Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ดร. อานนท์ ทีมงาน ศปภ. อธิบายทำไมน้ำฝั่งตะวันตกมากกว่าฝั่งตะวันออก ติดต่อทีมงาน

กลายเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบันสรรพกำลังทุกภาคส่วน ลงไปจัดการแก้ไขปัญหามวลน้ำก้อนมหึมา ทางฝั่งตะวันออกมากกว่าฝั่งตะวันตก ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า บริษัท ร้านชื่อดังมากมาย ทำให้ทั้งนักวิชาการและสื่อมวลชน กระทั่ง หน่วยงานใหญ่อย่าง ศปภ. ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วมวลน้ำที่กำลังเคลื่อนทัพมาฝั่งตะวันตก มากกว่าฝั่งตะวันออกถึง 2 เท่าตัว...

เรื่องนี้ ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญภัยพิบัติมหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อม นานาชาติสิรินธร ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ก็สงสัยตามข้อสังเกตนี้เช่นกัน

“ผมเป็นห่วงเรื่องการให้ความสำคัญฝั่งตะวันตกมาก ซึ่งก็พยายามชี้ให้รัฐบาลทราบหลายครั้งว่า ตอนนี้ฝั่งตะวันออกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก เพราะว่าการระบายน้ำ มันเข้าระบบดีอยู่แล้ว ให้หันมาสนใจการระบายน้ำในฝั่งตะวันตกให้มากๆ เพราะว่าแทบจะมันไม่มีคลองระบายน้ำเลย ที่สำคัญมันยังมีคลองขวาง ขวางอย่างเดียว ฉะนั้นขณะนี้มันจะรับ-ส่งก้อนน้ำมหึมาเป็นทอดๆ ท่วมไล่เป็นบล็อคๆ แต่ละพื้นที่จะหนักหนามากกว่าฝั่งตะวันตกมาก เพราะไม่รู้จะระบายน้ำไปไหน จะเอาไปท่าจีนน้ำก็สูง ส่งไปเจ้าพระยาก็สูงอีก แถมขณะนี้คันกั้นน้ำก็แตกหนัก เรื่องนี้รัฐบาลต้องตระหนักให้มากๆ”

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำแห่ง ม.รังสิต สะท้อนสถานการณ์น้ำเคลื่อนตัวมาถล่มฝั่งตะวันตกว่า ขณะนี้น้ำท่วมเกือบเต็มพื้นที่ กทม.แล้ว ซึ่งคาดว่าจะค่อยท่วมไม่ตูมตาม เต็ม 100% บริเวณคลองมหาสวัสดิ์ (ตั้งอยู่ใน ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และเขตอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม) ก็ 100% แล้วลงมาที่กรุงเทพฯ ไล่ท่วมเข้าเขตตลิ่งชั่น เขตทวีวัฒนา ลงมาเรื่อยๆ ถึงเขตบางแค เขตภาษีเจริญ วิ่งเข้าเขตหนองแขม ซึ่งเขตนี้จะโดนแค่บางส่วนแต่ไม่เยอะมาก โดยน้ำสูงสุดประมาณ 1 เมตร (ใช้ความสูงของพื้นถนนเส้นหลักเป็นเกณฑ์วัด

“จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่เขาเรียกกัน ไม่มีทัพหน้า ทัพหลวงหรอก ซึ่งตอนนี้น้ำไปกองที่ จ.อยุทธยา ตั้งกี่พันล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะวิ่งเข้ามาที่ฝั่งตะวันตกวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร วิ่งไปทางฝั่งตะวันออก 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งฝั่งตะวันตกวิกฤติกว่าครึ่งๆ จึงเหลือทางเดียวคือ 1. คุณต้องลดการระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน เจ้าพระยาลดได้แล้ว ตอนนี้ยังปล่อยมามหาศาลทางล่างก็อ่วม อีกอย่างหนึ่งน้ำเหนือมันลดแล้ว จ.นครสวรรค์เบาแล้ว จ.อุทัยธานีเบาแล้ว คุณไม่จำเป็น จ.สิงห์บุรีเบาแล้ว 2. เครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ริมท่าจีน ได้ทำงานกันอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้วหรือเปล่า จะได้ช่วยลดมวลน้ำที่เข้ามาในคลองมหาสวัสดิ์ 2 ตัวนี้คือวิธีแก้ไขอย่างเร่งด่วนสำคัญ กว่าการแก้ไขทางฝั่งตะวันออกและต้องทำทันที” นักวิชาการเรื่องน้ำที่ได้รับการเชื่อถือกล่าว

ขณะเดียวกัน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นักวิชาการเรื่องโลกร้อนชื่อดัง ทั้งยังเป็นนักวิชาการที่อยู่ในทีมงานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม หรือ ศปภ. กล่าวถึงประเด็นนี้ผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ไม่ใช่ ศปภ.ให้ความสำคัญน้อยกว่า แต่เนื่องจากรูปแบบ ศักยภาพฝั่งตะวันตกใช้แก้มลิง ฝั่งตะวันออกใช้ระบบคันกั้นน้ำ แบบป้องกัน 100% การแก้ไขจึงต่างออกไป โดยขณะนี้ได้มีการประชุมคณะการทำงานใหม่ ที่ไม่ใช่ของหน่วยใดหน่วยหนึ่ง โดยมีรองผู้ว่าฯ กทม. อธิบดีกรมชลประทาน ปลัดกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และผู้ที่มีความชำนาญเรื่องน้ำในพื้นที่มาย่นระยะทางจ่ายงานและสั่งงานแก้ไขให้ตรงและเกิดความรวดเร็ว

“จริงๆ แล้วก้อนน้ำทางฝั่งตะวันตก เป็นน้ำหลากมาทางจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเราเห็นนานแล้ว และใช้วิธีการแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซน เพราะว่าน้ำมันแบ่งเป็น 4 บล็อกใหญ่ๆ ในบางยี่หน จ.สุพรรณบุรี น้ำต้นทางเราพยายามชะลอน้ำให้ได้มากที่สุด ถัดลงมาตรงพื้นที่บริเวณทุ่งพระยาบันลือ ซึ่งมีส่วนของคลองด้วย ก็พยายามเร่งผันข้าม แล้วเอาออกมาลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งน้ำทางนี้มันมาเป็นหน้ากระดาน จึงต้องพยายามเอาน้ำตัดลงลำน้ำ ลงแม่น้ำท่าจีนให้มากที่สุด แม่น้ำเจ้าพระยา คลองพระพิมล ยาวมาถึงคลองมหาสวัสดิ์ ก็ใช้หลักการเดียวกัน โดยเขตบางยี่หน พระยาบันลือ ลงมาพระพิมล มีกรมชลประทานดูแลแล้ว ก็ใช้ระบบประตูน้ำ ช่วงไหนน้ำลงก็เปิดประตูน้ำ ซึ่งหลักการเปิด-ปิดต้องสัมพันธ์กับระดับน้ำขึ้น-ลงอย่างเต็มที่ ให้มันเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนทาง กทม. รับหน้าที่ดูแลตั้งแต่คลองมหาสวัสดิ์ลงมา ใช้ระบบของคลอง เช่น คลองภาษีเจริญ คลองมหาชัย คลองทวีวัฒนา ระบายน้ำลงไปยังแก้มลิง คลองมหาชัย คลองสนามชัยอีกทางหนึ่งด้วย แต่ปัญหาตอนนี้ มันมีจุดพนังกั้นน้ำตามแนวชายฝั่งเสียหายไปหลายจุด เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน อย่างไรก็ดี ได้สั่งการลงไปให้กรมชลประทาน ให้ใช้เครื่องมือ ใช้แรงงาน ใช้วัสดุจัดการซ่อมแซม แต่ก็มีปัญหาอีกคือตอนนี้ “เหล็กชิบพาย” ยังมาขาดตลาดอีก จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ไปนำมาเหล็กชิบพายมาจากบริษัทนอกพื้นที่ที่ไม่ประสบภัย แล้วส่งมอบให้กรมชลประทานไปจัดการ โดยเร็วที่สุดไม่เกิน 5 วัน จะซ่อมพนังที่เสียหายเสร็จ

มื่อถามถึงจำนวนน้ำทางฝั่งตะตก มากกว่าน้ำทางฝั่งตะวันออกถึง 1 เท่าตัว...?  ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำผู้นี้บอกว่า จากการคำนวณของตน เชื่อว่าทั้ง 2 ฝั่ง ใกล้เคียงกัน อย่างก็ตาม ด้วยศักยภาพ สูบน้ำรวมกัน แก้มลิงด้วยก็ที่กว่า 10 ลูกบาศก์เมตร แล้วค้างอยู่ในพื้นที่ฝั่งธนฯ ราว 10 ล้านโดยอัตราความสูงจะเพิ่มขึ้น 3-5 เซนติเมตรต่อวัน ขณะที่ฝั่งตะวันออกเข้ากับออกยังน้ำยังสมดุลย์ หมายถึงน้ำออกมากว่าเข้า อย่างน้ำที่ซึมเข้ามา 20-30 ล้านลูกบาศก์เมตรก็ไม่มีปัญหา เนื่อง

จากกทม.จัดการได้สบาย เอาแค่คลองหลักสี่ และคลองบางเขนก็เอาอยู่ เพราะระบายได้ถึง 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันซึ่งภาพรวมแล้ว อาทิตย์หน้าน่าจะคลี่คลายอย่างช้าๆ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คืออาทิตย์นี้มันจะมีทั้งน้ำทะเล น้ำเหนือ ทั้งน้ำท่วมและน้ำไหลหลาก แต่ถ้ารอไปจนถึงอาทิตย์ก่อนวันลอยกระทง (วันลอยกระทงวันที่ 10 พ.ย.) ให้น้ำลดแล้วเอาน้ำออกไปได้ประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเราจะสบายโปร่งกว่านี้

"ตอนนี้ฝั่งธนฯ ท่วมเกือบ 100% หมดทุกที สูงต่ำไม่เท่ากัน ดังนั้นอยากให้เอาเกณฑ์ของถนนเป็นหนัก แต่คาดว่าไม่น่าเกิน 1 เมตรจากถนน อย่าง หนองแขมพื้นที่มันสูงกว่าที่อื่นๆ แถมลาดลงแม่น้ำท่าจีน ลงมาภาษีเจริญ ซึ่งบางแค ภาษีเจริญ และพวกที่อยู่ใกล้แม่น้ำใกล้คลองจะโดนเยอะ ผมมองว่าเขตหนองแขมจะโดนท่วมน้อยกว่าเขตอื่นอย่างที่บอกมันสันอยู่ตรงกลางสูงขึ้นมาแล้วมันเทลงแม่น้ำท่าจีน ผิดกับฝั่งบางพลัดนี้มันก็ลงแม่น้ำเจ้าพระยาโดนมากกว่า"

เมื่อถามย้ำถึงแนวทางของศปภ. กทม และนักการเมืองที่คนภายนองมองว่าขัดแย้งและแก้ไขวิกฤตการไม่เป็นแนวทางเดียวนั้น ด.ร.อานนท์บอกว่า เท่าที่ประชุมในทางลึกพอสมควรแตกต่างจากที่สื่อนำเสนอว่าน้ำท่วมมีความขัดแย้งของพื้นที่รับผิดชอบของนักการเมือง

“บางคนที่สื่อบอกว่าทะเลาะกัน ตอนประชุมเขายังเสนอให้เอาน้ำผันไปในพื้นที่ของเขาเองเลย จะเรียกว่าขัดแย้งได้ไหม จริงๆ มันเป็นเรื่องของการทำงานการปฏิบัติติดขัด ขาดการประสานงานมากกว่า พอสั่งการไป บางทีรู้แค่ 2 คน ระบบการสั่งการลงไปตามสั่งที่หัวก็แจ้งต่อไป แต่จริงๆ มันต้องให้คนรู้เยอะแล้วให้ทุกคนไปคิดปลายทางแก้ไขตามสถานการณ์ ไม่ใช่ว่าประตูเปิดน้ำ 30 ซ.ม. แล้วเปิดแค่นั้นทั้งที่มันวิกฤต ดังนั้นก็กำชัดกันว่าสิ่งที่สั่งการลงไปนั้นต้องเอาไปปรับใช้ตามสถานการณ์ด้วยเพราะ มันเปลี่ยนแบบวันต่อวัน แต่คิดว่าอาทิตย์ก่อนวันลอยกระทงสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างแน่นอน” นักวิชาการผู้ที่ได้รับความเชื่อถืออีกคนกล่าวในที่สุด


http://www.thairath.co.th/content/life/212866


ฟังความกันทุกฝ่าย

จากคุณ : หมาป่าดำ
เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:18:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com