ความคิดเห็นที่ 1 อ้าว..ไหนเคยเห็นใครบอกว่า..ประชาธิปัตย์..ดีแต่กู้เงินไงครับ.. แล้วนี่เงินก็จะกู้..ภาษีสรรพสามิต..ก็จะลดลงไปหลายตัวเลย..ตายล่ะหว่า..อิอิ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 11:10:40

ความคิดเห็นที่ 2 ผมมองว่า  ทุกรัฐบาล  น่าจะมีการกู้เงิน  เพื่อเอามาใช้ในการพัฒนาประเทศทุกรัฐบาลนั่นแหละครับ เพราะ  เข้าใจว่า  ประเทศเราไม่ได้ร่ำรวยมีบ่อน้ำมันหรือบ่อเพชรบ่อทอง เหมือน พวกตะวันออกกลาง   เงินที่มีเราจึงอาจไม่พอที่จะพัฒนาประเทศให้ได้ตามความต้องการของประชาชน การกู้เงินของรัฐ  น่าจะกู้ได้ใน 2 ทาง 1. กู้จากต่างชาติ  เช่น  ไอเอมเอฟ 2.กู้จากประชาชนนี่แหละ เช่น  การออกพันธบัตร เพราะ  ถ้าไม่กู้  รัฐก็ต้องหารายได้เพิ่มทางอื่น   ซึ่งไม่พ้น  การขึ้นภาษี  ซึ่งภาระจะตกกับประชาชนและน่าจะเดือดร้อนกันอย่างรวดเร็ว ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่การกู้-ไม่กู้     ปัญหาจึงอยู่ที่  กู้แล้วเอามาทำอะไรคุ้มไหมและจะใช้คืนยังไงโดยไม่กระทบประชาชนมากนักเสียมากกว่าครับ จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 11:43:08

ความคิดเห็นที่ 3 กู้มาแจก แจกโน่นแจกนี่ ยังไงก็เจ๊ง กู้มาลงทุน ก็มีเงินไปคืนเขา จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:03:08

ความคิดเห็นที่ 4 ดูหน้าคนกู้ด้วยครับ พร้อมนโยบายที่จะเอามาใช้ คนปล่อยกู้เขาก็ดูว่ามีปัญญาใช้หนี้หรือไม่ สองเจ้านี้ มีความแตกต่างกันอยู่มาก จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:07:04

ความคิดเห็นที่ 5 อคติ ที่ปชป กู้ละไม่เห็นออกมาบ่น โกงสารพัด ยังว่ามันดีไม่โกง โอ้คนไทยชอบหลัยตาข้างหนึ่งเลือกที่จะมองในสิ่งที่จัวเองพอใจ จากคุณ : เมื่อคืนยังมีอมยิ้มอยู่เลย เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:18:29

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องดูว่ากู้มาแจก หรือกู้มาลงทุน อย่างรถไฟความเร็วสูง ที่ญีปุ่นสนใจจะรวมลงทุนด้วย เส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ กับ กรุงเทพ-ระยอง สองโครงการนี่ก็สองแสนกว่าล้านแล้ว พอกู้มาลงทุนแล้ว ก็จะสร้างงาน กระจายรายได้ ความเจริญ รายได้หมุนกลับมาให้รัฐบาลมากขึ้น จากคุณ : สายน้ำฟินิกซ์ เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:23:22

ความคิดเห็นที่ 7 เศรษฐกิจพอเพียง  ไม่สามารถนำมาใช้ในระดับมหภาคได้ทั้งหมดครับ และเศรษฐกิจพอเพียง ก็ไม่ได้ปฏิเสธการหาแหล่งเงินทุนด้วยการกู้ด้วย  แต่ให้ประเมินและรักษาวินัย ในการที่จะแบ่งผลกำไรมาใช้คืนเงินกุ้อย่างถูกต้อง สิ่งต้องห้ามในเศรษฐกิจพอเพียง คือ การกู้เงินไปใช้ฟุ้มเฟื่อย  แต่หากใช้ลงทุนอย่างนี้ไม่ผิดหลักครับ "การกู้เงินที่นำมาใช้ในสิ่งที่ไม่ทำรายได้นั้น ไม่ดี อันนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะว่าถ้ากู้เงินแล้วทำให้มีรายได้ ก็เท่ากับจะใช้หนี้ได้ ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ" (พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพรรษา : 4 ธันวาคม 2540) จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:28:10

ความคิดเห็นที่ 8 คนส่วนใหญ่เลือกรัฐบาลใหม่เข้ามา ก็หวังในนโยบายนั้นๆที่เขาจะทำ ซึ่งถ้าชาติพัง ไม่ใช่เพราะรัฐบาลนั้น แต่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เหมือนการเสนอขายของ ถ้าเราเป้นคนซื้อ ถามว่าจะซื้อเลยไหม ถ้ามันฟังแล้วดูดี ซึ่งผมไม่เชื่อว่าทุกคนจะซื้อเลย มีแต่ต้องมองถึงความเป็นไปได้จริงๆว่ามันเป็นอย่างที่ได้ฟังไหม ซึ่งถ้าไม่ได้มีแนวโน้มดีจริง เราไม่ซื้อแน่นอน และจะหวังว่าเพราะการโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำให้เราซื้อไม่ได้ไปทุกกรณีครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าชาติพัง ไม่ใช่เพราะนโยบายขายฝันหรือไม่ขายฝันก็แล้วแต่ แต่เป้นที่คนเลือกให้เขาเข้ามาทำนโยบายนั้น เลิกโทษคนบริหารประเทศฝ่ายเดียวเถอะ ประเทศชาติไม่เจริญหรอกแบบนั้น มันอยู่ที่คนในประเทศชาติพลักดันด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งถ้าเห็นว่าอะไรมันไม่ดี ไม่ควรทำ เราต้องช่วยกันขัดขวางไม่ให้มี อะไรที่มันดีต้องส่งเสริม มากกว่าที่จะคอยขัดแข้งขัดขาในสิ่งที่ดี กระแหนะกระแหนในสิ่งที่พลาด โดยสรุปแล้ว ก็เห็นด้วยกับคห.2 และคิดว่าแม้เป้นสิ่งที่รับปาก แต่สุดท้ายไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ถ้ามีการไตร่ตรองแล้วว่า ทำไปแล้วจะแย่มากกว่าดี จะไม่ทำก็จะไม่คิดว่ารัฐบาลไม่รักษาสัญญาครับ เพราะความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อให้ดี กับการทำสิ่งที่ดี มันไม่ใช่อย่างเดียวกันเสมอไปครับ แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 54 12:33:23 จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:32:43

ความคิดเห็นที่ 9 กู้เงินเพื่อนโยบายดีๆ สร้างสาธารณูปโภค เห็นด้วย ยินดีสนับสนุน แต่ถ้ากู้เงินเพื่อนโยบายโง่ๆ เช่น แจกXXX บลาๆๆ อันนี้อยากร้องไห้ให้กับประเทศไทย จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 12:32:50

ความคิดเห็นที่ 10 เชื่อว่่าทุกคนในที่นี้ส่วนใหญ่มีความคิดเป็นของตนเอง ดูจากสำนวนการให้เหตุผลในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ แต่ก็ยังมีับางความเห็นที่หลุดลอดเข้ามา ที่แสดงให้เห็นถึง ความไม่เข้าใจในเจตนาของกระทู้นี้ มันเป็นความกังวลลึกๆของผมเองที่ทันเกิดมาเห็นประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  ซึ่งมีทั้งสิ่งที่ดีมากสำหรับคนไทย แต่มันก็ยังแฝงสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นร่วมด้วยตามมา   ไม่รู้ว่า.....การได้มาของสิ่งดีที่เกิดขึ้นในวันนี้จะคุ้มมั้ยกับการสูญเสียสิ่งดีๆในอดีตอีกหลายอย่างที่กำลังจะเลือนหายไป และสิ่งไม่ดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็ได้เห็นในครั้งนี้ เลิก..การอ้างว่า คุณมาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศซะทีเถอะ ถามจริง.. คุณเชื่อว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยที่อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกพรรคนี้เข้ามาจริงๆเหรอ จากคุณ : jutapit เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 13:25:32

ความคิดเห็นที่ 11 5555 จากคุณ : clckjs เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:01:23

ความคิดเห็นที่ 12 555 ต้องดูว่า กู้แล้ว นำเงินที่กู้ มาใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง นำเงินที่กู้มา ใช้ประโยชน์สูงสุดหรือไม่ ท่าทาง จขกท และบางความเห็น คงจะไม่เคยทำธุรกิจเป็นแน่แท้ คห10 เผอิญผมคิดว่า ถ้าเป็นพรรคนี้กู้ มันจะไปใช้สอยได้อย่างเป็นประโยชน์ และที่สำคัญ สามารถคืนเงินกู้เค้าได้ ปล. ไม่คิดเรื่องโกง เพราะยังยืนยันคำเดิม โกงมันทุกพรรค แต่พรรคไหนโกงแล้วทำงานเป็น จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:26:27

ความคิดเห็นที่ 13 ประเด็นของการกู้ ผมเห็นด้วยว่าไม่ควรกู้สุ่มสี่สุ่มห้า แต่ควรกู้เพื่อนำมาลงทุนในโครงการที่จะสร้างรายได้กลับมา ไม่ใช่มาทำประชานิยม ลด แลก แจก แถม อีกอย่างนึงคนกู้เขาก็คงไม่หลับหูหลับตาให้กู้เช่นกันครับ เขาต้องดูความเป็นไปได้ของโครงการก่อนให้กู้เหมือนกัน แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องการเที่ยวมาห้ามคนอื่น ที่ว่า "ห้ามบอกว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ" ถ้าไม่ให้ "อ้าง" ว่าป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แบบนั้นเราจะมีการเลือกตั้งไว้ทำไมละครับ ??? ก็เป็นเผด็จการไปซะเลยดีกว่ามั้ง ระบอบประชาธิปไตยอาจไม่ใช่ระบอบที่ดีที่สุด แต่มันน่าจะ "เหมาะสม" ที่สุดในสากลโลกครับ เพราะประเทศส่วนใหญ้ในโลกนี้ใช้ระบอบนี้กันทั้งนั้น ทุกรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ด้วย "เสียงส่วนใหญ่" ที่เลือกรัฐบาลให้เข้ามาทำงานมากกว่าพรรคฝ่ายค้าน ที่ได้คำแนนเสียงไม่พอที่จะชนะการเลือกตั้ง และถือเป็น "เสียงข้างน้อย" แล้วแบบนี้จะไม่ให้ "อ้าง" ความเป็นเสียงข้างมากได้อย่างไร หากอีกฝ่ายอยากเป็นเสียงข้างมากบ้าง ก็ไม่ยากเลยครับ แค่รณรงค์หาคะแนนเสียงที่จะออกไปเลือกพรรคที่สนับสนุน ให้ได้เป็นรัฐบาลตามกระบวนการ ตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อที่จะได้ให้รัฐบาลนั้นใช้ "นโยบาย" ที่หาเสียงไว้ นำมาลงมือทำงานให้ได้ออกมาเป็นรูปธรรม จับต้องได้ ก็เท่านั้นเอง..... คะแนนบัญชีรายชื่อของพรรคที่ชนะะได้กว่า 15 ล้านคะแนน ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อของพรรคอันดับสองได้กว่า 11 ล้านคะแนน แล้วจะไม่ให้อ้างเสียงข้างมากได้อย่างไรครับ ??? แม้ไม่เห็นด้วยเรื่อง "เสียงข้างมาก" แต่ผมเห็นด้วย และขอให้กิ๊ฟท์คุณเรื่อง "กู้" ครับ เพราะผมว่าผมเข้าใจเจตนาในประเด็นของกระทู้ของคุณ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 14:31:12

ความคิดเห็นที่ 14 ความเห็นส่วนตัว ..... (ไม่เกี่ยวใคร) ตอนนี้ ทำใจกับรัฐบาลยิ่งเละ... ต้องดูต่อไป ว่านโยบายจะ "ดีแต่พูด" เหมือนรัฐบาลก่อนรึป่าว! ส่วนใครจะกู้ใคร ใครจะโกงชาติ ใครจะขายชาติ ชั่งมันเราไม่แคร์... (เพราะเราไม่ได้เจอคนเดียว...) ปอลิง. เป็นคนไทย 100% ค่ะ แต่เบื่อความโง่ ..... ก็เท่านั้นเอง! จากคุณ : แมงมุมดำ (สาวน้อยริมบึง) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 15:11:59

ความคิดเห็นที่ 15 หากผู้คนไม่เข้าใจการเมืองที่แท้จริง บางครั้งคำว่า เผด็จการเสียงข้างมาก กับประชาธิปไตย มันก็ห่างกันแค่กระดาษแผ่นเดียวกั้น จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 15:57:26

ความคิดเห็นที่ 16 ^ มันเป็นแค่วาทะกรรม ครับ ... หรือการใส่ร้ายด้วยคำพูด จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:20:36

ความคิดเห็นที่ 17 ประเด็นของการกู้ คือ ต้องชัดเจนว่า กู้มาเพื่อ โครงการอะไร และ จะใช้คืนเงินกู้อย่างไร ถ้า รัฐบาล เขา มีนโยบาย และวิธีการลงทุน และการใช้คืนเงินกู้อย่างสมเหตุสมผล ทำไม จะกู้ไม่ได้ สมัยรัฐบาล ประชาธิปัตย์ เวลากู้เงินกู้มากิน กู้มาโกง ไม่เคย บอกว่า จะคืนเงินกู้อย่างไร เลย ไม่เห็นมีใคร ออกมา โวยวายแบบนี้ การที่บอกว่า รัฐบาลก่อน กู้ไว้มากแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เป็นเหตุผล ก็ถ้ารัฐบาลเก่า ใช้เงินจนหมดคลัง แล้ว รัฐบาลใหม่ จะบริหาร ก็ต้องกู้อยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก ต้องเป็นการกู้มาลงทุน ให้เกิดผลประโยชน์ และต้องกล่าวถึง วิธีการชำระคืนเงินกู้ด้วย ถ้าเขาชี้แจงแล้วสมเหตุสมผล แล้วพวกคุณ จะต่อต้านเพื่ออะไร จากคุณ : 2011 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:25:24 A:58.9.157.225 X: TicketID:324253

ความคิดเห็นที่ 18 พูดเรื่องการเมืองแล้วเซ็งว่ะ จากคุณ : nidnidj15 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 18:54:09

ความคิดเห็นที่ 19 คนอยู่ดูไบ บอกสีแดงทุกวันไม่ต้องกู้ ไม่ต้องกู้ ไม่ต้องกู้ เห็นบอกประจำว่าเวลา วิดีโอลิงค์มา ว่าแต่เข้าอีเหนาเป็นเอง สุดท้ายมันก็เลวไม่ต่างกันหรอกพวกนักการเมือง ไม่ทันไรลายก็ออกมาเต็ม จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 19:14:21

ความคิดเห็นที่ 20 "เศรษฐกิจของประเทศไทยที่อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกพรรคนี้เข้ามาจริงๆเหรอ" พิมพ์ผิดหรือไม่ ถ้าไม่ผิด และหมายถึงผม ขอบอกเลยครับว่า ผิดเนื้อหาที่ผมบอกเลย เรื่องเสียงข้างมาก เพราะไม่ว่าจะพรรคไหน ถ้าได้เสียงข้างมากในสภา ก็จัดตั้งรัฐบาลได้ และรัฐบาลก็บริหารประเทศ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แน่นอนอยู่แล้ว แล้วจะไม่ให้บอกว่า เสียงส่วนใหญ่ ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจได้อย่างไร หรือจะบอกว่าประเทศไทย จัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียส่วนน้อยในสภา ซึ่งก็มาจากเสียงส่วนน้อยของประชาชน อย่างนั้นหรือ หรือจะบอกว่า พรรคที่เป็นรัฐบาล ดำเนินนโบายแต่ที่ไม่ได้หาเสียงไว้ คำหาเสียงไม่ใช่เรื่องที่จะดำเนินการใดๆเลย อย่างนั้นหรือ หรือจะบอกว่า เศรษฐกิจของประเทศ ไปได้เอง โดยไม่ต้องมีรัฐบาล ไม่ต้องมีการบริหารบ้านเมือง อย่างนั้นหรือ หรือจะบอกว่าแค่คนส่วนน้อยพยายามทำแทนคนส่วนใหญ่ บ้านเมืองจะดีได้ อย่างนั้นหรือ ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมจะพูดถึงเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ ก็มันเป็นตัวกำหนดอยู่แล้ว ว่าเราอยากได้ทิศทางการพัฒนาชาติไปทางไหน ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับว่าความคิดของใครถูกต้อง แต่อยู่ที่ว่าคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน ที่เป็นสังคมใหญ่นั้น ส่วนใหญ่ต้องการแบบไหน โดยที่กฎเกณฑ์ปฏิบัติมาก็จะเป็นไปแบบนั้น โดยสรุปจึงเป็นหน้าที่ของคนในชาติ(เสียงส่วนมากเป็นหลัก) ที่จะบอกไม่เอาในสิ่งที่เขาอยากได้ ไม่กดดันรัฐบาลให้ต้องทำ ในเงื่อนไขที่ว่าการเสนอนโยบายของรัฐ จากกระบวนการพิจารณา ไตร่ตรองแล้ว ไม่ได้คุณประโยชน์ มากกว่าโทษ ไม่งั้นก็เกิดปัญหาการทวงถามคำสัญญาจากทุกฝ่ายเรื่อยไป และถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมประชาธิปไตย ต้องการให้บ้านเมืองพินาศ บ้านเมืองก็จะพินาศไป ถ้าอยากให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า บ้านเมืองก็จะเจริญก้าวหน้า แต่ทั้งนี้คำว่าอยากในที่นี้ ไม่ใช่แค่อยากแล้วนิ่งเฉยต่อกรณีใดๆเลย แต่หมายถึงทำในสิ่งที่อยากครับ ปล.ประเทศนี้ไม่ได้อยู่ได้ด้วยพรรคนี้ หรือพรรคไหน หรือใครคนใดคนหนึ่งหรอกครับ ถึงแม้จะไม่ปฏิเสธว่าอาจจะมีบทบาทอย่างมาก ที่ทำให้เกิดความร่วมมือของคนในชาติ แต่ทั้งหมดทั้งปวง ถ้าจะเกิดการพัฒนาประเทศชาติที่ดี ก็หนีไม่พ้นเป็นหน้าที่ของคนส่วนใหญ่อยู่ดี หรือถ้าจะให้ดีจริงๆ ก็ต้องเป้นหน้าที่ของทุกคนในชาติครับ จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 19:39:56

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคห 2 และ 20 เพราะพูดแบบไม่มีอคติ เสียงข้างมาก ไม่ได้บอกเรื่องความถูกต้องอะไรเลย  มันบอกเพียงว่าต้องการให้ประเทศเดินไปทางไหน  อย่างเช่นตอนที่เยอรมันเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง  คนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นด้วย  ก็รับผลไป  และก็คนส่วนใหญ่ของประเทศอีกเช่นกันที่ช่วยกันฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง  คิดว่าไม่ใช่อย่างที่จขกทเข้าใจ  เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงการไม่ใช่จ่ายเกินตัว  เป็นปรัชญาเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง   แต่กระนั้นก็ตามยังไม่มีการพัฒนาตัวทฤษฎีมารองรับ ตอนนี้จึงเป็นลักษณะของการใช้ดุลพินิจ  จากดัชนีวัดต่างๆที่มีอยู่แล้ว  (ต่างกับงานด้านการเกษตรที่ ค่อนข้างจะลงลึก) ถ้ารัฐบาลจะกู้เพื่อมาลงทุนเพราะไม่มีเงิน  ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร  ทุกรัฐบาลมีการกู้เงินเพื่อมาลงทุนในโครงการต่างๆ แทบทั้งนั้น   แต่ปัญหาหนึ่งของไทยตอนนี้ก็คือ  การแบ่งข้างทำให้มองแบบอคติ  เช่นบอกว่าพรรคหนึ่งกู้มาแจก อีกพรรคหนึ่งกู้มาลงทุน  ซึ่งไม่ถูก   พรรคที่บอกว่ากู้มาแจก ก็มีการลงทุนสาธารณูโภค  และพรรคที่บอกว่ากู้มาลงทุนก็อาจจะมีการแจกเช่นกัน  ขึ้นกับว่าแจกเพื่ออะไร พิจารณาในเนื้อหาของการทำงานโครงการและวัตถุประสงค์  แล้วจะไม่มีปัญหาประเภทติเรือทั้งโกลน  แต่สำหรับคนที่วัดทุกอย่างโดยเอาตัวเองเป็นศุนย์กลาง  คนที่เขาชอบก็คือคนที่ให้ประโยชน์เขาเท่านั้นเอง จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 23:18:50

ความคิดเห็นที่ 22 เสียงส่วนใหญ่ในประเทศเลือกพรรคหนึ่งจากนโยบายที่เคยทำมาในอดีต ประเมินแล้วว่ามันอาจทำได้จริง ถึงจะไม่ทั้งหมด แต่คิดว่ามันน่าจะทำบ้างก็จึงเลือก แต่อีกพรรคหนึ่งที่มันแพ้และที่มันถูกด่าอยู่เนี่ย ก็เพราะมันกู้แล้วไม่ทำอะไรเลย! จะบริหารเงินเอามาใช้หนี้คืนเขา ก็เห็นจะไม่มีปัญญา จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 23:34:12

ความคิดเห็นที่ 23 เฮ้ย เป็นอย่าง กรีซนี่ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ เกมเป็นสิ่งผิดกฎหมายของประเทศกรีซน่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมรวมตัวทั้งประเทศประท้วงอย่างเดียว จากคุณ : Sieghart เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 54 20:31:09