ความคิดเห็นที่ 1 ภาค 2  หลุมพรางแห่งความลับ  กับดักเริ่มทำงาน หลังทราบคำพิพากษาแล้ว  มีสองเสียงในหัวผม “ เอาหน่ะ  ดีแล้ว  ถ้าไม่เสียเวลาไปกะศาลเยอะ  ทำตาม พรบ.คุ้มครอง  3 ครั้งจบ ถือว่ามากแล้ว “ เสียงหนึ่งคิด “ เฮ้ย มันไม่ถูกต้องนะ  เรากำลังหาความถูกต้องนะ  สิ่งที่เราต้องการคือ คดีผู้บริโภคนี่หว่า “ เสียงหนึ่งค้าน “ ทำไมถึงไม่มีคำว่า คำเปรียบ  ประมาทเลินเล่ออย่างรุนแรง  ไม่นำพาต่อความเสียหายหล่ะ   แล้วทำไมไม่มีผลเผื่อแผ่ผู้บริโภคอื่นหล่ะ  อย่างนี้จะเป็นคดีผู้บริโภคยังไง“ เสียงค้านเริ่มเป็นสอง “ ทำไมค่าน้ำมันรถเพื่อฟ้องร้องก็ไม่ได้หล่ะ  แล้วชาวบ้านตาดำๆจะฟ้องกันทำไม  มีเรื่องวันเดียว   เสียเวลาฟ้องเป็นสิบยี่สิบรอบ  ใครจะฟ้องหล่ะทีนี้ “ สามเสียงค้าน “ แล้วทำไมจำเลยไม่เคารพศาลเลย  ไม่มาฟังคำพิพากษา  ต้องออกหมายบังคับ   เสียเงินอีก  สรุปแล้วเหลือถึงหมื่นมั๊ยวะเนี่ยะ “  สี่เสียงค้าน “  แล้วทำไมฐานะจำเลยยากจนมากเหรอ  ใช้โทษปรับสูงสุดไม่ได้  เทียบกันแล้ว   ค่าขาดรายได้เราเป็นแสนแล้ว เรายังจ่ายได้เลย  จำเลยรวยกว่าเราอีก “  ห้าเสียงค้าน “ แล้วทำไมจำเลยเลื่อนนัด  ศาลถึงให้ค่าน้ำมันวันนั้น เหตุผลเพราะความผิดจำเลยที่เลื่อนเหรอ   แต่ว่าการที่จำเลยไม่ออกจดหมายขอโทษ  ยอมให้เราฟ้องเสียเวลา  เหตุเนื่องจากจำเลยนี่หว่า  “  มาห้าเสียงแล้วโว๊ย “ ไม่ได้นะ  เราต้องหาความถูกต้อง  ทำไมคดีง่ายๆ ถึงใช้เวลาเป็นปี  หลักฐานเอกสารครบ  ทำไมไม่มีใครดู   ทำไมเราชี้แจง  ถ้อยคำเราถึงหายไป   ทั้งๆที่หลักฐานชี้เด่ขนาดนั้น “  หกเสียงแล้ว “ แล้วเราจะทำเพื่ออะไร   ความยุติธรรมเหรอ “  เสียงเริ่มแตกกันเอง “ ไม่  เราไม่ได้ต้องการความยุติธรรม  เราต้องการความถูกต้องต่างหาก “ เฮ้ยรำคาญ ทะเลาะกันทำไมเนี่ยะ “ ความถูกต้องมันมีกฎระเบียบ  กฎหมาย  ชี้วัด  แต่ความยุติธรรมไม่มีอะไรวัด  มีแค่ความถูกใจ “ นั่นกระแดะหาเหตุผลอีก “ ไม่ได้  เราต้องทำอะไรต่อไป เพื่อความถูกต้อง  “  นั่นไง  เสียงข้างมากชนะจนได้ “ แต่เราจะทำอะไรได้บ้างเนี่ยะ  เริ่มจากอะไรก่อนดีวะ “  ผมคิดด้วยสมองอันน้อยนิด ก็มันคิดคนเดียวนี่หว่า “ ลองติดต่อ กสทช ดูดีกว่า  กรณีนี้  เราต้องให้กสทช รู้คำพิพากษาก่อน “  ผมคิดเอาเอง เพราะ กทช ไม่ต้องมานั่งสืบละ  คำพิพากษาออกมา  ผมทำให้เสร็จแล้ว  ว่าจำเลยผิด  ดูสิ ท่านจะว่าไง ผมเริ่มถามอากู๋เลยว่ากสทช  เนี่ยะมันเบอร์อะไร  ได้เว็บมาละ  http://www.nbtc.go.th/index.php กดลิงค์ปุ๊บ  มึนกินปั๊บ   โหย  นี่มันเว็บหรือ RCA เนี่ยะ  ทำไมป้ายมันเยอะจัง อะไรกันมั่ง  ไหนเบอร์โทร  ไม่ดูแล้วปวดหัว   อือ ล่างสุด 022710151-60,0-2670-8888 หรือ 1200 กด 2   กดเลย “ กสทช ค่ะ “ คนรับเป็นสาวเสียงหวาน  สายโล่งมากติดง่ายจัง “ ติดต่อร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตครับ “ ผมแจ้งโอปะเรเตอร์ “ รอสักครู่ค่ะ “  เธอบอกแล้วต่อสาย จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 14:56:10

ความคิดเห็นที่ 2 จขกท. หลับหรือเสียงหวานทำให้เคลิ้ม รอสาย ๒ ช.ม. แล้ว  ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาเล่าต่อ จากคุณ : renu2011 (renu2011) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 15:54:20

ความคิดเห็นที่ 3 ตามมาแล้วค้าบ จากคุณ : -นอนกอดตัวเองทุกคืน- เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 16:41:56

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณ จขกท. คะ    ไป อย. เรียบร้อยแล้วจ้า   แถมไปโรงพักบันทึกประจำวันไว้ด้วย  ใบรับรองแพทย์ก็มี แต่บริษัทอาหารเสริมมันแย่คะ  ไม่เคยคิดที่จะติดต่อว่าเราเป็นยังไงบ้าง   พูดเหมือนกับให้เราเอายาไปคืนร้านที่ซื้อแล้วก็เอาเงินค่ายาไป     เราถามกลับแล้วที่กินเข้าไปแล้วมีอาการ (มีบันทึกตอนไป อย.  แจ้งอาการทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังกินอาหารเสริมตัวนี้)   ค่ายา ค่ารถ  ไม่รับผิดชอบอะไรเลย     บอกตรงๆ ถ้าบริษัทแสดงความรับผิดชอบโทรถามอาการสักนิด เรื่องไม่ยืดเยื้อขนาดนี้   แต่นี่ไร้มนุษยธรรมจริงๆ  จะขายอย่างเดียว  มีปัญหาไม่รับรู้    เราโทรไปแทบจะไม่อยากคุย  เค้าคงคิดว่าเราไม่มีปัญญาทำอะไรเค้ามั้ง   เอกสารทุกอย่างมีหมด  จนท. อย. เคยนัดเราไปศาลแล้วเรียบร้อย  แต่เผอิญวันที่ไปบ่ายแก่  ไม่ทันแล้วไง   หลังจากนั้นมาติดน้ำท่วมเราเลยยังไม่ได้ติดต่อใครเลย   ยี่ห้ออาหารเสริมก็มี รูปถ่ายไว้    เราเคยโทรไปว่าจะให้โพสต์ให้คนอื่นรู้เรื่องด้วยมั๊ย  เค้าก็เงียบ   เห็นทีต้องเอาจริง  จะได้เป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นดูไว้เป็นอย่าง จากคุณ : starwall เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 17:14:52

ความคิดเห็นที่ 5 ตามติดอย่างเงียบๆ ค่ะ ข้าน้อยขอคารวะ จากคุณ : anata-oarichi-masu เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 17:23:26

ความคิดเห็นที่ 6 รอค่ะรอ ^^ จากคุณ : เจ้าหญิงของเฟิร์ส เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 18:27:33

ความคิดเห็นที่ 7 มาเกาะติด แนบชิดดดดดดดดดด จากคุณ : kisschup เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 18:27:47

ความคิดเห็นที่ 8 ใจเย็นๆคับ  งานแยะแหะ =*= คงดึกหน่อย  แต่ว่ามีของเล่นมาให้เล่นด้วย  พักสายตาให้เต็มที่ เด๋วมีเกมส์จับผิดมาให้เล่นกัน  นักสืบพันทิปเตรียมทำงานได้ฮะ :P จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 19:59:26

ความคิดเห็นที่ 9 มาตามกันต่อ แค่อินโทรก็เร้าใจแล้ว จากคุณ : มีสติ__ก็คิดได้ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 20:29:26

ความคิดเห็นที่ 10 ตามมาค่ะ นับถือๆ.... เคยคิดว่าตนเองไม่เป็นสองรองใครเรื่องกัดไม่ปล่อยแล้วเชียวมาเจอคุณบิ๊กแบ็คดิฉันต้องขอคุกเข่าคารวะ เป็นศิษย์ผู้พี่เลยทีเดียว(โปรดนึกซีนต่อไปนี้ประกอบ ..เข่าซ้ายแนบพื้นเข่าขวาชัน 2มือประคองกันระดับหน้าอก ก้มหน้าลงต่ำ พร้อมกล่าวคำ" ข้าน้อยจะขอคุกเข่าอยู่เช่นนี้จนกว่าท่านจะรับเป็นศิษย์" ) จากคุณ : อ่านแล้วชอบเลย เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 20:49:21 A:223.204.169.168 X: TicketID:343455

ความคิดเห็นที่ 11 กลับปุ๊บ..... ทํางานปั๊บเลยนะคะ my hero จากคุณ : หนูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 20:53:31 A:58.8.134.204 X: TicketID:342395

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่า... (จะเป็นการหมิ่นประมาท กสทช. หรือเปล่าเนี่ย) เส้นทางทางด้าน กสทช. เห็นผลยากกว่าศาลแน่ๆ  ธุรกิจพันล้าน ผมเชื่อมั่นว่ามันต้องมีเส้นสนกลในไม่น้อย  และถ้าบริษัทในเครือน้องน้ำไม่แข็งจริงไม่ก่อวีรกรรมมาได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่อยากให้ท้อแท้แต่ต้นทาง  แต่เปรียบเทียบไว้ให้ทำใจ  ถ้าเห็นว่ามีหนทางอะไรที่เจ๋งๆ ก็จัดหนักให้เต็มที่เลยครับ จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 21:33:55

ความคิดเห็นที่ 13 รู้แล้วว่า ISP ค่ายไหน   ก็ที่มีไอ้ตี๋ตัวอ้วน ๆ เป็น Presenter โฆษณา นั่นเอง...โจทย์ตรึม จากคุณ : เป็นซะงั้น เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 22:01:45

ความคิดเห็นที่ 14 เส้นไม่แข็งจริง จะทำตลาดขาย Internet dummy number ได้รึครับ ไม่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ก็ใช้งานได้แถมทั้งใน กทม และต่างจังหวัดด้วยอีก เล่นกันแบบว่าไม่ต้องสนเลยว่าเป็นพื้นที่สัมปทานของใครหรือเปล่า ก็ไม่รู้ว่าเส้นใหญ่ หรือเงินถึงกันแน่นะครับ จากคุณ : แรงอย่างมีสไตล์ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 22:04:14

ความคิดเห็นที่ 15 ยังเกาะขอบจออยู่นะครับพี่บิ๊กแบ็ค จากคุณ : basicguy เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 22:55:32

ความคิดเห็นที่ 16 #14 Internet dummy number เป็นแค่เทคนิคการ apply การกำหนดหมายเลขประจำคู่สายอันสืบเนื่องมาจากระบบฐานข้อมูลลูกค้าเดิมที่อ้างอิงกับระบบโทรศัพท์มากกว่า  ไม่น่าจะแสดงถึงอำนาจบาตรใหญ่อันใด  และการทำธุรกิจก็เป็นการแข่งขันเสรีตามใบอนุญาตที่ได้รับจาก กทช. (ปัจจุบันก็ต้องเรียกว่า กสทช.)  ถ้าลงโครงข่ายไปแล้วคิดว่าแข่งขันกับคู่แข่งได้ ไม่ขาดทุนก็ลงได้หมดทุกพื้นที่  อันนี้เป็นหลักการพื้นฐานในเรื่องของสิทธิ์ในการให้บริการทุกพื้นที่ ไม่ใช่การรับสัมปทานให้บริการโทรศัพท์จาก TOT  ที่จะต้องมีการจัดสรรระหว่างพื้นที่ของ TOT เอง กับ Telecom Asia (True) และ TT&T ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ถือว่าเป็น "ทรัพย์สินขององค์การโทรศัพท์ทั้งหมด"  กรณีนั้นองค์การโทรศัพท์เป็นผู้กำหนดว่าใครจะสร้างโครงข่ายในพื้นที่ใดบ้างเพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อน หากปล่อยให้ทำซ้ำซ้อนกัน  ผลสุดท้ายก็เท่ากับว่าโครงข่ายของ TOT ไปทับซ้อนกันเอง TA และ TT&T เป็นเพียงผู้ operate ระบบและมีระบบแบ่งรายได้กับ TOT     ทางด้าน TT&T นั้นผมไม่ทราบความเป็นไปชัดเจน  แต่ในส่วนของ Telecom Asia นั้น (ถ้าจำไม่ผิด เคยอ่านจากวารสาร เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ True) ตอนแรกเมื่อมีการสร้างโครงข่ายเสร็จ ส่งมอบให้กับ TOT แล้ว TOT จะเป็นผู้ทำการตลาด  แต่ทาง TA (ไม่แน่ใจว่าตั้งแต่สมัยที่เป็น CP Telecom หรือเปล่า) เห็นว่าการทำตลาดของ TOT ไม่มีประสิทธิภาพ  หากปล่อยให้ TOT ทำตลาดคนเดียว รายได้ที่ควรจะได้รับคงจะไม่เกิดขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น TA ในฐานะที่มีส่วนได้เสียในรายได้ที่จะเกิดจากการให้บริการ จึงขอทำการตลาดเอง ภาพของธุรกิจจึงออกมาอย่างที่พวกเราเห็นเวลาต่อมา ซึ่งดูเหมือนว่า TA เป็นเจ้าของทุกอย่างตั้งแต่ทำโครงข่ายจนถึงการให้บริการ ผมคิดว่าถ้า TA ไม่ได้ออกมาทำการตลาด (โดยที่ TOT มีความสามารถในการทำตลาดพอสมควร) แล้ว  คนไทยส่วนใหญ่ก็คงจะรู้จักแต่ TOT จะใช้บริการก็ติดต่อที่ช็อป หรือสำนักงานของ TOT เท่านั้น  และ TA จะเป็นเพียงช่างที่คอยดูแลระบบชุมสายหรือติดตั้งคู่สายตามบ้าน   เหมือนกับ BFKT ที่ทำโครงข่ายให้กับ Hutch และคนรู้จักชื่อ Hutch กันทั่วบ้านทั่วเมือง  แต่ถ้าพูดถึง BFKT หลายๆ คนก็อาจจะไม่รู้จัก ส่วนบางบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจาก กทช.(ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น กสทช.) แล้วสามารถขยายโครงข่ายได้รวดเร็ว  มีต้นทุนต่ำกำไรสูงในระยะแรกนั้น  เป็นวิชาเทพเฉพาะตัวซึ่งต้องไปว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 00:06:38 จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 23:19:03

ความคิดเห็นที่ 17 คห.12     ยังกลัวๆครับ  แต่ได้หลักฐานวันนี้มา  ดิ้นไม่หลุดหล่ะฮะ  พริ้วไม่ไหวแน่ๆ     มาช่วยกันเป็นนักสืบนะ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 23:38:40

ความคิดเห็นที่ 18 “ สวัสดีค่ะ ติดต่อเรื่องอะไรคะ “ ปลายสายถาม เสียงผู้หญิง เสียงสวยเลยทุกท่าน “ อ่อ ร้องเรียนเรื่องอินเตอร์เน็ตครับ คืองี๊ครับ ฉอด..........” ผมเล่าไปสามนาที  ตบท้ายด้วยว่า “ คดีนี้ผมฟ้องแล้วชนะแล้ว แต่คำพิพากษาไม่มีคำว่าเอาเปรียบครับผมคิดว่าไม่ถูกต้อง “ ผมว่าต่อ “ เรื่องนี้ต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายเลยนะคะ  จะโอนให้ค่ะ “ เธอบอกแล้วโอนสายให้ “ ครับ  ฝ่ายกฎหมายครับ ว่ามาเลยครับ “ ปลายสายเสียงผู้ชาย ผมก็เริ่มเล่าใหม่   เล่า  เล่า เล่า   ฉอด ฉอด  ฉอด ...................................... ........................................................... ........................................................................... ........................................................................ .......................................... ฉับ !!!!!!!  สายหลุด  เวรกำ ชื่อแซ่ก็ไม่ได้ถาม  ไม่เป็นไรเอาใหม่ ต่อใหม่   โอนใหม่  คนใหม่รับ   โอนไปฝ่ายกฎหมายใหม่ “ เจ้าหน้าที่คนเมื่อกี๊ไม่อยู่แล้วครับ  เดี๋ยวคุยกับท่านใหม่นะครับ “ คนรับสายบอกผม คราวนี้ได้ผู้หญิงแหะ????????????????  ฝ่ายกฎหมาย   จะได้เรื่องเร๊อ เล่า เล่าเล่า      ฉอด   ฉอด  ฉอด.............................................. ............................................................................................... ........................................................................................ ......................................................................................... ..................5 นาทีผ่านไป     ฉับ!!!!!!.......................... เฮ้ยตัดอีกละ สงสัยมีนโยบายห้ามใช้โทรศัพท์เกินเวลาอุลตร้าแมนแปลงร่างป่าววะเนี่ยะ โอย  ชื่อแซ่ไม่ได้ถาม   เอาใหม่ๆ   ต่อใหม่ “ ครับเมื่อกี๊ผมคุยกะฝ่ายกฎหมายผู้หญิงเรื่องน้องน้ำเพลินๆ แล้วสายมันฉับไปฮะ “ ผมบอก “ ใครรับสายเมื่อกี๊ “  เสียงปลายสายตะโกนถาม “ อ่อ ครับ คุณ XXXX  เบอร์ต่อ XXX นะครับ “ ท่านบอกเสียงรำคาญ ประมาณว่า  อย่าโทรมาอีกนะโว้ย  โทรไปโน่นเลย  ผมก็รีบจดๆๆๆๆๆ คราวนี้เล่าต่อ   เล่าถึง สบท  บอกผมไม่มีอำนาจหน้าที่เป็นแค่อัยการ ไม่มีหน้าที่ฟ้อง คราวนี้เธอเดือดแหะ   “ คุณมีชื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นมั๊ยคะ “ เธอถามเสียงใส “ อย่างนี้ไม่ถูก  “ เธอเพิ่มดีกรี “ ผมไม่ได้จำหรอกครับ ยกประโยชน์ให้จำเลยแล้วกัน  แต่ถ้อยคำอย่างนั้นผมคงคิดเองไม่เป็นหรอก “ ผมบอกเธอ “ คุณมีหลักฐานหรือเปล่าคะ  เรื่องการนำยอดค้างชำระออกจากใบแจ้งหนี้ “ เธอถาม “ มีทุกเดือนเลยครับ  คือ เจ๊ผมช่างเก็บฮะ  สลิปเซเว่นย้อนหลัง 5 ปียังมีเลย “ ผมบอกตามจริง เจ๊ผมหน่ะ   รกตัวแม่เลยแหล่ะ!!!!! จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 23:38:58

ความคิดเห็นที่ 19 คือผมเล่าด้วยว่า  เนี่ยะเหตุผลของที่เค๊าเอาออกคือ  จะได้ตัดสัญญานลูกค้าได้ เธอบอกว่าไม่เห็นเกี่ยวเลย   ผมเลยอธิบายเธอเพิ่ม  ว่าเค๊าคิดว่าได้ไงครับ เลียงกฎหมาย ไม่แสดงยอดค้าง  เพราะกลัวลูกค้าชำระเดือนเว้นเดือน เลยเอายอดไปสะสม   แล้วหาเรื่องตัดสัญญาน คราวนี้เธอบอกผมว่า  “คุณแฟกซ์เอกสารส่งมานะคะ  เบอร์ XXXXXX หาดิชั้น “ “ แล้วคุณทำหนังสือถึงเลขากทช เลยค่ะ เล่าเรื่องให้ท่านทราบ อย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้เอาเปรียบลูกค้า “ เธอสั่งเลย “ ครับ ผมรอคัดคำพิพากษาครับ  แต่เอกสารเบื้องต้นผมส่งให้ก่อน  รอแปปนะครับ “ แล้วผมก็วางหู หลังจากนั้นผมก็แฟกซ์เอกสารให้เธอ   หึหึ   ป่านนี้………………………… ....................ไม่รู้ว่าได้รับยังเลย   ไม่ได้โทรกลับ   มัวแต่แต่งนิยาย  :P เอาหล่ะ   กทช  ผมก็ทำแล้ว   ต่อไปผมควรทำอะไรดี จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 23:39:48

ความคิดเห็นที่ 20 คำพิพากษาสองหน้าท้ายนะครับ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 00:28:43 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:28:22

ความคิดเห็นที่ 21 ใหญ่เกิ๊น ลองใหม่ ท่านว่า  ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่นำพาต่อความเสียหาย แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 00:32:06 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:30:54

ความคิดเห็นที่ 22 หน้าสุดท้าย จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:31:16

ความคิดเห็นที่ 23 อ่ะ พอดีได้หลักฐานที่ทางจำเลยเค๊าส่งให้ศาลว่า  ทำการแก้ไขข้อมูลให้แล้ว  ลองดู แล้วใครตาดีๆเห็นอะไรมาเล่ากันฟังหน่อยนะครับ  นึกภาพว่าทุกภาพ 1-4 อยู่หน้าเดียวกันหมด เอกสารสองใบนี้ผมไม่เคยเห็นเลย  จำเลยส่งให้ศาล  เพิ่งได้เห็นวันนี้เลยขอคัดมา ภาพที่ 4 เป็นภาพที่มีวันที่  ที่พิมพ์เอกสารนี้ ภาพที่ 1 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 00:44:40 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:34:13

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพที่ 2 อยู่ทางขวาของภาพแรก แต่ยาวเลยตัดครึ่งมา เป็น 2 ส่วนบน จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:35:02

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพที่ 3 ต่อด้านล่างของภาพที่สอง จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:35:50

ความคิดเห็นที่ 26 ภาพที่ 4 ล่างสุดของหน้ากระดาษ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:36:29

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพที่ 5   คือหน้าที่ 2 คนละหน้ากับ 4 ภาพแรก ใครว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหนมั่งเอ่ย ติ๊กต่อกๆๆๆๆๆ   แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 00:42:56 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 00:41:48

ความคิดเห็นที่ 28 ผลงานของ สบท. (วัตถุประสงค์ของผมคือพูดถึงแค่ สบท. เท่านั้นจริงๆ นะเออ) http://topicstock-tech.pantip.com/tech/internet/topicstock/2011/01/IU2980862/IU2980862.html มีผู้ถูกตัดสัญญาณน่าจะเป็นหลักหมื่น  ความเสียหายไม่ใช่น้อย  ทั้งความปั่นป่วนที่คนเคยใช้งานแล้วอยู่ๆ ใช้ไม่ได้  ธุรกิจติดขัด  ร้านอินเทอร์เน็ตบางแห่งขาดทุนย่อยยับ เท่าที่เห็นคือทำได้แค่บอกให้ผู้บริการเชื่อมต่อสัญญาณให้ผู้ที่ประสงค์จะใช้งานต่อ  ส่วนธุรกิจเสียหายอย่างไรนั้นไม่เห็นความคืบหน้าว่าจะทำอะไรได้    ก็ไม่ทราบว่าต้องก่อวีรกรรมรุนแรงแค่ไหนถึงจะมีการลงโทษหนักๆ เสียที กลับมาที่กรณีแบบพี่บิ๊กแบ็คกับน้องน้ำ สมมติว่ามีคนหลงไปจ่าย  ท่านก็คงบอกว่า  งั้นน้องน้ำก็คืนเงินเขาไป ok จบนะ สำหรับเรื่องที่พี่บิ๊กแบ็คยื่นไป อย่างเก่ง สบท. ท่านก็คงจะเรียกน้องน้ำมาอบรมนิดหน่อย  ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองได้รับความเสียหายก็ต้องฟ้องศาลให้ตัดสินชดเชยค่าเสียหายไป  ก็อาจจะเอาคดีของพี่บิ๊กแบ็คเป็นบรรทัดฐานให้เรื่องราวมันง่ายขึ้น  คิดในแง่ดีว่าถ้ามีคนฟ้องกันเยอะๆ น้องน้ำอาจจะปรับปรุงตัวเอง ทำตัวให้น่ารักขึ้นอีกหน่อย(เฉพาะเรื่องนี้)  แต่ถ้าจะให้ถึงขั้นให้น้องน้ำผงะหงาย  คงหวังผลยาก จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:25:06

ความคิดเห็นที่ 29 คงไม่ยาหครับ  กทช มีกฏให้แก้ข้อผิดพลาดในหกสิบวัน  แต่ไม่ได้แก้   ข้อที่สองรุ้สึกว่าเอกสารนี้จะเท็จนะตามความเห็นผม ยื่นเอกสารเท็จเบิกความเท็จอีกกี่ปีดี จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:49:26

ความคิดเห็นที่ 30 ที่ผมยกตัวอย่างมา เรื่องการตัดสัญญาณเป็นจำนวนมาก ก็ผิดตั้งแต่เร่ิมทำแล้วครับ  ตาม พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม "มาตรา 20 ผู้รับอนุญาตจะพักหรือหยุดการให้บริการไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนไม่ได้  เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ผู้รับใบอนุญาตจะปฏิเสธการให้บริการแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรไม่ได้" ในครั้งนั้นไม่น่าจะผ่านการอนุญาตตามที่ กทช. กำหนดเพราะพอเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาก็มีคำสั่งให้รีบต่อสัญญาณ  และนอกจากนี้ยังมีคำสั่งห้าม TT&T ตัดสัญญาณ กรณีที่มีคู่กรณีใช้คู่สายของ TT&T โดยไม่ชอบ เป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการ เป็นบรรทัดฐานมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว  การที่บริษัทในกระทู้ดังกล่าวจะตัดสัญญาณในลักษณะนั้นจึงไม่ควรจะมีเหตุผลที่ถูกต้องรองรับ แต่ยังหาไม่เจอว่ามีบทลงโทษอันใดสำหรับการทำผิดในมาตรานี้ (เจอแต่บทลงโทษของมาตราอื่นแต่ไม่เข้าเรื่องนี้เลย) แล้วข้อที่พี่บิ๊กแบ็คบอกว่าให้แก้ไขในหกสิบวัน มีบทลงโทษกำหนดไว้อย่างไรครับ เอกสารเท็จในแง่ไหนครับพี่บิ๊กแบ็ค  ผมยังไม่เก็ตจริงๆ จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:20:52

ความคิดเห็นที่ 31 จาก พรบ. ที่ผมอ้างถึงใน #30 (ลืมบอกไปว่า พ.ศ.2544) อีกหมวดหนึ่ง http://www.kodmhai.com/m4/m4-1/N128/m45-50.html :: หมวด 5 สิทธิของผู้ใช้บริการ มาตรา 45 ผู้ใดได้รับความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องมาแต่การให้บริการโทรคมนาคมของผู้รับใบอนุญาต ผู้นั้นมีสิทธิ ร้องเรียนต่อคณะกรรมการได้ โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อสำนักงาน หนังสือร้องเรียนตามวรรคหนึ่งต้องระบุข้อเท็จจริงที่แจ้งชัด และถ้ามีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรณี ดังกล่าวก็ให้ส่ง ไปพร้อมหนังสือนั้นด้วย ในระหว่างการพิจารณาคำร้องเรียนของคณะกรรมการ ถ้าผู้ร้องเรียนร้องขอให้คณะกรรมการมีอำนาจ พิจารณากำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการใดเพื่อแก้ไขเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ร้องเรียนเป็นการชั่วคราวได้ มาตรา 46 ให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องเรียน โดยต้องให้คู่กรณีมีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงพยานหลักฐานของตนในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าผู้รับใบอนุญาต กระทำการโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เงื่อนไขการอนุญาต สัญญาการให้บริการ หรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการที่ดี ให้คณะกรรมการมีอำนาจ สั่งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด มาตรา 47 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเห็นว่าผู้รับใบอนุญาตเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการสูงกว่าอัตรา ขั้นสูงที่คณะ กรรมการกำหนดตาม มาตรา 55 หรือสูงกว่าที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการรายอื่น ที่ใช้บริการโทรคมนาคมในลักษณะหรือประเภทเดียวกัน หรือเห็นว่าผู้รับใบอนุญาต เรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการโดยไม่ถูกต้อง ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของตนจากผู้รับใบอนุญาตได้ ผู้รับใบอนุญาตต้องแจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่งให้ผู้ใช้บริการทราบภายในเวลาอันสมควร แต่ทั้งนี้ไม่เกินสามสิบวันนับ แต่วันร้องขอ และในกรณีที่ผู้ใช้บริการร้องขอ ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำเอกสารรับรองข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่ผู้ใช้บริการด้วย โดยจะคิดค่าตอบแทนเพื่อการนั้นจากผู้ใช้บริการก็ได้ แต่ค่าตอบแทนจะต้องไม่สูงกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการกำหนด มาตรา 48 ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ได้รับใบอนุญาตเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการในลักษณะ อย่างหนึ่ง อย่างใดตาม มาตรา 47 วรรคหนึ่ง ผู้ใช้บริการมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการได้ และให้นำความใน มาตรา 45 และ มาตรา 46 มาใช้บังคับแก่กรณีนี้โดยอนุโลม ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อยืนยันความถูกต้องของการเรียก เก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการ" ของพี่บิ๊กแบ็คน่าจะเข้ามาตรา 47 ในข้อความนี้ "...เห็นว่าผู้รับใบอนุญาต เรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการโดยไม่ถูกต้อง ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของตนจากผู้รับใบอนุญาตได้..." เมื่อร้องเรียนต่อ กสทช. ตามวิธีการในมาตรา 45  มาตรา 46 ก็ให้อำนาจคณะกรรมการ สั่งให้น้องน้ำแก้ไขให้ถูกต้องได้  แต่ถามถึงบทลงโทษว่าถ้าน้องน้ำอิดออดทำล่าช้าไปแล้วจะลงโทษอย่างไร  ยังหาไม่เจอครับ(ถ้าพี่เจอช่วยแนะนำด้วยครับ) ถ้าว่ากันตอนนี้ คณะกรรมการท่านคงว่า น้องน้ำปรับปรุงรายการให้พี่แล้ว จะให้ลงโทษอะไรน้องน้ำอีก ถ้าพี่บิ๊กแบ็คไม่มีข้อกล่าวหาอื่นที่อยู่ในอำนาจของ กสทช. ผมว่าท่านก็คงทำอะไรได้ไม่มาก  บทบาทของ กสทช. ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของการกำกับดูแลในเชิงไกล่เกลี่ยถ้าเป็นไปได้ มากกว่าที่จะเน้นเรื่องบทลงโทษ ดำเนินคดี ยกเว้นเป็นความผิดเฉพาะบางอย่างเท่าที่ระบุไว้ใน พรบ. สมมติว่าถ้าพี่บิ๊กแบ็คร้องเรียนต่อ สบท. ในช่วงที่น้องน้ำทวงหนี้อยู่  สบท.ท่านก็คงจะเรียกน้องน้ำมาแล้วสั่งให้นำเสนอหลักฐาน หรือไม่ก็แก้ไขข้อมูลของพี่บิ๊กแบ็คเสียให้ถูกต้อง  อาจจะมีการทำหนังสือยืนยันอะไรก็ว่ากันไป แล้วก็คงจบแค่นั้น จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:57:58

ความคิดเห็นที่ 32 รอ รอ อยู่นะค่ะ จขกท คุณเก่งมากค่ะ จากคุณ : กิตติกานต์ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 03:20:57

ความคิดเห็นที่ 33 พี่บิ๊กแบ็คอาจจะเห็นว่าข้อมูลเอกสารที่น้องน้ำส่งมาอาจจะดูว่างเปล่าเกินไป หรือว่าวันที่ลงทะเบียนอาจจะแปลกๆ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงของบริษัท ซึ่งพี่บิ๊กแบ็คคงทราบและผมไม่อยากพูดรายละเอียดออกอากาศตรงนี้ พี่อาจจะคิดว่าน่าจะเป็นเอกสารปลอม  แต่ผมค่อนข้างจะเชื่อว่านี่เป็นข้อมูลที่น้องน้ำมีอยู่จริงๆ  ถ้าผิดพลาดก็เป็นความผิดพลาดจริงๆ  ไม่ได้ปั้นข้อมูลใส่พี่บิ๊กแบ็ค (ถ้าพี่คิดว่าผมจะมีข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ ลองหลังไมค์มาก็ได้ครับ) น้องน้ำอาจจะชี้แจงไปคนละทิศทาง เพราะไม่ได้ทำการบ้าน ดูเอกสารมาอย่างละเอียดเพียงพอ  นั้นเป็นความบกพร่องในหน้าที่การงานอย่างหนึ่ง  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีการปลอมแปลงเอกสารมังครับ จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 03:28:14

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าว่าตามประกาศ กทช. พ.ศ.2549 ข้อ 22  ผลสุดท้ายคือบริษัทไม่มีสิทธิ์เก็บค่าบริการ  ซึ่งเรื่องของพี่บิ๊กแบ็คก็ยุติลงแล้วว่าพี่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ   แถมน้องน้ำยังต้องจ่ายค่าชดเชยต่างๆ ให้กับพี่บิ๊กแบ็คอีกต่างหาก  ในมุมมองของ สบท. เรื่องนี้ก็ถึงจุดยุติไปเรียบร้อยแล้ว หรือเปล่าครับ  หรือพี่จะให้ สบท. มีบทลงโทษตามบทบัญญัติข้อไหนต่อ ผมไม่ใช่ทนายของน้องน้ำนะครับ :D แต่อยากจะช่วยมองว่าช่องทางไหนยังเปิดอยู่สำหรับพี่บิ๊กแบ็คมากกว่า จะได้เล่นให้ถูกช่อง  ไม่งั้นพี่เทียววิ่งไป สบท. แล้วสุดท้ายเป็นอย่างที่ผมคิด  พี่ก็จะเสียเวลาเปล่า จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 03:52:19

ความคิดเห็นที่ 35 ป่าวคับไม่ได้อยากหวังผลแรง  แค่ให้อยากรุ้ว่า  มีคนไทยหนึ่งคนรุู้ มีคนไทยหนึ่งคนโวยวาย แต่อย่าลืมนะผมยังไม่ได้เอารถไปจอดเขาดิน ตามคำเชิญเลยแหละ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:20:03

ความคิดเห็นที่ 36 ปอมๆมาทำหน้าตาสำนึกผิด.... รออ่านต่อเงียบๆ ด้วยเป็นคนหนึ่งของลูกค้าบริษัทที่คาดเดานั้น จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:35:40

ความคิดเห็นที่ 37 อ่ะ ไม่มีใครเห็นข้อผิดพลาดในเอกสารที่เป็นหลักฐานที่จำเลยอ้างส่งศาลเลย โห  แปลว่าน้องน้ำทำได้เนียนนะเนี่ยะ เร็วๆๆๆๆ หาๆๆๆๆ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:24:08

ความคิดเห็นที่ 38 . . . ทำอะไรต่อดี มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคสิ  ผมมีหนี้ติดค้างเธอ   มีหนี้เงินต้องชำระ มีหนี้บุญคุณต้องทดแทน เธอขอให้ผมเขียนเล่าเรื่องประสบการณ์ไว้  เพื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่น ผมตอบตกลงเธอ   ทั้งๆที่ตอนนั้นเกิดมาไม่เคยเขียนนิยายสักเรื่อง   กล้ามากเลยเอาอยู่เอ๊ย................................ ถ้าเธอรู้ว่าผมเขียนเรื่องให้เธอขนาดนี้ เธอคงนึกเสียใจแน่ๆ   ไม่น่าไปขอให้มันเขียนเล้ยยยยยย ................................. .............................................. ........................................................ ........................................... ............................. ยาวโพดๆ   ประสบการณ์อะไรของคู๊ณ   (เธอคงนึก) ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์หาเธอทันที   จิ๊ด จิ๊ด จิ๊ด  จิ๊ด จิ๊ดๆๆๆๆๆ ไม่ต้องแปลกใจครับ   ผมเปลี่ยนเสียงแป้นกดใหม่  รำคาญเสียงเดิม ฟังทีไรนึกถึงอีตาโสดเสมอเมื่อเจอผู้ชายทุกที   หลอน...... “ มูลนิธิฯ ค่ะ “  ปลายสายรับเสียงหวาน “ ขอสายคุณ XXXX หน่อยครับ   “  ผมแจ้งความประสงค์ให้ปลายสายทราบ “  เอ่อ  คุณ XXXX  ได้งานใหม่แล้วค่ะ “  ปลายสายตอบ ผมอึ้งไปสิบห้าวินาที  กะอีก ยี่สิบสอง มิลลิวินาที  อ่าวเฮ้ย  มิน่า หายจ้อย “ มีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ  “  เธอถามด้วยความกรุณา “ ครับ คือ ผมเคยปรึกษาเธอเรื่องคดีน้องน้ำ  ฉอดๆๆๆ  ตอนนี้ชนะคดีแล้ว  และเธอเคยขอให้ผมเขียนเรื่องเล่าให้   ตอนนี้ผมเขียนเสร็จแล้ว  เลยโทรบอกเธอครับ “  ผมบอกไป “ เหรอคะ  ดีมากเลยค่ะ  ขอบคุณมาก  ช่วยส่งลิงค์ให้หน่อยนะคะ “ ปลายสายบอกผม ว่าแล้วเจอก็ให้ผมจดอีเมล์เธอ  พร้อมขอเบอร์ติดต่อกลับผม ว่าแต่ว่า.................................................. . . . .......................ป่านนี้เธอจะอ่านหรือยังเนี่ยะ  T T มีอะไรต้องทำอีก  ผมต้องไปขยายอุทธรณ์นี่  อย่าให้เสียเที่ยวฟ้องคดีใหม่เลยดีกว่า  ?????? ต้องขยายอุทธรณ์   ใช่  ผมเคยถามเจ้าหน้าที่ เธอบอกไม่รู้ไม่ทราบบอกไม่ได้ว่าคำพิพากษาจะเสร็จ วันเดือนปีใด เธอให้ผมยื่นขยายอุทธรณ์ไปเรื่อยๆทุก 30 วัน   พระพุทธองค์ช่วย   เป็นคนดีทำไมยากเหลือเกินครับ  ท่านให้ผมเข็นครกขึ้นเขาเหอะ เพราะมันยังมีวันเสร็จนะ  มีเป้าหมายของชีวิต ผมไม่ได้เกิดมาแบบ  เช้าชามเย็นชามนะ   สาธุ๊ ขยายหน่ะ  ขยายแน่   แต่ผมไปทั้งทีจะขยายอย่างเดียวเหรอ   มันต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับมาหน่อยสิ คงถึงเวลาที่ต้องเปิดเผยเรื่องของห้องแห่งความลับกันแล้วมั๊ง ความลับไม่มีในโลก....................................................................... แต่ในโลกนี้มีความลับ.............................................................. ......................................................................... ...................................................................... แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 10:39:44 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:37:43

ความคิดเห็นที่ 39 ดูจากเลขหมายที่เห็นแพลมๆ แล้ว...  พี่มาจากประจวบฯ หรือเปล่าครับ ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีเนื้อหาสาระเท่าไหร่   รู้แต่ว่าพี่เข้าระบบของน้องน้ำเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2552 ไม่ได้หมายความว่าเป็นวันที่พี่เริ่มใช้บริการตั้งแต่ต้น  แต่น่าจะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงอันชุลมุนวุ่นวาย  มีการเปลี่ยนสัญญาให้บริการจากบริษัทเดิมที่พี่ใช้บริการอยู่ก่อนหน้านี้ จับพี่มาเป็นลูกค้าน้องน้ำโดยที่พี่ไม่จำเป็นต้องแจ้งความจำนง (ไม่ทราบว่าพี่ได้รับเอกสารอะไรให้เซ็นหรือไม่  หรือว่าโดนเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ตัว) จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:55:05

ความคิดเห็นที่ 40 เก่งผิดมนุษย์มนาจริงเล้ยยย  คุณ rujipars ก่อนหน้านี้ เค๊าพยายามให้เซ็น  แต่ผมไม่เซ็น  และไปยกเลิกบริการครับ ฉลาดน่าคบมาก  แต่ประเด็นอื่นมีอีกครับ  ดูดีดีมีรางวัล แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 11:11:45 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:10:48

ความคิดเห็นที่ 41 ความลับในหลุมพราง . . . ก่อนจะไปศาลเพื่อขยายอุทธรณ์  ผมก็คิดว่าผมควรฟ้องคดีใหม่อีกคดีเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว สาเหตุหลักในการทำไม่ใช่เพราะผมเป็นโสรยาในจำเลยรักนะฮะ   ( เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย  ฉันทำอะไรให้ให้เธอเคืองขุ่น มาฟ้องฉันเป็นจำเลยของคุณ ) แต่เพราะผมต้องการทราบว่า พรบ.พิจารณาคดีผู้บริโภค อันเป็นกฎหมายเยอะแยะนี่ใช้ได้หมดมั๊ย แค่ไหน ว่าแต่ผมจะใช้กฎหมายข้อไหนในการฟ้องคดีใหม่นี่ดีหล่ะ มาตรา ๓๐ ถ้าภายหลังที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีผู้บริโภคแล้ว ปรากฏว่ามีการฟ้อง ผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวกันเป็นคดีผู้บริโภคอีกโดยข้อเท็จจริงที่พิพาทเป็นอย่างเดียวกับคดีก่อนและ ศาลในคดีก่อนได้วินิจฉัยไว้แล้ว ศาลในคดีหลังอาจมีคำสั่งให้ถือว่าข้อเท็จจริงในประเด็นนั้นเป็นอันยุติ เช่นเดียวกับคดีก่อนโดยไม่ต้องสืบพยานหลักฐาน เว้นแต่ศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีก่อนนั้น ยังไม่เพียงพอแก่การวินิจฉัยชี้ขาดคดี หรือเพื่อให้โอกาสแก่คู่ความที่เสียเปรียบต่อสู้คดี ศาลมีอำนาจเรียกพยานหลักฐานมาสืบเองหรืออนุญาตให้คู่ความนำพยานหลักฐานมาสืบเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควรก็ได้ มาตรานี้แหล่ะที่ผมว่าน่ากลัวที่สุด  ถามผมว่าผมตีความว่าไง  ยกตัวอย่างกรณีอาจารย์เจิมศักดิ์เลยเห็นชัด   อาจารย์ฟ้องสนามบินว่าไม่มีเครื่องตรวจวัตถุระเบิด  อาจารย์ตกใจ  อาจารย์ชนะคดี ทีนี้คนที่ใช้สนามบินวันเดียวกับอาจารย์หล่ะ  จะฟ้องได้มั๊ย  ถ้าฟ้องแล้วต้องสืบพยานมากมายอีกมั๊ย หรือคำพิพากษานี้ให้เฉพาะอาจารย์เจิมศักดิ์คนเดียว  เพราะอาจารย์ตกใจเป็นคนเดียว??? . . . หลับตาคิดก็สยองแล้วนะ  กี่คนหล่ะใช้สนามบินวันนั้น????? แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 11:17:12 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:16:43

ความคิดเห็นที่ 42 เอ..  วันที่ประทับใน คห 24  เหมือนจะเป็นวันที่ 15 มิ.ย. ส่วนวันที่ print เอกสาร ใน คห 26   วันที่ 28 มิ.ย. จะใช่ตรงนี้ไหมเนี่ย  (เดาส่ง  ฮ่าๆๆ) อ้อ.. ส่วนวันที่ปรับยอดหนี้ 5 ก.ย. 53  ตรงกับวันที่น้องน้ำบอกว่า เอาชื่อเอาจากระบบ ชิดขวา รอเฉลย จากคุณ : sasrp เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:17:22

ความคิดเห็นที่ 43 ขอโทษคุณ rujipars ครับ ผมไม่ทันเห็นคำถาม ข้อ ๒๒ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเห็นว่าผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการสูงกว่า อัตราขั้นสูงที่คณะกรรมการกำหนดตามข้อ ๑๖ หรือสูงกว่าที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการรายอื่น ที่ใช้บริการโทรคมนาคมในลักษณะหรือประเภทเดียวกัน หรือเห็นว่าผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม   หรือค่าบริการโดยไม่ถูกต้อง ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของตนจากผู้ให้บริการได้ ผู้ให้บริการมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อยืนยันความถูกต้องของการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการดังกล่าว และต้องแจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่งให้ผู้ใช้บริการทราบโดยเร็วแต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ผู้ใช้บริการมีคำขอตามวรรคหนึ่ง หากผู้ให้บริการไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้ให้บริการนั้นสิ้นสิทธิในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการในจำนวนที่ผู้ใช้บริการได้โต้แย้งนั้น ****** หมดสิทธิแล้วมาทวงช๊านทำมายยย  แล้วก้อ ในความเป็นจริงข้อมูลถูกแก้ในวันที่  18 ตุลาคม 2553 เพราะผมโทรทุกวันก่อนถึงวันไกล่เกลี่ย สองอาทิตย์  ว่าเป็นลูกหนี้อยู่หรือไม่ และถามเจ้าหน้าที่เค๊าทุกวัน ว่าผมเป็นหนี้ในเดือนไหน เค๊าตอบสิงหาคมตลอด แถมยังสอนเค๊าดูว่า ล่าสุดผมชำระเงินเมื่อไหร่ และถามเค๊าว่าผมเป็นหนี้เค๊าตอนไหน ถามถึงตรงนี้  เค๊าเอ๋อแล้วก็วางสายทุกคน แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 11:28:02 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:22:21

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ sasrp  ครับ  ลากปีมาด้วยครับ  ว่าปีไหน ปริศนายังมีอีก  ดูดีๆ  15 มิย นั่น เป็นวันที่ของศาลรับเอกสารครับ = =" ไม่นับฮะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 11:25:05 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:23:12

ความคิดเห็นที่ 45 คนอื่นคิดยังไงผมไม่ทราบ ( เพราะยังไม่มีคนออกความเห็น ) แต่........... ....... .......... บังเอิญ  นายเอาอยู่เป็นคนค้าขาย   ที่............ ..................... บังเอิญ  เคยเป็นโปรแกรมเมอร์..........แล้ว .............. .............. บังเอิญ  เคยเป็น  system analysis ………………………. ……………. บังเอิญ   เคยเป็นผู้วางระบบบัญชี  ระบบงาน ขององค์ขนาดใหญ่มาแล้ว บังเอิญ  เก่งบัญชีด้วยสิ............. ....................... บังเอิญ.........พอรู้กฎหมายนิดหน่อย บังเอิญ   เป็นคนบ้าบ้าบอๆ และ  บังเอิญมาเป็นลูกค้า  “น้องน้ำ” และที่สำคัญ   ผมอ่านภาษาอังกฤษ  ได้ด้วยนะ!!!!!!!!!! .............. เลยทำให้ผม  บังเอิญสงสัย  ข้อพิรุธที่เห็น  ซึ่งอาจมีคำแก้ตัวที่ดีได้  ไม่ว่ากัน ก้อแค่สงสัย........บอกแล้ว ผมดูโคแนนมาสิบตอน  ขอบคุณน้องแผนที่จริงๆ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:47:51

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ rujirars ครับ หลังไมค์แล้ว  ไม่ทราบคิดเห็นยังไง ว่าแหม่งๆมั๊ยเอ่ย ????? จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:59:29

ความคิดเห็นที่ 47 ่ยกตัวอย่างกรณีที่นำ ประกาศ กทช. ข้อ 22 มาใช้ได้ตรงๆ ง่ายๆ สมมติว่าบริษัทโทรศัพท์เรียกเก็บค่าโทรเดือน ม.ค. มา 300,000 บาท  แต่ผู้ใช้ยืนยันว่าไม่เค๊ย ไม่เคยโทรกระหน่ำขนาดนั้น  บริษัทโทรศัพท์ก็ต้องเอารายการมาแจงให้เห็นว่ามีการใช้ไปไหนอย่างไร  ถ้าพิจารณาแล้วว่าเกิดจากเหตุที่ประนีประนอมกันได้ก็อาจจะเจรจาต่อรองกันไปว่าจะจ่ายเท่าไหร่ดี  ถ้าตกลงกันให้เป็นที่พอใจไม่ได้ ก็มีสิทธิ์ร้องไปถึงคณะกรรมการของ กทช. ให้ท่านช่วยไกล่เกลี่ย (เคยเจอประสบการณ์ลูกค้า ISDN มีการหลุดและต่อใหม่ทุกๆ ไม่กี่วินาที  ค่าโทรหลายแสนหรือเป็นล้านก็จำไม่ได้)   กรณีนี้ถ้าบริษัทโทรศัพท์เพิกเฉยจนครบ 60 วัน ก็ไม่มีสิทธิ์เรียกเก็บยอด 300,000 บาทนั้นอีก    แต่ค่าบริการของเดือนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ และผู้ใช้บริการไม่ได้ทักท้วงก็น่าจะเรียกเก็บได้ตามข้อสัญญา หรือข้อกฎหมายอื่นๆ ตามปกติ แต่กรณีของพี่บิ๊กแบ็ค  ถ้าหากว่าใบทวงหนี้เป็นหนี้เดือน ส.ค. และพี่บิ๊กแบ็คได้แสดงใบเสร็จว่าจ่ายไปแล้ว  ก็ไม่น่าจะต้องยกข้อ 22 อีกว่าบริษัทมีสิทธิ์เรียกเก็บหรือไม่  ก็มันเก็บไปแล้วจะมีสิทธิ์เรียกซ้ำได้ยังไง   ส่วนการให้การว่าเป็นของเดือน ก.ย. เป็นการพูดเรื่อยเปื่อยโดยไม่อิงเอกสาร ไม่น่าจะมีน้ำหนักว่าบริษัทมีเจตนาเรียกเก็บค่าบริการของเดือน ก.ย. หรือเดือนอะไรก็แล้วแต่หลังจากนั้น ไม่น่าจะเปิดเป็นประเด็นใหม่ในทางคดีความ  ถึงแม้จะน่ารำคาญที่มาพูดกับคนที่พูดกันคนละเรื่อง สงสัยอยู่นิดหนึ่งว่า  ที่ว่าค้างชำระค่าบริการเดือน ส.ค.  หมายถึงค่าใช้บริการที่มีการแจ้งหนี้ในเดือน ส.ค. (ซึงใช้ระหว่างเดือน ก.ค.)  หรือว่าค่าใช้บริการที่ใช้งานในเดือน ส.ค. และมีการแจ้งหนี้ในเดือน ก.ย. ถ้าเป็นกรณีแรกผมก็พอจะเดาความเป็นไปได้เลาๆ (ผิดถูกยังไม่ทราบ)  แต่ถ้าเป็นกรณีหลังก็แปลกที่ไปรูดบัตรแล้วไม่มีบันทึกการจ่ายเงินหรืออย่างไร แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:05:52 จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:03:10

ความคิดเห็นที่ 48 ใบเสร็จผมเพิ่งหาเจอก่อนวันไกล่เกลี่ยไม่กี่วันเอง -*- ตีกันแทบตาย จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:07:50

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่มีอะไรดีเท่ารูปถ่ายจริงๆ ผมแปลไม่ออกหรอกว่าหนี้ของเดือนไหน   แต่ตามตัวอักษร  คุณว่าเดือนไหนหล่ะครับ รูปที่ 5  เวลาไปลดหนี้  ดันไปลดหนี้ของเดือน กันยายน 52 อีก ตามเลขอ้างอิง ****ปอลอ  อย่าลืมเรื่องยอดหนี้ค้างชำระที่เอาออกจากใบทวงหนี้  ด้วยครับ !!! *** ปอลอ2. ที่ผมเข้าใจจริงๆ  คือคำว่า  "ประจำเดือน" ฮะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:17:28 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:16:31 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 12:13:43 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:11:54

ความคิดเห็นที่ 50 หากว่าเป็นเรื่องของการเงินและบัญชี  การ match ระหว่างรายการลูกหนี้กับรายการชำระ อะไรพวกนั้นผมขอผ่านละกัน :D  ไม่สันทัดกรณี  พี่บิ๊กแบ็คคงจะจัดการได้ดีกว่าผมเป็นแน่   แต่ถ้าเป็นประวัติศาสตร์ ชีวประวัติน้องน้ำ กับเทคนิคทางเน็ตเวิร์คพอได้อยู่ครับ จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:28:19

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ Rujipars ครับ  ผมแปลได้ว่า  วันที่ 28/06/54   ผมยังเป็นลูกค้าที่ถูกตัดสัญญาน ที่มีการทำลดหนี้  ( รูป 1-4 อยู่ในหน้าเดียวกัน ) ส่วนรูปที่ 5  ซึ่งอยู่แยกมาอีกแผ่นบอกว่า  วันที่ 5/9/53  เค๊าแก้ข้อมูลทำลดหนี้แล้ว ท้ายชื่อลูกค้ารูปที่ 1   Active  แปลว่ายังเป็นลูกค้า สถานะลูกค้า  Terminate  แปลว่าค้างเกิน 3 เดือนโดนตัดสัญญาน ส่วนรายการในอดีต  บอกว่า  มีการทำลดหนี้ 1 รายการ รายการปรับปรุงใบแจ้งหนี้   ไม่มีรายการ  ทำงานก่อนเดี๋ยวมาอธิบายต่อ นักสืบพันทิปไม่ยอมทำงาน  กลุ้ม จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:32:36

ความคิดเห็นที่ 52 พี่บิ๊กแบ็คจ่ายค่าบริการประจำเดือน ส.ค. (คือที่ใช้งานในเดือน ส.ค.) ไปแล้ว  ถ้าระบบยังทวงของเดือน ส.ค. ก็ต้องไปแก้สถานะในระบบให้ถูกต้อง  แต่ไม่ใช่ด้วยการลดหนี้ใช่ไหมครับ (ก็ไม่ได้เป็นหนี้แล้วจะไปลดหนี้ทำไม?  ถ้าลดหนี้แล้วเงินที่จ่ายไปจะไปอยู่ตรงไหน... ผมเข้าใจถูกไหมครับ) แต่ถ้าระบบไปลดหนี้ค่าใช้บริการประจำเดือน ก.ย.   ...  ไม่เห็นพี่บิ๊กแบ็คเคยบอกว่ามีการส่งใบแจ้งหนี้ค่าใช้บริการประจำเดือน ก.ย. จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:15:49

ความคิดเห็นที่ 53 มีส่งครับใบแจ้งหนี้กันยา เพราะเค๊าพิมก่อนดิวสองอาทิตย์ แต่เคีาไม่ได้ทวงกันยานี่ครับ สถานะมันเทอมิเนตตั้งกะ 4 กันยา52 เลยย้อนไปทวงสิงหาคม52แทน และเดือนตุลามีใบแจ้งหนี้เป็น0 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:31:07

ความคิดเห็นที่ 54 ตามมาเงียบ ๆ ค่ะ จากคุณ : bake mania เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:58:07

ความคิดเห็นที่ 55 อ่ะ เริ่มชำแหละเอกสารกัน    วันที่ผมไปยกเลิกสัญญา วันที่ 4 กันยายน 2552  วันนั้นผมมีใบแจ้งหนี้สองใบ  คือ เดือนสิงหาคม  สมมติ 1000 บาท เดือน กันยายน  สมมติ 1000 บาท  เนื่องจากใบแจ้งหนี้ออกก่อนดิว ในทางบัญชี  เมื่อออกใบแจ้งหนี้แล้วต้องตั้งยอดลูกหนี้ ใช่มั๊ยครับ แต่ทางบัญชีของเค๊า ถือว่ารับรู้เป็นรายได้ล่วงหน้าไปเลย (ผมคาดว่านะเพื่อความสะดวกทางสรรพากร ) คงไม่ตั้งบัญชีละเอียดให้ดูนะ  เพราะต้องมีลูกหนี้ภาษี ขายอีก       เอาเป็นว่า ของเดือนสิงหาคม จ่ายเงินแล้วก็เคลียร์ทุกอย่าง พอจ่ายกันยายน 4 วัน  สิ่งที่ระบบต้องทำคือ          1. ลงล้างลูกหนี้ออก 4 วัน สมมติ 100 บาท       ที่เหลืออีก  26 วัน ทำไง  เมื่อตั้งลูกหนี้ไปแล้ว 1000 บาท        มันก็ต้องออกใบลดหนี้ให้ลูกค้า (แต่เค๊าไม่ออกให้ผมนะ) 900 บาท       แล้วปิดบัญชี ถามว่าระบบผิดอะไรมั๊ย  ไม่นะครับตามความเห็นผม เพราะว่า  ในเดือน ตุลาคม เค๊าแสดงยอดค่าบริการ 0 บาท ส่งมาในใบแจ้งหนี้ และหลังจากนั้น ไม่มีใบแจ้งหนี้ส่งมาอีกเลย !!!! แปลว่าระบบรับรู้ไปตั้งนานแล้วว่า เลิกใช้บริการในเดือน 10 แล้วจะโทษระบบผิดได้ยังไง ว่าทำให้พิมพ์ใบแจ้งหนี้ผิด แล้วผิดยังไงถึงมาทวงหนี้ในเดือน 8 แทน    **** ณ.เวลานั้นเค๊าทำลดหนี้ไป 1 รอบแล้ว ไม่งั้นระบบจะไม่ทำงานอย่างนี้        เพราะหลักการบัญญชีเป็นบัญชีคู่  ถ้าไม่ทำจะ diff ทันที        พอ diff จะออกจดหมายทวงว่า เดือน 9/52 ไม่จ่ายเงิน        ผมว่าผิดตั้งแต่ไม่ออกใบลดหนี้ให้ลูกค้าแล้วแหล่ะ!!!! แต่พอ 05/09/53  เค๊าบอกเค๊าทำลดหนี้ให้         แปลว่าอะไร  ลดหนี้อีกรอบหรือไง เมื่อเค๊าลดหนี้อีกรอบ  คือเค๊ากลายเป็นต้นทุนทันที  เอาไปหักรายได้ เสียภาษีน้อยลง เรื่องของเรื่องจะไม่เป็นเรื่องถ้าเค๊าไม่อยากโชว์ว่า ณ.วันที่เค๊าพิมพ์หน้าจอส่งให้ศาลเป็นวันอะไร ดังนั้นเค๊าใช้วิธี print screen  เลยเกิดวันที่พิมพ์เอกสารมา  28/06/54 ทีนี้เกิดอะไรขึ้น เมื่อไปดูรายละเอียดจริงๆ วันที่เค๊าพิมพ์หน้าจอ  สถานะผมยังเป็น  ลูกค้าอยู่  !!!! ดูตรง active สถานะลูกค้าผมหล่ะ  Terminate  ถูกตัดสัญญาน ผมเลิกใช้บริการคุณไป  09/52  คุณบอกว่าแก้ข้อมูลให้  09/53 แต่ 06/54  ผมก็ยังเป็นลูกค้าคุณอยู่ ตาหลกหล่ะ!!!! **** ข้อสังเกตหน้า 2  คือรายการที่เค๊าโชว์ว่าเค๊าแก้ไขรายการให้ 09/53 นั่นไง เมื่อแก้รายการแล้ว  สถานะลูกค้าต้อง inactive และต้องทำยกเลิกใบแจ้งหนี้  ไม่ใช่ ทำลดหนี้ อาจเป็นไปได้ว่า ข้อมูลหน้า 1 และ 2 ไม่สัมพันธ์กันอย่างแรง ถ้าสถานะผม active เวลาคนถามคุณมีลูกค้ากี่คน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยจิ........ อาจไม่ละเอียด แต่ใครเห็นมากกว่าช่วยเสนอนะครับ ใครไม่เห็นด้วยแย้งได้ครับ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 14:30:41 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:29:47

ความคิดเห็นที่ 56 ใครที่ค้านว่า terminate ไม่ได้แปลว่าถูกตัดสัญญาน มีคนเคยแคปหน้าจอตัวเองมาโวยในเน็ตว่า ไม่มีหนี้แต่โดนตัดสัญญาน จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:35:20

ความคิดเห็นที่ 57 เอาใหม่ไม่ชัด จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:38:32

ความคิดเห็นที่ 58 เคยใช้ค่ายนี้มาเหมือนกันครับ จู่ๆโดนตัดสัญญาณเอาดื้อๆเลย เคยเป็นประเด็นอยู่ช่วงนึง ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น.......ณ ปัจจุบันนี้ เลยไปยกเลิกแล้วใช้ค่ายอื่นแทน ปล ชาตินี้กรูเกลียดบ๋วย จะเอามากี่เม็ดกรุก็ไม่แดรก edit เพิ่ม link http://topicstock-tech.pantip.com/tech/internet/topicstock/2011/01/IU2980862/IU2980862.html แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 15:50:02 จากคุณ : Bosskung@BKK เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:19:03

ความคิดเห็นที่ 59 ผมชอบทานบีวยอะคับ แต่ผมไม่ยอมถอยสักก้าวแน่ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:35:22

ความคิดเห็นที่ 60 . . หลังจากอ่านกฎหมายและตีความคำว่าผู้บริโภคแล้ว  ผมก็ตีความตามภาษาผมว่า ยัยเจ๊ของผมเนี่ยะสามารถฟ้องได้นะ  เพราะคดีที่ผมฟ้องผมเป็นโจทก์  ค่าเสียหายเป็นของผมคนเดียว แต่เจ๊ก็เสียหายด้วยนี่  ขาดรายได้  โดนละเมิดโดยการโทรเข้าหาโทรศัพท์เค๊าตลอดเวลา สถานะของเจ๊เค๊าตามความเห็นผมคือ 1. “ เป็นผู้บริโภค “  เพราะผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน แค่ใช้บริการก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีสัญญา 2. เป็นผู้เสียหาย  โดนละเมิด  ถูกทำให้ขาดรายได้ 3. เป็นผู้จ่ายตังค์ค่าบริการรายเดือนให้จำเลย  ตามคำสืบพยานซักค้านของทนายจำเลยเอง   ที่มุ่งหวังให้ศาลตัดค่าขาดรายได้ของผม   เมื่อศาลเชื่อว่าเจ๊แบ่งรายได้กับผมคนละครึ่ง   ทีนี้มันไม่มีธุรกิจใดในโลกหรอกที่มีการแบ่งรายได้แต่ไม่แบ่งค่าใช้จ่าย   เพราะฉะนั้นเจ๊เลยเป็นลูกค้าไปด้วยเลย เมื่อคิดตามหลักตรรกศาสตร์และความน่าจะเป็นแล้ว  เจ๊สามารถเป็นโจทก์ได้  โดยไม่ต้องสืบพยานอีก เจ๊สามารถใช้คำพิพากษานั้นได้ทันที       เมื่อคิดดังนั้นแล้วผมจึงกดโทรศัพท์ทันที “ จิ๊ด ๆๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ “ ครับคุณ XXXXX ใช่มั๊ยครับ “ ผมถามปลายสาย “ ครับ “ เสียงตอบมา  และผมก็แนะนำตัวกับเจ้าหน้าที่ท่านเดิม “ ไม่ทราบว่าคดีผม สามารถไปคัดคำพิพากษากับสำนวนได้หรือยังครับ “ ผมถามเกริ่น แหมไอ้จะให้ถามเลยตรงๆมันก็นะ  ไม่มีปี่มีขลุ่ยเกินไป “ ยังเลยครับ  ผมก็ยังไม่ทราบว่าจะได้เมื่อไหร่  แต่พี่มาขอขยายอุทธรณ์ไว้ก่อนได้ “ ปลายสายตอบ แหน่ะแปลว่าคงคุยกันแล้วระหว่างเจ้าหน้าที่หล่ะสิ “ ครับ แล้วผมจะไปฟ้องอีกคดีด้วยครับ “ ผมชกแบบไม่ให้ตั้งตัว “ คดีอะไรครับ “ น้ำเสียงเริ่มงง งง “ ก็คดีน้องน้ำแหล่ะครับ  แต่คราวนี้เจ๊เป็นโจทก์ฟ้อง เพราะคำพิพากษาไม่ถึงเจ๊ “ ผมตอบ “ และตามคำสืบพยาน เจ๊เป็นลูกค้าที่จ่ายค่าบริการครึ่งหนึ่งให้มาโดยตลอด  และเจ๊เป็นผู้เสียหายเนื่องจากขาดรายได้ด้วย”  ผมซ้ำ “ คุณจะฟ้องได้ยังไงครับ  จะฟ้องได้คุณต้องบอกว่าละเมิดยังไง  เสียหายยังไง “ แหน่ะมีเถียง “ แล้วเจ๊คุณก็ไม่ใช่คู่สัญญาด้วย “ เถียงอีก !!!! ไหนว่าไม่ต้องจ่ายตังค์ก็ฟ้องได้ไง   จ่ายตังค์แต่ไม่มีสัญญาก็ฟ้องได้ไง  อะไรเนี่ยะ !!!!!  เหตุการณ์  เดจาวู  เกิดซ้ำกะเอาอยู่อีกแว๊วโว๊ย   “ พรบ.แนวทางพิจารณาคดี เป็นแค่แนวทาง  คุณต้องใช้กฎหมายแพ่งครับ “ ท่านเจ้าหน้าที่ปล่อยหมัดหลอก ( อ๋อ เพิ่งรู้  ว่าพรบ. นี้ไม่ใช่กฎหมายนะเนี่ยะตัวเอง  พูดมาได้  เค๊าให้ทำตาม พรบ.นี้ก่อนเฟ้ย  อะไรที่พรบ.นี้ไม่มีค่อยไปเอาใน ปพพ. ) “ แล้วผมเป็นเจ้าหน้าที่คดี  ถ้าผมไม่ทำ  ก็ไม่สามารถฟ้องคดีได้ “  ท่านฮุ๊คซ้าย  แต่ผมว่าท่านผิดกติกานะ ต่อยใต้เข็มขัดว่ะ ผมเลยสวนไปทันที “ตามพรบ. รู้สึกว่าอำนาจนี้เป็นของท่านประธานศาลอุทธรณ์นะครับ ไม่ใช่ของคุณ  ถ้าตัดสินใจไม่ได้ทำเรื่องไป” ผมกล่าวอย่างเย็นชา  น้ำเสียงเริ่มเข้มเต็มร้อย คราวนี้ท่านคงเริ่มรู้ตัว  เสียงอ่อนลง  และบอกว่าไว้ไปค่อยไปคุยกัน ( แหม คิดจะเลื่อนเป็น C10 ภายในไม่กี่นาทีเลยเรอะ ) ( ท่านประธานค๊าบ  มีคนแย่งงานท่านทำฮะ  ฟ้องข้อหาแย่งงานท่านประธานดีมั๊ยเนี่ยะ  หรือแอบอ้างอำนาจดี ) มาตรา ๘ ในกรณีมีปัญหาว่าคดีใดเป็นคดีผู้บริโภคหรือไม่ ให้ประธานศาลอุทธรณ์ เป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด แต่ทั้งนี้ไม่กระทบถึงกระบวนพิจารณาใด ๆ ที่ได้กระทำไปก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยนั้นการขอให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาตามวรรคหนึ่งไม่ว่า โดยคู่ความเป็นผู้ขอหรือโดยศาลเห็นสมควร ถ้าเป็นการขอในคดีผู้บริโภคต้องกระทำอย่างช้าในวันนัดพิจารณา แต่ถ้าเป็นการขอในคดีอื่นต้องกระทำอย่างช้าในวันชี้สองสถานหรือวันสืบพยานในกรณีที่ไม่มีการชี้สองสถาน หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วห้ามมิให้มีการขอให้วินิจฉัยปัญหาดังกล่าวอีก และเมื่อได้รับคำขอจากศาลชั้นต้นแล้ว ให้ประธานศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยและแจ้งผลไปยังศาลชั้นต้นโดยเร็วเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว การดำเนินการใด ๆ ระหว่างศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ตามมาตรานี้ จะดำเนินการโดยทางโทรสารหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นใดก็ได้ . . . . . ผมมีหน้าที่ใช้กฎหมายผมก็ใช้ตามสิทธิ จะได้หรือไม่  ขึ้นกับท่านประธานตีความ   ภายหลังหากมีกรณีนี้จะได้ไม่ต้องตีความกันอีก   เพื่อความสะดวกของส่วนรวม  จำต้องทำฮะ   จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:51:28

ความคิดเห็นที่ 61 จากที่อ่านมา10กว่าวัน เหนื่อยจังค่ะ (นี่แค่อ่านนะไม่ได้เป็นตัวจขกท.เองที่ลงไปบู๊กะเค้า)นับถือเจตนาคุณที่ตั้งใจให้เป็นคดีตัวอย่าง ซึ่งที่อ่านมาเพลียกับกระบวนการและระบบอย่างยิ่งค่ะ มีความสงสัยอยู่นิดนึงคือ เรียกเก็บเงินซ้ำซ้อนซ้ำซาก คนจ่าย จ่ายแล้วจ่ายอีกไม่ว่าจะจ่ายเพราะเหตุใด(ไม่อยากเป็นเรื่อง เบื่อร้องเรียน อยากให้จบๆ จำไม่ได้ว่าจ่ายแล้ว จ่ายแล้วไม่มีหลักฐานแย้ง)แต่รายรับตรงนี้มันเหมือนเป็นรายได้ที่ไม่รู้ที่มาในระบบบัญชีเค้ารึเปล่า แล้วเวลาทำบัญชีเค้าทำยังไงกันละนี่ สรรพากรน่าจะเข้าไปตรวจบัญชีซะหน่อยนะ จากคุณ : โครโมโซม X เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:29:10

ความคิดเห็นที่ 62 ไปแล้วครับกำลังจะเล่าว่าไปแล้ว  สรรพากรคงไปแล้วแหล่ะ อ่อ  กรณีจ่ายแล้วจ่ายอีกถ้าให้ผมเดานะครับ ช่วงเค๊าย้ายลูกค้ามาคงย้ายข้อมูลมาไม่หมด (มั๊ง) ขาดๆหายๆ ก็คงเริ่มมั่วแหละ   เท่าที่จำได้  วันนั้นผมพยายามไปจ่ายที่ทำการเดิม แต่ที่ทำการเดิมบอกว่าไม่สามารถรับชำระได้อีกแล้ว ต้องข้ามไปที่ทำการใหม่   ก็พนักงานจากที่เก่าย้ายบริษัทแหล่ะ ......................... ตามหลักบัญชีคงต้องดูแหล่ะครับ ว่าเค๊าออกใบเสร็จยังไง คิดว่าคุณลูกค้าจะได้ดูกันมั๊ยหล่ะ เอาไปตัดกะใบแจ้งหนี้อะไร คิดว่าคุณลูกค้าจะทราบมั๊ยหล่ะ  ไม่มีอะไรในมือสักอย่าง แต่ที่แน่ๆคงออกแวต  โอย คิดแล้วปวดหัวน่าดูแหะ ปล่อยเป็นภาระสรรพากรท่านเหอะครับ ถ้าท่านทำนะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 18:38:00 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 17:31:07

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าคุณกล่าวลอยๆ ไม่จี้ท่านอาจจะไม่ทำก็ได้ครับ ผมเคยโดนเอาเอกสารสำเนาบัตรประชาชนไปทำเป็นผู้รับเงิน  เงินเข้ากระเป๋าคนอื่น  แต่ภาษีผมต้องโดนจ่ายเพิ่ม  ผมไปแจ้งสรรพากร และชี้ว่าผู้กระทำมีเจตนาเลี่ยงภาษี (เงินได้เขาคงเป็นหลายล้าน แต่แอบอ้างเอาชื่อคนโน้นบ้างคนนี้บ้างไปรับเงิน เท่าที่ทราบก็ไม่ต่ำกว่า 3 คน แบบนี้ประเทศชาติเสียประโยชน์เห็นๆ) ท่านจะช่วยอะไรได้บ้าง  ท่านจะตรวจสอบไหม  ท่านบอกว่าให้ผมช่วยตัวเอง ท่านไม่เกี่ยว  ถ้าท่านอยากจะเกี่ยวท่านจะมาชุบมือเปิบตอนคดีผมสิ้นสุดแล้ว ถ้าผมอับจนปัญญาทำอะไรไม่ได้ก็ต้องจ่ายภาษีให้ท่านแต่โดยดี  โชคดีมีคนดีมีจิตเมตตาช่วยให้คำแนะนำเลยรอดมาได้อย่างหวุดหวิด  ส่วนสรรพากรท่านจะทำอะไรต่อหรือไม่ผมก็ไม่อึดพอที่จะไปตามเอาความ จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:00:21

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านกระทู้ของคุณแล้วประทับใจมากค่ะ  เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมากจริง ๆ ส่วนมากคนชอบคิดว่าแล้ว ๆ กันไป  ไม่อยากเสียเวลา  ทำให้สิ่งที่ถูกต้องถูกบิดเบือน กฎหมายไม่เป็นกฏหมายแบบที่หลาย ๆ ท่านบอก  และผู้บังคับใช้กฎหมายก็ยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ เจ้าของกระทู้  "เจ๋งจริงค่ะ" จากคุณ : loveouh เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:08:06

ความคิดเห็นที่ 65 คห63 ผมรอคำทำนายชุดสุดท้ายครับเห็นถูกมาตลอดนะ ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:35:07

ความคิดเห็นที่ 66 check in ka,,,,,,,,,,,,, lost for a few days as Chirstmas but now i come back .... Merry Christmas ka จากคุณ : veruna (veruna) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:45:50

ความคิดเห็นที่ 67 ลงชื่อค่ะ ***ทำไมให้กิฟจขกท. ไม่ได้อะ จากคุณ : doublemilk เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 19:57:46

ความคิดเห็นที่ 68 ไปขยายอุทธรณ์กันนะ  26/12/54 ได้เวลาสักที  ขืนไม่ไปขยาย  อดแน่ๆ  แต่คำพิพากษาจะได้หรือเปล่าไม่รู้ ไปเลยดีกว่า ขี้เกียจโทร  ว่าแล้วเช้านี้เจ็ดโมงเช้าออกจากบ้านกะเจ๊ ไม่ต้องกลัวคับ  ไม่มีคอสตูมแล้วทีนี้   ไปแบบลูกทุ่งภูธรเลย  ผ้าขาวม้าคาดพุง ไปถึงก็วิ่งโผล่เข้าไปในห้องทันที  เจอโจทก์สองท่าน ( ก้อท่านเจ้าหน้าที่แหล่ะ ) นั่งขมีขมัน ไปถึงก็ถามทำเรื่องอุทธรณ์กะ เจ้าหน้าที่ผู้หญิง เท่านั้นวงก็แตกเลยแหะ  มิหนำซ้ำ คุณเจ้าหน้าที่ผู้ชายที่เคยโทรคุย  ไม่รู้โกรธไรเรา  บึ้งตึง ไม่รับแขก ไม่สนจาย   งอนได้งอนไป เชอะ “ มาทำเรื่องขยายอุทธรณ์ครับ “ ผมบอกเจ้าหน้าที่ผู้หญิง “ ทำเรื่องมาหรือเปล่าคะ “ เธอถามหน้าตาเฉย !!!! อ้าว ไม่เคยมีใครบอกนี่ว่าจะไปขออุทธรณ์  ต้องทำคำร้อง  ทำเป็นที่ไหนหล่ะ ชีวิตนี้ทำไมลำบากยากเย็นนักวะ “ ไม่มีหรอกครับ นึกว่ามาทำที่นี่ได้ “ ผมตอบ พร้อมทำหน้าเมายา ส่วนน้องเค๊าก็ทำหน้าแบบ  อรี๊ยยยส์ ทำไมไม่รู้อะไรเลย !!!  ใช่สิ ไม่ใช่ทนายนี่ครับ  ทำไมต้องทำสายตาตำหนิพี่ขนาดนั้นด้วย T T หลังจากน้องเค๊าสะกดจิตตัวเองให้ระงับอารมณ์ได้แล้วก็ทำเข้มใส่ ( ขอเรียนว่า ประชาชนขวัญหายหมดนะน้อง  เดี๋ยวพี่เข้มมั่งเหอะ แหลกคามือหรอก ) “ ไม่เป็นไรค่ะ เขียนเอาก็ได้ “ เธอบอกเสียงยังแข็งๆอยู่ ระหว่างที่เธอกำลังจะเดินหาโน่นนี่นั่น   เจ๊แกก็พูดว่า “ เธอแล้วเรื่องนี้จะเอายังไงที่จะมาฟ้อง “  เจ๊แกถามผม  แต่น้องเค๊าหูไวมาก “ เอาทีละเรื่องค่ะ “ เธอดุพร้อมกระแทกเสียงใส่ดังโครม !!!!  สงสัยโกรธที่หางานให้ทำมากไป  ที่ให้ทำเพื่อชาติมากไป  ที่รักษาสิทธิตัวเองมากไป หลังจากนั้นเธอก็บอกให้ผมเขียนตามคำพูดในคำร้องขอยื่นขยายอุทธรณ์  จนถึง.................     “ พี่จะขยายกี่วันดีคะ “  เธอถามผม “ กี่วันดีหล่ะครับ เห็นเคยบอกว่าได้ทีละ 30 วัน ไม่ใช่เหรอ “ ผมตอบ “ ไม่จำเป็นค่ะ พี่จะขอกี่วันก็ได้   แต่ศาลจะให้มั๊ยหนูไม่แซ่บ  แล้วแต่ศาล “ เสียงเธอมะนาวขาดน้ำมาก !!!!  อ้าวแล้วเธอจะถามชั้นทำไมฮะ   บอกมาเลยง่ายกว่ามั๊ย  ปวดตับจริงๆ จนในที่สุดผมทนรำคาญไม่ไหว  เอา 45 วันแล้วกันน้อง  เห้อ หน่ายชีวิต . . . แหน่ะๆๆๆ อย่าคิดว่าเรดาห์ผมเสียนะ   อย่าคิดว่าผมลืมเจ้าหน้าที่ผู้ชายนะ ระหว่างที่ผมกำลังต่อปากต่อคำกะน้องผู้หญิง ก็ได้ยินเสียงหัวหน้าเจ้าหน้าที่ชายเรียกไป   น้ำเสียงดุมากกกกกกกก หุหุ  โดนเรื่องไรน๊า..................  เห็นป้ายตรงหัวหน้าเค๊าเขียนว่า “ แผนกบริการประชาชน คดีผู้บริโภค “ ด้วยแหล่ะ พอผมเสร็จกิจ  หันมาอีกทีเจอเจ้าหน้าที่ผู้ชายยืนหน้าแดงอยู่ คงร้อน   ไม่ก็โดนอะไรแข็งๆแถวโต๊ะหัวหน้ามามั๊ง ไม่ก็คงโดนข้อหาไม่บริการราษฎรอาวุโสมั๊ง  (ยายเจ๊อ่ะ) “ คุณครับ  วันหลังอย่าแอบอ้างอำนาจประธานศาลนะครับ “ ผมแว๊ก “ คิดจะเลื่อนซีเป็นซีสิบเหรอครับ “ ซ้ำอีก  หน้าจ๋อยๆ  น่าสงสารอ่ะ   หยอกเล่นหรอกตัวเอง   เพราะถ้าเอาจริง ป่านนี้ไม่เหลือละ !!!!!  สมัยนี้การข่มขู่ประชาชนยังไม่หมดอีกเหรอเนี่ยะ  ขนาดเขี้ยวขนาดนี้ยังกล้าข่มเนอะ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:03:04

ความคิดเห็นที่ 69 ผมว่าคุณเขียนบรรยายมาในรูปแบบเป็นคำฟ้องจะดีกว่าน่ะ ว่า ในตอนฟ้องน้องน้ำ ต่อ กสทช คุณฟ้องว่าอะไรบ้าง มีพยานหลักฐานอะไรยืนยัน และก็ในคำฟ้องที่ฟ้องน้องน้ำกับสรรพากร คุณฟ้องว่าอะไรบ้าง มีพยานหลักฐานอะไร คนอ่านจะได้เข้าใจ และแสดงความเห็นได้ง่าย จากคุณ : นอนดูดาว (นอนดูดาว) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:19:25

ความคิดเห็นที่ 70 โทษฮะ เมาอากาศ ขอกราบประทานโทษจริงๆ ก้อผมยังไม่ได้เขียนคำฟ้องสักที่เลยอ่ะคับ สมัยนี้ฟ้องด้วยปากกะบัตรประชาชนฮะ ส่วนสรรพากรที่ผมฟ้อง  ผมบอกว่าจะเอาไรมีหมด  แม้แต่คำพิพากษาครับ ยังเขียนไม่ถึงเลยอ่ะ  กำลังจะถึงแล้วฮะ อีกนิดนะ  อีกนิ๊ดดดดส์เดียวจริงๆ ไม่นึกว่าท่านนอนดูดาวจะใจร้อนเปลี่ยนท่ามานั่งดูผมนี่ ปอลอฮะ  คือหลักฐานผมก็มีเท่าที่มีเท่าที่แปะแหล่ะครับ  ก็ฟ้องมาจนชนะได้นี่ ถ้ายังไม่พอ  ตัดสินใจไม่ได้  ผมก็ไม่ได้ว่าอารายนี่  แค่แจ้งให้ทราบเจ๋ยๆ ถ้าเล่นแง่ร้องเรียนเค๊าหมายถึง ใส่ร้ายคงไม่ใช่  เพราะมีคำตัดสินผิดถูกแล้วครับ ผมก็ทำของผมไปเรื่อยๆในฐานะประชาชนคนธรรมดาไม่ใช่นักกฏหมาย ทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง  ทำเพื่อประโยชน์คนอื่นครับ บางอย่างอาจดูขัดตาท่าน  เยิ่นเย้อ เสียเวลา แต่ที่ผมเล่าละเอียด  เพื่อให้ทราบว่า  แต่ละอย่างกว่าจะได้มา มันยากจัง  ไม่งั้นคนจะนึกว่า ทำจดหมายร้องเรียนโครม ได้เลย มันไม่ใช่ครับ  กว่าจะรู้ว่าโทรหาใคร  ติดต่อใคร  ต้องทำยังไง ขนาดท่านอ่านยังรำคาญเลย   นึกว่าผมไม่รำคาญเหรอฮะ แล้วผมเจอเบิ้ลสองรอบ  เจอมาเอง  แล้วต้องมาทนเขียนซะไม่ต้องเอาตะแกรงร่อน ท่านยังมาดุผมอีกอ่ะ  เสียใจเป็นนะ  แง๊ๆ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:23:40 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:19:34 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:02:28 แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 21:58:06 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:57:00

ความคิดเห็นที่ 71 มารอค่ะ จากคุณ : doublemilk เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:03:53

ความคิดเห็นที่ 72 . . . . “ เธอๆ  เรื่องชั้นตอนนั้น ชั้นเป็นนายจันหนวดเขี้ยวไปแล้ว ทีนี้ตาเธอหล่ะจะเป็นไร “ ผมถามเจ๊ตอนขับรถ “ วีรสตรีในตอนนั้น มีนาง ปล้อง  เฟื่อง  แฟง  เลือกเอาสักชื่อ “  ผมให้แกเลือกชื่อขี้เกียจเรียกเจ๊ “ ยี๊  ไม่มีเพราะๆมั่งเหรอ “ เจ๊โวยวาย “ นี่  ไม่มีชื่อ ฟัก บุญเท่าไหร่แล้ว “  เลือกมากนัก เรียกเจ๊อย่างเดิมเหอะ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:29:39

ความคิดเห็นที่ 73 หายไปวันเดียวมีแซวนะครับพี่บิ๊ดแบ็ค หุหุ กลับมาตามอ่านแล้ว แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 22:43:16 จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:42:34

ความคิดเห็นที่ 74 หวัดดีคับคุณโสด ไปฉลองกะซานต้ามาเหรอครับ ^ ^  ปีใหม่อย่าเที่ยวเยอะนะครับ  เค๊าลือกันว่าจะมีโน่นมีนี่ ว่าแต่ว่าอ่านเรื่อง "เด็กชายปลาบู่" หรือยังครับ ใครจะเดาว่าเขื่อนแตกมั่งอ่ะ   ผมจะได้รีบหลบ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:50:30

ความคิดเห็นที่ 75 ยังไม่ได้อ่านครับเรื่องเด็กชายปลาบู่ เมื่อวานไปรับเพื่อน หลังจากเพื่อนไปแก้จมูกที่ไปเสริมมา เลยไปค้างที่หอเพื่อน หอมันไม่มีเน็ท แล้ววันนี้ก็ไปดูหนังมา เรื่องเชอรอกโฮม จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:56:39

ความคิดเห็นที่ 76 ผู้ว่าฯ ตาก ยืนยัน เขื่อนภูมิพลไม่แตกในคืนปีใหม่ หลังมีคำทำนาย เด็กชายปลาบู่ ระบุไว้ ทำคนตื่นตระหนก          สร้างความฮือฮาในโลกไซเบอร์ไปก่อนหน้านี้ สำหรับคำทำนายของ "เด็กชายปลาบู่" ที่ได้ทำนายถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ และหนึ่งในคำทำนายของ "เด็กชายปลาบู่" ที่สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนจำนวนมากในขณะนี้ ก็คือ คำทำนายที่ว่า ในช่วงเวลายามสองของคืนปีใหม่ พ.ศ.2555 นี้ จะเกิดเหตุการณ์เขื่อนที่จังหวัดตากพัง รวมทั้งยังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวจนผู้คนล้มตายมากมาย          อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ซึ่งนายสามารถระบุว่า หลังจากมีกระแสข่าวลือคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ในโลกไซเบอร์ ก็ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ใต้เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และจังหวัดใกล้เคียงซึ่งเป็นแหล่งรองรับน้ำตื่นตกใจกลัว โทรศัพท์เข้ามาสอบถามกันเป็นจำนวนมาก บางคนถึงกับจะขายที่ ขายบ้าน เพื่อไปหาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่          ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ตาก กล่าวว่า อยากให้ประชาชนรับฟังข่าวลือต่าง ๆ ด้วยวิจารณญาณด้วย เพราะมั่นใจว่า เขื่อนภูมิพลสามารถรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ และที่ผ่านมา เคยเกิดแผ่นดินไหวเพียงแค่ 3 ริกเตอร์เท่านั้น อีกทั้งเขื่อนภูมิพลไม่ได้อยู่ในแนวเปลือกโลก ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเขื่อนมั่นคงแข็งแรงดี          ขณะที่นายณรงค์ ไทยประยูร ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประทศไทย (กฟผ.) เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ก็ได้ยืนยันเช่นกันว่า เขื่อนภูมิพลมีการออกแบบเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้ง ซึ่งเอาแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมดวางไว้กับภูเขา ดังนั้นเขาทั้งสองด้านจะรับแรงได้ทั้งหมด หากเกิดการสั่น แสดงว่าต้องสั่นสะเทือนทั้งภูเขา เพราะฉะนั้น หากภูเขาไม่พัง เขื่อนก็ไม่พัง และขอให้มั่นใจได้ว่า เขื่อนภูมิพลทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 7 ริกเตอร์ และมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตรวจสอบ บำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา http://hilight.kapook.com/view/65424 อ่านแล้วใช้วิจารณญานเอานะครับ ป.ล. ท่านนอนดูดาวอย่ามาทวงพยานหลักฐานกะผมในเรื่องนี้นะ  ไม่งั้นผมจะโกรธจริงๆด้วยเออ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:00:53

ความคิดเห็นที่ 77 กรี๊ดดดดดดด หนูก็ใช้ค่ายนี้ ขอไปดูมั้ง ว่าตูจ่ายย้อนหลังมั้งไหม จ่ายในเว็บไปแบบมึนๆ ทุกรอบเลย จากคุณ : kisschup เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:05:57

ความคิดเห็นที่ 78 . . ทีนี้เรื่องของเจ๊มั่งหล่ะเว๊ย “ ส่วนเรื่องของพี่หน่ะ  ถ้าพี่จะทำหนูก็จะทำให้แต่ไม่ทราบว่าจะฟ้องได้หรือเปล่านะคะ “ เธอกร้าวใส่ “ อ้าวพี่ดูตามกฎหมาย  พี่ว่าน่าจะได้นี่คะ นี่ไงคะมาตรานี้ไง “  เจ๊สอดมาอย่างไม่น่าให้อภัย “ พี่ไม่ต้องเอากฎหมายมาพูดกะหนู  หนูรู้ดี “  น้องเค๊าตอบเจ๊  แสบนะยะหล่อน ไม่ได้การ  ปล่อยยายเจ๊คงโดนน้องเค๊าฟัดน่วมแน่   สงสัยต้องออกโรงเอง “ โอเค  ได้หรือไม่ได้ไม่เป็นไร  แต่อยากให้ทราบว่าที่มาฟ้องไม่ต้องการได้เงิน “ ผมเริ่มกระแทกมั่งละ  เหลิงอำนาจมากไปแล้ว “ ควรทราบว่าพี่มาเพื่อทดสอบ พรบ.ผู้บริโภค  อยากทราบว่าออกกฎหมายมาใช้ได้ทุกข้อมั๊ย “ ซ้ำอีกที “ ได้หรือไม่ได้ ทำเรื่องให้ให้ประธานศาลอุทธรณ์ตัดสิน “ สั่งเลยว่ะทีนี้ “ และขอบอกว่า  ที่พูดนี่พูดจริง  ถ้าว่างๆลองไปเปิดเว็บพันทิปดูห้องศาลาประชาคม ห้องย่อยกฎหมายหน่อย “ ผมชี้ทางสว่างให้  หวังว่าเธอจะเข้าใจ “ ไปดูว่าเขียนจริงมั๊ย  จะร้อยหน้าแล้ว  ติดแนะนำมาสามอาทิตย์แล้วเธอ “  ก็หวังว่าเธอจะรู้จักพันทิป “ อย่างกรณีอาจารย์เจิมศักดิ์หน่ะ ถ้าผู้บริโภคที่ใช้สนามบินวันเดียวกันจะฟ้องฟ้องได้มั๊ย “ ผมถามมั่งเผื่อได้ความรู้ “ พี่จะมาเปรียบกับอาจารย์เจิมศักดิ์ได้ยังไงคะ  กรณีนั้นเป็นสินค้าอันตราย ไม่เหมือนกัน “ เธอฟ่อใส่ผม ทำจมูกเชิดเหมือนแบบว่า  ชั้นก็มีความรู้นะยะ  อย่ามามั่วนะ “ อ่อ  ถ้างั้นน้องคงรู้ผิดแล้วหล่ะ  น้องใช้อินเตอร์เน็ตเป็นลองไปหาอ่านดูนะ  ว่ามีคนเขียนตำราเกี่ยวกับคดีผู้บริโภค อยู่ 4 ท่าน   นอกจากท่านชาญณรงค์แล้ว  ยังมีอีกสาม   และพี่อ่านมาแล้ว  คำว่าสินค้าที่เป็นอันตราย คือ สินค้า  ยังไม่รวมถึงบริการ (ย่ะหล่อน)   ตามกฎหมาย  เพราะต้องไปเปิดพรบ.สินค้าที่เป็นอันตรายดูอีก  แล้วคนที่เขียนเป็นผู้พิพากษาด้วย (อันนี้ขู่นะ  สารภาพว่าไม่ทราบว่าท่านตำแหน่งอะไรหรอก) “  เริ่มยกตำรามาอัดให้น่วมละ “ ไอ้พวกในเน็ตหน่ะหนูไม่มีเวลาไปอ่านหรอกค่ะ  ที่นี่มีคอมเครื่องเดียวที่เล่นเน็ตได้  คนรอใช้คิวกันเป็นยี่สิบคน “ เธอสบัดหางเสียงอีก !!!!!!  โหย ตูเพิ่งรู้นะเนี่ยะ ประเทศชาติตูมันทุเรศทุรังขนาด หนึ่งต่อยี่สิบ  มิน่ามันไม่พัฒนาไปไหนเลย ลงคลองตลอด !!!!  หมดหวัง  กะว่าจะหาลูกค้าให้พันทิปสะหน่อย อด “ ไม่เป็นไรครับ ให้ท่านประธานศาลอุทธรณ์ ตัดสินเอา “ ชักรำคาญเธอหล่ะ  เป็นน้องเป็นนุ่งนะ ฮึ่ม “ ผมมีหน้าที่ใช้สิทธิ  อะไรถูกว่าไป  อะไรผิด อย่างเรื่องอยู่ๆเอาภาระการพิสูจน์มาโยนให้ผู้บริโภคแทนที่จะเป็นผู้ประกอบการ   เดี๋ยวผมก็ต้องไปร้องเรียน กต. อีก (เห็นมั๊ยเหนื่อยนะเฟ้ย) “ ผมตอบไป คราวนี้เธอพยักเพยิดอย่างเห็นด้วย  ว่าควรทำแหะ  อ้าวนึกว่าจะห้าม และเธอเริ่มลังเล  และเปลี่ยนท่าที  หลังจากที่รู้ว่า อ่านมาน้อยกว่าผมละ หลังจากนั้นผมก็เปลี่ยนเป้ามาที่เจ้าหน้าที่ผู้ชาย  เปิดไอแพดตัวเก่งให้ดูกระทู้ในพันทิปว่ามีจริงๆ มิได้เบิกเนตรแต่อย่างใด  ยาวมากอีกตะหาก   สงสัยได้อ่านตลอดปีใหม่แน่ๆ ว่าแล้วผมก็นึกได้ว่าต้องไปคัดสำนวนนี่หว่า  ลื๊มมมมมมมมม.....จะเที่ยงแล้ว ***************************************************************************************** ขออภัยท่านเป็นดอกเตอร์แหะ  เปิดมิติใหม่ในการคุ้มครองผู้บริโภค   ดร.ธนกร วรปรัชญากูล http://research.krirk.ac.th/pdf/b/04.pdf   2.2.2 ผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551 (เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552) ก. ความหมายของผู้เสียหายฯ (มาตรา 4 ของพระราชบัญญัติความรับผิด ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. 2551) หมายความว่า ผู้ได้รับความเสียหายอันเกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ซื้อหรือใช้สินค้านั้นหรือไม่ก็ตาม ข. ความหมายของสินค้าที่ไม่ปลอดภัย (มาตรา 4) (1) สินค้า หมายความว่า สังหาริมทรัพย์ทุกชนิดที่ผลิตหรือนำเข้าเพื่อขาย รวมทั้งผลิตผลเกษตรกรรม และให้หมายความรวมถึงกระแสไฟฟ้า ยกเว้นสินค้าตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (2) “สินค้าที่ไม่ปลอดภัย” หมายความว่า สินค้าที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิด ความเสียหายขึ้นได้ เพราะเหตุจากความบกพร่องในการผลิตหรือการออกแบบ หรือไม่ได้ กำหนดวิธีใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน หรือข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า หรือกำหนดไว้แต่ไม่ถูกต้องหรือไม่ชัดเจนตามสมควร ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงสภาพของสินค้า รวมทั้งลักษณะการใช้งานและการเก็บรักษาตามปกติธรรมดาของสินค้าอันพึงคาดหมายได้ ข้อสังเกต ความหมายของสินค้ายังไม่ระบุครอบคลุมถึง “อสังหาริมทรัพย์” เช่น อาคาร สิ่งปลูกสร้างต่างๆ และยังไม่ครอบคลุมถึง “บริการ” ไม่ว่าจะเป็น การขนส่งการบันเทิง การรักษาพยาบาล การโทรคมนาคม การธนาคาร ฯลฯ อ่ะถ้าน้องได้มีโอกาสเข้ามาในนี้เอาไปเบิ่งซะเด๊อ  ว่าตามกฎหมายจริงๆ บริการไม่ถูกกำหนดเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย ไงพี่แม่นมะ  ปล่อยให้ประชาชนรู้กฎหมายมากกว่าได้ไงคร๊า ***** แต่ในที่สุด  ด้วยความพยายามของอาจารย์เจิมศักดิ์  บริการก็ถูกนับเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยได้ด้วย   จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:08:29

ความคิดเห็นที่ 79 พี่บิ๊กแบ็ค เริ่ดไปเลย ปอลอ ขอบคุณสำหรับข่าวปลาบู่ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:14:12

ความคิดเห็นที่ 80 . . . ก่อนนอนผมลืมเรียนท่านๆไป ว่าปัจจุบันผมใช้เน็ตของ TOT  ถามว่ามีปัญหามั๊ย เดือนที่แล้ว เสียไปครึ่งเดือน    ถามว่าผมโวยวายมั๊ย ผมไปโวยนะ  ว่าแจ้งเสียตาหลอด  แล้วพาลว่าสายเสีย  เร้าท์เตอร์เสีย ไม่ยอมพักเร้าท์เตอร์มั่ง   ผมก็ปล่อยให้เค๊าบ่นอย่างสบายใจ และถ่ายคลิปการทำงานของเร้าท์เตอร์ให้ผู้จัดการท่านดู หลังกลางเดือนที่แล้ว  สภาพแวดล้อมบ้านผมปกติทุกอย่าง   เร้าท์เตอร์ซื้อมาไม่เคยปิด  จะปีแล้ว   แต่เน็ตกลับปกติ ไม่มีเสีย เรื่องของเรื่อง  พอร์ท ทางเค๊าเสีย  แต่ช่างเค๊ามั่ว ผมแจ้งว่า  ลดค่าบริการมาให้ผมด้วยเลย  ครึ่งเดือน แต่ใบแจ้งหนี้มา   เค๊าไม่ลดอ่ะ   สักบาทเลย  ( ใจร้ายโคด ) แล้วถามต่อว่า  ผมจ่ายมั๊ย   --------> จ่ายสิ แล้วจะฟ้องร้องมั๊ย  ----------> ไม่ฟ้อง เพราะผมถือว่า  "นี่เป็นเรื่องส่วนตัวกับผมคนเดียว  การกระทำเค๊าไม่กระทบประชาชนคนอื่น  แค่เป็นการผิดพลาดที่พนักงานดูแลเท่านั้น " ที่สำคัญ  พนักงานในส่วนบริการแก้ปัญหา  เค๊าดีมากที่จะทำให้ปัญหาหายไป แค่คำพูดดีๆไม่กี่คำ  การเต็มใจบริการ ช่วยลดความขัดแย้งของการให้บริการได้เป็นอย่างดี ขอเรียนให้ทราบว่า  ผมไม่ได้เกเรกะน้องน้ำนะ   แต่เธอรังแกผมมาเกือบปี ผมเห็นว่ามันมากไปหน่อยที่คนร้องเรียนเยอะขนาดนี้ และผมต้องการพิสูจน์พรบ.ผู้บริโภค                                                           จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:22:48

ความคิดเห็นที่ 81 พี่บิ๊กแบ็คครับ อย่าเพิ่งเสียกำลังใจครับ ผมชอบอ่าน style นี้มากกว่าครับ แล้วก็อยากรู้มากจริง ๆ ว่าแต่ละขั้นตอนต้องทำอะไรมากแค่ไหน เพราะงั้นขอให้เขียนแบบนี้ต่อไปครับ ส่วนท่านที่ทราบภาษากฎหมายอยู่แล้วอาจจะดูช้า และไม่ทันใจ รบกวนพี่บิ๊กแบ็คทำแยกอีกฉบับก็ได้ครับ เป็นฉบับสำหรับผู้ที่อ่านกฎหมายรู้เรื่องอยู่แล้ว ให้ผมช่วยพิมพ์ได้นะ ผมยินดีช่วย ถ้ายังไงรวมเล่มเป็นหนังสือแล้ว รบกวนแจ้งด้วยนะครับ เผื่อจะบริจาคเงินเข้ามูลนิธิผู้บริโภคแลกกับหนังสือ จากคุณ : basicguy เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:34:48

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณครับคุณ basic guy ที่ชอบ  แต่ทำอีกฉบับ  คงลงของจริงในหนังสือไปเลยครับ ผมชอบทำอะไรที่ผมอยากทำ  ทำแล้วเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ เรื่องง่ายๆ  ภาษาง่ายๆ  มนุษย์ธรรมดาอ่านแล้วพอเข้าใจ แล้วสอดเรื่องที่เป็นความรู้เข้าไป   เพราะคนเราวันๆเครียดพอแล้ว  ขืนมานั่งเครียดกะเรื่องที่ควรรีแลกซ์อีก ประสาทกินพอดีคับ เรื่องทางมูลนิธิไม่แน่ใจนัก  เพราะทางมูลนิธิเงียบหายไป  อาจเพราะเจ้าหน้าที่ลืม  หรือปิดปีใหม่ พยายามติดต่อคุณ  สารี อ๋องสมหวัง  อยู่ครับ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากช่วยมูลนิธีมาก  เขาจะได้มีกำลังดูแลผู้บริโภคต่อไป จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:43:03

ความคิดเห็นที่ 83 สู้ๆนะ พี่บิ๊กแบ็ค จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:59:51

ความคิดเห็นที่ 84 ณ จุดนี้จุดประสงค์ของพี่บิ๊กแบ็ค คือ ประเด็นของการเอาเปรียบใช่ไหมครับ ตามมาตรา 42 ของ พรบ.ผู้บริโภค ที่พี่บิ๊กแบ็คได้อ้างอิงไว้  (ผมตัดบรรทัดและใส่ quote แยกประเด็นให้เห็นชัด) มาตรา ๔๒ ถ้าการกระทำที่ถูกฟ้องร้องเกิดจากการที่ผู้ประกอบธุรกิจกระทำโดย "เจตนาเอาเปรียบผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรม" หรือ "จงใจให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย" หรือ "ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่นำพาต่อความเสียหายที่จะเกิดแก่ผู้บริโภค" หรือ "กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนต่อความรับผิดชอบในฐานะผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน" จุดที่น้องน้ำทำผิดเห็นได้ชัดเจนคือ "ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่นำพาต่อความเสียหายที่จะเกิดแก่ผู้บริโภค" ซึ่งผมเห็นด้วย 100% ตั้งแต่ก่อนที่พี่บิ๊กแบ็คจะมาตั้งกระทู้  และศาลท่านก็ตัดสินแล้วตามนั้น ส่วน "เจตนาเอาเปรียบผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรม" ถ้าว่าตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายเท่าที่หาเจอ  วัตถุประสงค์น่าจะมุ่งที่ตัวสินค้าหรือบริการและเนื้อหาในสัญญา   แต่ถ้าจะถกเถียงกันต่อก็คงจะยุติยาก(แต่ศาลชั้นต้นท่านไม่เห็นด้วย  ตามคำพิพากษา) ผมจะลองชี้ประเด็นดูว่า  บริษัทน้องน้ำนี้ สมควรคิดอ่าน หรือเล็งผลเลิศในการทำมาหากินในทางทวงหนี้ซ้ำหรือไม่ - ธุรกิจของน้องน้ำคือการให้บริการ broadband Internet  แค่หาลูกค้าให้ได้แล้วลูกค้าอยู่ไปเดือนหนึ่งๆ ก็มีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 590 บาท อย่างพี่บิ๊กแบ็คเดิมก็จ่ายอยู่เดือนละ 890 บาทไม่รวม VAT - น้องน้ำคงไม่กล้าคาดหวังว่าลูกค้าที่โดนทวงหนี้ซ้ำจะยังคงเป็นลูกค้าของน้องน้ำต่อไป - สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปทำให้น้องน้ำเสียโอกาสที่จะได้ลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง - บางกรณีต้องเป็นคดีฟ้องร้องก็มีต้นทุนไม่ใช่น้อย  ลูกค้าก็ต้องบอกว่าบางทีลูกค้าเสียค่าใช้จ่ายเยอะกว่าอีก  แต่การเสียของลูกค้ามันก็ไม่ได้ทำให้น้องน้ำมีรายได้จากตรงนั้น  เป็นเรื่องของเสียกับเสีย ไม่ใช่เสียกับได้ - มีปัญหาแบบนี้ Call Center กับศูนย์บริการทำงานหนักแน่นอน   Call Center สายไม่ว่างไม่สามารถ support ลูกค้ารายอื่นที่เคยใช้บริการจ่ายเงินอยู่ทุกเดือนๆ หนักๆ เข้าลูกค้าอาจจะยกเลิกเพิ่มขึ้น  เพิ่มจำนวน call center ก็มีค่าใช้จ่าย   ยิ่งถ้าไปโวยที่ศูนย์บริการใครผ่านไปผ่านมา ลูกค้าที่จะมาขอใช้บริการเสียความเชื่อมั่น ผมไม่แน่ใจว่าที่พี่บิ๊กแบ็คไปค้นเจอคนที่แชร์ประสบการณ์เหมือนๆ กันเยอะๆ นี่เป็นเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งหรือเปล่า เช่น ครึ่งปีหลังของปี 2552  หมายถึงงวดการใช้บริการ ไม่ใช่ระยะเวลาที่เป็นการทวงหนี้ที่ต่อเนื่องมาข้ามปี   ยังมีเคสทวงค่าบริการ"ประจำเดือน"ของปี 53-54 มากอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า  ถ้าพ้นจากช่วงนั้นมาแล้วอาจจะมีบ้างประปรายก็ต้องดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดไปตามขั้นตอนปกติ  เรื่องของความห่วยของระบบกับผู้ปฏิบัติการก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากความยุติธรรม หรือไม่ก็ความถูกต้อง แล้วแต่ว่าจะมองในแง่ไหน  ซึ่งควรจะยุติธรรมและถูกต้องกับทุกคน ไม่ใช่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เหตุการณ์นี้ ที่บริษัทน้องน้ำทำอาจจะเกิดจากเจตนาที่ถือว่าไม่ดีในเรื่องอื่น  เช่น ความรีบร้อนในการถ่ายโอนลูกค้าในลักษณะที่เอาเปรียบบริษัทอื่น ผลที่ได้คือข้อมูลผิดพลาดมากมายซึ่งไม่ได้อยู่ในวัตถุประสงค์แต่แรกและนำความยุ่งยากมาภายหลัง  แต่อาจจะไม่ได้มีเจตนาที่จะหารายได้จากการทวงหนี้ซ้ำ    ยกตัวอย่างการกระทำที่น่าจะเข้ากรณีเอาเปรียบผู้บริโภคมากกว่า  เช่น เชื้อเชิญให้มาเป็นลูกค้าแล้วอยู่มาวันหนึ่งก็ยกเลิกการให้บริการเพราะการลงทุนในพื้นที่นั้นไม่คุ้มทุน ตัดสัญญาณแบบไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้า กิจการของลูกค้าก็เกิดความเสียหาย  บริษัทที่ผมเป็นพนักงานก็เคยได้รับผลกระทบ เป็นผู้เดือดร้อนจากกรณีนี้เช่นกัน จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 08:23:46

ความคิดเห็นที่ 85 น้อง+โกงใบเสร็จ จะได้เห็นเรื่องราวตั้งแต่ปี 52-54  มีมาตลอด ในหนังสือพิมพ์ คือผมจะชี้ว่าถ้าระบบผิดแก้ยังไง  กี่ปีแล้ว กลัวเสียชื่อมั๊ย  ไม่ทราบสิครับ ลองเปิดเว็บเค๊าดุหน้าร้องเรียน หรือเฟซบุ๊คเค๊าเอง สบท รุ้มั๊ย  รุ้สิ  ถึงขั้นทำสถิติให้แชมป์เธอเลย ผมแค่ทำเท่าที่ทำได้เพราะเห็นว่าเอาเปรียบ  ผิดพลาดโดยไม่แก้ไขเยียวยา ไม่นำพาต่อความเสียหาย  ขอจดหมายขอโทษก็ไม่ทำ  แพ้คดีก้อต้องให้บังคับคดี ถือว่าไม่สำนึกและไม่รับผิดชอบ และถือโอกาสใช้เป็นคดีตัวอย่างเพราะไม่ซับซ้อน  ง่าย เนื่องจากทวงหนี้ในเดือนที่มีใบเสร็จ แต่แก้ตัวโดยโทษลูกค้า คดีนี้แค่ดูหลักฐาน  วันเดียวก็จบ แต่ทำไมเกือบปีไม่มีใครรู้ว่ารฟ้องเรื่องอะไร จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 08:39:27

ความคิดเห็นที่ 86 สำหรับเรื่องลงทุนไม่ค้มแล้วถอนบริการนั้น มีการเก็บมัดจำแล้วไม่ลงทุนด้วยมั๊ง มูลนิธิทำเรื่องฟ้องอยู่นี่ครับ เห็นเจ้าหน้าที่บอกคนทั้งอำเภอเแ็นโจทก์ นอกจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิบอกแลบ้ว เจ้าหน้าที่น้องน้ำก็บอกเอง !!!!! นี่พอแสดงหรือสะท้อนวิสัยทัศน์ในการบริหารหรือเปล่าครับ เรื่องอย่างนี้ยังกล้าทำ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 08:46:17

ความคิดเห็นที่ 87 ขอแชร์ประสบการณ์หนึ่งที่น่าจะเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ตั้งแต่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ อยู่ในบริษัทในเครือเจ้าของน้องน้ำ  ไปประจำอยู่เกาะดูแลทั้งระบบอินเตอร์เน็ตและขายบัตรเติมเงินโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม มีอยู่เคสหนึ่งที่ลูกค้าชาวต่างชาติซื้อบัตรไปแล้วระบบดาวเทียมขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้อยู่หลายวัน  จนกระทั่งสิ้นสุดโครงการจะกลับบ้านกันแล้ว  ยอดเงินในบัตรก็ยังไม่ได้ใช้  ลูกค้าถามว่าจะขอเงินคืนได้ไหม  ผมจึงติดต่อ call center ของบริษัทในเครือที่ทำเรื่องโทรผ่านดาวเทียม call center บอกว่าไม่มีอำนาจดำเนินการคืนเงิน ทำท่าจะไม่ยอมคืนท่าเดียว  ในที่สุดผมก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นใครมีอำนาจ ขอคุยด้วยหน่อย   ผมก็สงสัยว่าทำไมต้องรอให้ร้องขอ ในเมื่อมันเกินอำนาจคุณ คุณก็ต้องถามหัวหน้าคุณสิ  จะมาบ่ายเบี่ยงให้เสียเวลาทำไม  เงินใครก็อยากได้แต่ต้องมาจากการให้บริการแล้วลูกค้ายินดีจ่าย ไม่ใช่ถือโอกาสแบบอ้อยเข้าปากช้างแล้วลูกค้าจะเป็นยังไงไม่สนใจ สักครู่ก็ได้คุยกับผู้จัดการ ไม่นานก็จบก็คืนเงินให้ลูกค้าวันนั้นเลย   เพราะผมเป็นคนถือเงินอยู่แล้ว  โดยจะต้องนำส่งเงินเข้าบริษัทเมื่อสิ้นสุดโครงการ หลายๆ เรื่องมันอยู่ที่ผู้ปฏิบัติการ  ถ้าดำเนินการให้มันถูกต้อง  มีใจให้บริการลูกค้าเรื่องมันก็จบง่าย  ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ ขอไปที ปล่อยให้ลูกค้าเดือดร้อน เข้าก็ต้องเป็นความกันเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:13:40

ความคิดเห็นที่ 88 ถูกครับ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะอะไรเขาโทษเจ้าของ โทษองกร  ที่เลือกคัดคนไม่ดี ขาดการติดตามดูแลใกล้ชิด ไม่แก้ปัญหา  ผุ้บริหารมีไว้แก้ปัญหาครับ ลูกจ้างทำแปปๆก็ออก   ลูกจ้างทำผิดเจ้าของต้องรับผิดตัวแทนเชิด แล้วไปไล่เบี้ย   คุณทำธุรกิจอินเตอร์เน็ตแต่ไม่เคยเปิดเน็ตเลยเรอะ?????? จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:23:58

ความคิดเห็นที่ 89 ยกตัวอย่างเจ๊ผม  ด้วยความที่งานเยอะ โทรหาลูกค้าสลับกัน บังเอิญลูกค้าชื่อเดียวกัน คนนึงต้องให้ลูกเดินมา  อีกคนโดนโวยไม่มาตามนัด ถึงบ้านเพิ่งนึกออก  เลยโทรไปขอโทษทั้งสองคน ผมก็บอกขอโทษเฉยๆไม่ดี  ควรออกไปหาเขา  เอาของไปให้ แล้วไม่ต้องคิดเงิน   ไม่ใช่ลุกค้ารายใหญ่  ชาวบ้านธรรมดา แต่เขาเป็นคนเหมือนเรา เราจะไม่ขายเขาก็ไม่เดือดร้อน แต่เราจะรุ้สึกผิดไปตลอด เรื่องบก็จบลงด้วยดีทุกฝ่าย ความรับผิดชอบกับสำนึกต่างหากที่สำคัญครับ จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:30:32

ความคิดเห็นที่ 90 ยังตามอ่านอยู่ครับ จากคุณ : มีสติ__ก็คิดได้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:09:04

ความคิดเห็นที่ 91 เพิ่งอ่านกระทู้ของคุณบิ๊กแบ็คเมื่อวานนี้ มีประโยชน์กับเรามากค่ะ เพราะเรา( และครอบครัวและญาติและเพื่อน) มีปัญหาเรื่องการบริโภคและอุปโภคมากเลยค่ะ ไม่เคยแก้ปัญหาอะไรได้ ได้แต่ถกแถลงบนโต๊ะทานข้าว เมื่อวานนี้ เลยได้แถลงเรื่องของจขกท.ให้ครอบครัวได้รับทราบ ทุกคนทราบ แล้วก็ซึ้งมากเลยค่ะ คุณคือ UNSUNG HERO ( เยอะไปไม๊) งั้น คุณคือคนที่ต่อสู้แบบมีปัญญาก็แล้วกัน เราอยากจะเก่งเหมือนคุณ จากคุณ : goodji เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:55:56

ความคิดเห็นที่ 92 น่าติดตามมั๊กๆ ครับ ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงในบริษัทเห็นว่ามีเหตุการทวงบิลที่จ่ายไปแล้วแบบนี้เยอะมาก แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีปากมีเสียงเท่าใหร่ จ่ายๆ ไปเพื่อให้จบปัญหา แต่มาคิดดูแล้วถ้าหลายๆ คนรวมกันคงเป็นเงินมหาศาล จากคุณ : นักธนูทีมชาติ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:48:03

ความคิดเห็นที่ 93 อ้าว..สงสัยมาคืนนี้ จากคุณ : มีสติ__ก็คิดได้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 17:22:28

ความคิดเห็นที่ 94 รอติดตามครับ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 17:49:36

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ  วันนี้งานเยอะไปนิด คุณ goodji  ครับไม่กล้ารับครับ UNSUNG HERO เพราะท่านเหล่านั้นทำมากกว่าผมเยอะ ผมแค่เศษเสี้ยวของท่านเอง  ทำในสิ่งที่ทำได้ บางทีก็อายเหมือนกัน  ในการแสวงหาความถูกต้อง จนคนที่เกี่ยวข้องเค๊าทำหน้าสงสัย  จะเอาอะไรมากมาย เนื่องจากเค๊าชินกับระบบที่เรียกว่าตามน้ำไปเรื่อยๆ เพิ่งรู้ว่าท่านที่เสียสละเพื่อส่วนรวมเหนื่อยแค่ไหน บางทีทุกคนรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก  ปัญหาคือ หลักฐานหล่ะ เจ้าพ่อ เจ้าแม่  ทุกคนรู้ว่าใคร  แต่ไม่มีหลักฐาน คำว่า หลักฐาน อาจทำให้หลายคนต้องแลกมาด้วยชีวิต เพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องบอก  หลักฐานไม่พอเพียง บางหลักฐาน ท่านใช้เวลาปรายตาดูแค่ห้านาที บอกใช้ไม่ได้ แต่บางทีมันแลกมาด้วยชีวิตคนหลายคน เพราะคำว่า  "หลักฐาน" คำเดียว ที่ทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ บังเอิญเจอเพลง  UNSUNG HERO  เลยเอามาแปะ วันนี้พักกันสักวันนะครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 19:41:08 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 19:24:52

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่ได้อ่านแค่วันเดียว My Hero ของหนูกลายเป็น Unsung Hero ไปซะแล้ว ไม่อยากให้เหนื่อยหรอก..... แต่ก็อดส่งใจไปเชียร์ไม่ได้อยู่ดี เพื่อ "ความถูกต้อง"ก็ทำไปค่ะ ชอบเพลงนี้จังเลง จากคุณ : หนูเองค่ะ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:12:28 A:61.90.20.224 X: TicketID:342395

ความคิดเห็นที่ 97 ผมคิดไปคิดมา ผมว่า ศาลน่าจะพิพากษาคดีนี้ไม่ถูก ที่จริงน่าจะพิพากษา ให้น้องน้ำแก้ไขความผิดพลาดในระบบเรียกเก็บบิลซ้ำซ้อน ถ้าน้องน้ำไม่แก้ไขก็ให้ระงับกิจการ ส่วนค่าเสียหายที่พี่บิ๊กแบ็คขอมานั้น ให้ยกให้หมด เพราะพี่บิ๊กแบ็คยังไม่ได้ถูกกระทบสิทธิจากการทวงหนี้ เมื่อยังไม่ได้ถูกกระทบสิทธิ ค่าเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นมาภายหลังย่อมไม่สามารถเรียกร้องได้ ก็มีโอกาสสูง ที่น้องน้ำจะอุทธรณ์แล้วจะชนะ ส่วนการที่จะให้คนอื่นที่ได้รับบิลซ้ำซ้อนมาฟ้อง คาดว่า ศาลก็ต้องสั่งให้รอผลดคีนี้ถึงที่สุดก่อน แล้วจึงจะนำผลจากคดีนี้มาใช้ในคดีอื่นได้ จากคุณ : นอนดูดาว (นอนดูดาว) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:04:39

ความคิดเห็นที่ 98 ............................ :P :X :X :X :X แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 00:33:40 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 22:25:07 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 22:24:03 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:21:47

ความคิดเห็นที่ 99 วันก่อนใครถามหาไม่รู้ว่าปัจจุบันมีมั๊ย เศร้าใจมั๊ยหล่ะเนี่ยะ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 23:46:46 จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:45:34

ความคิดเห็นที่ 100 แฮะๆ ผมกดเจอกระทู้ภาคแรกจากเว็บจ่าอ่ะ เหมือนมีคนแจ้งไปตั้งกะภาคแรกแหล่ว เพราะไม่มาม่าแต่เป็นเรื่องทางขั้นตอนทางกฏหมาย เลยไม่ได้ลงมั้ง~ จากคุณ : Reko-J เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:43:57

ความคิดเห็นที่ 101 คัดสำนวน “ ไปคัดสำนวนที่ไหนครับ “ ผมถามเจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่ตอนนี้เริ่มเป็นมิตรมากขึ้น  หลังรู้เจตนา คือเจ๊แกไปบอกว่า  ก็นึกว่าเรียนหนังสือแล้วกันค่ะ  จบคดีพี่เนี่ยะ คงเก่งที่สุดแล้วในประเทศ อาจได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรตามจังหวัดต่างๆนะเออ  ฐานะผู้เชี่ยวชาญ   น้องเค๊าก็อารมณ์ดีขึ้นมาอีกมากมายเลย   “ เดี๋ยวหนูพาไปค่ะตามหนูมา “  เธอตอบ ผมก็เดินตามเธอไปอย่างว่าง่ายไปถึงห้องที่เก็บสำนวน เธอจัดการให้เรียบร้อย “ พี่จะเอาอะไรพี่พับแล้วให้คนถ่ายเอกสารนะคะ “  เธอบอกแล้วก็จากไป สงสัยคุยกะเจ๊ติดพันแน่ๆ ผมก็พับๆๆๆ  เอาโน่น  เอานี่  เอานั่น  สักพัก  น้องเค๊าวิ่งกระหืดกระหอบมาบอก “ พี่ต้องรับรองด้วยนะคะ  เพราะเอาไปทำอุทธรณ์ “  เธอรีบมาเตือน เจ้าหน้าที่ในห้องเอกสารก็ถามผม  ไอ้โน่นรับรองมั๊ย  ไอ้นี่รับรองมั๊ย  ค่ารับรองแผ่นละ 50 บาทนะคะ หา!!!!!!!   หูผมต้องฝาดแน่ๆ  ขืนแผ่นละห้าสิบ  หมดตรูดแน่ๆ  พกไปร้อยห้าสิบเอง ถ่ายไปราวๆ  เกือบห้าสิบแผ่น.........................มายบุ๊ดด้า “ น้องครับ  ไอ้โน่นไม่เอา  ไอ้นั่นก้อไม่รับรอง  เอาแต่มือซ้ายน้องแหล่ะ  ใช่ๆ “ ผมรีบบอก กลัวแพง ระหว่างนั่งรอรับรอง  ผมก็พยายามนั่งนึก  กี่แผ่นวะเนี่ยะ  โอ๊ยสสส์  สี่สิบได้มั๊ง  บางแผ่นสองหน้าอีก คงสองสามพัน   เหงื่อเริ่มแตกละ “  พี่คะ  ได้แล้วค่ะ   350 บาทค่ะ “ เสียงสวรรค์บอกผม โล่งอก   คือเรื่องของเรื่อง  เค๊านับเป็น จ (จอ)  ผมก็ไม่รู้แหล่ะ  รู้แต่แล้วแต่ จอไหนมากหรือน้อย  ถ้าเป็นจอนึง คงสักห้าสิบ แล้วปล่อยให้นั่งงกอยู่ตั้งนาน  ว่าแต่มีมา 150 บาทเอง   วิ่งไปขอเจ๊ดีกว่า......................................... จากคุณ : พี่บิ๊กแบ็ค เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 09:42:46