(เพิ่มเติม)
ถ้าเจอปัญหากับสรรพากร จำไว้ว่า
- ถ้าเงินอยู่ในมือเรา อย่าจ่ายง่าย ๆ พวกที่โดนหัก ณ.ที่จ่ายแล้วเอาคืนเหนื่อยกว่าอีก
- อย่ากลัวสรรพากร ก็แค่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อาจจะไม่มีความรู้ อาศัยตำแหน่งมาขู่
- ถ้าเจอเจ้าหน้าที่พูดจาข่มขู่ อย่าคุยด้วย ให้ทำหนังสือชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร ว่าเราต้องเสียภาษีเพิ่มเพราะอะไร พวกขามั่วจะไม่กล้าทำหนังสือ
- ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่กล้าทำหนังสือ ให้ทำหนังสือถึง ผอ. ที่ใหญ่ที่สุดในสรรพากรเขตนั้นว่าให้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชื่อ... ซึ่งเรียกคุณเข้าพบ ว่าให้ช่วยทำหนังสือชี้แจงให้คุณเป็นลายลักษณ์อักษร อ้างนโยบาย "ศูนย์ราชการใสสะอาด" ของกรมสรรพากรว่า การทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมิได้เกินอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สรรพากร เวลาส่งเอกสารให้ ผอ. ให้มีการเซ็นรับด้วย พร้อมกับย้ำไปว่า "ประชาชนมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฏหมาย แต่ประชาชนไม่มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตนให้เป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่สรรพากร"
- ถ้ายังไม่มีหนังสือออกมาอีก ให้ประจานได้เลยว่าสรรพากรเขตนี้มีปัญหาเรื่องการปกครอง เพราะ ผอ. ไม่สามารถสั่งให้เจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบปฏิบัติตามนโยบาย "ศูนย์ราชการใสสะอาด" ได้ เอาหนังสือตอบรับมาประจานที่นี่ก็ได้
- แต่ถ้าได้หนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรออกมา ให้มาวิเคราะห์ดูอีกทีว่าหนังสือมีข้อบอกพร่องตรงไหน ผมมั่นใจว่าไม่น่าจะถึง 130,000 ให้คนที่ได้ประโยชน์เรื่องใช้ชื่อคุณไปรับเงินมาแก้ปัญหาให้ ทั้งเรื่องการหาข้อบกพร่องของเอกสาร และการจ่ายภาษีแทน
- ถ้าหนังสือชี้แจงมีข้อบกพร่องก็เอามาประจานได้เหมือนกัน เพราะนโยบาย "ศูนย์ราชการใสสะอาด" หนังสือราชการต้องเปิดเผยได้ จะเป็นเอกสารลับไม่ได้ หรือหากเห็นข้อบกพร่องอย่างรุนแรง เช่น ประเมินภาษีมั่ว ให้ขู่กลับไปว่าจะประจาน พร้อมทั้งทำหนังสือถึงกรมสรรพากรว่าเจ้าหน้าที่คนนี้เข้ามารับตำแหน่งได้อย่างไร การจ่ายเงินเดือนในอัตราผู้เชี่ยวชาญจ้างคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถมาทำงานก็เหมือนการจัดซื้อจัดจ้างจ่ายเงินซื้อของไม่มีคุณภาพ นั่นคือ "คอรัปชั่น"
- ถ้าหนังสือชี้แจงไม่มีข้อบกพร่องและคุณต้องจ่ายจริง ๆ ก็ให้คนที่ได้รับผลประโยชน์นั่นแหละจ่ายแทนคุณ ถ้าไม่จ่ายก็บอกสรรพากรไปเลยว่าไม่รู้เรื่อง ใครเอาชื่อเราไปใช้ให้ไปตรวจสอบกับเขาเอง ให้เอาเอกสารรับเงินมาตรวจสอบลายเซ็นว่าไม่ใช่ของคุณ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว