล้ว เพราะเราทำให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้เอาเงินเขาไปใช้ ดิฉันทำงานด้วย จะใช้เงินตนเองในการใช้จ่ายในบ้าน ส่วนเงินสามีจะเก็บและใช้สำหรับค่าเทอมลูกหรือบ้างครั้งจะซื้อรถใหม่ก็ใช้เงินส่วนนี้ ตอนที่แต่งงานไปใหม่ ๆ พ่อสามีไม่ชอบดิฉันเพียงเพราะดิฉันเป็นคนกรุงเทพ เขาบอกคนกรุงเทพใช้เงินเก่ง วัน ๆ เอาแต่เทียว แต่ดิฉันทำให้เขาเห็นและยอมรับ ตอนหลังเห็นไปคุยกันใคร ๆ ว่าลูกเขาได้เมียดี เก็บเงินเก่ง(เพราะสามีดิฉันเหมือนเมีย จขกท.ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า) ดิฉันเกือบไม่ใช้จ่ายอะไรเลยนอกจาก คชจ.เกี่ยวกับการกินอยู่ประจำวัน บ้างครั้งไปเดินห้างเจอเสื้อผ้าสวย ๆ อยากได้ จับแล้วจับอีกจนสามีบอกว่าอยากได้ก็ซื้อซิไม่มีใครว่าหรอก แต่ดิฉันก็ไม่ซื้อเพราะเรามีสามีแล้ว จะสวยไปไหน!!! หาก จขกท.มีเมียแบบนี้ก็ต้องไม่ให้เขาเก็บเงิน เพราะเขาควบคุมตนเองในการเก็บเงินไม่ได้ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : มีความจริงใจมาให้ (มีความจริงใจมาให้) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:32:02

ความคิดเห็นที่ 15 จริงครับ ที่บ้านผมขนาดว่าพอมีเงินบ้างนะครับ จำได้ว่าเด็กๆมีอยู่ครั้ง เคยลงข่าวไทยรัฐน่ะครับ ว่าติดอันดับเสียภาษีของเมืองไทย กับขนาดที่ดินกลางเมืองแปลงที่ว่าสวยๆข่าวลงหนังสือพิมพ์น่ะครับจำได้ว่าโฉนดที่ดินนี่ยายให้ดูมีเป็นตั้งๆ เป็นปึกๆ ทีนี้แม่ผม กับน้องสาวดูแลเรื่องการเงินเหมือนกัน ต้องใช้คำว่าถลุงจนหมดได้น่ะครับ เอาว่าขนาดน้องมีผัวต้องใช้คำว่าซื้อเอาน่ะครับเลี้ยงผัวเลี้ยงทั้งครอบครัว บินไปอังกฤษกันเป็นว่าเล่น เอาผัวไปนั่งเลี้ยงไว้ที่อังกฤษเป็นเพื่อนแก้เหงาเสียอย่างนั้นน่ะครับ รถยนต์บางทีซื้อใหม่เอี่ยมป้ายแดงสี่วันไม่ชอบเปลี่ยนใหม่เสียเล่นๆก็มีไม่ถึงสิบปีทรัพย์สินเงินทองราพณาสูรหมด อันนี้เรื่องจริงเห็นมากับตาเลยครับพี่ ทีหลังก็ต้องระวังไว้ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:49:16 A:180.214.215.196 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 16 ---จะเป็นเรื่องแปลกมั้ยที่ผมจะบอกว่า..ผมแยกเงินจะหว่างผัวกับเมีย..ทรัพย์สินก็แยก..บางอย่างผมก็ใส่ชื่อเมีย..แต่บางอย่างก็เป็นชื่อตัวเอง..แม้แต่เงินก็คนละกระเป๋า..ใครไม่มีก็หยิบยืมกันได้..เป็นการใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:49:53

ความคิดเห็นที่ 17 ผมและภรรยาแยกกระเป๋าตั้งแต่แต่งงานแล้ว  สบายใจดี จากคุณ : marupong เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:59:14

ความคิดเห็นที่ 18 ก่อนจะให้ใครเก็บก็ต้องรู้นิสัยของอีกคนด้วยไม่ใช่เหรอคะ ถึงจะให้เก็บ แต่ก็น่าจะมีการทำบัญชี และตรวจสอบบ้าง ปล่อยไปนานๆ ก็เป็นหนี้กันแบบนี้แหละ ถึงจะให้อีกคนเก็บ เราก็ต้องรู้ความเคลื่นไหวบ้างนะคะ แม่เราก็เก็บเงินเหมือนกัน เก็บมากไปจนมีแต่เงิน 55 เราว่าแต่งไปเราก็จะเก็บเหมือนกัน ขนาดยังไม่แต่ง เราก็จัดการให้เค้าแล้ว เพราะถ้าไม่จัดการ เงินไม่เคยพอใช้ถึงสิ้นเดือนซักที หึหึ จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:15:00

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เกี่ยวมั้งครับ เป้นที่คนมากกว่า น่าจะใช้คนให้ถูกกับงานนะ ถ้าใช้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องใช้..ไม่งั้นมันจะเสียหายเกินจะรับได้ จากคุณ : Red_Arsenal เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:18:57

ความคิดเห็นที่ 20 เมียคุณฉลลาดจริงๆ ที่เลือกคุณเป็นสามี เพราะคุณจัดการแทนเธอได้ แต่ผมกลับมอบให้แฟนดูแล เพราะผมคนขี้ใจอ่อน จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:22:03

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไม่มีเมีย แต่จากประสบการณ์ที่เห็นๆมา  คนนึงขโมยเงินแม่มา2ล้านหมดใน2ปี แม่ตรอมใจตาย  อีกคนสามีเป้นข้าราชการ เมียไปแอบอ้างกับชาวบ้านว่าจะใช้เส้นผัวให้เข้าทำงาน หลอกเงินเป็น10คน   สามีต้องเอาเงินหลวงมาใช้ให้ เพราะเขาจะตามมายิง จนตอนนี้ต้องโดนไล่ออกจากราชการ จะติดคุก จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:57:48

ความคิดเห็นที่ 22 มันอยู่ที่ภรรยาของคุณนั่นล่ะค่ะ ไม่รู้จักการวางแผนเรื่องเงิน ถ้าเรื่องเงินทำให้ไม่ไว้ใจกันแล้ว  ต่อไปคงยากมากที่คุณจะไว้ใจเธอในเรื่องการเงิน ดิฉันมีหน้าที่ดูแลเงินทุกบาท ของบริษัทสามี รวมทั้งกิจการส่วนตัวของดิฉันด้วย ถ้าลองเราผิดพลาดเรื่องบริหารเงินเพียงครั้งเดียว เราจะไม่มีโอกาสใดๆ ได้แก้ตัวอีกเลย ปล.สามีดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบใช้เงินในเรื่องที่เป็นเทคโนโลยีนี่บ่อยมาก แต่งรถ (หนังสือ เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า6พันบาท) เพราะว่าเขาเป็นแบบนี้ ถึงต้องมีคนบงการเรื่องการเงิน ไม่ใช่ว่าไม่ให้ซื้อนะค่ะ ให้ซื้อ แต่เราต้องดูแล งั้นเฮียแก ก็คงกวาดหมดสต๊อกของร้าน แบบรุ่นที่ดีที่สุด (ใจใหญ่อ่ะค่ะ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 10:06:26 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 10:05:40 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 10:04:14 จากคุณ : tukta_von เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 10:02:18

ความคิดเห็นที่ 23 คห.บนๆพูด (พิมพ์) หมดแล้วคิดเหมือนๆกันแต่อยากบอกแค่ว่า เมียคุณกินอยู่มาด้วยกันใช้จ่ายมาด้วยกันไม่ควรใช้คำพูดว่า "นังเมีย" เพราะอย่างไรก็คือเมียคุณให้เกรียติด้วยนะครับ นังเมียผม เกิดมาโชคดีเกินไปละ งานไม่ต้องทำ ให้มาทำงานช่วยกัน ก็ไม่ได้เรื่อง คงต้องปล่อยให้อยู่บ้านเฉยๆ สบายจริงๆๆๆ อยากมาเตือน...เรื่องเงิน อย่าไว้ใจเมีย ผมเข็ด กับการให้เมียดูแลเงิน เข็ดจริงๆๆ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 05:16:10 จากคุณ : ขอร้องอย่าชม     เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 05:14:01 จากคุณ : yaropee เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 10:13:45

ความคิดเห็นที่ 24 เคยมีกระทู้ ที่ถามว่า แต่งงานกันแล้วใครเก็บเงิน ครั้งนั้น มีคุณภรรยาเข้ามาตอบว่าเป็นฝ่ายเก็บเงินเดือนทั้งหมดของสามี แล้วค่อยให้เบิกไปใช้วันละร้อยสองร้อย ในมุมมองของดิฉันเอง ไม่เห็นด้วยกับการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยึดเงินเดือนของอีกฝ่ายหนึ่งไว้ (เรียกสวยๆว่า ดูแลการเงิน) ไม่เห็นด้วยที่สามีต้องยกเงินเดือนทั้งหมดให้ภรรยา เพื่อแสดงถึงความรักและความไว้ใจ สามี ภรรยา ยังไงก็คนละคนกัน มาแชร์ชีวิตร่วมกันก็จริง แต่อนาคตไม่มีใครการันตีได้ว่าจะไม่เลิกร้างกัน หรือนิสัยใจคอแต่ละคนจะไม่เปลี่ยนไป เห็นมาหลายรายแล้ว ที่สามีฝากเงินไว้ในชื่อภรรยา พอทะเลาะกัน ภรรยาถอนเงินออกจากบัญชี หนีออกจากบ้านไปเลย สามีหมดตัว อย่างคู่นึงที่ดิฉันรู้จัก ผู้หญิงทำงานดี เงินเดือนแสนกว่า แต่บัญชีตัวแดงตลอด หมดไปกับการทำบุญ /สปา/ซื้อเครื่องสำอางชิ้นละเป็นหมื่น ทั้งที่ไม่ต้องรับผิดชอบภาระอะไรเลย ไม่มีลูก บ้าน รถ สามีรับผิดชอบ แรกแต่งงาน สามีเล่าว่า ฝ่ายหญิงเอ่ยปากจะขอดูแลการเงินสามี แต่ฝ่ายชายไม่ยินยอมแต่ต้น เรื่องอื่นฝ่ายชายเอาอกเอาใจมาก แต่เรื่องเงินแยกกระเป๋า ถึงได้มีโอกาส ส่งเสียพ่อแม่เดือนละเป็นหมื่น หากให้ภรรยาดูแล คงไม่มีเงินเหลือถึงพ่อแม่ อีกคู่ ภรรยาอยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่ยึดเอทีเอ็มสามีไว้ ให้ไปทำงานวันละ สามสิบ เพราะกินข้าวฟรีที่โรงงาน เธอเล่าให้ฟังเองว่า สามีแทบไม่ได้ใช้เงินเลย เธอเป็นฝ่ายจัดการทั้งหมด เธอแบ่งเงินส่งพ่อแม่เธอ แต่ไม่ส่งให้พ่อแม่ฝ่ายชาย เธอไปเดินเล่นห้าง ทำผม ซื้อผ้า แต่สามีแต่งตัวปอนมาก ไปกับเพื่อนฝูงก็ให้เพื่อนเลี้ยงอย่างเดียว เพราะเมียไม่ให้เงินไปซะอย่างฟังแล้ว สงสารผู้ชายจัง พอใช้เงินกระเป๋า เดียวกัน รู้สึกว่า ความเกรงใจก็ลดลง หยิบกระเป๋า รื้อค้น ซักถาม บางทีมีแอบจิ๊กบ้าง เพราะเบื่ออีกฝ่ายบ่น ฟังที่เขาเล่ามานะ ของดิฉันเรื่องกระเป๋า เรื่องโทรศัพท์ สมุดบัญชีนี่เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ละเมิด ไม่ก้าวก่ายกัน บางอย่างเท่านั้นที่แสดงให้ดู และก็ไม่เคยคิดจะยึดเงินของสามีเลย มีแต่ว่า พยายามเก็บเงินฝากให้สามี หากเราเลิกร้างกันไป สามีจะได้มีเงินสดส่วนตัวสักก้อน อย่าให้พูดลับหลังได้ว่า ภรรยาเอาไปหมดทุกอย่าง จขกท. คิดใหม่ ทำใหม่ดีแล้วคะ อย่าประมาทในการใช้ชีวิต รักได้แต่อย่าหลงคะ จากคุณ : เอื้องราตรี เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 10:17:45

ความคิดเห็นที่ 25 กลับกับสามีเรา พี่แกไม่มีความรู้เรื่องบัญชีเลย แต่ งบดุลตลอด จ่าย = ได้ ไม่เคยเหลือสักบาท จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:18:46

ความคิดเห็นที่ 26 ขอโทษนะ  เราอ่านแล้วขำอ่ะ   ช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆ   จากคุณ : and then เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:06:16

ความคิดเห็นที่ 27 ดิฉันเมียเก็บค่ะ (ว้ากกก) จากคุณ : ปอล (zhinza) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:10:43

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนตัวอิฉันเอง สามีให้เก็บ ATM เงินเดือน แล้วเบิกให้เขาเป็นครั้งคราว ค่าใช้จ่าย อิฉันเป็นคนไปจ่าย คำนวณเองเสร็จ 2 ต่อ 1 ตามนั้นทุกเดือน แม้แต่บัตรเครดิต เพราะถึงอิฉันจะเป็นบัตรเสริม แต่ใช้รูดซื้อของทั้งของพ่อของลูกเป็นประจำ จ่ายหมดตามเวลา หนี้สินไม่มี เพราะไม่ชอบหา ซื้อของเงินผ่อนยังไม่ชอบเลย เว้นแต่ดอกเบี้ย 0% สรุปคือ กระเป๋าเดียวกันนั่นแหละ แล้วแต่ว่า แต่ละคู่ มีความรับผิดชอบและไว้ใจกันได้แค่ไหนค่ะ จากคุณ : aunty36 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 13:29:14

ความคิดเห็นที่ 29 ของผมกระเป๋าแยกซื้ออะไรก็หารครึ่ง (ของราคาแพงในบ้าน) ค่าใช้จ่ายในบ้านผมออก + กับแฟนขอบ้างก็โอเค แต่ขอบ่นนิดนึงแฟนใช้เงินเก่งโคตร T_T จากคุณ : ป๋าพะวาฬ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:51:14

ความคิดเห็นที่ 30 มาอ่านเรื่องราวชีวิตครับ.... ตัวเองก็มีปัญหาไม่น้อยไปกว่าคนอื่น.....   ในฐานะผู้ชายผมไม่ชอบถือเงินนะ ยุ่งแต่บางครั้งให้เมียบริหารก็ บริหารไม่ค่อยเป็นเท่าเราก็ต้องจับมาถือเอง ผมชอบวางแผนกับบริหารมากกว่า   การใช้เงินเพื่อค่าใช้จ่ายในครอบครัวนั้นวิธีง่ายๆคือ พยามรักษาระดับน้ำออก ให้ไหลออกน้อยกว่าน้ำเข้า ถึงมีเงินเหลือชีวิตถึงไม่ค่อยลำบาก แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 54 15:09:50 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 15:38:43 จากคุณ : 123 (เทพบุตรสายฟ้า) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:28:13

ความคิดเห็นที่ 31 ของเราเหรอค่ะ   ไม่เคยเก็บตังอะไรของสามีเลยอ่ะจ้ะ คือว่าลักษณะคล้ายๆคห.ด้านบนๆ คือทุกวันนี้เหมือนคนอาศัยเลยอ่ะค่ะ จริงๆนะเออ ก็ตอนแต่งงานกันเรามาแต่ตัวจริงๆอ่ะค่ะ บ้านที่สร้างก็เงินสามี เงินเดือนสามีก็สามีดูแลเองทั้งนั้น ทุกวันนี้เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า งบการเงินเค้ามีเท่าไร่ มาจากไหนบ้าง ก่อนหน้าจะแต่งงานก็ทำงาน คนละกระเป๋าอ่ะจ้ะ  แต่พอแต่งงานแล้วตอนนี้เราไม่ได้ทำงานประจำ เรามีเงินเก็บของเราเองก้อนนึง เราเอาไว้ลงทุนในหุ้น ในทอง บลาๆๆ แต่เป็นเงินของเราเองนะคะ ส่วนสามีก็ดีเกินจนเราเกรงใจ บอกตรงๆ ก็ให้บัตรเคดิต(บัตรเสริม) ให้เราถือใบนึงไว้ใช้จ่ายส่วนตัว ก็มีวงเงินให้เรานะ แล้วก็มีให้เงินสดอีกนิดๆหน่อยๆทุกเดือนไว้ใช้จ่าย แต่เราไม่ค่อยได้ใช้อ่ะค่ะ กัวเค้าหาว่าเราดูดเงินเค้า จะใช้บางครั้ง บางทีก็กดเงินคืนก็มีนะ จนเค้าออกปากว่าไม่เป็นไร ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ค่ากิน ค่าอยู่ เค้าออกเองหมดเลยอ่ะคะ บางทีก็สงสารเค้ามาก ทำงานงกๆคนเดียว  ส่วนเราก็ทำงานบ้านสารพัด สารเพ  บางครั้งก็รู้สึกเหมือนคนใช้เลยนะคะ เหอะๆ แต่มาคิดๆดูก็สมน้ำสมเนื้อกันแล้วนะเออ   รถที่ใช้อยู่ก็รถแฟน คือตัวเปล่าจริงๆไม่มีอะไรเลย ยังแอบคิดนะว่า เห้ยอีกหน่อยมีเหตุต้องเลิกกัน ชั้นจะทำไงต่อ เลยต้องมาวางแผนการเงินของตัวเองคือเก็บเงินส่วนที่เค้าให้เป็นเงินเดือนอ่ะค่ะ ไม่มากมายอะไร แต่มันก็ไม่ค่อยได้ใช้ เราก็อาศัยเก็บๆไปเรื่อยๆ เสดก็เอาไปลงทุนในหุ้น ก็พยายามศึกษา อ่านหนังสืออะไรต่างๆ ซึ่งแฟนเองก็เล่นหุ้นเหมือนกันแต่คนละพอร์ตนะคะ ก็ช่วยเราได้เยอะเลย เราก็มีกำไรจากหุ้นอยู่เหมือนกัน แต่ช่วงนี้ก็ไม่ได้ซื้อตัวไหนเลย พอร์ตว่างมาก ก็กำลังดูๆอยู่ จะได้ขยายพอร์ตไปเรื่อยๆ   ทุกวันนี้ก็ทำได้แค่นี้อ่ะคะ  หน้าที่แฟนคือ ทำงาน หาเงิน วันเสาร์หยุดต้องไปดูหนังกินข้าวนอกบ้านกันทุกอาทิตย์ พักร้อนหรือมีวันหยุดยาวๆหน่อยก็ไปเที่ยวค้างคืนกัน ปีนึงไปต่างประเทศครั้งนึง ส่วนเราก็ดูแลแม่แฟน ซึ่งแก่มากแล้ว ทำงานบ้านทุกอย่าง ทำกับข้าว  อ่านหนังสือไปตามเรื่องตามราว บางทีก็เบื่อ แต่ว่าพอเห็นหน้าแฟนแล้วมันมีความสุขมากอ่ะคะ บอกไม่ถูก แต่ความรักเรามันไม่หวือหวาเลยนะคะ ไม่สวีตเลยอ่ะคะ แต่ดูๆไปแล้วมันมั่นคงดี แค่นี้แหละคะ ยาวเชียว แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 17:14:43 จากคุณ : glamor เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 17:14:05

ความคิดเห็นที่ 32 เราเป็นแม่บ้าน ได้เงินเดือนจากสามี ใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือน แบ่งเงินเดือนของสามี ให้สามีพอใช้จ่ายส่วนตัวรายเดือน ที่เหลือเอาไปฝาก ลงทุนในกองทุนต่างๆ สามีเข้ามาดูบ้างเพราะช่วงนี้ยังไม่คล่อง ของแบบนี้ต้องร่วมด้วยช่วยกัน จะโทษฝ่ายหญิงอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ ของซื้อมาก็ใช้ด้วยกัน ช่วยกันใช้ ช่วยกันจ่าย ยังไงก็หมด จากคุณ : บลูบราร่า เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 18:40:56

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นเฉพาะบางคนครับ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเก่งเรื่องการบริหารเงิน และใช้จ่ายประหยัดคุ้มค่ากว่าผู้ชาย ตอน 10 ปีแรก ผมก็บริหารเงินเอง อูยมึนไปหมด แถมใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไร้สาระไปเยอะแยะ แต่ไม่ถึงกับขายบ้าน ขายรถ ใช้หนี้นะ สัก 5 ปีหลังมานี่ เปลี่ยนตัว โอ้ว ... เงินเหลือเพียบ จากคุณ : afood เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 19:43:14

ความคิดเห็นที่ 34 เคยให้ลองบริหารแล้ว ไม่ไหว ต้องยึดอำนาจคืน จากคุณ : HJK เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 21:41:07 A:122.155.36.202 X: TicketID:279065

ความคิดเห็นที่ 35 เฮ้อ..มาเจอกระทู้นี้     ดีแร่ะที่เราอยู่เป็นโสดดดดดด       ขำขำ...ไม่เอาน่า  อย่าคิดมากกกกกกกกก จากคุณ : alway เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 22:38:16

ความคิดเห็นที่ 36 คุณคิดถูกแล้วครับ แม้ว่าจะช้าไปหน่อย ถือเงินเองอุ่นใจกว่าเยอะ เมียอยากใช้อะไรเดี๋ยวก็มาขอเอง คุณจะให้ไม่ให้ก็แล้วแต่เหตุผลของการขอ จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 12:33:48

ความคิดเห็นที่ 37 แต่ก็ขอชื่นชมคุณนะ ที่ไม่คิดจะเลิกกับภรรยาคุณ ลองคิดกลับกันว่าถ้าผู้ชายเป็นฝ่ายบริหารเงินที่ภรรยาหามาให้ ผู้ชายคนนั้นจะถูกเรียกว่า แมงดา จากคุณ : ปุ๊กกี้ด็อก เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 15:40:23