ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเช้า สามีหิ้วกระเป๋ามาส่งที่ทำงานค่ะ แถมพูดว่า "ตั้งใจเรียนนะ" แล้วลูบหัวเรา (เพราะปฎิบัติธรรมเริ่มตอนบ่ายวันศุกร์ เลยแวะมาเคลียร์งานก่อน) แถมพอช่วงบ่ายก่อนเริ่มปฐมนิเทศ โทรหาเค้า เค้ายังย้ำอีก "ตั้งใจเรียนนะ ตั้งใจเรียน" บอกตรง ๆ ว่าตอนที่เราไปอยู่ที่นั่นคืนแรก เรานอนไม่หลับเลย (ทั้ง ๆ ที่พกยาคลายเครียดไปกินตามหมอจ่ายเป๊ะ) จิตไม่อยู่กับตัว วันเสาร์ก็ปฎิบัติแบบ กระพร่องกระแพร่ง รู้ตัวบ้าง ไม่รู้บ้าง ดึงจิตกันตลอด แต่ก็พยายามเรียนตามที่ท่านแม่ชีศันสนีย์สอน แล้วคิดตาม มีสติกับปัจจุบัน ฝึกสติกับลมหายใจ แต่มันก็ไม่ค่อยเก็ตหรอก บัวในตมก็เงี้ยะ ด้วยการแนะนำจากท่านแม่ชีที่เราได้ปรึกษากับท่านมาตลอด และการสอนของท่านแม่ชีศันสนีย์ หลังจบคืนวันเสาร์ ก่อนนอนเราหันไปบอกเพื่อนว่า "แก ชั้นรู้แล้วว่าเรื่องนี้ชั้นต้องวางอะไร" คือ ยังไงหละ ทุกคนบอกให้ "ปล่อยวาง ปล่อยวาง" อินี่ก้อ งง วางอะไร ช้านรักเค้าขนาดนี้จะให้ตัดเค้าออกจากชีวิตได้งายอ่ะ เช้าวันรุ่งขึ้น เข้าไปกราบเรียนแม่ชีที่ได้ปรึกษามากับท่านตลอดว่า "หนูเข้าใจแล้ว หนูต้องละวางความโกรธ ความพยาบาทที่หนูมีต่อสามี และผู้หญิงคนนั้น" "หนูต้องให้อภัยเค้าทั้งสองคน" คือ ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่เราทำมาตลอดหลายเดือนที่ทะเลาะกับสามี และจิตแพทย์ของเราบอกเราคือ เราไม่ยอมเลิกโกรธสามี และสามีก็ไม่เคยหายโกรธเราในเรื่องที่เราว่าเค้า (ด้วยความโกรธของเราอีกแหละ) หาเรื่องชก (คือเอาชนะคะคานกัน) ตลอดเวลา ถึงเลือกจะอยู่ด้วยกัน มันก็ไม่มีความสุข มันมีแต่โกรธ เกลียดกัน คือ ลืมบอกว่า ก่อนที่จะเล่าเรื่องนี้ เราสองคนได้ตกลงกันอยู่แล้วว่าเราจะ "เดินต่อไปด้วยกัน" เพียงแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือ เราสองคนทะเลาะกันตลอด เราก็สติแตกตลอดเวลา จุดเดือดต่ำ ปรี๊ดแตกได้ทุกเรื่อง แถมวัน ๆ สมองหาแต่เรื่องไร้สาระ ..... สามีก็ยิ่งไม่แตะต้องตัวเรา ไม่สนใจแยแสเรา แต่เรายังอยู่ด้วยกัน (--") จากคุณ : จขกท. สับสน เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:42:03 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 2 น่าแปลก หลังจากที่ตัดสินใจวางเรื่องพยาบาทนี้ เราสามารถเรียกชื่อ G ต่อหน้าสามีได้ในวันที่สามีกลับจากแคมป์กันเลยทีเดียว (ก่อนหน้านี้ เรียก G เวลาคุยกับสามีว่า "มัน" และเรียกเวลาคุยกับเพื่อนว่า "อินั่น") วันอาทิตย์ก่อนกลับ เราสัญญากับตัวเองแล้วว่า เราจะไม่มีชีวิตอยู่แบบตายทั้งเป็นแบบนั้นอีก เราละทิ้งความโกรธ ความพยาบาท เพื่อรักษาชีวิตคู่และสามีของเราไว้ วันพุธที่ 15 ก.พ. เป็นวันนัดที่เราต้องไปพบจิตแพทย์ของเรา คุยกับหมอ ในเรื่องที่ไปปฎิบัติธรรม และสิ่งที่เราละวาง หมอบอกว่าเราเข้าใจประเด็นของหมอแล้วในที่สุด น่าแปลก บางทีคนเรามันก็คลิ๊กกับบางคนอ่ะนะคะ สิ่งที่ดีใจคือ หมอถามเราว่า "คุณคิดว่า คุณยังต้องกินยาอยู่มั๊ย" เราขอตามดุลยพินิจขอหมอ สรุปเป็นว่า เรายังคงต้องกินยาอยู่ระหว่างที่รอพบหมออีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า เนื่องจากเราก็ยังเพิ่งควบคุมตัวเองได้ และก็ไม่อาจรู้อนาคต แต่ถ้า 2 อาทิตย์ก่อนเจอหมอ เราจัดการเรื่องนี้ได้อย่างดีแบบนี้ "หมอจะค่อย ๆ ลดยา และถอนยาออกทีละตัวให้" (^^) เราดีใจมากเลย จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 17:52:55 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 3 เล่าเรื่องวาเลนไทน์ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาดีกว่า สามีมารับเราไปกินข้าวเย็นตามสัญญา เราก็แอบมีแซว ๆ ว่า "แหม ปีที่แล้วมีเซอร์ไพรส์ด้วยดอกไม้ ปีนี้ไม่มีเลยน๊า" สามีหน้าหงิกแล้วตอบว่า: "นั่นมันปีที่แล้ว นี่มันปีนี้" เรา: (--") [กระทบจิตใจนะ กระเทือนด้วย แต่กำลังจะพยายามไม่กระแทกกลับ] ทำเป็นมองไปคู่อื่น คือ กำลังกำหนดลมหายใจ ปรับอารมณ์ สามี : เป็นไรอ่ะ เงียบเชียว เรา : (เอ๋า เอ็งพูดขนาดนี้ ตรูไม่ปรี๊ดใส่ก็บุญแระ) ฟังคำพูดเธอแล้วเสียใจอ่ะ กระเทือนนะ แต่กำลังสงบให้ได้แบบที่แม่ชีสอนจะได้ไม่กระแทกกลับ (เพราะพอวันอาทิตย์ที่กลับบ้าน เค้าก็ถามใหญ่เลยว่าแม่ชีสอนไรบ้าง เรียนเป็นไง) สามี : ขอโทษนะครับ ก็พามาเลี้ยงข้าวแทนนี่ไง เรา : ^^" จ้า ถ้าเป็นก่อนหน้านี้หรอ....เสร็จแน่ ปรี๊ดมันกลางร้าน ทะเลาะกัน กินกันหน้าหงิก ๆ นั่นแหละ หึหึหึ ไม่ต้องสุขกันละวาเลนไทน์ สรุป คืนนั้นก็ได้กลับมานอนกอดกันดูทีวี แล้วก้อเข้านอนพร้อมกันด้วย ^^ เล่าเรื่องนี้ให้หมอฟัง หมอบอกเราทำได้ดีนะ ซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง แต่ไม่กระแทกกลับ อยากให้คุณทำให้ได้แบบนี้ตลอด จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:03:35 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 4 รออ่านค่ะ... ^^ จากคุณ : เขียบเองฮ่ะ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:12:49

ความคิดเห็นที่ 5 โอ้โฮ......นี่เป็นการค้นพบสัจธรรมด้วยตนเองจริงๆด้วย ไม่ใช่เพราะหมอหรือแม่ชีแน่ๆ เขาเรียกว่า ตรัสรู้ด้วยตนเอง เอาใจช่วยให้มีความสุขนะ จากคุณ : ว่าไป เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:19:28 A:1.43.150.156 X: TicketID:093033

ความคิดเห็นที่ 6 เจ้าของกระทู้ ทำได้ดีแล้วค่ะ สู้ๆ นะคะ ^^ จากคุณ : สาวน้อยพุงกลม เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:20:15

ความคิดเห็นที่ 7 ท้ายที่สุดนี้ ขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ที่นี่ คุณ Red_Arsenal, คุณ 3N, คุณคานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์, คุณ the chubby knight, คุณ yurime, คุณมากี้จัง, คุณ samr, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณเจ้าหญิงมารยา, คุณอาราเล่รักโคทาเร่, คุณชิ, คุณน้องหญิงอนัตตา, คุณดอกหญ้าสีม่วง โดยเฉพาะคุณป้าทุยบ้านทุ่งที่ได้รบกวนถามคำถามและกรุณาตอบกลับมา / คุณน้องหญิงอนันตตา ที่เราทำให้เราตาสว่างว่าตัวเองสติแตกแค่ไหน / คุณมากี้จัง และคุณดอกหญ้าสีม่วงสำหรับความห่วงใย และขอบคุณกระทู้ของคุณเจ้าเสือน้อยด้วย ^^ กราบขอบพระคุณท่านแม่ชีที่ข้าพเจ้าปรึกษา และครูบาอาจารย์ทุกท่านที่เสถียรธรรมสถาน ที่ขาดไม่ได้ ขอบคุณ "เพื่อนรัก" ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรของเรามาโดยตลอด ************************************************** วันนี้ สิ่งที่เราเลือก เราไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่โดนสวมเขาแล้ว ยังอภัยให้เค้าอีก แต่สิ่งที่เรากำลังทำ คือ "เรากำลังมีเมตตาต่อตัวเอง" ก่อนหน้านี้เราโกรธ เราพยาบาท เราทุกข์ ทุกสิ่งที่เป็นมันไม่ได้ทำร้ายสามีหรือ G แต่มันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวตีตัวเอง เดี๋ยวคิดไปเลยเถิด.....ต้องกินยาคลายอารมณ์ ยาคลายเครียดมาเกือบ 3 เดือน มันส่งผลต่อร่างกายของใครกัน ? ทุกอย่างเป็นเพราะเรา วันนี้เราได้เรียนรู้แล้ว เพียงแค่เรายอมละวางบางอย่าง หยุดการปรุงแต่งบางเรื่อง เราก็หยุดได้.....เพราะหากแม้แต่ความเมตตาที่เรามีให้ต่อตัวเองเรายังทำไม่ได้ เราจะสามารถไปรักใครได้ และอีกสิ่งนึง เราเลือกที่จะให้โอกาสสามี ท่านแม่ชีบอกเราว่าทุกคนควรได้รับโอกาส (แต่อย่าบ่อย ) ซึ่งการที่เราได้ให้โอกาสคนอื่น มันเป็นความกรุณาอย่างสูงสุดที่เราควรจะมีต่อผู้อื่นได้ เราไม่ได้บอกว่า เรา "หลุด" หรือ "หลงงมงาย" กับลัทธิ ศาสนาหรืออะไรนะ เพราะเรามันก็แค่เด็ก 1 ขวบสำหรับเส้นทางใหม่ที่เราได้เรียนรู้ในการ "รักให้เป็น" แต่สิ่งที่เรากำลังทำคือ เรากำลังบาลานซ์ชีวิตของเรา ให้มันกลับไปมีชีวิตปกติอีกครั้ง อยู่ร่วมกันกับสามีแบบไม่ทุกข์ เพราะท่านแม่ชีศันสนีย์พูดเสมอ ๆ ว่า "ทุกข์มันมีไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้เป็น" จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:26:39 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 8 คุณเขียบเองฮ่ะ - ขอบคุณค่ะ คุณว่าไป - ขอบคุณค่ะ / แหะ แหะ จากการอบรมสั่งสอนของแม่ชีจริง ๆ ค่ะ เพียงแต่เราไม่ได้เล่ารายละเอียดขนาดว่าท่านสอนไรบ้าง พูดไรบ้างเท่านั้นเอง / เราดื้อค่ะ (บอกแล้วเป็นบัวในตม) แต่พอวางความดื้อลง ยอมมองในแบบที่ท่านสอนสั่ง มันก็ได้เห็นความเป็นไปของธรรมชาติค่ะ ^^ คุณสาวน้อยพุงกลม - ขอบคุณค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:40:35 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 9 สาธุ จากคุณ : . เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 18:59:13 A:58.8.64.26 X: TicketID:347326

ความคิดเห็นที่ 10 โอ้วววว โดนพูดถึงด้วย ^ ^ ทำตัวน่ารักๆแบบนี้แหละครับ ผู้ชายรักตายเลย ปริ๊ดน้อยๆ ทำตัวสวยๆ ภรรยาน่ารักแบบนี้แล้วจะไปไหนไกลครับ ลองนึกดูว่าแฟนกลับมาเหนื่อยๆ เจอคุณสวยๆ พูดเพราะๆ บ้านน่าอยู่ขึ้นเยอะครับ จากคุณ : the chubby knight เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:16:07

ความคิดเห็นที่ 11 ยังไงก็ระวังโรคติดต่อบ้างนะคะ จากคุณ : ptira เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 19:57:54

ความคิดเห็นที่ 12 ดีใจกับ จขกท ค่ะ และแล้ความสุขก็กลับมาอยู่กับคุณอีกครั้ง โบกมือบ๊าย-บายความทุกข์ไปเลยค่ะ  ทำวันนี้ให้ดีที่สุด มีความสุขที่สุด แล้วคุณจะสดใสที่สุดเลยค่ะ จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:31:24

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาปรบมือให้ค่ะ จากคุณ : ชิเล่น (นิกะชิ) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:34:43

ความคิดเห็นที่ 14 พยามเข้าน้า จขกท โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ท่องไว้ๆๆๆ จากคุณ : เล็กแห้งตับสด เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 20:56:08

ความคิดเห็นที่ 15 ดีใจด้วยครับ   ที่คุณหมดกรรมภายในระยะอันรวดเร็ว    คงเป็นผลบุญที่คุณมีอยู่นั่นเอง การไปปฎิบัติธรรมครั้งนี้ช่วยคุณได้มากๆทีเดียว   สามารถนำไปใช้กับทุกเรื่องในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ ใครมีปัญหาผมมักแนะนำอย่าคิดเอง   ควรปรึกษาเพื่อน   ผู้ใหญ่   หรือจิตแพทย์   แล้วแต่เรื่อง     คนเหล่านี้จะให้แง่คิด   ให้มุมมองเราอีกด้านหนึ่ง    และก็ถึงบางอ้อได้โดยไม่ยาก ขอให้ชีวิตสมรสมีแต่ความสุขนะ   แล้วเรื่องที่แฟนไม่ทำการบ้านนั้นจะกลับมาในไม่ช้าแน่นอนครับ . แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 55 21:34:57 จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 21:33:54

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ . - ขอบคุณค่ะ คุณ the chubby knight - ขอบคุณนะคะ เพราะความเห็นของคุณทำให้ใจชื้นขึ้นว่าเค้าไม่ได้เป็นเกย์จริง ๆ (^^) จะพยายามนะคะ แต่เรื่องแต่งตัวสวย ๆ นี่ ตอนนี้ต่อมแต่งตัวสวยแตกอย่างแรงอ่ะ แบบว่า ความรู้สึกมันแบบ "แต่งไปเค้าก้อไม่มอง" คงต้องไปจูนความคิดตัวเองใหม่อ่ะค่ะเรื่องนี้ (_ _") คุณ ptira - ขอบคุณค่ะ แต่กว่าจะถึงสิ่งนั้นที่ต้องระวัง คงอีกนานอ่ะค่ะ ดีไม่ดี คงไม่มีแล้วม๊าง คุณ jazzzero - ขอบคุณค่ะ รู้ว่ามันต้องใช้เวลาในการฝึกอ่ะค่ะ แต่ก็จะพยายามอยู่กับตัวเองให้ได้ ไม่ปรุงแต่งความคิดต่อไปแล้วค่ะ คุณชิ - ขอบคุณค่ะ กลับไปอ่านทู้นั้นอีกรอบ ชอบความเห็นคุณชินะคะ เราต้องเห็นค่าของตัวเองด้วยเน๊อะ ^^ คุณ เล็กแห้งตับสด - ขอบคุณค่ะ ที่ผ่านมาคือเรา ทั้งโง่ ทั้งบ้า เลยหละค่ะ :P ครบสูตร บางจังหวะมีกรีดร้อง เพื่อให้สามีหันมาสนใจด้วยนะเออ เหอ เหอ เหอ คุณ samr - ขอบคุณค่ะ สิ่งที่ได้จากการไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้มันมีค่ามากสำหรับเราเลยค่ะ ตอนนี้ก็พยายามที่จะทำตามสัมมาทิฐิที่ตัวเองได้ตั้งใจเอาไว้ เพื่อไม่ให้ "ผู้หญิงที่ทนทุกข์คนนั้น" กลับมาอีกแล้วค่ะ ******************************************************* วันนี้เรารู้แล้วว่า เวลาที่เราทุกข์ที่สุด มันมีคนที่ทุกข์กว่าเราอีกอ่ะ คนนั้นคือ แม่เราเองค่ะ เราตั้งใจไว้แล้วว่าเราจะไม่ทำให้แม่เราต้องมาทุกข์ด้วยเรื่องนี้กับเราอีกแล้วค่ะ เพราะแม่เรามีคนเดียวนี่นา จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 23:03:13 A:58.8.189.148 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านกระทู้ของสาวๆในห้องนี้ รู้สึกโชคดีมากมาย ที่แฟนเราดีมากถึงมากที่สุด ทั้่งแคร์ทั้งใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่าง ว่าได้คุมได้ เช็คได้ บอกไม่ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ สนใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆทุกอย่าง เราพูดตรงๆนะ อย่างที่ว่าไปทานข้าววันวาเลนไทน์แล้วมาพูดไม่ดีนี่ เป็นเราเราคงลุกหนีเลย หรือไม่ก็ร่อนจานใส่หัว แต่ก็นะคนเราไม่เหมือนกัน เราไม่ชอบง้อใคร แต่แฟนเราไม่เคยทำให้เรารู้สึกจุกอก หรือทำร้ายจิตใจเลยซักครั้ง ขนาดว่าเราไม่พอใจอะไรเค้าจะจัดการให้ทันที มีปัญหาอะไรกับใครเค้าก็จะเอาเราก่อนแม้แต่คนในครอบครัวเค้า เราเคยคุยกับเค้าเรื่องคนอื่นนะ ที่เราตามเพราะไม่อยากให้มันเกิดขึ้นถึงเธอจะคุยแบบไม่คิดอะไรก็เถอะ มีเพื่อนผู้หญิงได้แต่ห้ามโทรมาคุยนานๆเกลียดมาก และถ้าใครทำให้เราขุ่นเคืองเราจะแก้ปัญหาโดยการที่ให้เค้าโทรไปด่าคนนั้นค่ะ เราบอกเค้าว่าอย่างนั้นและย้ำว่าสามัญสำนึกเค้าไม่อยากทำหรอก เค้าก็โอเคดีทุกอย่าง ทุกวันนี้5ปีแล้ว อยู่ด้วยกันแทบจะ24ชม. ไม่น่าเชื่อว่าในโลกนี้มีผู้ชายแบบนี้อยู่ด้วย ทำกับข้าวให้เราทาน เวลาเข้านอนเค้าจะให้เรานอนก่อน ถ้าเราตกใจหรือกลัวอะไร(เราขี้กลัวผี)เค้าจะเอาเราไปกอดแล้วก็กล่อมๆจนเราหลับอ่ะ อยากไปไหนพาไปไม่เคยบ่น ช็อปปิ้งก็เดินตาม จนญาติตกใจว่ามีคนแบบนี้ด้วยเหรอ ข้อเสียก็มีนะ คือบางทีเค้ากลัวเราไม่พอใจเกินไป ทำให้บางทีทำอะไรดูโง่ๆ เรารำคาญมากอ่ะ แต่เค้าเป็นกับเราคนเดียวนะ ไม่ใช่คนกลัวใคร แล้วก็ไม่ใช่คนรวยอะไร ปานกลาง จากคุณ : may เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 00:27:23 A:124.121.150.77 X: TicketID:207916

ความคิดเห็นที่ 18 ทำดี คิดดี สิ่งดีๆจะตามมา จากคุณ : ต้นหอม เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 06:36:44

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ได้อ่านกระทู้แรก เพิ่งเปิดมาอ่านกระทู้นี้ แต่ก็เลาๆความจากเนื้อเรื่องพอได้ค่ะ อยากบอกคุณว่าการให้อภัยเป็นสิ่งสำคัญค่ะ พยายามคิดสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ผู้หญิงเรานะคะไม่ต้องมีติดตัวมาตั้งแต่เกิดเราสามารถมาสร้างเอาเองได้นั่นคือมารยาหญิงค่ะ (มารยาในที่นี้คือสิ่งที่ทำแล้วดี ครอบครัวมีสุขนะคะ) ทั้งๆที่สิ่งที่เค้าทำ หรือว่าทำมาแล้วทำให้เราโกรธ แต่เราก็แสร้งทำเป็นยิ้ม ยิ้มรับค่ะ แม้ในใจจะขมขื่น เฮ้อ อธิบายยากค่ะ นัดทานข้าวกันเลยดีกว่าเดี๋ยวสอนให้ เอิ๊กๆๆ เพราะเรื่องแบบนี้สมันก่อนเจอมาเยอะค่ะ 5555+ เอาเป็นว่า สู้ๆนะคะ อย่าจมอยู่กับสิ่งที่มันทำให้จิตใจเราแย่ เอาใจช่วยนะจร๊า.... อ้อ!!! ลืมบอกค่ะ ไปทำความสวยความงาม ให้กับตัวเองจะช่วยให้เราผ่อนคลายได้เยอะๆๆๆๆๆ เลยค่ะ จากคุณ : คุณนาย (คุณนายคลองสี่) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 08:22:28

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่านครับ กลับไปอ่านกระทู้แรกมาแล้วด้วย สิ่งที่ผมยังสงสัยอยู่คือ แฟนคุณเป็นเกย์ หรือว่าไม่ได้เป็นครับ เค้ามีกิ๊กเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงครับ หรือว่าทั้งสองอย่าง ? ผมว่ามันยังมีความคลุมเครือ มึนงง สับสน ค้างกันอยู่หรือเปล่า ยังเคลียร์ไม่ได้ การที่มีครอบครัว ถ้าไม่มี Sex ไม่มีลูกด้วยกันแล้ว มันยึดโยงกันไว้ได้ยากครับ รักษาสภาวะครอบครัวไว้ได้ยากยิ่ง แต่ก็แปลกใจที่บางคู่ทำได้ครับ ไม่มีอะไรกันนาน ๆ อยู่ด้วยกันได้ ไม่มีลูกแต่ก็ยังอยู่ด้วยกันได้ แต่มันคิดเป็น % ที่น้อยมาก ๆ นะครับ คุณยังแจ้งบอกไว้ว่าต้องการ Sex ต้องการคนเอาใจใส่ ตอนนี้คุณได้ทั้งสองอย่างแล้วหรือยังครับ ? ถ้าได้ครบก็โอเคครับ น่าจะยังไปกันได้อยู่ แต่ถ้าไม่ ซักวันหนึ่งจะเกิดปัญหาไหม ? เพราะวันหนึ่งเค้าค้นพบทางที่เค้าต้องการจริง ๆ เค้าก็อาจจะโบกมือเราได้เหมือนกัน หรือสิ่งที่โยงกันเอาไว้คือ ความเป็นเพื่อน + เงินและความช่วยเหลือจากแม่ของ จขกท. ที่ติดค้างกันอยู่ งาน MLM มีคนตอบแล้วในกระทู้ก่อน มันดูไม่ค่อยมั่นคง เมื่อไหร่สายมันกุดไป ๆ เรื่อยๆ มันอาจจะกลายเป็นแค่ความฝัน ผมเองว่ามันเป็นงานแนว ขายความฝัน อยู่ตรงกลางระหว่างความถูกกับความผิด ระหว่างความจริง และการหลอกลวงคน ผมขอเตือนว่าให้แฟนคุณ เลิกทำแล้วหางานทำแบบปกติทั่ว ๆ ไปครับ งาน Office นั่งโต๊ะ งานเอกสาร งานแบบไหนก็ได้ครับ น่าจะมั่นคงกว่านี้ ส่วนภาวะหึงหวงของคุณลดลงได้เป็นสิ่งดี เอาหึงพอประมาณ มีเหตุผลคุยกันได้จะพอดีครับ มากไปคุยกันไม่รู้เรื่อง วิธีหนึ่งที่ควรลองทำครับ คุณต้องติดตามเค้าไปทุกที่ครับ อาทิตย์หนึ่ง อาจจะมี 1 วัน ใช้สุ่มเอาครับ ลองดูว่ามีพิรุจอะไรไหม เท่าที่อ่านมา แฟนคุณก็ไม่น่าจะใช่คน ซื่อ ๆ 100% นะครับ ควรลองตรวจสอบดูให้ดี ๆ ครับ ถ้าคุณเป็นน้องสาวผม หากแฟนคุณเป็นเกย์จริง ๆ ผมจะบอกให้แยกกันอยู่ได้แล้ว และหันหน้าหาแฟนใหม่ครับ ผมคงอยากมีหลานซักคนครับ ชีวิตจะได้กลับสู่ภาวะปกติ ไม่ต้องเสียวหน้าเสียวหลัง มึนงงกันอีกต่อไป มีความเอาใจใส่ มี Sex ตามปกติของคนทั่วไป ถ้าคำตอบผมแทงใจใคร ขออภัยให้ข้ามไปครับ นั่นคือความเห็นส่วนตัว ใครไม่เชื่ออย่าทำตามครับ ใช้ความคิดของตัวเองให้ดี ๆ ขอให้โชคดีมีชัย จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 10:03:56

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ may - อ่าน คห. ของคุณแล้ว เราไม่ได้จะเกทับนะ แต่เเราจะบอกว่าเมื่อก่อนสามีเราเป็นแบบที่แฟนคุณเป็นอยู่ตอนนี้ทุกอย่างเลย เช็คได้หมด อีเมล์ บีบี facebook ให้ password ทุกอย่าง แถมอาจจะมากกว่าในบางอย่างด้วย และเป็นแบบนี้มาตลอด 8 ปีค่ะ แล้วก้อไม่ใช่แค่ทำกับข้าวให้กิน แต่แต่งงานแล้วคุณแฟนเราทำงานบ้านทุกอย่างให้ด้วยเมื่อก่อนนี้เราก็คิดว่าตัวเองโชคดีที่สุดในโลกเลย (^^") แต่สิ่งนึงที่เราเข้าใจวันนี้คือ ผช. เค้ามีขีดของความอดทนอ่ะ....ส่วนเราเนี่ย ก็อย่างเหวี่ยง อย่างวีน ถือดีว่าเค้ารัก เอาใจใส่เรา นั่นนี่ จัดหนัก จัดเต็มตลอด นั่นก้อตามง้อได้ตลอด ไม่เคยเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ..... และสิ่งที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ "ไม่มีความรักใดอยู่ได้ยั่งยืนโดยที่คนหนึ่งคนจะยอมให้ใครมานั่งจัดการชีวิตของเขาอยู่ตลอดเวลา" การที่เค้ายังทำให้คุณอยู่เป็นเรื่องดีค่ะ แต่อยากให้ถนอมน้ำใจ เอาใจเค้ามาใส่ใจเราด้วยนะคะ เพราะนี่คือ สิ่งที่เราขาดไปตลอด 8 ปี และมันทำให้มีปัญหาตามมานี่แหละ (--") คุณต้นหอม - ขอบคุณค่ะ คุณ คุณนายคลองสี่ - นัดทานข้าวกันที่ไหนดีคะ ^^ อยากได้รับการชี้แนะค่า ตอนนี้ก้อพยายามอยู่ค่ะ "น้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก" ไม่รู้จะได้แค่ไหนเหมือนกัน (^^") คุณเต่าน้อย - เรื่องเกย์ไม่เกย์ เราไม่แคร์เท่าไหร่นะ จริง ๆ เพราะว่า สิ่งนึงคือ เราเลือกที่จะแต่งงานกับเค้าแล้ว ณ จุดนี้เราไม่สนใจว่าเค้าจะนอกใจไปกับผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ "นอกใจก็คือนอกใจ" - แต่เรื่องที่ผ่านมา ไปกับ ผู้หญิงจริงๆ ค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็รู้จักเราด้วยดิ เจอกันกับเรายังคุยกัน กอดกันกับเราอยู่เรย ฮ่า (--") ส่วนเรื่องงานของสามี ตอนนี้ก็กลับมาทำงานประจำแล้วค่ะ MLM ก็ยังทำอยู่ แต่แผ่ว ๆ ไป เคยคิดจะตามไปดูเค้าประชุมก่อนหน้านี้ แต่ ณ วันนี้ ไม่รู้จะตามไปดูทำไม เห็นแล้วได้อะไร มีแต่จะหมางใจกันเปล่า ๆ (เค้าจะคิดว่เราจับผิด) เพราะ MLM สำหรับสามีเรามันคือ Happy Place ของเค้าอ่ะค่ะ มันคือ ที่ที่เค้ามีจุดยืน ได้รับการยอมรับ วันนี้พยายามมองกันอย่างเป็นเพื่อน เพราะมันง่ายกว่ามองกันอย่างเป็นสามีอ่ะ (--") คือ ถ้ามองเป็นเพื่อน เพื่อนออกจากบ้านเราก้อ เออเพื่อนคนนึงไงมันไปข้างนอก แต่ถ้าสามีออกจากบ้าน มันเยอะอ่ะ คิดไปโน่นมานี่ ดึกแล้วทำไมยังไม่กลับ โทรจิก แล้วได้อะไร ปรุงแต่ง ทะเลาะ เหนื่อย ส่วนเรื่องลูก ไม่ได้คิดจะมีด้วยกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ตกลงอยู่กันแบบนี้อยู่แล้ว ตกลงกับสามีแล้วด้วยว่า อายุถึงทำได้เมื่อไหร่จะให้สามีไปทำหมันด้วยซ้ำ (^^") กับเรื่องความเอาใจใส่และ Sex - ความเอาใจใส่ได้กลับมาบ้างแล้วค่ะ แต่ Sex สงสัยอีกนาน ในเมื่อวันนี้สามีก็รับปากแล้วว่าจะ "ซื่อสัตย์ต่อเรา" "ให้เวลาเรามากขึ้น" เราก็ต้องทำตามสิ่งที่เราตั้งใจคือ ให้โอกาสสามีค่ะ ณ จุดนี้เราคงทำไรไม่ได้มากไปกว่า "เฝ้ารอและดู" ว่าเค้าจะรับโอกาสนั้นหรือไม่ก็เท่านั้นเอง เพราะเราก็ไม่ใช่ว่าจะทนให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอด เราก็มี timing ของเราในการเฝ้ารอและดูเช่นกันค่ะ ^^ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 10:54:37 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 22 คุณจขกท.คะด้วยความเคารพนะคะ เราเองบอกตามตรงเรามีแฟนแบบคบจริงจังมาประมาณ5คนแล้ว และคนนี้เป็นคนที่5 เราเจอมาสารพัดรูปแบบทั้งเลวตั้งแต่เริ่ม ค่อยๆเลว หรือประเภทหมดโปรดีแค่ปีเดียวก็มีค่ะ คนแรกกว่าจะตัดใจยากหน่อย คนนี้เลวมากทั้งเจ้าชู้ ติดการพนัน เอาของๆเราไปขาย เราเคยกราบอ้อนวอนให้เค้าอยู่กับเราด้วยค่ะ แต่ต่อมาพอพบว่าเค้าแอบมีคนอื่นมาตลอด วิธีตัดใจของเราคือเราต้องมีคนอื่นค่ะ พอได้คุยกับคนอื่นได้คบคนอื่น เราเปลี่ยนใจเร็วมาก ไม่น่าเชื่อที่เคยเจ็บช้ำเป็นปีๆจะหายได้ง่ายๆ ทีนี้เรารู้เคล็ดลับค่ะ เราปรับตัวให้เค้ากับคนที่2ทุกอย่าง ทำดี ไม่วีนไม่เหวี่ยง อดทนอดกลั้นไม่เป็นคนงี่เง่า เพราะเรารู้ว่าผู้ชายไม่ชอบค่ะ แต่กลับกลายเป็นว่ามันคงนึกว่าเรารักมันมาก มันเลยเอาแต่ใจทุกอย่าง ทำทุกอย่างที่ไม่ดีต่อเรา เช่นพอทะเลาะกันมันทำท่าจะออกไปหาเพื่อน ไปหาคนอื่น ทำเป็นไม่ง้อ(เพราะมันรู้ว่าเราจะง้อ) แต่นั่นแหละค่ะ เราให้เวลาแค่2ปีในความอดทน เราก็มีคนอื่นทิ้งมันแบบไม่สนใจค่ะ วิธีลืมก็เหมือนเดิม คือเปิดโอกาสหาคนอื่น ส่วนคนอื่นๆที่คบมาก็ปีนึงมั่งพอเค้าไม่ดีเหมือนเดิมช่วงหมดโปรเราก็ไม่เอาค่ะ ประมาณว่าเมื่อก่อนเคยทำให้พอหมดโปรก็ไม่ทำ เคยพูดหวานๆก็เริ่มพูดไม่เข้าหู เมื่อก่อนบอกไม่ไปกินหล้ากับเพื่อนได้ แต่พอนานๆไปขอไป เราบอกว่าถ้าเธอจะไปเราก็จะไปเที่ยวมั่งนะ มาขอเลิกเราซะงั้นบอกเราบังคับเกินไป แค่นั้นแหละ เรารู้เลยว่าเกินไปคนอย่างเราไม่ชอบแบบนี้อยู่แล้ว ก็เหมือนเดิม เราทำแบบเดิม มาอ้อนวอนขอร้องเราแทบตาย เราไม่สนหรอก ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปแล้ว จนมาเจอแฟนคนนี้แหละ ที่เรารู้สึกว่าเค้าไม่หมดโปรนะ แต่เรื่องดีของเราที่ทำให้เค้าก็เยอะแยะมากอ่ะค่ะ เราเอาใจใส่เค้าทุกอย่าง ดูแล รักเคารพ(ถ้าเค้าทำดีเราก็ดีมากค่ะ)มีพระเดชก็ต้องมีพระคุณใช่มั๊ยคะ เพราะฉะนั้นเค้าจะไม่อยากทำให้เราโมโหค่ะ แต่เค้าจะรู้่ว่าเราหายเร็วแค่เค้าอยู่เฉยๆ พอเราหายก็จะขอโทษที่เราควบคุมอารมณ์ไม่อยู่อีกแล้ว ปกติเราจะพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้โมโหเรื่องงี่เง่า เค้าบอกว่าเราดีกว่าตอนคบกันแรกๆมาก เราเคยถามว่า เค้าทนเราได้ไงบางทีเราร้ายกาจกะเค้า เค้าบอกว่าไม่เก็บมาคิดอ่ะค่ะ ถ้าเก็บมาคิดมันอยู่ด้วยกันไม่ได้ เรื่องอายุด้วยมั๊งคะเค้าแก่กว่าเรา6ปี เราอาุยุ26 เค้า32 แล้วเราก็ดูแลตัวเองดีอ่ะคะ่ เรื่องsex ไม่เคยขาดไม่เคยทำท่าเบื่อ ไปเดินห้างจะกอดเค้าตลอด ทำเหมือนว่ารักกันมากๆ เค้าบอกเค้าชอบอ่ะค่ะ ทำกิจกรรมด้วยกัน เช่นออกกำลังกาย ไปเที่ยว ทำอาหาร เค้าติดเรามากเลยอ่ะค่ะ เพื่อนชวนไปไหนเค้าก็ไม่ไป แต่ก็มีกลับบ้านทุกอาทิตย์ สาเหตุที่เค้าดีนะคะ เราว่าส่วนหนึ่งมาจากแม่เค้าอ่ะค่ะ เค้าเป็นลูกแม่เลี้ยงเดี่ยว เค้าจะรักแม่ดูแลแม่ดี แม่เค้าก็ดีนะคะ เราว่าเค้าได้ความอ่อนโยนมาจากแม่ ความอดทนเพราะเคยอยู่กับผู้หญิงมานาน เมื่อก่อนเค้าอยู่กับแม่ก็คอยพาแม่ไปนู่นไม่นี่ แต่เดี๋ยวนี้ย้ายมาอยู่กับเรา ก็ทำให้เราแทน มีทำให้แม่บ้างเวลาแม่มีธุระ ส่วนเรื่องที่่ว่าเค้าจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เราก็เตรียมใจไว้เหมือนกันค่ะ เราเก็บเงินส่วนของเราไว้เผื่อเค้าไม่ดีอ่ะค่ะ เราคุยกับเค้าแล้ว ถ้าเค้าไม่เหมือนเดิม หรือบังอาจมีคนอื่น เราก็จะเลิกทันที ถึงมีลูกเราก็จะเลี้ยงลูกเอง แพลนไว้ว่าอีกสองปีถ้าเค้ายังดีเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้เราคงแต่งแหละ ญาติเราทุกคนก็เชียร์ให้แต่ง แต่ถ้าไม่ดีเราก็สะบัดบ๊อบใส่ค่ะ อีกสองปีเราก็อายุ28พอหาใครใหม่ได้อยู่แล้ว ไม่แคร์อ่ะคะ่ เราเห็นใจคุณจขกท.นะคะ เราอยากให้คุณลองหาคนใหม่ดู เราไม่อยากให้คุณเฝ้ารอคนเดิมของคุณที่คบกันใหม่ๆหวังว่าเค้าจะกลับมาเหมือนเดิม ให้คิดซะว่าคนเดิมมันตายจากไปแล้ว ลองหาคนใหม่ดูบ้าง เรื่องที่ว่าเราเคยผ่านอะไรมาแล้ว ถ้าเราไม่บอกให้ใครคนใหม่ฟัง เค้าก็ไม่สนใจถามหรอก เชื่อเราสิเรามีแฟนมาเยอะคนโตๆแล้วเค้าไม่ค่อยใส่ใจหรอก เราก็อย่าไปบอก แต่เห็นหลายคนชอบบอกว่าซื่อสัตย์เลยบอกไป เราไม่เข้าใจว่าจะเล่าไปทำไมเรื่องเก่าๆ ผู้ชายเองก็มีทั้งนั้นแหละ จะมากกว่าเราด้วยซ้ำ เฉยๆไว้ดีกว่า สู้ๆนะคะ เราเป็นกำลังให้ เราจะบอกอย่างนี้กับทุกคนที่มีแฟนเฮงซวย เราไม่อยากเห็นผู้หญิงเป็นเบี้ยผู้ชายคะ่ อยากบอกว่าในโลกนี้มีผู้ชายดีๆอยู่นะคะ ไม่ใช่มองแค่ของเราว่าเท่านี้น่ะดีแล้ว ดีกว่าไปติดยา ติดการพนัน หรืออะไรก็ตาม ที่มันหลอกตัวเองอ่ะค่ะ แล้วก็ยังทนคบ จากคุณ : may เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 11:53:17 A:115.87.29.203 X: TicketID:207916

ความคิดเห็นที่ 23 ลืมจัดวรรค กับแบ่งย่อหน้า ขอโทษทีค่ะ จากคุณ : may เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 11:53:49 A:115.87.29.203 X: TicketID:207916

ความคิดเห็นที่ 24 โดนพูดถึงด้วย ดีใจที่ จขกท ปล่อยวางได้นะคะ ยังไงก็ขอให้ชีวิตต่อไปดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ สาธุ จากคุณ : มากี้จัง เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 12:22:21

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ may - ขอบคุณค่ะ ดีใจด้วยนะคะ ที่เจอคนที่ดีและเป็นคนที่ใช่ ^^ สำหรับเรา ตอนนี้เราไม่ได้ต้องทนค่ะ เพียงแต่สิ่งที่เรากำลังทำคือ ปรับตัว ซึ่งจริง ๆ มันควรทำตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วแระ แต่มันไม่เคยทำ มีแต่เค้าทำอยู่ฝ่ายเดียว + ประคับประคองให้ชีวิตคู่นี่ให้มันผ่านไปได้ คือ เราอยากแต่งงานครั้งเดียวอ่ะ อยากอยู่กับคน ๆ นี้ไปตลอดชีวิต เราก็เลยจะลองพยายามดูก่อน แต่ถ้าที่สุดแล้ว มันไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่อะน๊อ ก็ไม่ได้ฝืนอะไรหรือทนทุกข์กับอะไรเลยค่ะตอนนี้ มันจะทุกข์ก้อเรื่องเดียวนี่แหละ สามีไม่ยอมมี sex ด้วยอ่ะ แรงไปมั๊ยเนี่ยะ เอิ๊กกกกกกก - แต่เราเข้าใจว่าเราทำร้ายจิตใจเค้าในเรื่องนี้รุนแรงมากค่ะ มันคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ ทุกวันนี้ได้นอนกอดกัน ตื่นเช้ามาหอมกันบ้างเราก็พอใจแระ และเราก็เชื่อว่าที่สุดเมื่อเค้าเยียวยาใจตัวเองได้ดีขึ้น (เพราะเราเลิกบ้า) เรื่องนั้นมันก็จะตามมาเองอ่ะ เรื่องของเรา มันไม่ได้เกิดจากความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง คือ มันผิดทั้งคู่ วันนี้ตัวเราเองก็ยอมรับว่าเรามีส่วนผิดมาก คุณเคยดูเรื่อง 365 วันแห่งรักมั๊ยคะ เราอ่ะ เหมือนรันตอนสติแตกเปี๊ยบเลยแหละ เพื่อนเอาแผ่นมาให้ดูทีหลังนี่ ดูไปร้องไห้ไป จากเรื่องเล็กน้อยมาก ๆ มันกลายเป็นบานปลายมาใหญ่โตขนาดนี้อ่ะค่ะ (^^") เราสองคนยังรักกันอยู่อ่ะค่ะ และหลายครั้งแล้วที่พิสูจน์ว่า พอเราควบคุมสติได้ดี ไม่บ้า ไม่ปรี๊ดแตก ฟูมฟาย สามีจะกลับมาดีกับเราทุกครั้ง เพียงแต่ว่า เราไม่เคยเลิกสติแตกได้เกินอาทิตย์ซักที มันก็เลยมีเรื่องมาไม่ได้ขาด และที่สำคัญ เรื่องของผู้หญิงคนนั้น มันก็เกิดจากการคาดเดาของเราล้วน ๆ เรายังไม่เคยเห็นกับตาเลยด้วยซ้ำว่าเค้า กอดกัน หรือ เข้าโรงแรมด้วยกันอ่ะ (--") คุณมากี้จัง - ขอบคุณค่ะ ^^ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 13:08:48 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ may - กลับไปอ่าน คห. คุณอีกรอบ มองเห็นความจริงใจและความหวังดีของคุณเต็มเปี่ยมเลยจริง ๆ ขอบคุณมากนะคะ ^^ สำหรับเรา ตั้งแต่วันที่เริ่มทะเลาะกันเมื่อ 3 เดือนก่อน ผู้ชายคนที่เรารู้จักและแต่งงานด้วย เค้าได้ตายจากเราไปแล้วค่ะ เพียงแต่ว่า เราไม่เคยยอมรับมันเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ จิตแพทย์ของเราถามเราตลอดว่า "ถ้าเค้ากลับมาเค้าก็ไม่เหมือนเดิม ไม่ยอมคุณเหมือนเดิม (หมายถึงไม่เป็นลูกไล่ ไม่เป็นคนที่ยอมเราทุกอย่าง) คุณยอมรับได้มั๊ย" เราหลอกหมอและตัวเองมาตลอดว่า "ได้ ได้ ขอแค่เค้ากลับมา" แต่จริง ๆ แล้ว การกระทำของเรามันไม่ใช่เลย.....เรายอมรับว่า เราฝัน เราเฝ้ารอมาตลอดเวลาว่า คนเก่าของเราจะกลับมา มันถึงได้คาดหวัง คาดคั้น และกลับไปกดดันเค้า ด้วยการทะเลาะว่า ช้านเปลี่ยนแล้ว (2 - 7 วัน) ทำไมเธอถึงไม่เปลี่ยนไรเลย (คือ เปลี่ยนมายอมช้านเหมือนเดิม ฮา) แต่ ณ วันนี้ เราไม่ได้เฝ้ารอคนเก่าของเรากลับมาอีกแล้วค่ะ แต่เรากำลังเรียนรู้ที่จะก้าวเดินไปกับผู้ชายคนใหม่คนนี้ต่างหาก จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 13:35:40 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 27 ^_^ แฮปปี้  ตลอดไปนะคะ  วันวาเลนไทน์   เค้าอยู่ด้วย แสดงว่าเค้ารัก ต้นทุนยังดี  เก็บรักษาและพยายามให้งอกงาม  เอาชนะทุกสิ่งไปได้นะคะ จากคุณ : น้องหญิงอนัตตา เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 14:18:12

ความคิดเห็นที่ 28 คุณน้องหญิงอนัตตา - ขอบคุณค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อความเตือนสติเราด้วยนะคะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 15:05:10 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 29 อนุโมทนาสาธุกับ จขกท ด้วยนะคะ คุณเดินมาถูกทางแล้ว สุขใดไม่เท่าสุขทีใจสงบ หลง หลงเชื่อในคำสอนของพระพุทธองค์ ไม่ใช่แค่เชื่ออย่างเดียว ยังพยายามทำตามด้วย ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้เริ่มและมีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะทำตามคำสอนของท่านทุกวัน ทุกเวลา จากประสบการณ์ตรง เวลาที่มีสติอยู่กับความคิด คำพูด การกระทำ มีศีล ๕ คอยประคองชีวิต สวดมนต์ทุกวัน สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้จิตใจนิ่งและสงบ มีทุกข์ก็ไม่ยึดและจัดการกับมันอย่างมีสติ มันเป็นสุขในใจจริงๆค่ะ สุขและสงบ นี่แหล่ะคือความเมตตาตนเอง นี่แหล่ะคือรสพระธรรมที่ถ้าไม่ปฏิบัติด้วยตัวเอง จะไม่มีวันเข้าใจแจ่มแจ้งว่า peace of mind ความสงบในใจเเป็นอย่างไร เมตตาตนเองเป็นอย่างไร ...มันอธิบายยากค่ะ ต้องปฏิบัติถึงรู้ ไม้จำเป็นต้องเข้าวัดเพื่อรักษาศีล อยู่ที่ไหนๆก็ทำได้ ขอเพียงมีใจมุ่งมั่นที่จะทำ เชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ ค่อยๆฝึกปฏิบัติไป อย่ท้อ แล้วจะเห็นผลเอง ดีใจด้วยกับ จขกท ค่ะ หมั่นปฏิบัติไปเรื่อยๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : หลง หลง เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 15:30:10 A:158.34.240.23 X: TicketID:329794

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ หลง หลง - ขอบคุณค่ะ จริงๆ จากการอบรมนี่มันสามารถเอามาปรับใช้กับทุกเรื่องในชีวิตเราได้เลยนะคะ เพียงแต่ของเรามันไปมุ่งเน้นที่เรื่องของชีวิตคู่เป็นหลักเท่านั้นเอง ^^" ใจจริงก็ไม่ได้อยากให้กระทู้ออกแนวธรรมะอ่ะน๊า แต่เรื่องนี้เราผ่านไปได้ ด้วยการอบรมสั่งสอนจากท่านแม่ชีจริง ๆ ค่ะ ตอนออกมาท่านแม่ชีที่ให้คำปรึกษายังพูดเลยว่า "หนูเกิดใหม่แล้วนะ ไม่จมอยู่กับมันแล้วนะ" น้ำตาไหลเลย ตอนที่ท่านแม่ชีศันสนีย์สอน แล้วพูดว่า "รักตัวเอง เมตตาตัวเองยังไม่เป็นเลย แล้วจะไปรักใครได้" ตอนนี้พยายามเข้าใจที่ท่านสอนว่า "ทุกข์ สุข เกิดดับฉับพลัน แค่ลัดนิ้วมือ เราก็จะไม่จมกับมัน.....เจอแล้วก็แค่ จ๊ะเอ๋ แล้วบ๊ายบาย" - แต่เด็ก 1 ขวบคนนี้ ยังทำไม่ได้หรอกนะคะ คือ เจอแล้ว กระเทือนค่ะ กว่าจะบ๊ายบายได้ ผ่านไป 3-5 นาที - ดีแค่ไม่กระแทกกลับเท่านั้น ถ้าเป็นซักอาทิตย์ที่แล้วนี่....ไม่ใช่แค่กระแทกกลับนะ แต่เราจะ "ระเบิด" กลับเลยหละ หึหึหึ ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ขนาดไหน แต่ด้วยสัมมาทิฐิที่ได้ตั้งมั่นไว้แล้วว่า "ทุกวันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาจะไม่ดำเนินชีวิตแบบที่จะทำให้ตัวเอง และคนที่อยู่ตรงหน้าเราต้องเจ็บปวดอีก" เราเชื่อมั่นค่ะ ว่า เราต้องทำได้แน่นอน ^^V เพราะปัจจุบันขณะเป็นเวลาที่ดีที่สุด จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 16:32:20 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 31 ชื่นชมเจ้าของกระทู้มากค่ะ แก้ไขปัญหาได้เร็วมาก  เข้าถึงพระธรรมได้ไวจริงๆ   ..... เข้าถึงธรรมได้ใจก็เป็นสุขนะคะ มาถูกทางแล้วค่ะ  พออภัย  พอลดการพยาบาทลงได้   ก็เท่ากับวางใจลง  ใจก็ไม่ร้อนรุ่มอีก และคงรู้สึกเยือกเย็น  ไม่ปรี๊ดง่ายๆ  คอยควบคุมจิตอยู่บ่อยๆ   ทำได้ตลอดไป  รับรองได้ว่าคุณสามีคงไม่ไปไหนแล้วค่ะ   .......  ที่ไหนร้อนรุ่ม  คนเราก็อยากหลีกลี้หนีไป ที่ไหนเยือกเย็นชุ่มชื่นใจ  อยู่สบาย  ก็อยากอยู่อยากอาศัย ซึ่งคุณได้ทำแล้ว  และทำได้สำเร็จด้วย  คอยควบคุมจิตนะคะ  อย่าปรี๊ดอีก เคยพูดเพราะๆ  ปฏิบัติต่อกันดีๆ อย่างไร  ก็กลับมาทำซะใหม่  อย่าละเลยนะคะ เพราะเราอยากอยู่กับเค้า  อยากให้เค้าอยู่กับเรา  ก็ต้องทำให้ได้ค่ะ เมื่อชีวิตกลับมาจูนกันติดอีกครั้ง  เดี๋ยวทุกอย่างก็ตามมาเอง  รวมทั้ง sex ด้วยค่ะ ดีใจด้วยนะคะ  ขอให้คิดเสมอว่า  ไม่ช้า ไม่นาน  ก็ต้องจากกัน  พรุ่งนี้ มะรืนนี้  ก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้น  วันนี้ยังมีกันและกันอยู่  ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ  จะได้ไม่เสียใจที่หลัง..... โชคดีนะคะ จากคุณ : ดอกหญ้าสีม่วง เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 16:53:31

ความคิดเห็นที่ 32 คุณดอกหญ้าสีม่วง - ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ จริงอย่างที่บอกจริง ๆ ค่ะ พอวางเรื่องพยาบาท ผูกโกรธได้ มันจบเลยจริง ๆ เพราะวันเสาร์ตอนปฏิบัตินี่ยังกระพร่องกระแพร่งอยู่เลย ทำสมาธิไปใจคิดไปถึงว่า ป่านนี้ สามีกับ G ที่แคมป์ทำไรกัน ดึงจิตตลอดถามตัวเองตลอด ตัวอยู่ไหน ใจอยู่ไหน แต่พอเช้าวันอาทิตย์หลังจากคุยกับท่านแม่ชีว่า "หนูเข้าใจแล้วว่าต้องวางอะไร" ไม่น่าเชื่อ วันนั้นทั้งวัน ปฎิบัติได้แบบ สงบ เย็น สุข จริง ๆ ค่ะ ตอนนี้ผ่านมาเกือบครบ 1 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังพยายามที่จะทำอยู่ เพียงแต่ยากกว่าตอนอยู่ในเสถียรฯ เยอะเหมือนกันค่ะ เพราะว่าสิ่งเร้ามันเยอะกว่า (_ _") แต่ก็ยังไม่ปรี๊ดเลยนะคะ เพราะตั้งมั่นไว้แล้วนี่เน๊อะ ^^" มีการคุยกับสามีเมื่อวันวาเลนไทน์ด้วยว่า "เราแค่อยากกลับมามีชีวิตเหมือนเดิม และกำลังพยายามบาลานซ์ชีวิตของเราอยู่" สามีทำหน้าเหวอ ท่าทางจะกลัว จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 17:48:08 A:203.144.204.161 X: TicketID:348236

ความคิดเห็นที่ 33 ดีใจมากค่ะ  ที่เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ สุขที่สุดนั้นไม่ใช่จากที่ใครอื่นปฏิบัติต่อเรา   แต่เป็นที่เราสร้างและปฏิบัติต่อตัวเรา ได้เห็นความสุขที่เป็นผลมาจากการปฏิบัติธรรมแล้ว เกิดอารมณ์อยากบวชขัดเกลากิเลสตัวเองบ้างแล้ว (( ^_^)) จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 06:23:17