ความคิดเห็นที่ 1 เราบอกเลิก กลับมาอยู่ไทย เค้าตามมาค่ะ มาขอแต่งงาน บอกว่ารักเรา เค้าพูดกับเราว่า "ถ้าเราแต่งงาน เป็็นสามีภรรยากัน ในวันข้างหน้า ถ้าหากเกิดเรื่องร้ายๆ อุบัติเหตุหรืออะไรก็แล้วแต่กับชีวิตเรา ไม่ว่าเค้าจะอยู่ที่ไหนส่วนไหนของโลก อย่างน้อย เค้าก็จะได้เป็็นคนแรกที่ได้รู้ เค้าอยากดูแลเราไปตลอดชีวิต" เพราะคำพูดคำนั้น เราตกลงแต่งงานกับเค้า กลับไปอยู่ต่างประเทศ เริ่มคุยเรื่องแต่งงาน แต่กระบวนเตรียมงานแต่งงานในช่วง 2-3 เดือนที่เรากลับไป เค้าติดต่อทนายให้มาคุยกับเรา ให้ทนายร่างสัญญาก่อนแต่งงาน ว่าเค้าจะให้อะไรเรา เท่าไหร่ แบบไหน ยังไงบ้าง แต่งงานไปแล้วให้เท่านี้ ถ้าเลิกกัน ห้ามเรียกร้องอะไร แต่เค้าจะชดเชยให้เท่านี้ เท่านั้น สัญญายาวหลายหน้ากระดาษ ยังกะ celeb จะแต่งงานก็ไม่ปาน สุดท้าย หลังจากที่คิดอะไรมาแล้วเยอะแยะ เราขอเลิกอีกรอบ เราบอกเค้าว่า ถ้าห่วงเรื่องนั้นก็ไม่ต้องหรอก เราไม่ได้อยู่กับเค้าเพราะเงิน เรากลับไทยอีกหน เค้าตามมาง้อเหมือนเคย แต่เราตัดใจแล้ว ถ้าหากเราเลือกแต่งงานกับเค้า เราจะสุขแค่กาย แต่จะไม่สุขใจ ปลายปี 2551 เรากลับมาอยู่ไทย ลงไปอยู่ใต้ ทำงาน + ท่องเที่ยว แล้วไม่รู้ว่าอะไรมาเข้าสิงเรา ปลายปี 52 เรากลับกรุงเทพ แล้วไปสมัครทำงาน ร้านคาราโอเกะ+ ทำ escort .. ไม่อยากเชื่อใช่มั๊ย? แต่เราทำจริงๆ เราอยากรู้ว่าเค้าทำงานยังไง ผู้ชายถึงติดหนักกันมากมาย อยากได้ความรู้สึก ว่าคนที่ทำงานแบบนี้ รู้สึกยังไง มองโลกยังไง แค่เดือนเดียวที่เราไปทำงาน ลูกค้าเราเยอะมาก บร๊ะเจ้า และเพราะเรามีสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น ด้วยสนิทกับลูกเจ้าของร้าน เราจะทำหรือไม่ทำ จะเข้าร้านหรือไม่เข้า ที่ร้านไม่เคยว่า คือ.. อะไรยังไงก็ได้ ขอแค่ให้เรานัดลูกค้าเข้าไปที่ร้าน ให้ไปนั่งดื่มนั่งกินในร้าน ส่วนเราจะกลับบ้านหลังจากนั้นเลยก็ได้ น่าแปลกดี ที่เราเองไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่เล่นอบายมุข แต่สามารถไปทำงานแบบนั้นได้ ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลย สมองกลวงไปหมด คิดแค่อยากรู้ อยากเห็น อยากประชดชีวิตนิดๆ แต่ไม่รู้สึกผูกพันกับใคร มีผู้ชายไม้เลื้อยมาติด มาชอบ เราก็คุยทุกคน คุยในหน้าที่ .. มีอะไรด้วยได้ แต่งานก็คืองาน มีแล้วจบ หมดเวลางานก็ไม่ติดต่อใคร .. อเมซิ่งจริงๆ ว่าเราจะทำอะไรเลยเถิดได้ถึงขนาดนั้น อยู่มาวันนึง (หลังจากที่เริ่มทำงานได้ 1 เดือน) มีผู้ชายคนนึงมาเที่ยว มาทำท่าทีสนใจ เราลองคบ ลองคุยดู ไปทานข้าวด้วยกัน ไปต่างจังหวัดด้วยกัน ตอนแรกเราคิดว่าเค้าดี มาทราบทีหลังว่าเค้ามีภรรยาแล้ว มีลูกแล้ว เรายังคบอยู่อีกพักนึง ซึ่ง.. ตอนนั้นเรามีความคิดประหลาดๆ ไม่อยากคุยกับคนโสด คนโสดขี้หึง น่ารำคาญ คบกับคนมาเที่ยว เจอแล้วจบ น่าจะดีกว่า เค้ามาเจอเราเวลางาน เดี่๋ยวค่ำเค้าก็กลับบ้าน ไม่มายุ่งกับเรา คบกันได้แค่เดือนกว่า เค้าเริ่มไม่ดีอย่างที่เราคิด เริ่มจริงจัง เริ่มงอแง เริ่มโทรจิก โทรตาม สุดท้ายเราเลยเลิก .. คนที่มาเที่ยวมีภรรยาแล้ว + และรักกันดีอยู่ จะมาอะไรกับคนทำงาน? .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:59:19 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:02:00 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:37:54

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากนั้นไม่นาน เราได้เจอผู้ชายอีกคนนึง .. และผู้ชายคนนี้ กลายมาเป็นแฟนคนที่ 2 ของเรา เค้ามาเที่ยว มาอาบน้ำเลยแหล่ะ เราก็ทำงานไปตามปกติ ตามหน้าที่ของเราน่ะนะ ครั้งแรกที่เจอกัน เราไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปทำงาน แค่แวะซื้อขนมไปฝากคนที่ร้าน แล้วกำลังจะกลับ ระหว่างที่นั่งเล่น นอนเล่น เค้าเข้ามา แล้วเจอเราพอดี มานึกๆดูตอนนี้เราจำไม่ค่อยได้แล้ว ว่าคุยอะไรยังไงบ้าง รู้แต่ว่าเค้าอายุ 34 และเค้าบอกเราตั้งแต่วันแรกว่า เค้ามีภรรยา + ท้องแก่ใกล้คลอด แต่เค้าไม่มีความสุขเลย เล่าเรื่องอะไรมาเยอะแยะ .. เราฟังตามหน้าที่การงานแหล่ะ คุณๆจะแปลกใจ ว่าคนที่มาเที่ยว มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจ ทุกข์ใจ ต้องการคนรับฟังมากแค่ไหน เหมือนทุกคนที่เข้ามาเที่ยว แมร่งไม่มีใครมีความสุขในชีวิตการแต่งงานเลยเหรอ? แล้วอยู่ด้วยกันทำถ้วยอะไร? เราโค-ตะ-ระไม่เข้าใจเลย วันนั้นเค้าเล่าเรื่องชีวิตเค้าให้เราฟัง อยู่กับเรา 4 ชั่วโมง แล้วก็กลับไป 1 สัปดาห์ต่อมา วันเดิม เวลาเดิมผู้ชายคนนี้กลับมาอีก วันนั้นเราถือสิทธิพิเศษ เข้ามาที่ร้าน แล้วจะออกไปซื้อของ ดูหนังตามประสาเรา แต่ตอนที่เราเดินออกไปหน้าร้าน เค้าเอารถเข้ามาจอดขวางเราไว้ เราเห็นหน้าเค้าแล้วจำได้ (จะด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ เราจำเค้าได้) ก็มาอยู่กับเราอีก 4 ชั่วโมง .. เอาความทุกข์ใจเรื่องชีวิตแต่งงาน เรื่องภรรยามาระบายอีก เราฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ถามเค้าว่าแล้วอยู่ด้วยกันทำไม ถ้าไม่มีความสุขทำไมไม่คุยกัน เลิกกันไป เค้าบอกว่า เค้าคิดว่าเค้าแต่งงานเพราะความเหมาะสม อยู่ด้วยกันเพราะความเหมาะสม หน้าที่การงาน การศึกษา .. เราฟังแล้ว ไม่เห็นด้วย แต่มันก็ชีวิตเค้าน่ะนะ ไม่อยากจะไปยุ่งอะไรหรอก หลังจากนั้น วันเดิม เวลาเดิมเค้าจะมาหาเรา อยู่ด้วย 4 ชั่วโมงทุกครั้ง ไม่มีคุยกันนอกรอบ เราไม่ให้เบอร์เค้า เค้าไม่ให้เบอร์เรา เจอกันแค่เวลาเราไปทำงาน สัปดาห์ละครั้ง ปลายเดือนพ.ย. 52 (ลองนับเดือนดูเล่นๆนะคะ เราเริ่มทำงานเดือนส.ค. 52) มีอยู่สัปดาห์นึง เราไม่ได้เข้าไปที่ร้าน พอเข้าไปอีกที ที่ร้านบอกว่ามีคนโทรมาหา ถามว่าเราทำงานหรือเปล่า เราก็งงว่าใครโทรมาหว่า .. สัปดาห์ถัดมาเค้าก็เข้ามาอีก แล้วขอเบอร์เราไว้ บอกว่าจะได้โทรถามว่ามาทำงานหรือเปล่า ก็ยังดำเนินมาตามปกติค่ะ จนปลายเดือนธันวาคม เราเบื่อที่จะทำงานนี้แล้ว เหน็ดเหนื่อยกับผู้ชาย ตั้งใจจะเลิกแล้วกลับไปอยู่ต่างประเทศ เราบอกผู้ชายคนนี้ ซึ่งต่อไปนี้เราขอเรียกว่า "พี่เอ" นะคะ เราบอกพี่เอ ว่าเราจะเลิกทำงานนี้แล้วนะ ทำมา 3 เดือน เอือมระอามากมาย .. เค้าดีใจค่ะ.. "ดีแล้ว เลิกเถอะ เปลืองตัว" .. หลังจากปีใหม่เราไม่ได้เจอกันอีก เราก็หยุดทำงานตั้งแต่ปลายปี 52 .. อยู่บ้าน นั่งเล่น นอนเล่นไปเรื่อย จนกระทั่งเดือน ก.พ. 53 เค้าโทรมาบอกเราว่า คุณภรรยาเค้าคลอดแล้วนะ เราก็แสดงความยินดีไป แล้วเค้าก็ยังบ่นเรื่องความทุกข์ของเค้าอยู่ เราก็ฟังค่ะ .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:01:32 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:54:53 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:39:45

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากวันนั้น เราไปซื้อของที่ห้าง ไปเจอ DVD หนังฝรั่งเรื่องนึง ที่พี่เอเคยพูดไว้ว่า เค้าชอบ แต่เค้าหาซื้อแผ่นไม่ได้ เค้าตามหาอยู่ เราเห็นชื่อเรื่องแล้วจำได้ เราเลยซื้อมาเก็บไว้ สัปดาห์ต่อมาเราส่งข้อความไปบอกเค้าว่า เรามีของจะให้ จะเอาไปฝากไว้ที่ร้านที่เราเคยทำงาน ขอให้เค้าแวะเข้าไปเอาหน่อย เพราะเราไม่สะดวกที่จะนัดเจอ (ตอนนั้นคิดว่าไม่อยากเจอเค้า) เค้าบอกว่าขอเจอได้มั๊ย ไม่อยากไปที่ร้าน มันดูแปลกๆ สุดท้ายวันนั้นเรานัดเจอ เอาของให้เค้า นัดเจอที่ร้านกาแฟ 94 - Golden Place เค้าบอกว่าเค้าจะไปทำธุระต่อ ขอให้เราไปเป็นเพื่อนเค้าก่อนได้มั๊ย.. อุตส่าห์เอาของมาให้ ไม่อยากให้นั่ง taxi กลับเอง เค้าไปคุยงาน ให้เราไปนั่งรอ (ก็ยังงว่า ไปทำไม) คุยธุระเสร็จ ชวนเราไปทานข้าว เป็นการขอบคุณ .. ระหว่างทานข้าว คุณภรรยาเค้าโทรมาตาม เราก็รีบทาน เรากลัวว่าเค้าจะทะเลาะกัน วันนั้นจบลงแค่นั้น ไปทานข้าว แล้วแยกย้ายทางใครทางมัน .... อีก 1 สัปดาห์ต่อมาเค้าโทรมาหาเรา บอกว่าขอเจอเราได้มั๊ย เราโทรไปถามเพื่อนว่าไปดีหรือเปล่า เพื่อนบอกว่าคงไม่มีอะไรมั๊ง เค้ามีเรื่องมาปรึกษารึเปล่า ไปเหอะ (เพื่อนสนิทเราเป็นผู้ชาย) เราตกลงไปเจอเค้า เค้าชวนไปทานข้าว ทานเสร็จแล้วเค้าขับรถกลับมาส่งเรา (เราขับรถไม่เป็น) ระหว่างทางก่อนที่จะถึงที่พักเรา เค้าพูดว่า "คืนนี้อยู่ด้วยกันได้มั๊ย" นี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องของเราค่ะ .... หลังจากวันนั้น เราแอบมีความสัมพันธ์กับเค้ามาตลอด เค้าบอกรัก ดูแล เทคแคร์เราดีมากๆ คุณภรรยาโทรมาทะเลาะด้วยตลอด เราถามอยู่หลายครั้ง ว่าถ้าเค้าไม่รัก เค้าจะโทรมั๊ย เนี่ย มีอะไรปิดบังเราหรือเปล่า มาใช้เวลาอยู่กับเราทั้งวัน เช้าจรดเย็น จูบเท้าเราก่อนไปทำงาน ทำดีทุกอย่าง ไม่เคยโทรจิก ไม่เคยโทรตาม ไม่เคยแสดงอาการหึงหวง ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเรา และเค้าเป็นคนแรกที่เรายอมมีอะไรด้วยโดยไม่ใช้ถุงยาง ตอนนั้นเราคิดว่า อะไรก็ตามแต่ที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับเค้า เราสุขปนทุกข์ เพราะเรารู้ว่าเราเลวมากเลย เค้ามีภรรยาอยู่แล้ว เรากำลังทำเรื่องผิด แต่อีกใจคิดว่าถ้าจะคบใครซักคน ขอคนแบบนี้ ขอคนมีพันธะ ขอคนที่งานยุ่งๆ ขอคนที่ไม่โทรตาม ไม่โทรจิก ไม่มาหึงหวง ไม่ค่อยมีเวลามาอยู่กับเราดีกว่า และทุกครั้งที่เจอกันเค้าก็บอกว่า คุณภรรยาเค้าไม่ดีแบบนั้น แบบนี้ เค้าอยากเลิก เค้ารักเรา เค้าอยากอยู่กับเรา บอกกับเราว่า เรื่อง sex กับภรรยา ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรกันตั้งแต่ภรรยาเค้าแพลนจะมีลูกแล้ว ภรรยาเค้ารังเกียจเค้า เพราะเค้าเที่ยว ให้ทำเดือนละครั้ง พอท้องเค้าให้หยุด .. ใครจะไปอยู่ด้วยได้ ทะเลาะกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ .. พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็มาว่าเค้าต่ำ เค้านั่น นี่ นู่น บลา บลา บลา .. เราเคยได้ยินคุณภรรยาเค้าโทรมา พูดจาหยาบคาย เคยได้ยินเค้าคุยโทรศัพท์กัน เราเลยเชื่อสนิทใจเลยว่าเค้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เชื่อว่าเค้าไม่มีความสุข แต่ยังยั้งใจไว้ว่า เค้ายังเป็นสามี-ภรรยากัน .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:03:51 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:01:24 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 20:56:26 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:40:36

ความคิดเห็นที่ 4 อีกไม่กี่เดือนต่อมา เราคิดดูแล้ว ตั้งใจว่าจะเลิกกับเค้า ก็บอกพี่เอว่าเราจะกลับต่างประเทศ ตอนแรกเค้าไม่ยอมกลัวว่าเราไปแล้วจะไม่กลับ กลัวว่าเราจะมีคนอื่น กลัวเราจะเลิก แต่สุดท้าย เราให้เหตุผลว่าเราจะกลับไปดูแลร้าน เค้าถึงได้ยอม กลับไปอยู่ต่างประเทศได้ไม่นาน เดือนกันยายน 53 เราพบว่าเราท้อง สับสน สับสนมากๆ เสียใจ ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิต แต่ตอนนั้นเรารู้ตัว ว่าเราไม่พร้อม ท้องกับคนมีลูกมีภรรยาอยู่แล้วเนี่ยนะ .. จะไปบอกเค้าว่ายังไง .. ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่บอกใคร จะไม่บอกเค้า ตั้งใจว่าจะไปทำแท้ง เราติดต่อไปหาคนรู้จักที่อยู่ฮ่องกง ว่าเราต้องการไปทำแท้งที่นั่น ช่วยหาที่พักให้เราด้วย ติดต่อหาเพื่อนเก่าในฮ่องกงว่าเราอยากจะไปเยี่ยม ไปอยู่ที่นั่นซักพัก แต่เรากลับมาเมืองไทยก่อนเดินทางไปฮ่องกง พี่เอรู้ว่าเรากลับมา นัดเจอเรา เห็นท้องเรามีพุงนิดๆเค้าก็แซว ว่าเราอ้วนขึ้นหรือเปล่า เราเงียบไปเลย .. เค้าเริ่มรู้สึกตัวว่าเราแปลกไป เราบอกพี่เอ ว่าเราจะไปฮ่องกงนะ เค้าถาม + คาดคั้นเราเยอะมาก ว่าเกิดอะไรขึ้น เรากราบเค้าที่อก บอกเค้าว่าเรารักเค้านะ (ในใจคิดว่านี่คือการบอกลาของเรานะ ขอลาตรงนี้ ขอบอกรักเป็นครั้งสุดท้าย) จนเค้าบอกว่าถ้ามีเรื่องอะไรปิดบังไม่ยอมบอก เค้าจะเลิกกับเรานะ เราก็ยังไม่ยอมบอกอยู่ดี สุดท้าย เค้ายอมเพราะรู้ว่าเราไม่บอกแน่ บอกเราว่าเค้าจะไม่คาดคั้นแล้ว แต่อาการเรามันฟ้อง เค้ารู้ พอเค้ารู้ + แน่ใจว่าเราท้องเค้าก็อึ้งไปเหมือนกัน เราบอกเค้าว่าเราจะไปทำแท้งที่ฮ่องกง นัดวัน-เวลาไปแล้ว จะพักอยู่ที่นั่นด้วยซักพักนึง เค้าไม่ห้าม เพราะเค้าก็รู้ตัวว่าดูแลเราไม่ได้ ส่วนเราตอนนั้น เราเองคิดว่าจะเลิกด้วยเหตุผลที่สมควร ต.ค. 53 เราไปอยู่ที่ฮ่องกง เค้าโทรหาเราทุกวัน เพราะกลัวเราจะเลิกจริงๆ กลัวเราจะไม่กลับ ระหว่างที่ไปอยู่ที่นั่น เราไปทานข้าวกับเพื่อนบ้าง ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง(เพื่อนเป็นนายแบบ) เพื่อนเห็นเราเครียด ชวนออกไปข้างนอกเพราะไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว เดี๋ยวฟุ้งซ่าน เค้าก็หึง ว่าเราพึ่งทำแท้งยังจะไปไหนมาไหนกับผู้ชายอีก โทรจิกเราตลอด บังคับให้เราพูด "I love you" กับเค้าทางโทรศัพท์ บังคับให้พูดที่รักกับเค้า ต่อหน้าเพื่อน ประมาณว่า อยากให้คนอื่นรู้ ว่าเรามีคนที่คบด้วยที่เมืองไทยนะ แต่สุดท้ายแล้ว เพื่อนเรามาจีบเราจริงๆค่ะ มาขอเป็นแฟน พูดถึงขนาดอยากมาอยู่เมืองไทย เราบอกว่าเรามีแฟนแล้วอยู่แล้วนะ เค้าเองก็น่าจะรู้ (ตอนนั้นยังไม่อยากคบใครด้วย) เพื่อนเราบอกว่า ถ้าเค้ายอมให้เธอมานี่ เค้าไม่ได้รักเธอจริงๆหรอก เพื่อนคนนี้เค้ารู้เรื่องเราหมด เค้ารู้ด้วยว่าเราเคยทำอะไรมาบ้าง เรื่องสุดแย่ของเราน่ะ มีอยู่วันนึงเราเครียดเรื่องทำแท้ง เรื่องทะเลาะกับพี่เอ เพื่อนเราขอให้เราเล่าให้ฟัง ว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร เพราะเราดูเหมือนคนอมทุกข์ตลอดเวลา เค้าบอกว่า "Whatever troubles you, you can talk to me. I'm a reliable man" จิตใต้สำนึกบอกเราว่า เพื่อนของเราคนนี้เป็นคนดีมากถึงมากที่สุด เกิดมาไม่เคยเจอใครจริงใจมากเท่านี้มาก่อน ให้ใจเราแล้วไม่หวังว่าเราจะให้ตอบรึเปล่า พาไปโรงพยาบาล หาข้าว หาน้ำ หาขนมมาให้ พาเราไปตระเวนหาซื้อตั๋วเครื่องบินในเมือง ทั้งๆที่ตัวเองกำลังจะไปทำงานสาย พาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ที่เราไม่คิดว่าคนทำงานอย่างเค้าจะไป หรือจะสนใจ คุยกันแทบทุกเรื่อง เรื่องที่เราคุยกับพี่เอไม่ได้ แล้วที่สำคัญ เราไม่เคยมีอะไรกันนะคะ เพื่อนเราเค้าเป็นคนหน้าตาดี ฐานะดี การงานดี ที่สำคัญ ดูแลเราแบบ ดีมากๆ มากจริงๆ .. ตอนนั้นยังถามตัวเองว่าทำไมไม่รักผู้ชายคนนี้นะ แต่ความรู้สึกลึกๆของเราบอกเราว่า เค้าเป็นคนดีเกินไปมั๊ย.. ดีเกินไปสำหรับเรา เค้าสมควรจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้ .. เราคิดว่าเราไม่ดีพอ .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:06:10 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:12:32 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:11:48 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:08:32 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:08:00 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:43:11

ความคิดเห็นที่ 5 ปลายต.ค. เราทะเลาะกับพี่เอรุนแรงทางโทรศัพท์ พี่เอหึงว่าเราไปทานข้าวกับเพื่อนบ่อย หนักเข้า พี่เอเริ่มหึงหน้ามืดตามัว แล้วจู่ๆพี่เอขอเราแต่งงานค่ะ เค้าบอกว่าเค้าจะหย่า เค้าอยู่กับคุณภรรยาไม่มีความสุข ทุกวันภรรยาพูดถึงแต่เรื่องเงินๆๆ เค้าจะเลิก เค้าจะหย่า แล้วจะมาคบกับเรา .. เราอึ้ง เพราะในวันเดียวกัน เพื่อนคนนี้ของเรา ขอเราแต่งงานเหมือนกัน .. เราโทรหาเพื่อนสนิทเราที่เมืองไทย ขอความเห็นเค้า เค้าบอกว่า รักใคร แล้วคิดว่าใครรักเรา ก็เลือกคนนั้นแหล่ะ รู้มั๊ยเราเลือกใคร .. เราตัดสินใจเลือกพี่เอค่ะ .. ชีวิตตลกดีมั๊ย กลางเดือนพ.ย. 53 เรากลับไทย พี่เอมาดูแล บอกว่าจะหย่า (เค้าอยู่กินกันมา 7-8 ปี แต่พึ่งจดทะเบียนก่อนลูกเกิด 2 สัปดาห์ คือเดือน ก.พ. 53) ส่วนเรา .. เดือนม.ค. 54 เราขอกลับไปอยู่ยุโรปซักพัก เดือนก.พ. 54 เค้าไปหย่าจริง พี่เอออกจากบ้านมา ให้เหตุผลที่เลิกว่า เค้ามีหนี้ แล้วภรรยาเค้าไม่อยากรับรู้ ไม่อยากรับผิดชอบด้วย (ขอแจ้งไว้ตรงนี้ ว่าตั้งแต่เราคบและรู้จักกับเค้า เราไม่เคยขอเงินเค้าเลย แม้แต่บาทเดียว) ... ทรัพย์สินทุกอย่างที่มี เค้าบอกว่ายกให้คุณภรรยาทั้งหมด และที่คุณภรรยายอมหย่า เพราะพี่เอเอาเรื่องที่เค้าเป็นหนี้หลายแสนขึ้นมาอ้าง (เค้าเป็นหนี้จริงค่ะ ราวๆ 5 -6 แสนบาท) แล้วคุณภรรยาเค้ากลัวว่า จะมีธนาคารไหนมายึดทรัพย์สินหรือบังคับให้ภรรยาร่วมใช้หนี้ บ้านกู้ร่วมกัน คุณภรรยาให้พี่เอถอนชื่อออก รถเป็นชื่อพี่เอ ก็โอนให้คุณภรรยาบอกว่าให้ไว้ดูแลลูก เงินเก็บ หรืออะไรก็แล้วแต่ ร่วมกันมาเท่าไหร่ เราไม่ได้ถามถึงรายละเอียดพวกนั้น เค้าบอกแต่ว่าให้ทั้งหมด เดินออกมาแต่ตัวกับเสื้อผ้า 1 กระเป๋า เราก็รับฟังเท่านั้น ตอนที่เค้าหย่าจนออกมาเช่าห้องอยู่ข้างนอก เรายังอยู่ต่างประเทศ โอนเงินให้เค้าเป็นครั้งคราว เวลาที่เค้าบอกว่ามีเงินไม่พอใช้ .. ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพราะเรา ความผิดเรา เค้าถึงต้องหมดตัวไม่เหลืออะไร ก็เลือกที่จะคบ เลือกที่จะเอาเค้ามาเป็นสามีแล้ว เราคิดว่า มีอะไรต้องช่วยเหลือกัน แต่เพราะเราไม่ได้ฝากเงินไว้ที่ธนาคารไทยมากนัก โอนให้แต่ละครั้งก็ฝากคนรู้จักที่อยู่ไทยโอนให้ เดือนละหมื่น สองหมื่น ก็ไม่มากค่ะ ระหว่างนั้นเค้าก็เริ่มบ่นอยากได้ข้าวของ พูดเกริ่นๆ เราเห็นเค้าอยากได้ ก็ซื้อให้ กระเป๋าเงิน lv, แว่น rayban, รองเท้า น้ำหอม บลาๆ .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:07:12 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:18:35 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:10:16 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:44:38

ความคิดเห็นที่ 6 เรากลับไทยราวๆ ส.ค. 54 พี่เอเอาข้อตกลงหลังหย่ามาให้เราดู ว่าจะให้ลูกเดือนละ 20,000 บาท (คุณภรรยาขอ บอกว่าถ้าไม่ยอมให้เท่านั้น เค้าจะไม่ยอมหย่า) เราคำนวณดูเงินเดือนเค้ากับหนี้สินที่เค้ามี .. ค่าเช่าห้องพัก + ผ่อนรถคันใหม่ (มือสอง) + จ่ายหนี้บัตรเครดิตอีก 7 ใบ เราบอกว่า 20,000 มากไปมั๊ย คุณมีเงินเดือน 50,000 บาท ให้ลูก 20,000 แล้วคุณจะเอาอะไรกิน เราบอกว่า เราไม่ขอให้เค้าต้องเอาเงินมาเลี้ยงดูเรา เราดูแลตัวเองได้ แต่ที่เราต้องการคือ ให้เค้าดูแลตัวเองให้ได้ก่อน มีรายรับที่ cover รายจ่าย มีเหลือเก็บบ้าง ที่เหลือที่เกินมาถ้าเค้าขาดเหลือยังไง เราจะช่วยจ่ายให้ ขอให้เค้าลดเงินเลี้ยงดูลูกเหลือเดือนละ 10,000 บาทไปจนกว่าลูกจะบรรลุนิติภาวะ และรายจ่ายที่เราบอกว่าจะช่วยเค้าคือ ผ่อนรถเดือนละ 16,000 ทุกเดือน แต่เราก็ให้บ้าง ไม่ให้บ้าง เพราะอย่างที่บอก โอนเงินลำบาก จะให้โอนมาให้จากต่างประเทศทีละเยอะๆ ก็ผิดวิสัย เรายังคบกันได้ไม่เท่าไหร่ แล้วเค้าก็พึ่งเลิกกับภรรยา เริ่มเห็นลางร้ายหรือยังคะ? .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:07:54 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 19:46:18

ความคิดเห็นที่ 7 กลับไปต่างประเทศอีกหน เราพบว่า ตัวเองท้อง (อีกแล้ว) แต่ 6 สัปดาห์ก็หลุด หมอบอกว่าเราไม่แข็งแรง ต.ค. 54 เรากลับมาไทยอีกครั้ง ก็ไปอยู่ด้วยกันที่คอนโดแห่งนึง เริ่มมีโทรศัพท์แปลกเข้ามาที่เครื่องเค้า เค้าแอบคุย มีข้อความแปลกๆ พอเค้าเห็นเค้าจะสะดุ้งแล้วรีบคว้าไปลบออก เราถาม เค้าบอกว่ารู้จักกันนานมาแล้ว ไม่มีอะไร เราก็ยังมองโลกในแง่ดี ว่าคงไม่มีอะไร ไว้ใจ คิดว่าเค้าคงรักเรามากพอ ก่อนนี้เค้าเที่ยวจนมาเจอเรา เพราะเค้าบอกว่าคุณภรรยาไม่ชอบเรื่อง sex แล้วก็ไม่ได้รักนานแล้ว ที่อยู่เพราะความเหมาะสม พ่อแม่อยากให้อยู่ พ่อแม่อยากให้มีลูก เผื่อมันจะช่วยเยียวยาชีวิตคู่ .. เหตุผลเค้าเยอะ ข้ออ้างเค้าแยะ เราก็เชื่อ เราเองก็ไม่ค่อยได้อยู่ไทย ก็เคยบอกเค้าว่า ถ้าหากเค้าต้องการเรื่อง sex แล้วเรายังอยู่ต่างประเทศ เราให้เค้าไปเที่ยวได้ ใช้ถุงยางนะ แล้วขอให้เที่ยว แล้วก็จบเป็นครั้งๆไป นอกกายได้ .. แต่อย่านอกใจเรา ตอนที่มาเที่ยวแล้วมาเจอเรา เพราะเค้าบอกว่าไม่รักคุณภรรยาแล้ว จะเลิกแล้ว อยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข เราถึงได้ตัดสินใจเลือกที่จะคบกับเค้านะ เค้าก็ดูเหมือนจะเข้าใจ กลับไปต่างประเทศเดือน พ.ย. ก็ตรวจเจอว่าท้องอีก แล้วก็แท้งอีกเป็นครั้งที่ 3 ครั้งนี้เราเสียใจมาก เพราะเราตั้งใจว่าจะเก็บไว้ตั้งแต่ครั้งที่ 2 แต่เราเองไม่แข็งแรง เราบอกพี่เอ ร้องไห้เยอะแยะ เค้าไม่ว่าอะไร เค้าแทบไม่รู้สึกว่าเราสูญเสียอะไร สงสัยเราจะง่ายเกินไป เราก็ได้แต่คุยเรื่องนี้กับเพื่อน ร้องไห้กับคนอื่น แฟนตัวเองคุยด้วยไม่ได้ ... ช่วงนั้นเราทะเลาะกับเค้าบ่อยมาก เรื่องเงิน ที่เราให้บ้างไม่ให้บ้าง เค้าบอกว่าเราไม่ช่วยเหลือเค้าเลย ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้า ทั้งๆที่รู้ว่าเค้ามีรายจ่ายเยอะ .. โอนให้ทีก็ทีละหมื่นสองหมื่น ให้เหมือนขอทาน .. เราเจ็บไปเลย ตั้งแต่วันนั้น ความรู้สึกเราเริ่มเปลี่ยน แต่ยังพยายามเข้าใจและอดทน คิดว่าเค้าคงกังวลเรื่องรายจ่าย .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:09:03 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:21:05 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:17:38 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:00:47

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนที่คบกันนี่คือเค้าพาเราไปเจอพ่อแม่ พาไปเจอเพื่อนๆ ไปที่ทำงาน ทุกคนรับรู้ว่าเค้าเลิกกับคุณภรรยามาคบกับเรา ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงรู้จักหมด ไปบ้านเค้า พ่อแม่ก็ต้อนรับขับสู้ดี คุยด้วยดี ทำอาหารให้ทาน เราให้เค้าไปเจอลูกได้ ขอแค่ให้บอกเราด้วย ไม่ใช่ไปแล้วบอกว่าไม่ได้ไป มีอยู่วันนึงเค้าบอกว่าจะพาภรรยาเก่ากับลูกไปเที่ยว เรานิ่งไป งงๆ พาคุณภรรยากับลูกไปเที่ยว .. แล้วเราเป็นอะไรเนี่ย พาลูกไปเที่ยวอ่ะโอเค แต่พาคุณภรรยาไปด้วย มันติดจะแปลกนิดๆมั๊ย แต่เค้าก็บอกว่าลูกยังเล็กไปไหนมาไหนไม่ได้ ถ้าแม่เค้าไม่ได้ไปด้วย เราก็พยายามเข้าใจอีก .. ก็จริงนะ ลูกพึ่ง 2 ขวบ แล้วแม่เค้าเลี้ยง ถ้าแม่เค้าไม่ไปด้วย แล้วเค้ากับลูกจะไปยังไง แต่ที่เราไม่เข้าใจคือ เวลาเค้าไปหาลูกแล้วเราโทรไป .. เค้าจะไม่รับโทรศัพท์ พอเราถามเค้าก็โกรธ หาว่าเราจับผิด บ่อยเข้า เราถามเค้าว่า ตกลงเลิกกับคุณภรรยาแน่แล้วใช่มั๊ย ให้เหตุผลที่เลิกกับคุณภรรยา บอกเค้าว่ายังไงบ้าง ทำไมเรารู้สึกว่าเราถูกหลอก พอเราถามเรื่องนี้ทีไร เค้าก็จะโกรธเรา ... ปีใหม่ที่ผ่านมา เค้าพาคุณภรรยากับลูกกลับบ้านเค้า (บ้านพี่เอ) ที่ต่างจังหวัด บอกว่าพ่อกับแม่อยากเจอหลาน เราก็นะ .. เข้าใจ เค้าบอกให้เรารออยู่ที่กรุงเทพ .. เค้าไปส่งแล้วจะกลับมา เรางงว่ะ ตกลงนี่เราเป็นอะไรกันเนี่ย ปีใหม่พาลูกกับภรรยาเก่ากลับบ้าน แต่ให้เรารออยู่ที่คอนโด พอพี่เอไปถึงที่บ้าน แม่ถามเค้า ว่าเรากลับมาจากประเทศแล้วหรือเปล่า เค้าบอกว่าเปล่า ไม่ได้กลับ ... ??? คืนวันที่ 31 เค้ากลับมาหาเราที่กรุงเทพ โกหกที่บ้านว่ามาประชุม เราโมโหเค้า ว่าทำไมถึงได้ทำแบบนั้น ทำไมต้องพาภรรยาเก่ากับลูกไปบ้าน โกหกพ่อแม่ว่าเรายังอยู่เมืองนอก แถมยังสร้างเรื่องว่ามาประชุมอีก ทำไมไม่บอกไปตามตรง .. เค้าบอกว่าไม่อยากให้พ่อแม่คิดมาก ช่วยบอกเราหน่อยสิ ว่าคิดมากเรื่องอะไร ????? .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:10:45 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 21:24:09 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:11:32

ความคิดเห็นที่ 9 โห ดราม่ามากๆ ขอติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะครับ จากคุณ : น้องเคยเห็นช้างรึเปล่า เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:17:38

ความคิดเห็นที่ 10 พอเราเริ่มไม่ค่อยพอใจ เค้าไปบอกแม่เค้า ว่าเราระแวง แม่เค้าก็มาคุยกับเรา ว่าอย่าระแวงเลย อยู่ด้วยกันต้องไว้ใจกัน ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัว เราก็พยายามจะทำแบบนั้น พยายามไม่คิด พยายามอดทน แต่หลังจากปีใหม่ เราเริ่มทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ เรื่องเพื่อนเรา เรื่องใครต่อใครอีกเยอะแยะ เราคุยกับเพื่อนผู้ชาย เค้าก็จะหึงมากมาย เราก็เลิกคุย เลิกคบ หยุดคุยกับเพื่อนผู้ชายแทบทุกคนที่รู้จัก เพราะไม่อยากให้เค้าคิดมาก แต่ตัวเรา 2 คนที่อยู่ด้วยกัน เป็นแฟนกัน คบกัน อีกคนเปลี่ยนไป เรารู้สึกได้ เค้าเริ่มพูดกับเราไม่ดี เริ่มพูดจาหยาบคาย เริ่มกลับห้องช้าลง 4-5 ทุ่ม ไปตีกอล์ฟ กลับบ้านต่างจังหวัด ไปประชุม ไปกินข้าว เริ่มโวยวาย พูดจาขอเลิก บอกว่าเราทำให้ครอบครัวแตกแยก บอกว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี เคยทำงานไม่ดีมา ถ้าใครรู้ ใครจะรับได้ เราฟังแล้วเจ็บจนกลั่นออกมาเป็้นคำพูดไม่ได้เลย เราโทรไปปรึกษาเพื่อน (เพื่อนสนิทคนไทย) เค้าบอกให้เราเลิก เราก็ยังพยายามหาข้อดี แก้ตัวให้เค้า ว่าเป็นเพราะเรื่องเงินหรือเปล่าที่เค้าไม่พอใจเรา เดือนม.ค. ที่ผ่านมา เราสัญญากับพี่เอว่าจะให้เงินเค้า 34,000 เป็นค่ารถ กับค่าเครื่องเสียงติดรถที่เค้าไปติดมาใหม่ .. แต่แล้วเราก็ไม่ได้ให้ เค้าก็ทวง เราบอกว่าเราต้องรอเงินโอนจาก paypal นะ ติดปัญหานิดหน่อย เค้าก็โวยวายว่าเราไม่ให้เงินเค้าอีก ตอนที่คบกับเราช่วงแรกๆ เราบอกว่าเราไม่ชอบคนดื่มเหล้านะ เค้ายอมเลิก พอมาตอนหลัง เค้าดื่มต่อหน้าเราเฉยเลย ให้เราไปนั่งรอดึกๆดื่นๆ เที่ยงคืน แล้วบอกว่าเราหน้าบูดบึ้งกับเพื่อนเค้า ทีหลังถ้าไปแล้วไม่คุยกับใคร ไม่ต้องไป (ไปกินเหล้ากับเพื่อน เอาเราไปนั่งเฝ้า แล้วว่าเราว่าไม่คุยกับเพื่อนเค้า) อาหารที่ไปทานแต่ละมื้อ เราเป็นคนจ่าย อยากไปทานข้าว CDC สุขุมวิท Crystal park และอีกหลายที่ แต่ไม่เคยจ่าย เราเคยพูดเปรยๆว่า เดือนนี้เราไปทานอาหารกัน เกือบ  6 หมื่นแล้วนะ เค้าก็บอกว่าเป็นเราที่อยากไปทาน .. แม่เจ้า .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:11:54 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:25:18

ความคิดเห็นที่ 11 ตามอ่านอยู่นะคะ สุดท้ายจะลงเอยยังไงนะ สู้ๆ  จากคุณ : ดีพอหรือยัง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:36:10

ความคิดเห็นที่ 12 มารร้ายในคราบเทวดาจริงๆเลยครับ จากคุณ : คนกลางวัน เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:41:14

ความคิดเห็นที่ 13 คุณไม่ได้โง่หรอก  แต่เลวได้ใจจริง รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว  ก็ยังเอาเขา  เพื่อสนองความพอใจของตัวเอง  เคยคิดบ้างไหมล่ะ  ว่าเมียเขาจะรู้สึกยังไง  ว่ารู้ทั้งรู้ว่าเขามีลูกเมียคาอยู่  ก็ยังทำความเจ็บช้ำน้ำใจให้เมียหลวง  ผลมันจะ้ย้อนกลับมาหาคุณแล้วไง  อ้อ เวรกรรมที่ฆ่าลูกน่ะมีนะ  เตรียมรับไว้ด้วย แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 20:57:09 จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:41:43

ความคิดเห็นที่ 14 จนกระทั่งเมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เค้าเริ่มเปลี่ยนไปชัดเจน พูดไม่ดีกับเรามากขึ้น เราบอกเค้าว่าพูดกับเราดีๆหน่อยได้มั๊ย เราก็คนเหมือนกัน เค้าก็ย้อนมา ว่าจะให้พูดดีเหมือนแฟนคนไหนของเราล่ะ คนไหนที่พูดดี พูดถูกใจ ก็ไปคบกับเค้าสิ เวลาทะเลาะกัน เค้าจะไล่เราออกจากห้อง แต่เราก็ยังทน (เราเช่าห้องไว้อีกที่นึง เก็บของใช้) พอเค้าอารมณ์ดี ก็จะถามว่าไปเช่าห้องไว้อีกที่ทำไม เปลืองเงิน เราก็บอกไปว่า เวลาทะเลาะกัน เค้าชอบไล่เรา ถ้าเราไม่เช่าห้องไว้ เวลาทะเลาะกัน จะให้เราไปอยู่ไหน .. แล้วพอเราพูดไปแบบนี้ เค้าก็จะว่าเราอีก บอกว่าเค้าคุยกับเพื่อน เพื่อนเค้าบอกว่าเราน่ะ แอบมีคนอื่นอยู่ต่างประเทศแน่ๆ ไปอยู่เมืองนอกแต่ไม่เคยชวนเค้าไปด้วย ไม่เคยชวนเค้าไปเที่ยว เราบอกว่าค่าตัวเครื่องบินมันไม่ถูกนะ เราไม่อยากให้เค้าเสียเงินไปเปล่าๆ เค้าก็บอกว่ารูดการ์ดเอาก็ได้ .... คือในใจเราเนี่ย อยากจะถามออกไปแรงๆว่า (เป็นอาเฮียอะไรเนี่ย?) แต่นิสัยเรา คือเราไม่พูดหยาบ ทะเลาะกันมากมายแค่ไหน เราก็ยังเรียกเค้าว่าคุณ ก็ได้แต่เงียบ ทน คิดว่าเค้ากำลังโกรธ กำลังไม่พอใจ เดี๋ยวเค้าอารมณ์เย็้นลงก็คงดีขึ้น แต่กลายเป็นว่าเงียบ เค้าก็ยิ่งมึนตึง ยิ่งหาเรื่องว่าเรา หาเรื่องออกจากบ้านมากขึ้น เราก็ยังพยายามคิดในแง่ดีว่า ฮอร์โมนเค้าเปลี่ยนรึเปล่า เราเริ่มเครียด โทรปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็บอกแต่ว่า เลิกเหอะ เลิก เราก็ยังพยายาม ยังทน ให้เค้าด่าว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี เราอะไรๆอีกสาระพัด จนวันสุดท้ายที่ทะเลาะกัน เค้าไปทำงาน เราอยู่ที่คอนโด ตอนเที่ยงเราก็ยังคุยกันปกติ มีทะเลาะนิดหน่อยก็เรื่องเงินเดิมๆ เค้าบอกว่าทำไมเราไม่เอาเงินต่างประเทศไปแลก ไม่ยอมเอาเงินมาใช้ เราบอกว่าเสียดาย ค่าเงินเปลี่ยน ถ้าเราเอาไปแลก ตอนซื้อกลับต้องซื้อแพงกว่าเยอะ แล้วก็ไม่ได้รีบใช้เงิน ที่มีอยู่ ณ ตอนนั้น ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ที่รอเงินจาก paypal คือรอจะเอาเงิน 34,000 ที่ว่าให้เค้าเนี่ยแหล่ะ ตอนบ่ายเค้าเงียบไป เราโทรหาเค้าตั้งแต่บ่าย 3 เค้าไม่รับโทรศัพท์ 6 โมง ปิดเครื่องหรือไม่ก็แบตหมด เรายิ่งประสาทกิน เค้าไม่เคยไม่รับโทรศัพท์นานขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รับ จะรีบโทรกลับมา แต่นี่แปลกมาก อารมณ์ตอนนั้นกังวล + เป็นห่วง กลัวว่าเค้าเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า .. โทรไปตามโรงพยาบาลต่างจังหวัดที่เค้าไปทำงานบ่อยๆ สุดท้ายโทรไปหาเพื่อนเค้า ถามว่าคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เค้าออกต่างจังหวัดหรือเปล่า โทรไป ร้องไห้ไป เค้าขับรถเร็ว กลัวเค้าจะเกิดอุบัติเหตุแล้วเราไม่รู้ เพื่อนเค้าก็บอก เดี๋ยวเค้าจะลองโทรดู .. โทรไม่ติดเหมือนกัน .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:15:32 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 20:47:30 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:45:11

ความคิดเห็นที่ 15 รออ่านให้จบก่อนแล้วเดี๋ยวจะคอมเม้น = = จากคุณ : SonGiiz* เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:05:56

ความคิดเห็นที่ 16 ยาวจัง อ่านไม่ไหว จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:20:47

ความคิดเห็นที่ 17 ย่อได้ป่าว จากคุณ : TheMATABA เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:32:17

ความคิดเห็นที่ 18 กัววววววววววว ว่าจะมีนักวิเคาะมาอีกอ่ะ  อย่าเข้ามาได้มั้ยยยยยยย รำคาญ จากคุณ : mrpoporo เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:39:12

ความคิดเห็นที่ 19 ยาวแค่ไหนก็รออ่านอยู่นะคะ เป็นกำลังใจให้น จุ๊บๆ จากคุณ : Epzelon เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:42:16

ความคิดเห็นที่ 20 ใหม่ๆก็รักใหม่ๆก็ดี   เธออยู่ทุกทีที่ฉันต้องการไม่เคยห่าง ทั้งหวง  และห่วง    ทั้งทุกข์และสุข ทุกครั้งจะอยู่ดูแล ไม่เคยจะมีข้อแม้    สำคัญกว่าใคร แปลกๆเดี๋ยวนี้     ไม่ดีเหมือนเคย เป็นฉันที่คอย   รองรับอารมณ์ของเธอทุกดี หรือฉันมันเก่า     แค่รักเ่ก่าๆ และฉันทำผิดตรงไหน    ใช่สิเธอได้หมดแล้ว ทั้งตัวและใจ   ถึงเป็นอย่างนี้ ใหม่ๆเธอรักฉันเท่าไหน   ฉันจำได้หมดทุกอย่าง แรกๆอะไรก็หวาน    สัญญากันอย่างดี ไม่เคยจะคิดเลยสักนิด    ว่าเธอจะเป็นอย่างนี้ ~~~~   เพลงๆ   ใหม่ๆก็รัก   ปล.จขกท ทำใจๆ  รอตอนจบ จากคุณ : บัวใส เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:47:31

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านไป เหมือนจะหยุดหายใจเป็นพักๆ ความอ่อนต่อโลกทำให้ชีวิตผิดพลาดไป อยากให้เริ่มศึกษาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า  ใช้เป็นหลักดำเนินชีวิต เตือนสติก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร จากคุณ : ดาหลารัศมี เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 21:56:51

ความคิดเห็นที่ 22 รออ่านต่อค่ะ จากคุณ : ความรักมาทักทายแล้วหายไป เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:02:35

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ตอนนี้เราก็ได้แต่มานั่งคิดทบทวนชีวิตค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง และคนรอบข้างบ้าง ----------------------- ขอเล่านอกเรื่องนิดนึงนะคะ บอกข้อดีของแฟนเราหน่อย ว่าทำไมเราคบกับเค้า เวลาที่เค้าอารมณ์ดี เค้าจะขี้เล่น ตลก คอยเทคแคร์ ดูแลเอาใจใส่ คุยเรื่องเดียวกัน สนใจเรื่องคล้ายๆกัน เหมือนจริงใจ เหมือนรักเรามาก เราเตะหิน มีแผลที่เท้า เค้าก็นั่งกับพื้นทำแผลให้เรา รองเท้าเราขาด เค้ารีบเข้าไปซื้อกาวใน 7-11 นั่งอยู่หน้าร้าน ซ่อมรองเท้าให้เรา ทานข้าวด้วยกัน ดูแลตั้งแต่นั่งทานจนออกจากร้าน เรื่องเทคแคร์ทั้งหมดทั้งมวล เค้าดีเลิศค่ะ ข้อเสีย 1. ดื่มเหล้า ซึ่งเคยเลิกไปแล้วช่วงโปรโมชั่น แต่กลับมาดื่มอีก 2. เวลาเค้าโกรธ เค้าจะพาลแล้วขุดคุ้ยอดีต 3. ขี้หึง ไม่เคยไว้ใจเราเลย แอบดูโทรศัพท์เราตลอด 4. ชอบโม้ ชอบอยู่ท่ามกลางคนผู้คน อยากให้ผู้คนยอมรับนับถือ 5. เรื่องเงิน มี 10 ใช้ 100 6. โกหกหน้าตาย ปั้นน้ำเป็นตัว .. เรื่องที่เราทะเลาะกันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องมากๆ เช่น ครั้งนึง เราใช้โทรศัพท์เค้าถ่ายรูป instagram เป็นรูปเท้าเรา 2 คนคู่กัน แล้วก็มีรูปเรา nude เล็กๆ bikinis อะไรประมาณนั้น แต่วันต่อมาเค้าลบรูปออก เราถามว่าลบออกจากอัลบั้มรูปไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องลบออกจาก instagram ของเราด้วย เราอยากเก็บรูปไว้ดู account ก็เป็นของเรา เราตั้งเป็น private นะ เค้าบอกว่าเดี๋ยวมีคนเอาโทรศัพท์เค้าไปเล่น แล้วจะเห็น เรางงแตก โทรศัพท์แฟนเรา .. ใครจะมาเห็นล่ะ??? เค้าก็อารมณ์ขึ้นเลย ว่าตอนเราอยู่กับแฟนเก่า เราก็ถ่ายรูปพวกนี้เยอะแยะใช่มั๊ย เราก็เฮ๊ย คุยเรื่อง instagram ของเรา แต่ไปเกี่ยวกับแฟนเก่าได้ไง เค้าก็โวยวายว่าโทรศัพท์เค้า เผื่อมีคนเอาไปดู เอาไปเล่น แล้วเห็นรูปเราจะทำยังไง นั่นสิ ถ้าเห็นแล้วยังไง? ... เราให้เงินพ่อแม่ เค้าว่าเรา ว่าให้จนไม่เหลืออะไร ซึ่งเราให้บ้าน ให้รถ ให้เงินสด พ่อแม่เรา เยอะมาก เราให้จริงๆ .. พี่เอรู้ ก็ไม่พอใจเรามาก ถามเราว่ามีบ้านกี่หลัง มีรถกี่คัน ทำไมไม่เอารถมาใช้ เราบอกว่า ก็เราไม่ขับรถ จะให้บอกที่บ้านว่าเอารถมาทำอะไร มีแฟน ก็ต้องช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว จะไปเอาของที่ให้พ่อแม่แล้ว มาทำไม เราทะเลาะกันเรื่องนี้หลายครั้ง พอพี่เออารมณ์ปกติ เค้าจะว่าเราว่าไม่ยอมกลับบ้าน เราเป็นลูกไม่ดี ไม่ยอมคุยโทรศัพท์กับคนที่บ้าน .. เราบอกว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เรากับที่บ้านมีปัญหากันมาเยอะแยะ ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ได้แปลว่าไม่รัก ยังเคารพเค้าเสมอ ถึงแม้เราจะออกจากบ้านมานานมากแล้ว แต่เรื่องค่าใช้จ่ายของที่บ้าน เราดูแลทั้งหมด เพราะถ้าไม่มีพ่อกับแม่ ก็ไม่มีเรา .. เราบอกพี่เอว่า ถ้าลูกที่ดีหมายถึง คุยโทรศัพท์กับพ่อแม่ทุกครั้งที่เค้าโทรมา แต่ดูแลเค้าไม่ได้เลยซักทาง เราขอเป็นลูกไม่ดีแบบนี้ดีกว่า เค้าฟังแล้วไม่พอใจเราอีก .. ไม่รู้เหมือนกัน ว่าต้องการให้เราทำอะไร .... ในเวลาที่เีรามีเรื่องไม่สบายใจ โทรมาจากต่างประเทศ อยากปรึกษาเค้า เค้าก็โมโหใส่ บอกว่าถ้าจะมาระบาย ไม่ต้อง เค้าไม่ใช่ที่ระบาย อยากระบายโทรไประบายกับเพื่อนนู่น แต่ถ้าต้องการคำปรึกษา คำแนะนำดีๆ ถึงค่อยเอามาเล่าให้ฟัง .. เราก็เลยโทรหาเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าถ้าเครียดก็โทรมาเล่าให้เค้าฟังก็ได้ เค้ารับฟังปัญหาเรื่องเรากับพี่เอ มา 2 ปีแล้ว เค้าก็ยังฟังต่อได้ เพื่อนกัน ช่วยกัน แล้วเค้าจะย้ำอยู่ตลอดว่า "เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดนะ คิดดีๆ ถ้าไม่ไหวก็เลิกซะ" แต่เราก็ยังทน ... ส่วนเหตุผลที่เค้าบอกว่าอยู่กับคุณภรรยาไม่มีความสุขคือ ตอนที่เค้ารู้จักคุณภรรยานั้นประมาณ 8 ปีที่แล้ว อดีตคุณภรรยาบอกเค้าว่า อายุมากกว่าเค้าแค่ 1 ปี ซึ่งเค้ามารู้ทีหลัง หลังจากที่เห็นบัตรประชาชนโดยบังเอิญ ว่าที่จริงแล้ว ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 5 ปี แล้วสถานภาพเป็นนาง เค้าก็ทะเลาะกัน อดีตคุณภรรยาสารภาพว่า แต่งงานมาหลายปีแล้ว ยังอยู่กับสามี แต่สามีมีเล็กมีน้อย แล้วพาเล็กพาน้อยเข้าบ้าน เค้าก็เลยมองหาคนใหม่บ้าง ช่วงแรกเค้าคบกัน ฝ่ายหญิง มาเช่าห้องอยู่กับพี่เอ ประมาณว่าเนียนมาก เหมือนไม่มีพันธะ สุดท้ายบอกว่าเค้าท้องกับพี่เอ แต่เลือกที่จะไปทำแท้ง จนคบกันมาได้ระยะนึง ฝ่ายหญิงไปหย่ากับสามีแล้วมาอยู่กับพี่เอ .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:58:55 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:56:07 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:18:06 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 22:31:14 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 22:25:30 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:25:08

ความคิดเห็นที่ 24 รออ่านนะค่ะ จากคุณ : อยากรู้ง่า เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:33:42

ความคิดเห็นที่ 25 เกาะกระทู้ ^^ จากคุณ : เขียนบน iPhone (suttimon) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:34:07

ความคิดเห็นที่ 26 กำลังมันส์เลย ต่อซิคะ คุณต้องเป็นคนสวยมากเลยนะคะ  ผู้ชายไม่ดีก็เลิกๆไปเถอะคะ แล้วคุณทำงานอะไรคะ มีเงินมากขนาดนั้น จากคุณ : jeeban_2 เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:36:23

ความคิดเห็นที่ 27 สู้ๆค่ะ จากคุณ : กระต่าย (Kriscy_Navy) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:38:16

ความคิดเห็นที่ 28 เข้าเรื่องวันที่ทะเลาะกันค่ะ หลังจากที่ไม่รับโทรศัพท์ตั้งแต่บ่าย เค้าโทรกลับมาตอน 1 ทุ่ม บอกเราว่าไปตัดผม กำลังจะกลับ เราก็บอกว่ารออยู่ที่ห้อง รอทานข้าว เค้าก็เริ่มพาล หาเรื่องทะเลาะ ถามหา ipad ที่ให้เรายืม เราก็บอกว่าอยู่ที่ห้องเรา เค้าก็บอกว่าต้องไปเอามาเดี่ยวนี้ เราบอกว่าตอนนี้ร้องไห้ตาบวมมาก ไม่อยากออกไปไหน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปเอา เรารอเค้ากลับมา รอทานข้าว เดี๋ยวไป foodland กัน ให้เค้าเข้าไป ซื้อ take away กลับมาทานที่ห้องได้มั๊ย เค้าก็บอกว่าไม่ได้ ต้องไปเอา ipad เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ พอเค้ากลับมาถึงห้อง เค้ารีบเข้าไปอาบน้ำ แล้วบอกว่าจะไปเอา ipad .. เราก็บอกเค้าว่าตอนนี้ ตาเราสองข้างไม่พร้อมออกงาน เราไม่อยากออกไปไหน พูดง่ายๆว่าอายหน้าตัวเอง ตาบวมมาก ไม่อยากให้ใครเห็น บอกเค้าว่า ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปนะ .. เค้าไม่ยอม จะไปเอาให้ได้ บังคับเรามาขึ้นรถ อารมณ์ตอนนั้น เท่าที่รู้จักกันมา เหมือนเค้าพยายามหาเรื่องทะเลาะมากกว่า เราเดินลงลิฟท์มาเจอคุณยามของคอนโด มองหน้าเราแล้วก็มองหน้าแฟนเรา ประมาณว่า ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ .. ขับรถออกมา ก็ทะเลาะกันไปตลอดทาง เราบอกว่าเราไม่อยากไปเจอใคร ทำไมต้องบังคับด้วย ไปเอาพรุ่งนี้ก็ได้ แล้วนี่ถ้าไปห้องเราต้องไปเอากุญแจกับคนดูแลเพราะเราลืมกุญแจห้อง เราอายนะ เพราะมีอยู่ครั้งนึงที่เราทะเลาะกัน เราร้องไห้ตาบวมแต่ใส่แว่นตากลบเกลื่อน เข้าไปนั่งทานข้าวที่ foodland สาขาที่เราชอบไปกับเค้า พนักงานผู้หญิงคนนึงที่เราสนิทด้วยมาทัก แล้วเค้าเห็นเราตาบวม เค้าถามว่า "ร้องไห้ทำไม ทะเลาะกับแฟนเหรอ ไม่ต้องร้องไห้นะ" คนอื่นมาแสดงความเห็นใจเรา ในขณะที่แฟนเราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เราน่ะ ไม่อยากออกไปให้คนอื่นเห็น กลัวคนอื่นจะมองแฟนเราไม่ดี หาว่าเค้าทำเราร้องไห้ ตัวเราเองตอนนั้นน่ะ คิดว่าไม่ไหวแล้ว บังคับเราด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เราเลยพูดว่า "ถ้าแค่เรื่องไม่ไปเอา ipad จะทำให้เราเลิกกัน ก็เลิกกันเถอะ" เค้าก็รับลูกเลย บอกว่างั้นก็เลิก แล้วก็โวยวายมากมาย ด่าว่าเราไปตลอดทาง พูดว่าเรามีคนนั้นคนนี้ พูดถึงเรื่องเก่าๆ ขุดคุ้ยอดีตตามประสาเค้า บอกว่าเราโกหกเค้าเหมือนที่ภรรยาเก่าเค้าทำ บอกว่าเราเห็นเค้าโง่ ไปต่างประเทศไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ แอบนอกใจเค้ารึเปล่าก็ไม่รู้ แค่เรื่อง ipad ... ลามใหญ่โตไปนั่นได้ยังไงเราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:19:21 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:38:49

ความคิดเห็นที่ 29 ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีน้อยไปหน่อยมั้งคะ จากคุณ : <NaturaL M> เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 22:42:00

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนนั้นน่ะ 2 ทุ่มกว่าแล้ว ขับรถกลับไปที่คอนโด แล้วไล่เราออกจากห้อง จะเก็บกระเป๋าเราออกมาข้างนอก เราบอกเค้าว่าอย่าทำแบบนี้ มีอะไรคุยกันดีๆ เค้าก็บอกว่าเราขอเลิกเค้าเองนะ เรานั่นนี่นู่น เราไม่ดีหยั่งงั้นหยั่งงี้ ก็ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ เค้าบอกว่าถ้าเราไม่ไป เค้าไปเอง ก็เอากระเป๋าผ้าเล็กๆใส่เสื้อผ้า 1 ชุด + กระเป๋าเงิน + โทรศัพท์ + กุญแจรถ จะออกจากห้อง ที่ผ่านมาเวลาเราทะเลาะกัน จะเป็นเราที่พยายามเย็น เพราะถ้าเราร้อนด้วย เลิกกันนานแล้ว .. เวลาทะเลาะกัน เราเคยขอร้องไม่ให้ออกจากห้อง เราจะขอให้เค้าพยายายามใจเย็น คุยกันด้วยเหตุผล ตอนคนโมโห ไม่ฟังอะไร แล้วจะมาเสียใจทีหลัง ตอนที่มันสายไปแล้ว เราเคยบอกเค้าว่าถ้าเค้าไป แล้วเรายอมให้ไป แปลว่าเราก็จะไม่คบกับเค้าแล้ว ตัวเราไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ถ้าเรายังรักเค้าอยู่ เราจะทน แต่ถ้าหากวันไหนที่เราคิดว่าจะเลิก ต่อให้รักแค่ไหน เราก็จะไม่กลับไป .. ยื้อๆ ยุดๆ ฉุดๆกันอยู่ เค้าเริ่มทำรุนแรง เริ่มกระชาก ผลักเราชนกำแพงห้อง แล้วตบหน้าเรา 1 ครั้ง เรางง .. อึ้ง .. ไม่อยากเชื่อ เกิดมาไม่เคยเจอแบบนี้ พ่อแม่ พี่น้องเรา ไม่เคยมีใครทำกับเราแบบนี้ ทุกคนให้เกียรติเรา ดูแลเราอย่างดี แต่เค้าเป็นใคร รู้จักเรา 2 ปี แต่ตบหน้าเราด้วยเรื่อง ipad หรือจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามแต่ที่เค้าเอามากล่าวหาว่าเราทำ ซึ่งเราพยายามอธิบายว่าไม่จริง .. โดนตบหน้าไป 1 ครั้ง เราอึ้งไป สติเราเริ่มกลับมา ตาเริ่มสว่าง เราเริ่มปล่อยเค้า แต่เรายึดกระเป๋าที่เค้าใส่ของเค้าไว้ บอกเค้าว่าถ้าจะไป ก็ให้ไปแต่ตัว เค้าไปค่ะ .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:20:15 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 23:06:08 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 23:03:52

ความคิดเห็นที่ 32 อยากรู้ว่า ทำไม จบมหาลัย ภาษาอังกฤษคุณดีเลิศ ทำไมไปลองทำอาชีพอย่างว่า intercourse จริงๆ ถึงพริกถึงขิงด้วย อยากทราบแนวคิดอะคะ (อันนี้สงสัยจริงๆ อยากทราบเป็นความรู้  ) แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 23:32:31 จากคุณ : itssmallworld (itssmallworld) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 23:31:54

ความคิดเห็นที่ 33 ช่วงระยะเวลาแค่ไม่กี่นาที ที่เค้าเดินออกจากห้องแล้วปิดประตู เหมือนฟ้าบันดาล .. มี whatsapp เข้ามาที่เครื่องเค้า (ในกระเป๋าที่เรายึดไว้) เราเปิดดูแทบจะทันที .. เป็นข้อความที่คุยกันมาซักพักนึงแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ฝ่ายหญิงส่งรูป อ่างล้างหน้าที่ไหนซักที่นึง เป็็นรูป "ก้น" ผู้หญิงยืนโก้งโค้งอยู่ ส่งมาให้เค้า ส่วนข้อความที่พึ่งเข้ามา ถามว่า "นอนหรือยัง" เราจ้องข้อความนั้นอยู่นาน 1 นาที ตัดสินใจกดโทรออกไปที่เบอร์นั้น เป็นผู้หญิงรับโทรศัพท์ ส่งเสียงทักทายกลับมา ประโยคแรกที่เราถาม เราถามเค้าว่า "รู้จักแฟนเรานานหรือยัง" .. เพราะชื่อนี้เราจำได้ ว่ามีอยู่ครั้งนึงเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว เค้าโทรเข้ามาตอนเราอยู่กับแฟน โทรมาถามประมาณว่า พี่เอทำอะไรอยู่ แฟนเราตอบไปว่า "ทานพิซซ่าอยู่" .. เค้าบอกว่าเดี๋ยวโทรใหม่ .. วาง 15 นาทีผ่านไป โทรมาอีก เราเริ่มมองหน้าแฟน เค้าตอบผู้หญิงคนนั้นไปว่า "มีอะไรรึเปล่า ทานพิซซ่าอยู่กับแฟน" ผู้หญิงคนนั้นวางสายไป  เราเลยถามแฟนเราว่า มีอะไรทำไมไม่คุยกันล่ะ แล้วโทรมาทำไมไม่ยอมพูด .. แฟนเราก็บอกว่า ไม่มีอะไรหรอก รู้จักกันนานแล้ว เค้าแค่โทรมาทักทาย หลังจากนั้น เราไม่ติดใจอะไรอีก .. ตอนเราคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนนั้น เค้าพยายามปฏิเสธที่จะคุย พยายามจะวางสาย แต่เราพูดว่า เราเลิกกับพี่เอแล้วนะ ถ้าจะรับช่วงต่่อก็ได้ เราแค่อยากรู้ ว่าหลอกเรามานานหรือยัง .. เราถามเค้าว่าทำงานอะไร อยู่ที่ไหน เค้าบอกว่าเป็นช่างผม แต่อยู่ที่ไหน เค้าขอไม่บอก เราถามว่าวันนี้พี่เอเข้าไปตัดผมมาใช่มั๊ย เค้าตอบว่าใช่ (เวลาที่แฟนเราไปตัดผมแล้วเราโทรหา จะเป็นแบบนี้ตลอด ไม่รับโทรศัพท์) เราถามว่ารู้จักกันมานานหรือยัง เค้าตอบว่าำไม่นานหรอก ยังไม่ถึงปี เราเจ็บ .. .. เราถามเค้าว่า พี่เอเล่าเรื่องเราให้เค้าฟังว่ายังไง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มพูด "พี่เอเป็นคนดีนะคะ เค้ารักคุณนะ เค้าบอกว่าเค้าเคยมีแฟนก่อนหน้าคุณ แล้วเลิกกับคนเก่ามาคบกับคุณ แต่เค้าบอกว่าคุณน่ะหนีเค้าไปอยู่ต่างประเทศ คุณอยากเลิกกับเค้า เค้ารอคุณนะคะ เค้ามาตัดผมเดือนละครั้ง 2 ครั้ง มาทีไรก็บอกว่าคิดถึงแฟน แฟนกำลังจะกลับมาแล้ว ดีใจ เค้ารักคุณนะคะ เรากับเค้าไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรจริงๆ อย่าเลิกกันเลย" เราขอวางสาย .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:22:00 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:03:00 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 23:40:08 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 23:38:40 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 23:37:57

ความคิดเห็นที่ 34 คห. 31  แรงไปไหม   คุณจะเกลียดเค้าเรื่องอะไรก็อย่าไปด่าเค้าสิค่ะ เพราะมันแสดงถึงตัวตนคุณนะคะ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 55 23:45:33 จากคุณ : บัวใส เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 23:41:14

ความคิดเห็นที่ 35 โง่ ซํ้าซาก เบื่อ สม จากคุณ : วาว่า จุ๊มุ๊ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 23:53:29

ความคิดเห็นที่ 36 2 นาทีถัดมา เรา search หาชื่ออดีตคุณภรรยา ใช้เบอร์พี่เอกดโทรออก อดีตคุณภรรยารับสาย ขอแทนตัวอดีตคุณภรรยา = ex .. เรา = me .. me: สวัสดีค่ะ ขออนุญาตที่จะขอรบกวน เราเป็นแฟนใหม่ของพี่เอ ex: ค่ะ ว่ายังไงคะ me: เราไม่อ้อมค้อมนะ เราอยากทราบว่า คุณสองคนเลิกกันแล้วจริงหรือเปล่า ex: จริงค่ะ ตอนนี้เรามีความสุขมาก me: เค้าขอเลิกคุณด้วยเหตุผลอะไร ex: เค้ามาขอเงินชั้น 5 แสน บอกว่าเป็นหนี้ แต่ชั้นไม่ให้ ชั้นเอาเงินไปโปะบ้าน นี่ถ้าชั้นให้ไปคงเสียดายตายเลย เค้าเห็นชั้นมีเงิน เห็นพ่อแม่ชั้นรวยบอกว่าให้ขอเงินมาเยอะๆ คุณสองคนทะเลาะกันเหรอ? me: ค่ะ พึ่งทะเลาะกัน ex: ทะเลาะครั้งแรกหรือเปล่า เราจะบอกอะไรให้ ถ้านี่เป็นครั้งแรก คุณต้องทนไปอีกสิบ ยี่สิบครั้ง .. เค้าทำอะไรคุณรึเปล่า me: นิดหน่อยค่ะ ex: ชั้นก็โดนเหมือนกัน เค้าบอกชั้นด้วยว่าเค้าน่ะไม่เคยทำอะไรผู้หญิงมาก่อน ชั้นเนี่ย เป็นคนแรกที่เค้าลงไม้ลงมือ แต่ตอนนั้นชั้นยอม เพราะไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ แต่มาตอนนี้ชั้นดีใจที่เลิกกันได้ ชั้นจะได้ไม่ต้องมาคอยนั่งฟังเรื่องบริษัทกระจอกๆของเค้า มาฟังปัญหาที่ทำงานงี่เง่าเค้า ไม่ต้องมาคอยให้เงิน ซื้อข้าวของให้เค้า คุณเสียอะไรไปบ้างล่ะ me: ไม่มากหรอกค่ะ ของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย แต่ไม่มากมายอะไร ex: เลิกกันแล้วรึเปล่า ถ้าเลิกกันแล้วโทรมาหาเราทำไม me: เราแค่อยากรู้ว่าเค้าโกหกอะไรเราบ้าง ex: คุณเคยไปบ้านเค้ารึเปล่า me: เคยค่ะ ex: หืม.. แล้วพอชั้นไปที่บ้าน พ่อแม่เค้าบอกว่า ไม่เคยพาคุณมา ไม่เคยเจอคุณด้วย ต่อไปเราไม่พาลูกไปแล้ว me: พ่อแม่เค้าคงกลัวว่าคุณจะไม่พาหลานเค้าไปหามั๊งคะ .. พี่เอเค้ารักลูกนะ ex: ชั้นก็ให้เค้ามาหาได้ แต่พอมาก็มาแป๊บๆ แล้วก็รีบกลับ ลูกก็ไม่รู้จักพ่อเค้าหรอก ตอนนี้ชั้นอยู่กับลูกมีความสุขจะตาย me: ... ex: รู้จักกันนานหรือยัง me: 2 ปีแล้วค่ะ ex: ตั้งแต่เราท้องเลยเหรอ me: ค่ะ ex: .......... ทำไมคบกับเค้าล่ะ เค้าเทคแคร์ดีใช่มะ me: ค่ะ และเพราะ เค้าบอกว่าคุณไม่ดีกับเค้า เค้าอยากเลิก เค้าบอกว่าคุณโกหกเค้าเรื่องอดีตสามี โกหกเรื่องอายุ เค้าเก็บเป็นปม ไม่กล้าบอกคนที่บ้านเค้า .. เค้าบอกว่าคุณไม่ยอมมี sex กับเค้า เค้าบอกว่าคุณอยากได้เงินเค้า เค้าหามาเท่าไหร่ คุณก็ยึดหมด บอกว่าให้คุณทุกอย่าง ex: เงินที่ไหนมาให้ ชั้นเนี่ยแหล่ะเป็นคนหามา เค้าคิดว่าชั้นมี 5 แสนจะมาขอ บอกว่าเป็นหนี้ หนี้อะไรก็ไม่รู้ ขอดูใบแจ้งจากธนาคารก็ไม่เคยเอามาให้ดู ชั้นนี่แหล่ะเป็นคนขอหย่า แล้วให้ถอนชื่อออกจากบ้านชั้น ใบแจ้งหยี้บัตรเครดิตก็ให้ที่อยู่ที่ทำงาน นี่ถ้าธนาคารเค้ามาขอให้ชั้นใช้หนี้ด้วยจะทำยังไง เงินตั้ง 5 แสน เรื่องอะไรชั้นจะให้ นี่ถ้ารู้ว่าชั้นมีมากกว่านั้น จะขอมากกว่านั้นอีก me: ... เค้าบอกเราว่าเค้าขอหย่า เพราะคุณไม่ดีกับเค้า ex: ชั้นนี่แหล่ะ เป็นคนชวนไปหย่า จะมาขอเงินชั้น แถมเป็นหนี้ท่วมหัว ใช้เงินเกินตัว เห็นชั้นใส่นาฬิกา tag ก็อยากได้ เห็นน้องชายชั้นใส่ rolex ก็อยากได้ เป็นเจ้าของบริษัทกระจอกๆ เป็นวิศวะกระจอกๆ แล้วมาทำเป็นหลงตัวว่าหน้าที่การงานดี มาขอให้ชั้นซื้อของดีๆให้ เคยขอให้ชั้นซื้อนาฬิกา omega ให้ด้วยนะ แต่ชั้นไม่ซื้อให้ ชั้นไปซื้อ citizen ให้ก็ไม่พอใจ อยากได้ของแพงๆ ชั้นบอกให้เก็บเงินซื้อเองสิถ้าอยากได้ ก็ไม่เห็นจะมีปัญญาซื้อเลย เงินเดือนน้องชายชั้นเป็็นแสน เค้าก็ซื้อใส่ได้สิ แต่เค้าล่ะ ไม่มีปัญญายังอยากได้ me: ... (ปล่อยให้เธอระบาย) ex: บอกว่าเป็นหนี้อะไรกัน พอเลิกกันไป แป๊บเดียวกลับมามีรถคันใหญ่กว่าเดิมอีก ติดเครื่องเสียงมาด้วย เอามาอวดชั้นใหญ่เลย me: ... (ปล่อยให้เธอระบาย) ex: นี่คุณรึเปล่าที่ซื้อกระเป๋า louis ให้เค้าน่ะ me: ค่ะ ใช่ ex: ไอ้...*** .. แล้วก็มาบอกชั้นว่าผู้รับเหมาซื้อให้ ผู้รับเหมา here ที่ไหนจะซื้อกระเป๋า louis ให้ me: (ปล่อยให้เธอระบาย) ex: ทำตัวสำอางค์แว่นก็ต้องใส่ยี่ห้อเป็นหมื่น รองเท้าก็ต้อง สี่ห้าพัน เอาเงินมาจากไหน ไหนบอกว่าเป็นหนี้ไง me: เราซื้อให้ ex: ชั้นนึกว่าชั้นโดนคนเดียวซะอีก .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 02:41:41 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:10:13 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:06:39 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:01:36

ความคิดเห็นที่ 37 จากคุณ : PiGsPy เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:09:28

ความคิดเห็นที่ 38 ต่อคะ รออ่านคะ อยากรู้จุดจบ จากคุณ : jeeban_2 เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:11:30

ความคิดเห็นที่ 39 แมงดา ของแท้อ่ะ หลอกเอาเงินจากผู้หญิงกี่คนแล้วเนี่ย จากคุณ : เอ๋จังตัวน้อย เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:14:01

ความคิดเห็นที่ 40 เราเคยมีแฟนเก่า คล้ายๆแฟน จขกท. เลย แต่เลวมากกว่าหน่อยนึง เราโง่อยู่ 4 ปี มันไม่ยอมเลิกทำตัวโรคจิตมาอีก 5 ปี รวม 9 ปี เลขสวยเชียว ตอนนี้พ้นทุกข์ แต่งงานมีลูก กับผู้ชายธรรมดาๆ สบายใจ จากคุณ : mini_milk เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:46:55

ความคิดเห็นที่ 41 คุยกันอยู่พักนึง อดีตคุณภรรยาบอกว่า ถ้าพี่เอออกไปแต่ตัว ไม่มีอะไรไปด้วย เดี๋ยวเค้าจะกลับมาอีก .. พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น คุณอดีตเลยบอกให้เราไปคุยกับพี่เอซะ .. เราก็บอกคุณอดีตว่า ตอนนี้เรารู้ความจริงแล้ว เราเลิกแล้ว .. ถ้าเค้ากลับไปดูแลลูก เราจะดีใจด้วย ส่วนเรา .. เราไม่เอาแล้ว .. ถามเรื่องลูกเค้านิดหน่อย คุยกันประสาผู้หญิงโง่ๆอยู่พักนึง คุณอดีตบอกว่า : "เค้าคบกับคุณเพราะคุณอยู่ต่างประเทศรึเปล่า เค้าคบกับเราเพราะเราเคยไปเรียนต่างประเทศเหมือนกัน เค้าคิดว่าเราจะหาลู่ทางให้เค้าไปทำงานต่างประเทศได้" เราก็บอกไปว่า ไม่รู้เหมือนกัน เสียงเคาะประตูรัวๆมาอีก เราเลยขอวางสาย อารมณ์เราเปลี่ยนแล้ว ไม่เหลือเยื่อใยแล้ว ตัดแล้ว ไม่รักอย่างเดิมแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอ เราโง่ไปมากมายขนาดนี้ได้ยังไง เราเปิดประตูห้อง เค้าเดินเข้ามาในห้อง .. งงกับท่าทางเรานิดหน่อย เพราะเราไม่เข้าไปกอด ไม่เข้าไปง้อเค้าเหมือนเคย เค้ามองหน้าเราแล้วบอกว่า "จะมาเอาเงิน แล้วก็จะไป" .. พูดจบ.. หายเข้าไปในห้องนอน ไปเปิดลิ้นชักหาเงินตามกระปุกนั่นนี่นู่น เก็บเงินเหรียญสิบ เหรียญห้า ใส่กระเป๋ากางเกง เดินออกจากห้องนอนมาห้องนั่งเล่นที่เรานั่งนิ่งๆอยู่ มองหน้าเราแบบ แปลกใจว่าทำไมเราไม่ง้อเค้า เค้าก็บอกว่า "ไปแล้วนะ" เราก็ตอบ "ค่ะ" เค้างงๆ แต่ก็ออกไป .. เราเดินไปล็อกประตู 10 นาทีต่อมา เค้ากลับมาเคาะประตูอีก เราก็เปิดแล้วกลับมานั่งที่่โซฟา เค้ายืนเก้ๆกังๆพักนึงแล้วบอกว่า ถ้าไม่ให้กระเป๋าพี่ พี่จะเอากระเป๋าเราไปนะ แลกกัน แล้วก็จะมาหยิบกระเป๋าไป แต่เรารู้ว่าเค้าไม่ทำหรอก กระเป๋าเราแพง ถ้าเค้าเอาไปจริง เราก็จะแจ้งความ ส่วนเค้าไม่กล้าแจ้งความว่าเรายึดของเค้าไว้หรอก เค้ากลัวเสียหน้ายิ่งกว่าอะไร ตอนนั้น เค้าแค่อยากได้กระเป๋าเค้าที่เรายึดไว้ เลยขู่เรา รอดูด้วยว่าเราจะง้อรึเปล่า เราก็เล่นตามน้ำไปนะ ไปแย่งกระเป๋าเรามา บอกว่าจะเอากระเป๋าไปก็ได้ แต่เราขอเอกสารเรามาก็แล้วกัน เพราะมันทำยาก .. ก็หยิบเอกสารออกมา ทิ้งกระเป๋าไว้ อยากได้ก้เอาไป.. เค้าไม่ไปค่ะ .. เค้ากลับไปนั่งที่โซฟา แล้วเริ่มพูดดี แต่ ณ ตอนนั้นเราหมดใจแล้ว "เธอมีคนอื่น เธอโกหกพี่ เธอ นั่นนี่นู่นเยอะแยะ เธอหลอกลวงพี่ เหมือนที่เค้าทำกับพี่" เรื่องหลอกลวง เราแน่ใจ ว่าคนที่ทำแบบนั้น ไม่ใช่เราแน่ เราก็บอกเค้าไปว่า เราบอกเค้าหลายครั้งแล้ว ว่าเราไม่มีใคร ทั้งชีวิตนี้ เหลือผู้ชายอยู่คนเดียวคือเค้า ตัดเพื่อน และแทบจะตัดทุกสิ่งทุกอย่างออกจากชีวิต เพราะเรารักเค้า กลัวเค้าไม่สบายใจ แต่ในเมื่อเค้าไม่เชื่อ เราก็หมดปัญญาแล้ว จะไปไหนก็ไปเถอะ เค้าไม่ไป .. ยังพร่ำพูดอะไรอีกเยอะแยะ แล้วบอกว่า ขอเบอร์โทรศัพท์ 2 เบอร์ที่อยู่ในเครื่อง แล้วจะไป เราบอกว่าไม่ให้ เค้าก็นั่งพูดไปอีก สุดท้ายเราหยิบพวงกุญแจรถออกจากกระเป๋า วางไว้ที่โต๊ะ เปิดประตูห้อง แล้วบอกให้เค้าออกไป เค้าแปลกใจ .. เดินไปปิดประตูห้อง ถามเราว่า จะเลิกกับเค้าจริงๆใช่มั๊ย เรายืนยันว่าจริง ต่อไปนี้เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในชีวิตเค้าอีก บอกเค้าว่าไปซะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก .. เค้าบอกว่าต้องกลับมาสิ เค้าต้องมาเก็บของ เค้าจะคืนห้อง เราบอกไปว่า ถึงตอนที่คุณกลับมา .. เราก็ไม่อยู่แล้ว ก็ถามเราอีก ว่าเลิกจริงใช่มั๊ย .. เค้ายังยืนลังเล สุดท้ายหยิบกุญแจรถแล้วออกไป (เราเลือกให้พวงกุญแจรถเพราะในนั้นมีกุญแจห้อง +  key card เข้า condo) พอเค้าไป เราหยิบโทรศัพท์เค้ามา search ดูข้อมูลทุกอย่างที่มี ดู history ใน browser เราเจออะไรรู้มั๊ย เจอ keyword ว่า .. "แก้ผ้า ตัดผม, ตัดผมเสียวๆ, ตัดผมเสียวสุด" "โรงแรมทาวน์อินทาวน์" ... ใบ้รับประทานไปอีกหน เข้าไปดูใน map เห็นเค้า search เส้นทางไปร้านตัดผมเสียวๆที่ว่านี้ คนเรา .. จะอะไรมากมายได้แค่ไหนกันเี่นี่ย น้ำตาเรานี่ .. หดเหือดแห้งหายไปตั้งแต่ ช่างตัดผมคนนั้นส่งข้อความมาแล้ว 4 ทุ่ม เราโทรหาเพื่อน บอกไปสั้นๆเลย ว่าเลิกกับพี่เอแล้วนะ เพื่อนพูดมาคำเดียว .. "น่าจะเลิกตั้งนานแล้ว" .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 03:14:36 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:25:53 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:53:49 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 00:51:27 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:49:28

ความคิดเห็นที่ 42 รออ่านนะคะ จากคุณ : uorda เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:53:17

ความคิดเห็นที่ 43 สรุปมานหลอกแดรกมาหลายคนละงั้นซิ จากคุณ : 3N เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:53:22

ความคิดเห็นที่ 44 รออ่านอยู่นะคะ จากคุณ : เกินบรรยาย เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 00:55:38

ความคิดเห็นที่ 45 แมงดา ของแท้ เลย 555+ แมงดา มันจะ ชอบ ร้องเพลง เอาอกเอาใจ ไม่ยอมหาอาหาร มันขออาหาร จาก ผู้หญิง โง่ๆ ที่ ชอบ มัน 555+ มันมีกลิ่น นิสัย เฉพาะ ตัว นะ คือ จีบสาวเก่ง เทคแคร์เก่ง พูดเก่ง ทำตัวรวยมีเงิน ตามที่ จขกท ว่า มี 10 จ่าย 100  ไม่รู้มันเอามาจากไหน หน้าที่การงานไม่ชัดเจน 555+ นี่แหละ คือ อุปนิสัย ของแมงดา ญ คนใด รู้ สึกอยู่ใกล้ แมง ชนิดนี้ ให้ ห่างๆ ไว้ นะจ๊ะ 555+ ด้วยความปรารถนาดี จาก Julia-Robot นะครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:08:44

ความคิดเห็นที่ 46 เลือกผัวผิด คิดผิดจนตัวตาย 555+ มีคนใหม่ คิดให้ดีๆ นะครับ ถ้าผมเป็น จขกท ผม จะจ้างคน มา ตื๊บๆๆ ให้เข็ดเลย 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:13:22

ความคิดเห็นที่ 47 รออ่านคะ สงสารคุณจัง ที่จริงชีวิตคุณคงมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าคุณไม่ต้องมาเจอกับผู้ชายแบบนี้ ...คุณเชื่อเรื่องผลกรรมของการทำแท้งไหมคะ?? ไม่ได้จะมาว่านะคะ เราเข้าใจนะ เพราะคงไม่มีใครอยากทำร้ายลูกตัวเองให้เป็นบาปติดตัวหรอก .... แต่ไม่รู้คุณเชื่อเรื่อง "กฎแห่งกรรม" รึป่าวนะ อยากขอแนะนำคะ ให้บวชชีพราม และหมั่นทำบุญอุทิศบุญไปให้เด็กคนนั้นให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ (ในความเชื่อของชาวพุทธ บาปการฆ่าชีวิตผู้อื่น โดยเฉพาะลูกของตัวเองเป็นบาปหนัก) ... แต่สิ่งที่เราแนะนำคุณไป มันคงไม่สารถลบล้างกับบาปกรรมต่างๆได้ หรอกนะคะ เพียงแต่มันจะบรรเทาผลกรรมที่จะตามมาอีกให้มันเบาลง (พี่สาวเราเคยทำแท้งคะ สิ่งที่พี่เราเจอไม่ต่างกับคุณเลยคะ แถมยังเจ็บเอวเจ็บหลังเหมือนมีใครเกาะเอวตลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ...**อันนี้แล้วแต่ความเชื่อของบุคคลอะคะ)หลังจากพี่เราทำสิ่งที่เราบอกคุณไป เค้าก็หายเจ็บเอว แต่อย่างอื่นเหมือนเดิม เพราะอย่างไรก็ตาม กรรมที่เคยก่อ ยังไงก็ต้องชดใช้กันไปคะ ไม่มีสิ่งใดบนโลกสามารถลบกรรมที่ก่อได้ แต่ทำให้เบาบางลงได้คะ ... แต่ถึงแม้หากคุณไม่ค่อยเชื่อเรื่องเวรกรรมสักเท่าไหร่ เราก็ยังอยากให้คุณหมั่นทำบุญนะคะ เพราะอย่างน้อยมันก็คงดีกว่าการที่คุณจะวางเฉยไปเลย อย่างน้อยก็ทำเพื่อตัวคุณเอง แล้วคุณจะสัมผัสได้ว่าคุณมีสบายใจขึ้น เป็นกำลังใจให้แล้วกันคะ ปล.เงินที่ให้ผู้ชายคนนั้นไป ควรเอาไปบริจาคสถานเลี้ยงเด็กยากไร้ดีกว่านะคะ เป็นการสร้างกรรมดีให้ตัวเอง และอุทิศผลบุญไปให้กับเด็กที่คุณทำร้ายเค้า และนอกเหนือสิ่งอื่นใด เงินจำนวนนั้นอาจช่วยสร้างอนาคตให้เด็กอีกหลายคนเลยคะ ^^ จากคุณ : คนผ่านทาง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:25:10 A:141.0.11.36 X: TicketID:219343

ความคิดเห็นที่ 48 จูเลียโรบอท  กิฟท์ผมมีแต่มือถือมันให้ไม่ได้ติดไว้ก่อนนะ  ถูกใจหลายเด้อ จากคุณ : คนกลางวัน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:27:48

ความคิดเห็นที่ 49 แฟนเก่าเพื่อนผมก็กำลังเป็นแบบคุณนี่แหล่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย แต่คิดว่า อีกซัก 4-5เดือนคงรู้กันว่า จะจบแบบคุณหรือเปล่า? จากคุณ : rexiii เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:31:00

ความคิดเห็นที่ 50 ชอบตอนคุยโทรศัพท์กับอดีตภรรยามากค่ะ เห็นภาพหญิงแกร่งสองคน เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ อย่าลืมทำบุญให้ลูกๆ ของคุณนะคะ จากคุณ : บุ๊งแบงค์ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:33:48

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีค่ะคุณปลาทองเผือกมาก .. ประสบการณ์ชีวิตของคุณครั้งนี้ หนักหนามากจริงๆ .. เราเข้ามาอ่าน และเห็นหลายความเห็นที่ว่าคุณว่าโง่ ..อย่าเพิ่งใส่ใจนะ เขาอาจฟังเรื่องราวไม่หมด หรืออาจยังไม่ได้ใช้เวลาให้มากพอที่จะเข้าใจชีวิตคนอื่นที่อาจทำเรื่องที่คนชอบพุดกันว่า ความรักทำให้ตาบอด ...หรือแม้แต่ตัวคุณเอง  ถึงคุณจะมองว่าตัวเองโง่ แต่เราก็ยืนยันว่า ทุกคนที่มีความรัก ไม่มีใครใช้สมองมากกว่าหัวใจค่ะ ... "ยังมีคนที่เข้าใจ" .. ขอบคุณ ... อย่างน้อยก็ได้เห็นอีกแง่มุมนึงของผู้ชายเทคแคร์ดีจนน่าประทับใจ ขี้เล่น แสดงอาการหึงหวงเหมือนว่ารักเรามากนั้น .. มันก็เป็นเพียงละครบทหนึ่ง ตัวตนมันซ่อนไว้ข้างในลึกเกินรู้ หรือสัมผัสได้ หรือสัมผัสได้แต่คำว่ารักทำให้ไม่ยอมรับ รู้สึกขอบคุณจริงๆ นะ เพราะไม่ว่าด้วยเจตนาใด ระบายหรืออยากให้คนอื่นเก็บไว้เป็นบทเรียน .. มันเกิดประโยชน์ต่อคนอ่านจริงๆ ร้องไห้อยู่หรือเปล่า .. ปาดน้ำตาให้กับอดีต .. น้ำทุกหยดมีค่า โดยเฉพาะน้ำตา เพราะพ่อแม่ให้เราเกิดมา หวังให้เรามีความสุข .. คนที่รู้จักเราแค่ 365 วัน x 2 = 730 วัน ..ไม่สามารถมีอิทธิพลต่อชีวิตที่เหลือของเราได้นะ **** เราเห็นด้วยกับความเห็นข้างบน ที่เกี่ยวกับการทำแท้งนะคะ **** แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 01:40:33 จากคุณ : แกงส้มผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:35:38

ความคิดเห็นที่ 52 แย่งของเขามาก็แบบนี้แหละค่ะ  มันเป็นสัจธรรมคู๊ณณณณณณณณ ตอนเอาของเขามาทำไมไม่คิดก่อนละค่ะ ไม่ได้อยากซํ้าเติมนะ แต่ถ้าขอความเห็นใจเราคนนึงนะไม่มีให้ ขอโทษจริงๆนะค่ะ เรียนมาก็สูง ต่างประเทศก็ไปอยู่มาแล้ว ทำไมคิดไม่ได้ค่ะ หรือความรักมันทำให้คุณตาบอด??? แล้วตอนนี้จะมาให้คนอื่นเห็นใจ???  แต่ถ้าคุณเล่าเผื่อเป็นวิทยาทาน ก็โอเคนะค่ะ จากคุณ : haremgirl เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 01:38:51

ความคิดเห็นที่ 53 บอร์ดนี้เป็นบอร์ดสาธารณะ เราคิดว่าคุณรู้อยู่แล้ว และคิดว่าคุณก็รู้ด้วยว่า จะมีทั้งชอบ ไม่ชอบ เห็นใจ ทับถม ให้กำลังใจ ดูถูก เหยียดหยาม และก่นด่า แต่เมื่อคุณตัดสินใจเล่าแล้ว คุณต้องยอมรับได้ทุกความคิดเห็น ร้อยพ่อพันแม่ ย่อมคิดเห็นแตกต่างกันไป ยังไงก็ขอให้คุณผ่านพ้นไปได้ และขอให้ทางชีวิตก้าวต่อไปของคุณสดใส สดชื่น สมหวัง และที่สำคัญคุณต้องกำหนดจุดหมายของชีวิตคุณให้ได้ อย่าเป็นแม่พวงมาลัย ลอยลมไป ลอยลมมาอีกเลย คิดถึงพ่อ-แม่ ของคุณบ้างถ้าท่านรู้ว่าคุณเดินผ่านอะไรมาบ้าง ท่านอาจอกแตกตายได้นะคะ ขอให้คุณได้พบกับฟ้าหลังฝนไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ป้าด้วงค่ะ (ดอกดาวเรือง) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 02:08:45

ความคิดเห็นที่ 54 ถึงทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณนะคะ ทั้งความเห็น ติ ด่า ว่า กำลังใจ อะไรทั้งหลายแหล่ @ *haremgirl * .. เราไม่ได้ขอความเห็นใจนะคะ >.< เราไม่ได้ .. ยังไงล่ะ ไม่ได้อยากให้อ่านเพื่อให้รู้สึกสงสารหรืออะไร เราแค่อยากระบาย อยากเล่า หรือเป็นวิทยาทานตามที่คุณว่ามาก็ได้ค่ะ คุยกับคุณภรรยาเค้าแล้ว เหมือนผู้ชายหรือคนที่เราคิดว่ารู้จัก กลับเป็นใครไม่รู้ .. 2 ปีที่ผ่านมา นี่หรือตัวจริง อะไรประมาณนั้น ช่วงนี้จะมานัั่งคิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ว่าเราเคยหลอกเค้ามั๊ย เป็นอย่างที่เค้ากล่าวหามั๊ย แล้วเค้าโกหกเราเรื่องอะไรบ้าง เราเป็นตัวตลกสำหรับครอบครัวเค้ายังไง เพราะทุกครั้งที่ไปบ้าน ทุกคนดูต้อนรับขับสู้ดี .. เพื่อนเราบอกเราว่า อยากเจอผู้หญิงอย่างเราบ้าง .. โง่ได้ใจดีแท้ เค้าเตือนตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราไม่เชื่อเค้า .. เพื่อนเราพูดกับเรา แรงกว่าคุณอีก เราฟังแล้วก็เก็บเอามาคิดค่ะ ว่ามันจริง ความรักทำให้ตาบอดมั๊ย เราไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ตอนที่คบกัน เรารู้ตัวดีทุกอย่าง ข้อดี ข้อเสียเค้าเราแจกแจงได้หมด เพื่อนเราก็บอกว่า รู้ทั้งรู้ยังทนทำไม .. เราก็บอกไปว่า เราคิดว่าเราทำให้เค้าต้องเลิกกัน เป็นเพราะเรา .. เราต้องรับผิดชอบอะไรซักอย่าง จนถึงตอนนี้เรายังถามเพื่อนเราอยู่เลย ว่าที่ตัดสินใจเลิกกับเค้า + เปลี่ยนเบอร์โทร เปลี่ยนเมลล์นี่ เราทำถูกแล้วหรือเปล่า เพื่อนก็พูดแค่ว่า .. ที่ผิด ผิดอยู่อย่างเดียว คือเลิกช้าไป บอกว่า เราโง่ทำอะไรอยู่ตั้งนาน .. ก็คงจริง (: .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 02:13:38 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 02:12:02 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 02:10:09

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท ไหวไหมคะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้เล่าจนจบนะคะ เพื่อบ้างคนทำอยู่เข้าใจได้ระวังและกลัวขึ้นมาคะ จากคุณ : uorda เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 02:10:49

ความคิดเห็นที่ 56 มีต่ออีกไหม กำลังอิน เลิกเด็ดขาดหรือป่าว กลัวแมงดามันไม่ยอมเลิกลา จากคุณ : ความรักมาทักทายแล้วหายไป เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 02:29:11

ความคิดเห็นที่ 57 ตอนนี้เราย้ายออกมาจากคอนโดที่อยู่ด้วยกันแล้ว ที่จริงย้ายออกมาตั้งแต่คืนที่ทะเลาะกันนั่นล่ะค่ะ แล้วถ้าหากเค้าได้คุยกับคุณอดีตเค้า เค้าคงทราบแล้ว ว่าเราโทรไปคุย และถ้าได้รู้ว่าเราโทรไปคุยกับคนนั้นคนนี้ ไม่ใช่แค่กับคุณอดีต เค้าคงจะละอาย ไม่กลับมาแล้วล่ะค่ะ .. จบทั้งที ก็เจ็บๆไปเลยละกัน หลังจากนี้ เราคงปิดรับข่าวสารเค้าเหมือนกัน เลิกเล่นเฟซบุค เปลี่ยนเมลล์ เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนที่พัก นี่ก็ไปลงเรียนคอร์สอะไรไว้เยอะแยะ ไม่อยากให้ตัวเองว่าง เดี๋ยวฟุ้งซ่าน ไปลงเรียนขับรถไว้ด้วย ไม่อยากเป็นภาระให้ใครต้องไปรับ ไปส่งแล้ว เพื่อนเราพยายามโทรหาเราทุกวัน กลัวว่าเราจะใจอ่อนแล้วโทษตัวเอง ไปง้อเค้าอีก แต่ครั้งนี้ เราหยุดแล้วจริงๆ ที่ผ่านมา เราโทษตัวเอง ว่าตัวเราเองไม่ดีมาตลอด พอเค้าว่าอะไรมาก็เลยทน เพราะเคยคิดว่าเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบ ถามว่าตอนนี้รู้สึกยังไงกับเค้า เรายังเป็นห่วงเค้านะ เป็นห่วง .. แปลกดี ทั้งๆที่เค้าทำขนาดนี้ เรายังห่วง แต่ก็คงแค่เป็ฯห่วงอยู่ห่างๆ .. ไม่ไปยุ่งเกี่ยวแล้ว จะเลิกให้ได้ค่ะ .. .. แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 02:58:33 จากคุณ : ปลาทองเผือกมาก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 02:57:18

ความคิดเห็นที่ 58 เรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดแล้วก้าวต่อไปครับ มนุษย์ทุกคนย่อมเคยโง่มาก่อน แต่ละคนก็โง่กันไปคนละเรื่อง การที่คุณนำเรื่องของคุณมาแบ่งปัน มันก็เป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง คือ เป็นบทเรียนให้คนอื่นๆนำไปเรียนรู้ในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น... เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 07:41:24

ความคิดเห็นที่ 59 ดีใจกับ จขกท. ที่พ้นสภาพนั้นมาได้ อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไป รู้แล้วว่า "กรรม" มันเป็นยังไง ต่อไปจะทำอะไรขอให้คิดให้ถ้วนถี่ คุณจขกท. โชคดีที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่น ต่อไปขอให้ คุณใช้โอกาสที่มีพาคุณไปสู่สิ่งที่ดีนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (suttimon) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 08:06:53

ความคิดเห็นที่ 60 สิ่งที่ จขกท. เจอ คงจะเป็นคำตอบได้ดีกับการใช้ชีวิต เราคงจะไม่เข้าไปตัดสินว่าสิ่งที่คุณทำมันถูกหรือผิด เพราะทุกคนล้วนมีมุมมองและเหตุผลในการกระทำที่แตกต่างกัน เหตุผลของคนๆนึงอาจจะสวนทางกับอีกคน.... แต่สิ่งที่เรารับรู้ได้คือ จขกท.โชคดี คุณเป็นคนที่มีโอกาสในชีวิตมากมาย ใช้ชีวิตได้อย่างฟุ่มเฟือย เราแค่หวังว่าคุณจะแบ่งปันมันให้กับคนอื่นๆ บ้าง ในโลกนี้มีคนมากมายที่ยังขาด....มีเด็กมากมายที่ยังอด.... คุณลองแบ่งความสุขของคุณที่มี ให้กับพวกเขาเหล่านี้บ้าง คุณอาจจะค้นพบความสุขที่แท้จริงก็ได้ จะได้ไม่ต้องไล่ตามเหมื่อนที่ผ่านมา..... จากคุณ : น้ำแข็งกรด เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 09:18:51

ความคิดเห็นที่ 61 คนอ่านกระทู้นี้มี 3 แบบ 1. เป็นเมียหลวงแล้วสามีมีเมียน้อย 2. เป็นเมียน้อยที่ถูกเมียหลวงตามจิกไม่ปล่อย 3. เป็นพวกชอบเรื่อง Drama ของคนอื่น ... เข้าใจเลย ว่าทำไมบาง comment ถึงด่าเหมือน จขกท เขาทำแบบนี้กับคุณ และบาง comment ก็เห็นใจ๊ เห็นใจเหลือเกิน ^_^ จากคุณ : WDDY (WDDY) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 09:39:47

ความคิดเห็นที่ 62 ไปอยู่กับเพื่อน  ชีวิตจะได้มีสีสัน+เฮฮามากขี้นนะครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : น้องขาวปากดำ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 09:59:55

ความคิดเห็นที่ 63 อาจจะไม่เกียวกะเนื่อเรื่อง escort คืองานอะไรหรอค่ะ อยากรู้มันแปลว่าอะไร ทำอะไรหรอค่ะ จากคุณ : ไม้ตายพิฆาตดาวตก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 10:10:39

ความคิดเห็นที่ 64 เอาใจช่วยนะคะ  วันข้างหน้าขอให้พบเจอแต่สิ่งดีดี ค่ะ จากคุณ : Eink เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 10:32:03

ความคิดเห็นที่ 65 คนเราไม่สมบูรณ์ทุกแบบหรอกครับ คุณคิดว่าชีวิตคุณแย่ แต่ผมว่ามีหลายคนที่อิจฉาคุณนะ ชีวิตคุณมีโอกาสเยอะอย่างที่หลายๆกระทู้บอก สิ่งที่คุณทำอาจผิดบ้าง ถูกบ้าง ตามแบบชีวิตแต่ละคน แต่ที่ดูลึกๆคุณเป็นคนดีนะครับ สิ่งที่คุณทำวันนี้ผมว่ามาถูกทางแล้วนะ ในความคิดผม อดีตที่เคยผิดพลาดหวังว่าจะเป็นสิ่งกระตุ้นในการตัดสินใจทำอะไรในวันข้างหน้านะครับ ขอให้เข็มแข็ง ผ่านมันไปได้ด้วยดี ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ เป็นกำลังใจให้ นะครับ จากคุณ : GUM เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 10:44:27 A:118.172.103.191 X: TicketID:318713

ความคิดเห็นที่ 66 ของแบบนี้ไม่เจอกับตัว ไม่อยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าทำไม จขกท. ถึงได้เป็นแบบนั้น เป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปให้ได้ครับ...สู้ๆ  แล้วจะรู้ว่าฟ้าหลังฝนมันสดใสจริงๆ จากคุณ : Red_Arsenal เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 11:12:17

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านแล้วเศร้าใจ บ้านมีฐานะ การศึกษาสูง ไม่น่าใฝ่ต่ำได้เลย ขอให้เจอคนที่รักคุณจริง ดูแลคุณได้ เร็ว ๆ นะคะ ขอให้เอาความผิดพลาดทั้งหมดมาเป็นบทเรียน และก้าวผ่านเรื่องแย่ ๆ เริ่มต้นสิ่งดี ๆ ซักทีนะคะ จากคุณ : นางมารปากร้าย (หมาน้อย 4 ตัว) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 11:29:25

ความคิดเห็นที่ 68 escort ที่เราเคยได้ยินและเข้าใจ ประมาณว่าคุณโสชั้นสูงอะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ ดูจากในหนังง่ะนะ จากคุณ : พี่ปุย เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 11:43:47

ความคิดเห็นที่ 69 escort คือ ผญ สวยๆที่นั่งตามผับ คอยเป็นเพื่อนดื่มกับลูกค้า คอยสั่งเครื่องดื่มให้ลูกค้า(จ่าย)เยอะๆ ถ้าคุยถูกใจ จะไปต่อข้างนอก ชั่วคราวหรือค้างคืน ก็ตกลงกันเอง พากันไปเอง จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 11:50:27

ความคิดเห็นที่ 70 อ่อ............... อืม................ สังคมก็แบบนี้แหละ หลอกกินกันไปๆ มาๆ......... จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 12:09:17

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นความรู้ใหม่จริงๆ escort นี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย จากคุณ : nAHMLeMoN เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 12:10:26

ความคิดเห็นที่ 72 อ่อ สงสัยคำนีีเหมือนกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ คะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 12:42:46

ความคิดเห็นที่ 73 ดีใจกับ จขกท ที่รอดพ้นจากผู้ชายคนนั้นมาได้   เเละเสียใจด้วยเรื่องลูกที่ทำเเท้ง เเละที่เเท้งเอง  หมั่นทำบุญไปให้เค้าทั้งสามคะ   ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ขอตอกย้ำซ้ำเติม เพราะทุกคนมีโอกาสเดินทางผิดเท่าๆกัน จากคุณ : Kapolo-KaTeJung เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 13:34:13

ความคิดเห็นที่ 74 พี่เอนี่หล่อมากเลยหรอ ทำไมนิสัยแย่แบบนี้แล้วยังมีคนเอา จากคุณ : หล่ออย่างพอเพียง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 14:07:05

ความคิดเห็นที่ 75 ตามอ่านไม่ไหว แต่ตราบใดที่ปัญญายังไม่เกิด คุณก็คงจะเวียนว่ายอยู่อย่างนี้แหละครับ เท่าที่อ่านคุณใช้กิเลสเป็นตัวนำชีวิต ลองเปลี่ยนไปใช้ธรรมะนำชีวิตแทนนะครับ อย่างน้อยคุณรู้ตัวว่ากำลังโง่ก็ถือเป็นเรื่องดีครับ จากนี้ไปอยู่ที่ว่าอยากจะหายโง่มั้ย กรรมใครกรรมมันครับ ผมคงทำได้แค่นี้ จากคุณ : ปึงเจ็กตี่ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 15:02:42

ความคิดเห็นที่ 76 เราคิดว่าคุณหลงผิด หลงทางมากกว่า แต่คุณก็เป็นคนสู้ชีวิต และหาเงินได้เยอะ เริ่มต้นใหม่เถอะค่ะ ไม่มีคำว่าสาย จากคุณ : เรนโบว์สายรุ้ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 15:12:44

ความคิดเห็นที่ 77 เป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ คนเราอ่ะ มันต้องมีบางช่วงของชีวิตแหละที่ทำอะไรไม่ดีไปบ้าง อยู่ที่ว่าตอนนี้ จขกท รู้สึกตัวแล้ว ก็ขอให้เข้มแข็งและสู้ต่อไปค่ะ ดิฉันอ่านตั้งแต่ต้น รู้สึกชอบในตัว จขกท นะคะ ปล.  ขออนุญาตด่าผู้ชายคนนั้นคำนึงนะคะ "ไอ้เลวววว" จากคุณ : ผู้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 15:52:42

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านถึงตรงนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ จากคุณ : penza เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:01:12

ความคิดเห็นที่ 79 แล้ว intercourse คืออะไร จากคุณ : tears for fears เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:04:39

ความคิดเห็นที่ 80 อย่าร้องไห้นะคะ จขทก.เรื่องที่ผ่านมาเก็บไว้เป็นบทเรียน ตอนนี้เดินออกมาจากชายคนนั้นได้ นับว่า บุญกุศลยังเกื้อหนุนอยู่ เอาชีวิตที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์นะคะ เอาใจช่วยค่ะ เข้าใจค่ะกับคำว่า "ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมนต์ " ตอนนี้ตาสว่างแล้วนะคะ โอ๋ๆๆๆๆ สู้ๆๆ ต่อไปค่ะ จากคุณ : โฉมสะคราญอันดับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:09:02

ความคิดเห็นที่ 81 มาเพิ่มจาก คห 69 ว่า escort ที่เป็น ผช หล่อๆ ก็มีเยอะ อยู่ตาม lady's pub หรือผับสำหรับผู้หญิงเหงาๆที่มีตังค์ คอยเป็นเพื่อนดื่ม เพื่อนคุย และออฟออกไปข้างนอกได้เหมือนกัน อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ ตามผับของเกย์ กลุ่มนี้ไม่ค่อยออฟออกไปข้างนอก ในนั้นมีบริการสถานที่ให้เสร็จสรรพ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:14:42

ความคิดเห็นที่ 82 mark ไว้ตรงนี้ จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:16:31

ความคิดเห็นที่ 83 สำหรับเรา การปฏิบัติต่อแฟน ถือมาตรฐานง่ายๆ กับพ่อแม่ที่เรารักมาก เราเคยต้องทำขนาดนี้ไหม การปฏิบัติต่อท่านถือว่าสูงสุดแล้ว ถ้าจะให้มากกว่าหรือเทียบเท่าที่ปฏิบัติต่อพ่อแม่ ไม่ได้! และไม่ทำ! หรือการกระทำใดๆ ที่แฟนทำไม่ดีกับเรา เราจะถามตัวเองว่า พ่อแม่ยังไม่เคยทำอย่างนี้กับเรา แล้วคนๆ นี้เป็นใคร สำคัญขนาดไหนเชียว เพราะฉะนั้นคนที่คบแล้วมีท่าทีหลอกใช้ หรือหาประโยชน์จากเราเพื่อเค้า จะถูกตัดออกจากวงจรชีวิตทันที ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือใคร คบได้ แต่แค่ยิ้มแค่ทักทาย ********* เป็นกำลังใจให้ จขกท. ที่ผ่านมาถือซะว่าให้ทาน หรือชดใช้สิ่งที่ชาติก่อนเคยไปเอาของเค้ามา ชีวิตคน ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต จำไว้เป็นบทเรียน แล้วเดินหน้าต่อไปนะคะ พ้นเคราะห์แล้ว คงได้เจอผู้ชายดีๆ ที่รักคุณจริงสักที โชคดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 55 08:48:38 จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:25:05

ความคิดเห็นที่ 84 สิ่งที่ จขกท เผชิญอยู่ตอนนี้คือ ผลจากการตัดสินใจของ จขกท เอง ไม่ต้องไปโทษใคร ขอให้โทษตัวเองและจำไว้เป็นบทเรียนค่ะ เวลาเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาแผลใจ เป็นกำลังใจให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 16:27:23 จากคุณ : Violetina เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:25:53

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณ .... ที่มาแชร์ประสบการณ์นะจ๊ะ ดีใจด้วยที่ก้าวพ้นจากตรงนั้นมาได้ คุณมีประสบการณ์ชีวิตที่สูงมากจริง ๆ ถ้าเทียบกับคนในวัยเดียวกันอีกหลายคน ขอให้พบชีวิตใหม่ที่ดีและมีความสุขจ้า จากคุณ : เบดูอิน (เบดูอิน) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:53:39

ความคิดเห็นที่ 86 ดีใจด้วยที่คุณเลิกกับเขาได้ เชื่อว่าต่อไปคุณคงมีรักใหม่ อยากขอให้อย่ายุ่งเกี่ยวกับคนมีครอบครัวแล้ว และอย่าทำแท้งอีก ๒ อย่างนี้หากทำ มันเป็นบาปติดตัวผู้กระทำ (และผู้สมรู้ร่วมคิด) จากที่อ่านชีวิตคุณ พอจะทราบว่าคุณเป็นคนมีฐานะและยังสาว ยังสวย มีความสามารถ ก็ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ให้ระลึกถึงบาปให้มากๆ หากคุณเจอคนที "ใช่" แต่มี "พันธะ" คุณจะได้ไม่ต้องทำบาปทั้งๆที่รู้ ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม คือ ยุ่งเกี่ยวกับคนมีครอบครัวแล้ว และ ทำแท้ง ขอให้อดีตเป็นบทเรียนที่คุณได้เรียนรู้ที่จะไม่ก้าวพลาดอีกนะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : หลง หลง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 16:59:26 A:158.34.240.22 X: TicketID:329794

ความคิดเห็นที่ 87 เราพูดได้คำเดียวค่ะ 'เลิกเถอะนะ' ผู้ชายแมงดาแบบนั้น คุณจะเก็บไว้ทำบ้าอะไร -*- รู้จักหันกลับมารักตัวเองบ้างอะไรบ้าง คุณจะยอมให้เขาโกหก ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหรอ เราว่านะ ถึงคนๆ นั้นจะเทคแคร์เราดีแค่ไหน แต่เป็นคนชอบโกหก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันคบไม่ได้หรอก คุณไม่ได้โง่หรอก แต่คุณแกล้งโง่ต่างหาก แล้วสิ่งที่คุณต้องไปทำนะ ไปทำบุญให้ลูกบ้าง เราไม่รู้นะว่าคุณเชื่อเรื่องบุญ เรื่องเวงเรื่องกรรมบ้างมั้ย แต่ขอให้เชื่อนิดหนึ่งเถอะ เรื่องทำแท้งนะเรื่องใหญ่มากนะ ไปทำบุญเถอะค่ะ จากคุณ : amakin เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 17:43:53

ความคิดเห็นที่ 88 มาลงชื่อว่าอ่านจบแล้วค่ะ แต่ไม่ขออกความเห้นใดๆ...และเดินจากไปอย่างเงียบๆ จากคุณ : คนบ้านบ้าน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:15:09

ความคิดเห็นที่ 89 เป็นกำลังใจให้นะคะ คุณเป็นคนที่ถือว่าโชคดีและมีโอกาสดีๆเข้ามาหาคุณเสมอๆ สองปี  ที่เลวร้าย ถือเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ค่ะ เรามีเพื่อนห่างๆ ชีวิตคล้ายๆคุณ  เค้าโชคดีเกิดมาในครอบครัวที่ดี มีงานที่ดีมีเงินมากมายย วัยเด็กเติมโตจากเมืองนอก จบมหลัยชื่อดังที่เมืองนอก มีคนดีดีเข้ามาให้เลือกมากมาย แต่ก็ไม่เลือก มาได้กับที่จ้องจะเอาเปรียบ เห็นแก่เงินนน แต่ละคนที่เข้ามา เพื่อนห่างๆคนนี้หมดไปเยอะ ไม่ต่ำกว่า หกหลัก เขาก็รู้นะคะ  แต่ก็ยอม  เราก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน จากคุณ : nuchnanuch เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:15:49

ความคิดเห็นที่ 90 เอากำลังใจมาให้ค่ะ ถ้ารู้สึกไม่สบายใจ ก็ระบายมันออกมานะคะ อ่านถึงตอนท้ายๆ เรารู้ว่าคุณเป็นคนที่เข้มแข็งมาก และ อาจจะรู้สึกผูกพันธ์อยู่บ้าง จึงต้องตัดการติดต่อทุกอย่าง เพื่อให้เรื่องนี้มันจบโดยเด็ดขาดจริงๆ ระลึกไว้ค่ะ ว่าพลาดไปแล้ว อย่าพลาดอีก ให้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณ เป็นบทเรียน ให้ก้าวต่อไปของชีวิตมันดีขึ้นกว่าที่เป็น คนบางคนกว่าจะเป็นคนฉลาดขึ้นมาได้ มันก็ต้องเคยโง่มาก่อน ทุกคนล้วนแต่เคยสูญเสีย บางอย่างในชีวิตไปทั้งนั้น ตั้งแต่เรื่องเงิน เรื่องเวลา เรื่องร่างกาย เรื่องความรู้สึก เราเชื่อว่าไม่ใช่คุณคนเดียว ที่เจอแบบนี้ เพียงแต่คนอื่นที่เคยพบ เคยเจอมาเนี่ย เขาไม่ได้มาพิมพ์ระบายอย่างที่คุณทำเท่านั้นเอง บางทีอาจร้ายยิ่งกว่าที่คุณเจอมาก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอย่าซ้ำเติมตัวเองว่าโง่ งี่เง่าอีกเลย ต่อจากนี้ไป จงฉลองให้กับชีวิตใหม่ ที่จะพยายามไม่พลาดอีกแล้วดีกว่าค่ะ เวลาเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น วิธีของเรา นั่นคือ หาเรื่องดีใหม่ๆเข้ามาในชีวิต ทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าจะไปคิดถึงอดีตที่แก้ไขไม่ได้ ยิ่งชีวิต เจอสิ่งที่ดีใหม่ๆขึ้นเรื่อยๆ เ รื่องเก่าๆมันก็จะจางหายตามกาลเวลา ขอเป็นเพื่อนคนนึงให้กำลังใจคุณ เพื่อผ่านจุดแย่ๆนี้ไปให้ได้นะคะ ยินดีรับฟังเสมอค่ะ จากคุณ : อิงจ๋า เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:20:33

ความคิดเห็นที่ 91 ถึง จขกท คะ ตอนที่เลิกได้จริงๆ จะไม่มาเสียเวลาเขียนระบายอะไรแบบนี้หรอกค่ะ เพราะเราจะลืมๆไปด้วยซ้ำ การมาเขียนกระทู้ระบายแล้วก็มาไล่ตอบคำถามแบบนี้ จะตอกย้ำให้กลับไปคิดเรื่องเก่าๆอีก ลบกระทู้ ปิดคอม แล้วไปหาอะไรจรรโลงใจที่ทำให้เราลืมๆ เรื่ิองที่ไม่ควรใส่ใจจำดีกว่าค่ะ จากคุณ : พอ (LazyOx) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:29:23

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 79 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน แล้ว intercourse คืออะไร intercourse =ซั่ม , กินตับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 18:36:13 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 18:35:53 จากคุณ : itssmallworld (itssmallworld) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:35:28

ความคิดเห็นที่ 93 ผีเน่ากับโลงผุ.. เหมาะสมกันดีค่ะ.. จากคุณ : คนดีผีคุ้ม เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 18:47:06

ความคิดเห็นที่ 94 เอากำลังใจมาให้ค่ะ ถ้ารู้สึกไม่สบายใจ ก็ระบายมันออกมานะคะ อ่านถึงตอนท้ายๆ เรารู้ว่าคุณเป็นคนที่เข้มแข็งมาก และ อาจจะรู้สึกผูกพันธ์อยู่บ้าง จึงต้องตัดการติดต่อทุกอย่าง เพื่อให้เรื่องนี้มันจบโดยเด็ดขาดจริงๆ ระลึกไว้ค่ะ ว่าพลาดไปแล้ว อย่าพลาดอีก ให้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณ เป็นบทเรียน ให้ก้าวต่อไปของชีวิตมันดีขึ้นกว่าที่เป็น คนบางคนกว่าจะเป็นคนฉลาดขึ้นมาได้ มันก็ต้องเคยโง่มาก่อน ทุกคนล้วนแต่เคยสูญเสีย บางอย่างในชีวิตไปทั้งนั้น ตั้งแต่เรื่องเงิน เรื่องเวลา เรื่องร่างกาย เรื่องความรู้สึก เราเชื่อว่าไม่ใช่คุณคนเดียว ที่เจอแบบนี้ เพียงแต่คนอื่นที่เคยพบ เคยเจอมาเนี่ย เขาไม่ได้มาพิมพ์ระบายอย่างที่คุณทำเท่านั้นเอง บางทีอาจร้ายยิ่งกว่าที่คุณเจอมาก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอย่าซ้ำเติมตัวเองว่าโง่ งี่เง่าอีกเลย ต่อจากนี้ไป จงฉลองให้กับชีวิตใหม่ ที่จะพยายามไม่พลาดอีกแล้วดีกว่าค่ะ เวลาเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น วิธีของเรา นั่นคือ หาเรื่องดีใหม่ๆเข้ามาในชีวิต ทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าจะไปคิดถึงอดีตที่แก้ไขไม่ได้ ยิ่งชีวิต เจอสิ่งที่ดีใหม่ๆขึ้นเรื่อยๆ เ รื่องเก่าๆมันก็จะจางหายตามกาลเวลา ขอเป็นเพื่อนคนนึงให้กำลังใจคุณ เพื่อผ่านจุดแย่ๆนี้ไปให้ได้นะคะ ยินดีรับฟังเสมอค่ะ จากคุณ : อิงจ๋า เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:12:41

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดเห็นที่ 61     คนอ่านกระทู้นี้มี 3 แบบ 1. เป็นเมียหลวงแล้วสามีมีเมียน้อย 2. เป็นเมียน้อยที่ถูกเมียหลวงตามจิกไม่ปล่อย 3. เป็นพวกชอบเรื่อง Drama ของคนอื่น ... เข้าใจเลย ว่าทำไมบาง comment ถึงด่าเหมือน จขกท เขาทำแบบนี้กับคุณ และบาง comment ก็เห็นใจ๊ เห็นใจเหลือเกิน ^_^ จากคุณ : WDDY (WDDY)     เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 09:39:47     เจ้าของความคิดเห็นนี้อยู่ประเภทไหนคะ ตอบตัวเองให้ได้ก่อนแล้วมาถามคนอื่น หรือเป็น 1 ใน 3 ที่ยกตัวอย่างมาและกำลังหาแนวร่วม ถ้าตอบตัวเองไม่ได้ อ่านเงียบ ๆ ก็ได้ค่ะ จากคุณ : meawtha เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:33:18

ความคิดเห็นที่ 96 จขกท เขาเขียนมาให้อ่าน ก็จงอ่านเพื่อเรียนรู้เป็นวิทยาทาน บอร์ดสาธารณะ ไม่เสียเงิน คนอ่าน อ่านฟรี จขกท คงรู้แล้วหละว่าต้องเจอกับ คำตำหนิที่หลากหลาย แล้วเขาก็บอกมาแล้วว่า เพื่อนเขาด่าแรงกว่านี้(อาจเป็นเพราะรู้อะไรหลาย ๆ อย่างดีกว่านี้ก็ได้) ดังนั้นใครว่าอย่างไรคงไม่กระทบมากนัก ที่ผมแปลกใจคือพวกที่ด่า จขกท ต่อนี่แหละ มีให้อ่านก็อ่านไปเรียนรู้เผื่อเป็นบทเรียนกับเรา ได้เห็นสันดานของคนหลาย ๆ แบบซึ่งผมว่ามันก็เป็นวิทยาทานให้คนอ่านนะ ไม่ใช่สักแต่ด่า ตั้งป้อมด่าอยู่นั่น ผมว่าเรื่องอดีต เป็นบทเรียนให้ จขกท เพื่อวานแผนในปัจจุบันและ อนาคตแล้วหละ ขอบคุณครับ จากคุณ : ดีใจที่มีคนอ่าน เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:46:25

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านแล้วคุ้นๆ มาก ว่าเคยอ่านมาแล้ว ในห้องนี้แหละคล้ายๆ กัน แต่ไม่แน่ อาจจะบังเอิญก็ได้มั้ง จากคุณ : Michka เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 19:56:53

ความคิดเห็นที่ 98 เพิ่มเติมสำหรับคำว่า intercourse แปลว่าการร่วมเพศโดยการสอดใส่ค่ะ จากคุณ : มธุปายาส เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:28:15

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณ #98 ที่มาช่วยให้ความกระจ่างครับ เพราะถ้าแปลว่าการร่วมเพศเฉยๆ นี่ มันจะยังไม่เคลียร์ตามเนื้อความที่เจ้าของกระทู้เล่ามานะครับ จากคุณ : Dream Seeker เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:34:43

ความคิดเห็นที่ 100 ดีแล้วที่ไม่มีพันธะกับผู้ชาย here แบบนี้ แต่คุณควรไปทำบุญให้ลูกคนแรกที่คุณไปทำเขาออกด้วย เราเคยมีแฟนแมงดาคนนึง หลอกเรา แล้วหลอกผู้หญิงอีกคน เพื่อนเราไปรุมกระทืบหน้าสี่แยกให้มันอายเล่น รู้ว่ามันไม่ควรทำ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ความแค้น ความเจ็บปวด ลดหายไปบ้าง ขอให้เจ้าของกระทู้ มีความสุขมาก ๆ ไม่เจอคนแบบนี้อีกเลย จากคุณ : Yimlamun เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 20:54:59

ความคิดเห็นที่ 101 คุณนำพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมแบบนั้นเอง ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายที่คุณเจอก็มีอยู่แค่นักเที่ยวกับแมงดา นอกจากเงินและเซ็กส์แล้วคุณจะไปหวังอะไรได้อีก อะไรที่ทำให้คุณเปลี่ยนจากคนชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน มาสนใจทำอาชีพนี้ได้คะ จากคุณ : ร้อยดอกไม้ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:07:27

ความคิดเห็นที่ 102 น่าสงสารผู้หญิงที่แมงดาตัวนี้กำลังจะไปเกาะ... จากคุณ : ฉันเกลียดแตงกวาดอง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:22:23

ความคิดเห็นที่ 103 1. ไอ้แมงดาเอ๊ย!!! 2. อินอ่ะ Y_Y เข้มแข็งไว้นะคะ เป็นกำลังใจให้ 3. จริง! น่าจะเลิกได้ตั้งนานละ 4. ช่วงเวลานี้ผ่านยากนิดนึงนะคะ คุณกำลังโดนความผูกพันตามทำร้ายอยู่ 5. เรื่องนี้คุณไม่ผิดนะ จำไว้ คุณไม่ได้ไปแย่งใครมานะ ผู้ชายคนนี้ไม่ดีเอง ไม่รักดี นอกใจภรรยาตัวเอง แล้วก็มาหลอกคุณว่าโดนภรรยาทำร้ายจิตใจ 6. สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจ ขอให้คุณพบเจอคนที่ดีที่กำลังจะเข้ามา แต่คราวนี้ ต้องดูดีๆนะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 21:24:23 จากคุณ : ดอกกระเจียวหลงทุ่ง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:23:24

ความคิดเห็นที่ 104 #97 รู้สึกเหมือนกันเลยค่ะ เคยอ่านแล้วแบบนี้เลย จากคุณ : AYOI เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 55 21:49:26