ความคิดเห็นที่ 1 ใจเย็นๆ นะคะ ค่อยๆ คิด มีสติเข้าไว้ ทุกปัญหามีทางออกค่ะ ใจเย็นๆ นะคะ จากคุณ : รักรออยู่ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:19:31

ความคิดเห็นที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U11148318/U11148318.html จากคุณ : Sofus เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:20:47

ความคิดเห็นที่ 3 ลดรายจ่ายทุกๆทาง ให้สามีคุณไปหารายได้เพิ่ม  แล้วไปขอประนอมหนี้กับแบงค์ครับ ป.ล.อยากด่าสามีคุณจริงๆ จากคุณ : No looking back เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:23:04

ความคิดเห็นที่ 4 หยุดใช้ทุกบัตร และจ่ายขั้นต่ำไปก่อน.. ใจเย็น ๆ อย่าสมัตรบัตรเงินสด เพื่อกดมาจ่ายค่าบัตร จะทำให้เพิ่มหนี้มายิ่งขึ้น เพราะดอกเบี้ยแพงมาก.. ประหยัดให้มากที่สุด.. สักพักหนึ่งก็จะลดไปได้บ้าง.. จากคุณ : Sambal เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:24:00

ความคิดเห็นที่ 5 สามแสนกว่านี่..ใช้ไปทางไหนบ้างล่ะครับ..ใช้อยู่ในบ้านด้วยกันหรือเปล่า.. หรือเอาไปใช้ทางไหนที่เราไม่รู้..จับเข่าคุยกันก่อนครับ.. ยังไงถ้าใช้อยู่ในบ้าน..ก็คงต้องรับผิดชอบร่วมกันล่ะครับ..แต่ถ้าไม่ใช่..แล้วเอาไปทำอะไรคุยกันให้ชัดก่อน แล้วก็ต้องคิดหาทางออกร่วมกันอยู่ดี..สติมาปัญญาเกิด ค่อย ๆ คิดแล้วจะมีทางออกครับ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:25:38

ความคิดเห็นที่ 6 ขายรถเอาเงินมาโป๊ะหนี้ แล้วซื้อรถมือสองมาใช้แก้ขัดไปก่อน จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:28:31

ความคิดเห็นที่ 7 หนี้อะไรล่ะ หนี้การพนันหรือเปล่า แล้วทําไมเพิ่งจะมารู้ เขาปิดคุณมาตลอดเลยหรือ จากคุณ : ความลับไม่มีในโลก เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 14:45:20 A:125.24.188.19 X: TicketID:326065

ความคิดเห็นที่ 8 เงินเดือนบวกลบแล้ว น้าจะมีเหลือกองกลางประมาณ 10000 - 20000 บาท เป็นหนี้ประมาณ 350000 หาร ใช้เดือนละ 10000- ประมาณ 35 งวดหมด ทางที่ดีเจรจากับบัตร ครับ ดูแล้วคุณน้าจะมีกำลังส่งเพียงแต่ต้องใช้เวลา อย่าไปใจร้อน ถ้าแบงไม่ยอม ก็ให้ไปคุยที่ศาลเอา......... จากคุณ : ohiyo_eak เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:01:06

ความคิดเห็นที่ 9 เงินเดือนรวมกันไม่น้อยนะคะ น่าจะหาทางลดรายจ่ายได้บ้างและก็โทรไปปรึกษาแบงค์ค่ะ ... ไม่ต้องเครียดค่ะ 3 แสน เราว่าคนเยอะแยะที่มีหนี้แบบนี้ ไม่เยอะจนน่ากลัวค่ะ เพราะงานก็ยังมีทำ ทรัพย์สินก็มีบ้าง ใช่มั๊ยค่ะ จากคุณ : Janhi เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:18:42

ความคิดเห็นที่ 10 ใจเย็นๆๆครับ การเป็นคู่ครองต้องมีการให้อภัย ทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน อย่าด่าสามีเลยครับ ช่วยกันแก้ปัญหา ทุกอย่างจะผ่านไปได้ครับ จากคุณ : kololado1 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:32:19

ความคิดเห็นที่ 11 เราช่วยให้คำแนะนำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เพราะไม่เคยมีบัตรเครดิต และขอปฏิญาณกับตนเองไว้เลยว่าชาตินี้จะไม่ขอใช้บัตรเครดิต ขอใช้แต่เงินสดไม่มีก็ไม่ใช้ เพราะบัตรเครดิตมันเป็นบัตรที่เวลาใช้จ่ายมันรูดเพลินแต่เวลาบิลแจ้งยอดออกมาแทบจะเป็นลม ยังไง ก็ขอให้ใช้กันด้วยสตินะคะ อย่า หมุนกู้จากบัตรนี้มาใชหนี้บัตรนี้สุดท้ายหนี้กับดอกเบี้ยมันก็จะพอกพูนไปกันใหญ่ค่อย ๆคิดหาทางแก้ปัญหานะคะ จากคุณ : การ์ดโฟนคิงคอง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:41:11

ความคิดเห็นที่ 12 ลองดูคลิปนี้นะครับแล้วหาทางติดต่อครับ...คลินิคบัตรเครดิต ครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:47:06

ความคิดเห็นที่ 13 ค่อยๆช่วยกันคิดค่ะ 2 หัวดีกว่าหัวเดียว เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ สู้ๆ จากคุณ : Decemberka เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:47:45

ความคิดเห็นที่ 14 แก้ไม่ยาก ผ่อนรถ เดือนละ 1,1000 ถ้าต้องการล้างหนี้จริง ก็ไม่ต้องผ่อนรถซิครับ เอาเงินผ่อนรถ ไปใช้หนี้ แป๊บเดียวหมด อย่าอ้างกรณีจำเป็น คนที่ขึ้นรถเมล์ไปทำงาน มีมากจนรถเมล์ไม่พอขน ถ้าจะเพิ่มคุณกับสามีอีกซักสองคน  คงมีที่ว่างพอ ตัน อึ้ง ตื้อ..เป็นเพราะคุณเสียดายความสะดวกสบายจากการมีรถส่วนตัว ทิ้งความสบายตรงนี้ซักปีสองปี ก็กลับมาสบายได้เหมือนเดิม....ถ้า... ถ้าสามีคุณไม่ก่อหนี้ ไปเล่นการพนัน แจกเมียน้อย ฯ...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:52:18

ความคิดเห็นที่ 15 อันที่จริงหนี้สามแสนไม่ใช่มากเลย เขาเอามาใช้ในครอบครัวทีละนิดจนเวลานาน มันสะสมกันมากหรือป่าว  ถ้าแบบนั้น ก็ต้องช่วยกันหาเงินใช้หนี้ไปขอประนอมหนี้บัตร และผ่อนจ่ายเอา บัตรเครดิตนี่ไม่ควรใช้มากเลย เพราะมันไม่สร้างวินัยทางการเงินที่ดี ลูกยังเล็กไม่ควรสร้างหนี้สินมากเพราะเราต้องห่วง การศึกษาลูกก่อนอย่างอื่นก่อนการมีรถเสียอีก ถ้าลูกเรียนจบอันนั้นไม่ว่าจะสร้างหนี้ไรสร้างไปเพื่อการลงทุน แต่หนี้ที่เรามีมันต้องมีการประกันหนี้ไว้ทุกตัวเพื่อว่าเวลาเราตายไป จะได้ไม่ทิ้งหนี้ไว้เป็นภาระผู้อื่น  ข้าพเจ้าสร้างสินทรัพย์บ้าน รถยนต์ที่ดินมา ข้าพเจ้าก็มีหนี้สินเป็นธรรมดา แต่หนี้สินทุกตัวที่ข้าพเจ้ามีมันมีประกัน คุ้มความเสี่ยงไว้ทุกตัวตายไปก็ไม่เป็นภาระแก่คนข้างหลังแถมยังมีเหลือ สำหรับคนข้างหลังไว้ใช้ได้อีกหลายล้าน ทำไรได้นอกจากประหยัด ขอประนอมหนี้ผ่อนชำระ และช่วยกันหารายได้เพิ่ม สู้ สู้ จากคุณ : DojiDoji เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:55:10

ความคิดเห็นที่ 16 ก็ต้องมานั่งถาม นั่งคุยกันก่อนล่ะค่ะ ว่าหนี้สินทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร ถ้าหนี้สินที่เค้าสร้างขึ้นมา โดยรวมแล้วทำเพื่อครอบครัว ก็น่าเห็นใจเค้าส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหนี้สินทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากการฟุ่มเฟือย ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ ก็ต้องมาถามกันล่ะค่ะว่า แล้วสาเหตุที่มาสารภาพว่ามีหนี้สินนี้ เพราะอะไร..ต้องการให้ จขกท. ช่วยหรือยังไง แล้วสาเหตุที่สามี จขกท. มาสารภาพ (อันนี้คิดส่วนตัวนะคะ) อาจจะเกิดจากว่า ณ ตอนนี้ ครอบครัว จขกท. ต้องการใช้เงินเพื่อทำอย่างหนึ่ง แต่ สามี จขกท. ไม่สามารถช่วยได้เต็มที่เพราะตัวเองมีหนี้สินก้อนนั้นอยู่ จึงยอมสารภาพ ทางแก้มีทางเดียวค่ะ ทำอย่างอื่นคงไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด... คุยกันแบบเปิดใจ .. ตกลงว่าจะหยุดเพิ่มหนี้สินทั้งหมด และค่อยๆ ชดใช้หนี้ก้อนนี้ ให้หมดไป ถึงแม้จะนาน แต่ถ้าค่อยๆ ส่ง ก็ต้องหมดเข้าสักวันแหละค่ะ สู้ๆ นะคะ เอาใจช่วย จขกท. ค่ะ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขค่ะ จากคุณ : ชะมะเฟือง เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 15:57:41

ความคิดเห็นที่ 17 ค่อยๆคิดครับ ลองคิดคำนวนดูก่อนว่ามีอะไรที่ฟุ่มเฟือยบ้าง ก็พยายามตัดลดดูครับ เข้าเรื่องง่ายๆก็คือ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้" ที่สำคัญก็คือ "อย่าเครียดครับ" ค่อยๆคิด เครียดมากๆ เราจะยิ่งคิดเอาเรื่องอื่นๆที่ไม่จำเป็นมาคิดไปอีก สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ "ครอบครัวเป็นสุขทุกอย่างที่ดีก็จะตามเอง" จากคุณ : Aturn เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:15:55

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว เค้ามีหนี้ เกือบสามแสน เรายังไม่มีลูกกัน เราก็เอาเงินเก็บมาให้เค้าใช้หนี้ เค้าใช้เงินฟุ่มเฟือยค่ะ  แต่เราไม่ได้จ่ายหมด เราเหลือเงินเก็บไว้นิดหน่อย บอกเค้าว่าส่วนที่เหลือให้จ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ แล้วอย่าก่อหนี้อีก เราถามมาตลอดว่าหมดหรือยัง  ---ตอบว่า อีกนิดหน่อย  และช่วงนั้นเราก็ไม่เคยขอเงินเค้ามาเก็บเลย ให้เค้าจ่ายค่ารถ ค่าน้ำ-ไฟ และผ่อนบัตรที่เหลือ เท่านั้น เราก็จ่ายค่าบ้าน และก็พยายามเก็บสะสมใหม่ เราไว้ใจเค้าตลอด ให้เค้าเก็บเงินเปิดบัญชีให้ลูก เราเอาเงินให้เค้าไปเข้าบัญชีให้ลูกคนโต ทุกเดือน เราไม่เคยขอดูบัญชีเลย จนมาถึงเวลาที่เราจะให้ลูกไปโรงเรียน  เราก็เลยอยากรู้ว่าบ/ช ของลูกมีเงินเท่าไร วันนี้นเราโทรไปบอกให้เอาบ/ช มาให้ดูด้วย เราเห็นตัวเลข มันมีการเบิก-ฝาก ไม่ใช้ฝากอย่างเดียว  เราก็เลยรู้  และถามเค้า ตอนแรกก็ไม่บอก  พอถามหนักเข้า ก็เลยบอกว่า ติดอยู่ 3แสนกว่า เราอึ้งมาก เราถามว่าเอาไปทำอะไร ...   มีช่วงนึงที่เค้าไปทำขายตรง เพราะอยากได้เงินเยอะ อยากให้ลูกเมียสบาย ก็เลยกลับมาใช้บัตร เอาเงินไปซื้อของให้ลูกทีมก่อน พอเก็บเงินได้ก็ไม่รู้จักเก็บ ใช้เกินตัว เลยมีหนี้เพ่มขึ้นมาอีก  แล้วก็เลยหาทางไม่ได้ หมุนไป-มา อยู่เกือบปี ก็เลยพอกพูนเป็น 3 แสนกว่า... พอเรารับรู้เราก็พูดไม่ออกค่ะ ได้แต่แอบร้องไห้ ไม่อยากให้ลูกเห็น เมื่อคืนก็ไม่ได้นอน ห่องอนาคตลูกค่ะ จากคุณ : แม่น้องเน่-ตี้ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:18:52

ความคิดเห็นที่ 19 ผมส่งข้อความไปทางหลังไมค์นะครับ ... อันดับแรกที่อยากแนะนำคือ สงบจิตใจไว้ก่อนครับ แล้วคุยกันกับสามี ว่ายอดหนี้จริง ๆ ที่มี เท่าไร แล้วแยกเป็นแต่ละบัตรครับ (ผมไม่แน่ใจว่า สามแสนเนี่ย บัตรเดียวหรือไม่) หลังจากนั้น ให้หยุดจ่ายไปก่อนครับ (จ่ายเลี้ยงดอกเบี้ย ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะทำให้อายุความเพิ่มขึ้นและเพิ่มความเครียด เก็บเงินไว้ใช้จ่ายและออมไว้เพื่อชำระหนี้รวดเดียวดีกว่า) หลังจากที่หยุดจ่าย ให้โทรฯคุยกับเจ้าของบัตร เพื่อประนีประนอมหนี้ครับ (หนี้สามแสน อาจจะไม่ต้องจ่ายหมดสามแสนก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเจรจากับเจ้าหนี้ โดยมากแล้ว non-bank จะพิจารณามอบส่วนลดให้ครับ) แล้วก็วางแผนการเงิน สำหรับใช้จ่ายในครอบครัว และการออมเพื่อชำระหนี้ครับ (อย่าลืมว่า อาจไม่จำเป็นต้องชำระทั้งสามแสนที่เป็นหนี้) ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ยินดีช่วยอธิบายให้ครับ จากคุณ : amnesia เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:19:33

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังมีอีกหรือเปล่า ธ.ออมสิน เค้ามีโครงการล้างหนี้บัตรเครดิดให้อะค่ะ คือรวบรวมใบแจ้งหนี้บัตรทั้งหมดของเรา แล้วไปทำเรื่องกู้กับทางธนาคาร ทาง ธนาคารก็จะออกเช็ค ให้เจ้าหนี้แต่ละบัตรตามจำนวนจริง แล้วไปปิดให้เรา เราก็เหลือเจ้าหนี้คนเดียว คือ ออมสิน เค้าก็จะมีระยะเวลาให้เราผ่อนส่ง 3 ปีมั่ง 5 มั่ง แล้วแต่ ลองติดต่อดูนะคะ ^^ จากคุณ : เพชรพระอินทร์ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 16:37:51

ความคิดเห็นที่ 21 หนี้สามแสน ยังมีเงินเดือน ค่อยๆจ่ายเดี๋ยวก็หมด สบายมากอย่าเครียด จากคุณ : อืม เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:15:12 A:110.169.136.115 X: TicketID:140846

ความคิดเห็นที่ 22 ขั้นแรกสุด ยึดบัตรเครดิตของสามี ห้ามใช้ทุกกรณี เพราะสามีไม่มีวินัยในการใช้จ่าย จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:54:01

ความคิดเห็นที่ 23 ขายรถก่อนเลย 1 คัน คันของสามีครับ  ที่เหลืออีก 1 คันจอดไว้ จะได้ไม่เสียต่าน้ำมัน จากคุณ : คนใหญ่แห่งทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:54:58

ความคิดเห็นที่ 24 สามีโง่ ๆ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 18:06:29

ความคิดเห็นที่ 25 มี่เครื่องประดับ ทองหยองอะไรมั่งหรือเปล่าคะ เอาออกมาขายกลบหนี้ก่อน จะได้เสียดอกน้อยหน่อย เอาไว้มีเงินเหลือค่อยซื้อใหม่ คิดถึงลูกๆเอาไว้เยอะๆ แล้วมันจะผ่านไปเอง จากคุณ : jiri เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 18:51:14

ความคิดเห็นที่ 26 ต้องให้แน่ใจด้วยนะคะว่าเคลียร์หนี้สินครั้งนี้แล้ว สามีคุณเค้าจะไม่สร้างปัญหาซ้ำซากขึ้นมาอีก เหนื่อยใจแทนเลย มาเป็นสามีเดี๊ยนหน่อยไม่ได้กบาลแยก!!!!สถานเดียว จากคุณ : สุมัทนา เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 21:12:38

ความคิดเห็นที่ 27 ติดต่อธนาคาร ขอประนอมหนี่ค่ะ แบงค์เค้าเข้าใจนะคะ เค้าจะถามเราว่าผ่อนได้เดือนเท่าไหร่ แล้วเราก็บอกเค่าว่าได้เท่านี้แหละ ขอลดดอกเบี้ยด้วยนะคะ  ไม่ต้องกลัวนะคะ ใจเย็นเย็น หรืออีกวิธีรอให้เค้าฟ้องแล้วค่อยขอประนอมหนี้ลดยอดดอกเบี้ย ลองดูนะคะ สงสัยหลังไมคืได้ค่ะ ประสบการณ์ตรงเลย นึกว่าอ่านเรื่องตัวเแงอีกค่ะ จากคุณ : noonoon เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 21:18:27

ความคิดเห็นที่ 28 ยังไม่บอกเลยว่า กี่ใบ แล้วเอาไปใช้อะไรบ้าง เพราะบางคนเค้ามีวงเงินหลักล้าน บางคนหลักหมื่น ถ้าเอาไปเปิดเมมเบอร์ ก็คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 21:20:05

ความคิดเห็นที่ 29 2 คน ร่วมกันรายได้เดือนละ 58,000  มันไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่น้อยเลย บริหารจัดการกับหนี้สินที่มีไม่ได้จริงๆเหรอ  จะเครียดให้หน้าเหี่ยวไปทำไมเปลื้องครีมเปล่าๆ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 21:27:16

ความคิดเห็นที่ 30 พยายามใช้ให้หมดดีกว่าค่ะ อาจจะช็อตหน่อย สักไม่กี่เดือน เพราะไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้ ยังเงินเดือนเท่านี้อยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่า อนาคตจะมี ณ วันนี้มันยัง สามแสน ทิ้งๆไว้นาน อาจจะมากกว่านี้ และที่สำคัญ อย่าให้สามีจัดการเรื่องนี้เดี่ยวๆเป็นอันขาดค่ะ จากคุณ : idyzlesla เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 00:30:57

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านในกระทู้นี้   มีลิงค์สำหรับผู้เป็นบัตรเครดิต อาจมีแนวทางบ้าง ผมก็ยังไม่ได้อ่านหรอก   http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U11143352/U11143352.html . จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 01:21:29

ความคิดเห็นที่ 32 ยังดีที่เงินเดือนสูงกันทั้งคู่ครับ   ขยันออม เพื่อปลดหนี้ให้ได้โดยไวนะครับ จากคุณ : คิวปิดน้อย (คิวปิดน้อย) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 01:29:14

ความคิดเห็นที่ 33 แอบไปอ่านมา เลยก็อปมาฝากครับ....... จะได้ทำให้มีกำลังใจในการแก้ปัญหา   ตามนี้เลย เริ่มจากช่วงประมาณกลางปีก่อน ตัดสินใจหยุดจ่ายทุกบัตรครับ ข้อมูลก็แอบมาอ่านในนี้นี่แหละ ได้กำลังใจในการต่อสู้ไปเยอะ มีหนี้ทั้งหมดมี 10 รายการจากเจ้าหนี้ 7 เจ้า ที่ทยอยปิดไปได้แล้วมีดังนี้ KTC บัตรเครดิต ยอด 43,XXX ปิดที่ 20,000 Easybuy ยอด 42,XXX ปิดที่ 22,000 UOB ยอด 38,XXX ปิดที่ 16,500 UOB ยอด 19,XXX ปิดที่ 7,500 Standard ยอด 38,XXX ปิดที่ 18,200 First Choice ยอด 35,XXX ปิดที่ 18,500 Quick Cash ยอด 26,XXX ปิดที่ 11,000 ที่มา http://www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&catid=2&id=102431 . แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 54 02:17:20 จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 02:16:26

ความคิดเห็นที่ 34 ใจเย็นๆค่ะ ไปตามที่คุณ samr บอกค่ะ ในนั้นมีผู้ที่ประสบปัญหาหนี้บัตรแบบนี้เยอะค่ะ พวกเค้าช่วยกันแก้ไขได้ค่ะ อดทนเอาค่ะ และไม่ไปก่อหนี้เพิ่ม ยังไงๆหนี้ต้องหมดค่ะ ส่วนเรื่องรถ ต้องกลับมาดูค่ะว่า ใช้รถทำอะไร อาจจะขายรถคันนี้ ไปซื้อมือสองคันเล็กๆมาใช้ไปก่อนค่ะ เพราะเข้าใจว่า มึลูก ก็ต้องมีรถเพื่อลูกเจ็บป่วย ไปไหนทั้งครอบครัวลูกก็เล็กด้วย เงินเดือนขนาดนี้ น่าจะปรึกษาแบงค์ได้นะค่ะ กู้โป๊ะหนี้บัตร แล้วจ่ายที่เดียวค่ะ ลองไปปรึกษาค่ะ ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : sapoy (nusapoy) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 07:29:47

ความคิดเห็นที่ 35 อีกนิดหนึ่ง พอจ่ายหมด ปิดบัตรทุกใบเลยค่ะ อดใจว่า อย่าไปทำอีก บัตรเคยใช้ ก็ใช้อีกค่ะ คุณพ่อก็เคยผ่านมา แต่โชคดีที่มีแค่ 1 ใบ เป็นของ อิออน ยอดจาก 2หมื่น เป็นหนี้เกือบ 5 หมื่น ก็โป๊ะไปแล้วครั้งหนึ่ง สักพักเป็นอีก โป๊ะอีก ก็เป็นอีก แต่ตอนนั้นครอบครัวยังไม่สบายค่ะ แม่ก็เข้าใจ ไม่ว่าอะไร พยายามช่วยกัน ตอนนี้ครอบครัวพอมีใช้จ่าย ไม่เดือดร้อนแล้ว เราบอกพ่อว่า ไม่ต้องไปจ่ายหรอกบัตรอะ จ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆแบบนี้ ไม่ใช้มันก็หมด เพราะถ้าไปจ่ายหมด พ่อก็ต้องใช้อีก เพราะเคยใช้ไงค่ะ ซื้อของง่าย รูดแปปเดียว เงินสดไม่ต้องให้ ทำให้เราจำติดใจเลยว่า เราจะไม่ใช้บัตรแบบนี้เด็ดขาด กลัวว่ารูดเพลินค่ะ จะเดือดร้อนเอา จากคุณ : sapoy (nusapoy) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 07:41:44

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านรายละเอียดให้ดี ๆ นะครับ คุณยังมีรถ มีบ้าน ที่เค้าสามารถฟ้องยึดได้ ลองอ่านเยอะ ๆ ก่อนครับ แต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน จากคุณ : basicguy เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 10:08:44

ความคิดเห็นที่ 37 ---แก้ที่ต้นเหตุครับ...เป็นหนี้เพราะซื้อของ..ก็ขายของที่ซื้อมา..รถ..กล้อง..นาฬิกา..มือถือ..แหวน...อะไรที่ไม่จำเป็นในชีวิต ---กินอยู่และใช้ชีวิตอย่างประหยัดครับ..จากกินข้าวนอกบ้าน..นั่งร้านหรู...ก็เปลี่ยนเป็นกินในบ้านและทำกินเองครับ...อย่าอายที่จะบอกลูกว่าเรามีปัญหาด้านการเงิน ---ผมว่าปัญหาเกิดจากคุณและครอบครัว "ติดหรู" แก้ที่ตรงนี้ก่อนครับ..เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ การศีกษาก็น่าจะดี..น่าจะมี"ปัญญา" คิดได้ ---ผมเคยมีปัญหาอย่างคุณมาก่อน..ผมขายบ้าน..ขายรถ..ล้างหนี้ได้ในเวลาไม่นาน..และนั่งรถเมล์อยู่เป็นปีครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 12:07:26

ความคิดเห็นที่ 38 ผ่อนรถใกล้หมดหรือยังคะ ถ้าใกล้แล้วก็ไม่ต้องขายหรอกค่ะ รถมือ2เมืองไทยแพงแทบไม่ต่างกับมือหนึ่ง ดูไม่เป็นเจอย้อมแมวราคาซ่อมอาจพอๆกับราคาซื้อ ปกติใช้รถทุกวันไหมคะ ถ้าทุกวันลดการใช้ค่ะเพื่อประหยัดน้ำมัน สลับนั่งรถเมล์บ้างรถตู้บ้าง ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยทุกอย่าง ร้านอาหาร เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ การเที่ยวเตร่ ค่าไฟ ท่องไว้ค่ะคนเราอยู่ได้ด้วยปัจจัย4 เกินกว่านั้น ลดได้ลด ตัดได้ตัด งดเดินห้างแล้วหันมาเป็นมิตรกับตลาด ทำรายได้ให้เพิ่มขึ้น มีรถมีงานประจำแล้วก็หันมาทำอาชีพเสริม ในบ้านมีอะไรที่ไม่ใช้จับมาขายเลยค่ะ หาเช่าที่ตามตลาดใส่ท้ายรถไปขาย อย่าดูถูกของเหลือใช้ อาจทำเงินได้หลักพันแบบง่ายๆ ถ้ามีฝีมือด้านอาหารและขนม รับทำขนมขายตามออเดอร์เลยค่ะเริ่มจากเพื่อนฝูงนี่ล่ะให้ปากต่อปาก มีญาติพี่น้องที่พอช่วยเหลือได้ไหมคะ ถ้ามีต้องใจกล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิตก็แพงอยู่ถ้าจ่ายแค่ขั้นต่ำไปเรื่อยๆ เอาใจช่วยค่ะ หนี้สามแสนไม่ได้เยอะเลยเมื่อเทียบกับรายได้ของครอบครัวคุณ กัดฟันสู้กับมันไม่นานก็จะผ่านไปได้ ถ้าสามีคุณมือเติบก็ให้เขายกเลิกบัตรเครดิตนะคะ แล้วถือเงินสด หว่านล้อมให้เขาลดการใช้ชีวิตตามเทรนด์ลงด้วย ไม่งั้นวันข้างหน้าอาจจะมีหนี้ก้อนใหม่มาให้กลุ้มอีก จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 17:50:13

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณทุกคน ทุกความเห็นจริงๆ ค่ะ จากคุณ : แม่น้องเน่-ตี้ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 54 21:27:30

ความคิดเห็นที่ 40 ผมแค่จะบอกว่า ที่คุณเครียดนะ แฟนคุณเครียดกว่าคุณอีก เพราะเค้าเป็นเจ้าของบัตร เค้าจะเป็นคนถูกตามทวงหนี้โดยที่ความทุกข์ของคุณนะเล็กน้อยมากเมื่อเที่ยบกับเค้า แนะนำ ให้กำลังใจเค้าเยอะๆ ครับ   ผมเคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน แฟนเอาบัตรเครดิตผมไปรูดเพื่อช่วยทางบ้านเค้าจ่ายค่าที่นา (ผมเองก็ไม่รู้เรื่องเพราะ Slip แฟนเอาไปซ่อนไว้ตลอด รู้อีกทีก็ตอนแบ็งค์โทรมานะแหละว่าไม่ได้จ่าย สีเดือน  ตอนนั้นเครียดมาก จะเลิกกับแฟนหลายครั้ง แฟนก็ได้แต่บอกว่าขอโทษ แล้วก็ไม่ได้ช่วยจ่ายหนี้เลย  ผมต้องเป็นคนจ่ายหนี้เองทั้งหมด ซึงก็ยอมรับครับว่าเหนื่อยแล้วก็ท้อมาก เคยคิดฆ่าตัวตายด้วซ้ำไป แต่หลังจากที่ได้คุยกับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาคล้ายๆ กัน ก็มีกำลังใจขึ้น มีแค่ไหนก็จ่ายแค่นั้น  ดีกว่าไม่จ่ายเลย สุดท้ายทางแบ็งคก็ให้ประนอมหนี้ ก็เลยค่อยๆ ทยอยจ่าย ถึงวันนี้ก็ยังไม่หมด ผมก็ยังก้มหน้าก้มตาจ่ายต่อไป ตอนนี้ ก็ปิดไปสองใบแหละ เหลือ อีกสองใบก็เป็นไทแล้วครับ  สู้ๆ จากคุณ : saraga (saraga) เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 15:04:24

ความคิดเห็นที่ 41 รายได้เยอะนะเนี่ย หนี้หมดแล้วอย่าลืมให้ผมยืมบ้างนะอิๆ จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 02:43:19