หลายท่านตอบมาดีแล้ว
ผมจึงขอเสริมจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในฐานะที่เคยเป็นแบบลูกชายคุณจขกท.มาก่อน
อยากให้คุณจขกท.ลองใจเย็น และทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกดูดีๆนะครับ
ว่าเกิดจากปัญหาใด
ของผมก้าวร้าวใส่แม่ เพราะแม่ผมชอบใช้อารมณ์ใส่ผม และแม่ทอดทิ้งพ่อ
ความที่ผมรักพ่อมาก ผมจึงโกรธแม่เสมอ
ลูกชายคุณจขกท.มี 2 อาการครับ คือแข็งขืนกับแม่ และก้าวร้าวใส่แม่อย่างรุนแรง
อาการแข็งขืนเกิดจากช่วงวัย เด็กวัยรุ่นเป็นวัยที่เริ่มต้นแยกตัวเป็นอิสระจากพ่อแม่
ดังนั้น ถ้าถูกพ่อแม่สั่ง ไม่พูดกับเขาด้วยเหตุและผล เขาจะแข็งขืน เป็นเรื่องปกติครับ
แต่ก้าวร้าวใส่แม่ แบบที่คุณจขกท.เล่ามา ไม่ใช่เรื่องปกติ มันเกิดจากอาการ"สะสม"แน่นอนครับ
เขาสะสมความโกรธที่มีต่อคุณอยู่แล้ว แต่ไม่แสดงออกจนกว่าจะถึงตอนทะเลาะกันถึงหลุดออกมา
เช่น อาการ"power struggle" คือต่างฝ่ายต่างไม่พูดกัน แล้วดูซิว่าใครจะยอมพูดก่อน คนนั้นแพ้
นั่นคืออาการของคนสองคนที่ชิงอำนาจกันเป็นใหญ่
ผมถึงอยากให้คุณจขกท.ลองสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกชายดูนะครับ
1. วัยเด็กของเขา ใครเป็นคนเลี้ยงดูเขามา เขาจะ"นับถือ"และ"ผูกพัน"คนนั้นมากกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงครับ
2. ถ้าคุณแม่เป็นคนเลี้ยงน้องมาแต่เล็กแต่น้อย คุณแม่ต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า แล้วทำไมน้องถึงก้าวร้าวได้ขนาดนั้น
คุณแม่ได้สอนเขาเรื่อง EQ หรือไม่ สอนเขาเรื่องระเบียบวินัยหรือไม่
3. คุณแม่จะคาดหวังให้น้องไม่ "ระเบิดอารมณ์" ได้อย่างไร ในเมื่อน้องเห็นตัวอย่างแม่ "ระเบิดอารมณ์ใส่เขา"
เด็กจะไม่ทำตามที่เราสอนเขา แต่เขาจะทำตามสิ่งที่เขาเห็นเราทำครับ
4. ความสัมพันธ์ของแม่กับน้องดีต่อเนื่องมาตลอดหรือไม่ ถ้าใช่ น้อง"เริ่มเปลี่ยนตั้งแต่อายุเท่าไหร่" และ "เปลี่ยนเพราะอะไร"
5. การไม่พูดกับลูก ไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกต้อง เพราะเป็น negative reenforcement-ส่งเสริมพฤติกรรมเชิงลบให้เขาเห็นครับ
คุณแม่จะสอนให้ลูกมีเหตุผลได้อย่างไร ถ้าคุณแม่เล่นไม่พูดกับลูกนานเป็นเดือนขนาดนั้น
ถ้าคุณแม่ไม่อยากให้เขาติดนิสัยนี้ไปจนโต คุณแม่ต้องพูดกับเขาเสมอ ไม่ว่าเราจะทะเลาะกับลูกขนาดไหนก็ตาม
เพื่อสอนให้เขารู้ว่า "เรามีความขัดแย้งกัน แต่เราไม่โกรธกันนะลูก เราแตกต่างได้ แต่เราไม่แตกแยกกัน"
หากคุณจขกท.คิดเหมือนคคห. 7 ที่รู้สึกว่าลูกไม่ดีพอ เราเลี้ยงเขาได้แต่ตัวจริงๆ
คำถามแรกที่พ่อแม่ทุกคนต้องถามตัวเองคือ...แล้วเราเลี้ยงเขามาอย่างไรด้วยครับ
หากเราอบรมสั่งสอนลูกด้วยความรักและวินัยตลอดมาแล้ว ไม่ต้องกลัว หากลูกจะเสีย จะเสียแค่ช่วงเดียวครับ
พอสำนึกได้เขาจะกลับมา เพราะพลังการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่มีมากกว่าสภาพแวดล้อมมากนัก
แต่ถ้าลูกไม่รักเราเลย อย่าโทษกรรมครับ เพราะผลทุกอย่างมาจากเหตุ
ไม่มีเหตุ ผลก็ไม่เกิด ไปหาเหตุให้เจอ ผลก็จะเปลี่ยนไปเองครับ
เอาใจช่วยนะครับ