ศธ. ยุคใหม่ ห้องสมุดโรงเรียนไม่จำเป็น "เพราะแจกแท็บเล็ตแล้ว"
|
|
ศธ.ยังไม่เคาะตัวเลขงบปี 55 คาดเกือบ 4 แสนล้าน "วรวัจน์" เตรียมหั่นงบสร้างห้องคอมพ์ ห้องสมุดในโรงเรียน
ชี้มีแท็บเล็ตแล้วไม่จำเป็น "ชินภัทร" ระบุ สพฐ.สนองนโยบาย รมว.ศธ.คนใหม่ เตรียมปรับปลักสูตรตั้งแต่ระดับประถม-มัธยม ใส่เนื้อหาเรื่องอาชีพเพิ่ม และภาคปฏิบัติเข้าไปทุกระดับชั้น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558 ของ ศธ. และการพิจารณางบประมาณปี 2555 ว่า
เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด เพราะโครงการต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานยังไม่สัมพันธ์กัน และบางโครงการอาจต้องปรับลดงบประมาณลง โดยเฉพาะในโครงการที่ไม่จำเป็นของแต่ละองค์กรหลัก
@@@อาทิ โครงการจัดทำห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ที่ใช้งบประมาณต่อห้องหลายล้านบาท ซึ่งอาจไม่จำเป็นเพราะ ศธ.ก็จะมีโครงการนำแท็บเล็ตมาใช้อยู่แล้ว@@@
@@@รวมถึงการสร้างห้องสมุดในสถานศึกษา เป็นต้น@@@
ทั้งนี้ตนจะเร่งให้ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้โดยเร็ว เบื้องต้นก็คาดว่างบประมาณในภาพรวมของ ศธ.ในปีงบประมาณ 2555 น่าจะเกือบ 4 แสนล้านบาท
โดยส่วนใหญ่จะเป็นงบประมาณเงินอุดหนุนรายหัวและเงินเดือนครู
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมงบประมาณปี 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะอยู่ประมาณ 285,000 ล้านบาท
ซึ่งปรับลดลงมาเล็กน้อย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายนายวรวัจน์ ทั้งนี้ กรอบแนวทางเบื้องต้น สพฐ.จะต้องทำให้เชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ของ ศธ.
และจุดเน้นของนายวรวัจน์ที่ต้องการให้การศึกษาพัฒนาประเทศ และมุ่งเน้นสมรรถนะของผู้เรียนด้านการประกอบอาชีพมากขึ้นด้วย
โดยประเด็นเหล่านี้จึงนำไปสู่การจัดทำแผนงบประมาณปี 2555 จำนวน 9 แผนงาน ได้แก่
1.แผนงานโอกาสทางการศึกษา เน้นเรื่องการสนับสนุนตั้งแต่แรกเกิดจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดย สพฐ.จะรับผิดชอบเด็กตั้งแต่อายุ 4 ขวบเป็นต้นไป และเตรียมความพร้อมระดับการศึกษาปฐมวัยอย่างเข้มข้นมากขึ้น
2.แผนงานพัฒนาศักยภาพผู้เรียนจะเน้นเรื่องการใช้แท็บเล็ตให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด พร้อมการพัฒนาเนื้อหาสาระของผู้เรียนให้มีความพร้อม
โดยเฉพาะนักเรียนช่วงชั้นที่ 1 หรือระดับประถมศึกษาที่ 1-3 ต้องเร่งเติมเต็มอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันจะต้องพัฒนาหลักสูตรให้เข้ากับวิชาชีพเพื่อเรียนรู้สู่งานอาชีพด้วย
ส่วนการศึกษาระดับปฐมวัยจะต้องมีระบบการบริหารจัดการที่เข้มข้น โดยหานวัตกรรมด้านต่างๆ ในการส่งเสริมพัฒนาเด็กเล็กว่าจะให้ท้องถิ่นจัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร
3.แผนงานพัฒนาสถานศึกษา โดยเน้นเตรียมความพร้อมให้กับโรงเรียน 3 ระดับ ได้แก่ โรงเรียนดีประจำตำบล โรงเรียนในฝัน และโรงเรียนมาตรฐานสากล
4.แผนงานพัฒนาครูทั้งระบบ เน้นการอบรมพัฒนาครูเพื่อให้ครูมีสมรรถนะในการจัดการศึกษาเพื่อการมีงาน ส่วนอัตราครูที่ขาดยังคงทำต่อเนื่อง
5.แผนพัฒนาองค์ความรู้ เน้นการพัฒนาตำราแห่งชาติ การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน
6.แผนงานการส่งเสริมการมีงานทำ โดยการปรับโรงเรียนที่มีศักยภาพให้มีความพร้อมในการจัดการวิสาหกิจเพื่อการศึกษา
7.การพัฒนาด้านเทคโนโลยี เร่งพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้เกิดการพัฒนาการเรียนแบบอีเลิร์นนิ่งมากขึ้น เช่น การอบรมครู การพัฒนาอีคลาสรูม 15,000 ห้อง
8.การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เน้นเรื่องภาษา ไอซีที และความรู้วัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของประเทศอาเซียน และ
9.แผนการบริหารจัดการกลยุทธ์ เน้นเรื่องการขับเคลื่อนให้เขตพื้นที่การศึกษาเป็นฐาน
"ต่อไป สพฐ.ก็จะมีการปรับหลักสูตรตั้งแต่ระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษาทั้งหมดให้เป็นไปตามนโยบายของนายวรวัจน์ ที่ต้องการให้เด็กเรียนรู้เรื่องอาชีพมากขึ้น
อาทิ การเพิ่มวิชาปฏิบัติเพื่อจะให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะทางวิชาชีพ ซึ่งการเรียนรู้ดังกล่าวก็จะเข้มข้นไปด้วยตามระดับชั้นที่สูงขึ้นด้วย" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว.
จากคุณ |
:
Pikless
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ย. 54 09:10:25
|
|
|
|