PANTIP.COM : U11389659 ถ้าไม่เคยมีศาสนาพุทธในโลกคุณจะนับถือศาสนาอะไร [สังคม]

ความคิดเห็นที่ 1

พราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาที่ใกล้เคียงศาสนาพุทธที่สุด คือ มีการนั่งสมาธิจับลมหายใจเข้า หายใจออก แล้วก็มีการศึกษาเรื่อง กฎแห่งกรรม

แต่ที่ต่างจากพุทธหลักๆ คือ พราหมณ์-ฮินดู เขาเชื่อเรื่องพระเจ้า แล้วก็ ไม่ได้สอนให้ ละกิเลสทั้งหลาย ไม่ได้สอนให้ละความอยาก ความโลภ โกรธ หลง

---

เมื่อก่อน ก่อนที่เราจะมานับถือพุทธ เราว่าเรานับถือวิทยาศาสตร์นะ >< (ไม่ได้นับถือพวกศาสนาเลย) พุทธนี่ก็ นับถือตามบัตรประชาชน เรื่องผีสางเทวดา ก็ไม่เคยเชื่อเลย ไม่เคยเห็นเลย

จนเราได้มีโอกาส (แบบบังเอิญมากๆอ่ะ >< เรื่องมันยาว) ได้มีโอกาสนั่งสมาธิ ตอนแรกก็ไม่ได้นั่งเพราะพุทธนะ นั่งเฉยๆ มันมีคนมาชวนทำ

พอเรานั่งสมาธิแล้ว จากที่เราไม่เคยเชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณเลย เราก็ได้เห็น เราเห็นวิญญาณคนอื่น และเห็นของตัวเอง เราได้เห็นการทำงานของจิต

แล้วตั้งแต่นั้น จากที่เราชอบไปเข้าเวบ NASA เพื่ออ่านบทความวิทยาศาสต์ เราก็ไม่ค่อยเข้าแระ >< เราหันมานั่งสมาธิ และตั้งใจศึกษาโลกวิญญาณแบบจริงจัง (สำหรับคนที่เชื่อแต่วิทยาศาสตร์มาโดยตลอดอ่ะ ไม่เคยเชื่อเรื่องผีอ่ะ พอได้เจออะไรแบบนี้ มันอึ้งมากๆเลยนะ เรารู้สึกว่า สำหรับเรา มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะเมื่อก่อนเราไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางนางไม้เลย)

ตอนหลัง เราไปได้ไกลแค่ เรารู้แหละ ว่าร่างกายเรานี้ คืออะไร เราเป็นมนุษย์ มันคืออะไร โลกผีโลกวิญญาณ มันคืออะไร .. ขอรวบรัดไปเลยนะ มันยาว เราก็พอจะรู้แล้วว่า โลกนี้ จักรวาลนี้ มีจิตวิญญาณ จริงๆ!!

แต่... เราก็สงสัยไปต่อว่า แล้ว "พระเจ้า" ล่ะ มีจริงไหม ?? ในเมื่อ จิตวิญญาณมันมีจริง และจิตเราก็แยกจากกายเนื้อเราได้ด้วย.. ดังนั้น พระเจ้า ก็น่าจะมีจริง

แต่ด้วยปัญญาของเราที่มีเพียงน้อยนิด เราไม่สามารถพิสูจน์ได้หรอก ว่าพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า เราจึงเข้าไปอ่าน ตำราต่างๆของศาสนาต่างๆ เราก็เริ่มจาก คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และ "โยคะ" ตอนนั้น เราชอบ "โยคะ" ที่สุด เพราะโยคะศาสตร์ เชื่อในพระเจ้า และโยคะศาสตร์ก็รู้ว่า มีกฎแห่งกรรม และการเวียนว่ายตายเกิด เราก็เลยศึกษาโยคะศาสตร์ (เราไม่แน่ใจว่า โยคะ เป็นศาสนาหรือเปล่า)

แต่... พอศึกษาไปมา ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า มันไม่มีข้อพิสูจน์ มีแต่เป็นเรื่องเล่า แล้วก็ให้เรา เชื่อ!!

สุดท้าย เราก็กลับมาศึกษาด้วยตัวเอง เรื่อง พระเจ้า เรานั่งสมาธิบ่อยมาก เรานั่งสมาธิทุกวัน จนเราไม่หลับ (เคยได้ยินคำว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยหลับไหม ??? เพราะพระองค์ มีสติตลอดเวลา การหลับ คือการที่สติเรามันเลือนๆแล้วไปสร้างโลกความฝันแบบไม่ค่อยมีสติ ถ้าคนมีสติอยู่ตลอดเวลา จะไม่หลับ)

เราก็ไม่หลับ หรือบางทีเราก็หลับ แต่เราสามารถรู้ตัวในความฝัน เราเคยเห็นกายทิพย์ตัวเอง และเราเคยติดต่อกับคนอีกโลกหนึ่ง(เวลาเราตั้งคำถามอะไรไว้อ่ะ มันจะมีคนมาตอบเราในความฝัน) แล้วเราก็สามารถจับสภาวะตอนที่ร่างกายกำลังจะหลับได้ด้วย แล้วเราก็รู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนที่จะหลับ แล้วเราจึงได้เข้าใจว่า ทำไมพระพุทธเจ้า ไม่ฝัน...

นี่ยกตัวอย่าง และเราก็เริ่มมารู้ว่า เนี่ย.. ยิ่งเรามีสติมาก จินตนาการมันก็ยิ่งน้อย และเราก็จะมองเห็นความจริงมาก สิ่งต่างๆที่เราเข้าใจ ไม่เข้าใจ จริงๆมันขึ้นอยู่กับ "สติ" ว่ามีมากน้อยแค่ไหน

มีอีกหลายๆเรื่องนะ เราศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่ 4 ปีเต็มๆ และทุกๆครั้งที่เราหาคำตอบอะไรสักอย่าง เราจะได้คำตอบที่ มันไปตรงกับคำสอนในพระพุทธศาสนา ทุกครั้งเลย!! (แบบไม่ได้ตั้งใจเลยนะ)

มันแปลกมากๆ ถ้าเราต้องการค้นหาความจริงของชีวิต ค้นหาความจริงของสรรพสิ่ง ของจักรวาล เราหามันไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้ที่เรามีด้านวิทยาศาสตร์ และด้านจิตวิญญาณ(ที่เราศึกษาด้วยตัวเราเอง) โดยไม่ได้เลือกว่า จะเชื่อใคร จะเชื่อศาสนาไหน เราไม่เชื่อสักกะศาสนา แต่เราเลือกศึกษาด้วยตัวของเราเอง

จนตอนนี้.. เราได้คำตอบหลายๆเรื่อง ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้ววันหนึ่ง เราก็ "หมดความสงสัยในธรรมะของพระองค์"

ทุกๆคำสอนของพระองค์ เป็นความจริง!! พระพุทธเจ้า ท่านสั่งสมบารมีมาหลายชาติ จนชาติที่ท่านเป็นพระพุทธเจ้า ท่านไปนั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์

บุคคลธรรมดาที่นั่งสมาธิบ่อยๆ ทุกๆวัน หลายๆปีติดกันก็สามารถระลึกอดีตชาติย้อนหลังไป 2-3 ชาติได้ แต่พระพุทธเจ้า นั่งสมาธิ ทุกวัน!! และพระองค์ เป็นบุคคลที่มี "สติ" ตลอดเวลา บวกกับความมุ่งมั่น บวกกับปัญญาบารมีที่สั่งสมมาหลายๆชาติภพ แล้วพระองค์ ก็มองเห็น "ความจริง" ที่พวกเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วย ตาเนื้อ หรือแม้แต่ตาทิพย์ของเรา เราก็มองไม่เห็นความจริง แต่พระพุทธเจ้าท่านมองเห็น พระองค์ไม่ฝัน เพราะพระองค์มีสติอยู่ตลอดเวลา แล้วพระองค์ก็ค้นพบสัจจะธรรมด้วยปัญญา (เราเคยตั้งคำถามไว้นะว่า ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า มันจะมีใครที่ สามารถนั่งหลับตาแล้วรู้ว่า ทุกข์ทั้งหลาย เกิดจากความอยาก ความยึดมั่นถือมั่น และความรัก โลภ โกรธ หลง ไหม ???)

เราเป็นคนที่ อยากรู้อะไร ก็ต้องรู้ให้ได้ เมื่อก่อนเราบ้าวิชา ดาราศาสตร์มากนะ พวก อวกาศ จักรวาล เราหลงไหลในความลึกลับของมันมาก

แต่มาวันนี้ เราก็ได้รู้แล้วแหละว่า จักรวาลนี้ คืออะไร และเราก็ หมดข้อสงสัย ในธรรมะของพระพุทธเจ้า แล้ว

ธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นของจริง และช่วยให้คนที่กำลังมีทุกข์ พ้นทุกข์ได้ ไม่ว่าทุกข์นั้นจะเป็นลักษณะไหน แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้า จะช่วยให้คนนั้นพ้นทุกข์ได้ ไม่ยึดติด และตาสว่างมองเห็นความจริงได้ ^^

--------

อ่อ.. ลืมตอบคำถาม..

ถ้าไม่มีพระพุทธศาสนา .. เราคิดว่า เราดูจากประวัติชีวิตตัวเองแล้ว เราคงไม่นับถือศาสนาอะไรเลย เพราะก่อนที่เราจะมานับถือพุทธแบบหมดข้อสงสัยในธรรมะนั้น เราก็.. ศึกษาหาความจริงด้วยตัวเอง และศาสนาอื่นๆ ตอบโจทย์ของเราไม่ได้ ตอบคำถามที่เราสงสัยไม่ได้ แต่ศาสนาพุทธ ตอบได้

และอันที่จริง ศาสนาพุทธ ไม่ควรถูกเรียกว่า ศาสนา ด้วยซ้ำ เพราะศาสนาพุทธ ไม่ใช่ความเชื่อ ศาสนาพุทธ สอนให้เรา ปฏิบัติ สอนความจริง สอนความเป็นจริงของธรรมชาติ ของสรรพสิ่ง และเราสามารถพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ เราไม่ต้องเชื่อ แต่เราพิสูจน์ได้ และเห็นได้ด้วยตัวเราเอง แล้วจะรู้ว่า หลายๆอย่างมันเป็นเหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้จริงๆ ^^
แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 54 09:08:58

จากคุณ : mooesha

เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 08:58:46