ความคิดเห็นที่ 1 ระดับน้ำวันแรกขึ้นนิดเดียว แค่มีน้ำขังในซอย ในตัวบ้านยังไม่มี เด็กๆ ยังเล่นได้อยู่ วันแรกยังตื่นเต้นกันดี ลูกสาวผมยังนั่งซ้อนรถเพื่อนขี่เล่นในซอยได้อยู่ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 14:04:02

ความคิดเห็นที่ 2 ---ผมเองเริ่มสำรวจทางหนีทีไล่ น้ำมาเร็วมาก ผุดขึ้นตามรอยแยกรอยแตกของบ้าน โดยเฉพาะกระเบื้องห้องน้ำ ผมเริ่มชวนเมียและลูกหนีกันเถอะ แต่ทุกคนก็ยังเป็นห่วงบ้านและคิดว่าน้ำจะไม่เยอะ ---ทางขึ้น-ลงทางด่วนที่สุขาภิบาล5 หน้าเขตสายไหม จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 14:09:10

ความคิดเห็นที่ 3 ---เพราะความต่างกันเรื่องภูมิลำเนาบ้านเกิด ทำให้ผมมีปัญหาในการชักชวนลูกเมียให้เห็นดีเห็นงามหรือพร้อมใจในการไปใช้ชีวิตที่อุบลกับผมมาโดยตลอด น้ำท่วมครั้งนี้ผมก็หวังว่า จะพาลูกเมียกลับไปอุบล อย่างน้อยๆ ก็อยากให้เห็นการใช้ชีวิตอีกมุมหนึ่ง ถือโอกาสนี้ให้ครอบครัวได้เห็นความเป็นอยู่อันเรียบง่ายและบ้านเมืองอันเป็นบ้านเกิดของผม ---ผมยังมีทางหนี  แต่หมาตัวนี้สิ เดือดร้อนกันหมดทั้งคนและหมา จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 14:45:10

ความคิดเห็นที่ 4 ---ขอบคุณป๋าอุบลแมน ยาวครับเรื่องนี้ เสียดายกลับไปครั้งนี้ไม่ได้พบใครเลย.. --------------------------------------------------------------------------------------- ---ผมตัดสินใจหนีไปในตอนเย็นวันเสาร์ ออกจากกรุงเทพเอาตอนเย็นหลังเมียเลิกงาน ข้าวของเก็บเอาที่ได้ เสื้อผ้า เครื่องครัว ของใช้เล็กๆ น้อยๆ และที่ขาดไม่ได้คือ "ราวตากผ้า"  กะจะไปนอนวังน้ำเขียวหนึ่งคืน เช้ามาค่อยไปอุบล  ระหว่างทางรถติดมาก รอขึ้นเขาปักธงชัยเกือบสองชั่วโมง...คืนนั้นกว่าจะได้นอน ตี2 มืดและเปลี่ยวมาก สีหน้าลูกและเมียไม่ค่อยดี เพราะไม่ใช่การมาเที่ยว แต่เป็นการหนีน้ำท่วม ---หน้าเขตสายไหม จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:06:06

ความคิดเห็นที่ 5 ---ขอบคุณกี๊ฟจากคุณเสียงจากบ้านนานะครับ..ช้าหน่อยนะครับ --------------------------------------------------------------------------------------- ---หลังจากแวะกินข้าวระหว่างทางที่โคราช เจอกลุ่มทหารและนักมวย คุณสมจิตร จงจอหอ กำลังจะทำบุญผ้าป่าเข้าวัดเลยได้ร่วมทำบุญด้วยเล็กน้อย สีหน้าลูกสาวผมเริ่มดี เห็นโทรไปคุยกับเพื่อนว่าเจอคนดัง สมจิตร จงจอหอ ผมยุให้ไปขอถ่ายรูปคู่แต่ไม่กล้า การเดินทางทำให้พบเห็นอะไรดีๆ ครับ ---ทุ่งข้าวข้างทางก่อนถึงหมู่บ้าน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:13:46

ความคิดเห็นที่ 6 ---บ้านที่อุบลผมไม่มีแล้ว ผมเป็นนักขาย นอกจากเป็นนายหน้าขายบ้าน ขายที่ดินคนอื่นแล้ว ว่างๆ ผมยังขายบ้านของตัวเองอีก เหลือเอาไว้แต่ที่นาจำนวนหนึ่ง  กลับอุบลครานี้เลยต้องอาศัยนอนบ้านน้องชายที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ส่วนนาก็ให้น้องชายทำ กะว่าถ้าจะกลับไปอยู่เมื่อไหร่ค่อยซื้อที่ปลูกเอาใหม่ ---ถึงแล้วครับที่นาของผม  ที่เห็นคือห้างนา หรือภาษาอุบลเรียกว่า "เถียงนา" จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:25:40

ความคิดเห็นที่ 7 ---ผมเองเป็นคนบ้านนอก ปรับตัวไม่ยากเมื่อต้องไปอยู่ เรียกว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ หรูแค่ไหนผมก็เคยอยู่ ลำบากแค่ไหนก็อยู่ได้ ยี่สิบกว่าปีที่ผมไปอยู่กรุงเทพผมจึงมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมาบ้าน ได้มาเห็นทุ่งนา ทุ่งข้าว มาพบชาวบ้านญาติพี่น้องเก่าๆ  แต่สำหรับเมียและลูกผม ที่นี่คือที่ไหม่สำหรับพวกเขา แม้จะเคยมาหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะรู้จัก "บ้านนอก"จริงๆ ---ทุ่งข้าวกำลังสวยครับ น้ำกำลังงวดแห้งขอด อีกหน่อยก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 15:41:21 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:34:43

ความคิดเห็นที่ 8 เถียงคือหลังใหญ่แท่น้อ  เป็นตาอยู่คัก  เป็นตาผูกเปลนอนเว็นเนาะ จากคุณ : นกขมิ้นเพ็นนี เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:41:47

ความคิดเห็นที่ 9 รออ่านต่อค่ะลุงกำนัน สู้ๆ จากคุณ : อีกฝั่งฟากของเวลา เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:44:56

ความคิดเห็นที่ 10 ---กลางวันเราไปนากัน ครอบครัวน้องชายดีใจที่เราไปเยี่ยม ถึงเขาจะเป็นข้าราชการแต่การทำนาก็ยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพของเขา ที่นี่ถ้าใครขยันปลูกนั่นนี่ รายได้ก็พออยู่ได้ครับ บางคนรวยเลยก็มี รายจ่ายน้อยครับ รายได้ถ้าขยันมากปลูกผัก มะเขือพวง หัวหอม กระเทียม ข่า ถั่วฝักยาว พริก  เลี้ยงไก่ เป็ด รายได้ก็พออยู่ได้ถึงรวยเลยครับ อย่างน้องชายผมก็ถือว่า "รวย" ในระดับหมู่บ้านแล้วครับ ----ลูกสาวลองเป็นชาวนาดู...เริ่มด้วยการลงไปหาปลาที่น้ำขอดแห้งก่อน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:53:35

ความคิดเห็นที่ 11 ---คุณนกขมิ้นเพ็นนีครับ  เถียงนานี่มีครบครับ น้ำไฟมีพร้อม ห้องน้ำห้องท่าตู้เย็นทีวีมีหมดครับ เขาเรียกเถียงนาสมัยใหม่...ส่วนเปลผูกไว้แล้วครับ  นอนได้เลย ---อีกฝั่งฝากของเวลา...ตามมาเลยครับ มาดูอีกมุมหนึ่งของชีวิตคน...หนังชีวิตครับยาวหน่อย --------------------------------------------------------------------------------------- ---ที่นี่ดินเป็นดินปนทราย เรียกว่าแทบเป็นทะเลทรายเลยครับ แต่แปลกอย่างหนึ่ง ถึงหน้านา ปลูกข้าวก็ขึ้นครับ ถ้าน้ำดีปลูกข้าวสักสองรอบคงจะรวยเลย เป็นความฝันของผมที่จะทำให้บ้านผมปลูกข้าวได้สองครั้ง  นาผมอยู่ห่างถนนใหญ่ประมาณกิโลเมตรครึ่ง แต่ก่อนแถวนี้เป็นป่าเสื่อมโทรมห่างตัวเมืองอุบลเกือบสามสิบกิโลเมตร ระแวกนี้ไม่มีแม่น้ำใหลผ่านเลยครับ ความเจริญต่างๆ ก็ไปกระจุกกันอยู่ในตัวเมืองทั้งหมด หนุ่มสาวก็หนีเข้าไปเสี่ยงโชคที่กรุงเทพกันหมด(นำโดยผมนี่แหล่ะครับ) เหลือไว้แต่คนแก่ ทั้งๆ ที่บ้านนอกก็พอหากินได้ ถ้าขยัน...แต่ก็โทษใครไม่ได้เพราะผมก็ไปเหมือนกัน ---เป็นลูกหลานชาวนาต้องใส่เบ็ดเป็นครับ ลูกสาวผมกำลังหัดใส่เบ็ดครั้งแรกในชีวิต ใส่เบ็ดเอาปลาดุกในสระน้ำมาทำกับข้าวเที่ยงครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 09:46:51 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 21:19:29 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:13:08

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบอ่ะค่ะ รออ่านต่อ ขอปาด เบา ๆอิอิ คิดถึงบ้านนอก !!! จากคุณ : Epoxy เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:20:38 A:202.149.29.81 X: TicketID:320586

ความคิดเห็นที่ 13 เถียงนาทันสมัยปานนี่บ่ต้องสร้างเฮือนแล้วพ่อลุง  ซ่ำนี่กะยุสบายแล้วจ้า   น้องฝันอยากมีที่เฮ็ดนาเฮ็ดสวนปลูกข้าวกินเอง  ฮ่าๆๆ เก็บเงินได้ 3000 บาทแล้ว อ้ายที่ฮุ้จัก (ศรีเมืองใหม่) เพิ่นว่าเก็บต่อไปอีหล่า  ....ฮ่าๆๆๆ   ปล. มักเถียงนาของพ่อลุงกำนันอีหลี  คงสิเย็นสบายเนาะ  ปูสาดตำหมากหุ่ง ปิ้งปลา จากคุณ : นกขมิ้นเพ็นนี เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:24:01

ความคิดเห็นที่ 14 ---ผมว่าคนไทยคิดผิด ผมเองก็คิดผิด ผิดที่หนีจากชีวิตบ้านนอกเข้าไปทำงานในกรุงเทพ น้อยคนที่จะได้ดีร่ำรวย อย่างมากก็แค่ไปเป็นลูกจ้าง เงินเดือนแทบไม่พอค่าใช้จ่าย ร้ายสุดก็เสียผู้เสียคน บางคนถึงเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ถ้าอยู่บ้านนอกก็สามารถสร้างต้วให้ร่ำรวยได้ ถ้าขยัน ผมเองก็มีความฝันว่า จะกลับไปใช้ชีวิตช่วงปลายชีวิตที่บ้านนอกถึงครอบครัวจะไม่ไปอยู่ก็ตาม เพราะที่นี่คือบ้านของผม ---คุณนายปูเมียผมกำลังหาปลาน้ำขอดในนาข้าวครับ... จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:25:54

ความคิดเห็นที่ 15 ---ตามมาเลยครับ คนบ้านเดียวกันทั้งนั้น ---กรุณาอย่าเรียกลุงครับ...มันเจ็บ --------------------------------------------------------------------------------------- ---เพราะความที่ต่างกันระหว่างผมกับเมีย ทำให้ชีวิตไม่ค่อยลงตัวครับ เมียผมเขาเป็นคนห้วยขวางกรุงเทพ หลายครั้งทำให้ไม่ค่อยลงตัวกัน ผมเองก็อยากอยู่บ้านนอก ที่บ้านนอกผมดังครับ เป็นที่รู้จักของทุกคนในหมู่บ้าน มีญาติมากมาย ถ้าไปอยู่ก็ไม่อายใคร แต่เมียผมเป็นคนกรุงเทพ การใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน เป็นตัวอย่างให้กับหลายๆ ท่านที่มีคู่เป็นคนต่างถิ่นครับ ถึงมีหลายอย่างที่เรา "เข้ากันได้" แต่ก็เป็นไปด้วยความยุ่งยากครับ  กว่าจะทำให้เมียยอมรับในความบ้านนอกของผมได้ ก็เล่นเอาลำบากเหมือนกันครับ ---ปลาครับ ..น้ำขอดแห้ง ปลาก็มารวมตัวกันเพื่อแห้งตาย ผมกับเมียเลยช่วยเก็บขึ้นมาเพื่อเอาไปปล่อย ปล่อยให้แห้งตายไปก็เสียดาย มีทั้งลูกปลาช่อน..ปลาหมอ..ปลาหลด..ฯลฯ ได้แล้วก็เอาไปปล่อยในสระเพื่อให้โต ปีหน้าจะได้ออกลูกหลานออกมาให้กินอีกครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:39:55

ความคิดเห็นที่ 16 อยากมีบ้านต่างจังหวัดจังเลยค่ะ เกิดมาก็เจอแต่รถ เจอแต่ถนน อย่างมากก็ต้นไม้นิดหน่อยหลังบ้าน........ อิจฉาคนบ้านนอกค่ะ จากคุณ : ปุยปุย เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:46:00

ความคิดเห็นที่ 17 หอมเอย หอมดอกกระถิน รวยระริน เคล้ากลิ่นกองฟาง เห็ดตับเต่าขึ้นอยู่ริมแถวย่านาง มองเห็นบัวสล้าง ลอยปริ่มริมบึง อยากจะเด็ดมาดอมหอมหน่อย ลองเอื้อมมือค่อยค่อย ก็เอื้อมไม่ถึง อยากจะแปลงร่างเป็นแมลงภู่ผึ้ง แปลงได้จะบินไปถึง เคล้าเจ้าบัวตูมบัวบาน.. หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน ครวญระคนหอมแก้มนงคราญ ขลุ่ยเป่าแผ่วพริ้วผ่านทิวแถวต้นตาล มนต์รักเพลงชาวบ้านลูกทุ่งแผ่วมา ได้คันเบ็ดสักคันพร้อมเหยื่อ มีน้องนางแก้มเรื่อนั่งเคียงตกปลา ทุ่งรวงทองของเรานี้มีคุณค่า มนต์รักลูกทุ่งบ้านนา หวานแว่วแผ่วดังกังวาน โอ้เจ้าช่อนกยูง แว่วเสียงเพลงมนต์รักลูกทุ่ง ซ้ำหอมน้ำปรุงที่แก้มนงคราญ http://www.youtube.com/watch?v=P03lolab_ec จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:49:58

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับรูปภาพและคำบายจากความรู้สึกของกำนัน ชอบมากคะ โหวดให้ จากคุณ : freebird365 เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:57:16

ความคิดเห็นที่ 19 ---ผมเคยถามเมียว่า งานของเขาที่กรุงเทพคืออะไร เนื้องานคืออะไร ทำงานหมดไปวันๆ เพื่อแลกเงิน  พอหยุดทำงานก็ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่อีก  อยู่บ้านนอก ปลูกต้นไม้ก็ยังได้ต้นไม้เลื้ยงปลาก็ได้ปลา  และที่นี่ไม่มีคำว่าตกงานหรือว่างงานครับ ---ปลาที่ใส่เบ็ดได้ครับ ปลาดุกสองตัว จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:58:04

ความคิดเห็นที่ 20 ---ขอบคุณพี่ใหม่ครับ..เรื่องนี้ยาวครับพี่ รูปเกือบสามร้อย เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวผาแต้มและข้ามไปลาวครับพี่ ---คุณสองปุยครับ นี่เป็นข้อดีของคนบ้านนอกจริงๆ ครับ ถ้าปีหน้าน้ำท่วมอีกไปอยู่อุบลกันนะครับ ---ขอบคุณป๋าอุบลแมนสำหรับเพลงประกอบครับ --------------------------------------------------------------------------------------- ---ความแตกต่างระหว่างบ้านนอกกับกรุงเทพเดี๋ยวนี้ผมว่าไม่ค่อยต่างกันแล้ว อาหารการกิน..ข้าวของเครื่องใช้..ความเป็นอยู่   คุณจะกินอะไรล่ะครับ ส้มตำก็มี แกงอ่อมก็มี หรือจะทำอาหารไทยก็ได้ หรือถ้าเบื่อจริงๆ ขับรถยี่สิบกว่านาทีก็เข้าไปอยู่ในตัวเมืองอุบลแล้วครับ..ที่นั่นก็มีทุกอย่าง..ถ้าเบื่อจริงนั่งเครื่องบินพันกว่าบาทก็เข้าไปกรุงเทพได้แล้ว ---อาหารเที่ยงวันนี้ครับ...มีแค่ปลาทูเท่านั้นที่เป็นของแปลกถิ่น ส้มตำ..อ่อมปลาดุก..ลาบหมู..แกงหน่อไม้.. จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:15:34

ความคิดเห็นที่ 21 ---ชีวิตบ้านนอกสบายครับ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตายกับใคร ใส่เสื้อผ้าไม่รีดก็ไม่มีใครว่า ไม่ต้องแต่งตัวแข่งกับใคร ---กินแล้วก็นอนครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:21:48

ความคิดเห็นที่ 22 --อากาศบ้านนอกก็ดีครับ ชมนกชมไม้ไปเรื่อย..เต่าก็มี แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 21:11:33 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:23:24

ความคิดเห็นที่ 23 ---ดอกไม้ป่าขึ้นอยู่ทั้วไปครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:24:44

ความคิดเห็นที่ 24 ---อุบลวันนี้น้ำก็ท่วมครับ เพียงแต่ท่วมแต่หมู่บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำใหญ่ในตัวเมือง  นั่งๆ นอนอยู่บ้านหลายวันกลัวลูกเบื่อ ต้องพาไปเที่ยวในเมืองก่อนครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:46:06

ความคิดเห็นที่ 25 ---เริ่มที่ไหว้พระก่อนครับ แวะที่วัดหนองป่าพงของปู่ชาก่อนเพราะอยู่ใกล้บ้าน  ที่นี่ผมดวงตาเห็นธรรมเลยครับ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 18:29:55 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 18:29:54 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 17:57:39

ความคิดเห็นที่ 26 ----อุบลเป็นเมืองเก่า ผู้คนเยอะ คนดังๆ หลายคนก็เป็นคนอุบล  บ้านเมืองเจริญมากแล้วครับ กรุงเทพมีอะไรอุบลก็น่าจะมีอย่างนั้นหรือไม่ก็ใกล้เคียงครับ ----บ้านเก่าๆ ก็มีครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 18:39:51

ความคิดเห็นที่ 27 กำนัน รูปน้ำที่ผุดขี้นมาจากื่อระบายน้ำในรูปแรกน่ะ เป็นรูปที่หลอนป้ามากเลย  กลัวจนกระทั่งทุกวันนี้   ป้าอยากไปอยู่ต่างจังหวัดมาก แต่ลุงเหมือนภรรยากำนัน เค้าไม่เคยมีชีวิตต่างจังหวัด เค้าไม่เคยได้สัมผัส และไม่เคยได้รู้จักชีวิตที่ติดกันธรรมชาติ เค้าไม่ได้มีความคิดแบบนี้เลย ป้าก็เลยเลิกคิด จากคุณ : ป้าลายคราม เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 19:04:02

ความคิดเห็นที่ 28 โห+++++++++ เถียงนาสบายแท้น๊อออ ถ้าเถียงนา กับที่ที่บ้านเหมียวเท่าบ้านกำนันนะ กลับบ้านนอกเด็ดขาด จากคุณ : meawtha เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 19:09:25

ความคิดเห็นที่ 29 คือเป็นต๋าม่วน แท้น้ออ้าย    อิจฉาก๋ำนั้นแท้เด้อ   ย่อฮูปเป๋น  ข่อย เฮ็ดทอได๋  ทอได๋    มันบ่ย่อไห่    สิไป่เอ๋าหัวโขกข่างฝาแล้ว   มื่อนี่พ้าเด็กนอ่ย ไป๋เทียวม้า   ไร่องุ่น ของคุณสุพรรษา     สิล่งฮูป มันก็หย่าย  หย่าย ลงบ่ได่  เคียดแท้เด่มื่อนี่ จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 19:41:36

ความคิดเห็นที่ 30 เบิ่งแล้ว อยากซิไปหาปลาข่อนนำเนอะ เป็นตาม่วนอีหลี  ลุงกำนันเฮ็ดให้หนูคิดฮอดอีแม่นำดินิ 55+   แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 20:29:34 จากคุณ : สาวถุงกาแฟ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:29:03

ความคิดเห็นที่ 31 ---ขอบคุณป้าตุ๋ยที่เข้ามาให้กำลังใจครับ  ความต้องการที่จะไปใช้ชีวิตที่บ้านนอกก็เป็นเรื่องที่อยู่ในใจของผมคนเดียวครับ  มันเป็นภาพที่ชัดอยู่ในใจของผมคนเดียว ชนิดที่ว่าไม่สามารถที่จะถ่ายทอดออกมาให้ลูกเมียได้เห็น..ครั้งนี้เป็นโอกาสดีครับ ----น้องเหมียวครับ  พี่กำนันกำลังเอาภาพที่อยู่ในใจออกมาสร้างในชีวิตจริงครับ...ไม่ว่าจะเป็นไร่นา..บ้านบนเนินเขา..ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนความเป็นอยู่ที่ดี อีกไม่นานคงเป็นรูปร่างสมบูรณ์ครับ ---น้องลำยองลองหาโปรแกรม PhotoScape มาใช้ดูนะครับ ง่ายดี ---------------------------------------------------------------------------------------     อุบลเป็นจังหวัดใหญ่มากครับ ขนาดว่าแยกออกไปตั้งเป็นยโสธรและอำนาจเจริญแล้วก็ยังเหลืออีกเยอะครับ เที่ยวได้ไม่หมด ใครจะมาเที่ยวอุบลต้องมาหลายวันครับถึงจะเที่ยวทั่ว  ผมเองช่วงที่อยู่อุบลก็ไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย เรียกว่าเกิดหลังเขาและเกิดในยุคที่ขี่เกวียนอยู่เลยครับ ถึงจะมีโอกาสมาเรียนในตัวเมืองเอาตอนเรียนมัธยมแต่ก็ไม่ได้เที่ยวที่ไหน ทุกวันนี้กลับไปก็ยังงงอยู่ครับ ขับรถหลงทุกที     วัดวาอารามสวยๆ มากมายครับ ที่เที่ยวก็เยอะ..อย่างวัดนี้ครับ "วัดสุปัฎนารามวรวิหาร" จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:33:11

ความคิดเห็นที่ 32 สุดยอดเลยลุงกำนัน  เอ้ย พี่กำนัน 555 เถียงนา นี่ภาษาอุบลหรอคะ เพิ่งรู้  แถวบ้านพ่อหนู (ชุมพร) ก็เรียก เถียงนา นะ  หนูยังขำก๊ากอยู่เลย  เพราะหนุนึกว่า ภาคใต้จะเรียก ขนำ มากกว่า( อาทิเช่น  ขนำน้อยปลายนา  5555)แต่พอ่หนูเรียก เถียงนา อ่ะ   เถียงนาใหญ่โตอย่างพี่กำนัน ต้องเรียกว่า  บ้านไร่เรือนรัก แล้ววววว  ว๊าวว โรแมนติคฝุดๆ จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:33:26

ความคิดเห็นที่ 33 ----สาวถุงกาแฟ ไปทุกห้องเลยนะเราน่ะ...มิตติ้งห้องสวนลุมครานั้นไม่ได้เจอกัน พี่กำนันหนีตายออกมาก่อน เมียบุกครับ...คิดถึงแม่ก็กลับบ้านสิครับ โชคดีที่แม่ยังอยู่ ผมไม่เหลือใครแล้วแต่ก็คิดถึงทุกคน --------------------------------------------------------------------------------------- ---ภายในพระอุโบสถหรือสิม ตามภาษาชาวบ้านครับ (ดูท่าทางนายแบบเหมือนโจรกลับใจนะ) จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:39:24

ความคิดเห็นที่ 34 มี "รูป" (บ้าง) ของน้องหมาชื่อ Ms. Jingle ค่ะ มาส่งยิ้มให้ ลูกสาว(กะ)กำนันค่ะ จากคุณ : PuAY&ToN เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:50:09

ความคิดเห็นที่ 35 ----ทักทายหนูขาวมณี...อายุห่างกันแค่ไหนก็เรียกพี่น่ะดีแล้ว ที่บ้านเรียกเถียงนาครับ ถึงผมจะมาอยู่กรุงเทพยี่สิบกว่าปี ภาษาที่บ้านก็ยังไม่ลืมครับ ยังพูดได้เสมอ ---------------------------------------------------------------------------------------   การเดินทางมาอุบลมาได้หลายทางครับ ทางถนนก็ดี  รถไฟก็มาถึงอำเภอวารินชำราบ(ไปไม่ถึงตัวจังหวัดที่อยู่คนละฝากแม่น้ำมูล) เครื่องบินก็มีหลายสาย บินกันให้ว่อน ----สถานีรถไฟอุบลครับ(แต่อยู่อำเภอวารินชำราบ) วันนี้เงียบเหงาครับ ใครชอบการเดินทางแบบทรมานบัญเทิงไม่ควรพลาด จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:50:41

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบลุงกำนัน ที่เผยแพร่ความเป็นอีสาน บ้านเฮา ให้เพื่อนๆพี่ๆ ได้รู้ได้เห็นบ่อยๆนี้แหล่ะค่ะ แบบว่า ภาษาอีสานวันละหลายคำ ซะเลย55+ ป.ล มิตติ้งหน้า ทำการบ้านดีๆนะคะจะได้พ่อ(เจอ)กัลลล แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 21:14:09 จากคุณ : สาวถุงกาแฟ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 21:13:10

ความคิดเห็นที่ 37 ----PuAY&ToN ยินดีที่เข้ามาให้กำลังใจครับ ----ผมไม่เก่งขนาดนั้นหรอกครับคุณสาวถุงกาแฟ เป็นแค่ชาวบ้านที่เล่นพันทิปธรรมดา ให้ท่านอื่นที่เก่งๆ ดีกว่าครับ ผมก็จะถ่ายทอดในแง่ของผมครับ --------------------------------------------------------------------------------------- ----สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลส่วนมากจะอยู่ห่างกันมากครับ ใครไม่มีรถจะไปลำบากพอสมควร อย่างผาแต้มหรือโขงเจียมที่ผมและครอบครัวจะไปเที่ยววันนี้ก็อยู่ห่างตัวจังหวัดมากครับ ออกจากตัวจังหวัดมุ่งหน้าไปอำเภอพิบูลมังสาหาร ถึงตัวอำเภอจะเจอสามแยก เลี้ยวขวาจะไปด่านช่องเม็กและปากเซ-ลาว..ผมเลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำมูลไปอำเภอโขงเจียม.. ----ก่อนถึงโขงเจียมก็แวะเที่ยวเขื่อนปากมูลเสียก่อน ที่นี่ผมเคยมาทำข่าวตอนที่เขาคัดค้านไม่ให้สร้าง เคยว่ายจะข้ามแม่น้ำมูลช่วงนี้มาแล้ว นึกแล้วยังเสียวไม่หาย ว่ายไปได้หน่อยก็ต้องเรียกเรือมารับ..เกือบตาย วันนี้เขื่อนปากมูลสร้างเสร็จแล้ว ใหญ่โตเหมือนในภาพครับ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 21:45:01 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 21:42:59

ความคิดเห็นที่ 38 55555555555 มาให้กิฟโจรกลับใจ  พี่กำนัน พูดเองชงเองก็ได้นะคะ  ตลกอ่ะ  ก๊ากเลย 5555 จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 21:52:54

ความคิดเห็นที่ 39 ออกจากเขื่อน วิ่งถนนหมายเลข 2222 ไปอำเภอโขงเจียม ผมเองก็ไม่เคยไปถึงอำเภอครับ เคยเห็นแต่ในแผนที่กับรูปถ่าย โขงเจียม เป็นอำเภอเล็กๆครับ ตั้งอยู่บนตลิ่งแม่น้ำโขงช่วงที่แม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงใหลมาเจอกันก่อนจะใหลเข้าไปในลาว ตัวเมืองอยู่ต่ำกว่าระดับถนนมองไม่เห็นครับ ก่อนถึงตัวเมืองก็เจอวัดนี้ครับ "วัดถ้ำคูหาสวรรค์"สวยงามมากครับ หลังวัดมีถ้ำและจุดชมวิวดูแม่น้ำสองสี จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 21:58:36

ความคิดเห็นที่ 40 ---อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนหนูขาวฯ เดี๋ยวสนุกแล้ว..จะพาไปเที่ยวฝั่งลาว --------------------------------------------------------------------------------------- ---มุมหลังวัด นอกจากจะมองเห็นแม่น้ำสองสีแล้ว ยังมีถ้ำให้ไหว้พระและมองเห็นอำเภอโขงเจียมอยู่ข้างล่าง เดี๋ยวแวะถ่ายรูปก่อนค่อยลงไป...ภาพนี้นอกจากเมียกับลูกแล้วก็ยังมีหลานเมียขอตามมาด้วย..มันหนีน้ำท่วมมาเหมือนกัน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:03:28

ความคิดเห็นที่ 41 ---ไหว้พระแล้วก็ขับรถลงไปข้างล่างครับ ตัวอำเภออยู่ริมตลิ่ง ทางลงอยู่เลยวัดไปหน่อยประมาณกิโลเมตรครึ่ง มีถนนเล็กๆ ลงไปเลียบแม่น้ำที่เป็นที่ตั้งบ้านเรือนและสถานที่ราชการ มีร้านอาหารและรีสอร์ทมากมายครับ ขับรถไปจอดในร้านอาหารริมตลิ่งได้เลย อุดหนุนเขาหน่อย ก่อนจะหาเรือข้ามไปหมู่บ้านฝั่งลาว ---การข้ามไปฝั่งลาวบริเวณนี้ก็ไม่ยากครับ มีเรื่อรับจ้างเหมาจากฝั่งเราไป(และรอรับกลับ) คิดราคาสามร้อยครับ..เอกสารอะไรก็ไม่ต้องเพียงแต่ฝั่งลาวคิดค่าเหยียบแผ่นดินเขาคนละยี่สิบบาท ---บริเวณที่เราจะข้าม ฝั่งที่เห็นคือประเทศลาว ขวามือคือที่น้ำมูลใหลมารวมกับแม่น้ำโขงจนเกิดเป็นแม่น้ำสองสี(โขงสีขุ่นมูลสีคราม) จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:24:11

ความคิดเห็นที่ 42 ----พี่คนนี้แหล่ะครับจะพาข้าม...นับแต่นี้ไปชีวิตฝากไว้ในมือแก....เมียผมขออยู่รอเฝ้ารถอยู่ฝั่งไทย ไม่กล้าข้ามน้ำ(เสียแผนหมด) แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 22:31:03 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:29:58

ความคิดเห็นที่ 43 ---บ่ายหน้าออกแม่น้ำใหญ่ มุ่งหน้าสู่ลาว(หลบหนีออกจากราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต) จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:33:54

ความคิดเห็นที่ 44 ---แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำเก่าแก่ ยิ่งใหญ่และลึกลับ ผมเองยังรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ ยิ่งแม่น้ำช่วงนี้เป็นที่ที่แม่น้ำใหลมารวมกัน ความปั่นป่วนของน้ำจึงมีมาก กลืนชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วนแล้วครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:42:35

ความคิดเห็นที่ 45 ---ช่วงกลางแม่น้ำเจอน้ำวนใหญ่มากครับ...ผมนั่งเงียบ ดีที่คนเรือแกมีฝีมือ...เสียวว้อย.. จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:47:05

ความคิดเห็นที่ 46 ----เพียงยี่สิบกว่านาทีก็ถึงฝั่งลาว(แต่ความรู้สึกเหมือนชาติหนึ่ง) เป็นการหนีออกนอกประเทศที่ง่ายมาก...มิน่าหล่ะเขาถึงนิยมกันนัก  ฝั่งลาวอยู่ข้างหน้า ผู้คนที่เห็นในฝั่งคือพี่น้องชาวลาวที่ข้ามมาจากฝั่่งไทยเหมือนกัน...ท่าทางคงจะมาจากกรุงเทพเหมือนผม ---ซ้ายมือจะเห็นป้อมเจ้าหน้าที่ ซื้อตั๋ว(ปี้)เข้าเหยียบประเทศซาวบาทครับ(ซาวแปลว่ายี่สิบใช้เหมือนกันทั้งสองฝั่ง) ---อ้อ..ในลาวอย่าถ่ายรูปสถานที่ราชการหรือเจ้าหน้าที่เขานะครับเดี๋ยวจะเป็นข่าวอีก(แต่ถ้าแอบๆ ก็ถ่ายได้) ---ข้างบนจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีตลาดขนาดเล็กอยู่บนเนินเขาห่างจากฝั่งสองสามร้อยเมตร เดินเอาก็ได้ครับ แต่มีรถเครื่องรับจ้างคิดสิบบาท ผมเองก็หลงนั่งเหมือนกันคิดว่าตลาดอยู่ไกล แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 23:06:14 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 23:01:09 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 22:57:23 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:55:35

ความคิดเห็นที่ 47 ---ของขายในตลาดก็ประมาณนี้ครับ เหล้า (ปลอมแท้ๆ โดยเฉพาะรีเจนซี่) เสื้อผ้า..กระเป๋า โทรศัพท์จากจีน  ของป่า ตลอดจนของเล็กๆ น้อยๆ จากจีน ของกินบางอย่างก็ไปจากไทย(เขาซื้อมา เราก็ซื้อกลับ..เออแปลกดี) จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:13:52

ความคิดเห็นที่ 48 ---ของป่าก็มี หนังเสือ ดีหมี ดีงู ดีเสือ(ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร) ผมเลยซื้อว่านรางจืดมาฝากน้องชายเผื่อมันจะเลิกเหล้า ---เห็นมีว่านมหานิยมด้วยนะครับ คนขายเรียกว่าว่านดอกท-อ-ง (มีดีทางหาคู่) ราคาบอกว่าหัวละสี่ร้อย ผมสนใจอยู่เหมือนกันแต่ต่ออย่างไรก็ไม่ลด หลวงพี่ที่ไปอีกคณะเร่เข้ามามองอย่างสนใจ...ปล่อยหลวงพี่แก จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:22:28

ความคิดเห็นที่ 49 ---นี่...ร้านนี้เหล้าปลอมเกือบทั้งร้าน...ไปลาวแนะนำว่าอย่าซื้อเหล้าครับ ถ้าจะกินกินเบียร์ลาวดีกว่า หรือซื้อที่้ร้านป้าดาวเรือง อย่างรีเจนซี่เขาซื้อขวดและกล่องจากฝั่งไทย เอาเหล้าอะไรไม่รู้ใส่เข้าไป ปิดฝาด้วยวิธีหยอดกาว(เปิดดังแก๊กเหมือนของจริง) ความจริงทางการของไทยและลาวก็เตือนครับแต่คนไทยรั้น วันผมไปก็เห็นคนไทยหิ้วมาสองขวด จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:29:00

ความคิดเห็นที่ 50 ---ต้องแบบนี้ถึงไม่ปลอม จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:31:30

ความคิดเห็นที่ 51 ขอปาดเป็นกำลังใจให้น้องกำนั่นด้วยนะจ๊ะ.. จะรอให้โพสต์จบก็เห็นว่ามีหลายร้อยภาพอยู่ คนกรุงเทพโดยกำเนิด แต่โหยหาชีวิตบ้านนอกมากมาย แวะแจกกีฟ ซาวแทรคอินเตอร์ ออนฟิลม์ หล่ายๆ หน่อ.. ภาษาท้องถิ่น น่ารักและมีเสน่ห์ในตัวเอง คนเมืองอย่างมี่ เวลาได้ยินคนพูดภาษาถิ่นในกรุงเทพ มักนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่..ชอบฟัง (ชอบอ่านด้วย) มีเสน่ห์ น่ารัก และไม่ลืมถิ่นเดิม น่ารักมากๆ ชอบๆๆๆๆๆ สำหรับกำนั่น ต้องสื่อกะคนเมืองก็ว่าภาษาเมืองอ่ะดีแล้ว ไม่งั้นต้องนั่งแปลสองรอบ อิอิ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 23:39:53 จากคุณ : มี่ (แม่มดขี่ไม้กวาด) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:31:45

ความคิดเห็นที่ 52 ---เด็กชาวบ้านเอาของมาขายก็มีครับ เช่นเด็กคนนี้ ขายลูกกระบกคั่ว ถุงละสิบบาท เห็นวางอยู่ในถาดสามถุง ผมเลยแกล้งถามซื้อ ต่อไปนี้เป็นคำสนทนาระหว่างผมกับเขา ผม  "ขายถ่อได๋..จักบาท"(ขายเท่าไหร่..กี่บาท) เด็ก "ถุงละสิบ.."(ไม่ต้องแปลมั้ง) ผม "หา...(แกล้งได้ยินไม่ชัด)...ถุงละร้อยเลยรึ..แพงขนาด?" (แกล้งเด็ก..มันดี เจตนาคือจะให้ร้อยหนึ่ง) เด็ก "สิบบาท" (งง...ยังยืนยันว่าขายสิบบาท ผมยื่นให้ร้อยหนึ่งบอกไม่ต้องทอนเสี่ยมาเองพร้อมทั้งขอถ่ายรูป ส่วนลูกกระบกเอามาหนึ่งห่อ นึกว่าจะนั่งขายให้หมด เก็บกลับบ้านเฉย..คงจะงงว่าเจอคนบ้าแล้ววันนี้) แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 08:20:40 แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 54 06:09:31 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 23:51:44 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:47:24

ความคิดเห็นที่ 53 ---ขอบคุณพี่มี่ที่แวะมาทักทายครับ...ดึกแล้วคงไม่รอดแน่ คงต้องมีภาค 2 ครับ --------------------------------------------------------------------------------------- ---ใครไม่เคยเห็นลูกระบกชัดๆ ดูเอานะครับ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:54:52

ความคิดเห็นที่ 54 ตามอ่าน และชมภาพสวยๆคะ ได้อะไรเยอะจากสิ่งที่กำนันบรรยายมา ขอบคุณมากคะ จากคุณ : freebird365 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 00:18:10

ความคิดเห็นที่ 55 ชอบเม็ดกระบกอ่ะ กำนัน  ตอนสมัยเด็กกลับจากโรงเรียนต้องแวะเกํ็บต้นใหญ่มาก  เคี้ยวมันจริงๆ  เม็ดกระบกคัั่ว เห็นแล่ว สิเป็นต๋าอยาก จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 06:17:49

ความคิดเห็นที่ 56 ----ลูกกระบก เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วไปทางภาคอิสาน  ภาคอื่นผมไม่เคยเห็น มีลูกโตเท่ากำปั้นเด็ก ตอนลูกสุกจะมีสีเหลืองหอมหวานมากครับวัวควายชอบกินลูกสุก พอลูกหล่นลงใต้ต้นและเปลือกเปื่อยยุ่ยจะเห็นเมล็ดอยู่ข้างใน ผ่าเมล็ดออกมาจะเห็นข้างในเป็นสีขาว ส่วนนี้แหล่ะครับที่กินได้...แต่ก่อนมีแต่ทางภาคอีสาน เดี๋ยวนี้พบเห็นขายอยู่ทั่วไป ตามตลาดหรือคนแก่นั่งขายอยู่ข้างสะพานลอยในกรุงเทพ คาดว่าต้องใช้เวลาพอสมควรถึงจะมีขายตามห้าง จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 07:54:48

ความคิดเห็นที่ 57 ---บ้านเรือนเขาก็อยู่กันแบบบ้านนอกครับ อาชีพก็ทำนาบ้าง หาปลาบ้าง บางคนก็ข้ามมาทำงานฝั่งไทย ค้าขายก็มี ดูง่ายๆ สบายและมีความสุขครับ ---นี่น่าจะเป็นโรงเรียน...เห็นว่าคนไทยข้ามไปบ่อยครับ ใครได้ไปก็แวะไปเยี่ยมเด็กๆ ได้นะครับ...ผมยังอยากเอาผ้าห่มไปให้ในหน้าหนาวนี้ คิดๆ อยู่เหมือนกัน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:09:13

ความคิดเห็นที่ 58 ---บางบ้านก็ทำของขายนักท่องเที่ยว อย่างบ้านนี้ทำกระเช้าใส่ดอกกล้วยไม้ขาย ราคาน่าจะยี่สิบบาท จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:12:54

ความคิดเห็นที่ 59 ---อ้าวลืมทักทายน้องลำยอง เป็นคนที่ไหนทำไมรู้ภาษาอิสานแถมรู้จักลูกกระบกอีก..อยู่ระยองไม่ใช่เหรอ --------------------------------------------------------------------------------------- ---นี่เลยครับ คนสมัยนี้หาดูยากแล้ว "ยุ้งข้าว" แต่ก่อนมีทุกบ้านครับ เอาไว้เก็บข้าวเปลือกที่เกี่ยวและ"ฟาด" (ตี) จนเหลือแต่ข้าวเปลือกแล้ว สมัยก่อนจะเก็บในนี้ครับเก็บเอาไว้กินทั้งปีเหลือก็ขาย จะใส่กระสอบก็ต่อเมื่อจะขาย สมัยนี้ลัดขั้นตอน "ขายเลย"เหลือเอาไว้กินไม่กี่กระสอบ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:25:22

ความคิดเห็นที่ 60 ---สัตว์ที่นิยมเลี้ยงในลาวมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ แพะหรือ "แบ้"(ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า ) สาเหตุน่าจะมาจากเลี้ยงแทนหมู เพราะหมูมันเลี้ยงยาก กลิ่นแรงด้วย แต่แพะลาวต้องพัฒนาเรื่องต้อนรับนักท่องเที่ยวนิดหนึ่ง ไม่ใช่ขอถ่ายรูปแล้วอายอย่างนี้ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:35:53

ความคิดเห็นที่ 61 ---เดินดูนั่นนี่พักหนึ่งก็ได้เวลากลับฝั่งไทย เวลากลับก็ไม่ต้องมีพิธีอะไร เดินมาลงเรือเลย เพราะที่นี่ไม่ใช่ด่านอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ที่เคยอยู่ป้อมก็กลับบ้านแล้วเพราะเลยเวลางาน บรรยากาศระหว่างประเทศดูสบายๆ เหมือนประเทศเดียวกันแค่มีแม่น้ำกั้นแค่นั้นเอง ---เรือรอเราอยู่แล้ว ข้างๆ เรือมีเด็กๆ เล่นกันกลุ่มใหญ่ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:44:58

ความคิดเห็นที่ 62 ---แบ่งฝ่ายต่อสู้จับสาวเป็นตัวประกัน พระเอกเสื้อเหลืองเข้ามาช่วยแต่ถูกสมุนโจรขวางเอาไว้ หัวหน้าโจรตัวเล็กไปหน่อยเลยถูกตัวประกันสาวพาล้มหัวทิ่ม...มีเนินทรายเป็นเวทีต่อสู้...มันเขาหล่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 08:22:37 แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 54 12:47:42 แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 54 12:45:26 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:54:01

ความคิดเห็นที่ 63 ---บางคนก็ขอตัวไปฝึกเป็นนางเอกมิวสิค จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 08:55:36

ความคิดเห็นที่ 64 ---ไม่รู้จะซื้ออะไร ได้กระเป๋ากับเสื้อและของเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับคนเป็นพ่ออย่างผม การได้พาลูกสาวมาเที่ยว มาเห็นสิ่งต่างๆ ก็รู้สึกดี ตัวเขาเองก็ชอบใจ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 09:02:57

ความคิดเห็นที่ 65 ---บ่ายหน้ากลับประเทศไทย ตะวันจวนจะตกดินแล้ว คงมีโอกาสกลับมาเยี่ยมอีกหลายๆ ครั้ง เป็นอีกวันดีๆ ของผมและครอบครัว แม้ว่าในใจจะนึกเป็นห่วงบ้านที่กรุงเทพที่กำลังถูกน้ำท่วม เห็นภาพสวยๆ ก็พอคลายทุกข์ใจได้บ้าง จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 09:11:04

ความคิดเห็นที่ 66 ---สายน้ำโขงกับผู้คนแถวนี้คงผูกพันกันมานาน ตะวันตกดินแล้วแต่ชาวบ้านก็ยังหาปลากันอยู่ วิถีชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป..และคงจะต่อไปอีกนาน..เท่านาน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 09:14:17

ความคิดเห็นที่ 67   ถ้าไม่ได้น้ำท่วมบ้านครานี้ คงไม่ค่อยมีเวลาพาลูกเมียเที่ยว เพราะต่างคนก็ต่างมีภาระ ทั้งเรียนและทำงาน บางทีชีวิตคนเราก็สั้นนะครับ ช่วงเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันก็มีน้อย หากพอจะมีเวลาบ้าง ก็อยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานั้นเอาไว้ให้มากที่สุด ---ถ่ายรูปมาเยอะมาก คงต้องแตกไปเป็นภาค 2  ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ ---นานๆ จะเห็นตะวันตกดินที่ฝั่งไทย แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 10:01:30 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 09:34:02

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากค่ะ พี่มี่ กำนัน ปล. ฝากรูปให้ค่ะ จากคุณ : PuAY&ToN เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 13:36:30

ความคิดเห็นที่ 69 สวัสดีครับพี่กำนัน... เห็นพี่มีความสุขอยู่บ้านนอก ก็ชวนให้ผมคิดถึงไอดินกลิ่นเขียดที่บ้านผมตะหงิดๆ ถิ่นกำเนิดผมอยู่เชียงใหม่ จะว่าเจริญรึก็ยังไม่ไช่ ห่างจากตัวเ้มืองตั้งร้อยกว่าโล จนเขาจะแยกเป็นอีกจังหวัดอยู่แล้ว (จ.ฝาง) แหม เรื่องไปอยู่บ้านนอกนี่ เป็นดำริของเมียผมแต่แรกเริ่มเดิมทีแล้วครับ เพียงแต่ผมรู้สึกว่าฐานการเงินผมยังไม่มั่นคงพอ ก็เลยขอเวลาคนสวยเสียสี่ซ้าห้าปี แล้วค่อยไปอยู่กัน ก็พอดีกับลูกสาวที่โดนพ่อกับแม่ผมยึดไปโตพอดีล่ะครับ แปลกนะครับ เมียผมเธอเป็นคนบางกรวยแต่กำเนิด ทำงานมาตั้งแต่อายุ 16-17 จนบัดนี้ก็ครึ่งชีวิตได้ละ เกิดเบื่อกทม อยากไปชิวๆ กินข้าวเหนียว นอนเถึยงนา เดินแคทวอล์คคันนา ทำงานแค่พอกิน มีเวลาดูแลตัวเอง ผมเห็นด้วยกับเธอนะ ไอ้วิชาความรู้เรื่องเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ที่ร่ำเรียนมาจะได้ใช้ซะที กลับไปอยู่บ้านนอก เมียผมเธอไม่กลัวครับ กลัวอย่างเดียว ไปอยู่บ้านนอกแล้วผมจะพาลกลายเป็นพวกขี้เหล้าซะมากกว่า ก็แหม เพื่อนเก่าๆ ผมก็เยอะโขอยู่ กลับบ้านไปเยี่ยมลูกที ไปสี่วัน สี่คืน เมาเหล้าขาวเสียสามคืน เว้นคืนสุดท้ายก่อนกลับ ใหม่ๆ เธอก็ไม่ว่าอะไร แต่เยอะๆ เมาจนลืมส่งการบ้าน ก็แอบมีเคืองกันละทีนี้ ถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่พี่กำนันด้วยครับ หวังว่าจะได้พบกันในวันที่เวลาชีวิตโคจรมาบรรจบกันครับ ขอแสดงความคิดถึง... จากคุณ : เป็ดเสรี เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 15:57:46

ความคิดเห็นที่ 70 ---ขอบคุณคุณเป็ดเสรีและทุกท่านที่เข้ามาเป็นกำลังใจครับ ถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่ทุกท่านด้วยเหมือนกัน ---ทุกชีวิตย่อมมีแนวทางของตนเองครับ ผมโตมาจากบ้านนอกถึงมาอยู่กรุงเทพแต่ก็ยังคิดถึงบ้านนอกอยู่ไม่คลาย หวังเอาไว้ว่าจะได้ไปใช้ชีวิตช่วงปลายๆ อยู่ที่อุบล ผมเห็นชีวิตของคนกรุงเทพแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่กว่าจะได้ไปก็คงอีกนับสิบปีครับ ช่วงนี้ก็ได้แค่ไปเยี่ยมเป็นบางเวลา แต่ถ้าปีหน้าน้ำท่วมกรุงเทพอีก..เผ่นแน่ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 16:15:02

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ นี้ครับ จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 16:23:35

ความคิดเห็นที่ 72 ชอบกระทู้นี้มากเลยครับ....ภาพมีความหมายทุกภาพและได้ความรู้ได้ ความสุขไปกับท้องฟ้า ต้นข้าว ต้นหญ้า ทุ่งนามากเลยครับ ผมก็ลูกชนบท..สุรินทร์ เคยไปเรียนที่อุบลบ้างเหมือนกัน ตอนนั้นหน้าแล้งจะชอบไปเล่นแม่น้ำมูลบ้านคำกลาง กม.7 สายพิบูล มีคนรู้จักเรียกแม่อยู่นั้น และไปไกลสุดถึง แก่งสะพือ เขื่อนสิรินธร    ชีวิตตอนเด็กๆอยู่แต่บ้านนอก มีแต่วัวควาย นา ต้นข้าวก็เบื่อ อยากมาอยู่ในเมือง พอตอนนี้อยู่ในเมืองก็เบื่อมากแล้วอยากกลับไป อยู่บ้านนอกคืน.... แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 54 17:34:37 จากคุณ : 123 (เทพบุตรสายฟ้า) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 17:27:51

ความคิดเห็นที่ 73 น้องใหม่ห้องนี้นะครับ อิ่มอกอิ่มใจมากกับกระทู้น้ากำนัน หุ หุ เห็นอุบลแล้วคิดถึงความหลังที่เกือบได้เป็นเขย เมืองดอกบัว  บรรยากาศบ้านนอกที่อุบล น่าอยู่มากครับ ยังคงเป็นชนบท ที่ยังรักษาความเป็นบ้านนอกได้ดี ผมกลับบ้านล่าสุด ที่เมืองแพร่ มันไม่มีบรรยากาศแบบนี้ แล้ว    เป้นอีกหนึ่งกระทุ้ที่ต้องติดตามครับ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 19:11:30

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณพี่กำนันที่เอาเรื่องราวเล่านี้มาเขียนถ่ายทอดให้อ่านกันนะคะ ชอบเรื่องแนวนี้มากเลยค่ะ ^ ^ หนูเองก็หนีน้ำกลับบ้านนอกไปเหมือนกัน ไปอยู่เดือนนึงตอนแรกคิดว่าจะอยู่ได้ไหมเพราะอยู่กทม.จนติดเสียแล้ว ปรากฏว่าชอบมาก อากาศดี อาหารอร่อย จราจรไม่ติดขัด ที่สำคัญเงินเหลือเยอะมาก เลยทำให้มีความคิดอยากกลับไปอยู่แบบถาวร พ่อก็ดีใจมากๆ เลยทีเดียวที่รู้ว่าลูกสาวคนเล้กจะกลับมาอยู่บ้าน หนูไม่คิดว่าพ่อจะดีใจขนาดนั้นก็ยิ่งรู้สึกตื้นตันใจจริงๆ ที่มีคนรอเราอยู่ที่บ้านและทำให้คิดว่านี่ฉันมาทำอะไรอยู่กรุงเทพตั้งยี่สิบปี ภาพถ่ายจากริมแม่น้ำหน้าศาลเจ้าอำเภอมโนรมย์ตอนหนีน้ำกลับไปบ้าน น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดแล้วแต่ยังเยอะอยู่เลย...หนีน้ำไปเจอน้ำค่ะ 555 จากคุณ : ด.ญ.กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 04:19:50

ความคิดเห็นที่ 75 ได้ความรู้ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ไปเที่ยวโดยไม่ต้องเสียตังค์ ขอบคุณมากคะสำหรับเรื่องราวที่นำมาถ่ายทอดให้พวกเราได้รู้ จากคุณ : freebird365 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:35:45

ความคิดเห็นที่ 76 ---ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม  ขอบคุณพี่ใหม่ที่ติดตามให้กำลังใจ ทีแรกกะจะจบกระทู้แล้ว เพราะกระทู้สมบูรณ์แล้ว  แต่เมื่อหลายท่านให้ความสนใจและเรื่องราวบังเอิญตรงใจหลายๆ ท่านที่เป็นคนบ้านนอกด้วยกันจนกระทู้ขึ้นแนะนำ จึงขอเขียนต่อเพื่อมอบแด่ทุกท่าน แทนคำขอบคุณและถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่กับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านและครอบครัว พบแต่ความสุข ความเจริญ ในปีใหม่และตลอดไปครับ -------------------------------------กำนันรักทุกคน---------------------------------- จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:06:01

ความคิดเห็นที่ 77 ----ชีวิตต้องดิ้นรนและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาจึงจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ ความลำบาก อุปสรรคต่างๆ บางทีอาจดูน่ากลัว แต่มันคือยาบำรุงชีวิตชั้นดี มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตเดินไปข้างหน้าอย่างมีพลัง ---แต่เมื่อเหนื่อยล้าอ่อนแรง เราเลือกที่จะพักผ่อน บางคนก็เลือกที่จะกลับไปหาต้นกำเนิดของตัวเอง เลือกไปอยู่กับธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ เพื่อเรียกพลังกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หรืออย่างน้อยก็เพื่อได้ทบทวนแนวทางชีวิต หายเหนื่อยแล้ว ชีวิตก็มีพลังที่จะเดินต่อไป ---ส่วนตัวผม ทุกครั้งที่เหนื่อยล้า ผมเลือกที่จะกลับบ้านเกิด กลับไปอยู่กับที่ที่เกิดมา และทุกครั้งก็รู้สึกได้ว่า ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่กลับมาทุกครั้ง --------------------------------------------------------------------------------------- ----จังหวัดอุบลกว้างใหญ่มาก มีทั้งป่าเขา แม่น้ำโขง แม่น้ำมูล การคมนาคมทุกวันนี้ก็สะดวกแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวก็เปิดตัวมากมาย สามารถขับรถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย อากาศดี อาหารการกินก็เยอะและอร่อย ที่พักทั้งโรงแรมและรีสอร์ท บ้านพักต่างๆ ผุดขึ้นมากมาย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดเองและที่มาจากต่างถิ่น --------------------------------------------------------------------------------------- ---ที่พักริมแม่น้ำโขง สวยงามและร่มเย็น จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:27:15

ความคิดเห็นที่ 78 ---หากใครไปเที่ยวอุบลแล้ว อยากแนะนำให้หาเวลาไปเที่ยวโขงเจียม นอนพักที่นี่สักคืนสองคืน เพื่อท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทั้งผาแต้ม..แม่น้ำสองสี..ผาชนะได น้ำตกสร้อยสวรรค์ และอื่นอีกมาก โดยเฉพาะผาแต้ม แหล่งเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาด นอกจากจะได้เห็นร่องรอยของคนยุคก่อนแล้ว ธรรมชาติที่นี่ยังสวยงามเหลือเกิน ---ออกจากอำเภอโขงเจียม ผมขับรถขึ้นเหนือไปอีกสิบกว่ากิโลเมตรก็เห็นทางเข้าอุทยานผาแต้ม ที่นี่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าชม เลยด่านเจ้าหน้าที่ก็เจอจุดแรกที่หยุดชม "เสาเฉลียงและลานหินแตก" จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:52:32

ความคิดเห็นที่ 79 ---ที่นี่ร่องรอยของกาลเวลายังปรากฎให้เห็น เหมือนหนึ่งว่าเราหลุดเข้ามาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ หินและดินที่ถูกกาลเวลากัดกร่อนจนเป็นรูปร่างแปลกตาปรากฎให้เห็นอยู่ทั่ว เป็นที่อัศจรรย์แก่สายตาของผู้คน เหมือนธรรมชาติจะบอกว่า ฉันยิ่งใหญ่นะโว้ย... แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 09:38:19 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:59:14

ความคิดเห็นที่ 80 ---รูปร่างที่แปลกตา เห็นครั้งแรกต้องตั้งคำถามว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร ธรรมชาติลึกลับและอัศจรรย์เสมอ ก่อเกิดสิ่งต่างๆ มากมาย รวมทั้งมนุษย์ ---เมียผมบังอาจเทียบขนาดดู แทบจะหายไปกับเงามืดเลย จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:05:01

ความคิดเห็นที่ 81 ---ใกล้กันยังมีหินรูปร่างแปลกๆ มากมาย ต้นไม้ต่างแทรกตัวขึ้นมาตามซอกหิน ยื้อแย่งกันเพื่อมีชีวิตอยู่ เหมือนมนุษย์ที่ต้องดิ้นรน เพื่อให้มีพื้นที่ยืนอยู่บนโลกใบนี้ ใครเข้มแข็งก็ยืนหยัด ใครมีน้ำใจก็อุ้มชู ---มนุษย์มีหน้าที่อุ้มชูธรรมชาติ ไม่ใช่ผู้ทำลาย แต่ไม่ใช่อุ้มชูอย่างนี้ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:23:16

ความคิดเห็นที่ 82 ---หลังเสาเฉลียงจะเป็นลานหินแตก ใครไปอย่าพลาดชมนะครับ...เดินขึ้นไม่ยากและก็ไม่ไกล เพียงร้อยกว่าเมตรเอง ---หินทั้งลานแตกเป็นรอยแยกน่ากลัว กว้างประมาณหนึ่งฟุต ลึกจนน่าขนลุก..หยึ๋ยยย... จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:34:48

ความคิดเห็นที่ 83 ---ข้างบนยังมีจุดชมวิว ดูป่าเขา แม่น้ำ ท้องฟ้าสีสวยงาม ---ภาพนี้ขอประกบลูกสาวโชว์หนังหน้ากันหน่อย ขวามือในภาพคือแม่น้ำโขง ซ้ายมือเห็นอยู่ลิบๆ คือทางลงผาแต้ม ที่นั่นมีอาคารใหญ่โตสะดวกสบาย ห่างจากที่นี่นิดเดียวครับ เดี๋ยวเราไปลุยกัน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:44:24

ความคิดเห็นที่ 84 แอบมาเที่ยวด้วยคนนึงคะ บ้านนอก สักวันจะไปอยู่บ้านนอกเหมือนกันคะ จากคุณ : ปลาทูทำอะไรก็อร่อย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:54:33

ความคิดเห็นที่ 85 อยากให้มีรูปตอนกลับถึงบ้านที่ กทม. ด้วยครับ จากคุณ : dupdanup (ดูบดานูป) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:22:30

ความคิดเห็นที่ 86 ช่างเป็นทริปหนีน้ำที่น่าอิจฉาที่สุดดด ทามม๊ายยย ทำไม ที่ทำงานเราน้องน้ำไม่มาเยือน ปล่อยให้เรารอเก้ออออ อยากหนีน้ำแบบนี้บ๊างงงงง จากคุณ : meawtha เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:42:04

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ รูปตอนน้ำท่วมบ้านเดี๋ยวจัดให้ครับ..นี่เป็นวันแรกๆ ที่น้ำท่วมเอง..ได้ข่าวว่าเรื่องนี้พระเอกตายตอนจบ..ถึงวันรีวิวนี้ยังเก็บบ้านไม่เสร็จเลยครับ น้ำท่วมอยู่เกือบสองเดือน สูงเสมอสะดือ ---ไม่ต้องน้ำท่วมก็หนีเที่ยวได้ครับคุณเหมียว ปีใหม่นี้ก็ไปได้ อากาศกำลังดีครับ --------------------------------------------------------------------------------------- ---"ผาแต้ม" ในความรู้สึกของผู้คนคือ แหล่งเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์  ตัวผมเองก็ไม่เคยไปมาก่อน เพราะไกลจากบ้านมาก อีกอย่างคิดว่า คงไม่มีอะไรมาก งั้นๆ ---แต่ผมคิดผิดครับ นอกจากภาพเขียนสีแล้ว ทิวทัศน์ที่สวยงาม ป่าไม้ ดอกไม้ป่า แม้แต่ต้นหญ้าก็ยังสวยงามดูแปลกตา ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองของเราหลายท่านก็เคยเสด็จ ที่นี่มีเรือนรับรองอย่างดี ร้านค้าร้านอาหารมีพร้อม สะดวกสบายทุกอย่าง ทางเดินก็มี เดินดูได้อย่างไม่ลำบาก วัยอย่างผมยังพอเดินได้ ---ตามไอ้แสบมันไปเลยครับ นี่คือทางลงไปดูภาพเขียน นับจากนี้ไปสี่กิโลเมตรคือความสวยงาม จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:21:19

ความคิดเห็นที่ 88 ---ผาแต้มเป็นหน้าผาสูงชัน ซ้ายมือเป็นหน้าผาด้านขวาเป็นเหวลงไปถึงตลิ่งแม่น้ำโขง คนสมัยก่อนมาเขียนภาพต่างๆเอาไว้ เขาว่าน่าจะก่อนประวัติศาตร์ ส่วนตัวผมมองว่าน่าจะเขียนขึ้นในพิธีต่างๆ มากว่าจะมาเขียนเล่น เพราะสมัยก่อนคงไม่ได้ปีนลงมาง่ายๆ ---สูงใหญ่น่ากลัวมาก สมเด็จพระเทพก็เคยเสด็จที่นี่ ดังมีหมุดจารึกพระนามอยู่ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:30:39

ความคิดเห็นที่ 89 ---เดินดูไปด้วยมารยาทที่ดี ไม่มีใครส่งเสียงดัง ส่วนหนึ่งจะเกรงในความยิ่งใหญ่และเก่าแก่ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:34:44

ความคิดเห็นที่ 90 ---แต่อีกอย่างก็เกรงใจเจ้าถิ่นที่ทำรังอยู่บนหน้าผา กลัวพี่แกจะตกใจตื่น ได้วิ่งป่าราบกันแน่ จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:36:55

ความคิดเห็นที่ 91 ---ถึงแล้วครับกลุ่มภาพเขียน ดูเอาเองแล้วกัน จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:38:53

ความคิดเห็นที่ 92 ---ผมนึกออกแล้วว่าเมียผมหน้าเหมือนใคร...อ๋อ..มนุษย์โบราณ..ดูครับเหมือนมั้ย แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:42:51 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:41:02 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:40:22

ความคิดเห็นที่ 93 ---ให้พี่แกนำชมภาพก็แล้วกันนะครับ..(อิอิอิ...ได้ที) จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:44:48

ความคิดเห็นที่ 94 ---ไม่รู้ว่าเขียนเพื่อการใด...น่าจะเป็นเขียนในพิธีการต่างๆ เพื่อเป็นการจารึกบอกเล่าให้คนรุ่นหลัง(ให้งงเล่น) แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 14:22:24 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:58:45 จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:49:27