ความคิดเห็นที่ 1 พวกเราบากหน้าไปขอเงินพ่อ ต้องขับมอเตอร์ไซด์ กว่า 50กิโล เข้าไปในป่าเขา เพื่อขอเงินพ่อมาเรียนหนังสือต่อ พ่อจะให้มาเงินพอกินต่อสัปดาห์ มื้อละ 10 บาท และต้องขับไปหาพ่อทุกสัปดาห์ พ่อมักพูดเสมอว่า มันเป็นกรรม!! ที่พ่อต้องชดใช้เราในชาตินี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อ-ลูก ระหว่างที่พวกเราไปขอเงิน นั้นช่างว่างเปล่า เพราะพ่อเป็นคนเงียบ ดุมาก ไม่ยิ้ม เข้าถึงยาก เหมือนคนอาศัยในบ้านเดียวกัน เรามารับตังค์แล้วก็กลับ ต่อมา ทุกคนเรียนจบและมีงานทำ มีแต่เราที่ยังต้องเดินทางไปขอเงิน ช่วง ม.6 พ่อย้ายไปอีกจังหวัด ห่างไปกว่า 200 กิโล ทำให้เราต้องนั่งรถประจำทางไปหาทุกอาทิตย์ ปกติพ่อจะมีเมียอยู่ด้วยตลอดเวลา แต่ช่วงนั้น พ่อน่าจะอายุประมาณ 55 พ่อไม่มีใคร บ้านพ่อมีแต่พ่อกับเรา บ้านพ่อมีห้องนอนเดียว เราจึงนอนเตียงเดียวกับพ่อ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 18 พ่อเพิ่งกอดเราเป็นครั้งแรก เราคิดว่า พ่อคงคิดได้ เหงา ไม่มีใคร พ่อคงรักเรา แต่มันไม่ใช่! จากคุณ : หาหนทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 12:44:40 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 2 พ่อเริ่มลวนลามเรา ถอดเสื้อ จับหน้าอก พยายามบังคับให้เรา เอามือไปจับตรงนั้นของพ่อ พ่อบอกว่า มันไม่แข็งแล้ว เลยไม่มีใครสนใจพ่อ แต่เราไม่ยอม เราทำไม่ได้ ความรุ้สึกมันบอกไม่ถูก มืดมน ขยะแขยง ไม่รู้จะทำยังไง เรายังไปเดินทางไปขอเงินพ่ออยู่ แต่พยายามเลี่ยงและขัดขึนทุกครั้ง พ่อไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทานมังสวิรัติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เขียนหนังสือธรรมะเป็นเล่มๆ แจกจ่ายให้เพื่อนๆ แม้แต่ตอนตาย ยังบริจาคศพให้โรงพยาบาล แต่ทำไม พ่อทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิฐิแรง ถ้าลูกไม่ไปหาก็อย่าหวังว่าพ่อจะมาช่วยเหลือ งานศพแม่เรา พ่อก็ไม่คิดจะมาร่วมงานให้เสียเวลา แล้วทำไมพ่อลวนลามเรา? ใจพ่อทำด้วยอะไร คืนสุดท้ายที่คุยกับพ่อ ปกติเราคุยกันไม่กี่คำอยู่แล้ว แต่นี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราติดต่อกัน คืนนั้น พ่อพยายามจะลวนลามเราอีก พ่อบังคับใจเรามาก จนเราทนไม่ไหว เราขัดขืนพ่อ พ่อโกรธมาก ปิดประตูเสียงดัง เดินออกไปนอนที่อื่น ตอนนั้น ใจเราหมดแล้วจริงๆ สำหรับคนๆนี้ คนที่เราพยายามยึดเหนียวแทนแม่เราที่จากไป จบแล้ว สำหรับ คำว่า พ่อกับลูก จากคุณ : หาหนทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 12:47:16 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 3 เราเดินตัวเปล่าออกจากบ้านพ่อตอนตีสาม ไม่ได้เอากระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระใดๆออกมาด้วย เราเดินผ่านป่าสนที่หนาวเหน็บ เดินตามทางถนนลูกรัง เผื่อออกไปถนนใหญ่ มีแต่แสงจันทร์ และหลักกิโล บอกทางกลับบ้านเราอีกจังหวัดหนึ่ง ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียว คือเดินกลับบ้าน เดินไปเรื่อยๆ ผ่านทุ่งนา หุบเขา นับหลักกิโลไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกี่วัน กี่คืน เราก็จะเดินหน้าต่อไป จะไม่หวนกลับไปหาพ่อ เดินไป ร้องไห้ไป ร้องจนไม่เหลือน้ำตา เดินไปเรื่อยๆ ผ่านทุ่งนา เราไม่รุ้ว่าตอนนี้กี่โมง แต่ชาวนาเริ่มออกมาทำนา มีรถอีแต๋น บรรทุกผู้ชายประมาณ 6-7คน เต็มคันรถ ขับช้าๆผ่านเราไป ผู้ชายคนหนึ่งบอกเพื่อนๆว่า “เด็กผู้หญิงนี้หว่า” เค้าถามว่า “เราจะไปไหน ทำไมเดินอยู่คนเดียว เราเงียบ ไม่ตอบ เดินต่อไปเรื่อยๆ คิดว่า เดี๋ยวรถคงขับผ่านไป แต่รถอีแต๋นยังขับข้างๆเราไปเรื่อยๆ ผู้ชายคนนั้นกระโดดลงจากรถ พยายามจะจับตัวเรา เราวิ่งหนี ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง วิ่งเข้าไปในหมุ่บ้านเล็กๆ ข้างทาง ตอนนี้ทั้งหมู่บ้านยังไม่มีใครตื่น เราแอบอยู่ตามรั้วไม้ไผ่ รถอีแต๋นยังขับวนเวียนบนถนนใหญ่ หาเราไปเรื่อยๆ จนผุ้ชายอีกคนบอกกับเพื่อนว่า ไปเหอะ เสียเวลาปล่าวๆ ง เราแอบอยู่พักใหญ่ จนแน่ใจแล้วว่า รถอีแต๋นไม่ย้อนกลับมา เราจึงออกเดินต่อไป เดินนับหลักกิโลไปเรื่อย จนนับได้ กิโลที่สิบเอ็ด มีรถโดยสารประจำจังหวัดคันแรกผ่านมา เราไม่คิดว่า เราจะมีตังค์ติดตัว เพราะตอนออกจากบ้านพ่อมา ไม่ได้คิดอะไรเลย กะว่า จะขอคนขับขึ้นรถฟรี ถ้าเค้าไม่ให้ เราก็คงเดินไปเรื่อยๆ โชคยังเข้าข้างเรา ลองค้นในกระเป็นกางเกงสองข้างดู พบแบงค์ร้อย ยับยู่ยี่อยู่ใบเดียว เราจำไม่ได้หรอกว่า ค่าโดยสารเป็นเท่าไหร่ ยื่นตังค์ให้กระเป๋า บอกจังหวัดปลายทาง เค้าก็ไม่ว่าอะไร สุดท้ายเราก็ถึงบ้านเราจนได้ จากคุณ : หาหนทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 12:53:36 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 4 รู้สึกจุก  พูดไม่ออก จากคุณ : tiggerpiglet เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 12:58:15

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาอ่าน ครับ จะเกิดเป็นลูก หรือ เป็นพ่อ ถ้ามันจะเกิด เป็น พ่อลูก กัน ชาติ ต่อไป มันขึ้นอยู่กับ หลายๆ ปัจจัย ครับ ยังไงๆ ก็ลืมๆ มันไปนะครับ รักษาตน อารมณ์ดีๆ หาความสุขให้กับ ตัวเอง นะครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 12:58:20

ความคิดเห็นที่ 6 น่าเห็นใจมากๆ ค่ะ ตอนนั้นพี่ ๆ ทำงานแล้วไม่ได้ช่วยจ่ายเงินไปโรงเรียนบ้างเลยเหรอคะ จากคุณ : Jemie_A เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:00:04

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นกำลังใจให้สู้ชีวิตต่อไปนะลูก ฝันร้ายหายไปจากชีวิตหนูแล้ว ต่อไปขอให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ นะคะ จากคุณ : พิมพ์พลัด (พิมพ์พลัด) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:02:16

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องจริงเหรอครับ ขอโทษที่ถาม อะไรมันจะแย่ขนาด ทำเป็นละครได้เลย จากคุณ : เชร็ค 3 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:04:20

ความคิดเห็นที่ 9 เราไม่เคยเล่าให้ใครฟัง บ้านเรามีแต่ เรา กับพี่ชายที่ยุ่งแต่ทำงาน ไม่มีใครถาม เราก็ไม่คิดจะเล่าให้ใครฟัง ชีวิตเราดำเนินต่อไป โชดคีที่เราได้โควต้าเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ได้ทุนเรียนตลอดสี่ปี ไม่ต้องวนเวียนอยู่ในภาคเดียวกับพ่ออีก เราไม่ติดต่อกับพ่ออีกเลย พ่อก็คงไม่คิดจะตามหาเราเช่นกัน หลังจากเราเรียนจบและทำงานอยู่กรุงเทพๆ อีกหลายปีต่อมา วันหนึ่งพี่ชายโทรมาบอกว่า พ่อป่วยหนัก พี่ชายไม่เคยติดต่อกับพ่อเช่นกัน เมียคนที่สามของพ่อโทรบอกพี่ชายอีกที เราเดินทางกลับไปบ้านเกิด อีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อ พ่ออยุ่ในสภาวะไตวาย ต้องฟอกไตวันเว้นวัน พ่อนอนอยุ่บนเตียงในโรงพยาบาล เราไปเยี่ยมพ่อก็จริง แต่ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากเรา หรือจากพ่อ เราเงียบ พ่อก็เงียบ อยู่ได้ซักพัก เราออกไปถอนเงินสด 20,000 ให้เมียพ่อไว้ใช้จ่าย แล้วเราก็เดินทางกลับ กลับบ้านเกิดอีกครั้งหลังจากพ่อตาย งานนี้ไม่มีเผา เพราะพ่อบริจาคศพให้โรงพยาบาล คนที่มาร่วมก็มีแต่บรรดาเมียๆ และน้องๆเรา ที่เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน หวังว่า นี้คือครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจาะเจอกับคนผู้นี้อีก เราเป็นใคร เค้าคือใคร ทำไมเราถึงมีเวรกรรมต่อกันเช่นนี้ เราไม่อยากรู้ว่า ชาติก่อนๆ เราเคยทำกรรมอะไรกันไว้ แต่เราไม่ต้องการผูกพัน สร้างเวร สร้างกรรมกับคนนี้อีกในชาติต่อๆไป ใจเราตอนนี้นั้น ว่างเปล่า ปราศจากความเกลียดชัง ทุกครั้งที่ทำสังฆทาน หรือสวดมนต์ เราจะแผ่ส่วนกุศลให้พ่อ ขอให้เราหมดเวร หมดกรรมต่อกันแต่ชาตินี้ เราควรทำอะไรอีกบ้างไหม ที่จะหมดเวรหมดกรรมจากคนๆนี้ ตัดขาดกันไปเลย อย่าได้วนเวียนสร้างกรรมกันอีกต่อไป ยาวหน่อยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจบ จากคุณ : หาหนทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:04:30 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 10 ดีใจด้วย... ที่มันจบซะที  ^^ จากคุณ : แก้ไขข้อความ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:06:39

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นใจจขกท มากๆ มีพ่อแบบนี้ พ่อที่คิดหรือทำมิดีมิร้ายกับลูกสาวตัวเองได้ คนแบบนี้เป็นคนก็เหมือนไม่ใช่คนค่ะ ไม่น่าจะผิดหรือบาปนะ ถ้าคุณจะเลิกยุ่งเกี่ยว เลิกข้องแวะ เลิกติดต่อ ตัดสัมพันธ์ไปเลย หวังว่าคุณคงจะยังไม่ได้โดนปู้ยี่ปู้ยำสำเร็จใช่ไหมคะ อย่าไปพบเจอเค้าอีกเลยค่ะ อันตรายมากๆ ถ้าเค้าใช้กำลังบังคับ เกรงว่าจขกท จะแพ้แรงกำลังผู้ชาย ถึงจะแรงคนแก่ก็เหอะ แอบเป็นห่วงจริงๆ ค่ะ ระวังรักษาตัวเองให้ดีๆ นะคะ ไม่ต้องไปพบเจอคนพรรค์นั้นอีกเลยค่ะ อ่านแล้วสงสารคุณมาก จะเป็นกำลังใจให้คุณสู้ชีวิตต่อไปนะคะ               จากคุณ : ค่ำคืนนี้มีเพียงดาว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:08:03

ความคิดเห็นที่ 12 สู้ๆ นะคะ เข้มแข็งมากๆ... เราทุกคนต่างมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไปค่ะ.... เป็นกำลังใจให้นะคะ.... จากคุณ : ขาวสวยหมวยสาว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:20:26

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าใครว่าง กรุณา ฝากลิ้งไปที่ห้องศาสนาด้วยนะคะ เราอยากหลุดพ้นจริงๆ ร่างเรานั้นปราศจากวิญญานมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่แม่เสียไป ถูกพ่อฉีกใจเป็นชิ้นๆ อีกที กว่าจะสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ สามารถเล่าเรื่องของคืนนั้นในพันทิปได้ ก็อีกหลายปีต่อมา ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หาหนทาง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:25:26 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 14 ผมขอพูดตรงๆนะครับ คือข้อสงสัยไม่ได้คิดหยาบคายอะไรนะครับ เพราะมีข่าวพ่อข่มขืนลูกตัวเอง ที่แปลกใจคือ อวัยวะเพศของพ่อเหล่านั้นแข็งตัวได้อย่างไรในเมื่อผู้หญิงคนนั้นนะคือลูกของตัวเองแท้ๆ ทำใจได้อย่างไร จากคุณ : jiwery เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:27:54

ความคิดเห็นที่ 15 คห 14 ก็เพราะเขาไม่ได้คิดว่าเขาเป็นพ่อและคนที่เขากำลังจะทำคือลูกไงครับ จขกท ครับอโหสิกรรมครับ ยิ่งเขาเสียไปแล้ว ก็ไม่รู้จะคิดมากไปเพื่ออะไร ถ้าเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิดจริง การไม่จองเวรจองกรรมกันดีที่สุด เกิดชาติหน้าถึงแม้จะเจอกัน ก็ใช่ว่าคุณจะเป็นแบบชาตินี้ แต่ถ้าเราทำดีแล้ว ชาติหน้ายังไม่ดีก็คงเป็นกรรม ละครับ ผมก็คล้ายๆกับคุณที่รู้สึกไม่ดีกับพ่อ ผมก็พยายามไม่เจอไม่ติดต่อ ถ้าเขามีปัญหาเราพอช่วยได้ก็จะช่วย ถ้าช่วยไม่ได้ก็ต้องปล่อยไปตามกรรม ไม่อยากจองเวร เพราะทุกวันนี้สิ่งที่เขากระทำเขาก็ได้รับผลของมันแล้ว เรื่องผ่านไปแล้วก็ผ่านไปครับ เอาไว้เป็นบทเรียน ที่คุณทำอยู่ก้โอเคแล้วครับ เหลืออย่างเดียวทำใจปล่อยวาง ให้ได้ไม่ต้องไปคิดเนื่องชาติหน้าครับ มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ จะเอามาทำให้ทุกข์ใจทำไม จากคุณ : Audigy37 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:04:38

ความคิดเห็นที่ 16 หลุดพ้น..และเติบโตขึ้นมาได้แล้ว..อโหสิกรรมให้แกไปเถอะครับ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:08:10

ความคิดเห็นที่ 17 อโหสิค่ะ อย่าพยาบาทจองเวร ถ้าคุณกับผู้ชายคนนั้นไม่มีกรรมต่อกันแล้วชดใช้หมดแล้ว ก็คงไม่ต้องเจอกันอีกต่อไป เริ่มชีวิตใหม่ค่ะ สู้สู้ จากคุณ : เขียนบน iPhone (kadeped) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:13:45

ความคิดเห็นที่ 18 สวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญทุกครั้งเอ่ยอโหสิกรรมให้เค้าไปค่ะว่าเราไม่จองเวร ไม่อาฆาติ ไม่พยาบาทกับเค้า พร้อมอธิษฐานไปเลยขออย่าได้พบเจอกันอีกเลยไม่ว่าชาติไหนๆ  แต่ในใจคุณเองก็ต้องคิดเช่นนั้นให้ได้ด้วยที่จะไม่อาฆาติ ไม่จองเวร เลิกคิดถึงเค้าและพยายามวางเรื่องราวในอดีตนี้ลงและไม่นึกถึงมันอีกค่ะ จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:18:34

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ของ จขกท.ครับ  คุณเยี่ยมยอดมาก  เยี่ยมตรงไหนรู้ไหมครับ++ >>ตรงที่ พ่อคุณเข้าโรงพยาบาล  คุณก็ยังมาเยี่ยมท่านและช่วยเหลือท่านค่ารักษา ทั้งๆที่อดีตท่านทำกับคุณไว้ไม่ค่อยโสภาเท่าไหร  ตรงนี้กตัญญูมากครับ ปล...คำโบราณท่านว่าไว้  ใครเี้ลี้ยงพ่อใครเลี้ยงแม่ดี  จะเจริญก้าวหน้าครับ (ผมเชื่อคำกล่าวนี้ด้วย..มีตัวอย่างเห็นมาเยอะละ) จากคุณ : maple2522 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:30:21

ความคิดเห็นที่ 20 ร้องไห้เลย...อายเพื่อนร่วมงานจัง คุณเก่งมากค่ะ...แต่ให้อโหสิกรรมให้พ่อด้วย ยังงัยเค้าก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : borebbc เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:48:13

ความคิดเห็นที่ 21 อโหสิค่ะ อย่าไปผูกใจอาฆาตพยาบาท พยายามปล่อยวางที่สุดค่ะ แล้วเขาก็จะหลุดพ้นไปจากชีวิต จากใจคุณตั้งแต่ชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้าค่ะ จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 14:58:29

ความคิดเห็นที่ 22 มันผ่านไปแล้วค่ะ จบแล้ว พยายามคิดถึงมันให้น้อยที่สุดค่ะ จากคุณ : เบรานิ่ง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:07:13

ความคิดเห็นที่ 23 เราเชื่อเรื่องราวของคุณเป็นเรื่องจริง อ่านแล้วก็ใจสลายตามไปด้วย แปลกใจมากๆที่พ่อคุณ เขียนหนังสือธรรมะ ถือศีล ไม่ทานเหล้า ไม่ทานเนื้อ ดูเคร่งครัดมาก แต่ทำไมบกพร่องในศีลข้อสามอย่างรุนแรง ไม่น่าเชื่อ ผู้ชายที่ดูภายนอกว่า ดีพร้อม อาจถึงขั้น ธรรมะธัมโม กลับทำเรื่องวิปริตเช่นนี้ได้ ยิ่งบอกว่า มีบุคลิกที่เงียบ ดุ เข้าถึงยาก ทำไมถึงได้มีเมียได้หลายคน แต่คุณกับพ่อได้หมดเวรหมดกรรมต่อกันแล้วในชาตินี้ เรื่องราวฝันร้ายของคุณได้จบลงแล้วนะคะ  อย่าจมอยู่กับฝันร้ายในอดีตอีกเลย อย่าใช้ชีวิตแบบไร้วิญญาน คุณยังมีวันพรุ่งนี้ ที่จะต้องดำเนินให้สวยงาม คุณจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง คุณจะต้องทำชีวิตตัวเองและครอบครัวให้ดีที่สุด เรื่องของชาติหน้ายังไม่มีใครรู้ สะสมความดีในชาตินี้ให้มากดีกว่า บุญจะเกื้อหนุนให้เราได้ดีมีสุขในภพต่อๆไป แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 11:49:58 จากคุณ : เอื้องราตรี เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:09:03

ความคิดเห็นที่ 24 ขจก. เป็นคนดีมากนะครับ สิ่งที่ขจก.ทำ สุดยอดแล้วครับสำหรับหน้าที่ลูก พยายามลืมที่ไม่ดีที่ท่านทำกับ ขจก. มันเป็นวิบากกรรมและผ่านพ้นไปแล้ว สำคัญที่ ขจก.ต้องลืมมันด้วยเช่นกัน เหลือแต่คำว่าผู้ให้กำเนิดขจก. มาเป็น"มนุษย์" ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ในฐานะที่เป็นลูกให้พ่อแม่ และเจ้ากรรมนายเวร สิ่งที่ไม่ดีที่ท่านทำ ต้องลืม อย่าจดจำ ทำไปเรื่อยๆ เดวก็เบาลง อย่าตอกย้ำ หรือไปจดจำ เมื่อนึกขึ้นได้ หางานหรืออย่างอื่นทำ ตัดจากเรื่องเลวๆไป ขอให้ขจก.พยายามทำให้ได้ แล้วชีวิตจะดีขึ้นๆเรื่อยๆครับ ขอย้ำ ถึงลืมไม่ได้ แต่อย่าไปเขี่ยตะกอน ต้องลบมันทิ้งครับเพื่อตัวคุณเอง ก้าวไปข้างหน้า อย่ามองถอยหลังในสิ่งที่ไม่ควรจดจำครับ จากคุณ : nareesom เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:12:11

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านไปนํ้าตาใหลไป จากคุณ : aommi เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:22:00 A:86.186.204.21 X: TicketID:338032

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าคุณนับถือศาสนาพุทธ ปฎิบัติธรรมเยอะ ๆ สวดมนต์ ไหว้พระ ไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้วคุณจะหลุดพ้นเอง...เมื่อหลุดพ้นก็ไม่ต้องเวียนไหว้ตายเกิดอีกครับ... ปฎิบัติเยอะ ๆ นะครับเรื่องแบบนี้มีแต่ตัวคุณเองที่จะเห็นครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:23:08

ความคิดเห็นที่ 27 ไปวัด ปฏิบ้ติธรรม นั่งสมาธิ ทุกครั้งที่ออกจากสมาธิ ตั้งจิตอธิษฐานแผ่ส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตั้งจิตอธิษฐานให้หมดกรรมผูกพันกับใครๆ และอย่าประกอบกรรมไม่ดีอันใหม่ ทำสม่ำเสมอ ได้ผลแน่นอนค่ะ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:42:50

ความคิดเห็นที่ 28 เศร้ากว่าละครอีก โชคดีที่ไม่โดนอะไร จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 15:55:51

ความคิดเห็นที่ 29 ต้อง ขยี้ตาหลายๆรอบเเล้วอ่านใหม่ .. คือถ้าเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง  .. เรา ไม่คิดว่า คุณพ่อ คุณ จขกท. จะเป็น มนุษย์นะ เพราะ การกระทำ ไม่ต่างอะไรกับ สัตว์ เดรัจฉานเลย( เเรงไปป่ะ).. ถือว่า ชดใช้กรรม .. คุณ จขกท. ดีเเล้ว  ที่ ดีกับเขา ตอนใกล้ตาย.. เพราะไม่ใกล้ตาย..ก็คงไม่กล้าเฉียดใกล้ น่ะ.. ทำได้ไงวะเนี่ย..ลูกตัวเองเเท้ๆเลย จากคุณ : hot oil เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:04:42

ความคิดเห็นที่ 30 ฉันเชื่อค่ะ จขกท. พ่อเลวๆ แบบนี้ ไม่ได้มีแต่พ่อ จขกท. หรอก ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ด่าพ่อ จขกท.คนเดียว ฉัน ด่า พ่อเลวๆ ที่ทำแบบนี้กับลูกสาวตัวเองทุกคน ฉันไม่คิดจะเป็นคนดี แบบ จขกท. หรอก และไม่ต้องการคำสรรเสริญ เมื่อพ่อไม่ประเสริฐ ฉันก็เป็นคนประเสริฐไม่ได้ พ่อทำกรรมกับลูกตัวเอง ก็ต้องได้รับผลกรรมที่ตัวเองกระทำ ทำไมพ่อที่ทำกรรมชั่ว จะต้องได้รับผลกรรมดีตอบแทนจากลูกด้วยล่ะ ผู้ชายที่สมสู่ไม่เลือก จนมีผลผลิตออกมา ก็ไม่ทำหน้าที่เลี้ยงดูรับผิดชอบ ไม่สมควรที่จะใช้คำอันสูงส่งมีคุณค่า ว่า "พ่อ" แล้วยิ่งคิดจะสมสู่กับลูกสาวตัวเอง ยิ่งไม่สมควรเรียกว่า มนุษย์ เพราะมันไม่ต่างกับ สุนัขตัวผู้ ยิ่งถ้าฉันเชื่อตามตำราพุทธศาสนา ว่าทำดีตอบจะเป็นกุลศล ให้ได้เกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก ฉันก็ยิ่งไม่มีเหตุผล ที่จะต้องไปทำความดีอะไรตอบแทน สาบส่งไปเลยจะได้ไม่ต้องเกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก ทำไมพ่อชั่วๆ แบบนี้ จะต้องไปทำดีตอบ เขาทำให้ชีวิตฉัน ต้องกลายเป็นคนเคียดแค้นชิงชัง เกลียดพฤติกรรมสำส่อนของผู้ชายทุกคน และถ้าลูกฉันจะลุกขึื้นมาบอกว่า เกลียดพ่อ ฉันก็ไม่คิดว่าลูกฉันทำผิดบาปอะไร ในเมื่อผู้ชายที่ทำให้เขาเกิด ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อ จากคุณ : ........ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:45:45 A:91.38.115.17 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 31 เศร้าจัง... จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 16:56:42

ความคิดเห็นที่ 32 ขอโทษ ถ้าเรื่องจริง ไอ้พ่อ เวรอย่างนี้ ไม่น่าเรียกว่า พ่อ จากคุณ : เด็กบ้านนอก เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 17:28:45 A:180.180.191.175 X: TicketID:324419

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องเราคล้ายกันเลยค่ะ พ่อเราก็ได้นักร้องบ้าง เด็กเสิร์ฟบ้าง ชาวบ้านจังหวัดที่เค้าไปทำงานบ้าง ต่างกันตรงที่พ่อเราไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรเราเลย แม่เราถูกพ่อทำร้ายจิตใจ แต่ก่อนตาย ขอให้เราโทรไปเรียกพ่อมาสั่งเสีย แต่ก็แค่นั้น เราติดต่อเค้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ และเราก็เลี้ยงตัวเองผ่านมาได้ กลายเป็นพอพ่อแก่ตัวลง ทีนี้เริ่มติดต่อมา อยากเจอลูก คิดถึง สารพัด เพราะลูกๆที่เกิดกับบรรดาเมียคนอื่นเค้าก็ไม่มีใครเอา เพราะพ่อทิ้งเค้ากันหมด มีพี่คนนึงให้อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ดูแลอย่างอื่น ส่วนเรา ทุกวันนี้ดูแลตามสมควร ให้เงินทุกเดือน (ถือว่าแม่รักผู้ชายคนนี้) พาไปหาหมอเมื่อป่วย พอไปทำบุญบ้าง วันไหนพาไปทำบุญก็กินข้าว แล้วแยกกันไป ทุกครั้งที่ทำบุญ ใส่บาตร เราจะขออโหสิกรรมตลอด อะไรที่เราทำ หรือเค้าทำ ขอให้จบแค่นี้ ทุกวันนี้เราไม่ลืมสิ่งที่พ่อเคยทำหรอก แต่เราไม่โกรธ ไม่แก้นอะไรอีกแล้ว และขอให้เค้ามีความสุขในบั้นปลายชีวิตด้วย แต่ต่างคนต่างอยู่ค่ะ เราเองก็เคยโดนคล้ายๆกัน แต่ไม่หนักเท่าจขกท พ่อแค่ล้วงมือเข้ามาในเสื้อ แล้วก็ล้วงมาในกางเกง ตอนที่แม่ไม่อยู่ แต่ตอนนั้นเราเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ พอแม่กลับมาเราเล่าให้แม่ฟัง แม่เราก็พาเราออกมาจากบ้านค่ะ จากคุณ : kitten in the kitchen เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 17:46:56

ความคิดเห็นที่ 34 ฉันก็เหมือน คห.33 นะ ที่ไม่โกรธไม่แค้น แต่ก็ ไม่รัก ฉันอยากให้เขา ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ ด้วยการสำนึกได้ในสิ่งที่เขากระทำกับฉัน ต่างคนต่างอยู่ อย่ามาวุ่นวายเรียกร้องอะไรจากฉัน แต่ที่มันยังจบแบบไม่สวย ยังค้างคาใจกันอยู่ ก็เพราะเขายังไม่ได้สำนึกอะไรเลย คนไม่รู้อะไรก็ว่าแต่ฉันเป็นคนเลว คนอกตัญญู มาบงการชีวิตฉัน ว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นลูกที่ดีต่อพ่อ จนฉันต้องแฉกลับ ก็ยังไม่สำนึก ฝากคำว่า ตัดพ่อตัดลูก มาถึงฉัน ฉันก็รอคำนี้จากเขามานานแล้วเหมือนกัน เพราะก็ทนเป็นลูกที่ดีทั้งที่เขาไม่เคยเห็นฉันเป็นลูกตั้งแต่เกิด ......เวลานี้ ฉันเป็นอิสระแล้ว ด้วยคำพูดของเขาเอง.....ที่ไม่ต้องการเห็นหน้าฉันอีก... จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 18:01:58 A:91.38.115.17 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าใครว่าง กรุณา ฝากลิ้งไปที่ห้องศาสนาด้วยนะคะ เราอยากหลุดพ้นจริงๆ ร่างเรานั้นปราศจากวิญญานมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่แม่เสียไป ถูกพ่อฉีกใจเป็นชิ้นๆ อีกที กว่าจะสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ สามารถเล่าเรื่องของคืนนั้นในพันทิปได้ ก็อีกหลายปีต่อมา ขอบคุณค่ะ จากคุณ : หาหนทาง   เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 13:25:26 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846     *************************************************************** หาเวลาไปกราบพระอาจารย์ใหญ่ที่วัดป่าสระกระโจมสักครั้งได้ไหมคะ ถ้ามีเวลาจะไปถือศีลปฏิบัติธรรมที่นั่นสัก 7 วันได้ก็จะดีมากๆ แผนที่ การเดินทาง กิจกรรมที่วัดอยู่ที่เว็บ www.visudhidham.com ถ้ามีปัญหาอะไร เมลติดต่อที่นี่ได้เลยค่ะ visudhidham@hotmail.com ขาดเหลืออะไร ไม่มีชุดขาวหรือจะเป็นเรื่องอื่น เมลไปแจ้งได้เลยว่าบุษยมาศบอกมาว่าจะช่วยจัดการให้ จากคุณ : บุษยมาศ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 18:59:10

ความคิดเห็นที่ 36 ได้เอากระทู้ไปฝากห้องศาสนาตามความประสงค์ของ คุณน้องจขกท แต่เรื่องอย่างอื่นดิฉันคงให้คำแนะนำ น้องจขกท ไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้และประสบการณ์แบบนี้ในชาตินี้ ชีวิตดิฉันเกิดมารู้สึกจะเจอตรงกันข้ามกับ จขกท ทุกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเกิดมาเป็นลูกของพ่อแม่คนเดิมทุกชาติไป จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 19:38:28

ความคิดเห็นที่ 38 คห.37 มีเวลาเล่นเน็ต มันแปลกตรงไหนเหรอ จากคุณ : ....... เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 19:49:43 A:91.38.115.17 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ตอนแรกที่อ่านหัวข้อกระทู้ นึกลุ้นว่าอย่าให้เป็นเรื่องประเภทพ่อข่มขืนลูกเลย โล่งใจได้แป๊ปเดียว อ่านไปถึงคห.2 อึ้งเลยค่ะ   อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ขอให้อโหสิให้ท่านเถอะนะคะ จะได้เลิกแล้วต่อกัน หมดเวรหมดกรรมต่อกันเหมือนที่จขกท.ต้องการ จากคุณ : peperoncino-carbonara เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 19:54:22

ความคิดเห็นที่ 40 สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้กรรมของเรา วนเวียนอยู่กับสิ่งที่ไม่ดี  หรือคนที่ไม่ดี คือ "การติดค้าง" ในฐานะของผู้ครองเรือน  มนุษย์เราติดค้างบุคคล ๖ ประเภท  โดยบุคคล ๖ ประเภทนี้ ถ้าเราทำ "พลาด" เพียงหนึ่งข้อ ถือว่าเป็นการติดค้าง และเรา จะไม่พ้น เพราะจะต้องมีเหตุให้เราชดใช้สิ่งที่ติดค้างคืน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย  ทุกคน ทุกสถานะ ควรตรวจสอบว่าในทิศทั้งหก เราทำไม่ครบข้อไหนบ้าง   พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ๘. สิงคาลกสูตร (๑๓) http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=11&A=3923 คำอธิบายพระสูตร (อรรถกถา) http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=172 สำหรับกรณีนี้  เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือ การอุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการี เป็นข้อสุดท้ายของทิศเบื้องหน้าในทิศทั้งหก โดยควรทำดังนี้ ๑. ทำบุญโดยนิมนต์พระเพื่อถวายภัตตาหาร,ผ้าไตร,สังฆภัณฑ์,บริขาร แก่พระภิกษุอย่างน้อย ๔ รูป ๒. เมื่อทำเสร็จแล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ไม่ต้องได้พบกับบุคคลนี้อีก ๓. กรวดน้ำ แผ่ให้ส่วนกุศลที่ได้ทำนั้น ถึงผู้นั้นอย่างตั้งใจ การทำสิ่งเหล่านี้ จะทำให้ ๑. คุณพ้นจากการติดค้างบุคคบนี้ และ ๒. เป็นอิสระจากการได้พบบุคคลนี้อีกในอนาคต แต่ทั้งนี้ ควรทำบ่อย ๆ ทำเป็นประจำ เพราะยิ่งทำมาก ก็จะยิ่งทำให้เราห่างจากเค้า มากขึ้น  มากขึ้น จากคุณ : Serene_Angelic เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:03:57

ความคิดเห็นที่ 41 ศาสนา เป็นเรื่องของความเชื่อ คนที่จิตใจอ่อนแอ เท่านั้น ที่ต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ อยู่แต่กับความคิดและความเชื่อ ว่าทำสิ่งนี้ จะได้รับผลตอบแทนแบบนี้ ฉันเป็นคนที่ทำอะไรแล้วไม่หวังผลตอบแทน (ยกเว้นทำงาน หวังผลตอบแทนด้วยเงิน) ทุกวันนี้ ฉันทำในสิ่งที่ฉันทำแล้วมีความสุข ไม่สร้างความเดือดร้อนผู้ใด ฉันไม่ตั้งความหวังว่า ตายไปแล้วจะได้ไปเกิดภพใหม่ชาติใหม่ที่ดี ทั้งฉันและสามี บริจาคร่างกาย เพื่อเป็นความรู้แค่แพทย์รุ่นใหม่ เราอุปการะ เด็กยากไร้ ในประเทศแถบยากจน อย่างไม่หวังผลอะไรทั้งสิ้น เราคิดเพียงว่า เราช่วยเขาได้เท่าที่เรามีความสามารถจะช่วยโดยที่ตัวเราไม่เดือดร้อน ....... ชีวิตมันก็แค่นี้เอง...... จากคุณ : ....... เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 20:18:42 A:91.38.115.17 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 42 มีไม่น้อยครับ  ที่พ่อรังแกลูก เมื่อตอนเด็กๆก็เห็นคนแถวๆบ้าน    เป็นสาวอยู่แล้วมีท้องขึ้นมา    ชาวบ้านลือว่าท้องกับพ่อ   (แม่ติดคุก) ผมว่าคนเราคงไม่ได้เป็นพ่อแม่ลูกกันในทุกชาติหรอก    แม้ใจอยากจะเป็นแค่ไหนก็ตาม   คงขึ้นกับกรรมเวรของแต่ละคน เรื่องนี่้สอนใจผุ้ชายได้ไม่น้อยทีเดียว จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 21:26:04

ความคิดเห็นที่ 43 ..........อย่างน้อยพ่อของ จขกท ก็ยังส่งเงินเลี้ยงดู  แต่เพราะไม่มีความรับผิดชอบมีลูกเมียมากก็ไม่สามารถเลี้ยงดูไหว            การเกิดมาเป็นพ่อแม่ลูกกันก็เพราะมีวิบากกรรมร่วมกันที่ต้องมาชดใช้ต่อกัน ถ้า จขกท ไม่อยากเจอพ่อที่เป็นคนไม่ดี ก็ต้องเป็นคนดีทำความดี  เพื่อให้ความดีป้องกันเราจากคนไม่ดี           จขกท ต้องเริ่มจากให้อภัยเพื่อจะได้ไม่จองเวรต่อกัน แล้วศึกษาปฏิบัติธรรม เมื่อจิตมีกำลังสมาธิมากพอก็จะไม่หวั่นไหวต่อความทุกข์ที่เกิดขึ้น ............................................................................................................. " พ่อไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทานมังสวิรัติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เขียนหนังสือธรรมะเป็นเล่มๆ แจกจ่ายให้เพื่อนๆ แม้แต่ตอนตาย ยังบริจาคศพให้โรงพยาบาล " จากตัวอย่างนี้ทำให้เห็นว่า ทำได้ทั้งหมดนี้แล้วไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนดี เพราะทำดีทุกอย่าง แต่ผิดศีลข้อ ๓ ก็ทำให้กลายเป็นคนไม่ดีได้ ซึ่งก็อาจจะเริ่มจาก "มิจฉาทิฏฐิ" มีความเห็นผิด ธรรมะที่เรียนที่ปฏิบัติจึงไม่ได้ช่วยให้เป็นพ่อที่ดีได้  แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 21:44:54 จากคุณ : ชนาธิป - พุทธแท้ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 21:38:06

ความคิดเห็นที่ 44 คุณเจ้าของกระทู้   ...น่าจะสบายใจได้  เหตุการณ์ที่เล่ามา  คุณไม่ได้ทำผิดอะไรต่อพ่อ  แต่ก็ขาดแคลนในเรื่องการตอบสนองบุญคุณพ่อไปบ้าง  เพราะคุณเกลียดพ่อเป็นทุนเดิม และเกือบโดนพ่อข่มขืน  แต่ก็โชคดีที่ผ่านมาได้  และในตอนหลังคุณก็ยังทำอะไรที่เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อไปบ้าง  ก็ไม่เลวแล้วละ  ทั้งยังทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้อีก  ถือว่าดีมากๆในข้อหลังสุดนี้   จงทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ   คือต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งพ่อและแม่เรื่อยๆ ที่มีโอกาส ... ในส่วนที่คุณไม่อยากจะเจอพ่อในชาติต่อๆไปอีก  ก็ให้ทำดังนี้  คือ ทุกๆครั้งหลังจากทำบุญเสร็จลงและอุทิศบุญเรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า "ด้วยบุญที่ทำวันนี้  ขอให้เป็นปัจจัยไปสู่ความสิ้นทุกข์ในอนาต  แต่ตราบใดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ก็ขอให้พบแต่ความสุขความเจริญ  และขออย่าให้ได้พบหรือเกี่ยวข้องในแง่ใดๆกับนาย....(เอ่ยชื่อพ่อคุณในใจ)..อีกต่อไปทุกๆชาติ" จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 21:43:02

ความคิดเห็นที่ 45 ชาวพุทธมีความเชื่อเรียกว่า สัทธา ๔ คือ ๑.เชื่อกรรม เชื่อการกระทำ ๒. เชื่อผลของกรรม ๓.เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตัวเอง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ๔.เชื่อปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า การที่ จขกท ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ มีปัญหาอย่างนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นมาเองแต่มันมีเหตุที่ทำให้เกิดผลอย่างนี้ ผลซึ่งเรียกว่าวิบากเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ เราต้องยอมรับมันด้วยใจที่เป็นกลาง แต่ศาสนาพุทธไม่ใช่ลัทธิเชื่อกรรมเก่านอนคอยพรหมลิขิต ท่านสอนว่าอดีตก็ผ่านไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง กังวลใจก็ฟุ้งซ่าน ทั้งอดีตและอนาคตไม่ใช่ความจริง(เป็นสมมุติบัญญัติ) มีเพียงปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เป็นความจริงซึ่งเราสามารถทำความดี(หรือความชั่ว)ได้ การกระทำที่มีเจตนาในปัจจุบันเรียกว่ากรรม ถ้าทำกรรมดี อีก ๑ นาทีก็จะเป็นอดีตที่สามารถส่งผลดีให้เราได้แล้ว ถ้า จขกท เข้าใจและยอมรับความจริงนี้ได้ ใจจะดิ้นรนน้อยลง ความทุกข์ก็จะน้อยลงด้วย และไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องที่เลวร้ายในอดีตอีก เพราะจิตทำงานตามความเคยชิน ถ้าเราเคยชินอยู่กับจิตที่เศร้าหมอง จิตก็จะปรุงโทสะขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าเราฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันเช่นลมหายใจ จิตจะหลุดออกมาจากโลกของความคิดมาอยู่ในโลกของความจริง ลองทดลองเปรียบเทียบระหว่างจิตที่คิดฟุ้งซ่านกับจิตที่อยู่กับปัจจุบัน จะพบว่าเมื่อไรหลงไปคิดจะทุกข์ ถ้ารู้ตัวอยู่กับปัจจุบันจะไม่ทุกข์ หัวใจของศาสนาพุทธคือ ละการทำบาปอกุศล ทำความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส คนส่วนมากถือว่าได้ทำบุญก็เพียงพอแล้ว จึงไม่พยายามละชั่วและทำจิตให้ผ่องใส เรียกว่ายังทำไม่ครบตามที่พระพุทธเจ้าสอน เพราะจิตมีธรรมชาติไหลลงต่ำแต่ก็สามารถฝึกให้ดีได้ด้วย จิตที่ฝึกดีแล้วนำความสุขมาให้ ผมขอให้ความเห็นเป็นหลักการที่ จขกท สามารถนำไปศึกษาต่อยอดได้ สรุปก็คือ ๑.ยอมรับผลที่เกิดขึ้นทั้งหมดในอดีต ไม่พยายามปรุงแต่ง ไม่คิดถึงให้ใจเศร้าหมอง ๒.ละความชั่ว ทำความดี ทำใจให้ผ่องใส จะทำให้อนาคตได้รับผลดีแน่นอน ๓.มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ความทุกข์จะน้อยลง จากคุณ : sspp1 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:37:24

ความคิดเห็นที่ 46 เศร้าอีกกระทู้นึงแล้ว คนในครอบครัวทำร้ายกันที่มันเจ็บหนักนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทำตามความคิดเห็นที่แล้วมาก็น่าจะช่วยได้บ้างนะคะ คุณเป็นคนที่ดีนะในสายตาเรา จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 22:51:10

ความคิดเห็นที่ 47 น้องคะ ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขบ้าง ทุกข์บ้างค่ะ สายกลาง ส่วนชาติหน้าจะเป็นอย่างไร มีจริงหรือไม่ น้องอย่าเพิ่งไปคิดถึงมันหรอกค่ะ พี่อยากให้น้องใช้ชีวิตในชาตินี้ วันนี้ พรุ่งนี้เพื่อตัวเองมากๆ ก่อนค่ะ จากคุณ : โชคดีนะคะ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 23:13:11 A:88.77.207.235 X: TicketID:285439

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้ว เห็นใจ คุณหาหนทาง  จากที่อ่านการเขียนข้อความของคุณ การเล่าเรื่อง ดำเนินเรื่องของคุณ ผมเข้าใจว่า คุณเป็นคนมีสติปัญญาดีน่ะครับ มีความมุ่งมั่นในการทำความดี และต้องการมีอนาคตในทางโลก หลายๆท่านข้างบนนี้แนะนำ เพื่อตอบคำถามคุณไว้ได้ดีแล้ว แนะนำคุณเพิ่มเติมก็คือ หาโอกาส เข้าวัด ฟังธรรม อ่านหนัสือธรรมะ ถ้าไม่มีเวลา ก็หาอ่านตาม เว็บไซด์  อย่างไรก็ตาม การเข้าวัด ฟังธรรม ก็ควรเลือกสรร  วัดหรือพระ ทีสอนตรงตามแนวที่พระพุทธเจ้าสอน  ค่อยๆ เรียนรู้เพิ่มไป เรื่อยๆ ขอให้คุณเข้มแข็ง และเป็นกำลังใจให้น่ะครับ จากคุณ : ยามประจำวัน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 23:18:15

ความคิดเห็นที่ 49 ...คห. 41...     (ขอโทษท่านอื่นที่ต้องโพสต์ตอบ ถ้ามีล็อคอินก็จะส่งหลังไมค์) ท่านนิรนาม# 41   .ท่านช่างไม่รู้กาลเทศเอาซะเลยนะ จขกท.  กำลังทุกข์ใจอยากใดคำแนะนำ ทะลึ่งยกเอาทฤษฎีไร้สาระของตนมาโพสต์ พวกไม่ใช้ล๊อคอินมันชอบทำตัวแบบนี้ซิน่า ....................................................... ท่านกล่าวว่า ....."ศานาเป็นเรื่องของความเชื่อ"..."จิตใจอ่อนแอ จึงต้องหาเครื่องยึดเหนียว" คำว่า  เป็น "ความเชื่อ" "จิตใจอ่อนแอ" ตามที่ท่านกล่าวมานั้น มันแสดงให้เห็นถึง ความรู้ / ระดับปัญญา ของท่านโดยลำพังที่มีต่อศาสนาว่า   ท่านช่างรู้เรื่องศาสนาน้อยนิดเหลือเกิน "พุทธศาสนา"  เป็นคำสอนที่ว่าด้วยเหตุผลเสียเป็นส่วนใหญ่ จะมีบ้างที่กล่าวถึงอิทธิฤทธิ์,  ผู้มีปัญญา  ย่อมต้องรู้จักแยกแยะ เรื่องการทำความดีที่ท่านเล่ามานั้น ....ผมเชื่อว่า ท่านทำจริง และก็ต้องขออนุโมทนาด้วยครับ แต่ไฉน.. แถมคุยฟุ้งว่า....."ไม่หวังสิ่งตอบแทน" ถ้าไม่หวังสิ่งตอบแทนจริง....แล้วเอามาเล่าทำไม...?     ขอตอบคำถามนี้แทนท่านได้เลย.... ก็เล่าเพื่อ  "ตอบสนอง"  "กิเลสระดับหยาบๆ"   ที่ผุดออกมาจาก  "ขันธสะนดาน"...ตัวท่านเองไง..! ท่านยกเอา การปฏิบัติ/นับถือ ของคนอื่นซึ่งต่างกับท่านว่า ...เป็นเรื่อง  "ความเชื่อ"    "เป็นคนจิตใจอ่อนแอ" แล้วยังจะมายืนยันว่า ...."ไม่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อน" อันนี้ก็เป็น  "ความเห็น"  ที่ออกมาจากกิเลสระดัยหยาบๆ ในขันธสะนดานของท่านโดยลำพัง อีกแล้ว (พวกมิจฉาทิฏฐิ เป็นเช่นนี้แล) ท่านไม่คิดหรือว่า...มันจะสร้างความเดือนร้อนใจให้คนที่เค้านับถือศาสนา...? ..................................................... อย่างไรก็ตาม..ท่านแสดงตนว่า...ไม่นับถือศาสนา ต่อด้วย..แสดงทิฏฐิ/ทฤษฎี/ความเห็น พร้อมแนวการปฏิบัติตนของท่านว่า.... ....สิ่งที่ทำอยู่นั้น  คือ "ความดี" นั่นก็เท่ากับแสดงว่า ท่าน..."นับถือ"..... ..."ความคิดเห็น".... ของท่านเอง ...เป็นใหญ่/เป็นหลักปฏิบัติ ใช่มั๊ย..? ท่านมีความรู้ระดับไหนครับ.....? ถึงได้คิดตั้งตัวเป็นศาสดาของศาสนาที่ท่านกำลังผลิตคำสอน(ไร้สาระ)อยู่ พิจารณาจิตใจตนเองดีกว่าครับว่า  มันหยาบหรือไม่แค่ไหน อย่าไปพิจารณาจิตใจคนอื่นเลยว่า  มันอ่อนแอหรือไม่ และอย่าอาศัยโอกาสที่คนอื่นกำลังเดือดร้อน   มากล่าวทฤษฎี ด้อยปัญญา จ้วงจาบสิ่งที่ผู้อื่นนับถือแบบนี้เลยครับ พฤติกรรมแบบนี้..คนดี...เค้าไม่ทำกันหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 54 23:54:31 จากคุณ : Zoyue เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 23:53:21

ความคิดเห็นที่ 50 ทุกอย่างมันเกิดจากวิบากกรรมทุกเรื่องที่เกิดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  การที่เกิดมาเป็นพ่อลูกกัน และไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี หรืออาจได้รับการล่วงเกินจากพ่อ  อันนี้ชาติที่แล้วคุณก็อาจจะ สร้างกรรมทำนองเดียวกันนี้กับพ่อมาก่อน  ท่านก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณในชาตินี้ที่ กลับมาทวงหนี้กับคุณ  ถ้าคุณชดใช้หนี้กรรมนี้แล้ว และไม่ตอบสนองกรรมในทางไม่ดีกับ พ่อคุณ  ถือว่าคุณมีสติที่ดีและเลือกทางที่ถูกต้องแล้ว   เพียงแต่การรู้สึกติดค้างในใจนั้น ก็ต้องให้อภัยพ่อของคุณ คือ กล่าวอโหสิกรรมให้พ่อของคุณซะ  เมื่อเราให้อภัยท่านจาก ใจของเราอย่างแท้จริง  ใจเราจะเบาและคลายความอาฆาตที่มีต่อพ่อลงได้  กรรมนั้นก็จะ เป็นอันยุติ   แต่ถ้าเรายังอาฆาตพ่ออยู่  ภพชาติต่อไปเราก็อาจจะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวร ของพ่อในชาตินี้กรรมมันก็จะวนๆกันไปไม่รู้จบ    ถ้าจะจบได้ก็มีเพียงคำว่า "อโหสิกรรมให้ พ่อ" กล่าวคำนี้ออกมาบ่อยๆให้ใจยอมอภัยให้่พ่อจริงๆ  เมื่อทำแล้วจะรู้สึกใจเบาสบาย เมื่อนั้นแหละคุณหลุดพ้นจากกรรมอันนี้แล้ว  และคงไม่ต้องจองเวรจองกรรมกันต่อไป^^ แต่ตามคำที่พระพุทธเจ้าท่านยืนยันว่าพ่อ แม่ คือพระอรหันต์สำหรับลูกๆ  ฉนั้นข้อนี้จึง บ่งชี้ว่าเราไม่ควรทำกรรมล่วงเกิน พ่อ แม่ ไม่ว่าท่านจะกระทำต่อเราอย่างไร  การตอบ สนองต่อวิบากกรรมแบบก้าวร้าวรุนแรงต่อ พ่อ แม่ ก็จะมีผลเป็นกรรมหนักติดตัวต่อไปอีก ฉนั้นการยอมรับวิบากกรรมแล้วชดใช้ให้หมด และอโสสิกรรมให้ท่านคือหนทางที่ดีที่สุด... การทำบุญอุทิศกุศลให้ท่านนั้นก็ควรทำ  แต่หลักสำคัญที่สุดคือการ "ให้อภัย " หรือ"อโหสิกรรม"ให้กับคุณพ่อ  ไม่ใช่ไปขออโหสิกรรมน๊ะ  เราต้องเป็นฝ่ายให้อภัย ใจถึงจะถูกปลดปล่อย  การให้อภัยก็จัดว่าเป็นทาน เป็นมหากุศลใหญ่ ^^ จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 23:57:37

ความคิดเห็นที่ 51 ทุกคนเกิดมามีกรรมติดตัวมาด้วยครับ ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด ไม่มีเขา ก็ไม่มีเรา ในตอนนี้...สิ่งที่เรารับรู้ได้ก็เพียง ตามที่ จขกท. เล่ามา ซึ่งจริงเท็จอย่างไร ผมก็รับฟัง... ชีวิตของเรา ต้องดำเนินต่อไปเอง มันเป็นวิบากของเราเองที่เราได้ "เกิด" มา ในชาตินี้ สิ่งที่เรา "ขอ" แ่น่ใจแล้วเหรอ ว่า "อยากได้" มันจริงๆ แค่ไม่ต้องการเจอพ่อคนนี้ แล้วไม่คิดเหรอว่า... บางคน เกิดมาไม่มีพ่อด้วยซ้ำ บางคนเกิดมา ไม่เคยเห็นหน้าพ่อตัวเอง ทุกวันนี้เขาอาจจะไม่ได้ดูแล หรือไม่ได้มาสั่งเสีย สิ่งที่เรารับรู้ ทำให้เราเจ็บปวดก็จริง แต่ความจริงนั้น ชีวิตเราต้องดำเนินต่อ สิ่งที่ประทังชีวิต คิดว่าดำเนินไปด้วยความลำบาก แต่เมื่อผ่านไปได้ มันทำให้เรา "แกร่ง" และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งขึ้น อนาคตเราเลือกเป็นตัวของเราเอง ไม่ได้ฝากความหวังไว้กับใคร ตัวเราเป็นคนกำหนดเอง อยากให้ชีวิตสบาย อยากให้แม่สบาย ตอนนี้มีแม่ที่คอยเลี้ยงดู คิดเสียว่า สักวัน เราต้องตอบแทน คนที่อยู่ให้เราตอบแทน สักวัน คุณพ่อ จะต้องเข้าใจ และรับผลในสิ่งที่เขาทำอยู่แล้ว ต้องเลือกเอาสิ่งไหนมาคิด ว่าสิ่งนั้น ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือแย่ลง อยู่ที่ตัวเรากำหนด... ไม่มีคำตอบสำหรับหัวข้อกระทู้ แ่ต่มีทางออกในการดำเนินชีวิตที่สมควรจะทำครับ สุดท้ายเป็นกำลังใจให้ครับ อย่ายอมแพ้ เราเป็นคนกำหนดชีวิตของเราเอง!! จากคุณ : Nirvanastream.com (สวรรค์รำไร) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 00:47:03

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณทุกคำชี้นำและกำลังใจค่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 09:39:29 A:84.19.169.232 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 53 ในฐานะที่เป็นลูกผู้หญิงเหมือนกันแล้วตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เราว่ามันต้องเจ็บปวดมากๆทีเดียวค่ะ เข้าใจความรู้สึกเลยคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เรื่องราวร้ายๆมันผ่านไปแล้วต่อไปนี้ขอให้เจอแต่เรื่องดีๆนะคะ ปล..ไม่ได้อยากจะอ้างอิงถึงความเห็นใครๆเลยนะคะ แต่อ่านแล้วมันติดใจนิดนึง จาก ความคิดเห็นที่ 5     เข้ามาอ่าน ครับ จะเกิดเป็นลูก หรือ เป็นพ่อ ถ้ามันจะเกิด เป็น พ่อลูก กัน ชาติ ต่อไป มันขึ้นอยู่กับ หลายๆ ปัจจัย ครับ ยังไงๆ ก็ลืมๆ มันไปนะครับ รักษาตน อารมณ์ดีๆ หาความสุขให้กับ ตัวเอง นะครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR     เราอยากทราบว่าเรื่องราวเล่านี้อ่านแล้วมันขำตรงไหนอ่ะคะ ถ้าเข้าใจความหมายของคุณผิดไปเราขออภัยด้วยนะคะ จากคุณ : ห้องนี้ศรีนวล เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:37:39

ความคิดเห็นที่ 54 มาโอบกอด   มาปลอบใจ... เมื่อเล่าจบ    ก็ตัดทิ้งไป    แค่อดีต    เมื่อไหร่ที่เราทำเฉยๆ  ต่อสิ่งที่อยากลืม.......วันนึง  ....เราก็ลืมมันไปเอง..... เมื่อไหร่ที่คุณอภัยได้....คุณจะเบา  โล่ง  สบาย.....เอาใจช่วย  ให้คุณหลุดพ้นจากความแค้น  ความอาฆาต   ความเจ็บปวดโดยเร็ว..... อาจารย์ปู่ฤาษีคัมภีร์...  เคยเมตตาสอนไว้ว่า...ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน   แค่เชิดหน้า  แล้วเดินต่อไป    ตั้งมั่นในสิ่งที่ดี  ธรรมที่เหมาะสม   ต่อไปนี้เราก็จะพบกับความสุขได้...... จากคุณ : หญิง (น้องหญิงอนัตตา) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:10:21

ความคิดเห็นที่ 55 ... แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 13:11:49 จากคุณ : tawansu เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:03:54

ความคิดเห็นที่ 56 จบไปแล้วก็ดี อย่าไปโกรธอย่าไปคิด จะเป็นเชื้อให้ผูกพันกันไปอีกในภพหน้า จากคุณ : พวงไสว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:54:53

ความคิดเห็นที่ 57 ยกให้เจ้าของกระทู้ไปเลย... จากคุณ : หญิง (น้องหญิงอนัตตา) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:02:31

ความคิดเห็นที่ 58 คห.49 ฉันไม่ได้บอกว่า สิ่งที่ฉันทำ คือความดีสักนิดนะ ฉันแสดงทัศคติของฉัน ไม่ได้เที่ยวสอนใครให้เชื่อตาม ไอ้ที่เที่ยวว่าคนอื่นหยาบ คิดว่าตัวคุณดีเลิศแล้วหรือไง ฉันไม่ได้เชื่อเหมือนคุณ แปลว่าฉัน เลว งั้นหรือ ตรรกะแบบนี้ คนดี งั้น???? ..... จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:28:33 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 59 ดีจังที่ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ขอให้มีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิตคะ จากคุณ : ผึ้งน้อยafet เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:38:36

ความคิดเห็นที่ 60 และที่คุณเที่ยวอวดอวตาร สอนคนอื่น คิดว่าทำความดีอยู่หรือไง ตลก อยากจะสอนใครก็สอนไป ไม่ต้องมาสอนฉัน ต่างคนต่างใช้สิทธิ์ออกความเห็นของตัวเอง ฉันยังไม่ได้ไปก้าวก่ายอะไรกับสิ่งที่คุณพล่ามนั่นเลย เชิญนั่งยานขึ้นสวรรค์ หรือลงนรกอะไรของคุณไปคนเดียว จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:41:01 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 61 ส่งหนึ่งกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : Be Happy ja เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:58:44

ความคิดเห็นที่ 62 จะเอาชนะคะคานกันไปทำไม หยุดสร้างกรรมต่อกันดีกว่าครับ เชื่อตัวเองก็ดี เชื่อศาสนาก็ดี หากคิดดี ทำดี พูดดี ก็ย่อมดีแล้ว จากคุณ : ปึงเจ็กตี่ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:58:53

ความคิดเห็นที่ 63 ในที่สุดก็แสดงสะนดานต่ำๆ ซา มๆ ออกมาจนได้ ก็ทะลึ่งแกมดัดจริต...เล่าเรื่องว่าทำโน่นนั่นนี่   (แถมว่าแบบเป็นหมู่คณะว่า  "กับสามี"  ด้วยนะ) แล้วทิ้งท้ายว่าไม่หวังสิ่งตอบแทน ถ้าไม่รับว่าอวดอ้างความดีก็ ...สตอร์เบอแหล..แล้วล่ะ มันช่างน่าทุเล..ส ผสมสมเพชจริงๆ กิเลสหยาบๆ ในขันธสะนดาน ขย่อนออกมาจนไปรดคนอื่นแล้ว แต่ด้วยความที่จิตใจหยาบซา..ม จึงไม่รู้ตัว ก็ในเมื่อยืนยันมาเองว่า ไม่เคยทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วทำไมทะลึ่ง ดูหมิ่นเหกมารวมว่า คนอืนที่นับถือศาสานาว่ามีจิตใจอ่อนแอ การนับถือศาสนาเป็นแค่ความเชื่อ เพราะประโยคดังกล่าวจ้วงจาบคนระดับ  พระมหากษัตริย์ ยันขอทาน เมื่อมีคนมาโต้ตอบ ยังด้านยกหนังหน้าไร้ยาง   อ้างการใช้สิทธิในการออกความเห็นอีกหรือ   คุณนี่มัน "เล..ว"  ยกกำลัง 2  จริงๆ เลย ผมไม่ได้คิดจะสอนใครเลยตั้งใจจะตอบความเห็นห่วยๆ ซา..มๆ เท่านั้น (ประโยคไหนรึที่เป็นคำสอน.?,  โง่ยังพอให้อภัย แต่เล..วนี่ต้องมาว่ากัน) หรือต้องมีจิตใจหยาบซา..ม แบบที่คุณทำอยู่จึงเรียกว่าแข็งแกร่ง จริงๆ แล้ว มันก็เรื่องของคุณนะ ที่จะไม่นับถืออะไร แต่อย่ามาเสนอหน้าเห่าหอนดูหมิ่นคนอื่นว่า อ่อนแอ  ใช้ความความเชื่อในการเคารพนับถือ หมา  แมว  ตัวเงินตัวทอง ตะกหวด เอี๊ย + สรรพสัตว์ทั้งหลาย มันก็คงไม่นับถืออะไรเหมือนกัน ตายไปมันก็ทิ้งซากศพของมันเช่นกัน แต่มันก็ไม่เล วะ ซา..ม โง่ หยาบ เอาความ ทะเลส ของมันมากล่าวดูหมิ่นคนอื่น มีประโยคไหนหรือที่บอกว่า ไม่เชื่อเหมือนผมแล้วเป็นคนเลว แต่ผมเป็นคนเลวแน่ๆ ถ้าเจอคนต่ำซา..ม  แบบคนอย่างคุณ สุดท้ายก็ขอส่งดาบคืนละกัน อ่านจบแล้วก็  รีบๆ ไปลงนรก..อย่างที่คุณแนะนำซะนะ จะได้ไม่ไปเที่ยวว่าคนในสังคมอื่นๆ แบบมั่วๆ เช่นนี้อีก เล..วๆ  แบบนี้ มหาอเวจีคงเป็นที่หมายซิท่า แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 17:10:24 จากคุณ : Zoyue เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:08:19

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ คห.62 ขออภัยค่ะ ก็เขา ทะลึ่ง มาด่าฉันก่อนทำไม ฉันก็ไม่ได้คิดจะเอาชนะคะคาน กับใคร อยู่แล้ว แต่ที่ต้องตอบ เพราะฉันไม่ชอบ พวกอวดดี หลงตัวเอง แล้วเที่ยวด่าคนอื่นที่ไม่คล้อยตามความเชื่อของตัว ถึง คห.49 อีกครั้งนะ ความรู้ฉันไม่สูง แต่ฉันแยกแยะได้ ระหว่างความเชื่อกับความจริง ..... จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:10:18 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 65 รู้จักขออภัยด้วยรึ ใครกันแน่ที่ด่าคนอื่นก่อน ด่าแบบยกสังคมเลยด้วย จากคุณ : Zoyue เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:15:05

ความคิดเห็นที่ 66 อ่อ...กลับมาต่อรึ คห.63 พล่ามซะยาวเชียว ตะบะแตกเลยหรือ คนดี... เหอะๆ ฉันอ่านไม่หมดหรอกนะ ถ้อยคำของคุณ มัน หยาบ กว่าที่คุณด่าฉันอีก ลงท้าย ที่ด่าฉัน คุณตักน้ำใส่กะโหลชะโงกดูหน้าตัวเองด้วย จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:15:08 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 67 ฉันรู้จัก ขออภัย ก็เฉพาะ กับคนที่คิดดีและทำดีจริง แต่คนแบบ คห.65 น่ะ ชาตินี้ไม่มีคำขออภัยจากคนอย่างฉันหรอก จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:16:45 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 68 ในอดีตชาติ จขกทและคุณพ่อ (รวมทั้งคุณแม่และพี่ๆ) คงต้องทำกรรม (ไม่ดี) ร่วมกันมากับคุณพ่อ ถึงได้เกิดมาเจอกัน เป็นคู่เวร คู่กรรมกัน เพียงแต่คุณแม่คุณจากโลกนี้ไปก่อน จึงไม่ต้องทุกข์ทรมานนานหลายๆปี การพบกัน หรือการได้อยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะในสถานะใดก็ตาม ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ถูกลิขิตไว้แล้ว ทำให้หนีกันไม่พ้น อย่างไรก็ต้องเจอกัน หากเป็นกรรมเก่าที่ทำดีไว้ต่อกัน ก็นำความสุข การเกื้อหนุนกัน หากเป็นกรรมเก่าที่ทำไม่ดีไว้ต่อกัน ก็นำมาแต่ความทุกข์ ความเดือดร้อนใจไม่สิ้นสุด จนกว่าจะหมดเวร หมดกรรมกัน จขกทและคุณพ่อได้หมดเวร หมดกรรมกันแล้ว ขอให้ที่เหลือของชีวิต จขกท ศึกษาธรรมะให้มากๆจะได้เปิดใจให้ยกโทษให้ท่านได้อย่างไม่มีข้อแม้ ยกโทษให้ท่านได้อย่างเต็มหัวใจเมื่อไหร่ จขกท จะสามารถ "ให้อโหสิกรรม" ต่อท่านด้วยความเต็มใจและจริงใจ หากสามารถใส่บาตรได้สะดวก ก็จะเป็นการดี ใส่บาตรเสร็จ (หรือจะทำสังฆทานก็ได้) ก็กรวดน้ำ อุทิศกุศลให้ทั้งท่านและคุณแม่ ยามสวดมนต์ ภาวนา ก็ขออุทิศบุญ กุศลที่ทำไว้ให้ท่าน (เอ่ยชื่อด้วยก็ดีค่ะ) ขอให้ท่านทั้งสองได้ไปสู่ที่สุขคติ หากต้องเกิดมาเจอคุณพ่ออีก (ทั้งที่ไม่อยากเจอนั่นแหล่ะ แต่ใครเล่าจะกำหนดได้) ก็ขอให้เกิดมาเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อย่าได้สร้างเวร สร้างกรรมต่อกันอีกในภพหน้า หมั่นสวดมนต์ รักษาศีล ฟังธรรม (ไม่จำเป็นต้องไปที่วัด หากไม่สะดวกหาซื้อ CD ก็ได้ค่ะ) ภาวนาพุทธโธ ให้เป็นนิสัย อุทิศบุญ กุศลให้ท่านทั้งสองเป็นประจำ ใจคุณจะร่มเย็น เป็นสุข และให้อโหสิกรรมที่คุณพ่อทำไม่ดีไว้กับคุณ ได้อย่างสะดวกใจ กุศลผลบุญเหล่านี้จะทำให้...หากต้องพบกันอีกในชาติหน้า ...ก็จะเป็นการพบที่เป็นด้านบวกค่ะ ขอให้คุณโชคดี และมีดวงใจที่เปิดกว้างเพื่อการให้อภัยนะคะ เห็นใจคุณและเอาใจช่วยคุณค่ะ จากคุณ : หลง หลง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:22:31 A:158.34.240.23 X: TicketID:329794

ความคิดเห็นที่ 69 หยาบให้สมกับที่คุณแสดงออกมาไง สำหรับคนที่เที่ยวกล่าวหาคนทั้งสังคม มันสาสมแล้วแหละ จากคุณ : Zoyue เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:23:29

ความคิดเห็นที่ 70 ที่ฉันมาแสดงความคิดเห็น เพราะเดิมกระทู้นี้ ตั้งอยู่ในห้องสังคม ต่อไปนี้ก็เชิญ วิปัสนา กันในห้องศาสนาของคุณ ฉันไม่มาต่อความ กับคนจมอยู่กับความเชื่อ จากคุณ : .... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:24:10 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 71 อ่อ...ขอแย้งนะ เรื่องที่มาด่าฉันว่า เที่ยวกล่าวหาคนทั้งสังคม ตรงไหนกัน ความเห็นส่วนตัวของฉัน ที่ว่า ศาสนา เป็นความเชื่อ อันนี้หรือที่ว่าฉันกล่าวหา หรือที่ฉันบอกว่า คนมีจิตใจอ่อนแอเท่านั้นที่ต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ มันตรงไหนที่ฉันมีความเห็นของฉันแบบนี้ ในเมื่อมันก็มีคำกล่าวอยู่ไม่ใช่หรือว่า "ศาสนาคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ" ก็ถ้าคนมีจิตใจที่เข้มแข็งแล้ว จะต้องไปหาที่ยึดเหนี่ยวอยู่ทำไมล่ะ และที่เห็นๆ มา มันใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่คนเราพอมีปัญหาทางจิตใจ ก็วิ่งเข้าหาศาสนาเป็นที่พึ่ง แล้วฉันไปกล่าวหาคนทั้งสังคมตรงไหน ฉันบอกว่าฉันไม่มีความเชื่อ นี่มันแปลว่า ลบหลู่ เลยหรือไง คนที่ยืนชี้หน้าคนอื่นว่าเป็นคนเลวและสาบแช่งเขา ฉันก็คิดว่ามันไม่ใช่คนดีเหมือนกันล่ะ จากคุณ : ....... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:54:22 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ Zoyoe พอเถอะค่ะ เราว่าคุณ TicketID:332795 เขาไม่ได้เหมารวมอะไร เขาก็แค่แสดงความคิดเห็นของเขา เราเห็นต่างก็ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจอะไรเลย เราเองมีศาสนาึค่ะ จะด้วยยเหตุผลอะไรก็เรื่องของเรา ส่วนที่เขาไม่เชื่อไม่มี มันก็เรื่องของเขา ต่างคนต่างอยู่จะเป็นไร นี่มันกระทู้นะคะ คิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย? เข้าส่วนกระทู้ เราแนะนำให้เจ้าของกระทู้แผ่เมตตาเยอะๆค่ะ ถ้าคุณเชื่อในศาสนาพุทธ คุณตั้งใจภาวนา กรวดน้ำแผ่เมตตาให้กรรมหมดต่อกันจะได้ไม่ต้องเจอ ถ้าคุณเชื่อในศาสนาคริสต์ ก็สวดมนต์ ถาวนาถึงพระเจ้าค่ะ หรือ ถ้าคุณไม่รู้จจะเชื่ออะไรดี คุณเชื่อตัวเอง ว่าชีวิตนี้คุณทำดีแล้ว ชาติหน้ามีจริงหรือไม่มีเรายังไม่รู้เลยค่ะ อย่าเอาความคิดพวกนี้มาทำให้ตัวเองทุกข์เลย เรื่องผ่านไปแล้วก็จบไปค่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:19:35

ความคิดเห็นที่ 73 ขออภัยเจ้าของกระทู้ ความเห็นตองฉัน แค่เป็นแนวทางหนึ่งของคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ปล่อยให้ความเชื่อมาทำร้ายตัวเอง ก็เท่านั้น เวลานี้คุณทุกข์เพราะอะไร ทั้งที่เรื่องราวมันก็ผ่านมาแล้ว คุณทุกข์ เพราะความเชื่อ ใช่หรือไม่ ฉันเองก็เจอประสบการณ์เลวร้ายที่ฝังใจเหมือนคุณ แต่ปัจจุบันฉันมีความสุข อยู่กับจิตใจที่เข้มแข็ง ฉันไม่รักคนที่ทำให้ฉันเกิดแล้วพยายามจะข่มขืนฉัน ฉันไม่ทำสิ่งที่เรียกว่า ความดีตอบแทนเขา ฉันก็ไม่มานั่งวิตกกังวลว่า ตายไปแล้วฉันจะตกนรก เพราะฉันไม่เชื่อ แต่ถ้าคุณจะหาทางแก้ไข ดับทุกข์ของคุณด้วยความเชื่อ ฉันก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร แค่อยากให้สติ ว่าอย่าให้ความเชื่อมาทำลายชีวิตคุณมากไป ก็เท่านั้นเอง ....... จากคุณ : ........ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:47:39 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 74 ถ้่เป็นเรื่องจริงก็น่าสงสารมาก บุคลิกของพ่อช่างขัดแย้งสุดขั้วเลย จากคุณ : Peach Gummy เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 19:40:02

ความคิดเห็นที่ 75 เเนะนำให้อ่านหนังสือพุทธธรรมของท่าน ปอ ปยุตโตครับ สิ่งที่เป็นเนื้อเเท้ของพระพุทธศาสนา ปล่อยวางครับ ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติ อย่าไปยึดติดกับความผูกพันในโลก จากคุณ : ปลายธันวา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:11:53

ความคิดเห็นที่ 76 ช่างคล้ายกระทู้เก่าที่ห้องสวนลุม หรือห้องไหนซักห้องที่ผมเคยอ่าน จำไม่ชัดว่า คนถามยอมรับว่าแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อฝึกเขียนนิยายหรืออะไรนี่แหละครับ ไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้นี้นะครับแค่นึกถึงครับ เข้ามาเพิ่มเติม คือคล้ายในเรื่องพ่อกระทำกับลูกครับ แต่รายละเอียดไม่เหมือน เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 54 22:04:54 จากคุณ : countdown เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:20:24

ความคิดเห็นที่ 77 เจ้าของกระทู้คะ กรุณาตอบด้วยว่า นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคุณใช่ไหมคะ รบกวนตอบด้วย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:47:56

ความคิดเห็นที่ 78 ฉันคิดว่า ผู้หญิงคนไหน แต่งเรื่องว่าพ่อตัวเอง ข่มขืน หรือ ลวนลามตัวเอง อย่างไม่เป็นความจริงได้ ฉันขอบอกว่า เป็นคนที่เลวบัดซบ ค่ะ สมควรที่จะได้รับการประนามอย่างยิ่ง ....... จากคุณ : ....... เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 22:02:43 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 80 จากที่บอกว่าทำสังฆทาน น่าจะนับถือศาสนาพุทธใช่ไหมคะ :) นอกจากจะทำทาน สวดมนต์ ทำสมาธิแล้ว ก็อยากแนะนำให้ศึกษาธรรมะเพิ่มเติมต่อไปอีกค่ะ ถ้าคุณเป็นคนที่พบเจออะไรที่ทุกข์มามากๆแล้ว อาจจะพิจารณาอริยสัจ 4 ได้ถ่องแท้ยิ่งขึ้นค่ะ และถ้าเมื่อไรรู้สึกว่าเป็นทุกข์ ไม่สบายใจ อยากให้มองความทุกข์เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ค่ะ ขอให้บุญรักษานะคะ :) - - - - - - ปล.ขอโทษนะคะ แต่ข้องใจอะไรบางอย่าง ไม่ได้จะจับผิดนะคะ แค่อ่านแล้วมันเอะใจ 1.>>พวกเราบากหน้าไปขอเงินพ่อ ต้องขับมอเตอร์ไซด์ กว่า 50กิโล เข้าไปในป่าเขา เพื่อขอเงินพ่อมาเรียนหนังสือต่อ พ่อจะให้มาเงินพอกินต่อสัปดาห์ มื้อละ 10 บาท และต้องขับไปหาพ่อทุกสัปดาห์ : ตอนนี้เจ้าของกระทู้อายุเท่าไหร่คะ... คือ อยากรู้ค่าน้ำมันน่ะค่ะ :P (อ่านแล้วแอบงงๆนิดหน่อย เรื่องรายรับรายจ่ายของคุณ) 2.>>พ่อไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทานมังสวิรัติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ "เขียน"หนังสือธรรมะเป็นเล่มๆ แจกจ่ายให้เพื่อนๆ :การกระทำข้างบนนี้ พ่อคุณทำช่วงท้ายๆของชีวิตใช่ไหมคะ มันขัดกับข้างล่างนี้มากๆเลยนะคะ >>คืนสุดท้ายที่คุยกับพ่อ ปกติเราคุยกันไม่กี่คำอยู่แล้ว แต่นี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราติดต่อกัน คืนนั้น พ่อพยายามจะลวนลามเราอีก พ่อบังคับใจเรามาก จนเราทนไม่ไหว เราขัดขืนพ่อ พ่อโกรธมาก ปิดประตูเสียงดัง เดินออกไปนอนที่อื่น :เรื่องอื่นๆ. พ่อคุณอาจจะปฏิบัติเพียงผิวเผิน ไม่เอะใจอะไร ถ้าพ่อคุณยังหลงมัวเมาในกามอยู่ มาก ...แต่ถ้าถึงขั้น "เขียนหนังสือธรรมะเป็นเล่มๆ" ...แจก...ได้แล้ว มันขัดกับการกระทำในคืนสุดท้ายที่คุณเจอกับพ่อมากๆนะคะ พ่อคุณเขียนเอง หรือพิมพ์แจกคะ ถ้าเขียนเอง... จุดนี้เราไม่เชื่อจริงๆ ว่าพ่อคุณจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ จากคุณ : chom-l.t เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 23:15:56

ความคิดเห็นที่ 81 เจอกระทู้แล้ว แต่จริงๆแล้ว ผมจำผิดคิดว่า เจ้าของกระทู้เรื่องเก่ายอมรับ แต่จริงๆแล้วอืมครึมอยู่ครับ http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/08/L9555901/L9555901.html ถ้าจริงคุณเจ้าของกระทู้ทั้งสอง น่าสงสารมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : countdown เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 23:27:21

ความคิดเห็นที่ 82 เพราะเรื่องแบบนี้ มันเล่าให้คนในชีวิตจริง ที่พบเห็นหน้าค่าตากันจริงๆ ฟังไม่ได้ เล่าแล้วจะมองหน้ากันได้หรือเปล่า ไม่รู้...... อินเตอร์เน็ต คือ ช่องทางหนึ่ง ที่คนมีทุกข์แสนสาหัสแบบนี้ได้ระบายออก เพราะไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตาเขา จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ช่าง เขาไม่ได้สนใจ แต่คนไม่เชื่อ แล้วยังไปกล่าวหา ว่าเขาแต่งเรื่องใส่ร้ายพ่อ ช่างไม่นึกเห็นใจเขาบ้างเลยนะ ความรู้สึกของคนที่โดนกระทำ มันก็เจ็บปวดฝังใจมาเนิ่นนานแล้ว รู้สึกผิดบาปที่ไม่รักแถมยังเกลียดพ่อตัวเอง มันก็สาหัสแล้ว จะแต่งเรื่องสร้างบาปให้ตัวเอง เพื่ออะไรกัน มีใครรู้จักเขา มีใครรู้จักพ่อเขา หรือก็เปล่า เรื่องของฉัน ก็ไม่เคยเล่าให้อดีตสามีคนไทยฟัง เพราะรู้ว่า นิสัยผู้ชายไทย รังเกียจผู้หญิงที่มีราคี แต่ทุกวันนี้ฉันมีมีความสบายใจที่สุด ที่ได้เล่าให้สามีในปัจจุบันฟัง ซึ่งเขาทั้งโกรธและเห็นใจฉัน และบอกฉันว่า ฉันไม่ผิดและไม่ได้เป็นคนเลวเลยที่ไม่รักพ่อ และสามีบอกฉันว่า ถ้าฉันมีความสุขที่จะไปกราบพ่อ ก็ทำไป แต่ถ้าต้องไปทำอย่างฝืนใจ มันก็ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้มาเล่าเพื่อระบาย หรือต้องการความเห็นใจจากใคร แต่ฉันแสดงความเห็น เพราะเห็นใจคนที่ถูกกระทำเหมือนฉันอย่าง จขกท. ที่ยังไม่พ้นความทุกข์ เพียงเพราะความเชื่อ กลัวว่าจะต้องพบเจอพ่อชาติหน้า ชาติโน้น ทุกข์เพราะความเชื่อล้วนๆ ในขณะที่ฉัน ที่เคยเจอเรื่องร้ายๆ เหมือนกัน กลับมีความสุขและภาคภูมิใจในตัวเอง ด้วยความคิดที่ว่า กรรมใดใครก่อ กรรรมนั้นย่อมคืนสนอง ผู้ชายที่เคยทำร้ายลูกตัวเอง วันนี้เขาก็ได้รับผลกรรมของเขา ที่ลูกเขาไม่รักไม่นับถือ สมควรแล้วใช่หรือไม่ ....... จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 00:15:34 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 83 จขกท นะคะ @@ เรื่องจริง ไม่จริง@@ เรื่องที่เล่ามา เป็นความจริงค่ะ เราไม่เคยเล่นกับความรู้สึกใคร ไม่เคยสร้างตัวตนใหม่เพื่อเรียกร้องความสนใจหรือเล่นตลกกับความรู้สึกใคร @@ใช่ คนจากกระทู้นั้นหรือปล่าว @@ ไม่ใช่ค่ะ @@ ไม่น่าเชื่อ เรื่องพ่อขึนใจลูก @@ เราพบว่า ผู้ชายหลายคน ไม่เชื่อว่า เรื่องแบบนี้มีจริง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก เพียงแต่ไม่มีใครพูด เพราะมันพูดไม่ได้ ผู้ชายที่อันตรายที่สุด คือคนภายในบ้าน ไม่ใช่แค่สมัยนี้ เรื่องแบบนี้มีมานานแล้ว @@ ทำไม ต้องรู้ว่า เรื่องจริง ไม่จริง เป็นใคร มาจากไหน@@ พันทิปก็เป็นเพียง โลกสมมุติ ทุกคนไม่มีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่า บัตรผ่าน หรือมีล็อกอิน ทำไมต้องพิสูจน์ว่า เรื่องจริงหรือปล่าว ใช่คนนั้น คนนี้หรือปล่าว IPนี้ อยู่ตำแหน่งที่ไหน ใช่กระทู้นั้นหรือปล่าว ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วยังไงต่อ? ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง แล้วจะเป็นยังไง? เราก็สิงในพันทิปมานาน อ่านเรื่องราวของผู้คน ไม่เคยคิดถาม ว่า เรื่องจริงหรือปล่าว รู้แล้วจะได้อะไร พิสูจน์เพื่ออะไร อ่านชีวิตคนอื่นแล้วกลับมามอง ปรับปรุงตัวเอง อ่านผ่านๆไป ทั้งสนุก เศร้า หลากหลายอารมณ์ ที่ไร้สาระก็ผ่านไป ที่มีความรู้ คำแนะนำดีๆ ก็เก็บไว้ ด่ากันไปเพื่ออะไร เถียงกับใครไม่รู้ เหมือนตบตีกันใน ความว่างเปล่า เก็บมาเป็นอารมณ์ทำไม? ถ้าใครไม่ได้มาขอเงิน ขอบริจาค พยายามติดต่อเพื่อผลประโยชน์ หรือสร้างความขัดแย้งทางสังคม การหมิ่นประมาท เราไม่เคยสนใจว่า ทุกกระทู้เป็นเรื่องจริงหรือปล่าว โลกที่แท้จริง ตัวตนที่แท้จริงนั้นขาดอิสรภาพเพียงพออยู่แล้ว ขออิสรภาพที่แท้จริง บน โลกสมมุตินี้ ไม่ได้หรือไร?? "เราไม่ได้กวนนะคะ ไม่ได้เถึยงใครในกระทู้นี้" จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 02:09:47 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 84 @@ ตอบคุณ chom-l.t @@ 1.>> เรื่องราวนั้นผ่านมานานแล้ว ไม่บอกอายุได้ไหม จำไม่ได้ว่า น้ำมันราคาลิตรละเท่าไหร่ อดบ้าง กินบ้างค่ะ 2.>> พ่อไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ทานมังสวิรัติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ มานานแล้วค่ะ ตั้งแต่เราจำความได้ แต่พ่อไม่เข้าวัด หนังสือธรรมะ พ่อเขียนเอง พิมพ์เอง เราเป็นคนเย็บเล่มให้ เราก็ไม่ทราบว่า ทำไมพ่อเป็นแบบนี้ ทำไมพ่อถึงทำร้ายจิตใจ ทุกคนในครอบครัว จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 02:34:37 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 85 ^ ^ ^ โลกที่แท้จริง ตัวตนที่แท้จริงนั้นขาดอิสรภาพเพียงพออยู่แล้ว ขออิสรภาพที่แท้จริง บน โลกสมมุตินี้ ไม่ได้หรือไร?? ^ ^ โดนค่ะ จากคุณ : ..... เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 02:39:48 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 86 @@ ชาติก่อนและชาติหน้า @@ เราไม่รู้ว่า ชาติก่อนหรือชาติหน้า นั้นมีอยู่จริงหรือไหม การเสียเงินเสียทองมากมายเพื่อทำพิธีกรรมต่างๆนั้น เราไม่เชื่อ แต่ กฎแห่งกรรมและคำสอนในศาสนาพุทธ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเรา ให้รู้จักให้อภัย ปราศจากความพยาบาท หรือต้องการแก้แค้น ทำให้สบายใจในชีวิตประจำวัน ทำให้พยายามทำดีในทุกๆวันกับทุกคน ระมัดระวังความคิด คำพูด ไม่ให้สร้างบาปอีกต่อไป ใครเชื่อไม่เชื่อ เราไม่คิดจะแย้ง เพราะเป็นสิทธิส่วนตัว ความเชื่อส่วนบุคคล ***ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำชี้แนะ และให้กำลังใจนะคะ*** อย่าทะเลาะกันเลย :) จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 02:50:12 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าความเชื่อของคุณ มันคือ หนทางที่ทำให้คุณพ้นทุกข์ ก็ย่อมไม่ผิดอยู่แล้วค่ะ ฉันไม่เคยลบหลู่ความคิดความเชื่อของใคร และฉันไม่เคยคิดอยากจะทะเลาะกับใคร แต่ถ้าใครมารังแกฉันสู้คน แค่นั้นแหละ เมื่อคุณพบทางพ้นทุกข์แล้ว ฉันก็ยินดีด้วย สวัสดีค่ะ จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 02:58:46 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 88 สมมติว่าไม่มีพ่อ ตอนนี้คุณจะโทษใคร?? เด็กบางคนเกิดมาไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีให้คนให้เขาโทษว่า ชีวิตเขาไม่ดีเป็นเพราะพ่อ ชีวิตไม่ดีเป็นเพราะแม่... สู้สิ่คะ ^^ ถ้าพ่อไม่ดี ก็คิดเสียว่า ไม่มีพ่อ.. แต่อย่าไปผูกใจเจ็บแค้น เพราะการผูกใจเจ็บนี่แหละ มันคือ "เส้นพันธะ" ที่จะทำให้คุณกับเขา ต้องเกิดมาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันหลายๆชาติภพไม่รู้จบ จากคุณ : mooesha เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 03:14:40

ความคิดเห็นที่ 89 คห.88 ถามผิดประเด็นหรือเปล่าคะ กระทู้นี้ ไม่มีใครโทษพ่อ โทษแม่ ทำให้เป็นคนไม่ดีนะคะ ทั้ง จขกท. เขาก็บอกอยู่ว่า ไม่ต้องโกรธแค้น แต่ต้องการตัดไม่ต้องพบเจอกันอีก ในชาตินี้และต่อๆ ไป คำว่า ผูกใจเจ็บแค้น กับ ฝังใจจำ มันไม่เหมือนกันนะคุณ และยังไม่มีใครบอกว่า ผูกใจเจ็บแค้น อย่างที่คุณว่ามาเลยนะคะ ทั้ง จขกท. และ ฉันในฐานะที่เคยมีประสบการณ์เหมือนกัน ต่างเลือกทางพ้นทุกข์ของตัวเอง ด้วยความคิดและความเชื่อที่ต่างกัน มันก็แค่นั้นเองค่ะ จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 04:08:50 A:79.232.181.39 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 90 เรื่อง จขกท ก็ได้คำตอบ จาก คนห้องศาสนา หลายท่านแล้ว ขอคุย กับ  คุณ 332795 หน่อยดีกว่า .. จาก..  ๑ ศาสนา เป็นเรื่องของความเชื่อ     คนที่จิตใจอ่อนแอ เท่านั้น ที่ต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และ...  ๒ เรื่องของฉัน ก็ไม่เคยเล่าให้อดีตสามีคนไทยฟัง เพราะรู้ว่า นิสัยผู้ชายไทย    รังเกียจ ข้อ แรก ผมมั่นใจ ว่า คุณ กับ สามี เป็นคนไม่มีศาสนา...                ซึ้ง มันไม่ผิด หรอก...                เพียงแต่คุณ ออกจะ กล่าวหา คน อีก มากกว่า ครึ่งโลกว่า มีจิตใจ                          อ่อนแอ นะครับ... ข้อสอง  อันนี้ คุณกำลังดูถูก คนมากกว่า ๓๐ ล้านคน ครับ..                ผู้ชาย ไทยหลายคน อาจมีอติ ในเรื่องผู้หญิงที่มีราคี              แต่ผมเชื่อว่า หลายคนไม่มีอติเรื่องนี่... แม้แต่ ชายต่างประเทศ ผมก็ไม่เชื่อว่า ทุกคนไม่มีคติ นะครับ... จากคุณ : Jedcon เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 07:29:12

ความคิดเห็นที่ 91 เห็นได้ว่าแม้แต่พระที่คิดว่าปฎิบัติดี ยังถูกจับสึกก็มากต่อมาก คุณเจ้าของกระทู้กลับมาตอบ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริงครับ จากคุณ : countdown เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 07:51:34

ความคิดเห็นที่ 92 เคยเกลียดพ่อตัวเองเหมือนกันค่ะ เกือบถูกลวนลามทางเพศเหมือนกัน เคยสาปส่งพ่อด้วย ทว่า มาถึงบัดนี้ เมื่อย้อนนึกกลับไป รู้สึกสงสารที่พ่อเป็นคนแบบนั้น ชีวิตมีแต่ความรุ่มร้อน เต็มไปด้วยโมหะ พ่อคงไม่มีความสุขนักหรอก ทุกวันนี้ คิดตลอดว่าถ้าชาติหน้ามีจริง ขอเกิดเป็นลูกของแม่คนนี้อีก จะทำให้แม่มีความสุขมากที่สุด เพราะชาตินี้ รู้สึกว่าตัวเองยังทดแทนบุญคุณแม่ไม่พอ จากคุณ : wanalee เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 10:45:07

ความคิดเห็นที่ 93 ต้องบอกก่อนว่าเ้จ้าเอยจำคนอื่นมาอีกที มีคนบอกว่าคนเราจะเกิดมาร่วมชาติ ร่วมรู้จักกันได้นั้น ต้องเคยมีกรรมบางอย่างผูกพันธ์ฺกันมา เพราะในโลกนี้มีคนเป็นล้าน เหตุใดเราจึงต้องมารู้จักพบเจอ ผูกพันธ์ทางสายเลือดกับคนเพียงไม่กี่คน เหตุน่าจะมาจากกรรมเก่าที่ติดค้างกันอยู่ ดังนั้นหากอยากให้หมดสิ้นกรรมต่อกัน จงอย่าถือโกรธให้อโหสิกรรม ขออย่าได้จองเวรจองกรรมผูกใจพยาบาท ให้เรื่องราวจบลงเพียงชาตินี้ ระลึกไว้เสมอว่าจะเลิกแล้วต่อกัน กรรมใดที่เคยผูกกันมาก็ขอให้จบลงให้สิ้นเพียงเท่านี้ ขออภัย และขออโหสิกรรมต่อกัน ขออย่าได้ผูกพันธ์ตามจองเวรจองกรรมกันอีกเลย เท่านี้หละคะ ที่เจ้าเอยเคยรู้มา เวลากรวดน้ำ ขอพรพระก็ลองอธิฐานจิตแบบนี้ดูนะคะ จากคุณ : เด็กหญิงเจ้าเอย เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 10:54:51

ความคิดเห็นที่ 94 ลืมครับ ลืมมันให้หมดไปจากใจ รู้ว่ามันยากแต่อภัยเท่านั้นจริงๆที่จะทำให้เราอยู่อย่างเป็นสุขได้ จากคุณ : banarm เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 10:58:07

ความคิดเห็นที่ 95 น่าเห็นใจ และน่าสงสารมากจริงๆ กับชีวิตในวัยเด็ก แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ขอให้คิดว่าปัญหาอุปสรรค์ที่ผ่านมาคงช่วยให้คุณเป็นคนแข้มแข็งระดับหนึ่ง และคุณยังมีความดีที่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา และยังมีเงินช่วยไปถึง20000บาท ดิฉันคิดว่า คนที่คุณกล่าวถึง เขาอาจจะมีอาการเหมือนคนป่วยทางจิตอย่างรุนแรง ที่เขาไม่สามารถบังคับควบคุมให้ตัวเองเป็นคนดีได้ ดูจากที่เขาพยายามศึกษาธรรม ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าจิตใจเขาเป็นยังไง แต่ฉันเชื่อว่าไม่มีใครอยากเกิดเป็นคนเลว อโหสิกรรม ให้อภัย เลิกแล้วต่อกัน แล้วจะเป็นผลดีแก่ตนเองค่ะ จากคุณ : เรนโบว์สายรุ้ง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:09:09

ความคิดเห็นที่ 96 อดีตที่ผ่านมา เราไม่สามารถไปแก้ใขอะไรได้ เราต้องยอมรับมัน ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆทุกชนิด ถ้าเรายอมรับมันได้ก๊สบายใจ เราอยู่กับปัจจุบัน ไม่ได้อยู่กับอดีต จากคุณ : D-FUJIMA เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:14:41

ความคิดเห็นที่ 97 @@ ทำไม ต้องรู้ว่า เรื่องจริง ไม่จริง เป็นใคร มาจากไหน@@ พันทิปก็เป็นเพียง โลกสมมุติ ทุกคนไม่มีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่า บัตรผ่าน หรือมีล็อกอิน ทำไมต้องพิสูจน์ว่า เรื่องจริงหรือปล่าว ใช่คนนั้น คนนี้หรือปล่าว IPนี้ อยู่ตำแหน่งที่ไหน ใช่กระทู้นั้นหรือปล่าว ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วยังไงต่อ? ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง แล้วจะเป็นยังไง? เราก็สิงในพันทิปมานาน อ่านเรื่องราวของผู้คน ไม่เคยคิดถาม ว่า เรื่องจริงหรือปล่าว รู้แล้วจะได้อะไร พิสูจน์เพื่ออะไร อ่านชีวิตคนอื่นแล้วกลับมามอง ปรับปรุงตัวเอง อ่านผ่านๆไป ทั้งสนุก เศร้า หลากหลายอารมณ์ ที่ไร้สาระก็ผ่านไป ที่มีความรู้ คำแนะนำดีๆ ก็เก็บไว้ ด่ากันไปเพื่ออะไร เถียงกับใครไม่รู้ เหมือนตบตีกันใน ความว่างเปล่า เก็บมาเป็นอารมณ์ทำไม? ถ้าใครไม่ได้มาขอเงิน ขอบริจาค พยายามติดต่อเพื่อผลประโยชน์ หรือสร้างความขัดแย้งทางสังคม การหมิ่นประมาท เราไม่เคยสนใจว่า ทุกกระทู้เป็นเรื่องจริงหรือปล่าว โลกที่แท้จริง ตัวตนที่แท้จริงนั้นขาดอิสรภาพเพียงพออยู่แล้ว ขออิสรภาพที่แท้จริง บน โลกสมมุตินี้ ไม่ได้หรือไร?? "เราไม่ได้กวนนะคะ ไม่ได้เถึยงใครในกระทู้นี้" จากคุณ : จขกท   เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 02:09:47 A:84.19.169.163 X: TicketID:085846 ขอโทษ จขกท ด้วยนะคะ ที่เป็นต้นเหตุของความขุ่นใจ อันมาจากบาง คห เป้าหมายของคำถาม ไม่ใช่คุณ แต่เป็นดิฉัน คนถามเขาได้รับข้อมูลมาจากคนกลุ่มหนึ่งในห้องศาสนา ถ้าใครเข้าไปอ่านกระทู้นั้น จะเห็นเองว่ามีใครบ้าง คนกลุ่มนี้ไม่เข้ามาตอบเอง แต่ใช้คนใหม่ๆ เข้ามาก่อน ถ้าเห็นช่องว่างที่จะหาเรื่องด่าได้ อีกไม่นานก็จะแห่กันมา คนเดียวเดี่ยวๆ ไม่กล้าหรอก ดิฉันกับ จขกท นี้และ จขกท ห้องสวนลุม ไม่รู้จักกัน อย่าหาเรื่องพวกเขา เข้าใจนะคะ จากคุณ : บุษยมาศ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:24:10

ความคิดเห็นที่ 98 อีกนิดนะ อย่าไปคิดถึงอดีต แค่นึกถึงก๊พอ นะ จากคุณ : D-FUJIMA เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:29:42

ความคิดเห็นที่ 99 พระคุ้มครองนะคะ จากคุณ : *-*topiw*-* เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:57:27

ความคิดเห็นที่ 100 เรื่องของกรรมและผลของกรรม เป็นเรื่องอจินไตย คือไปสืบค้นกันว่า เพราะนี้จึงเกิดเป็นนี้ๆ นั้น สืบไปไม่รู้จบ ท่านจึงไม่ให้นำมาคิดค้น เพียงแต่ให้เข้าใจถึงกฏแห่งกรรม ง่ายๆ ก็คือ กระทำอะไรไว้ มันย่อมได้ผลอย่างนั้นเท่านั้นเอง สิ่งที่เกิดกับ จขกท เป็นผลของกรรม ที่เราไม่สามารถระลึกรู้ หรือจำได้ว่า เรากับเขาหรือกับใครได้ทำกรรมอะไรกันมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าให้โทษส่งไปเป็นเรื่องของกรรมแบบขาดปัญญา เพียงแต่เพื่อให้เข้าใจใน "เงื่อนไข" ที่เกิดขึ้น เพื่อ... เราจะไม่ต้องก่อกรรม (กระทำ) อะไรเพื่อต่อให้เกิดกันต่อไป ตามที่จขกท.อยากทราบว่าเราจะไม่ต้องมาเจอกับสิ่งนี้หรือคน ผู้นี้แบบนี้อีกได้อย่างไร การไม่ต้องเกี่ยวข้องก็คือการไม่กระทำ(กรรม)ใดๆ กับเขาแม้ กระทั่งความนึกคิด คือปล่อยให้มันจบไป ทุกอย่างจบไปแบบ จบแล้ว ไม่ต้องไปรื้อฟื้น หรือพยายามทำอะไร (กรรม) ที่จะ ต่อให้เกิดผลของมันแบบใดแบบหนึ่งขึ้นมาอีก มีชีวิตใหม่เสมอๆ ด้วยปัจจุบัน อยู่กับปัจจุบันที่สอาด สงบ ฝึกแบบนี้ให้เกิดทุกๆ ขณะจิต คุณจะมีความสุขกับปัจจุบัน ไม่ต้องบอกว่านี่คือการปฏิบัติธรรม แต่ก็เป็น และเป็นทางแห่งการพ้นทุกข์ต่อๆ ไป เริ่มต้นตั้งแต่ขณะจิตนี้ และให้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อยู่กับความจริงในปัจจุบัน คุณไม่ต้องสนใจอดีต ทำวันนี้ดีที่สุด ปัจจุบันในวันนี้ คืออนาคตที่ดี ที่คุณต้องการค่ะ จากคุณ : สติมา เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:44:14

ความคิดเห็นที่ 101 ให้อภัย และอโหสิกรรมให้ เค้าไปเถอะค่ะ อุทิศส่วนกุศล อย่าผูกจิตอาฆาตร ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ และเข้มแข็งเข้าไว้   พร้อมที่จะต่อสู้บนโลกใบนี้ ยังมีเรื่องราวมากมายอีกเยอะค่ะ บนโลกใบนี้ เรื่องราวร้ายๆก็ได้ผ่านไปแล้ว  ให้มันผ่านไปค่ะ  อย่าเก็บมาคิดอีกลย ถือเสียว่าเป็น "กรรมเก่า"  เกิดมาชาตินี้เราก็มาเพื่อชดใช้กรรมค่ะ เชื่อว่าถ้าคุณตั้งมั่นเป็นบนความดีด้วยแล้ว  คุณต้องพบเจอกับสิ่งที่ดีๆ แน่นอนค่ะ ชีวิตมันก็อย่างงี้ มีทั้งสุข และทุกข์  เราต้องมีสติ และมีปัญญาค่ะ คนเราต้องใช้ทั้งสองอย่างนี้ในการดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ สู้ๆ นะคะ  คนที่แย่กว่าคุณยังมีอีกเยอะแยะนะ ถือเป็นความโชคดีแล้วค่ะ ที่คุณได้ผ่านเรื่องร้ายๆ มาด้วยดี ประคองตัวเองให้อยู่ในศีลนะคะ  คนดีพระย่อมคุ้มครอง ^_^ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 54 17:47:17 จากคุณ : nAHMLeMoN เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 14:15:07

ความคิดเห็นที่ 102 ถ้าเชื่อเสียว่า เคยทำกรรมกับเขามา ชาตินี้ ต้องมาใช้กรรม ก็จงตั้งใจให้มั่น ใช้กันให้หมดชาตินี้   โดยไม่ผูกใจเจ็บพยาบาท จะได้ไม่ผูกเป็นกงกำกงเกวียนต่อไปไม่มีสิ้นสุด ชาติหน้าจะได้หลุดพ้นจากกันไป พูดได้แต่ทำยาก  คนพูดอย่างเรายังทำไม่ได้ แต่เอาใจช่วย ให้คุณทำได้ จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 15:06:52

ความคิดเห็นที่ 103 คห.90 ขอบคุณ ที่สนใจอยากจะคุยกับฉัน ด้วยภาษาที่เป็นสุภาพชน เช่น คนมีการศึกษาดี และมีวุฒิภาวะ ฉันอยากสนทนาด้วยเช่นกัน แต่รู้สึกเกรงใจ จขกท.นี้ค่ะ รู้สึกว่าเธอต้องการ จบ เพราะพบทางที่เธอต้องการแล้ว หากคุณสนใจจริงๆ ในความคิดเห็นของฉัน ตั้งกระทู้ใหม่ก็ได้นะคะ ถ้าฉันว่าง จะไปสนทนาด้วยค่ะ ...... จากคุณ : ...... เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 15:19:31 A:79.232.182.87 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 104 มีคนพูดเรื่องกรรมไปแล้ว เราไม่พูดซ้ำแล้วกันนะ พระพุทธเจ้าสอนแล้ว ว่าคนเรามีกรรมเป็นแดนเกิด ลองไปสวดทำวัตรเช้า แบบมีคำแปลซิคะ จะเข้าใจหลายๆอย่าง ตามความเป็นจริงของโลกได้ กลับมาที่ทำอย่างไรจะไม่ต้องเจอกันอีก คำตอบ คือ อโหสิกรรมให้กันคะ ไม่ใช่พูดว่า เราอโหสิกรรมให้ แต่ต้องออกมาจากใจ ใจเราจะอโหสิกรรมให้ผู้ส้รางบาปโทษแก่เราได้อย่างไร ในเมื่อยึดมาเป็นเวลานาน ยึดมาจน ไม่รู้แล้ว ว่าจะคลายอย่างไร จะคลายได้ เมื่อใจนั้นเห็นว่า ความผูกพยาบาทนั้น เป็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ของๆเรา อยู่นอกเหนือความบังคับของเรา เมื่อวางได้ ใจจะเบาสบาย สิ่งที่ผูกเป็นสายใย ข้ามภพชาติมา จะได้ขาดสะบั้นลง ว่าแต่จะให้ใจเห็นตามความจริงที่บอกได้อย่างไร คำตอบ คือ ให้ไปปฎิบัติธรรมคะ  ทางสายเอกสายเดียวเพื่อความพ้นทุกข์ ไม่มีใครเกิดมาเล่นๆเพื่อใช้กรรมไปเท่านั้นหรอกคะ แต่เป็นโอกาสที่เกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ ยกระดับจิตวิญญาณของเรานั้นขึ้นไป ลองพิจารณาดูนะคะ จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:02:46

ความคิดเห็นที่ 105 ************************************************************** http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=16&item=451&items=1&preline=0&pagebreak=0                   พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘                             สังยุตตนิกาย นิทานวรรค                                      ๕. ปิตุสูตร             [๔๕๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ- *บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นบิดา โดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๕ ************************************************************** http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=16&item=452&items=1&preline=0&pagebreak=0                                         ๖. ภาตุสูตร             [๔๕๒] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ- *บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่ชายน้องชาย โดยกาลนานนี้ มิใช่หา ได้ง่ายเลย ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๖ ************************************************************** http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=16&item=453&items=1&preline=0&pagebreak=0                                             ๗. ภคินีสูตร             [๔๕๓] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้อง ปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่หญิงน้องหญิง โดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ ง่ายเลย ดังนี้ ฯ                                               จบสูตรที่ ๗ ************************************************************** จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:18:49

ความคิดเห็นที่ 106 "เราเดินผ่านป่าสนที่หนาวเหน็บ เดินตามทางถนนลูกรัง เผื่อออกไปถนนใหญ่ มีแต่แสงจันทร์ และหลักกิโล " สำนวนมันนิยายไปหน่อยนะคับ กับคนที่ถูกพ่อกระทำทางเพศ จากคุณ : เป็นเมียเราต้องอดทน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:20:20

ความคิดเห็นที่ 107 อยากให้ จขกท.ใช้วิกฤตชีวิตในครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะเข้าถึงธรรม ถ้า จขกท.พอมีเวลาอยู่บ้างลองศึกษาที่เวบนี้ดูครับ http://www.wimutti.net/ ลองศึกษาไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องหวังผล ปล... ...ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ต้องใช้เวลามาก แล้วก็ได้ผลเร็ว ...ธรรมะของพระพุทธเจ้าเหมาะกับทุกคนครับ จะอ่อนแอหรือเข้มแข็ง จะมีความสุขหรือทุกข์ เข้าถึงธรรมได้ทุกคน ...ธรรมะของพระพุทธเจ้าพ้นจากความเชื่อครับ เพราะพิสูจน์ได้จริง ได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกๆ คนที่ปฏิบัติธรรม จากคุณ : ทองทา เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:52:20

ความคิดเห็นที่ 108 ดิฉันสงสารจขกท.มากค่ะ  ดิฉันเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย ไม่ใช่ไม่มี  ดิฉันเองก็เคยมีประสบการณ์ จากเพื่อนรักคนหนึ่ง ที่โดนพ่อตัวเองทำร้าย จนท้อง ต้องเป็นแม่คน  ตั้งแต่อายุแค่สิบกว่าขวบเท่านั้น   ทุกวันนี้ ดิฉันยังคิดถึงเพื่อนคนนั้นเสมอ  คิดถึงว่าเค้าจะมีชีวิตอย่างไร  แล้วลูกเค้าจะมีชีวิตอย่างไร ดิฉันขอชื่นชม ในจขกท.  คุณเป็นคนดีจริงๆ  คนที่ผ่านความทุกข์ยาก  ได้รับความทุกข์ แต่ยังสามารถช่วยเหลือผู้ทำร้ายตัวเองได้เมื่อเค้าเดือดร้อน  ยังทำบุญอุทิศไปให้เค้าได้เมื่อเค้าจากไป      ยอดคนจริงๆ ค่ะ     ขอให้บุญกุศลที่จขกท.ได้เพียรกระทำต่อพ่อคนนั้น  จงลบล้างกรรมเวรที่มีต่อกัน จนต้องมาก่อกรรมกันในชาตินี้  ขอให้หมดสิ้นไป   ขอให้เป็นไปตามประสงค์ของจขกท. ค่ะ และขอให้ชีวิตต่อจากนี้ของ จขกท. ประสบแต่ความสุขความเจริญนะคะ  สิ่งใดผ่านไปแล้ว  คุณก็ได้ทำดีที่สุดแล้วค่ะ จากคุณ : แม่น้องปัน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 16:54:58

ความคิดเห็นที่ 109 อ่านอยู่นานตั้งแต่ยังไม่ค่อยมีคนมาเม้นท์  แต่คิดอยู่นานว่าจะตอบ จขกท อย่างไรให้มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต  เพราะเนื้อหานี้โดนใจมาก  เรื่องของ พ่อ ซึ่งเรานะก็ไม่ได้มีประสบการณ์แบบพ่อลูกรักใคร่  ซาบซึ้งอะไรเช่นกัน แล้วก็พยายามคิดว่าเราผ่านมันมาอย่างไร  อยู่โดยมีธรรม  ไม่รู้สึกผิด ว่าตนเองอกตัญญูอย่างไร  มันเป็นความรู้สึกผิดอยู่แล้วถ้าจะไม่รักพ่อ เพราะลูกๆก็อยากจะรักพ่อ เราคิดว่า  คนทุกคนเป็นทั้งคนดีและคนชั่ว  เราไม่ได้รักษาศีล  หรือต้องเป็นคนดี ก่อนที่จะเป็นพ่อแม่  เพราะฉะนั้นเมื่อเราเป็นพ่อแม่  ความบกพร่องในคุณธรรม ก็ยังมีเช่นเดิม  นอกจากบางคนที่จะเลวกับคนอื่นแต่ไม่ทำให้ลูกเห็น หรือเห็นแก่ตัวกับคนอื่น โกงคนอื่นเพื่อลูกเมีย  แต่มันก็เป็นไปได้ที่บางคน จะไม่แอ๊บกับทั้งครอบครัวและคนอื่น  คือ  ผิดศีลและผิดธรรม  ตามธรรมชาติ และไม่อยู่ในกรอบของสังคมหรือที่คนทั่วไปทำ  พอถึงตรงนี้ ก็แค่ยอมรับว่า  คนที่เป็นพ่อแม่คน  ก็คนธรรมดา  ไม่ได้ถูกคัดสรรว่า คุณต้องมีคุณธรรม  มีความดี  ถึงจะท้อง  หรือมีอสุจิให้คนเกิดได้ เมื่อท่านบกพร่องก็แค่ยอมรับท่านว่า  ท่านแค่คนๆหนึ่งที่ยังมีกิเลส   และทำให้เราเกิดมา  มันไม่สอดคล้องกันว่า  เมื่อท่านมีเราท่านจะกลายร่าง เป็นคนดี  แบบที่เราคาดหวัง หลังจากนั้นก็ให้อภัยท่านและสำนึกบุญคุณในเฉพาะส่วนที่ท่านเลี้ยงดูส่งเสีย และให้ชีวิต เราต้องคิดถึงความจริงส่วนดีคือส่วนดี  ส่วนเสียก็คือส่วนเสีย ไม่เอามารวมกัน  แล้วก็ถ้าไม่อยากได้เจออีกก็แค่ทำให้ตรงกันข้ามกับที่ท่านทำ ท่านไม่รักษาศีล  เราก็รักษาศีลให้มาก  ซื่อสัตย์ในคู่ครองของตน เลี้ยงดูบุตรธิดาด้วยความห่วงใย  ยิ่งเราทำตรงกันข้ามเท่าไหร่   หนทางก็ยิ่งห่างกันออกไป  เพราะเราสร้างกรรม  ที่ตรงกันข้ามกัน และที่สำคัญอย่าผูกโกรธพ่อเด็ดขาด  เพราะมีหลักฐานมากมายในพระไตรปิฏก ที่การผูกโกรธกันนำมาซึ่งการพบเจอกันอีกไม่รู้จะกี่ชาติ  ตัวอย่างเช่น พระเทวทัตผูกโกรธพระพุทธเจ้า  จะขอตามแก้แค้นทุกภพทุกชาติ เพระฉะนั้นจงให้อภัยและค่อยๆปรับใจ  จากเกลียดเป็นรู้สึกธรรมดา จากธรรมดาค่อยๆมองหาความดี  และหาส่วนดีๆเล็กน้อยที่เราพอจะยอมรับได้ และก็ยอมรับเท่าที่เรามีเท่าที่เราได้  ว่าชาตินี้เรามีพ่อแบบนี้ แต่เท่านี้ก็พอแล้ว  เท่าที่ให้เราเกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ได้เกิดมาฟังคำสั่งสอนพระพุทธองค์  และทำให้เราเป็นตัวเป็นตน เป็นคนที่ปฏิบัติธรรมได้  เท่าที่ให้มานี้ก็ขอบคุณจริงๆ   จะว่าไป  ถ้าพ่อดี  ไม่มีกิเลส   พ่อคงไม่มีเรา  ไม่ทำให้เราเกิดมาได้ บางทีเราก็ขอบคุณในส่วนนั้น  และไม่โทษอะไร  พ่อแม่ก็เหมือน สะพานให้ลูกๆได้ข้ามผ่านไปถึงฝั่งพระนิพพาน  ถึงอย่างไรท่านก็ส่งเราถึงฝั่ง ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว  ส่วนเรื่องที่ท่านไม่ดี  ส่วนนั้นท่านก็จะไปรับผลกรรม ของท่าน  แต่ที่แน่ๆ  จะไม่มีเราตามไปโกรธอีกแล้ว  เพราะเราได้ให้อภัยท่าน ต่อแต่นี้ไป  และที่สำคัญมันเป็นอดีต  ที่ไม่มีใครกลับไปได้อีกแล้ว ถ้าเป็นการรับกรรมไม่ดี  เราก็ได้รับกรรมนี้ไปแล้ว  และคุณผ่านมันไปแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไป  และอยู่กับปัจจุบันที่จะไม่มีใครมาทำร้ายคุณได้อีกแล้วคะ ขอเป็นกำลังใจให้คะ จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 18:36:46