ความคิดเห็นที่ 1 ....ไปมาครั้งนึง สวยมากครับ รอดูคำตอบ จากคุณ : คีบู เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 13:15:17

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นอะไรก็ได้... แต่ขอให้เป็นไปตามกฏระเบียบของสังคม...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 13:18:04

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องเหมาะหรือไม่เหมาะ แต่เป็นเรื่องข้อกฎหมาย เจตนารมณ์เดิมชัดเจนว่าให้ทำการเกษตรแต่เกษตรกรดันขายที่ให้นายทุนทำรีสอร์ต ส่วนเกษตรกรบางคนอ้างว่าทำรีสอร์ตขึ้นมาเพราะรายได้ดีกว่าก็ฟังไม่ขึ้น เพราะผิดสัญญาที่ให้ไว้แต่แรก อีกอย่างถ้าเป็นเรือกสวนไร่นา ป่าไม้ยังจะเรียกคืนได้ไม่ยาก แต่พอคุณลงทุนเป็นล้านๆ มีรายได้นับสิบล้าน ป่าไม้จะเรียกคืนยังไงคุณก็ไม่ยอม เหมือนตอนนี้ไง .................................................................... ส่วนเรื่องใบเสียภาษีที่เอามาอ้างก็อ้างไม่ขึ้น เพราะจะว่ากันจริงๆ มันก็ไม่ใช่ที่ของคุณอยู่ดี แถมรัฐยังต้องไปไล่เบี้ยกับ อบต. ด้วยถึงจะถูก จากคุณ : United Trinity เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 13:23:27

ความคิดเห็นที่ 4 รีสอร์ตสวยแค่ไหน  ก็ทุบทิ้งได้ครับ   เรื่องรวยจนไม่เกี่ยวเลยครับ สนับสนุนให้รัฐทุบทิ้งไปเลยครับ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 14:48:00

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่านะ มันคือความผิดของหน่วยรัฐ ควรสนับสนุนให้ชาวทำการเกษตร แล้วก็ควรทำเป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำแบบโหมสเต  ก็ทำเป็นแบบกระท่อมในไร่ ของขาวบ้านเอง ไม่จำเป้นต้องขายให้นายทุน แถมก็ได้เงิน เพิ่มอีก ปัญหาคือภาครัฐไม่แนะนำ ไม่ส่งเสริม พอจะขายกับเห็นด้วยซะงั้น คนไปเที่ยว แบบนั้นคงไม่ต้องการความสะบายอะไรมากหรอก แต่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ถ้าช่วยกันคิดช่วยกันทำ มันจะไม่มาในรูปแบบนี้ ต่อไปก็ควรสร้างเป็น โมเดลใหม่ ทำเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 14:48:29

ความคิดเห็นที่ 6 ยึดตามหลักความถูกต้องครับ ผิดก็ว่าไปตามผิด ที่เป็นป่าก็ควรเป็นป่า ไม่ควรมีรีสอร์ท ที่ สปก. ก็ให้ทำการเกษตร จะเป็นเชิงอนุรักษ์ หรือ แบบผสมก็ได้ แต่ต้องเป็นชาวบ้านทำจริง จริง ไม่ใช่ให้ทายทุนมาแอบอ้างครับ ไม่เข้าใจชาวบ้านจริ จริง ได้ที่ สปก. มาแล้วจะขายให้นายทุนทำไม หรือว่าเป็นวิธีที่หาเงินแบบง่าย ง่าย ทำการเกษตรไม่เป็นกันแล้วว่างั้นเถอะ... จากคุณ : bb เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 15:12:09 A:183.89.48.131 X: TicketID:322641

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นใจว่าลงทุนสร้างรีสอร์ท บ้านพักไรไป เป็นสิบๆ ล้าน ก็เห็นใจนะ เงินมันก็เยอะอยู่ แต่ก็เห็นด้วยกับที่จขกทว่า ว่า มีอีกกี่ป่าไม้ก็ไม่พอหรอก เห็นด้วยกับจขกท ค่ะ ปล รูปที่โพสต์สวยมากเลยค่ จากคุณ : ค่ำคืนนี้มีเพียงดาว เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 15:12:30

ความคิดเห็นที่ 8 สงสัยกว่านั้นคือ สปก มันห้ามขายไม่ใช่หรือครับ อ่านแล้วก็งงๆ ว่ามีการโอนชื่อโอนอะไรกันได้ยังไง หรือว่าไม่ได้โอน (ไม่ได้ติดตามรายละเอียดถึงว่าตกลงที่ไปอยู่ในชื่อใครแล้ว) จากคุณ : นัยม้า (นัยม้า) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 15:25:37

ความคิดเห็นที่ 9 คิดเหมือนความคิดเห็น 3,4,6 และขอเพิ่มเติมข้อมูลจาก ส.ป.ก.ว่าคือ      ที่ดิน ส.ป.ก. คือที่ดินที่รัฐให้ประชาชนครอบครอง         เพื่อปฏิรูปที่ดินเป็นพื้นที่ทำกิน บุคคลมีสิทธิครอบครอง               ที่ดินไม่เกิน 25ไร่ และครอบครัวละไม่เกิน 50ไร่                                       และ ที่ดิน ส.ป.ก. เป็นที่ดินที่รัฐยกให้เป็นที่ดินทำกิน ไม่สามารถซื้อขายได้ แต่เป็นมรดกตกทอดได้     การซื้อขายที่ดินเป็นสิ่งผิดกฏหมาย           ที่ดินในเขตอุทยาน ที่ดินในเขตป่าไม้      ที่ดินในเขตภูเขาและรอบภูเขาที่เป็นที่ลาดชัน     35 ดีกรีหรือมากกว่า ไม่สามารถครอบครองได้ ปล.ในฐานะคนหนึ่งที่ดูอยู่ว่าจะลงเอยเช่นไร อย่างไรก็อยากให้ทำตามกฎระเบียบ  พร้อมทั้ง การเสวนา การประท้วง ด้วยสันติและไม่มีความรุนแรง จากคุณ : Peacefulmean เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 15:45:14

ความคิดเห็นที่ 10 คืนกลับให้ธรรมชาติเถอะครับ จากคุณ : หัวหน้าเผ่าฯ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 15:54:47 A:115.67.170.229 X: TicketID:301517

ความคิดเห็นที่ 11 มันผิดที่ปล่อยให้เขา เข้าไปอยู่กันตั้งนานแล้ว ไม่มาดูแล และบอกกล่าวไล่ที่ไปตั้งแต่แรก ปล่อยให้อยู่กันมายาวนานแล้วพึ่งจะมาไล่ที่ตอนนี้ ใครจะไปทำใจได้ ถ้ากรมป่าไม้เอาจริง จริงๆ ควรไล่ให้ครบทุกอุทยานนะ ไม่ใช่ทำแค่เอาหน้าแห่งเดียวแล้วเลิก ส่วนที่อื่นๆก็ปล่อยปะละเลยตามเดิม  พอเขาทำแล้วรุ่ง ก็ค่อยมาไล่ใหม่ แบบนี้ไม่แฟร์ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 16:08:57

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับลุงทศ วันนี้ข้ามห้องเลย..ผมน่ะหรืออยากได้ความถูกต้องให้สังคม...ผมเองไม่ได้อยู่ในไทย ไม่ค่อยทราบความเป็นไปเรื่องนี้ แต่อะไรที่ถูกต้อง อยากให้เป็นไปตามนั้นครับ จากคุณ : ขวัญชัยอิศรา (kwanchaiisra) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 16:22:01

ความคิดเห็นที่ 13 ตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดทุกที่ในประเทศไทย  จะได้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และเข้ายุคใหม่ได้แล้วสำหรับเตรียมจะบอกว่าเราพัฒนาแล้ว ถ้าใครไม่ยอมฟ้องประชาชนได้เลย จากคุณ : MAOK เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 16:32:10

ความคิดเห็นที่ 14 ควรใช้มาตรฐานป่าน้ำเขียวกับทุกฝืนป่าที่เป็นป่าอนุรักษ์ ฯ ครับ...ชอบความเขียวที่เป็นธรรมชาติดิบ ๆ มากกว่ารีสอร์ตครับ...ด้วยความเคารพครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 17:47:08

ความคิดเห็นที่ 15 มันจะมีความสุขอะไร ถ้าการไปเที่ยวของเราเป็นการสนับสนุนคนบุกรุกป่า ความยากดีมีจนไม่ใช่บัตรผ่านที่จะให้คนทำผิดกฎหมายได้ ถ้าวังน้ำเขียว กรมป่าไม้ยอมให้สักที่ ต่อไปคนที่บุกรุกป่าอื่นๆก็จะสามารถชี้หน้าได้ว่า ทีวังน้ำเขียวยังทำได้ ทำไมเขาจะทำไม่ได้บ้าง เมื่อนั้น ต่อให้มีป่าเท่าไหร่ก็ไม่พอให้มนุษย์บุกรุกหรอกครับ จากคุณ : บัตรผ่านด้อยสิทธิ์ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 18:15:39 A:202.12.74.169 X: TicketID:282622

ความคิดเห็นที่ 16 นักท่องเที่ยวที่ดี ไปเจอกับธรรมชาติล้วนๆดีกว่าครับ กางเต๊นท์นอนนับดาว มันเจ๋งกว่า นอนห้องแอร์รีสอร์ทเยอะเลย จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 18:21:35

ความคิดเห็นที่ 17 สมัยนั้นเขาไม่กล้าไง มันอยู่ได้ไม่นาน เงินกับศัทธา จากคุณ : nothern man เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 20:28:23

ความคิดเห็นที่ 18 ธรรมชาติที่สวยงาม ควรเป็นสิทธิของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือ?? มีอีกหลายจังหวัดที่ถูกทำลายป่าทำลายสมดุลธรรมชาติ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 21:28:38 จากคุณ : เอ (milly) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 21:25:50

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนตัวไม่เคยไปเที่ยวรีสอร์ทพวกนี้เลย มันทำใจไม่ได้ พอเข้าไปมันรู้สึกว่าตนไม้ ถูกตัด  ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าถูกทำลาย  มองไปทางไหนก็เห็นแต่การทำลายธรรมชาติ แล้วถ้าเราไปพักมันจะมีความสุขได้ยังไง เสียเงินด้วย แน่ ๆ คือสนับสนุนให้พวกนายทุนที่เห็นแก้ตัว  เจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต  ทำลายกันมากขึ้น  หาประโยชน์จากป่ากันไม่รู้จักจบสิ้น และที่ไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นทำไมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นข้าราชการจากส่วนกลาง  หรือจากส่วนท้องถิ่นมองไม่เห็นการกระทำครั้งนี้หรือ ไม่ใช่ไร่สองไร่ แต่มันเป็นหมื่น ๆ ไร่ เขาหมดเป็นลูก ๆ  และก็ทำกันมาหลายปี  แต่ปล่อยปะละเลยกันจนแก้ไขยาก      แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจทำงานนี้จริง ๆ และให้ท่านเหล่านั้นสามารถทำงานครั้งนี้ได้สำเร็จลุล่วง นำป่ากลับมาเป็นป่าเหมือนเดิม นำคนผิดมาลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง  จะได้ไม่เกิดปัญหาเช่นนี้อีก แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 21:33:01 จากคุณ : หนึ่ง ต. กับ สามตัว (หนึ่ง ต. กับ สามตัว) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 21:31:15

ความคิดเห็นที่ 20 เคยไปมาครั้งหนึ่ง เห็นแล้วก็ตกใจน๋ะว่า พื้นที่ภูเขา แต่ไม่มีต้นไม้ เค้าปล่อยให้คนมาอยู่ได้ยังไง เพราะเคยรู้ว่าที่สูง ห้ามครบครอง แต่ก็ได้แค่สงสัย และเพิ่งรู้ว่า เป็นพื้นที่ป่าสงวน จากคุณ : หัวเข็ม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 11:23:20

ความคิดเห็นที่ 21 อยากให้กิ๊ฟ คห.5 แต่ว่าให้ไม่ได้ จากคุณ : แม่เมกก้า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:25:40

ความคิดเห็นที่ 22 คงไม่จำเป็นต้องเจรจาอะไรกันอีก กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย คนหรือนายทุนที่เข้าไปทำการกก่อสร้าง ผมว่าไม่มีใครไม่รู้ว่า ตัวเองกำลังทำผิดกฏหมาย   แต่เมื่อ มาถึงเวลานี้ ผมก็คงจะเชื่อว่า การแก้กฎหมาย จากให้ผิดเป็นถูก เนี่ย ก็คงจะทำกันได้ (จนเคยตัวอยากได้อะไรก็ต้องได้) พยามสร้างบรรทัดฐานที่ผิดๆให้คนทั้งประเทศ เอาเป็นเยี่ยงอย่าง กันต่อไป   ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า กฎหมาย เป็นสิ่งสุดท้าย ที่เราทั้งหลายในประเทศนี้ จำเป็นต้องยึดถือ และให้มีผลบังคับใช่อย่างจริงจัง ที่จะไม่ทำให้ประเทศเสือม และห่างใกล จากความเจริญ ไปมากกว่านี้   อยากให้กำลัง กับเจ้าหน้าทุกท่าน ในการปฎิบัติหน้าที่ของท่าน จากคุณ : ไกลบ้าน (darkest) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 20:44:40

ความคิดเห็นที่ 23 ต้นไม้ไม่สามารถขึ้นได้ในวัน 2 วัน ถ้าเป็นไปได้มั้ยว่า ให้เวลาพวกรีสอร์ท ปลูกป่าคืนพื้นที่ พร้อมดูแล ให้ด้วยในกำหนด 2 - 3 ปี แล้วค่อยให้พวกเค้าออกไป 1. อย่างน้อยเค้าก็มีเวลาทำใจ 2. ได้คนปลูกป่าพร้อมคนดูแล 3. บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น มีรีสอร์ทไว้ให้เวลานักท่องเที่ยวด้วย ได้คืนทุน บ้าง บางส่วน แต่ทั้งนี้ ต้องควบคุมไม่ให้ถูกบุกเพิ่ม และ เก็บผืนป่าคืนตามกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัด ดีมั้ยละครับ WIN WIN WIN ทุกฝ่าย จากคุณ : C_WIN เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 13:51:55