Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชูวิทย์ชี้ปัญหาในน้ำท่วมครั้งนี้ ติดต่อทีมงาน

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่พรรครักประเทศไทย สุขุมวิท 10 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ประธานสภาฯ สั่งงดการประชุมสภาฯ ตนได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัด อาทิ นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี ส่วน จ.สิงห์บุรี เข้าไปไม่ได้เพราะน้ำท่วมสูง ไม่มีเรือเข้า พบว่า ที่ จ.สุพรรณบุรี น้ำท่วมน้อยที่สุด สภาพน้ำเป็นปกติทุกอย่าง คือ ท่วมแค่บางอำเภอที่เป็นรอยต่อกับจังหวัดอื่นๆ ซึ่งประชาชนต่างมองได้สองมุม มุมหนึ่งผู้คนชื่นชมว่าคนที่ดูแล จ.สุพรรณบุรี ดูแลการจัดการบริหารน้ำได้เป็นอย่างดี อีกมุมหนึ่งเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนจังหวัดข้างเคียงที่ต่างก็ฝากค่อนขอด สะท้อนมาว่า คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับจังหวัดข้างๆ น้ำท่วมเหมือนกัน แต่เดือดร้อนไม่เท่ากัน ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมถูกโยงไปกับการเมืองเรียบร้อยแล้วในสายตาชาวบ้าน เพราะแค่ จ.สุพรรณฯ และ จ.ชัยนาท ที่ติดต่อกัน สุพรรณฯ ไม่ท่วม แต่ข้ามไปเขตชัยนาทไม่ถึงกิโลท่วมทันที ระดับน้ำเป็นเมตร ทางขาด ที่ชัยนาทตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 1 เดือน ยังไม่มีการซ่อมแซมปรับปรุงทั้งที่เป็นถนนสายหลัก
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ปัญหาสำคัญที่พบเจอหลังนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายในจังหวัดภาคกลาง พบว่า จังหวัดต่างๆ ไม่มีการบริหารจัดการที่ดีพอ ให้ชาวบ้าน หรือผู้นำชุมชนจัดการกันเอง ในลักษณะต่างคนต่างเอาตัวรอด คนที่ช่วยเหลือตัวเองได้ก็หนีมาอยู่ริมถนน คนใจบุญเอาของไปแจกก็ได้แต่ในเขตเมืองและคนที่อยู่ริมถนน แต่คนที่อยู่รอบนอกถูกตัดขาด ไม่มีเรือออกไปยังมีตกค้างอีกเป็นจำนวนเรือนหมื่นเรือนพัน

ที่สำคัญเหล่าอาสาสมัคร องค์กรการกุศลต่างๆ ที่เสียสละด้วยจิตอาสาไปช่วยเหลือพี่น้องประสบภัยที่ เดือดร้อน ก็ไม่มีหน่วยงานราชการในจังหวัดในอำเภอนั้นๆ มาดูแล ต้องอาศัยกินอยู่หลับนอนริมถนนเหมือนชาวบ้าน แทนที่จะมีการตั้งศูนย์ประสานงานของทางราชการประจำอำเภอ ตำบล เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางบริหารงาน และแบ่งพื้นที่ดูแลของเหล่าอาสาสมัคร แต่กลับปล่อยให้อยู่ด้วยตัวเอง ทุกอย่างจึงเละตุ้มเป๊ะ ต่างคนต่างทำ สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ การทำงานเอาหน้าผ่านสื่อ ไล่ไปตั้งแต่นักการเมือง ดารา จนถึงบริษัทเอกชน นักการเมืองเอาคนที่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์มาทำงานมารับผิดชอบหน้าที่ ดาราขอให้แค่ได้ไปโผล่หน้าจอเพื่อเป็นข่าว ขณะที่บริษัทเอกชนต่างๆ ขึ้นป้ายแบรนด์เนอร์ตามเสาไฟฟ้าจังหวัดต่างๆ ว่า ไปบริจาคที่นั่นที่นี่ ทุกอย่างล้วนเป็นการฉวยโอกาสทำงานเอาหน้าทั้งสิ้น ซึ่งน่าสงสารประเทศไทย

ที่แย่ที่สุดคือ การบริหารงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่วันนี้พี่น้องประชาชนไม่ให้ความเชื่อถือ เพราะบอกว่าน้ำไม่ท่วม แต่ก็ท่วมทุกที่ ข่าวสารที่ออกมาของทางการ ประชาชนไม่เชื่อถือเลย ต้องบอกดังๆ ว่า น้ำไม่ใช่ควัน ไม่ใช่ก๊าซที่จะสลายไปในอากาศ แต่กลับไม่มีการแจ้งเตือน เช่น ที่ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งหากจัดการบริหารน้ำอย่างจริงจัง จะสามารถป้องกันความเสียหายได้มากกว่านี้ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความล้มเหลวในการบริหารจัดการของศูนย์ดังกล่าว คือ การปล่อยให้น้ำไหลลงคลองประปา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ไว้ใช้อุปโภคบริโภคใน กทม.และปริมณฑล และการจอดรถตามสะพานข้ามแยกและทางด่วนต่างๆ ก็สะท้อนความล้มเหลวในการจัดการบริหารของรัฐที่รับแผนงานมาปฏิบัติ ตนไปที่ไหนก็มีคนถามว่า กรุงเทพฯ ท่วมหรือไม่ แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าท่วมแน่ๆ วันนี้ชาวบ้านว้าเหว่ไร้ที่พึ่ง สังคมจึงอยู่กันเอาแบบตัวรอด เพราะรัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหา ทั้งแผนเผชิญเหตุ แผนรับรอง แผนอพยพ แผนช่วยเหลือเอาคนออกนอกพื้นที่ หรือแผนดูแลรักษาความปลอดภัย ที่จะให้ความมั่นใจต่อชาวบ้านในการถอนตัวออกจากบ้านเรือน”

นายชูวิทย์ ยกตัวอย่างต่อถึงกรณี กทม.วันนี้ มีการเล่นการเมืองผ่านสื่อ โดยเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำเข้ามานั่งประชุม และออกภาพผ่านสื่อเพียงแค่หวังผลในคะแนนนิยมจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จึงอยากเตือนว่า นักการเมืองที่ดีต้องอย่าเอาชาวบ้านเป็นตัวประกันเพื่อเล่นการเมือง เอาคนไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีประสบการณ์มาทำงานผ่านสื่อเพื่อสร้างภาพ สร้างฐานเสียงทางการเมืองให้ตัวเอง จนมีคำพูดสะท้อนผ่านสื่อในโซเชียลมีเดียว่า เอาปัญญาชนมากรอกถุงทราย เอาปัญญาควายมาบริหารจัดการ สั่งการแต่ละอย่างเหมือนสั่งน้ำมูก แผนเยียวยาต่างๆ ไม่มี มีแต่แผนตั้งรับ วันๆ จะเห็นแต่ภาพการดูงาน ดูเขื่อน ดูประตูระบายน้ำ นั่งดูแผนที่ ก็ไม่รู้ว่าจะดูไปทำไม ดูแล้วน้ำมันจะลดลงหรือ จนเห็นภาพชาวบ้านลอยคอ เกาะกะละมัง แบกกระเป๋าหนีน้ำเน่าจนชินตา แรกๆ ตนไม่อยากพูดมาก เพราะเห็นว่าเป็นเหตุวิกฤติ แต่นี่ผ่านมา 2 เดือนแล้ว รัฐบาลควรจะมีแผนจัดการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมได้มากกว่านี้ แต่นี่กลับปล่อยให้ต่างคนต่างพูด แม้ ศปภ.เองคนทั้งประเทศยังไม่เชื่อถือ บอกว่าไม่ท่วม แต่ก็ท่วมจนชาวบ้านเอือมระอา กรณีบางบัวทองและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ถือว่าชัดเจนที่สุด หากบอกว่าป้องกันไม่ได้ก็ควรจะพูดความจริง และแจ้งเตือนเพื่อให้ประชานและผู้คนได้รู้ตัว ไม่ใช่ปล่อยให้หนีตายเอาตัวรอดแบบตัวใครตัวมัน



นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึง ผบ.ตร.ด้วยว่า ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.คนใหม่ ว่า เวลานี้อย่ามัวแต่ไปจัดโผเอาเด็กของตัวเองไปล้างบางขั้วอำนาจเก่า แต่เป็นเวลาที่ต้องจัดแผนเชิงรุก โดยสั่งการตั้งชุดเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน จัดเรือตรวจการณ์ของตำรวจอออกไปตรวจตราป้องกันการขโมยทรัพย์สิน ดูแลทรัพย์สินของประชาชนเพื่อให้เขามีความเชื่อมั่น เขาจะได้อพยพออกมาในที่ปลอดภัย และจะได้ลดอัตราการสูญเสียของพี่น้องคนไทยได้อีก ถึงวันนี้ตนลงไปดูพื้นที่ในหลายจังหวัดสรุปได้ว้า ทุกอย่างยังเละ ขาดการประสานงาน ถุงยังชีพไปกองที่ อบต. ไม่ถึงมือชาวบ้าน ผู้นำแจกจ่ายแต่พวกตัวเอง หากไม่เร่งดำเนินการที่สุดปัญหาอาชญากรรมและปัญหาสังคม ความไม่พอใจในรัฐบาลจะตามมาเป็นเงาตามตัวหลังน้ำลดแน่นอน

เครดิต ข่าวจากไทยรัฐครับ ทีนี้จะหาว่าไม่เป็นกลางไม่ได้นะครับ

ปล.  อันนี้จากผมเอง  ผมเห็นด้วยโดยเฉพาะตำรวจต้องลงมาดูเรื่องบ้านคนอพยพครับ พวกชั่วๆคอยลักของบ้านที่โดนน้ำท่วมมันมีมากครับ ญาติผมคนหนึ่งไม่ยอมออกมาเพราะแบบนี้
ปล.2
ถ้าใครหาว่าเฮียชู พูดลอยๆแล้วล่ะก็
ขอแนะนำคลิปนี้นะครับ  อันนี้ไม่ได้ออกสื่อ
ว่าแกไปจริงรึเปล่าหรือว่าฟังเขาเล่ามา  ยอมรับเหอะว่าเรื่องมันจริง ใครไปช่วยก็น่าจะรู้  ยกเว้นพวกอยู่บ้าน เผ้าจอคอม หรือพวกที่ไม่เดือดร้อน  ปกป้องได้ครับแต่ต้องดูถูกผิดด้วย

จากคุณ : sillfai
เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 00:16:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com