ความคิดเห็นที่ 1 มันไม่ลักลั่นพิกลครับ มันอยู่ที่คนรับสารจะเชื่อแบบไหน บางคนเขาอาจจะมองว่าผู้ต้องหายาเสพติดคนห่วยใย พอผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันใส่กันใหญ่ ผมว่านั่นก็อยู่ที่มุมมองคนคนนั้น ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ใครเขาอาจจะมองหาว่าคนเป็นห่วงเป็นใยเหลือเกิน อีกด้านหนึ่ง มีไหมโจ๊ก ไผ่เขียวโดนยิงตายสะใจกันเป็นแถว โพลอีกละถูกใจฆ่าตัดตอน ใครถูกจับบอกต้องประหารให้หมด เขาก็ไม่ได้คิดแค่ห่วงใยผู้ต้องหากันอย่างเดียว แล้วคดีหมิ่นล่ะ หลายคนน้อยใจ โดนจับคนซ้ำเติมหาว่าเป็นพวกไม่จงรักภักดี ทั้งที่ยังไม่ตัดสิน แล้วอีกฝ่ายหนึ่งมีไหม ศาลตัดสินแล้วก็ยังบอก เฮ้ย คนที่โดนน่ะไม่ผิดสักนิด อะไรๆมันก็มีสองด้านตลอด คนจะเชื่อด้านไหน คำว่าสิทธิมนุษยชนไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่เป็นจริงๆ เขาเรียก "อคติ" ครับ จากคุณ : gagigunggai เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 14:02:48

ความคิดเห็นที่ 2 สิทธิมนุษย์ชน  ไม่ใช่เรื่องความคุ้มครอง แต่เป็นการปฏิบัติต่อมนุษย์  อย่างที่เป็นมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น สิทธิมนุษย์ชน จึงสามารถใช้กับมนุษย์ทุกคนโดยเท่าเทียมกัน... ไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม.... การเลือกที่จะคุ้มครองมนุษย์ เพราะมีคดีที่แตกต่างกัน ผมว่าไม่ใช่หลักการของสิทธิมนุษยชน จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 14:38:46

ความคิดเห็นที่ 3 สิทธิมนุษยชน   เรียกร้องกันจัง แล้วสิทธิส่วนบุคคล  สิทธิพลเมือง  คิดถึงกันบ้างไหม จากคุณ : opalvet เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 16:46:39

ความคิดเห็นที่ 4 สงสัยมันต้องรณรงค์ให้ยกเลิกโทษ ค้ายาบ้าด้วยล่ะมั๊งมันถึงเท่าเทียมกัน ไม่มีใครหรอกครับ บอกให้่ใครยัดข้อหาใครแล้วถูก คนล่ะเรื่องเดรยวกัน ยังเอามาพูด จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 19:37:02

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องหมิ่นสถาบัน มันไม่ใช่ว่า คนหมิ่นไม่ผิดครับ ปัญหาคือ กฏหมาย หละหลวม และดูเหมือนจะใช้ได้กับทุกอย่าง และใครจะว่าร้ายใครก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อน ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าในหลวงทรงกระซิบข้างหูให้ลาออก ก็จะลาออกทันที สนธิ ตีความได้ว่า กระซิบข้างหูคือยืนในระดับเดียวกัน ถือว่าเป็นการหมิ่นสถาบัน คนแบบนี้แหละครับ ที่จะทำให้สถาบันเสื่อมเสีย พอข่าวออกไปว่า ทักษิณหมิ่น เพราะพูดยังงี้ คนในประเทศอื่น อ่านแล้วยิ่ง งง ว่า พูดแบบนี้ ก็ต้องติดคุกแล้วเหรอ ? เอา link ไปดู http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2006/02/P4079927/P4079927.html เรื่องแบบนี้ยังทะเลาะกันระดับชาติได้ ฝรั่งเค้าเห็น ก็ต้อง งง งวย เป็นธรรมดา และมีแนวโน้มที่จะต่อต้าน แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 55 19:56:11 จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 19:54:04

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเขาไม่ได้ไปฆ่าใครตายไปทำลายครอบครัวใครไม่ใช่เหรอ ทำไมเอามาเปรียบกับคดีร้ายแรงอย่างยาเสพติดล่ะ? หรือว่าคุณคิดว่าความผิดสองประเด็นนี้มันร้ายแรงเท่ากัน จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 20:46:14

ความคิดเห็นที่ 7 ก็ต้องถามกลับไปว่า "สิทธิมนุษยชน" ของแต่ละคนหมายความว่าอย่างไร? จากคุณ : nAHMLeMoN เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 21:16:28

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่รู้ว่าจะเทียบยังไงครับ รายละเอียดคดีต่างกันจับมาโยงเข้าหาสิทธิมนุษยชนแล้วมึน  ไม่น่าจะนำมาเทียบดีกรีได้เลย อีกอย่างผมว่าสิทธิของกลุ่มคนสำคัญกว่าสิทธิส่วนบุคคลเป็นไหนๆ   ทำอะไรนึกถึงใจเขาใจเรา อะไรที่ทำแล้วมันบาดใจคนหมู่มากก็เหมือนทำร้ายกันทางจิตใจ ในทางพุทธมันเป็นบาปกรรมนะครับ คนที่วุ่นวายกับเรื่องหมิ่นไรเนี่ยมีแต่คนที่อินกาาเมืองจัดๆเท่านั้นแหละ   คนอื่นที่เขายุ่งกบการทำมาหากิน  หนังสือพิมพ์โทรทัศน์แทบไม่ได้ดูด้วยซำ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 21:35:15

ความคิดเห็นที่ 9 กฎหมายมาตรา 112 ระบุไว้ว่า.. "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี" แต่มีผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วยคดีหมิ่นฯสักกี่รายที่เข้าข่าย "หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย" จริงๆบ้าง เมื่อผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วยคดีหมิ่นฯถูกจับ ทำไมถึง.. -  ห้ามประกันตัว - ไม่มีการตรวจสอบว่า..สิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่??   ถ้าสิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาพูดนั้นเป็นความจริงก็ไม่ควรอยู่ในข่ายหมิ่นฯไม่ใช่หรือ - ไม่อนุญาตให้เปิดเผยการพิจารณาคดีในศาลออกสู่สาธารณะชน ผู้ที่ถูกกล่าวหายังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด ควรจะมีสิทธิ์และเสรีภาพในการออกมาต่อสู้คดีอย่างอิสระ จนกว่าศาลจะตัดสินแล้วว่ามีความผิดจริง.. สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ถือว่าริดรอนสิทธิมนุษยชน.. ส่วนผู้ที่ถูกจับคดียาเสพติด ส่วนใหญ่จะมีของกลางเป็นพยานหลักฐานอยู่แล้ว ในการพิจารณาคดีก็มีการตรวจสอบหาความจริงอย่างเปิดเผย สองคดีนี้นำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกค่ะ เพราะมันคนละเรื่องเดียวกันเลย... จากคุณ : คนร่วมชายคา เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 22:03:07

ความคิดเห็นที่ 10 ประเด็นน่าสนใจดีนะครับ ..... ผมเข้าใจว่าสองประเด็นนี้มันแค่ขนานกันนะ ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด เพราะการหมิ่นประมาทมันต้องตัดสินด้วย "บริบทของคำ" ว่าสื่ออะไรออกมามากกว่า ซึ่งของอย่างนี้แต่ละวัฒนธรรมก็มีการตีความที่ต่างกันออกไป ส่วนคดียาเสพติด ถ้าจับกันแบบมีหลักฐานคาหนังคาเขาก็คงไม่แปลกอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องจับแพะหรือยัดยา อันนี้สิน่าสนใจ เพราะมันมักจะคลุมเคลือด้านที่มาที่ไปของหลักฐานและสภาพการณ์โดยรวม แต่จะให้จัดเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชนผมว่ามันก็ดูแปลกๆ เพราะเรื่องพวกนี้น่าจะจัดเป็นการใส่ความหรือให้ความเท็จมากกว่า .... ผมก็เลยรู้สึกว่า จุดร่วมของทั้งสองคดีในหัวข้อกระทู้มันดู weak ยังไงชอบกล เหมือนจะเกี่ยวกัน แต่โดยรายละเอียดแล้วมันคนละเรื่องเลย เกี่ยวกันแค่ว่าผู้ถูกกล่าวหามักไม่ได้รับสิทธิในการชี้แจงเพราะตกเป็นจำเลยของสังคม แค่นั้นเอง ซึ่งมันดูจะออกทะเลไปหน่อยมั๊ง เพราะมันไม่ make sense เลยที่จะเอามาเป็นเหตุผลที่หนักแน่นพอในการเอามาถกประเด็นกันได้ ..... จากคุณ : Draconyz เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 22:32:05

ความคิดเห็นที่ 11 ตั้งกระทู้แบบมีจุดมุ่งหมายแฝง ทำเป็นมีวิชาการเหมือนกับพวกทำโพล เลิกเถอะครับ คุณจะชอบการเมืองฟากไหนก็เรื่องของคุณ อย่าเอาเรื่องหมิ่นมาเป็นประเด็นเลยครับ จากคุณ : อย่าดึงฟ้าต่ำ ทั้งโปรและคอน เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 02:01:12 A:14.207.190.30 X: TicketID:346541

ความคิดเห็นที่ 12 "สมัยก่อน ทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าในหลวงทรงกระซิบข้างหูให้ลาออก ก็จะลาออกทันที สนธิ ตีความได้ว่า กระซิบข้างหูคือยืนในระดับเดียวกัน ถือว่าเป็นการหมิ่นสถาบัน" แล้วคุณทักษิณติดคุกจากคดีหมิ่นไหมครับ มันไม่ใช่ว่าจะกล่าวหากันง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ครับ แต่พวกคุณหยุดการสนใจว่าคดีมันจะเป้นยังไง จบแบบไหน ที่ว่าโดนกล่าวหา มีการแก้ต่างที่ดีไหม สุดท้ายแล้วที่ติดคุกเพราะผิดจริง จำนนต่อหลักฐานจริง หรือแค่โดนใส่ร้าย แบบนั้นก็เอามาอ้างว่าคนโดนใส่ร้ายเยอะ คนต้องรับผิดเยอะ มันจริงไหม ซึ่งก็เปิดโอกาสเสมอให้เอาข้อมูลที่ว่าโดนจับติดคุกโดยทีไม่มีความผิดมานำเสนอครับ ปล. แต่อาเอาคดีอากงมานะครับ มันมีข้อมูลอยู่แล้วว่าไม่ใช่โดนใส่ร้าย หลักฐานขนาดนั้น ข้อแก้ต่างไม่มีเลย หมายความว่าไง จึงไม่ใช่เรื่องที่จะเอาแค่ความปักใจมาพูดครับ จากคุณ : I_AM_Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 07:40:14

ความคิดเห็นที่ 13 เมืองไทย มันชักจะ :-) กันทั้งประเทศ จากคุณ : เฒ่าบ้าฯ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 10:09:17

ความคิดเห็นที่ 14 # 12 ทักษิณพูดในรายการ "นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน" ทางช่อง 11 ประมาณว่า.. "..คนที่ให้ผมออกได้มีคนเดียวคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าทรงกระซิบว่าทักษิณออกเถอะ รับรองกราบพระบาทลาออกแน่" ประโยคที่ทักษิณพูดในวันนั้นหรือให้สัมภาษณ์หลังจากนั้น ไม่มีคำว่า "ข้างหู"   แต่ไอ้คนที่มันประโคมข่าวไปใหญ่โตหมายจะให้ทักษิณผิดในคดีหมิ่นฯให้ได้นั่นต่างหากที่มันเติมคำว่า "ข้างหู" เข้าไปเอง ในตอนนั้นพวกที่ฟังมันประโคมข่าวก็พากันเชื่ออย่างงมงายซะด้วยไม่ใช่หรือ..?? อยากถามว่าคำพูดของทักษิณในประโยคนี้ มีตรงไหนที่เข้าข่าย "หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย" จนทำให้ไอ้คนที่ประโคมข่าวนั่นเอากฎหมายมาตรา 112 ไปแอบอ้างในการยื่นฟ้อง เพราะความหมายของคำว่ากระซิบก็คือ..การพูดเบาๆเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน ..จะนั่งใกล้ๆกันแล้วกระซิบก็ได้ หรือจะฝ่ายหนึ่งหมอบอยู่ตรงหน้าแล้วอีกฝ่ายหนึ่งกระซิบก็ได้ แต่นี่มันจงใจเติมคำว่า "ข้างหู" เข้าไป แล้วตีความให้คนอื่นๆเข้าใจผิดไปด้วย มันง่ายไหมล่ะที่จะใช้มาตรา 112 มาเล่นงานกัน?? จริงอยู่ที่ทักษิณไม่ติดคุกในคดีนี้ ที่ไม่ติดไม่ใช่เพราะมีโอกาสได้ชี้แจงในศาล แต่ที่ไม่ติดเพราะอัยการสั่งไม่ฟ้องต่างหากล่ะ.. แต่ตราบาปที่ทักษิณถูกยัดเยียดจากพวกที่ฟังไอ้คนประโคมข่าวว่าทักษิณหมิ่นฯ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ..น่ะ มันลบหายไปด้วยหรือเปล่าล่ะ?? ในเมื่อยังมีพวกที่เชื่อจากการประโคมข่าวไปแล้วว่าทักษิณหมิ่นฯ !!! จากคุณ : คนร่วมชายคา เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 11:50:11