ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มแรกสุดเลยครับ คุณต้องท่องคำต่อไปนี้ให้ขี้นใจครับ  " เราจะไม่ใช่อยู่ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน มีคนๆ หนึ่งกะลังจะมาแชร์ชีวิตร่วมด้วยกับเรา  เราจึงต้องปรับปรุงความเป็นอยู่ของชีวิตใหม่ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เคยอยู่ตัวคนเดียว จะทำยังไงก็ได้ " ส่วนเรื่องที่เหลือ เด๋วจะมีท่านผู้รู้มาตอบอีกเพียบง่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 17:40:14 จากคุณ : LODI เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:38:54

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องเริ่มจากมีงบเท่าไร และในใจอยากจัดแบบไหนก่อนค่ะ จากนั้นก็เริ่มนับจำนวนแขกผู้มีเกียรติว่ามีจำนวนเท่าไร แล้วมาหาสถานที่ หาชุดแต่งงาน อาหารที่จะจัดเลี้ยง หรือจะให้ง่ายก็ติดต่อไปที่โรงแรมค่ะ มีแพคเก็จงานแต่งเยอะแยะ มีหลากหลายราคา ตามอาหารที่ต้องการ และดาวของโรงแรมค่ะ แต่ถ้าเราแต่งเอง เราจะจัดพิธีสงฆ์ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เลี้ยงอาหารค่ำ เฉพาะญาติสนิทและเพื่อนสนิทเท่านั้น ส่วนซองที่ได้ก็จะเอาไปทำบุญค่ะ จะเป็นบ้านเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา หรือองค์กรเพื่อสัตว์ยากไร้ค่ะ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะคะ ขอให้รักกันนานๆ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง ขอให้หนักแน่นเหมือนหินผา ใจกว้างดั่งท้องทะเล หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะคะ ความรักสวยงามเสมอค่ะ ^_^ จากคุณ : ป้าด้วงค่ะ (ดอกดาวเรือง) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:43:10

ความคิดเห็นที่ 3 โสด  ยังไม่มีใครมาขอแต่งงานเลย  แหะ ๆ เอาของพี่เสาวเราละกันนะ หาฤกษ์ หาสถานที่+เรื่องเมนูอาหารคนครัว เรื่องการจัดขบวนขันหมาก ทำการ์ดเชิญ+ของชำร่วย เช่าร้านเช่าชุด+แต่งหน้า แล้วก็ถึงวันแต่งแว้ววววววววว ขอให้รักกันนาน ๆ  มีแต่ความสุขและความสุขตลอดชีวิตคู่ จากคุณ : tooktikกะjenny เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:53:10

ความคิดเห็นที่ 4 ยังไม่มีประสบการณ์ตรงค่ะ ขอแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยนะคะ จากคุณ : PuAY&ToN เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 18:09:07

ความคิดเห็นที่ 5 เดี๋ยวคงมีหลายๆ คห.ตามมา  แต่ผมอยากเสนออีกทางเลือกนึง คือ มีสถานที่รับจัดงานแต่งแบบ 1 stop service อยู่หลายๆแห่ง หากยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร หรือว่า ไม่สะดวกในการจัดเอง ลองค้นหาดูใน google มีอยู่หลายราย หลากหลายสถานที่ หลายสไตล์ให้เลือก ขอแสดงความยินดีมาล่วงหน้าเลยครับ กับ การเริ่มต้นชีวิตคู่ จากคุณ : ตามหาตัวตน เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 18:12:44

ความคิดเห็นที่ 6 ๑. ดูเลิก เอ้ย ดูฤกษ์ (ให้ผู้ใหญ่ดูไป อย่าไปจัดการเอง ปวดหัว) ๒. ดูงบประมาณ มีงบเท่าไร จะเลี้ยงแบบไหน แบบกางโต๊ะในบ้าน เลี้ยง ๓๐-๔๐ คน หรือจะขอเช่าหอประชุมโรงเรียน ศาลาประชาคม จัด ๔๐ โต๊ะ หรือจะไปจัดโรงแรม งบประมาณคือ ส่วนสำคัญ ไหนจะค่าชุด ค่าแต่งหน้า ค่าช่างภาพ ค่าดอกไม้ ค่าทำ VTR โชว์แขก บลาๆๆๆ ถ้างบเยอะ จัดโรงแรมดีที่สุดครับ เขาจัดการให้หมด ๓. เชิญแขก ๔. รอวันงาน จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 18:29:39

ความคิดเห็นที่ 7 ยินดีด้วยค่า จากคุณ : เรืองลักษณ์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 19:09:04

ความคิดเห็นที่ 8 แนะนำให้ทำแบบประหยัด อย่ากู้หนี้ยืมสิน ... แต่งเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลและตัวของเรา .... เหลือเท่าไหร่หลังงานแต่ง เก็บฝังไห อย่าหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่นรถคันใหม่ , คอนโดมิเนียม ... และขอแสดงความยินดีด้วยครับ จากคุณ : c_keskaew@yahoo.co.th เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 19:28:12 A:223.205.216.74 X: TicketID:335213

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ได้แต่ง และไม่คิดจะแต่ง แต่เข้ามายินดีกับ จขกท ค่ะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 19:41:17

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเป็นฝ่ายหญิง เริ่มด้วยการ บอกพ่อแม่ ว่าจะมีคนมาขอแต่งงานนะ พ่อแม่จะให้แต่งหรือเปล่า ถ้าให้ จะเรียกสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่ แล้วเอากลับมาปรึกษากับแฟนนะ ว่าพ่อแม่จะเรียกเท่านี้ ไหวไหม หรือหากว่ารู้ฐานะแฟนดีอยู่ว่าเป็นอย่างไร หากรู้ว่าแฟนฐานะไม่ดี ก็บอกพ่อแม่(ถ้าบอกได้) เมื่อตกลงเรื่อง ค่าสินสอดทองหมั้นได้แล้ว พ่อแม่ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ก็จะช่วยกันหาฤกษ์ กำหนดวัน จากนั้นก็วางแผนการจัดงาน ว่าจะจัดแบบไหน ทำบุญเลี้ยงพระตอนเช้า ทำพิธีแห่ขันหมาก จะมีการนำสินสอดใส่พาน มามอบให้พ่อแม่เจ้าสาว มีการนำออกมาตรวจนับ ต่อหน้าแขกเหรื่อญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย เป็นสักขีพยานมากมาย จากนั้นรดน้ำสังข์ อวยพรผูกข้อไม้ข้อมือ จากนั้นก็จะเป็นงานเลี้ยงฉลองการสมรส จะทำการ์ดเชิญแขกญาติมิตรเพื่อนฝูงเท่าไหร่ จะจัดเป็นโต๊ะจีนขนาดไหน ก็ว่าไป หรือจะไม่จัดงานเลี้ยงก็ไม่มีใครว่าหรอก แต่ส่วนใหญ่แล้ว งานแต่งแต่ละทีมุ่งให้ความสำคัญตรงงานเลี้ยงนี่ล่ะ เพราะเก็บเงินกันตอนนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่หรอกนะ ขาดทุนซะมากกว่า ......... อ่อ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ประสบการณ์ตัวเองนะ จากคุณ : ........... เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 19:49:09 A:79.232.160.18 X: TicketID:332795

ความคิดเห็นที่ 11 ของเรา หลังจากบอกพ่อแม่  ตกลงกันเรื่องสินสอดแล้วก็เริ่ม 1. พิมพ์การ์ดแต่งงาน 2. จองสถานที่ (ของเราจัดที่เรือนเจ้าสาว สบายดี เขาเตรียมให้ทุกอย่าง) 3. เตรียมของชำร่วย  ของรับไหว้ (ซื้อที่สำเพ็ง) 4. ตัดชุดบ่าว-สาว (ตัดเป็นชุดไทยจิตรลดาธรรมดาๆ  เพราะมีแต่งานเช้า ตัดเอาถูกกว่าเช่าอีก) 5. หาช่างภาพวันงาน (โชคดีมาก ได้คนรู้จัก ประหยัดไปได้อีก) 6. หาช่างแต่งหน้า (ร้านแถวบ้าน  ถูกเวอร์) เตรียมทุกอย่างแต่เนิ่นๆ จะได้มีเวลาเลิกของ+ต่อรอง จะได้ประหยัดงบไม่บานปลายค่ะ  (เราเพิ่งแต่งไปเมื่อเดือนสิงหา) ป.ล.ช่วงนี้บำรุงผิว ทำสวยรอเลยค่า   ยินดีด้วยนะค้า จากคุณ : Pinitkool เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 20:00:52

ความคิดเห็นที่ 12 หาฤกษ์ ก่อนเลย ครับ อย่างแรก 555+ ต่อมาก็สถานที่ งบประมาณ อาหาร การ์ด ของชำร่วย แจกการ์ด คร่าวๆ นะครับ ยังไงก็ขอให้ ผ่านไป อย่างสบายๆ ไม่เหนื่อย ไม่ ฉุกละหุกนะครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 20:10:31

ความคิดเห็นที่ 13 ผิดๆๆ ขั้นแรกสุดต้องหาเจ้าบ่าวก่อน แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 21:13:46 จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 20:51:36

ความคิดเห็นที่ 14 www.weddingsquare.com มีทุกอย่างเรื่องแต่งงาน จากคุณ : Volksrecht เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 20:53:33

ความคิดเห็นที่ 15 ของเรานะ 1. บอกพ่อแม่ 2. พ่อแม่หาฤกษ์ให้ 3. คำนวณงบประมาณ แบ่งแยกหมวดหมู่แต่ละอย่างประมาณเท่าไหร่ 4. หาสถานที่ให้ได้ตามงบ 5. หาแพกเกจถ่ายพรีเวดดิ้ง แบบที่ให้รวมชุดวันงาน(ประหยัดดี) 6. ร่างรายชื่อแขก ประมาณกี่คน 7. หาของชำร่วย ออกแบบการ์ด ประมาณนี้ จากคุณ : หุบเขาเดียวดาย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 21:04:41

ความคิดเห็นที่ 16 เริ่มต้น ก็คือ คิดให้ดี ให้รอบคอบที่สุดก่อน ....อิอิ จากคุณ : afood เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 21:42:21

ความคิดเห็นที่ 17 หลังไมค์ถามได้ค่ะยาวมากกเรามีแบบประหยัดสุดดูดีสุด ปรึกษาได้ค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (กระต่ายหลงทาง) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 22:02:19

ความคิดเห็นที่ 18 อยากทราบ(จากหลายๆท่าน)ว่า เงินที่ไ้ด้จากการฉีกซองออกมาแล้ว  ลบด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด  เหลือ(หรือขาด)ประมาณเท่าไรครับ จากคุณ : พลังจิต เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 23:49:54

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทุกท่าน ทุกความเห็นมากค่ะ ปกติได้แต่เข้ามาอ่านห้องนี้อย่างเดียว รักห้องศาลาเพราะเวลาเรามีปัญหา ก็มีพี่ ๆ น้อง ๆ มาช่วยแชร์ประสบการณ์ หากกำลังสับสนก็มีผู้แนะแนวทางสว่าง สั่งสอนกันแบบตรงไปตรงมาให้เราได้สติ ตอนนี้มีเรื่องที่ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็มีคำปรึกษาที่อบอุ่นให้กันตลอด รักห้องนี้จังเลยค่ะ จากคุณ : Amieinlove เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 07:59:45

ความคิดเห็นที่ 20 #๑๘ แล้วแต่สภาพสังคมครับ บางคนเป็นญาติผู้ใหญ่เคารพนับถือ เขาใส่มาซองละ หมื่น ก็มีหลายซองอยู่ บางซองของใครไม่รู้ ใส่มา ๒๐ บาทก็มี ๕๐ บาทก็ยัง ฮ่า...... จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:37:19

ความคิดเห็นที่ 21 ของผมกับแฟนจัดเองหมด เหนื่อยหน่อยแต่ก็ได้งานที่ถูกใจครับ - เลือกวันที่เราสะดวก (ถ้าไม่อยากวุ่นมาก เผื่อเวลาซัก 6 เดือนก็ดีนะครับ) - นำวันที่เลือกไปแจ้งพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย เผื่อท่านๆ อยากจะนำไปปรึกษาหมอดูก่อน - ถ้าพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่โอเคกับวันที่เราเลือก ก็เตรียมงานได้เลย - กำหนดรูปแบบงานร่วมกับผู้ใหญ่ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนเช้าจะมีพิธีอะไรบ้าง ส่วนงานเลี้ยงจะเป็นแบบไหน จัดกลางวันหรือกลางคืน เสิร์ฟแอลกอฮอล์ไหม และจะมีแขกประมาณกี่คน - กำหนดงบประมาณ กำหนดธีมของาน - หาสถานที่จัดงานที่ถูกใจ เข้ากับธีม อยู่ในงบประมาณ และรองรับปริมาณแขกของเราได้ (ช่วงนี้อาจใช้เวลานานหน่อย เพราะต้องไปสำรวจหลายๆ ที่ เพื่อเปรียบเทียบราคาและสถานที่) - ถ้าไม่ใช้อาหารของสถานที่ที่เราจะจัดงาน ก็ต้องติดต่อหาบริการจัดเลี้ยงด้วย - เมื่อได้สถานที่ที่ต้องการ รีบวางเงินมัดจำให้เรียบร้อย - พิมพ์การ์ดแต่งาน - หาชุดแต่งงาน (ถ้าอยากตัด ก็ต้องเผื่อเวลาซัก 2-3 เดือนนะครับ) - ซื้อแหวน (เผื่อเวลา 2 เดือน เพราะบางแบรนด์ต้องสั่งซื้อก่อน เขาถึงจะให้ทางต่างประเทศส่งแหวนมาให้) - ติดต่อวงดนตรี  (ถ้าอยากได้วงดังๆ อาจต้องจองล่วงหน้านานหน่อย) - หาของชำร่วย - จดรายชื่อของที่ต้องใข้สำหรับงานพิธีตอนเช้า เช่น ทอง(สินสอด) พาน ชุดน้ำชา ฯลฯ อะไรซื้อได้ก็ซื้อไว้เลย แต่บางอย่างเช่นดอกไม้ กล้วยอ้อย หรือขนม ซื้อล่วงหน้าไม่ได้ แต่ควรจดไว้ก่อน กันลืม - จดรายชื่อของที่ต้องใช้สำหรับงานเลี้ยง เช่น กล่องรับซอง เพลงที่จะเปิดในงาน ฉากสำหรับถ่ายภาพหน้างาน ช่อบูเก้ อะไรที่ซื้อหรือเช่าได้ก็รีบจัดการเลย - หาช่างแต่งหน้า ทำผม - หาช่างภาพ - เขียนสคริปต์ของงาน - หาพิธีกร - ผลิตพรีเซนเตชั่น - แจกการ์ด - ถ่ายรูปพรีเวดดิง - มอบหมายให้เพื่อนหรือญาติซัก 2 คน ช่วยเราจัดการนู่นนี่ในวันงาน - จัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันงาน มิฉะนั้นอาจสติแตกได้ง่ายๆ ยินดีด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 13:28:21 จากคุณ : Lost Soul Forever เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:48:23

ความคิดเห็นที่ 22 -ตกลงสินสอดที่พอใจรับได้ทั้ง2ฝ่าย<<ยากสุดหรือง่ายสุดอยู่ตรงนี้ -หาฤกษ์วันแต่ง (จำไว้ว่าวันหมั้นคือวันที่ทำพิธีแต่งงาน ส่วนงานเลี้ยงมงคลที่ต้องเชิญแขกจะเป็นวันไหนก็ได้วันเดียวกันหรือถัดมาเป็นเดือนก็ได้) -คำนวนงบ -หาโรงแรมหรือสถานที่จัดงาน ส่วนใหญ่โรงแรมมีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมขาดแค่"คน" -ทำรายชื่อแขกที่จะเชิญทั้ง2ฝ่าย แจกซอง โทรถามว่าใครมาได้มาไม่ได้คร่าวๆ เพื่อคำนวน -เตรียมวางแผนงานหมั้น ทำพิธีแบบไหน ไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง -หาประธาน พิธีกร เตรียมบทพูด ลำดับพิธีในงาน -วันหมั้นก็ทำไปตามรายละเอียดพิธี สำคัญคือต้องเตี้ยมลำดับพิธีให้ทั้ง2ครอบครัวเข้าใจ -ต้องมีพิธีกรคอยพูดลำดับพิธีการตลอด เพื่อไม่ให้ทำผิดขั้นตอนและ2ครอบครัวไม่ต้องทะเลาะกันฟังคนกลางบอกให้ทำอะไรก็ทำไป -เตรียมวางแผนงานเลี้ยง เลือกรูปแบบจัดเลี้ยงบุ้บเฟ่ โต๊ะจีน ค๊อกเทล -วันงานเจ้าบ่าว สาว ยืนถ่ายรูปกับแขกอย่างเดียวจนกว่าแขกจะมาครบหรือเกือบเต็ม -พิธีกรสำคัญมาก พูดไปตามบท เชิญประธานมาอวยพร เชิญญาติ ช ญ ขึ้นมาอวยพร -เจ้าบ่าว สาว เดินขึ้นเวที คุยถามไถ่นิดหน่อย โชวพรีเซ๊นเทชั่น(ถ้ามี)ตัดเค้ก โยนดอกไม้ -แขกทยอยกลับบ้าน (จะไม่มีการพูดว่างานเลิกแล้ว แขกรู้ตัวเองว่ากินเสร็จแล้วก็กลับ) -แขกกลับหมด จบ ไปเช็คเอ้าโรงแรม จ่ายตัง ไปส่งญาติผู้ใหญ่ เป็นอันเสร็จ จากคุณ : F-MISSILE เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:41:18

ความคิดเห็นที่ 23 search google Wedding square เลยค่ะ มีทุกอย่างที่ว่าที่เจ้าสาว เจ้าบ่าว ต้องการ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 17:06:50

ความคิดเห็นที่ 24 คห. 18 ผมเหลือประมาณสองแสนกว่าได้ เพราะฝั่งทางแฟนใส่ซองกันหนักๆ ทั้งนั้น ฝั่งผมเบาหวิวเลย ก็เลยยกให้เจ้าสาวจัดการทั้งหมด เพราะเขาก็ต้องไปใส่ซองคืน แต่งงานผมไม่ค่อยตื่นเต้นนะ แต่เครียดมากกว่า มันแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ ตอนเป็นแฟน ไม่เคยทะเลาะกันเลย เพราะแฟนไม่กล้าเถียง 555+ แต่พอแต่งกันแล้ว เวลาทะเลาะกัน ผมต้องรีบหุบปาก ไม่กล้าเถียงแทน 555 เพราะเชื่อคนในพันทิปพูดนี่แหละครับ เขาบอกว่า "คนกลัวเมีย เจริญทุกคน" ขออวยพรให้จขกท. มีความสุขมากๆ ครับ ถ้าอยากได้คำแนะนำเรื่องจัดงาน หลังไมค์ ปรึกษาไ้ด้ครับ ผมก็เตรียมทุกอย่างเองเหมือนกัน จากคุณ : Michka เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 19:26:01

ความคิดเห็นที่ 25 เราไม่คิดจะจัดงานแต่งเลยค่ะ เสียดายเงิน เอาแค่พิธีทางศาสนา ผูกข้อมือ แล้วทานข้าวกันในหมู่ญาติสนิทๆ แค่นี้พอแล้วค่ะ จากคุณ : Chompuly เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 21:31:26